งมงายจังเลย คนไทย

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เฮ้ออออ, 15 พฤศจิกายน 2004.

  1. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,228
    ค่าพลัง:
    +10,593
    สิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้มี 2 กรณี
    1. มันไม่สามารถพิสูจน์ได้จริงหรือไม่มีจริง
    2. วิทยาศาสตร์ยังไม่ก้าวหน้าพอที่จะพิสูจน์สิ่งนั้นได้
     
  2. 123

    123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +864
    เห็นด้วย......
     
  3. kobe

    kobe บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    I think you missed my point.

    "สงสัยคุณ # ข้อ1 และ 18 มีศาสนาหรือความเชื่อไหมค่ะ และได้ศึกษามากน้อยแค่ไหน"

    Now I don't have religion.
    I used to be buddhist until one day I realised that religions are NOT the truth. I asked myself, "why am I buddhist?"
    the answer was that I was born and raised in a buddhist family and I was buddhist since I could remember. Then I grew up and became more interlectually educated and began to analyse what is the truth and what is not.

    Do you think a baby is born to have any religion at birth??

    the answer is NO..
    you all have been conditioned by the surrounding, you were born in thailand, thats why you are originally buddhist. If you were born in a Christian country, then you would be raised to be Christian.
    My point is that most people did NOT choose their religion when they were small, but they were conditioned to be.

    All religions are creation of men, I'm not saying that religions are bad, but you have to realize that it is Men who create religion because it is useful to us.
    All religions teach you to be good person and give you spiritual support which is a good thing.

    But that's the purpose of it, you have the right to believe in something, but you cannot justify your belief to others!! and cannot claim that it is the absolute truth.

    Now let's see.
    In Buddhism, you have reincarnation.
    It means that when you die, you ll be reborn in the "next life"..
    If you are buddhist, you certainly will believe that this is true.

    In Christianism, you believe that when you die, your spirit will be there waiting for the "Judgement day".

    Now you see that a buddhist person and christian person have different belief about what is after death.

    Obviously both cases cannot be true at the same time.

    The fact is that we don't know whats going to happen after death. That's why we need religion/belief to comfort us and to ensure us.

    Men only need God when they are in danger or in need. ญFor example people think of God when they are dying, or when they are about to die.
    Thats because they do not have the control over the situation they are in, therefore they are hoping or praying that there might be some "Greater force" that could help them.

    It's not even certain that God, Heaven and Hell exist.

    The absolute question you should ask yourself is

    "How do you know what you know?"

    is it because you have been told by people?
    then how trustworthy are those people?

    is it because you have read somewhere?
    then how creditble are those sources?

    is it because you have seen it?
    then how much can you really trust your senses( halucination, illution)?

    Now you see, I trust science the most even though ít cannot provide answers to everything because at least it is well-proven and supported by empirical evidence.

    I just hope that you will get something out of my post. I'm not here to provoke people but i'm always ready for educated and well-argumented discussion.
     
  4. wanted

    wanted Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +50
    ทางที่หลุดพ้น

    ใครว่าพุทธธรรมงมงายคำว่างมงายกับคำว่าไม่เจริ_มันมาเป็นของคู่กันแต่พระพุทธศาสนาสอนให้คนรู้จักเหตุและผลไม่ได้สอนให้คนทำตัวเหมือนไม่ไช่คน
     
  5. pre-regi5tered

    pre-regi5tered บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    Re: ทางที่หลุดพ้น

    So it is correct if you call Buddhism a "tool" to help you live a good life?

    if so, then we have it Religion = Tool, not the truth
    agree?
     
  6. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,107
    ค่าพลัง:
    +2,695
    งมงาย หมายถึง ไม่รู้เท่า, ไม่เข้าใจ, เซ่อเซอะ, หลงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล หรือโดยไม่ยอมรับฟังผู้อื่น
     
  7. pong1999

    pong1999 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +21
    หากยังไม่เคยทานแกงส้มปักษ์ใต้แล้วจะบอกว่าไม่อร่อยได้ไง ก็เหมือนกับคนตาบอดบอกว่านางสาวไทยปีนี้ไม่สวย....ยังไงยังง้าน ..ละเลงตัวเองทามไมอายเค้าอ่ะ
    ปักษ์ใต้
     
  8. นาคราช

    นาคราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +187
    เขางมอะไร เอ้า ผมงมด้วยคน เก็บเวลาอันน้อยนิดของคุณ ไปกินเหล้า ไปเล่น ป๊อกเด้งเหอะครับ เหอๆๆ ผมจะงมอยู่นี่ละ
     
  9. NiZaNisA

    NiZaNisA Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2004
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +59
    หากไม่เคยเห็น ไม่สมควรพูด
    หากไม่เคยสัมผัส ไม่สมควรวิจารย์
    คุณเชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อ เขาเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น

    นิว่าอย่าพูดอย่างนี้เลยดีกว่านะ มันกำลังบ่งบอกปัญญาของตัวคุณเองอยู่แหละ

    คนเรามีสิทธิคิด แต่เลือกได้ที่จะพูดหรือไม่พูด
    ไม่ว่ากัน...หากมีความคิดแตกต่างกันไป แต่คนเราเลือกที่จะพูดอย่างมีปัญญาได้

    ท้ายนี้ นิก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้เหมือนคุณนั่นแหละ แต่ไม่เคยดูถูก ลบหลู่ ดูหมิ่น เพราะวันหนึ่งวันใด นิหรือคุณ อาจจะได้มีโอกาสสัมผัสกับสิ่งๆนั้นก็เป็นได้
     
  10. Mr.Nobody

    Mr.Nobody บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ความเชื่อกับความจริง

    ความเชื่อก็คือความเชื่อ ความจริงก็คือความจริง ความเชื่อไม่อาจจะไปลบล้างความจริงที่มันยังคงตัวอยู่เสมอได้ ไม่ว่าจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นหรือไม่ ความเป็นจริงตามธรรมชาติก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่เราอาจจะไม่มีปัญญามากพอที่จะพิสูจน์ได้ เหมือนเมื่อก่อนที่ไม่มีใครเชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เรียกว่าเชื้อโรคอยู่ จนกระทั่งมีกล้องจุลทรรศน์ องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้ตรัสรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง เห็นไปตามความเป็นจริง แล้วนำเอาความจริงเหล่านั้นมาสอน พวกเราซึ่งยังมีปัญญาหยาบอยู่ให้ได้รู้ความจริง

    ใครจะเชื่ออย่างไรก็เชื่อไปเถอะครับ เพราะความจริงจะต้องถูกพิสูจน์กันให้เห็นทุกคนอยู่แล้ว ตอนที่พวกเราตายยังไงล่ะครับ ไม่ว่ากฎแห่งกรรม นรก สวรรค์ แต่เวลาเราตายไปแล้วนี่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะครับ

    จะเชื่อตอนเป็น หรือ จะไปเห็นตอนตาย เลือกเอาละกันครับ!
     
  11. casy99

    casy99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +449
    "อะโห มหัณณะโว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ" มัวแต่ว่างมงายไม่ศึกษา ก็แสดงว่า งมโข่งอยู่น่ะสิ
     
  12. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +715
    To Kobe

    You said " I think you missed my point. "

    I believed that I clearly understood your point.

    คนที่คิดอย่างคุณ มีประสบการณ์ชีวิตอย่างคุณ เกิดมาในสภาวะแวดล้อมอย่างคุณ
    มีอยู่ทั่วชมภูทวีปในสมัยที่พระพุทธเจ้าโคตมศากยมุนีและคณาจารย์ร่วมสมัยระดับ " บิ๊ก " ยังมีชีวิตอยู่เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้ว

    แนวคิด logic ของคุณเป็นของโบราณเต็มทีครับ
    เรื่องที่คุณพูดคุณอ้างไว้นั้นเขาพูดกัน วิเคราะห์กัน สัมมนาเชิงปฎิบัติการกัน ทะเลาะกัน ตีรันฟันแทงกัน ซูเอี๋ยกัน ... มาตั้งแต่ก่อนเจ้าชายสิทธัตถะจะเกิดเสียด้วยซ้ำ และมา " บูม " กันอย่างมากในสมัยที่พระพุทธเจ้าโคตมศากยมุนีท่านประกาศคำสอน ซึ่งแน่นอนย่อมมีการขัดผลประโยชน์กับคณาจารย์ใหญ่ทั้งหกอย่างรุนแรง ที่ผมขอแจ้งให้คุณทราบก็คือ คุณไม่ใช่คนแรก หรือคนกลุ่มแรกที่มีความคิดเห็นอย่างนี้ครับ

    You do not have to make any statement at all
    เขารู้กันมาตั้งนานแล้วครับลองไปถามนักบวช โยคี ในอินเดียดูเดี๋ยวนี้ก็ได้ครับ

    เป็นแต่ว่า คุณคิดอย่างไร แน่ใจในอะไร ก็ขอให้คุณมีความสุขไปกับสิ่งที่คิดคุณแน่ใจเถิดครับ
    ไม่จำเป็นต้องมาเที่ยวตำหนิ สมเพช เวทนา คนไทย คนลาว คนเขมร คนแขก คนฝรั่ง คนจีน คนรวย คนจน คน ? ทั่วทั้งโลกดอกครับ

    เออพูดก็พูด ตามแนวคิดของคุณ ทั้งคุณและผมหรือคนอื่นๆอยากทำตัวดี เลว อย่างไรก็คงทำได้กระมัง เพราะไม่เห็นขัดกับหลักวิทยาศาสตร์ตรงไหนเลย
    ผมว่าดีเหมือนกันควรลองทำความเลวเช่นกระทืบคุณ เพื่อช่วยคุณยืนยัน Laws of Physics ที่ว่ามีแรงกระทำจากเท้าของผมไปทำปฎิกริยากับร่างของคุณซึ่งมี Momentum อยู่ที่ฝ่าเท้าของผม แล้วเกิดแรงปะทะที่ใบหน้าคุณเพื่อสลาย Momentum ยังผลให้คุณเกิดความเจ็บปวดที่ใบหน้าอย่างสูง ซึ่งเมื่อทดลองยืนยันกันแล้วคุณต้องขอบคุณผมด้วยที่ต้องเปลืองแรงช่วยคุณยืนยันความเชื่อของคุณด้วนนะครับ

    คุณคงไม่รู้ว่าอาการของคุณเขาเรียกว่านับถือศาสนาวิทยาศาสตร์ หรือศาสนาวัตถุนิยม นั่นเอง เป็นอย่างนี้แล้วคุณจะเรียกตัวเองว่าไม่มีศาสนาคงไม่ได้เสียแล้วนะครับเพราะคุณก็เชื่อหัวปักหัวปำกับศาสนาวัตถุนิยมนี้
     
  13. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    In response to Khun Kobe...by the way..your name reminds me of kobe tai the asian porn queen..hehe

    basically you are quoting straight from the text books...buddhism is all about spiritual realization of oneself..and to be able to obtain this, one must experience it ...its not my intention to flame other religion..i'm just stating the facts..

    Because judging from your post, you appeared to assume that Buddhism is on the same path as Christianity and other religions. Buddha taught us not to believe in his teaching blindly..he left us methods and teachings for us to discover the truth ourself..Without religious practices, we cant just be " good"..human are born selfish and greedy.

    there are many subjects which cant be approached with science< but does it mean that they are invalid?>> could it be that the scientific method of the presence is not advance enough?>>> its a shame>>you dont know what u have missed>
     
  14. mikky

    mikky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    894
    ค่าพลัง:
    +577
    วิทยาศาสตร์นะมันเกิดที่หลังนะ แล้วสังเกตุหรือไม่ว่าวิทยาศาสตร์ได้แต่ไล่พิสูจน์สิ่งที่มันมีอยู่แล้วทั้งนั้น แรงดึงดูดโลกมันมีมาก่อนกาลิเลโอเกิดและก่อนนิวตันไปนั่งใต้ต้น apple เชื่อโรคก็มีมาก่อนคนคิดกล้องจุลทรรศน์ โลกมันกลมมาก่อนที่อริสโตเติ้ลจะอกว่าแบนเสียอีก

    แล้วสิ่งที่มีจริง แต่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถหาวิธีพิสูจน์ได้ล่ะ เรียกว่า "งมงาย" มันจะถูกเหรอ จนวันหนึ่งถ้าวิทยาศาสตร์ไล่ทันแล้วมันจะหาย "'งมงาย" อย่างนั้นเหรอ

    ตอนที่กาลิเลโออกว่าโลกกลม ผลก็คือกาลิเลโอถูกกล่าวหาว่าเป็น "ลัทธิปิศาจ" โดนขับไล่ออกนอกประเทศ ทฤษฏีโลกกลมถูกยอมรับว่า "ไม่งมงาย" เมื่อกาลิเลโอ ตายไปนานแล้ว

    ทุกวันนี้ทฤษฏีสัมพันธภาพยังไม่สามารถทำได้ ยังเป็นแค่ทฤษฏี แต่ไม่มีใครบอกว่างมงาย เพราะมันถูกคิดมาจากนักวิทยาศาสตร์

    สรุป
    ===
    มนุษย์ให้คำจำกัดความของคำว่างมงายตามความรู้สึกชองตัวเอง เข้าใจว่าศาสตร์ที่ตนเองรู้นั้นครอบคลุมได้ทุกอ่างบนโลก หารู้ไม่ว่าเรียนวิชาทางโลกอีก 100 ชาติก็ไปนิพพานไม่ได้ มีมนุษย์โง่ ๆ แต่อวดฉลาดเปรียบว่าพระพุทธเจ้านั้นเก่งเหมือนด็อคเตอร์ 16 สาขารวมกัน แต่ผมว่าเอาด็อคเตอร์ ทุกสาขาที่มีในโลกมาช่วยกันแต่งตำรา ก็ไม่สามารถหยุดวงจรของการเวียนว่าตายเกิดได้ เอาแค่พิสูจน์ว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงยังทำไม่ได้เลย พุทธศาสตร์ คือวิทยาศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง เพราะปฏิติได้ พิสูจน์ได้ แต่ไม่มีใครมาร่วมตั้งเป็นกฏ เป็นทฤษฏี เพราะคนเหล่านั้นทำไม่ได้เท่านั้นเอง แต่การที่จะบอกว่าสิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้นั้นไม่มี นี่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์หรอกครับ พิสูจน์ให้เห็นจริงก่อนแล้วค่อยอกว่างมงายครับ
     
  15. คนต่าง

    คนต่าง บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ทำไมเจ้าของกระทู้ถึงไปเชื่อข้อมูลอย่างที่อ้างมาอย่างง่ายๆ ทำไมไม่ลองศึกษาด้วยตัวเองก่อน
    หรือศึกษาว่า พระสายปฏิบัติทั่วประเทศไทย ทั่วโลก เขาว่าอย่างไร หรือคนพุทธทั่วโลกเขาว่าอย่างไร

    เพราะสิ่งที่คุณกำลังคิด กำลังเชื่อนั้น มันเหมือนคุณเจตนาให้ตัวเองเป็นคนหูหนวก ตาบอด ถ้าคุณจะอ้างความคิดเห็นจากบุคคลคนเดียว เพื่อบอกว่าบุคคลอีกร้อยอีกพันผิด ผมว่าจะต้องพิจารณาการใช้เหตุผลแล้วครับ

    ส่วนคุณ kobe คุณอย่าศึกษาอย่างผิวเผินครับ และไม่ต้องเอามาเทียบกันเลยระหว่างศาสนาเทวนิยมกับศาสนาพุทธ เพราะที่มามันต่างกันมาก

    หากคุณศึกษาในรายละเอียดของศาสนาพุทธแล้ว คุณคงไม่กล่าวอย่างนี้ ขอแนะนำว่าคุณต้องศึกษาให้มากกว่านี้

    และคงไม่ต้องอ้างวิทยาศาสตร์หรอกครับ เพราะทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนผ่านการศึกษาวิทยาศาสตร์มาทั้งนั้น

    ตอบเจ้าของกระทู้ และคุณ Kobe
     
  16. Catwater

    Catwater บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อืมมม นั่นเป็นจุดบกพร่องจุดหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย

    ถ้าคุณบอกว่าพวกคนที่ไม่เชื่อศาสนาทำไมไม่ฟังคนเป็นร้อยเป็นพันที่เชื่อดูบ้าง แบบนี้มันจะเหมือนอ้างอำนาจอ่ะนะ คือดูเหมือนว่าคุณจะบอกว่าความเห็นของคนเป็นร้อยเป็นพันถูกกว่าความเห็นของคนๆเดียว ถ้าแบบนั้น คนที่ไม่เชื่อก็จะย้อนมาว่า ทำไมคุณถึงไม่ฟังความเห็นของคนที่ไม่เชื่อเป็นแสนเป็นล้านดูบ้างล่ะ แล้วแบบนี้จะเป็นยังไง ต่างคนต่างอ้างอำนาจกันไปๆมาๆ จะทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการสะสมอำนาจ นั่งคือคุณก็จะต้องไปหาพรรคพวกมาอีกเป็นสิบล้านร้อยล้านเพื่อให้มีพลังในการต่อรอง ซึ่ง ทั้งหมดทั้งมวลนี้อยู่ภายใต้ฐานความคิดที่ว่า เสียงของคนส่วนมากย่อมถูกต้อง ( ไม่ใช่ว่าหลักการที่กล่าวถูกต้อง หรือมีเหตุผลหลักฐานยืนยัน ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย )

    แต่ถ้าเราเลือกปฏิบัติตามหลักการ หรือความต้องการของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดแล้วล่ะก็ ถ้าหากว่าไอ่กลุ่มเสียงข้างมากน่ะมันเหี้ยยยยยยยยยยยย หมดทุกตัวเลยล่ะ ก็จะทำให้หลักการหรือความต้องการของคนกลุ่มใหญ่เป็นหลักการที่เหี้ย เมื่อเราเลือกที่จะปฏิบัติตามหลักการของเสียงข้างมาก เราก็จะเลือกปฏิบัติตามหลักการเหี้ยๆ โดยที่ไม่สนใจว่ามันถูกหรือมันผิด ใครจะเป็นจะตายยังไงก็ช่าง แค่เรามีพวกพ้องหรือความสนับสนุนที่ทรงพลัง ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้วทำเรื่องเหี้ยๆแล้วใครจะเป็นยังไงก็ไม่สนใจ
     
  17. คนต่าง

    คนต่าง บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ถ้างั้นก็เอาประเด็นมาว่ากันเลยว่าตรงไหนมันงมงาย และอย่างไรถึงจะไม่งมงาย

    การกล่าวลอยๆ มันก็พูดกันไปพูดกันมา เป็นการกล่าวหากัน

    การที่บอกให้ฟังความคิดเห็นคนอื่นๆ เพราะเห็นไปอ้าง ไปเชื่อ ความคิดบุคคลเพียงคนเดียว แสดงว่ายังมีแต่ความเชื่อ ทางที่ดีต้องศึกษามาแล้วเอาประเด็นมาถกดู ไม่จำเเป็นต้องไปอ้างใคร

    ขอให้ลงในประเด็นไปเลยว่าอะไรบ้างที่เห็นว่างมงาย และทำอย่างไรจะไม่งมงาย
     
  18. Heapman

    Heapman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +24
    คนที่บอกว่างมงายนี่เคยปฎิบัติธรรมจริงๆ มั้ยครับ
    ถ้าคุณไม่เคย คุณเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้วนะ

    เพราะคนที่ปฎิบัติธรรมเนี่ย เค้าก็เคยใช้ชีวิตทางโลกเหมือนๆ กับคุณ
    และเค้าก็ศึกษาปฎิบัติธรรม และได้นำมาเปรียบเทียบว่าทางไหนดีกว่ากัน

    แต่คุณ ถ้าคุณไม่เคยปฎิบัติธรรม คุณจะเอาอะไรมาเปรียบเทียบหล่ะครับ
    ว่าด้านไหนเป็นทางที่ถูก ที่ควร

    หรือหากคุณเคยปฏิบัติธรรมจริง
    คุณทราบหรือไม่ว่า แค่การรักษาศีลแค่ 5 ข้อเนี่ย
    (น้อยกว่าชื่อหนังที่คุณจำได้ซะอีก)
    เป็นการรักษาความเป็นมนุษย์ ไม่ให้ตกลงสู่ที่ต่ำ ไม่ให้เป็นคนเลว

    ผมว่าผมกลัวคุณจะเป็นบาปตรงที่ดูถูกคนอื่นโดยไม่ใช้เหตุผลนะครับ
    แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณรู้เยอะ เข้าใจถูกต้อง และต้องการจะบอกว่าคนหลายๆ คน งมงายเนี่ย
    คนอื่นๆ ก็คงไม่ว่าคุณหรอก เพราะบัวมีหลายระดับ จริงๆ ด้วย
     
  19. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    <EMBED src="http://www.suttaworld.org/scripture/kgin/kgin12/kgin12.swf" loop=false menu=false quality=high bgcolor=#FEFEDA WIDTH=710 HEIGHT=484 TYPE="application/x-shockwave-flash" PLUGINSPAGE="http://www.macromedia.com/shockwave/download/index.cgi?P1_Prod_Version=ShockwaveFlash"></EMBED>
     
  20. tha99

    tha99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +66
    ไปหาหลักฐานเอาเอง ไอ้พวกทำตัวเหมือนเด็กวิทย์

    เราเด็ก Computer Science ... เราไม่เคยเชื่อเรื่องนี้หรอก แต่แม่เรานี่ดิ ชอบเข้าวัดมากๆๆๆ มีวันนึง เราเลยอยากรู้ว่ามันมีจริงรึเปล่า เราก็เลยต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง

    บางสิ่งบางอย่างจะให้คนอื่นเค้าหาหลักฐานมาให้ดู มันเป็นไปไม่ได้หรอก นายต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง ถ้าไม่มีปัญญาทำก็เงียบๆไป

    ถ้าไปบอกกับคนที่ไม่เชื่อ ไม่เคยทำ ไม่เคยเห็น ก็หาว่าบ้าอีกอ่ะ

    ตามหลักวิทยาศาสตร์ มันต้องหาหลักฐานใช่มะ เราหาเจอแล้วในบางอย่าง .... ถ้านายอยากรู้ว่ามันดักดาน หรือ งมงาย นายก็ต้องพิสูจน์ก่อนดิ

    นายพิมมาเหมือนจะเป็นเด็กวิทย์เต็มที่นะ แต่ผิดเต็มประตู ทำอะไรโดยไม่หาหลักฐานให้ดี อ่อนวะ

    ถ้าจะว่าคนไทยงมงายนะ ไปดูไป ขนาด USA มันยังต้องให้คนมีพลังจิตไปหาคนที่ถูกลักพาตัวไปเลย ตอนสงครามโลกอ่ะ

    ป.ล. อย่ามาอวดโง่แถวนี้ ไม่ชอบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...