จะทำอย่างไรดี หรือว่ากำลังมีมารผจญ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย KRIDROCKER, 27 มิถุนายน 2012.

  1. KRIDROCKER

    KRIDROCKER Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +95
    ช่วงนี้นั่งสมาธิ จิตมันไปในหลายๆ เรื่อง เช่น ถ้าไปเรื่องกาม จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างไปทุกสัดส่วน ถ้าไปเรื่องการปฏิบัติ จะปฏิบัติไปทำไม ไม่เห็นค่อยก้าวหน้าเลย ทนนั่งทำไม เมื่อยปล่าวๆ นอนเอนหลังดีกว่า ทำยังไงดีครับ ช่วงนี้
     
  2. karag

    karag Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +41
    อารมภ์อยากปฎิบัติ ขอให้มีมากกว่าไม่อยากปฎิบัติน่ะครับ

    อนุโมนาสาธุครับ
     
  3. joyha

    joyha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +102
    ไม่ก้าวหน้าเหมือนกันค่ะ แต่ก็นั่งไปเรื่อยๆค่ะ ดีกว่าไม่ทำค่ะ
    สุ้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้คนทำดี
     
  4. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    พิจารณากามเลยครับ
    ดูไปให้ตลอดว่าสุดท้ายแล้วจบตรงไหน

    เหมือนกันทุกครั้งหรือไม่

    หรือมีครั้งใดที่จดจำไปจนลืมไม่ลงตลอดชีวิตย่อมไม่มีหรือไม่
    หากย้อนกลับไปดูอดีตหากหันไปมองอนาคตและการเป็นอยู่ในปัจจุบัน

    บางครั้งตลกหรือไม่ มายา
    เจอเรื่องไหนก่อนพิจารณาเรื่องนั้นก่อนในปัจจุบันดีกว่าหรือไม่
    หากไม่ถูกจริตเดี๋ยวก็เบื่ออีกหรือไม่

    ขอท่านเจริญในธรรมครับ
     
  5. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    ก็เเบบนี้เเละครับ นิวรณ์เล่นงานเเล้ว ถ้ายังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก ก็จะทั่งฟุ้ง คิดมาก ก็จะไม่ปฏิบัติไปสะดื้อๆเลยเพราะ สงสัยอยู่

    ก็พิจรณาว่าทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง เเม้เเต่ร่างกายของเรา
    คนเรารู้วันเกิดนะ เเต่ไม่รู้วันตาย ไม่รู้ว่าตายเเล้ว ไปไหน ก็ปล่อยเวลาทิ้งกันไปเปล่าๆ
    เเทนที่จะฝึกมีสติ อยู่กับเสาหลักเสาเขื่อน เพื่อที่จะไม่ฟุ้งไปกับอารมที่มันเกิดดับ ตามภาษาของมัน ตลอดวันตลอดคืน การเกิดขึ้นของอารม ก็คือการเกิดขึ้นของภพใหม่
    สิ่งไหนไม่เที่ยงสิ้งนั่นเป็นทุกข์อยู่เเล้ว เป็นทุกข์ก็เป็นอนัตตา คือความดับ ''พระพุทธเจ้าตรัส ควรหรือหนอ ที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า เป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา'' ''เค้าสำคัญสิ่งใด โดยการเห็นประการใดเเต่สิ่งนั่นย่อมเป็นไปโดยประการอื่นจากที่เค้าสำคัญนั่น''
    ทุกอย่างในโลกมันก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่มีเราเป็นผู้สั่งได้หรอก
    ไม่อยากตาย มันก็จะตาย ไม่อยากหิว มันก็จะหิว
    เมื่อกี่โกรธ เดียวมันก็ดับไป ความสุขกลับมาอีก แปปเดียวก็สงบ ตลอดวันตลอดคืน วนอยู่เเบบนี้เเละ พอเรามีสติระลึกมันก็มีเเต่ตัวรู้ ที่ดูเเต่ความว่างเปล่า
    ที่เค้าให้สำรวมอินทรีย เพราะเมื่อ ผัสสายตนะ เกิดขึ้น (การประจวบของธรรม3ประการเรียกว่า ผัสสะ เกิด-ดับ) มีผัสสะเป็นจัยจึงเกิด นาม คือ เวทนา,สัญญา,สังขาร
    เช่น คนเราเมื่อกินอะไรอร่อยๆ ก็มีเพียง วิญญาณเข้าไป หาผัสสะทางลิ้น เข้าไปรับรู้รส เเล้ว เกิด-ดับ ไป เเต่ที่มันรู้สึกอร่อยจริงๆคือ มันวนกลับ มาหา นาม /คือ/เวทนา,สัญญา,สังขาร มีความรู้สึก ต่อไปก็ปรุงเเต่ง เท่านั่นเอง มันเป็นปัจจัยให้กัน
    ตัวผู้รู้ของเราไม่เวียนเลยจาก 4 ธรรมชาติ นี้ คือ รูป กับ นาม ไม่มีอะไรที่อร่อยทั่งนั่นมีเพียง วิญญาณเข้าไปรู้ ผัสสะทั่ง6 เป็นรูป กลับมา หา นาม เกิดดับตลอดวันตลอดคืน เท่านั่น.
    เมื่ออาหารอยู่ที่ลิ้นก็รู้สึกอร่อย เมื่อกลื่นลงคอก็หายอร่อยเเล้ว
    เมื่อกลับไปเห็นอาหารเกิดก็รู้สึกอยากกิน ก็เพราะผัสสะทางตา กลับมาหานาม เวทนา,สัญญา,สังขาร ยังทำอาหารนั้นได้ว่าอร่อย ก็เกิด จิต กิเลส ขึ้นมาคือ สมุทัย
    ก็อย่างพระสูตรที่ว่า
    ''ตาก็จะไม่ฉุดเอาภิกษุนั้นไปหารูปที่น่าพอใจ,
    รูปที่ไม่น่าพอใจก็ไม่เป็นสิ่งที่เธอรู้สึกอึดอัดขยะแขยง; ''

    เมื่อยังพอใจในรูป ไปยินดี จนเป็นนิสัย ไม่เคยฝึกอบรมให้มีสติ เเบบขาดสติเเละประมาท
    พอไปเจอรูปที่ไม่พอใจก็จะเป็นเเบบว่า อึดอัดขยะแขยง เเล้วก็จะเป็นคนขี้ตกใจ ขี้กลัวง่าย
    ก่อนตาย วิญญาณเกาะอารมไหนอยู่ อรรถภาพก็จะไปตามอารมนั้น เชยๆก็สวรรค์ หดหู่ก็นรก
    มีหลายพระสูตรเเต่เเค่นี้พอ คงเข้าใจนะ
     
  6. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    ''สัตว์โลกนี้เกิดความเดือดร้อนเเล้วโดนผัสสะบังหน้า''
    ''เค้ากลัวอะไรสิ่งนั่นเป็นทุกข์ เพลินอะไรอยู่ภัย''

    ที่มีบุคคลอื่นก็สมมุติกันขึ้นมา เพราะมี อวิชชา อุปทานขันธ์5 มีตัวตนเป็นปัจจัย จึงมีบุคคลอื่นๆ สมมุติกัน

    เเถมยังโดนผัสสะบังหน้าอีกนะ เห้ออ ก็เห็นๆว่า ''ตัวรู้ มันรู้ได้ทีละ1 อย่าง ''
    เพราะไม่เห็น เกิดดับไง วิชชา ยังไม่เกิด สติไม่เร็วพอเท่าทันการเกิดเท่านั่นเอง ก็เลยยังหลงอยู่นั่นเเละ ''พระสูตรที่ว่าการเกิดดับของโลก เเละการดับลงของโลกก็เพราะผัสสะ
    การบัญญัติ อะไร การทำอะไรๆก็อาศัยผัสสะ อาศัยสิ้งนี้เท่านั่นเเละ อาศัย วิญญาณ กับ นามรูป เกิดดับ นี้เเละ
    หรือการเกิดของกรรม ก็ เพราะ ผัสสะ''
    ฝึกไปอย่าเพิ่งเลิกละ พยายาม สำรวมอินทรีย ต้องกลับมาเข้าใจตัวเองก่อน เเล้วจะเข้าใจว่า ไม่มีอะไรเป็นของเราจริง พระพุทธเจ้าตรัส เมื่อรู้จิตตัวเองเเล้ว ก็จะเข้าไจจิตของผู้อื่นด้วย
    เป็นเหมือนกัน
    พยายาม ไม่ต้องสนใจใครจะเป็นจะตาย รู้อยู่กับตัวเองก็พอ ฝึกของเราคนเดียวนี้ละ ทั่งวันทั่งคืน เหมือนกับซ้อมธนู หรือ
    เหมือนกับจับสัตว์6ชนิด มาผูกรวมกันไว้ ตอนเเรกมันก็พยายามหนี ต่อไปเดียวมันก็หมดเเรงมานั่ง มานอน อยู่กับที่
    ปราโมทยก็เกิด ปิติเกิด ปัสสัทธิ สุข สมาธิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2012
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ฝืนมันบ่อยๆ กิเลสมันว่าอยากนอน เราก็ต้องฝืนมัน ทำบ่อยๆกิเลสมันจะลดกำลังลงเอง
     
  8. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    พยายามไปเรื่อยๆครับ อย่าหยุดครับ
    ไม่ต้องคาดหวังอะไรเลย เดี๋ยวจะก้าวหน้าเองครับ ยิ่งอยากมาก ยิ่งไม่ก้าวหน้า
     
  9. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ครับ ลองสำรวจดูก่อนนะครับ
    ว่า...ท่านเองสร้างฐานดีหรือยัง การทำสมาธิเป็นยอดนะครับ ถ้าเราทำฐานไม่ดีไม่มั่นคงยอดอาจจะหักได้นะครับ ลองอ่านดูนะครับ
    ทาน+ศีล = ฐาน
    สมาธิ = ยอด

    [FONT=&quot] [/FONT]ศีลเป็นกำลังอย่างไม่มีที่เปรียบ, ศีลเป็นอาวุธอันสูงสุด, ศีลเป็นเครื่องประดับอันประเสริฐ, ศีลเป็นเกราะอันอัศจรรย์, ศีลเป็นคุณ รวมกำลังเป็นเลิศ, ศีลเป็นเสบียงเดินทางอย่างสูงสุด, ศีลเป็นผู้นำทางอย่างประเสริฐ, ศีลเป็นเครื่องขจรไปทั่วทุกทิศ, ศีลเท่านั้นที่เป็นเลิศในโลก, ส่วนผู้มีปัญญาย่อมเป็นผู้มีศีล, ศีลเป็นผู้ชนะในหมู่มนุษย์และเทวดา เพราะศีลและปัญญาเป็นธรรมคู่กัน, ศีลเป็นรากฐานของการบำเพ็ญเพียรภาวนา - การภาวนาถ้าไม่มีฐาน คือ ไม่มีศีลรองรับ ก็ยากที่จะสำเร็จได้ หรือไม่มีทางสำเร็จ
    - ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
    - ศีลเป็นประมุขของธรรมทั่วไป จึงควรพากันชำระศีลให้บริสุทธิ์
    - ศีลเปรียบเสมือนรากแก้วของต้นไม้
    - ศีลเป็นคุณสมบัติของพระและฆราวาส คนจะเป็นพระได้อยู่ที่ศีล ฆราวาส ก็เช่น พระโยคาวจรและพระโสดาบัน เป็นต้น
    - ศีลรักษาง่าย ถ้าผู้นั้นเห็นโทษของการทำบาปจริง ๆ (คือเห็นและเข้าใจเรื่องกฎของกรรม)
    - ศีลเป็นเครื่องวัดความดีของหมู่สัตว์
    - ศีลเป็นทรัพย์อันประเสริฐ-ไม่อด-ไม่จน-มีอริยทรัพย์
    - ศีลส่งเสริมความดีให้กับผู้รักษาตั้งแต่ต้นจนอวสาน สร้างคนให้เป็นพระ
    - ศีลสร้างพระธรรมดา ให้เป็นพระอริยเจ้า และพาส่งให้เข้าถึงพระนิพพาน
    - ใครมีศีล เท่ากับพกพระไว้กับตัว ไปไหนก็มีพระไปด้วย มีวัตร (วัด) ไปกับตัว เป็นมงคล เป็นของประเสริฐ
    - เมตตาเป็นอาหารของศีล ผู้ใดเจริญเมตตา ศีลไม่มีขาด
    - ศีลนำไปสู่ความมีหิริ โอตตัปปะ


     
  10. KRIDROCKER

    KRIDROCKER Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +95
    อนุโมทนา สาธุ กับคำตอบของทุกท่าน ขอให้เจริญในธรรมยิ่งขึ้นครับ
     
  11. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ตัวเราเองก็เพิ่งผ่านเหตุนี้มาเมื่อไม่นานค่ะ ติดขัดจนท้อใจ ขอให้มีความพยายามนะค่ะ ไม่ต้องตั้งใจมาก ทำใจเบา ๆ ประคองไปเรื่อย ๆ จับแต่ลม หรือคำภาวนา ทำสมาธิให้เหมือนการพักผ่อนค่ะ แล้วมารก็จะเผลอ แล้วค่อยมาเริ่มปฏิบัติในทางของ จข.กท.ใหม่นะค่ะ อนุโมทนาค่ะ ^ ^
     
  12. sarutha

    sarutha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +180
    ขอให้มีกำลังใจในการปฎิบัติครับ ถ้าไปแล้วตันๆๆ ก็หยุดซักวันสองวันครับ กิเลสพวกนี้มันเป็นของคู่กันกับนักปฎิบัติ ขอให้คิดอยู่กับปัจจุบัน ณ.ตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่นั่งปฎิบัติธรรมอยู่ใช่ไหม หรืออะไร
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไปครับ
     
  13. hydraxis

    hydraxis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +529
    ความรู้สึกผม ณ ตอนนี้ อยากให้ทุกท่าน เน้นไปที่ความเมตตา ให้มากๆด้วย นะครับ เพราะบางท่าน ก็ปฏิบัติ แต่ ด้าน ธรรมมะ กับตัวเองแต่ อาจจะห่างกับคำว่าเมตตา ไปไม่มากก็น้อย
    สิ่งเล็กๆน้อยๆสำหรับคนหนึ่ง อาจจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กับอีกคน
     
  14. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    อย่าท้อเน้อ จะแนะนำก็ไม่ได้เพราะติดอยู่เช่นกัน เป็นกำลังใจให้นะครับ
     
  15. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    จงตัดเรื่องมารซะเถอะ เพราะว่าจะทำให้เราเป็นคนเลวได้

    ทำอะไรผิดพลาดหรือมีอุปสรรคอะไรก็แล้วแต่

    จงดูตัวเองจงเห็นโทษตนเองว่ามีข้อผิดพลาดอะไรไหม

    ปฏิบัติไม่ถึงอย่าโทษมาร จะเหมือน สิบหมื่นสวาท

    เดี๋ยวงานจะเข้า เหมือนกินเหล้าเมาแล้วเกิดปัญหากับชีวิตดัีนไปโทษเหล้าซะงั้น

    อย่านะอย่าๆ
     
  16. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +215
    นิวรณ์ 5 นี่มันเล่นงานผู้ฝึกตนทุกคนครับ ไม่เว้นทั้งหัวหงอกหัวดำ ต้องใช้ธรรมแก้ทีละตัวๆไป
    เอาตัวใหญ่ๆที่สร้างปัญหาให้เราก่อนครับ ต้องออกแรงสู้กับมันครับอย่าท้อใจไปเลย
    คิดซะว่าเป็นบททดสอบจากเบื้องบน เมื่อเราผ่านไปได้เราจะได้รางวัลครับ

    ลองดูลิงค์ข้างล่างนะครับ มีวิธีแก้อยู่
    นิวรณ์ - วิกิพีเดีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2012
  17. deardolly

    deardolly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +178
    http://palungjit.org/threads/สัมมาสมาธิ-พระโพธิญาณเถร-หลวงพ่อชา-สุภัทโท.346208/

    ขออนุญาติวางลิงค์นะครับ หลวงปู่ชาท่านสอนไว้นะครับ

    ลองอ่านดูนะครับ...เผื่อจะสะบายใจขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...