จะรู้ได้ยังไว่ ได้กสิณกอง นั้นๆ แล้ว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย choosake, 10 มีนาคม 2008.

  1. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    สวัสดีครับ ผม ฝึก กสิณ น้ำ (อาโป) มาได้ เกือบ 1 เดือน เฉพาะตอนเช้าก่อนไปทำงาน ครับ เสาร์ - อาทิตย์ มีเวลา ก็ เอา CD หลวงพ่อ มา สมาทานกรรมฐาน แล้วค่อยฝึก แต่ไม่รู้ว่า จะทราบได้อย่างไรว่า ได้กสิณกองนี้หรือยัง จะได้ เปลี่ยน กอง เพราะ หลวงพ่อสอนไว้(อ่านมาครับ) ต้องฝึกให้ได้จริง ๆ สะก่อน ค่อยเปลี่ยน ไม่งั่นจะไม่ได้เรื่องครับ สรุป อยากจะทราบว่า จะรู้ได้ยังไง ว่าได้ กสิณกองนั้นแล้ว และอีกคำถาม ถ้าอยู่ในอารมณ์ ญาณ แล้ว พิจารณา ตาม อารมณ์ที่เกิด หรือ ขันธ์ 5 นี้ เรียนกว่า วิปัสนา ใช้ไหมครับ ขอบคุณ
     
  2. golf135

    golf135 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +652
    ลองอธิษฐานใช้ฤทธิ์ดูคับ หรือว่าเราต้องเข้าฌาณออกฌาณให้คล่องแบบว่านึกปั๊บก็เข้าได้เลยอ่ะคับ ลองเล่นดู เข้า ฌาณ 1 2 3 4 ถอย 4 2 3 1 และสลับ 2 1 3 4 หรือสลับยังไงก็ได้คับ ถ้าทำได้คล่องก็ได้กสินกองนั้นแล้วคับ แต่อย่าลืมลองอฐิษฐานใช้ฤทธิ์ให้คล่องด้วยคับ อันนี้ตามหลวงพ่อสอนนะคับ
    สำหรับวิปัสนา ต้องถอยอารมณ์มาอยู่ที่อุปจารสมาธิก่อนคับ (เข้าฌาณให้ได้สูงที่สุดเท่าที่เราทำได้ก่อน) พอถอยออกมาแล้วก็ ค่อยพิจารณาธรรมคับ พิจารณาได้หลายอย่า เช่น ขันธ์ 5, อริยสัจ 4 ฯลฯ .... ขอตอบแค่สั้นๆนะคับ
    อนุโมทนาคับ ที่ปฏิบัติ
     
  3. joey333

    joey333 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +0
    จะนั่งเอาทำไมครับ กสิณ กองนั้น

    ยังอยากจะได้อะไรครับ

    มันเป็นของจริงเหรอครับ

    ถึงจะยึดเอาไว้เป็นสรณะได้
     
  4. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    เราจับภาพกสิณที่เราต้องการจนกสิณ เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเพชรใสประกายพรึก
    เมื่อเป็นเพชรก็เป็นฌาณ4
    จริงๆก็แค่จินตนาการให้กสิณกองที่เราต้องการค่อยๆเรืองแสงจนกลายเป็นเพชร
    เท่านั้นเองครับ
    เมื่อกสิณเป็นเพชร อารมณ์ใจเราจะสบายๆ เบาๆ ลมหายใจจะเหมือนไม่รู้สึก
    การใช้อิทธิวิธีนั้น หากไม่ถึงวาระของเราแล้ว จะทำยังไงก็ใช้ไม่ได้ครับ
    แต่หากถึงวาระเมื่อใดก็จะได้มาเอง
    จุดสำคัญคือจะต้องเข้าใจว่า อภิญญา คือผลพลอยได้จากการเจริญวิปัสสนาญาณ
    ดังนั้นให้เราเจริญวิปัสสนาจนถึงจุดหนึ่ง สรรพวิชาจะรวมตัวเอง
    ไม่ต้องไปฝึกอะไร
    วิปัสสนานั้นให้เราพิจารณาด้วยอารมณ์สบายๆ
    แบบว่า เออ การเกิดนี่มันทุกข์นะ ไม่อยากเกิดอีกแล้วนะ โดยให้เรารู้สึกจริงๆว่าไม่อยากเกิดแล้ว
    ถ้าอยากนิพพานวิธีง่ายสุด คือก่อนตายอธิษฐานขอตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าพระนิพพาน ถ้าทำได้ก็ตายแล้วนิพพานเลย
    ผู้ที่นิพพานด้วยวิธีนี้ มีเยอะมากๆ
    ผิดพลาดประการใด ขอกราบขอขมาด้วยครับ
     
  5. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ขอบคุณ ทุก ๆ ความเห็น ครับ
    ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่า ได้ ญาณ หรือเปล่า เวลานั่งผมไม่สามารถ แยกแยะ ได้ ว่า ขั้น ไหน เพราะ ถ้ามั่วสนใจ มันจะไม่ได้อะไรเลย (ไม่มีอาการเหมือน ในตำราเท่าไหร่อ่ะ ผม)
     
  6. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +1,039
    ผมยัง งง อยู่ เพราะเพิ่งเริ่มฝึกสมาธิ ที่หลวงพ่อบอกให้จับภาพนิมิตกสิณ ภาพนิมิตกสิณมันคือตรงไหนแน่ครับ ระหว่าง
    1. สมมุติว่าเรามีแก้วน้ำ มีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว แล้วเราหลับตานึกถึงภาพของแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว หรือ
    2. สมมุติว่าเราเพ่งกสิณไฟ พอหลับตาจะเห็นจุดเขียว ๆ ในเปลือกตาด้านใน มีลักษณะคล้ายเปลวไฟที่เรามอง จุดเขียว ๆ นั้นพอเพ่งไปสักพักมันจะเริ่มออกขาว ๆ ขึ้นนิดหน่อย
    ***อยากถามผู้ฝึกกสิณหน่อยครับว่า นิมิตกสิณคืออะไรกันแน่ อยากลองฝึกดูบ้างแต่ก็ยัง งง ๆ อยู่ ***
     
  7. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    กสิณ จริงๆแล้วไม่ใช่การไปเพ่งวัตถุใดๆ นะครับ
    เพ่งกสิณ จริงๆแล้ว แค่นึกกสิณนะครับ
    เป็นการจับภาพ หรือจินตนาการภาพนั้นๆ
    เช่น จินตนาการภาพไฟ ก็เป็นกสิณไฟ
    จินตนาการภาพน้ำก็เป็นกสิณน้ำ
    กสิณที่หลวงพ่อแนะนำคือ จินตนาการถึงพระพุทธรูปเป็นกสิณ
    พอเราจินตนาการถึงภาพใดภาพหนึ่งไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้สึกสงบใจ เบาๆ ลอยๆ
    ไม่ใช่หนัก แน่น ที่อกกับคิ้ว ถ้าแน่นแปลว่า เพ่งมากเกินไป
    พอเราสบายใจ จิตของเราก็จะเป็นสมาธิเอง
    พอทำจริงๆแล้ว คนส่วนมากจะไม่อยู่ฌาณ123 จะกลายเป็นฌาณ4 ไปเลย
    คือแค่พอจับภาพปุ้ป เราก็เลิกสนใจลมหายใจ มันก็เป็นฌาณ4แล้ว ส่วนมากจะเป็นแบบนั้น

    หากไม่เกิดประโยชน์ก็ขอกราบขอขมา มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
     
  8. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ขอบคุณมาก ๆ ครับ
     
  9. Karz

    Karz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +96
    คุณอาจคงยังสับสนระหว่างคำว่า "ฌาน" กับ "ญาน" นะครับ

    ญานเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้นได้จากการใช้ฌานครับ สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่จะให้ได้มาซึ่งฌานในกสิณ

    จะรู้ได้ยังไงว่าได้กสิณกองนั้นๆแล้วครับ? ต้องถามตัวเองว่าคุณมีสมาธิในขณะเพ่งกสิณรึเปล่าครับ?

    เวลาคุณนั่งสมาธิ คุณแยกออกรึเปล่าครับ ว่าขณะนี้เรามีสมาธิหรือไม่มีสมาธิ?



    คุณรู้จัก concept ของกสิณรึยังครับ?


    กสิณ เป็นอุบายที่ใช้ทำให้จิตเกิดเป็นสมาธิโดยอาศัยการเพ่งสิ่งของสิบอย่างเพื่อใช้เป็นฐานที่ตั้งของสติ ดังนั้นถ้าสติคุณตั้งมั่นในฐานกสิณนั้นๆแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเพ่งสิ่งของนั้นๆอีกต่อไป คราวหลังเพียงแค่นึกถึงสิ่งที่เราเคยเพ่ง จิตก็สามารถรวมตัวเป็นสมาธิได้ครับ

    ดังนั้นหากจิตจะรวมตัวกันจนเกิดเป็นสมาธิได้ - คุณก็จะต้องได้ วิตก-วิจาร ในองค์กสิณซะก่อน เคยได้รึยังครับ? ทราบรึเปล่าว่าวิตก-วิจารในองค์กสิณเป็นอย่างไร?

    กสิณทุกกอง มีผลทำจิตให้เข้าถึงได้แค่ปฐมฌาณเท่านั้นครับ นั่นเป็นเหตุผลที่หลวงพ่อฤาษีฯท่านใช้อุบายให้เราจับนิมิตในองค์กสิณแทนหลังจากที่ได้ปฐมฌานในกสิณแล้ว

    ถ้ายังทำกสิณไม่ถึงปฐมฌาน ก็แสดงว่ายังไม่ได้เข้าถึงสมาธิที่ใช้กสิณนั้นๆเป็นฐานเลยครับ

    ถ้าไม่รู้จักว่าปฐมฌานเป็นยังไง หรือไม่รู้จักว่าวิตก-วิจารเป็นยังไง - แนะนำให้ลองทำอานาปานสติดูก่อนนะครับ พอทราบแล้วว่าวิตก-วิจาร ปฐมฌานเป็นยังไงแล้วจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการไต่ระดับสมาธิของกสิณหลังขึ้นปฐมฌานได้

    ถ้าคุณทำได้ เผลอๆจะไม่สนใจฝึกกสิณต่อด้วยซ้ำไป

    ขอให้มีความเพียรอย่างต่อเนื่องครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2008
  10. attasaro

    attasaro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +140
    ส่วนตัวผมว่า ทั้งหลายทั้งปวง เราล้วนแต่รู้ได้ด้วยตัวเรา หลังจากปฏิบัติครับ

    มันเหมือนความสุข นะครับ ความสุขแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน



    เอาเป็นว่า ตั้งใจ มุ่งมั่น ขยัน ปฏิบัติเข้าไว้ละกันครับ วันนึงจะรู้เองครับ
     
  11. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ขอบคุณ ครับ ไม่ได้เข้ามาอ่าน นาน
     
  12. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ลองไปอ่านที่นี่
    http://www.grathonbook.net/book/grammathan40/07.html#001
    เมื่อวานนี้เรื่องของกสิณลืมบางจุดไป อย่างเช่นอาโปกสิณ เขาให้เทน้ำใส่ให้เต็มภาชนะพอดีอย่าให้พร่อง เพราะว่าถ้าหากว่ามันพร่อง ใจของเรามันไปจับที่ขอบภาชนะ อันนั้นเขาเรียกว่ากสิณโทษ ใช้ไม่ได้ เขาให้สนใจแค่ลักษณะของน้ำและตั้งใจจับตรงนั้น
    ถ้าหากว่าเป็นอุคหนิมิตของอาโปกสิณมันจะมีลักษณะกระเพื่อมๆ เหมือนกับน้ำที่เป็นคลื่นน้อยๆ ถ้าเป็นปฏิภาคนิมิตมันก็จะนิ่ง แล้วก็ค่อยๆ สีจางลงไปเรื่อย
    อ่านแล้วก็จะทราบเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...