คุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการอุทิศบุญกันนะครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย na_krub, 6 กรกฎาคม 2012.

  1. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    จุดประสงค์เพื่อให้เพื่อนสมาชิกด้วยกันได้สอบถาม หรือแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องของวิธีการอุทิศบุญให้กับ ญาติ เจ้ากรรมนายเวร สิ่งศํกดิ์สิทธิ์ และผู้ที่ตกอยู่ในวิบากกรรมต่างๆ ในแบบที่ถูกต้องและได้ผลจริง โดยจากประสบการณ์ของตัวเอง ไม่ใช่จากทฤษฎีหรือเขาเล่าว่า เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่เข้าใจในวิธีการอุทิศบุญได้กระจ่างแจ้ง และสามารถใช้งานได้จริง ผลประโยชน์ที่ได้ ตัวผู้ให้จะเป็นผู้ที่พิสูจน์และรู้เอง


    สำหรับผู้ที่สงสัยและอยากรู้สามารถถามได้เลยนะครับ เดี๋ยวผู้ที่มีประสบการณ์ก็จะเข้ามาตอบให้เอง


    ผมว่าการอุทิศบุญนั้นสำคัญมากถึงได้อยากตั้งกระทู้ขึ้นมาและไม่อยากให้มันหายไป จะได้เป็นแนวทางของผู้ที่เริ่มปฏิบัติสามารถนำไปใช้งานได้จริงและสามารถนำไปสอนกับบุคคลอื่นๆต่อไป การทำบุญ ทำทานมาก บุญกุศลนั้นใช่ว่าจะถึงญาติ เจ้ากรรมนายเวร เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทุกครั้งไป


    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2012
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    จากความทรงจำ ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระเจ้าพิมพิสาร เรื่องอุทิศส่วนกุศลให้ญาติเปรต
    เมื่อทำบุญกุศลแล้วก็ตั้งจิตอุทิศให้... ก็แค่นั้น
    จากที่เคยอ่านหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา(หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)
    คำตอบก็เหมือนกัน เมื่อนึกถึงบุญที่ทำได้ ก็อุทิศได้
    ถ้าจะให้ใครก็ต้องเจาะจง โดยเฉพาะ

    จากประสบการณ์ของตัวเอง... ผมจะใช้อะไรวัดดีละครับ
    สงสัยต้องไปถามผีเหมือนหลวงพ่อนั่นแหละ ว่าแบบไหนดีที่สุด
    โดยส่วนตัวก็เชื่อวิธีของพระพุทธเจ้า
     
  3. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    จากประสบการณ์ของตัวเอง... ผมจะใช้อะไรวัดดีละครับ
    สงสัยต้องไปถามผีเหมือนหลวงพ่อนั่นแหละ ว่าแบบไหนดีที่สุด
    โดยส่วนตัวก็เชื่อวิธีของพระพุทธเจ้า<!-- google_ad_section_end -->

    อืม ผมเห็นด้วยครับ ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาอย่างเราๆ ไม่สามารถเห็นสิ่งที่เรามองด้วยตานอกได้ เราก็เลยคิดว่ามันจะจริงหรือไม่จริง แต่มันก็สามารถพิสูจน์ได้ให้เห็นเหมือนกันในทางโลก คือ ให้สังเกตุตัวเองว่ามีเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เครียดน้อยลงไหม มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับญาติพี่น้อง ที่ทำงานน้อยลงไหม อุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้ยานพาหนะหรืออาการซุ่มซ่ามน้อยลงไหม มีลาภลอยโผล่มาบ้างไหม เป็นต้น ผมอาจจะโชคดีนิดหน่อยที่สามารถถามพระธรรมในข้อที่สงสัยได้ และสามารถพิสูจน์ได้ โดยที่ไม่ได้คิดไปเอง


    อนุโมทนาสาธุแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ได้จริง อย่าได้สงสัยเลย

    กล่าวอุทิศให้ตอนนั้น เค้าก็ได้ตอนนั้นเลยทันที

    กล่าวสั้นๆก็ได้ "ขอผลบุญที่เราได้ทำมานั้น ให้เธอจงได้รับผลบุญเช่นที่เราได้ทำไว้ด้วย"
     
  5. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    การอุทิศบุญ แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ
    1)บุญที่เป็นอาหารการกิน สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า ให้สิ่งไหนไปก็ได้เช่นนั้น
    2)บุญที่เป็นของทิพย์ สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ที่ได้รับ


    จะเห็นได้ว่าบุญที่เป็นของทิพย์จะดีกว่าบุญที่มาจากสิ่งของทางโลก เพาะความต้องการของผู้ที่รับอาจจะไม่ตรงตามที่เราให้ไป เช่น คนที่กำลังตกอยู่ในวิบากกรรมกำลังหนาวเหน็บอยากได้ผ้าห่ม แต่เราให้แต่อาหารการกิน ต่อให้เราให้มาก เยอะขนาดไหนก็ไม่ทำให้เค้าหายหนาวได้ อะไรแบบนี้เป็นต้น


    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ทุกครั้งที่ผมทำบุญนั่งสมาธิจะขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ปรับภพภูมิตั้งภูเขาบุญที่บ้าน จากเดิมที่บรรยากาศหนักๆ รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้น หายใจทั่วท้อง เหมาะมากสำหรับสถานที่ที่มีพลังงานลบ เช่นมีประวัติศาสตร์การสู้รบ หรือเป็นที่ฆ่าสัตว์หรือสถานที่ที่มีพลังงานไม่ดีทั้งหลายจะเห็นผลเร็วมากแนะนำครับ

    ตั้งภูเขาบุญปรับภพภูมิ

    ภูเขาบุญ คือ กองบุญใหญ่ที่หลวงปู่ดู่อาราธนา
    <wbr>บุญของพระพุทธเจ้าทั้งหลายมาประ<wbr>ดิษฐานที่นี้
    หลวงปู่ท่านเมตตาต้องการสงเคราะ
    <wbr>ห์วิญญาณที่อยู่ที่นั่น รวมทั้งที่ผ่านไปผ่านมา จะได้อนุโมทนาเอาจากกองบุญอันนี้ เพราะการตั้งจิตแผ่เมตตาย่อมให้<wbr>ผลเป็นคราว ๆ ไป
    แต่การทำอย่างนี้(ตั้งภูเขาบุญ)
    <wbr> วิญญาณเหล่านั้นไม่ต้องรอคนแผ่เ<wbr>มตตาให้ เขาสามารถโมทนาบุญเอาได้ตลอด
    จะได้เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้คลาย
    <wbr>ทุกข์ยากลงบ้าง

    ในสมัยหลวงปู่ดู่มีชีวิต ท่านจะอธิษฐานซ้ำเข้าไปเรื่อย ๆ เรียกว่า เพิ่มพูนภูเขาบุญให้แน่นหนามั่น<wbr>คงยิ่ง ๆ ขึ้นไป
    นอกจากนี้ ท่านยังส่งเสริมให้ลูกศิษย์กรรม<wbr>ฐาน เมื่อเวลาปฏิบัติดี ๆ ก็ช่วยกันอธิษฐานบุญสมทบเข้าไปอีกเรื่อย ๆ
    จึงนับเป็นหนทางทำบุญอีกทางหนึ่<wbr>งด้วย ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าด้วยบุญบา<wbr>รมีของหลวงปู่ ภูเขาบุญแห่งนี้จะอยู่ไป
    ตราบนานเท่านาน

    การอธิษฐานจิตตั้งภูเขาบุญนั้น ต้องเริ่มจาก
    ๑. ทำจิตของเราให้เป็นสมาธิ ให้สว่าง หรือมีปีติอื่น ๆ เช่น ขนลุก กายโปร่งเบา ฯลฯ เพื่อให้การอธิษฐานได้ผลสัมฤทธิ์เต็มที่ (แปลว่าต้องทำตอนจิตมีกำลัง)

    ๒. ต่อไปก็ระลึกถึงหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอท่านเมตตาอัญเชิญบุญบารมีพระพุทธเจ้า ตั้งเป็นภูเขาบุญ (กรณีที่มีภูเขาบุญอยู่แล้ว เช่นที่วัดสะแก ก็เปลี่ยนเป็นอธิษฐานสมทบกองบุญ<wbr>เดิม) ซึ่งขั้นนี้แล้วแต่ผู้ปฏิบัติ หากเห็นแสงสว่างที่ลงมาที่ภูเขา<wbr>บุญก็จะเกิดปีติและความเลื่อมใส<wbr>ยิ่งขึ้นไป อีก หากไม่เห็น ก็ให้น้อมจิตเลื่อมใส แล้วกำหนด (สมมติ) เป็นแสงสว่างลงมาที่กองบุญ

    สิ่งที่ควรทราบเพิ่มเติมก็คือ
    ก. การอธิษฐานบุญบารมีพระพุทธเจ้า (และครูบาอาจารย์) มาตั้งเป็นภูเขาบุญ ใช้ในกรณีที่พิจารณาเห็นว่าในบร<wbr>ิเวณนั้นมีวิญญาณมาก และยากที่ให้บุญคราวเดียวจะคลาย<wbr>ทุกข์เขาได้ จึงจำเป็นต้องตั้งกองบุญเป็นการ<wbr>ถาวร (อยู่ได้นานขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กั<wbr>บกำลังจิตของผู้อธิษฐานด้วยเหมื<wbr>อนกัน)

    ข.ในขณะอธิษฐาน ก็ให้วางจิตด้วยเมตตาและกรุณาใน<wbr>ฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย
    เสร็จแล้วก็วางจิตด้วยอุเบกขาว่<wbr>า สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับเหตุปั<wbr>จจัย ใครรับได้หรือไม่ได้ ก็สุดแต่กรรม
    เราก็ทำหน้าที่ของเราเท่านั้น สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

    ค.การอธิษฐาน สามารถทำซ้ำ ๆ ในโอกาสอื่น ๆ ได้อีก เพื่อให้กองบุญอยู่มั่นคง ยาวนาน

    ง. สิ่งที่ต้องตระหนักก็คือ การอธิษฐานจิตตั้งกองบุญนั้นยัง<wbr>เป็นขั้นของการปรุงแต่ง เพียงแต่เป็นการปรุงแต่งเพื่อพั<wbr>ฒนาคุณภาพจิต กล่าวคือสร้างความชำนาญในการทำภ<wbr>าวนา(ความตั้งมั่นของจิต)ประการ<wbr>หนึ่ง แล้วยังจะช่วยสร้างเสริมเมตตาจิ<wbr>ตอีกประการหนึ่งด้วย
     
  7. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    เรื่องเกี่ยวกับบุญที่น่าจะศึกษาคือการเบิกบุญที่เคยทำมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติเพื่ออุทิทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร และยังมีการเชื่อมบุญกับอดีตชาติของเรา ถ้าเรากำลังลำบากเรื่องไหนเราสามารถขอเชื่อมบุญในชาติที่เราไม่มีปัญหามาได้ และอีกเรื่องคือการทำจิตให้ใสจะปิดกรรมไม่ดีได้

    จิตเศร้าหมองเป็นตัวปิดบุญเก่า:พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ



    การไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของความอยากได้จนมากเกินไปจนกลายเป็นความ
    เครียด จิตเศร้าหมองกังวลเป็นตัวปิดบุญเก่าไม่ให้มาหนุนกรรมปัจจุบันได้ เมื่อมี
    สิ่งกระทบ อายตนะทั้งหลายที่มากระทบปรุงเป็นความไม่พอใจขึ้นมากระทบเมื่อ
    ใด มันจะกลายเป็นความพอใจและไม่พอใจ ให้มีสติรู้เท่าทันธรรม 2 อย่างนี้
    ยกระดับจิตไม่ให้เกลือกกลั้วกับความพอใจหรือไม่พอใจในขณะนั้นโดยมี
    กุศโลบายรู้เท่าทันของจิต

    เมื่อความไม่พอใจเกิดขึ้นก็ให้แผ่เมตตาให้บุคคลนั้น ขอให้มีความเจริญๆๆๆ
    ความพอใจก็เช่นกัน ก็แผ่เมตตาให้เขาไม่ว่าเขาจะเป็นมิตรหรือศตรูก็ดี ขอให้
    เขามีความสุขความเจริญๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นเป็นมาด้วยเหตุ ทั้งที่มา
    จากอดีตชาติ เป็นเหตุมาจาก บาป-บุญ ความรักความไม่ชอบใจ ไม่พอใจ
    จากอดีตชาติ ความพยาบาทจากอดีตชาติสิ่งเหล่านี้เป็นการหนุนเนื่องมาจาก
    กรรมเก่าทั้งสิ้น ส่วนเหตุในปัจจุบันก็คือสิ่งที่มากระทบทาง หู ตา จมูก ลิ้น กาย
    ใจ ให้รู้เท่าทันแล้วปล่อยวางยกระดับจิตให้อยู่เหนือสิ่งเหล่านี้ โชคลาภก็จะเข้า
    มาได้ง่าย แสดงว่าประตูแห่งความสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว ญาณทัศนะก็เกิดความรู้
    เห็นในสิ่งที่ถูกต้อง จะสามารถวินิจฉัยปัญหาได้อย่างถูกต้อง...

    จิตปิดก็เพราะท้อแท้ หดหู่ เศร้า ลังเลสงสัยในบุญกุศล ในคุณงามความดี ต้อง
    เฝ้าระวังจิตเหล่านี้ เพราะจิตเหล่านี้มีแต่จะชักนำวิบากเปิดโอกาสให้วิบากกรรม
    เข้ามาจองล้าง จองผลาญ เรื่องร้ายๆ ก็จะสามารถแทรกเข้ามาได้ในชีวิต...

    ถ้าใจมีความปิติ มีความภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของตนเองแล้ว คุณธรรม
    ตัวอื่นจะตามมา ภูมิใจในสติ ปัญญา เห็นตัวบุญ-บาป รู้จักแยกแยะสิ่งใดเป็น
    คุณ เป็นโทษ เป็นประโยชน์ มีสติ ปัญญาในทางนี้แล้วอย่ายึดติดอยู่ที่ความ
    ภูมิใจ อย่ามัวหลงกับความภูมิใจ ให้ทำจิตใจโปร่งๆ 3 วาระ คือ จิตเปิด
    1.อย่าอยากมากเกินไป
    2.อย่าโทสะ ความหลงเข้าครอบงำ
    3.อย่าให้ความหดหู่ มีเข้ามาในจิต
    ให้ทำจิตให้เบา โปร่งสบาย ทุกอย่างสำเร็จด้วยบุญหนุนเนือง จิตนี่แหละคือแก้ว
    สารพัดนึก
     
  8. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    มีวิธีการง่ายไหมๆ ในการอุทิศบุญให้??????????
     
  9. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ท่องคำกรวดน้ำ อุทิศบุญกุศลครับ "อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหตุ ญาตะโญ "แล้วระลึกถึงบุคคลที่เราแผ่บุญกุศลให้ นี่ง่ายที่สุดแล้วครับ...
    ขออนุโมทนาสาธุครับ...
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
     
  10. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916

    ครับ ง่ายก็จริงครับ แต่มันยังไม่ครอบคลุม ผู้ที่ได้คือเฉพาะญาติพี่น้องเท่านั้น แต่บุคคลที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรเราเป็นได้ทั้งสัตว์ ผู้ร่วมงาน บุคคลต่างๆ การอุทิศบุญแบบไม่รีบร้อน(แล้วจะรีบไปไหน)แนะนำให้อุทิศให้ครบเลยครับ
    " อิทังเม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    อิทังเม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโร
    อิทังเม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

    อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหนตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
    อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี"


    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เอาง่าย ๆ นะ
    อุทิศแล้วขนลุกจนครบทุกทิศก็แปลว่าแถวหน้าทั้งหมดได้รับทั่วถึง
    มองไม่เห็นก็เอาทีละแถวนี่แหละ

    ถ้าขนไม่ลุกก็ไม่ต้องวัดอะไรแล้ว อุทิศไปเถอะ ได้ไม่ได้ก็ช่าง เราได้อุทิศแล้ว
     
  12. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916

    จริงครับ ถูกต้องที่สุด
     
  13. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    แบ่งให้ไปแล้ว ยังไงก็ต้องได้ อยู่ในนรกก็ได้ เว้นแต่ว่าอยู่ในนรกลึกๆ บุญไปไม่ถึง

    อย่าได้สงสัยเลย
     
  14. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    สำหรับผู้ที่เริ่มปฏิบัติการอุทิศบุญนะครับ

    การอุทิศบุญผมแบ่งได้เป็น ๒ แบบ คือ
    ๑) แบบให้เป็นสิ่งของ
    ๒) แบบทิพย์

    แบบให้เป็นสิ่งของ ผมยกตัวอย่าง ๒ ข้อ
    ๑)ถ้าเป็นอาหารนะครับ เมื่อเราซื้ออาหารก่อนเราทาน เราสามารถอุทิศให้กับญาติ เจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่ตกอยู่ในวิบากกรรม โดยที่ไม่ต้องจุดธูป เมื่อเราซื้ออาหารมาแล้ว ก่อนจะรับประทานให้อุทิศไปให้พวกเค้าเหล่านั้นได้เลย วิธีการอุทิศที่ผมใช้ ผมจะใช้บุญบารมีของพระรัตนตรัยเป็นพยานในการส่งให้ "ด้วยอำนาจบุญบารมีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โปรดดลบันดาลอาหารเหล่านี้ ประกอบด้วย........... ให้กับญาติของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพจ้า และผู้ที่ตกอยู่ในวิบากกรรมต่างๆ ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้พ้นจากวิบากกรรมต่างๆ ได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และขอให้ได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ" จากนั้นก็นั่งนิ่งๆสัก ๕ วินาที แล้วเราก็ทานอาหารของเราได้ ถ้าอาหารไม่มีรสชาติก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ
    ๒) ถ้าเป็นเสื้อผ้า ก็ทำคล้ายๆกัน ถ้าเราจะให้เสื้อผ้ากับญาติของเราที่เสียไปแล้ว ก็ให้ไปซื้อเสื้อผ้านั้นมา เมื่อซื้อมาแล้วก็ทำการอุทิศไปให้ได้เลย "ด้วยอำนาจบุญบารมีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โปรดดลบันดาลเสื้อผ้าเหล่านี้ ประกอบด้วยเสื้อผ้าให้กับญาติของข้าพเจ้า ชื่อ........... ขอให้ท่านญาติของข้าพเจ้าชื่อ............พ้นจากวิบากกรรมต่างๆ ได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และขอให้ได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ" เสื้อผ้าที่ให้ไปแล้ว เราจะเอาไปบริจาคให้คนอื่น หรือเอาเก็บไว้ใช้เองก็ได้ครับ


    แบบทิพย์ สามารถให้ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใด เพราะเป็นการเบิกบุญของเราจากเบื้องบนมาให้ โดยขออำนาจบุญบารมีของพระรัตนตรัยในการอุทิศบุญ ขอยกตัวอย่าง ๒ ข้อ
    ๑) ได้พบเห็นสัตว์ตาย อยากช่วยวิญญาณให้เค้าพ้นทุกข์ โดยมีจิตที่เป็นกุศล เราก็สามารถเบิกบุญของเรามาให้เค้าได้เลย "ด้วยอำนาจบุญบารมีแห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้า มามอบให้กับสุนัขที่ตายนี้ ขอให้สุนัขที่ตายนี้ได้รับผลบุญของข้าพเจ้า เพื่อที่จะได้พ้นจากวิบากกรรมต่างๆ ได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และขอให้ได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ"

    ๒) เวลาอาบน้ำ อยากอุทิศให้กับเชื้อโรคทั้งหลายที่ต้องตาย เพราะเกิดจากการอาบน้ำของเรา เราก็ทำได้เช่นเดียวกัน "ด้วยอำนาจบุญบารมีแห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้า จงมอบให้กับเชื้อโรคทั้งหลายที่ตายเนื่องจากการอาบน้ำของข้าพเจ้า ขอให้เชื้อโรคทั้งหลายเหล่านี้ได้รับผลบุญของข้าพเจ้า เพื่อที่จะได้พ้นจากวิบากกรรมต่างๆ ได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และขอให้ได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ"


    จากประสบการณ์โดยตรงถ้าฝึกให้ครั้งแรกๆจะไม่ชิน พอนานๆเข้ามันก็จะเป็นอัตโนมัติ การทำต้องมีจิตที่เป็นกุศล การอุทิศแบบให้เป็นอาหาร ตอนให้ครั้งแรกอาหารจืดสนิท ตอนให้เป็นขนม ก็กินไม่ได้เลย เหมือนของเสียต้องทิ้งเลย ความคิดผมใหม่ๆ ผมเทียบได้กับของเซ่นที่ให้กับกุมารหรือว่าเจ้าที่อะไรทำนองนั้น ต่างกันตรงที่ไม่ได้จุดธูปแค่นั้นเอง ลองเอาไปปฏิบัติดูนะครับ แล้วจะมีผู้ที่ตามเรามาเยอะแยะเลย


    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    การอุทิศบุญตามตำราทั่วไปใช้ได้ครับ..แต่ยังไม่เฉพาะเจาะจง.แต่เป็นการสร้างและสะสมบารมีให้ตัวเองได้ในระดับหนึ่ง.เพราะระดับความละเอียดของจิตผู้รับแตกต่างกัน..ถ้าเจาะจงควรมีการแปรสภาพบุญด้วย..โดยเฉพาะกรณีที่เป็นสัมพะเวสี.หรือว่าญาติๆเราบางครั้งก็ต้องฝากท่านพยายามด้วย..ในกรณีที่ญาติเราคนนั้นยังต้องรับกรรมอยู่....​
    ส่วนคำพูดคือ."ด้วยอำนาจ พุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าแปรสภาพเป็นอะไรก็แล้วแต่ตามที่ท่าน(สัมพะเวสี ญาติเรา ไม่ว่าจะเห็นด้วยตา ได้ยินแต่เสียง หรือกลิ่น อะไรก็ได้ที่สื่อว่าเป็นเค้า)ต้องการ และให้บุญที่ข้าพเจ้าได้ทำมาจงเป็นของท่านดังปรารถนาเถิด'' ​

    การตรวจสอบ.
    1.ถ้าอุทิศให้สัมพะเวสีแบบนี้เพียงครั้งเดียว..เค้าจะเปลี่ยนภพภูมิทันทีและจะหายไปไม่มาให้เราเห็นในรูปแบบแรกอีก..ยกเว้นมาในรูปแบบที่เปลี่ยนภพภูมิที่สูงขึ้นเป็นบางกรณีๆไป.และบางครั้งต้องพูดประมาณ 2-3 ครั้งในกรณีที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร....
    2.กรณีเป็นญาติเรา..เค้าจะมาบอกด้วยตัวเอง..จะมาให้เห็นตรงกลางของศรีษะ..
    3.กรณีเป็นญาติเรา.แต่เราไม่สนิทมาก..ท่านจะทราบได้เอง..โดยพวกยมฑูตจะพามาเอง..จะมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ ผมเรียกว่าเขตเปลี่ยนภพภูมิ..คือเขตที่มีเฉพาะดวงจิตถึงจะขึ้นหรือข้ามไปได้..ถ้าใครที่สามารถถอดจิตไปได้ยมฑูตเค้าจะไม่ให้เราขึ้นไป.เพราะยังมีร่างกายอยู่....
    4.กรณีเป็นญาติเรา..ท่านได้รับแต่ยังต้องใช้กรรมอยู่..จะแวะมาให้เห็นแต่มาจากด้านทางด้านขวา..
    5.กรณีเป็นภพภูมิระดับสูงการอุทิศบุญไม่ใช่ประเด็นหลัก..แต่ท่านจะเป็นมิตรกับเรา..และจะแวะมาให้เห็นถึงรูปร่างของท่าน.บางท่านมาให้โชคทางเสียงจะได้ยินทางหูด้านขวา..แต่ท่านยังไม่ได้เปลี่ยนภพภูมิไปไหน..เพราะยังมีภาระหน้าที่ของท่านอยู่ เช่น วิญญานบรรพษรุษ เจ้าที่ๆดูแลที่พัก ดูแลตามโรงแรมต่างๆ.ส่วนมากจะมาให้เห็นทางด้านซ้ายของศีรษะ.

    ส่วนวิธีสังเกตุด้านอื่นๆให้อ่านจากที่คุณ na_krub เขียนไว้
    ประมาณนี้ก่อนนะครับ..
     
  16. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916

    ขอบคุณมากครับคุณ nopphakan ของจริงเลย สงสัยไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมแล้วเรา


    ผู้ที่มีจิตเมตตา ปราณีย่อมสามารถรู้และเข้าใจ โดยที่ไม่ต้องอธิบายซ้ำๆ เพราะเรื่องจริงก็คือเรื่องจริง สิ่งไหนถูกและสิ่งไหนสมควรนำไปปฏิบัติ


    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
  18. KRIDROCKER

    KRIDROCKER Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +95
    ครูบาอาจารย์หลายท่าน เคยสั่งสอนไว้
    ซึ่งถ้าเราคุยกันแบบบ้านๆ บุญ 3 ประการ ทาน ศีล ภาวนา
    หรือเบบเข้าใจง่ายเข้าไปอีก คือ การสร้างความดีทุกประการ
    เป็นแหล่งของการเกิดบุญกุศลทั้งสิ้น
    การอุทิศบุญ ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่จำเป็นต้องกรวดน้ำ
    ให้ใช้การคิด ต้องรีบคิดทันที เพราะแสงแห่งบุญ
    ที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาที แล้วจะหายไป
    สู่สวรรค์ สะสมเป็นกองบุญเอาไว้ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ
    เราจะชำนาญในการคิด
    การอุทิศบุญ
    1. การเบิกบุญจากสวรรค์
    "ขออำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    จงบันดาลให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าเคยสร้างมาตั้งแต่อดีตชาติ
    จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรที่มาเบียดเบียนข้าพเจ้า......
    (เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า เทวดาดูแลบ้าน นาค ครุฑ
    อสูร ยักษ์ คนธรรพ์ และภูตผีปีศาจที่อยู่บริเวณ
    บ้านของข้าพเจ้า)"
    2.การอุทิศบุญที่ได้รับทันที
    "ขณะที่ใส่บาตรหรือถวายของพระ
    ให้ตั้งจิตอธิษฐานทันที บุญนี้ยกให้เจ้ากรรม
    นายเวรที่มาเบียดเบียนข้าพเจ้า.....
    (เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า เทวดาดูแลบ้าน นาค ครุฑ
    อสูร ยักษ์ คนธรรพ์ และภูตผีปีศาจที่อยู่บริเวณ
    บ้านของข้าพเจ้า)"
    3. การนั่งสมาธิ
    "ก่อนนั่งสมาธิ อธิฐานจิต ว่า ขอบุญกุศล
    ที่เกิดจากการนั่งภาวนา จงสำเร็จแก่เจ้ากรรม
    นายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้าและ
    .......
    (เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า เทวดาดูแลบ้าน นาค ครุฑ
    อสูร ยักษ์ คนธรรพ์ และภูตผีปีศาจที่อยู่บริเวณ
    บ้านของข้าพเจ้า)" ในขณะนั่งสมาธิ
    หากเกิดบุญกุศลขึ้นเมื่อใด
    ขอให้ท่านอธิฐานเอาบุญจากข้าพเจ้าไปได้เลย
    และขออย่าได้ขัดขวางการภาวนา
    ของข้าพเจ้า"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กรกฎาคม 2012
  19. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916


    อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

    สำหรับเทวดาประจำตัวนั้น มีความสำคัญมากน้อยอย่างไร หลายๆท่านคงทราบกันหมดแล้ว และก็คงหาบทบูชาเทวดาประจำตัวเอาไว้หมั่นท่องเป็นประจำ ผมเลยเอามาทบทวนให้อีกทีนะครับ สำหรับผู้ที่เริ่มต้น

    <TABLE border=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันอาทิตย์[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางถวายเนตร[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ - สวด 6 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันจันทร์[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางห้ามพระญาติ[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]อะ ระ ชา คะ ตะ ระ สา - สวด 15 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันอังคาร[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางไสยยาสน์[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง - สวด 8 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันพุธ[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางอุ้มบาตร[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]ปิ สัม ระ โร ปุ สัต พุทธ - สวด 17 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันพฤหัส[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางสมาธิ[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ - สวด 19 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันศุกร์[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางรำพึง[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]วา โธ โน อะ มะ มะ วา - สวด 21 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันเสาร์[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางนาคปรก[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]โส มา ณะ กะ ริ ถา โร - สวด 10 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR><TR><TD>[COLOR=#66699]คนที่เกิดวันพุธ(เวลากลางคืน)[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]พระปางป่าเรไลย์[/COLOR]</TD><TD>[COLOR=#66699]คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ - สวด 12 จบทุกคืนก่อนนอน[/COLOR]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เทวดาประจำตัว ที่มาปกปักรักษาตัวเรามีทั้งที่เป็นพระเกจิอาจารย์ และเหล่าทวยเทพทั้งหลาย เมื่อบุคคลใดได้ระลึกถึงเทวดาประจำตัวอยู่เสมอ ท่านก็จะช่วยเหลือปกปักรักษาเรา อนุเคราะห์ ให้เราสามารถพ้นจากวิบากกรรมได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเราอุทิศผลบุญของเราให้กับเทวดาประจำตัวแล้ว ก็ควรหมั่นระลึกถึงท่านบ่อยๆ คาถาบูชาเทวดาประจำตัวก็เอามาจากบทถวายพรพระ ที่นำมาแต่เฉพาะท่อนพระพุทธคุณ เรียกว่าพระพุทธคุณห้องเดียว ถ้าเอามาสวดรวมกันให้ครบทุกวัน ก็จะกลายเป็นยันต์เกราะเพชรของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่มีชื่อเสียงเรื่องพระพุทธคุณมากมาย

    อย่าลืมหมั่นท่องคาถาบูชาเทวดาประจำตัวทุกๆวันนะครับ


    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ขอแชร์นะะคะ ผิดถูกยังไงขอคำชี้แนะด้วยค่ะ . ดิฉันมักจะกล่าวอุทิศส่วนบุญกุศล ทั้งตอนที่แผ่เมตตาหรือกรวดน้ำ ให้แก่สรรพสิ่งทั้งหลายสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้ง 31ภพภูมิ สุดรอบครอบจักรวาล อนันต์จักรวาล ทั้งที่เกี่ยวข้องกับตัวข้าพเจ้าก็ดี ไม่เกี่ยวข้องก็ดี คิดถึงก็ดี คิดไม่ถึงก็ดี โดยมีพ่อ-แม่ และผู้มีพระคุณเป็นต้น และโปรดให้สรรพสิ่งทั้งหลายสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นโมทนานี้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ โดยยกบารมีขององค์พระรัตนตรัยขึ้นต้นก่อนเสมอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...