งานวิจัย:ความสำคัญของ "การมีสติ" ในการเล่น social media

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย peerayuth, 22 เมษายน 2015.

  1. peerayuth

    peerayuth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,003
    เล่น social media อย่างมีสติช่วยลดปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

    โดย ดร.พีรยุทธ เจริญสุขมงคล
    วิทยาลัยนานาชาติ
    สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

    [​IMG]

    ในปัจจุบัน social media เช่น Facebook, LINE, Twitter และ Instagram นับว่าได้เข้ามามีส่วนสำคัญกับชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีทางอินเตอร์เน็ตที่เลิศล้ำนี้จะช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารและเชื่อมโยงกันได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พฤติกรรมของผู้คนในสังคมยุคดิจิตอลเกี่ยวกับการใช้ social media ในปัจจุบันนี้กลับได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเกี่ยวกับการเสพติดการใช้ social media ที่ก่อให้เกิด “สังคมก้มหน้า” ซึ่งป็นภัยเงียบร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคมและครอบครัว เนื่องจากทำให้คนสมัยนี้เริ่มมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกันลดน้อยลง ในสังคมไทยปัจจุบัน ปัญหานี้ดูเหมือนกับว่าจะไม่ได้ตกอยู่กับวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว แม้แต่ผู้ใหญ่เองก็เริ่มมีพฤติกรรมการเสพติด social media และถูกกลืนกินเข้าสู่วัฒนธรรมสังคมก้มหน้าเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทุกวันนี้ภาพที่คนในครอบครัวนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน แต่พ่อแม่ลูกกลับก้มหน้าสนใจอยู่กับแต่มือถือและคอมพ์พิวเตอร์แท็ปเล็ตของตัวเองแทนที่จะพูดคุยสนทนากันนั้น ก็นับว่าเป็นสิ่งที่เริ่มปรากฏให้พบเห็นมากขึ้นในสังคม

    ในงานวิจัยนี้ทางผู้เขียนได้เน้นศึกษาถึงลักษณะเฉพาะตัวของบุคคลที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ social media ว่าลักษณะเฉพาะตัวนี้จะส่งผลให้การใช้ social media ของคนๆนั้นก่อให้เกิดประโยชน์หรือโทษกับตนหรือไม่อย่างไร ลักษณะเฉพาะตัวของบุคคลที่ผู้เขียนให้ความสนใจในที่นี้คือความสามารถในการมี “สติ” รู้เนื้อรู้ตัวในสิ่งที่กำลังทำอยู่

    คำว่า “สติ” ที่กล่าวนี้ก็คงไม่ต่างอะไรจากคำว่าสติในหลักของพระพุทธศาสนา การมีสตินั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของคนเรา เพราะการมีสติจะช่วยให้เรามีการยับยั้งชั่งใจและคิดไตร่ตรองในเรื่องต่างๆที่เรากำลังกระทำหรือกำลังคิดจะกระทำในอนาคต ซึ่งการมีสตินั้นคนเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับชีวิตประจำวันได้ในหลายๆเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งในระหว่างการเล่น social media

    หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าการมีสติมันเกี่ยวอะไรกับการใช้ social media แต่ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่าสติที่ผู้เขียนกล่าวถึงในที่นี้คือการมีสติรู้ตัวในพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ของตัวเองในเรื่องทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน เช่นเมื่อเวลาทำอะไรซักอย่างอยู่เราก็รู้ตัวว่ากำลังทำสิ่งนั้นโดยไม่ปล่อยให้เรามัวแต่ทำไปโดยไม่รู้ตัว การมีสติในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยให้เรารู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่แล้ว ยังช่วยให้เราไม่ไปหลงยึดติดกับบางสิ่งบางอย่างที่เราพอใจหรือไม่พอใจจากสิ่งที่เรากำลังกระทำด้วย และด้วยความสำคัญของสติในแง่นี้เอง การที่เรามีสติรู้ตัวเวลาเล่น social media ก็จะช่วยทำให้เราเกิดความตระหนักถึงขอบเขตและจุดประสงค์ในการเล่นโดยไม่ไปยึดติดกับความรู้สึกเพลิดเพลินที่ตัวเองได้รับในขณะเล่น social media ซึ่งการคอยมีสติรู้ตัวในระหว่างการเล่น social media นี้เองจะเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนให้เราได้ตระหนักถึงผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาหากเราปล่อยให้การเล่น social media เข้ามามีอิทธิพลมากเกินไปจนทำให้ชีวิตส่วนตัวและความสัมพันธ์ที่เรามีกับผู้อื่นถูกกระทบได้

    [​IMG]

    ในปัจจุบันมีหลายคนทีเดียวที่สามารถเล่น social media ได้อย่างเพลิดเพลินเป็นชั่วโมงๆโดยไม่สนใจผู้คนหรือสิ่งต่างๆรอบข้าง พฤติกรรมที่ว่านี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการ “การเล่น social media อย่างขาดสติ” สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือคนกลุ่มนี้มักถูกกลืนกินได้อย่างง่ายดายโดยความรู้สึกพอใจในประสบการณ์บนโลก social media ที่ตัวเองได้รับโดยไม่สนว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่จะเกิดผลเสียอะไรตามมา ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อได้พบได้เห็นในสิ่งที่ตัวเองไม่พอใจ เช่นเมื่อได้เห็นหรือได้รับข้อความอะไรจากเพื่อนหรือคนรู้จักใน social media ที่ขัดใจตัวเอง คนพวกนี้จะรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกับมันเป็นอย่างมาก และส่งผลให้ยิ่งเอาตัวเองไปผูกติดกับสิ่งนั้นมากขึ้นผ่านทางพฤติกรรมที่ไม่ดีที่แสดงออกบน social media ซึ่งการขาดสติในลักษณะนี้สามารถส่งผลเสียต่อพฤติกรรมก้าวร้าวที่ตามมา เช่นการด่าทอกันอย่างเสียๆหายๆบน social media จนกลายเป็นเรื่องราวฟ้องร้องกันใหญ่โต ซึ่งปัญหานี้เป็นสิ่งที่เรามักได้ยินได้ฟังกันบ่อยในข่าวที่มีการประโคมกันอยู่เรื่อยๆในสังคมปัจจุบัน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วพฤติกรรมไม่ดีที่เกิดจากการเล่น social media อย่างขาดสติเหล่านี้ก็จะส่งผลเสียทำให้ความสัมพันธ์ของคนที่ติดต่อกันทาง social media หรือคนรอบข้างต้องมัวหมองไปในที่สุด

    สิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับความสำคัญของการมีสติที่มีต่อการเล่น social media นั้นมีความสอดคล้องกับผลวิเคราะห์ทางสถิติที่ได้ เมื่อศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ social media ในที่ทำงานกับปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลโดยเอาการมีสติเข้ามาเป็นตัวแปรกำกับจะเห็นชัดได้ว่า กลุ่มพนักงานที่โดยพื้นฐานเป็นคนมีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ในระดับที่ดีอยู่แล้วเป็นกลุ่มที่สามารถลดปัญหาด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่นในที่ทำงานได้จากการใช้ social media ในทางตรงกันข้าม กลุ่มพนักงานที่โดยพื้นฐานเป็นคนมีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ในระดับที่ต่ำกลับแสดงให้เห็นว่าการใช้ social media ในที่ทำงานในระดับที่มากขึ้นกลับทำให้ปัญหาด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่นในที่ทำงานยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย ความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในผลลัพธ์ที่ตามมาจากการเล่น social media ของพนักงานทั้งสองกลุ่มนี้จึงเป็นหลักฐานบ่งชี้ได้ดีเกี่ยวกับความสำคัญของการมีสติในการเล่น social media ซึ่งการมีสตินี้เองสามารถเป็นตัวกำหนดได้ว่าการใช้ social media ของคนๆนั้นจะมีแนวโน้มช่วยลดหรือยิ่งเพิ่มปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่จะเป็นผลพวงตามมา

    [​IMG]

    โดยภาพรวมแล้วผลจากงานวิจัยเกี่ยวกับอิทธิพลของการใช้ social media ที่มีต่อปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ได้อธิบายมาทั้งหมดสามารถนำมาสรุปได้ว่า การที่คนในสังคมบางส่วนโจมตีว่า social media เป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแย่ลงนั้นก็อาจจะเป็นเหมือนการมองเหรียญแค่ด้านเดียว แท้จริงแล้วอาจไม่ใช่ social media ที่เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ดังที่ถูกกล่าวหา แต่สิ่งที่เป็นต้นตอของปัญหาความสัมพันธ์ที่แท้จริงแล้วคือพฤติกรรมของคนที่ใช้ social media ที่ใช้กันอย่างไม่ถูกต้องนั่นเอง จะเห็นได้ว่าในกลุ่มคนที่เล่น social media ในปริมาณที่พอควรและมีสติคอยกำกับพฤติกรรมตัวเองเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ social media ในด้านการลดปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น เพราะคนกลุ่มนี้จะรู้ตัวว่าอะไรคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเล่น social media และจะไม่เล่น social media จนเลยเถิดจนก่อให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ที่แย่ลงตามมา ซึ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับกลุ่มที่เล่น social media ในปริมาณที่มากและขาดสติควบคุมพฤติกรรม ซึ่งคนกลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มสูงที่จะประสบกับปัญหาความสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้นในท้ายที่สุด


    หมายเหตุ: งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการ Journal of health psychology ซึ่งเป็นหนึ่งในวารสารวิชาการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

    อ้างอิง

    Charoensukmongkol, P. (2015), Mindful Facebooking: The moderating role of mindfulness on the relationship between social media use intensity at work and burnout, Journal of health psychology, doi: 10.1177/1359105315569096

    http://hpq.sagepub.com/content/early/2015/02/12/1359105315569096.abstract
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...