จริงหรือไม่ที่ผู้ปรารถนาพุทธภูมิต้องเล็งญาณเกิด(กรณีมาจากเทวดา)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Tanakorn, 21 มีนาคม 2016.

  1. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    จริงหรือไม่ที่ผู้ปรารถนาพุทธภูมิต้องเล็งญาณเกิด(กรณีมาจากเทวดา มาเกิดเป็นมนุษย์)

    เคยมีพระบอกว่า พวกนี้เล็งญาณเกิด ถ้าไม่สำเร็จตามความมุ่งหมายในการสร้างบารมีในชาตินั้น ๆ ก็จะไม่ลงมาเกิด

    จริงแท้ประการใด ขอผู้รู้โปรดชี้แจงแถลงไข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มีนาคม 2016
  2. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    อย่างนี้แสดงว่าเลือกเกิดได้ แต่ถ้าไปเกิดที่ดีๆ สบายๆ อย่างเกิดเป็นลูกคหบดี เศรษฐี คงได้สร้างบารมีไปอีกแบบ ? หรือเกิดเป็นลูกคนฐานะจน-ปานกลาง จะได้สร้างบารมีมากกว่า

    ส่วนผมเองคิดว่า เกิดที่ไหน ฐานะอะไร ไม่สำคัญ น่าจะแล้วแต่ว่าชาตินั้นๆ ต้องการจะสั่งสมบารมีด้านไหน ประเด็นนี้ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ
     
  3. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    เมื่อก่อนไม่รู้เพราะจำไม่ได้ ..
    แต่ตอนนี้เล็งล่วงหน้าไปแล้ว และการเล็งล่วงหน้าจะยิ่งมีหวังมากขึ้นเมื่อ
    ทำบุญอธิษฐานย้ำแนวทางที่เล็งเอาไว้ เข้าไปอีก .. พร้อมกับอาราธนาเทพพรหม
    เพราะว่าท่านยังมีอายุยืนนานเป็นกัปป์ แม้เราจะเกิดใหม่ พระพรหมบางองค์ท่านก็ยังอยู่เลย
     
  4. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +792
    จริงแท้และแน่นอน

    แต่อย่าเข้าใจผิดว่า เลือกเกิดได้ดั่งใจปรารถนา

    การที่เล็งญาณก็เพราะว่า โพธิสัตว์และพุทธภูมิ เมื่ออยู่ในภาวะที่ระลึกได้ว่า ตนปรารถนาโพธิญาณ หรือตนเป็นโพธิสัตว์ การเกิดด้วยตัณหาอื่นหรือจุดประสงค์อื่นจะไม่มี เพราะทราบว่า นิพพานเป็นที่หมายเดียวของตน และตนปรารถนาให้สรรพสัตว์ได้นิพพานนั้นด้วย การเกิดจึงเป็นไปเพื่อการสร้างบารมีอันนำไปสู่ความสำเร็จโพธิญาณและประโยชน์แก่ปวงสรรพสัตว์ที่พ้นจากทุกข์ภัยของสังสารวัฏ

    เมื่อจะเกิดจะตาย โพธิสัตว์จะมีสำนึกว่า ตนจักบำเพ็ญบารมี จักบำเพ็ญอย่างไร ไม่มีกิจใดที่จะทำนอกจากการบำเพ็ญบารมี

    แต่ต้องเข้าใจไว้ว่า การเล็งญาณเกิด โพธิสัตว์จะต้องรู้ชัดถึงวิบากกรรม และแนวทางการบำเพ็ญ หากวิบากกรรมมีมาก จะปกิเสธวิบากกรรมนั้นเป็นไปไม่ได้ดังนั้น แนวทางการบำเพ็ญบารมีก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาพที่จำกัดและถูกบังคับโดยวิบากกรรม บางทีต้องอาศัยการบำเพ็ญที่เรียกว่ากระเสือกกระสนไป

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--> [FONT=&quot]การ[/FONT][FONT=&quot]เล็งญาณ[/FONT] [FONT=&quot]ความจริงไม่ต้องเป็นพุทธภูมิหรือพระโพธิสัตว์[/FONT] [FONT=&quot]เทวดาทั่วไปถ้ามีสติ[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ประมาท[/FONT] [FONT=&quot]มีอภิญญา ๕[/FONT] [FONT=&quot]อยู่แล้ว[/FONT] [FONT=&quot]แสดงฤทธิ์ได้[/FONT] [FONT=&quot]หูทิพย์[/FONT] [FONT=&quot]ตาทิพย์[/FONT] [FONT=&quot]รู้ใจคนอื่น[/FONT] [FONT=&quot]และระลึกชาติได้[/FONT] ([FONT=&quot]รู้อนาคตได้พอประมาณด้วย)[/FONT] [FONT=&quot]การเล็งญาณว่าจะเกิดมาเป็นคนเพื่อบำเพ็ญกุศลกลับมาเป็นเทวดาเช่นเดิม[/FONT] [FONT=&quot]โดยลงมาเกิดก่อนหมดบุญกุศล[/FONT] [FONT=&quot]ก็สามารถทำได้[/FONT] [FONT=&quot][/FONT]

    [FONT=&quot]แต่ว่า เอา[/FONT][FONT=&quot]เข้าจริงๆ[/FONT] [FONT=&quot]ทั้งเทวดาและโพธิสัตว์มีน้อยนักที่จะเลือกเกิดและกำหนดแนวทางการบำเพ็ญไว้ล่วงหน้าได้ตามใจหวัง[/FONT] [FONT=&quot]เพราะการจะเกิดไม่ได้ดูที่ความหวังหรือตามใจของเทวดาหรือโพธิสัตว์นั้น[/FONT] [FONT=&quot]แต่ว่าการเลือกที่จะเกิด[/FONT] [FONT=&quot]ต้องอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าไม่เตรียมเหตุปัจจัยมาก่อน[/FONT] [FONT=&quot][/FONT]

    [FONT=&quot]การเล็งญาณเลือกเกิดของพระโพธิสัตว์[/FONT] [FONT=&quot]จึงอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม[/FONT]และบารมีที่สะสมมาด้วย

    [FONT=&quot]อุปมา[/FONT] [FONT=&quot]คนเราไม่ทำผิดศีล[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ผิดกฎหมาย[/FONT] [FONT=&quot]สามารถจะไปไหนก็ได้[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ถูกกักขัง[/FONT] [FONT=&quot]คุมขัง[/FONT] [FONT=&quot]กักบริเวณ[/FONT] [FONT=&quot]หรือถูกห้ามไปต่างประเทศ[/FONT] [FONT=&quot]แต่การจะมีอิสระไปไหน ทำอะไร[/FONT] [FONT=&quot]ยังจะต้องมีปัจจัยอื่นที่เหมาะสมมาประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่ากำลังทรัพย์และกำลังกายด้วย[/FONT] [FONT=&quot]จะต้องมีบุคคลอื่นคอยช่วย[/FONT] [FONT=&quot]เช่น[/FONT] [FONT=&quot]จะไปญี่ปุ่น[/FONT] [FONT=&quot]ก็ต้องไปนั่งเครืองบิน[/FONT] [FONT=&quot]มีคนขับกัปตันเรือ[/FONT] [FONT=&quot]จะเช่าโรงแรมที่พัก[/FONT] [FONT=&quot]ก็ต้องใช้บริการเนท[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าคุยกับชาวต่างชาติไม่รู้เรื่องก็ต้องใช้ล่าม[/FONT]

    [FONT=&quot]เพียงเป็นผู้ปรารถนาพุทธภูมิและปรารถนาเป็นพระ[/FONT] [FONT=&quot]โพธิสัตว์[/FONT] [FONT=&quot]ไม่อาจเลือกเกิดได้ตามใจตน[/FONT] [FONT=&quot]ต้องพิจารณาองค์ประกอบของการบำเพ็ญบารมีด้วย[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าสะสมบารมีและพุทธเกตร(สร้างสาวกและเวเนยสัตว์ กรรมตกแต่งยุคและกาลอันเหมาะสมแก่การโปรดสรรพสัตว์)ไม่เพียงพอ[/FONT] [FONT=&quot]การเลือกเกิดก็จะจำกัดไปด้วย[/FONT]

    การจะเรียกว่า เล็งญาณเกิด จะกล่าวได้ต่อเมื่อ นอกจากจะมีโพธิจิต ระลึกได้ว่าตนเป็นโพธิสัตวฺแล้ว ยังสามารถพิจารณา อินทรีย์ ๕ พละ ๕ ว่าอยู่ในฐานะจะบำเพ็ญบารมีข้อใดได้ ภายใต้วิบากกรรมใดและยุคสมัยใด ที่จิตจะต้องถูกลากไปก่อร่างสร้างตัวตน ที่บางที กว่าจะระลึกชาติได้ในชาติใหม่ อาจไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ การเล็งญาณ ไม่ใช่การเลือกเกิด ตามใจชอบ ตามอำเภอใจแต่อย่างใด


    การเกิดโดยไม่พิจารณากำลังอินทรีย์ ๕ พละ ๕ ของตน ไม่สนใจวิบากกรรมที่จะรับ เมื่อเกิดมาแล้วจิตถูกวิบากกรรมลากไป อาจหลงทางได้ เสียเวลาได้ บางทีทำผิดพลาดถึงขั้นตกนรก มันก้เสียหายต่อการบำเพ็ญบารมีที่ผ่านมา


    ราชาใดสะสมราชานุภาพไม่เพียงพอ ก็ไม่อาจเรียกมหาราชา หรือจักรพรรดิ์ได้ โพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีตกๆ หล่นๆ บารมีที่ผ่านมาก็เหมือนถูกลืมหรือหายไป ยังไม่มีประโยชน์ แต่เมื่อสะสมถึงจุด ก็จะเรียกว่า โพธิสัตว์ ควรแก่การเข้าสู่แดนดุสิต หากโพธิจิตไม่ถึง ก็เวียนไปที่อื่นก่อน หากบำเพ็ญต่อเนื่องจนถึงจุดหนึ่ง ก็จะเรียกกันได้ว่า มหาโพธิสัตว์


    การเล็งญาณเกิด จึงทำต่อเนื่องในพระโพธิสัตว์ที่บารมีแกร่งกล้า กล่าวว่าเป็นฐานะของมหาโพธิสัตว์ แม้ว่าความจริงโพธิสัตว์ทั่วไป ก็เล็งญาณเช่นกัน แต่ด้วยบารมีที่น้อย วิบากกรรมมากกว่า ทำให้เล็งญาณไม่ต่อเนื่อง หรือเล็งญาณต่อเนื่องแต่หลงลืมแนวทางเพราะอินทรีย์ ๕ พละ ๕ สะสมไม่พอ ทำให้หลุดอยู่บ่อยๆ ก็ต้องตะกายขึ้นจากขุมนรกมาทำใหม่ (สำนวนเปรียบเปรย)


    การจะเข้าถึงความสามารถในการเล็งญาณเกิด อยู่ที่การฝึกฝนจิตให้ประกอบด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ให้เนื่องๆ เพราะจะลดทอนวิบากกรรมฝ่ายอกุศลลงไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ขัดขวางต่อการบำเพ็ญบารมี



    ไม่ว่าชาติใด จะเป็นฤาษี นักพรต นักบวช หรือไม่ก็ตาม
    สามารถสงบระงับนิวรณ์ ๕ และอุปกิเลส ๑๖ ได้ หมั่นเข้าฌาณและออกจากฌาณ แต่ไม่ติดฌาณ พิจารณาเห็นพระไตรลักษณ์สม่ำเสมอ ทำอาจิณกรรมฝ่ายดีมากๆ ไม่ทำอนันตริยกรรมหรือบาปอกุศลกรรมหนักอื่นๆ เลย มองภายในจิตตนแล้วพิจารณาพละและอินทรีย์ พิจารณาสภาพการณ์ที่แวดล้อมแล้ว บำเพ็ญบารมี ก็จักไม่หลงทางไปกับกิเลส ตัณหา(ด้านอื่นที่ตรงข้ามกับโพธิญาณ)



    การจะบำเพ็ญบารมีข้อใดจึงไม่ใช่ความต้องการล้วน ไม่ใช่ทำได้อิสระตามใจปรารถนา แต่ขึ้นอยู่กับสรรพสัตว์ และการที่โพธิสัตว์จะก่อร่างสร้างสาวกและบริวาร และอาณาพุทธเกษตรของตน

    เกิดที่ไหน ฐานะอะไร เป็นเรื่องหลักๆ ของโพธิสัตว์ การที่ไม่ไปเกิดจักรวาลอื่น ก็เพราะต้องอบรมจิตของสรรพสัตว์ในจักรวาลเดียวเท่านั้น แคบลงมา ต้องดูว่า จะโปรดใคร ที่อยู่ในข่ายที่ตนจะโปรด เพราะไม่ใช่ว่า โพธิสัตว์สามารถโปรดใครได้หมด (เช่น ในยุคหนึ่งๆ อาจมีสาวกและบริวารของพระโพธิสัตว์อื่นลงมาเกิด เป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ๆ เราจะเกิดท่ามกลางพวกเค้า แล้วจะไปแย่งซีนองค์ของเค้าคงไม่ได้ เหมือนพญามารจะบอกว่า ท่านทั้งหลายอย่าฟังธรรมของพระพุทธเจ้า พญามารก็ห้ามไม่ได้แล้ว)



    จึงต้องพิจารณาครับว่า โพธิสัตว์ ไม่ได้มุ่งบารมีสามสิบทัศน์อย่างเดียว ที่เป็นหลัก ยังต้องสร้างพุทธเกษตร(เปรียบเปรย) ขึ้นมาด้วย ดังนั้น ไม่ใช่ว่า จะเกิดเป็นอะไรก็ได้ ฐานะอะไรก็ได้ เพราะถูกจำกัดโดยวิบากกรรม และแนวทางการสร้างพุทธเกษตร







    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0in 5.4pt 0in 5.4pt; mso-para-margin:0in; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
     
  5. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ขออนุโมทนาในท่านผู้รู้ที่ให้ความกระจ่างในธรรม

    "...แต่ต้องเข้าใจไว้ว่า การเล็งญาณเกิด โพธิสัตว์จะต้องรู้ชัดถึงวิบากกรรม และแนวทางการบำเพ็ญ หากวิบากกรรมมีมาก จะปกิเสธวิบากกรรมนั้นเป็นไปไม่ได้ดังนั้น แนวทางการบำเพ็ญบารมีก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาพที่จำกัดและถูกบังคับโดยวิบากกรรม บางทีต้องอาศัยการบำเพ็ญที่เรียกว่ากระเสือกกระสนไป..."

    ที่ท่าน ณฉัตร กล่าว มันใช่เลย
     
  6. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ท่าน ณฉัตร ท่านได้ชื่อของตน(นามพระโพธิสัตว์ของท่านนะครับ)?
     

แชร์หน้านี้

Loading...