คุณเคยให้อภัยทานหรืออโหสิกรรมไหม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมมนุษย์, 27 เมษายน 2014.

  1. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ท่านใดมีเรื่องราวดีดีเกี่ยวกับการยกโทษอโหสิกรรมคนที่เคยมาทำร้ายเราบ้างไหมครับ กรุณาช่วยเล่าเรื่องราวดีดีเพื่อเป็นธรรมทานเพื่อให้เพื่อนๆได้โมทนาบุญใหญ่ด้วยนะครับ เพราะอภัยทานหรืออโหสิกรรมเป็นบุญที่ใหญ่ที่สุดในหมวดทาน
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า...

    “สัพพะ ทานัง ธัมมะ ทานัง ชินาติ “
    (การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทานทั้งปวง)

    ที่มา:..


    คาถาธรรมบท ตัณหาวรรคที่ ๒๔

    การให้ธรรมเป็นทาน ย่อมชำนะการให้ทั้งปวง รสแห่งธรรมย่อมชำนะรสทั้งปวง ความยินดีในธรรมย่อมชำนะความยินดีทั้งปวง ความ สิ้นตัณหาย่อมชำนะทุกข์ทั้งปวง โภคทรัพย์ทั้งหลาย ย่อม ฆ่าคนมีปัญญาทราม แต่หาฆ่าผู้ที่แสวงหาฝั่งไม่ คนมี ปัญญาทรามย่อมฆ่าตนได้ เหมือนบุคคลฆ่าผู้อื่นเพราะความ อยากได้โภคทรัพย์ ฉะนั้น
     
  3. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    ผมเคยโดยมิตรที่เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หักหลัง ใส่ร้าย ตัดแข้งตัดขากัน เจ็บใจไปเป็นปีๆเลยครับ โดนคนรอบข้างมองเป็นธาตุอากาศไปเลย เคยคิดถึงขนาดจะลบคนๆนี้ออกจากชีวิตไปเลย แต่ต่อมาก็ให้อภัย (จนบังเอิญเปิดวิทยุฟังเทศน์ที่พระเทตทัตจองเวรกับพระพุทธเจ้าเลยคิดได้) คิดว่าคนเราเจอกันแค่ชั่วครู่เดียว เก็บเรื่องกระทบใจไปก็เท่านั้น แต่ผมจะไม่เข้าไปยุ่งหรือข้องเกี่ยวอะไรอีก และไปถวายสังฆทานตัดเวรกรรมต่อกัน อธิษฐานว่าถ้าเวรกรรมอันใดที่เคยมีต่อกันก็ขอให้สิ้นสุดนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ต่อมาเขาก็แพ้ภัยตัวเองไป และย้ายไปที่อื่น :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2014
  4. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    อนุโมทนาครับฟังเรื่องราวของคุณแล้วเหมือนคล้ายกับเรื่องที่มีญาติธรรมเคยนำมาลง เรื่องราวที่พระพุทธเจ้าเคยถูกกล่าวร้ายโดยบุคคลคนหนึ่ง(คนคนนั้นประเภทหน้าไหว้หลังหลอก) ต่อมาบุคคลคนนั้นก็นิมนต์พระพุทธเจ้ามาฉันภัตตาหาร บุคคลคนนั้นเขาประเคนถึง 3 ครั้ง พระพุทธเจ้าก็ไม่รับ เขาจึงถามพระพุทธเจ้าว่าทำไมไม่รับอาหารที่ตนถวาย พระพุทธเจ้าตอบว่า

    "อาหารพวกนี้ตถาคตไม่รับจะตกเป็นของใคร"
    "ก็ตกเป็นของกระผมสิครับ" เขาตอบ
    "เช่นกัน หากคำติฉินนินทากล่าวร้ายตถาคต ตถาคตไม่รับ จะตกแก่ใคร"
    "ก็ตกแก่กระผมสิครับ" เขาตอบ
     
  5. แมงปอปีกดำ

    แมงปอปีกดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +379
    กำลังเจอศัตรูคู่อาฆาตที่เคยจองเวรกันมาหลายชาติภพ แก้แค้นอยู่ ทำร้ายทำลายเราทุกทาง เคยอภัยหลายครั้งแล้วถึงขนาดไปขอโทษแก แต่ป้าแกก็ไม่เลิกจองเวร คอยยุแยงใส่ร้ายตลอดล่าสุดแกหาว่าเราเป็นเมียน้อยพี่ในที่ทำงานคนหนึ่ง ซึ่งคราวนี้เป็นเรื่องร้ายแรงมาก เราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพี่คนนี้เลยนี่เป็นความสัจจริง แต่หลายๆคนกลับเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเรา เราแค้นอาฆาต พยาบาทและสาปแช่ง อย่างที่สุด เอาสิ่งนี้ออกจากใจไม่ได้เลย เกลียดแกมากๆๆๆ ทำไงดีล่ะ
     
  6. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    ต้องทำใจครับ การที่เราโดนใส่ร้ายครับ ในเมื่อเราไม่ได้ทำก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ เรารู้ตัวเราก็พอแล้ว คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องที่ผ่านแล้วก็ผ่านไปเถอะ แต่เราก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ด้วย ผมเคยโดนนังเพื่อนสารพัดพิษมันมีกิ๊ก เอาเบอร์โทรไปแอบอ้างว่าเป็นกิ๊ก แล้วให้แฟนโทรมาด่าทุกวัน จนผมไปถามว่าคุณได้เบอร์มาจากใคร เขาบอกว่าได้มาจากนังสารพัดพิษเอง เลยอธิบายไปว่าแค่รู้จักกันเท่านั้นเอง ถ้าพี่เห็นใครไปยุ่งกับนังสารพัดพิษพี่กระทืบได้เลย และผมแอบอัดเสียงไว้ และไปแจ้งตำรวจในข้อหาการหมิ่นประมาท กันเหนียวไว้ก่อน
     
  7. sojinine

    sojinine สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
    การให้ธรรมะ เป็นทาน นี่สูงสุดไม่ใช่เหรอครับ... หรือผมเข้าใจผิด...
     
  8. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940

    ...กรรมที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ มโนกรรม มีการคิดดีหรือคิดร้ายเป็นไป รองลงมาคือ วจีกรรม มีการพูดดีและพูดชั่วเป็นประมาณ....

    ท่านแมงปอฯ พึงทราบว่า สิ่งที่เกิดกับท่าน คือการถูกใส่ร้ายด้วยคำไม่จริงนั้น หาได้เกิดเพราะซวยหรือไม่มีเหตุอันใดไม่...ที่แท้ ท่านเองเท่านั้นที่เคยใส่ร้ายผู้อื่นมาก่อนโดยทำนองเดียวกัน ผลที่สอดคล้องเช่นนี้จึงมาปรากฏได้...หากท่านไม่เคยทำ"เหตุ"เสียหายเช่นนี้มา ต่อให้มีคนอย่างป้าที่ท่านรังเกียจนับล้าน เขาย่อมไม่ใส่ร้ายอะไรๆท่านเลย แม้ท่านจะอยู่ในท่ามกลางพวกเขา.....

    กฏเกณฑ์ ในธรรมชาติมีว่า "เจตนาคือกรรม" เมื่อตนเคยมีเจตนาใส่ร้ายใครๆมา ผลย่อมตั้งขึ้นทันที รอส่งผลให้ตนได้รับเมื่อได้เหตุปัจจัยประชุมพร้อม..บัดนี้ผลนั้นมาส่งแล้ว ย่อมลดหรือหมดไป ..ท่านพึงยินดีในข้อนี้..และพยายามเหนี่ยวรั้งใจตนให้พ้นอำนาจของพยาบาทวิตก......ละทิ้งการเพ่งโทษคิดร้ายสาปแช่งป้าผู้สร้างบาปกรรมทับถมตนด้วยความบอดเขลาเสีย เพราะการอาศัยผลบาปของตนเพื่อก่อเวรภัยใหม่ในชาตินี้ เป็นความเปลืองเปล่าแห่งเวลาที่ตนควรใช้เพื่อสั่งสมเสบียงไว้เดินทางต่อในสังสารวัฏที่เต็มไปด้วยภัยร้ายหล่มหลุมที่อันตรายกว่ามนุษย์ป้ารายนี้....

    การคิดสาปแช่งใครๆนั้นไม่ได้ทำใครให้วิบัติเลย มีแต่ตนเท่านั้นที่กอบโกยเอาความพินาศ chipหายที่ตนตั้งเจตนาอยากให้เขาเป็นไป ผลตรงๆของการสาปแช่งเขาคือการได้เกิดในนรก เมื่อพ้นมาเพราะหมดกรรมในนั้น เศษกรรมที่เหลือจะตามส่งในปวัติกาล คือหากได้เกิดมาเป็นคน จะถูกใครๆคิดสาปแช่ง แลตนจะได้รับความวิบัติสมควรแก่เจตนาที่เคยมีไว้.......ดังนั้นพึงยุติการคิดสาปแช่งใครๆโดยเร็ว เพราะนอกจากไม่เป็นมงคลแก่ตนแล้ว ยังสั่งสมสันดานให้กลายเป็นผู้มีอัธยาศัยนิยมการสาปแช่งใครๆได้โดยง่าย ..ไม่ปลอดภัยแก่ตนเลยโดยประการทั้งปวง...




    พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ว่า...สิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง.. ดังนั้นแม้เรื่องที่ถูกใส่ร้ายก็ย่อมไม่ตั้งมั่นตลอดกัปป์.. ย่อมเสื่อมหายไปในที่สุด ไม่ช้าก็เร็ว...ทั้งป้าและเราก็ต้องแยกย้ายกันไปตามวิถีกรรมในวันหนึ่ง สิ่งใดที่ไม่ใช่ความจริง ก็หาใช่เรื่องของเราไม่ อย่าเอาตัวไปเป็นเป้ารับ เมื่อเราทำความจริงให้ปรากฏแล้ว ใครจะเชื่อหรือไม่ไม่ใช่หน้าที่ที่เราจะเข้าไปบงการบังคับ บัญชาอะไรๆได้... . จึงพึงรักษาความสงบระงับในใจให้ดี เมื่อเรารักษาตนให้มีคุณแห่งศีล อภัยเขาได้บ่อยๆ ย่อมเพิ่มกุศลแก่ตนได้ทุกคราวไปโดยไม่ต้องดิ้นรนเดินทางลำบากไปทำบุญที่ใหน..บุญอันดีของท่านนี่เองจะจัดการปกปักรักษาท่านไว้ในความสวัสดี...

    ... ..ส่วนคำสาปแช่งนั้น นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังเป็นช่องทางนำเอาผลบาปอื่นๆในอดีตมาส่งท่วมทับตนได้อย่างนึกไม่ถึงอีก ..

    ขอยกพระพุทธดำรัสตรัสติเตียนความโกรธมาแสดงเพื่อประโยชน์แก่ท่านดังนี้.....


     
  9. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    “คราวหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้ทรงตรัสเล่าบุพกรรมของพระองค์ให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า เราเมื่อครั้นเกิดเป็นนักเลงหัวไม้ เป็นอันธพาล เพราะการกล่าวตู่พระนันทเถระ ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า เราจึงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในนรกเป็นเวลานาน ถึง ๑๐๐,๐๐๐ ปี ครั้นได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็ได้รับการกล่าวตู่มาก ด้วยผลกรรมที่เหลืออยู่นั้น นางจิญจมาณวิกาจึงมากล่าวตู่เรา ด้วยคำไม่จริงท่ามกลางหมู่ชน” (สุดท้ายกรรมทันตาเห็นนางจิญจมาณวิกาถูกแผ่นดิบสูบตายไปเกิดในอเวจีมหานรก)


    ฟังที่คุณเล่ามาก็น่าเห็นใจอยู่นะครับ ถึงจะไม่ใช่เรื่องจริงแต่ข่าวลือมันออกไปแล้วเราจะสู้หน้าคนอื่นในที่ทำงานก็ลำบากเพราะเราจะรู้สึกว่าคนอื่นจะต้องมองเราไม่ดีแน่นอน แต่ป้าแกกำลังทำผิดศีลข้อ 4 พูดโกหก-ส่อเสียดให้คนอื่นได้รับความเสียหายแถมยังผิดกุศลกรรมบถ10 อีก ยิ่งกระทำให้คนหมู่มากเข้าใจผิดและเราเสียหายมากกรรมก็ยิ่งหนักยิ่งถ้าคุณปฏิบัติธรรมด้วยผลกรรมก็จะสะท้อนกลับไปสู่ตัวป้าทวีคูณหลายเท่า ตอนนิป้าแกกำลังถางทางให้เรียบเตียนเพื่อปูทางลงไปสู่มหานรก ถ้าคุณสาปแช่งอาฆาตป้าแกด้วยความโกรธ คุณก็กำลังช่วยป้าแกถางทางเพื่อไปสู่นรกเช่นกัน ผมก็สงสารทั้งคุณและป้าต้องมาจองกรรมจองเวรอย่างนิไม่รู้จบ อย่างพระเทวทัตจองเวรพระโพธิสัตว์(พระพุทธเจ้า)ทุกชาติ แต่พระโพธิสัตว์ไม่เล่นด้วย ประมาณว่า “มึงจะจองเวรกูก็จองไปสิ กูไม่เล่นด้วย กูขี้เกียจไปตามทวงชาติหน้า” สุดท้ายแล้วพระโพธิสัตว์ได้เป็นพระพุทธเจ้า ส่วนพระเทวทัตลงอเวจีมหานรก คุณเลือกเอาเองเถิดจะเดินอย่างพระพุทธเจ้าหรือพระเทวทัต

    เหตุการณ์คล้ายคุณผมก็เคยผ่านมา คนอื่นคอรัปชั่นแล้วเราพลาดไปเซ็นต์รับรอง ทุกคนในที่ทำงานมองผมไม่ดีหมดเลย พิจารณาแล้วว่ามันน่าจะเป็นกรรมของเราก็วางเฉยเสียไม่แก้ตัว “เราคิดเสียว่าเราเป็นทองแท้ ไม่กลัวสนิม ไม่กลัวโดนทุบ ไม่กลัวโดนไฟเผายิ่งถูกเผาไฟด้วยความร้อนสูงทองยิ่งสวยสุกปลั่ง” ด้วยบุญที่เราเจริญพรหมวิหาร4 คนที่ใกล้ชิดผมไม่มีใครเชื่อว่าผมทำ แต่คนที่ทำจริงกลับเดือดเนื้อร้อนใจแก้ตัวต่างๆนานา

    [​IMG]

    การอโหสิกรรมอภัยทานจริงๆ ผมก็ว่าไม่ใช่ของง่ายนะ อันดับแรกคุณต้องแก้ที่ใจของคุณก่อนผมว่าน่าจะดีนะครับ คุณต้องหมั่นเจริญเมตตาให้จิตใจอ่อนโยนขึ้นแล้วอภัยทานจึงจะเกิดผลจริงๆไม่ชาตินิก็ชาติหน้าผมว่าเห็นผลแน่นอน หากคุณตั้งใจจริงจะตัดกรรมนี้ ผมมี CD บทสวดโพชฌงคเมตตา สำหรับสอนใจตนเองและสอนเจ้ากรรมนายเวรของ ท่าน อ.ทองทิพย์ โอภาโส ฟังแล้วจะทำให้จิตใจคุณอ่อนโยนขึ้นไม่มากก็น้อยหล่ะ พอคุณเจริญเมตตาได้อะไรทุกอย่างมันก็จะดีขึ้นนะครับ (ผมยินดีส่ง CD ให้ฟรีครับ pm ชื่อที่อยู่มาก็แล้วกันนะครับ)
     
  10. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ผมก็โง่พระสูตรด้วยสิ ฟังมาบางครูก็ว่าธรรมทานสูงสุด ฟังมาบางครูก็ว่าอภัยทานสูงสุด ผมก็เกิดไม่ทันฟังพระพุทธเจ้าพูดด้วยสิ ก็อาศัยอ่านจากหนังสือและฟังจากครูบาอาจารย์เล่ามา เชื่อที่พระพุทธเจ้าพูดก็เชื่อ ครูอาจารย์พูดก็เชื่อแต่ก็ไม่เชื่องมงายโดยไม่มีเหตุผลฟังแล้วก็มานั่งพิจารณาเหตุและผลด้วยตนเอง มันก็กระจ่างในใจตน คือ หากผมหวังบุญกุศลผมก็จะสาธยายธรรมมะให้คนอื่นฟังยิ่งคนฟังมากยิ่งได้บุญมากยิ่งผู้ฟังได้ฟังแล้วบรรลุอริยะบุคคล เออ ได้บุญมหาศาลเลย มีสวรรค์รออยู่ภพหน้าแล้ววววว หากผมมุ่งหวังพระนิพพานผมจะยกให้อภัยทานสูงสุดเพราะเป็นการขัดเกลาจิตใจของผมเองเพื่อลดละเลิกเพิกถอนกิเลสเพราะหากผมกิเลสไม่หมดผมก็พ้นทุกข์ไม่ได้เสียที แถมอภัยทานยังได้จบคดีกับเจ้ากรรมนายเวรอีก สุดท้ายแล้วผมก็เลยไม่ได้สนใจอันดับไหนก่อนหลังเพราะทำแล้วเกิดประโยชน์ทั้งนั้นครับ
     
  11. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    ให้อภัยก็เป็นธรรมอันหนึ่ง
    จะแตกต่างก็แตกต่างเยื้องๆกันตรงที่ดูที่การกระทำก่อน
    หรือดูที่ความเห็นก่อน
     
  12. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    สาธุ ครับ แต่ผมปัญญาน้อย กรุณาช่วยขยายความด้วยครับ
     
  13. แมงปอปีกดำ

    แมงปอปีกดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +379
    มีกัลยาณมิตรโชคดีเช่นนี้เอง ขอบคุณมากค่ะ
     
  14. thomesarnold

    thomesarnold สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2014
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +17
    การให้อภัย ทำให้เราค้นพบสัจธรรมไ้ด้เร็วขึ้นครับ มีคนทำร้ายอะไรกับผม เขาก็ได้แบบนั้นไปครับ ในใจตอนแรกก็คิดอยาก เอาคืน แต่คิดกลับว่าเอาืคืนแล้วไ้ด้อะไร แค่ สะใจ เราปล่อย มันไปซะดีกว่า
     
  15. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,135
    เชื่อว่าทุกท่านเคยให้อภัยเคยอโหสิกรรมให้ใครต่อใครด้วยกันทั้งนั้น

    ด้วยบุคคลนั้น มีหลายประเภทที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวันทุกวัน แม้แต่คนใก้ลตัว พ่อแม่พี่น้องญาติ และไม่มีใครที่ทำอะไรได้ถูกใจทุกคนไปซะทั้งหมด แม้แต่ตัวเราเอง หลายครั้งที่ทำอะไรไปโดยที่รู้ว่าไม่ควรทำ แต่หากทำไปแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุุผลใดก็ตาม สิ่งที่ทำได้คือต้องให้อภัยตนเองเป็นสิ่งสำคัญ

    ฉะนั้นสำหรับดิฉันเอง จะบอกว่าทุกวันก่อนนอนต้องระลึกนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาในทุกวัน เพื่อสละละทิ้งไว้ซึ่งความไม่ชอบใจชอบใจทั้งหลายทั้งปวง ทำวันต่อวันเลยหละค่ะ ให้อภัยตนเองและให้อภัยผู้อื่น ปล่อยวางโดยการให้อภัยสวดมนต์ภาวนาเป็นขั้นต่อไปในการขจัดสนิมในใจอย่างละเอียด ทำทุกวันเราก็มีความสุข เราไม่ได้แบกความอาฆาต ความโกรธไว้

    ผู้ที่ให้อภัยศัตรูได้ ศัตรูก็หมดคู่ต่อสู้บนเวที แม้วันนี้เขายังไม่ให้อภัยเรา แต่เขาจะชกลมคนเดียวบนเวทีทะเลาะ โดยไม่มีเราเป็นคู่ต่อสู้ นานเข้าเขาก็หมดแรงไปเอง การให้อภัยเป็นเรื่องดีที่ทำได้ยาก แต่ถ้าทำเป็นประจำ ก็จะเป็นของง่าย เกิดเองอย่างฉับพลัน กระทั่งกลายเป็นสัญชาตญาณในการอภัย หลายครั้งที่เราผูกโกรธ คนเจ็บคือเรา เมื่อเราผูกอาฆาตพยาบาท ไฟอาฆาตจะเผาตัวเราเองอยู่ภายใน

    บางทีคนที่เขาโกรธเรา หากเราโกรธตอบก็จะเป็นการตอบรับกระแส เหมือนการโทรศัพท์ ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดรับโทรศัพท์รับอีกฝ่ายที่โทรถึงก็หมดสิทธิ์จะคุยกับเรา ฝ่ายที่โทรถึงก็หมดสิทธิ์คุยกับเราเช่นกัน เพราะกระแสไม่สามารถส่งถึงกันได้

    การตอบรับซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นความดี เป็นความรัก ความอบอุ่นก็ดีไป แต่ถ้าเป็นความเกลียด ความโกรธ สิ่งที่ตามมาคือการรับรู้และเก็บอารมณ์ทั้งโกรธและเกลียดนั้นไว้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย...ซึ่งไม่ดีเลยค่ะ
     
  16. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    ผมมาชี้แจงเรื่อง ให้อภัย กับ ธรรมหนะครับ
    คนมองที่คำสอนพระพุทธเจ้าเป็นหลัก
    ย่อมบอกว่าให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง
    คนที่มองการกระทำตัวเองไม่ให้คลาดเคลื่อนคำสอนพระพุทธเจ้า
    ย่อมมองว่าการให้อภัยนั้นก็เป็นธรรมครับ
    แต่จะบอกว่าคนที่มองคำสอนพระพุทธเจ้าก่อนนั้นเป็นคนไม่ทำก็ไม่ได้
    ก็เป็นคนทำเหมือนกันครับ แต่แค่เลือกมองส่วนไหนก่อน
    การกระทำก่อน หรือ คำสอนพระพุทธเจ้าก่อน
    แต่ตามชื่อกระทู้แล้ว คุณเคยให้อภัยใหม
    ก็คงต้องดูที่การกระทำก่อน แล้วท่าคลาดเคลื่อนคำสอนพระพุทธเจ้าตรงไหน
    จึงจะยกคำสอนพระพุทธเจ้ามาชี้แจงอีกทีว่าที่ท่านพิมนี้คลาดเคลื่อนไปแล้วนะ
    เพราะพระศาสดาตรัสว่า อย่างนี้ ๆ
    ท่ามีผู้ศึกษาธรรมทุกบทกันทุกคนแต่ไม่มีคนทำ ธรรม ก็คลาดเคลื่อนได้
    เรื่อง ปัญญาน้อย ปัญญามาก นี่เป็นการเปรียบเทียบตัวเอง
    มีกดตัวลงมา ก็ต้องมียกตัวเอง มีตีเสมอคนอื่นเป็นบางจังหวะ
    กดตัวเองมากไปก็ไม่ดี พิมแบบไม่ถือตัวสบายๆน่าจะดีกว่าครับ
    อย่างเช่น สวัสดีครับท่าน ธรรมมนุษย์ ไม่ได้เจอตั้งหลายชั่วโมง
    สบายดีมั้ยอะ ผมพิมตอบแล้วนะครับ หวังว่าคง
    เป็นสุขในพระรัตนตรัย ยิ่งๆขึ้นไปนะครับ ผมรู้สึกจะพิมมาหลายบรรทัดละ
    งั้นผมขอตัวก่อนละกันนะครับ บ๋ายบายครับ
    ส่วนเรื่องให้อภัยนี่ผมรู้จัก ให้อภัยก็คือการให้อภัย ส่วนให้ได้อย่างไร
    ก็คงเมตตา กรุณา แต่ก็ต้องมีส่วนประกอบอื่นๆ โชคดีครับ *-*
     
  17. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เคยค่ะ ..เพราะเราอาฆาตพยาบาทคนบางคนนี่แหละ ทำให้สภาพจิตใจเราแย่มากๆ ปฏิบัติธรรมก้อไม่ไปไหน เหมือนติดอยู่ในบ่วง เป็นเมื่อปีที่แล้วทั้งปีเลย คือกะว่าจะไม่ให้อภัยเลย มันก้อเหมือนไฟสุมทรวงอยู่นั่นแหละ แต่ด้วยความที่ต้องการเห็นผลการปฏิบัติธรรมที่ก้าวหน้า บวกกับรักตัวเองด้วย พอมาปีนี้เลยต้องพยายามให้อภัย คือแรกๆเหมือนต้องฝืนมากเลย แต่ก้อทำได้ พอรู้สึกแค้นขึ้นมาก้อให้อภัยทันทีเลย ความพยาบาทเลยไม่สืบต่อ ยิ่งแค้นมาก-แค้นมานาน ก้อต้องให้อภัยบ่อยๆ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยรู้สึกพยาบาทแล้ว เพราะรักตัวเองและคิดว่าชีวิตเรามันสั้น ควรใส่ใจกับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตดีกว่า(สำหรับเราคือการปฏิบัติธรรม) ช่วงนี้ก่อนนอนจะสวดบทเมตตาใหญ่ และชอบฟังจากแอพฯด้วย การได้ท่องบทสวดและอ่านความหมาย ทำให้คำแปลมันซึมซับเข้าไปในใจเราเอง ก้อเป็นการเจริญพรหมวิหาร4ไปโดยปริยาย เพราะในชีวิตประจำวันก้อคิดถึงความมีเมตตาบ่อยๆ อีกอย่างนึง การที่เราได้อ่านหนังสือของครูอ้อย ฐิตินาถ ก้อทำให้เราเป็นคนมีจิตใจที่รักตัวเองและผู้อื่นมากขึ้นด้วย ครูอ้อยบอกว่า ถ้าจะเอาคืนชีวิตใคร ให้เอาชีวิตตัวเองคืนมาก่อน เราว่ามันสุดยอดมาก สิ่งที่ครูอ้อยสอนมันเวิร์คและยอดเยี่ยมมาก สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้เลย
     
  18. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    สูงสุดไม่จำเป็นต้องมีอันเดียว

    เหมือนมงคลสูงสุด มีตั้ง 38 อัน
    ทุกอันก็เป็นมงคลสูงสุด แต่มี 38 อัน
     
  19. kansakx

    kansakx สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +10
    เคยสิ อโหสิกรรม ทำบ่อย แค่คิดว่า สิ่งใดที่เค้ากระทำกับเราให้เราเสียใจ ให้เราทุกข์ ถ้าเราเก็บไว้เราก็จะทุกข์ จะพยายามไล่ความทุกข์นั้นๆ และหาสิ่งอื่นเข้ามาเติม อย่าไปคิดมาก ก็ปล่อยไปเถอะ ถ้าผิดก็แก้ไข ถ้าคิดว่าถูกแล้วก็อย่าแคร์ ก้มหน้าทำของเราต่อ มั่วแต่ไปนั่งคิด แค้น หรือจะมามัวนั่งบอกตัวเองว่า สักวันคนแบบนี้ก็จะต้องเจออย่างนั้นอย่างนี้ก็ไม่ทำนะ มันไม่ต่างอะไรกับการไปสาปแช่ง

    คิดแต่ว่า คน "เรามีกรรมเป็นของตัว" ใครจะบอกได้ว่า เราอาจซวยเอง หรือเราเคยทำกับเค้าไว้มาก่อนรึเปล่าก็ไม่รู้ ที่แน่ๆ เราต้องแก้ปัญหาที่จิตใจตัวเองเป็นหลัก ต้องรู้ตัวเองเป็นหลัก ว่าเราจะขึงโกรธเพื่อ..อะไร (ไม่ได้ห้ามโกรธนะ) ดีกว่าไหม ให้ใจตัวเองสงบแล้ว ร่มๆ ค่อยๆคิดแก้ปัญหา อย่าไปอาฆาต พยาบาทเลย มันคิดวนเวียนไม่จบ คิดไปคิดมาเป็นวงกลม หาที่ลงไม่ได้นะ หยุดเถอะ ทำตัวให้มีจุดเริ่มต้น และสิ้นสุด ก็หยุดได้ด้วยใจเรา
     
  20. Kunanop

    Kunanop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +218

    ตอนแรกผมก็เข้าใจแบบที่คุณเข้าใจนี่แหละครับ แต่พอพิจารณาดีๆ แล้ว
    ผมพบว่า คนสมัยนี้เข้าใจธรรมทานคลาดเคลื่อนเล็กน้อยกันมากกว่า ความเห็นส่วนตัวนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...