คิดเห็นอย่างไรกับกรณีหลวงปู่เณรคำ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย สำราญ, 19 มิถุนายน 2013.

  1. Pasaptu

    Pasaptu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    ช่วยพิจารณาเหตุและผลกันด้วยครับ

    ปรากฏการณ์หลวงปู่เณรคำ

    ฟังข่าวก็ ฟังหู ไว้หู กันนะครับ เดี๋ยวนี้การเมืองแทรกแซงข่าวเยอะ

    เอกสาร หลักฐานประกอบข่าว แม้แต่เสียงผ่านโทรศัพท์ ภาพมาเสริม อาจจะเป็นคนละคน คนละเวลากันก็ได้

    ผลสรุปยังไม่ปรากฏ อย่าพึ่งปักใจ
     
  2. Kunanop

    Kunanop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +218
    ไม่คิดอะไรเลยครับ เฉย ๆ
     
  3. DarKKazE

    DarKKazE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +240
    ท่านชูชกยังยืนเล่นไฟ เย็นๆใจอยู่ในอเวจีฯครับ

    ท่านจะเป็นใคร เป็นอริยะหรือโมฆะ ตัวท่านก็รู้ดีแก่ใจครับ
     
  4. DNA1126

    DNA1126 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +1,874
  5. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    กระทู้ผมที่เกี่ยวกับเณรคำโดนอภินิหารอุ้มหายจ้อยไปแล้ว สวดยวด
     
  6. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ยังไม่ปักใจเชื่อทั้ง 2 ฝ่าย และให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายเช่นกัน
    การเสพข่าวสารทุกวันนี้ต้องระวัง พิจารณาให้มาก
    โลกของการสื่อสารไร้พรมแดน และโลกแห่งเทคโนโลยี
    ทุกวันนี้ทุกวงการไม่เว้นแม้แต่วงการศาสนา ผลประโยชน์ทั้งนั้น
    ขัดผลประโยชน์เมื่อไหร่ ฉาวทุกที
    ผมคิดว่า มหาอเวจี เปิดสำหรับทุกฝ่าย แม้แต่เราท่านผู้ติดตามรับชม
     
  7. DNA1126

    DNA1126 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +1,874
    ก็ว่าจะทักท้วงอยู่เหมือนกัน ว่ามันหายไปไหน
     
  8. มุงมิง

    มุงมิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +29
    จะบอกตั้งกะเมื่อวานแล้วว่าโดนอุ้มแน่ ก็คุณๆผมๆไปยุ่งกะผู้หนับหนุนเว็บ จนกระทู้เพื่อนท่านจนแต้มต้องโดนย้ายไปหลุมดำ

    เส้นใหญ่มั้ยล่ะครับ แค่ย้ายไปหลุมดำ เป็นคนอื่นขุดพระมาปรามาส โดนแน่ๆใบแดง

    เค้าจะบอกคุณครับว่ากระทู้คุณหายเพราะไม่เกี่ยวกับภัยพิบัติ แต่อย่าไปถามต่อนะครับว่าทำไมกระทู้ปลาดอร์ลี่ ที่แท้คือปลา..... ทำไมยังอยู่ อาจจะได้คำตอบว่ากระทู้ปลาเค้านำเสนอข้อมูลแบบเมตริกซ์ 5555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  9. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    คงต้องทำใจครับ ผมพลาดเองที่ไม่ยอมนำเสนอแบบเมตริกซ์อย่างที่เขาต้องการ
     
  10. วิปัสนะ

    วิปัสนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +647
    ช่วงนี้ข่าว..พระ..กำลังมาแรง
     
  11. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    รองเลขาฯ ปปง. เผยตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของ "เณรคำแอนด์เดอะแก๊ง"พบชัดเจน 10 บัญชีมีกระแสเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านบาทต่อวัน เข้าข่ายความผิดกฎหมายฟอกเงิน ระบุเงินหมุนเวียนดังกล่าวเฉพาะที่ทำธุรกรรมมากกว่า 2 ล้าน ไม่รวมที่มีการเคลื่อนไหวในวงเงินต่ำกว่า 2 ล้านบาทในแต่ละครั้ง เตรียมส่ง จนท.ปปง.ลงพื้นที่วัดป่าขันติธรรม รวบรวมพยานหลักฐานสัปดาห์หน้า

    ร.ต.อ.หญิงสุวณีย์ แสวงผล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้สัมภาษณ์ วันนี้ (2 ก.ค.) ถึงกรณีนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยื่นเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำธุรกรรมทางการเงินของพระวิระพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กับพวก ว่าความคืบหน้าล่าสุดภายหลังตรวจสอบฐานข้อมูลธุรกรรม 16 บัญชีของหลวงปู่เณรคำและพวก ตามที่เครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยื่นไว้ พบชัดเจน 10 บัญชี เป็นของหลวงปู่เณรคำและเครือข่าย มีกระแสเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านบาท และเงินมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาแทบทุกวัน เบื้องต้นถือเป็นบัญชีที่มีเหตุอันควรสงสัย จึงขอเตือนเครือข่ายหลวงปู่เณรคำ และหลวงปู่เณรคำ อย่าเคลื่อนย้ายทรัพย์สินในบัญชีเด็ดขาด เพราะจะเข้าข่ายการฟอกเงินทันที ซึ่งจะมีความผิดทางอาญา โทษจำคุก 2-10 ปี หากยักย้ายหลายครั้งก็จะผิดหลายกรรมหลายวาระ และถ้ามีการนำเงินไปซื้อรถหรือเครื่องบินใดๆ ทรัพย์นั้นก็จะผิดฐานฟอกเงิน และต้องถูกยึดอายัดเช่นกัน หากเป็นเงินที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชน

    ร.ต.อ.หญิงสุวณีย์ กล่าวว่าธุรกรรมเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านดังกล่าว เฉพาะรายงานที่มีการทำธุรกรรมมากกว่า 2 ล้านบาทในแต่ละครั้งที่กฎหมายกำหนดให้สถาบันการเงินต้องแจ้งกับ ปปง. ยังไม่รวมธุรกรรมอื่นๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในวงเงินต่ำกว่า 2 ล้านบาทในแต่ละครั้ง มั่นใจจากข้อมูลที่มีอยู่ค่อนข้างชัดเจนว่าหลวงปู่เณรคำ และเครือข่ายมีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตามมูลฐานกฎหมายฟอกเงิน ด้วยการฉ้อโกงประชาชน ในโครงการต่างๆ ทั้งการจัดสร้างพระแก้ว เปิดบัญชีหลอกให้ประชาชนมาบริจาคเงิน โครงการจัดสร้างโรงพยาบาล

    รองเลขาฯ ปปง.กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ปปง. จะจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ที่วัดป่าขันติธรรม เพื่อรวบรวมประจักษ์พยาน จากนั้นจะรายงานเข้าสู่คณะกรรมการธุรกรรม ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เพื่อให้มีการมอบหมายเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งจะตรวจสอบเครือข่ายและบุคคลที่ปรากฏตามข่าวว่ามีความสัมพันธ์เป็นภรรยาและลูกของพระวิระพลด้วย นอกจากนี้จะประสานข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และในวันเดียวกันนี้ นายสงกรานต์และเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติฯ จะเข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ ปปง.

    จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2556 14:23 น.
     
  12. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ป.ป.ง. เผยสาวลึกธุรกรรมการเงิน “ไอ้คำ” พบจาก 16 บัญชี มี “ผิดปกติมาก” 3 บัญชี ยอดเงินหมุนเวียนถึง 197 ล้านบาท มีธุรกรรมเกิดขึ้นกว่า 100 รายการ บัญชีส่วนตัวมีเงินหมุนเวียนให้จับจ่ายสูงถึง 150 ล้านบาท ธุรกรรมเกิดขึ้น 70 รายขอเวลาตรวจสอบแหล่งที่มาที่ไป ก่อนเสนออายัด

    หลังจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของ พระวิรพล สุขผล หรือ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ซึ่งเบื้องต้นพบมีกว่า 10 บัญชีที่มีความน่าสงสัยโดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท นั้น(อ่าน ปปง.สั่งยึดทรัพย์ “ไอ้คำ” ชี้เงินหมุนวันละ 200 ล. )

    ล่าสุด พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยในรายละเอียดเพิ่มเติม ว่า การตรวจสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินบริจาค พบว่า มีทั้งหมด 16 บัญชี โดยในจำนวนนี้มีจำนวน 3 บัญชี ที่มีความผิดปกติมาก มีความเคลื่อนไหวในช่วงปี 2553 - ปัจจุบัน ยอดเงินหมุนเวียนสูงถึง 197 ล้านบาท มีธุรกรรมอีก 100 กว่ารายการ ส่วนตัวบุคคลมีเงินหมุนเวียน 150 กว่าล้านบาท มีธุรกรรมอีก 70 กว่ารายการ ซึ่งบัญชีที่ผิดปกติมียอดเงินเข้ามาจำนวนมาก และโอนไป จึงปรึกษากองปราบปราม ในการตรวจสอบธุรกรรมต่าง ๆ ว่ามีความโปร่งใสหรือไม่อย่างไร

    พ.ต.ท.ธีรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไป เพราะข้อมูลมีจำนวนมาก คงต้องใช้เวลาสักระยะ โดยข้อมูลที่
    นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มายื่น ถือว่ามีประโยชน์มาก ส่วนการอายัดทรัพย์ ถ้าพบตามความผิดมูลฐานเข้าข่าฉ้อโกง ก็ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน และเสนออายัดใน 90 วัน ให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง ถ้าชี้แจงไม่ได้ ก็จะยื่นศาลแพ่งอายัดต่อไป

    จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ 03-07-56
     
  13. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ทีมข่าวพิเศษของ “ASTVผู้จัดการ” ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตอบปัญหาของสังคมในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็น “หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก” และได้พบแง่มุมใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง โดยจะนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง

    หลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวทั้งเรื่องเมีย 8 คน ลูกชาย 2 คน มีรถยนต์หรูหลายคัน พร้อมเครื่องบินส่วนตัว สร้างบ้านราคาหลายสิบล้านให้พ่อแม่ เมีย และลูก พลังศรัทธาในตัวของนายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ หรือ “ไอ้คำ” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรียกแรงศรัทธาจากประชาชนผู้มีศรัทธา แต่โง่เขลาเบาปัญญาขึ้นมาได้ด้วยการโปรโมตจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทีมงาน และศิษยานุศิษย์ก็เริ่มหดหายลงอย่างเห็นได้ชัด

    สังเกตได้จากการระดมประชาสัมพันธ์จัดงานเชิญชวนสาธุชนให้เข้าไปร่วมทำบุญในงาน “มหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ที่บริเวณวัดป่าขันติธรรม ต.บ้านยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย.2556 ที่ผ่านมา ล้วนล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า นับตั้งแต่วันแรกของการจัดงานมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานมีจำนวนน้อยมาก

    “งานบุญปีนี้มีคนมาน้อยมาก จนสามารถนับเรียงตัวได้เลย ผิดจากทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางมากันจำนวนมาก บางคนเดินทางมาจับจองสถานที่ก่อนวันงานจะเริ่มขึ้นด้วยซ้ำไป เรียกได้ว่าบริเวณพื้นที่ภายในวัดนี้จะเต็มไปหมด แต่ปีนี้ยอมรับว่ามีคนมาน้อยมาก และไม่คาดคิดเลยว่าคนจะมาน้อยขนาดนี้ ทั้งนี้ คงจะเป็นเพราะกระแสข่าวอื้อฉาวของหลวงปู่เณรคำ ในช่วงนี้แน่นอน” เจ้าหน้าที่ของวัดป่าขันติธรรมรายหนึ่งบอกแก่เรา

    ร.ต.ต.สุพัฒน์ แจ้มแจ้ง ผู้บังคับหมวด สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยภายในวัดป่าขันติธรรม บอกว่า ตนอยู่ในพื้นที่นี้มานาน จนขณะนี้อายุ 59 ปีใกล้ที่จะเกษียณอายุราชการแล้ว เมื่อก่อนยอมรับว่าพลังศรัทธาในตัวหลวงปู่เณรคำ นั้นมีมาก คนจะแน่นไปหมด ต้องเดินเบียดเสียดกันเข้ามาทำบุญ ถ้าเทียบกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าคนที่มาปีนี้น้อยมาก จากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว”

    แฉเบื้องหลังสร้างศรัทธาตบตาญาติโยม

    อดีตศิษย์ผู้ใกล้ชิด และทำงานกับหลวงปู่เณรคำ มานาน รายหนึ่งเปิดเผยถึงพฤติกรรมการลวงโลกอวดอ้างตนว่าเป็นพระอริยสงฆ์ของ “ไอ้คำ” ช่วงสมัยที่มีผู้คนศรัทธามากมายก่อนจะมาถึงจุดตกอับ ณ วันนี้ว่า ที่หลวงปู่เณรคำ มีชื่อเสียงโด่งดังจนมีญาติโยมศรัทธาเสื่อมใสบริจาคเงินให้มากมายขึ้นมาได้ก็เพราะการโปรโมต และการสร้างภาพขึ้นมาตบตาญาติโยมทั้งสิ้น โดยมีทีมงานกองงานประชาสัมพันธ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นฝ่ายสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแต่งตั้งปั้นเรื่องขึ้นมา

    โดยเริ่มจากการอวดอ้างตนพิมพ์ลงในหนังสือ “ชาติหน้าไม่ขอมาเกิด” และ “นิพพานมีจริง” ซึ่งหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ถือได้ว่าเป็นตัวเรียกศรัทธาจากญาติโยมจนกลายเป็นหนังสือที่มียอดขายดีที่สุดในบรรดาหนังสือทั้งหมดของหลวงปูที่พิมพ์ออกมา จนมีการนำไปพิมพ์เผยแพร่ต่อๆ กันอย่างแพร่หลาย จนทำให้หลวงปู่เณรคำ โด่งดังเป็นที่รู้จัก และศรัทธาทั้งใน และต่างประเทศ

    อวดอ้างตนว่าเคยเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า

    นอกจากนี้ หลวงปู่เณรคำ ยังเป็นคนที่พูดจาไพเราะ นุ่มนวล อ่อนหวาน มีเสน่ห์ หากใครได้ฟังก็จะเกิดความหลงใหล เกิดความศรัทธา เวลาไปเทศนาที่ไหนหลวงปู่เณรคำ จะมีคนไฟฟังกันจำนวนมาก และทุกครั้งที่เทศน์ก็มักจะอวดอ้างตนอยู่เสมอว่า “นั่งสมาธิแล้วเห็นเทวดา มีเทวดามานั่งฟังเทศน์ รวมทั้งสามารถพูดคุยสื่อสารกับเทวดาได้”

    “และในครั้งพุทธกาล ตนกับเพื่อนรวม 400 คน เคยเกิดเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้า โดยเพื่อนของตนทุกคนต่างสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้ไปนิพพานกันหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ตนคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ จึงได้รับคำสั่งให้มาเกิดในชาตินี้ ซึ่งเป็นชาติสุดท้ายเพื่อให้มาพาญาติโยมไปสู่นิพพานพร้อมกัน”

    อุปโลกน์ปั้นตัวเลขผู้บริจาคเรียกความศรัทธา

    รวมทั้งมีการสร้างภาพให้เพื่อญาติโยมเกิดความหลงเชื่อ และศรัทธาในตัวเองว่า “เป็นผู้มีบารมี” เป็น “พระอริยสงฆ์” จึงมีญาติโยมมาร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก โดยมีการอุปโลกน์ปรับแต่งตัวเลขยอดผู้ที่มาทำบุญว่ามีผู้ถวายเงินให้ในแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือมากกว่านั้น

    หากมีการทอดกฐินสามัคคีก็จะมีการตกแต่งตัวเลขให้ดูเพื่อให้ญาติโยมหลงเชื่อว่า มีผู้บริจาคเงินเป็นจำนวนมาก เช่น ยอดการทอดผ้าป่าสามัคคี 2 ล้านบาท ก็จะแต่งตัวเลขและทำการประชาสัมพันธ์ออกไปว่า มีผู้ทำบุญมากถึง 10 ล้านบาท หรือมียอดทอดกฐินเสาร์ 9 เมตร 36 ต้น จำนวนเงิน 14 ล้านบาท ก็จะตกแต่งตัวเลขและประชาสัมพันธ์ออกไปว่ามียอดทอดกฐินทั้งสิ้นกว่า 75 ล้านบาท หรือ 100 ล้านบาท เป็นต้น

    อ้างท้าวสักกะเทวราชสั่งสร้างพระแก้ว

    ส่วนการสร้าง “พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก” นั้น หลวงปู่เณรคำ อ้างว่า “ได้พบ และพูดคุยกับท้าวสักกะเทวราช และได้รับคำสั่งจากท้าวสักกะเทวราชให้มาสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นมาเพื่อให้ญาติโยมสาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันทำบุญครั้งใหญ่เพื่อจะได้สู่นิพพานในชาตินี้”

    นอกจากนี้ หลวงปู่เณรคำ ยังเทศนาชักชวนให้ญาติโยมร่วมกันบริจาคทองคำ โดยอ้างถึงวัตถุประสงค์การรับบริจาคทองคำจากญาติโยมว่า “ได้พูดคุยกับพระอินทร์ และท้าวสุริยามรรคผู้เป็นมหาราชจอมเทวดาที่สถิตอยู่ในสุคติภูมิโลกสวรรค์ชั้นยามา เกี่ยวกับรูปแบบการสร้างวิหารครอบองค์พระแก้ว รวมไปถึงการอ้างถึงวิมานที่วิจิตรพิสดารงดงามมาก โดยหลวงปู่เณรคำ บอกว่าเป็นที่เคยมาเสวยทิพยสมบัติในชาติก่อนนี้”

    นอกจากนี้ ยังมีการปั้นน้ำเป็นตัวโดยอ้างว่ามีผู้บริจาครถยนต์หรู ยี่ห้อเมอรืเซเดส เบนซ์ จำนวน 1 คัน มูลค่า 20 ล้านบาทให้ แท้ที่จริงแล้วรถยนต์คันดังกล่าว หลวงปู่เณรคำ เป็นผู้ไปดาวน์มาเองทั้งสิ้น เพื่อสร้างภาพให้ญาติโยมดูว่า มีคนมาบริจาคถวายรถให้เพื่อเรียกแรงศรัทธาให้มากขึ้น

    สร้างภาพมีรถขบวนนำหน้าไม่ต่างจากบุคคลสำคัญ

    เวลาที่หลวงปู่เณรคำ จะไปไหน หรือรับกิจนิมนต์สำคัญก็จะมีขบวนรถตำรวจทางหลวงนำขบวนอย่างยิ่งใหญ่ไม่แตกต่างไปจากขบวนของบุคคลสำคัญในประเทศ โดยจะมีการนำตราประจำองค์หลวงปู่เณรคำ ไปติดไว้ที่ประตูผู้โดยสารข้างรถด้านหลัง ส่วนตรงกันชนด้านหน้าจะติดเสาสัญลักษณ์ขององค์หลวงปู่เณรคำ เพื่อทำให้เหมือนรถขบวนบุคคลสำคัญ โดยมีรถในขบวนไม่ต่ำกว่า 15 คัน และมีรถตำรวจเขตทางหลวงวิ่งนำขบวนปิดหัวท้ายขบวนร่วม 4 คัน

    โดยรถนำขบวนดังกล่าว เป็นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีน้ำตาล หมายเลข 0019 ทะเบียน กธ 665 กทม. โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ที่หลวงปู่เณรคำ บริจาคให้แก่ทางหลวง 3 คัน แต่มีการนำมาใช้ในกิจการของตัวเองวิ่งทั่วราชอาณาจักรไทย

    ส่วนผู้ขับรถในขบวนทั้งหมดจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนอกราชการ แต่งเครื่องแบบตำรวจทางหลวงพกอาวุธปืนมาเป็นพลขับให้ทุกคัน โดยไม่มีพลเรือนขับแม้แต่คันเดียว

    อ้างซื้อ “ฮ.” ที่แท้ไปเช่าเขามาตบตาญาติโยม

    รวมทั้งการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งทุกครั้งที่หลวงปู่เณรคำ เดินทางมาที่วัดป่าขันติธรรมก็จะนั่งเฮลิคอปเตอร์มา ซึ่งการทำอย่างนี้ก็เพื่อสร้างภาพให้ญาติโยมได้เห็นว่า ตนเองเป็นผู้มีบารมี และเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวก็เป็นของหลวงปู่ที่ซื้อมาเอง แต่แท้ที่จริงแล้วไปเช่ามา แล้วให้บริษัทที่ตนเองไปเช่าเฮลิคอปเตอร์มาติดตราสัญลักษณ์ประจำองค์หลวงปู่เณรคำ เช่นเดียวกับกับรถยนต์เพื่อสร้างภาพว่าเป็นของส่วนตัว

    ส่วนการเช่าเจ็ทนั้นจะทำเพื่อรับรองแขกวีไอพี ที่จะมาบริจาคเงินให้จำนวนมากเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างประเทศ เช่น มิสเตอร์อู๋ นักธุรกิจชาวมาเลเชีย เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างสัญลักษณ์ให้แก่ตนเองว่าเป็น “ผู้มีบารมี” เป็น “พระอริยสงฆ์”

    ตบตาสร้างวัดสาขามากมายกว่า 200 สาขา

    สำหรับวัดสาขา หรือสำนักสงฆ์สาขา ของวัดป่าขันติธรรมตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีกว่า 200 สาขานั้น ความจริงมีเพียงไม่กี่สาขา โดยแต่ละสาขาจะใช้ชื่อว่าวัดป่าขันติบารมีสาขาที่... หรือสำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่... หากใครไม่รู้ก็จะเข้าใจว่าสาขาของวัดป่าขันติธรรมนี้มีมากกว่า 200 สาขา แต่ความจริงมีเพียงไม่กี่สาขา

    แต่ด้วยความชาญฉลาดของหลวงปู่เณรคำ จึงได้มีการสร้างรหัสสาขาขึ้นมาโดยใช้เลข “10” หรือ “20” เป็นเลขรหัสนำหน้า เช่น สำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 101 บ้านเขาคีรี ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี หรือสำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 201 บ้านแสนสุข ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ทั้งนี้ เพื่อสร้างภาพให้ประชาชนเข้าใจว่าสาขาของวัดนี้มีมากกว่า 200 สาขา เพื่อจะได้ดึงดูดแรงศรัทธาจากประชาชนนักแสวงบุญทั้งหลายให้เข้าไปทำบุญบริจาคเงินกันมากๆ โดยรหัสที่ขึ้นต้นด้วย 10 นั้น จะเป็นที่รู้กันว่าอยู่ทางภาคกลาง เช่น สำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 101 บ้านเขาคีรี ขึ้นต้นด้วย 20 ก็จะอยู่ทางภาคตะวันออก เช่น สำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 201 บ้านแสนสุข เป็นต้น

    ส่วนภาคอีสาน และภาคเหนือจะไม่มีรหัส เช่น สำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 1 บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี สำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 2 บ้านตาเส็ด ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หากมีการตรวจสอบกันจริงๆ แล้วก็จะรู้ความจริงว่า สำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 3 สาขาที่ 4 และสาขาที่ 5 ไปจนถึงสำนักสงฆ์ขันติบารมีสาขาที่ 100 นั้นยังไม่มีแต่อย่างใด จะมีบ้างก็เพียงแค่ไม่กี่วัดเท่านั้นที่กำลังก่อสร้างอยู่แต่ยังไม่เสร็จ เช่น สาขาที่ 89 อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รวมทั้งสาขาที่มีรหัสนำหน้า 101 ไปจนถึง 201 ก็เช่นกัน

    “การทำเช่นนี้ก็เพื่อตบตาญาติดยม แต่โดยความเป็นจริงแล้ว สาขาของวัดนั้นมีเพียงไม่กี่สาขา แต่เพื่อให้ดูดีดูว่าหลวงปู่มีบารมีมาก มีการสร้างวัดสาขาไว้มาก ญาติโยมก็หลงเชื่อและเกิดความศรัทธาจึงร่วมกันบริจาคเงินเข้ามากันเป็นจำนวนมากเพื่อร่วมกันทำบุญสร้างวัด แต่พอเงินเข้ามาก็หายหมดไม่รู้ไปไหน”

    มีทีม ปชส.คอยหนุนหลังร่วมด้วยช่วยปั้นเรื่อง

    อดีตศิษย์ผู้ใกล้ชิด บอกด้วยว่า นอกจากการสร้างภาพเทศนาอวดอ้างตนจนทำให้สาธุชนเกิดความหลงใหล และศรัทธาในตัวหลวงปู่เณรคำแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หลวงปู่เณรคำ มีชื่อเสียงโด่งดัง และมีคนเกิดความศรัทธามากขึ้นคือ “ทีมกองงานประชาสัมพันธ์” ของวัดป่าขันติธรรม

    โดยกองงานประชาสัมพันธ์นี้จะทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อเสริมสร้าง “บารมีปลอม” ความเป็น “พระอริยสงฆ์เทียม” ให้แก่หลวงปู่เณรคำ หรือ “ไอ้คำ” โดยจะทำหน้าที่ประสานงานกับสื่อต่างๆ ทั้งในท้องถิ่น และส่วนกลาง ร่วมทั้งสื่อออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตลอดจนมีการปล่อยคลิปคำเทศนาชวนเชื่อของไอ้คำ ทางเว็บไซต์ต่างๆ

    นอกจากการสร้างภาพให้ดูดีเพื่อหลอกลวงญาติโยมแล้ว ทีมงานกองงานประชาสัมพันธ์นี้ ยังจะทำหน้าที่เข้าไปเคลียร์ปัญหาต่างๆ ที่อาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของหลวงปู่เณรคำเสื่อมเสียด้วย ซึ่งการเคลียร์ปัญหาทุกครั้งก็มักจะจบลงที่ด้วยการ “จ่ายเงินปิดปาก”

    ทั้งหมดนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการปั้นน้ำเป็นตัวเพื่อหลอกลวง ตบตา เพื่อดูดทรัพย์ และทองคำจากญาติโยมผู้หลงเชื่อศรัทธาในตัวหลวงปู่เณรคำ หรือ “ไอ้คำ” อย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งชาวจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนใหญ่ทราบเรื่องนี้ดีว่า.....

    เรื่องทั้งหมด “ไอ้คำ” หรือหลวงปู่เณรคำ สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงตบสายตาประชาชน ปั้นน้ำเป็นตัวไม่ต่างอะไรกับ “เด็กเลี้ยงแกะ” หรือเล่าเรื่องเป็นตุเป็นตะไม่ต่างอะไกับ “ศรีธนญชัย” ซึ่งชาวอีสานโดยเฉพาะชาวศรีสะเกษต่างเรียกหลวงปู่เณรคำว่า “บักเซียงเมี่ยง”

    อนึ่ง สำหรับ “เซียงเมี่ยง” เป็นวรรณกรรมอีสานที่เล่าสืบต่อกันมาหลายสมัย เรียกง่ายๆ ก็คือ “ศรีธนญชัย” ของไทยเรานี้เอง แต่ทางภาคอีสานจะเรียกกันว่า “เซียงเมี่ยง”

    สำหรับคำว่า “เซียง” นั้นหมายถึง "คนที่บวชเณรแล้วสึกออกมา"

    ส่วน “เมี่ยง” เป็นชื่อคนที่มีความหมายเหมือนไม่เอาไหน

    “เซียงเมี่ยง” จึงหมายถึงเป็นคนที่ฉลาดแกมโกง

    เช่นมีนิทานเล่าสืบต่อกันมาว่า “วันหนึ่งมีคนต่างเมืองมาท้าเจ้าเมืองหาคนมาวาดรูปสัตว์แข่งกันใครจะสามารถวาดได้เร็ว และจำนวนมากกว่ากันในเวลาที่กำหนด เจ้าเมืองก็เรียก “เซียงเมี่ยง” มาแข่งขัน เมื่อการแข่งขันเริ่มขี้น พวกต่างเมืองก็พากันวาดรูปสัตว์ต่างๆ ตามถนัด ได้หลายตัว คิดว่าชนะแน่ๆ ฝ่าย “เซียงเมี่ยง“ ใช้นิ้วมือทั้งสิบนิ้วจุ่มสีลากไปบนผืนผ้าขยุกขยิกไปมา เป็นเส้นๆ จำนวนมาก เมื่อกรรมการตัดสินปรากฏว่า “เซียงเมี่ยง” ชนะขาด เขาวาดไส้เดือนนับได้เป็นร้อยๆ ตัว”

    ดังนั้น พฤติกรรมของหลวงปู่เณรคำ หรือ “ไอ้คำ” จึงไม่ต่างไปจาก “เซียงเมี่ยง” นั่นเอง

    [​IMG]
    ตราประจำองค์หลวงปู่เณรคำ

    [​IMG]
    ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ภายในบริเวณวัด

    [​IMG]
    ภาพหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ที่ชวนให้คิดติดตั้งอยู่ภายในวัดทำให้ญาติโยมเข้าใจว่า ตนเองนั้นเป็นพระอริยะ
     
  14. ihappiness

    ihappiness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +920

    ถ้าเห็นกระทู้ ปลาดอร์ลี่ ไม่เหมาะสม แจ้งลบได้นี่ค่ะ หรือจะแจ้งย้ายกระทู้ไปด้วยก็ได้ค่ะ ^^

    อย่าพูดเอามัน เอาสนุกปากอย่างเดียวค่ะ กระทู้ ปลาดอร์ลี่ ไม่ได้นำเสนอข้อมูลแบบเมตริกซ์ค่ะ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2013
  15. มุงมิง

    มุงมิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +29
    ไม่อ่ะค้าบ เก็บเอาไว้ดูเล่น ดูเอามัน แล้วก็เอาไว้สนุกปากค้าบ

    ที่เห็นมันคือความว้างว่าง
     
  16. ihappiness

    ihappiness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +920
    ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ ในการโพสค่ะ ขอแค่อย่าทำให้ บุคคลอื่นเค้าเดือนร้อนค่ะ !!

    คนเราคิดต่างได้ค่ะ ไม่เห็นต้องไปว่าเค้าเลย ไม่ชอบเค้า ก็อย่าไปอ่านที่เค้าโพสสิค่ะ

    อย่าโยงคนอื่น จับกระทู้นั้นมาปนกระทู้นี้ จับแพะมาชนแกะ มั่วค่ะ

    ที่ผ่านมา ทำไมชอบ คิดเอง เออเอง สรุปเอง พูดจาเสียดสี กระทบกระแทกคนอื่นกันจังเลยค่ะ ?
     
  17. ihappiness

    ihappiness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +920
    ก็สังคม บ้านเมืองมีคนแบบนี้นะแระ มันถึงวุ่นวายไม่รู้จบ เน้นสนุกปาก มันส์ ไว้ก่อน คนอื่นไม่แคร์

    แต่ก็อยากมาอยูในสังคมร่วมกับคนอื่น แต่พอมาแล้ว มาทำความเดือดร้อน มาป่วน มากวนเค้าไปทั่ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2013
  18. มุงมิง

    มุงมิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +29
    อ้าว ลบเสียงนกเสียงกาไปมัยอ่ะค้าบ ผมก็ทนฟังหมดแหละ รวมถึงพวกก๊อปแล้วมาแปะให้มันดูเท่ห์ๆล้ำๆผมก็ฟังเนาะ เพราะมันคือสิ่งสมมุติ ว้างว่าง เป็นงัยเท่ห์มะ
     
  19. ihappiness

    ihappiness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +920
    เบื่อค่ะ เลยลบทิ้ง เห็นเป็นแค่เสียงนกเสียงกาด้วย ^^

    ห้ามก๊อปบทความมาโพส ด้วยหรือค่ะ ที่นี่ ?

    แจ้งลบ แจ้งย้ายได้นะค่ะ แต่ถ้ากระทู้นั้น ยังอยู่ คงต้องเห็นบทความก๊อบเท่ห์ๆ ล้ำๆ แบบนี้อีกนานค่ะ ^^
     
  20. ihappiness

    ihappiness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +920
    สโลแกนประจำตัวค่ะ เน้นชัดๆ อีกรอบ

    ** ที่เห็นคือสมมุติ ที่สุดคือความว่าง **
     

แชร์หน้านี้

Loading...