จะโลกแตกมั้ยนะ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย tantaileo, 23 มีนาคม 2011.

  1. tantaileo

    tantaileo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีคับ วันนี้ผมมีข้อสงสัยที่อยากจะมาขอความกระจ่างจากผู้รู้จิงๆนะคับ อันที่จิงผมก็เป็นชาวพุทธน่ะคับ ด้วยเหตุใดก็ช่าง แต่ผมขอเกริ่นก่อนเลยว่าผมเป็นชาวพุทธจริงๆ อาจจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ หากคำถามไหนที่ทำให้ท่านผู้อ่านหรือผู้ตอบรู้สึกไม่สบายใจ ไม่ชอบใจ อึดอัด หรือโมโห หรือ ผมโพสผิดเว็บบอร์ดอะไรก็ตาม โปรดกรุณาให้ความเมตตากับผมด้วยนะครับ(เสียวโดนด่าจริงๆ - -') ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่า ผมกำลังศึกษาอยู่ระดับอุดมศึกษาในกทมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ไม่ค่อยได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับศาสนามากนัก(เรียกว่าเริ่มห่าง) อาจจะเพราะการที่เราโตขึ้น รู้สึกว่ามีเรื่องนู้นเรื่องนี้เข้ามา เหตุบ้านการเมือง การงาน การศึกษาวุ่นวายไปหมด จึงทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองห่างศาสนามากไปทุกที ประจวบกับกระแสข่าวต่างๆที่พระสงฆ์นอกรีตบางรูปประพฤติตัวแย่ๆ ผิดกฏหมาย หรือทำผิดต่างๆนานาตามหน้าข่าวจนทำให้รู้สึก...เสื่อมศรัทธาลงไป สิ่งที่กล่าวมามันทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องเลือกที่จะเชื่อ และเลือกที่จะไม่เชื่อ เหมือนกับข่าวสมัยนี้ก็เช่นกันที่ต้อง...รับมาแล้วพินิตพิจารณาอีกที จึงเกิดคำถามโลกแตก หรืออาจจะดูไร้สาระบางประการที่อยากจะมาถามคนที่ให้ความเมตตาในบอร์ดนี้น่ะคับ คำถามอาจจะไม่ใช่แนวหลักธรรมะข้อนั้นข้อนี้เหมือนกระทู้ทั่วไปนะคับ(อย่าด่าผมเลยนะคับ นี่รวบรวมความกล้ามาถามนะเนี่ย แหะๆๆ ^ " ^)

    อย่างแรกคือผมสงสัยเรื่องการแต่งตัวของพระน่ะคับ ทำไมถึงห้ามใส่กางเกงในด้วย!? (ส่วนตัวเคยบวชภาคฤดูร้อนตอนเด็กๆก็ไม่ได้คิดอะไรนะคับ) เท่าที่ผมเข้าใจเนี่ย คือเหมือนกับว่ามันเป็นบทบรรหยัดว่าเครื่องอัฐบริขารต้องมี จำนวน 8 อย่างเท่านั้น...ซึ่ง ทุกวันเนี้ย มันไม่ใช่ 8 อย่างซะแล้วไงคับ อย่างเบสิคๆที่เจอส่วนมากก็อ่ะ..มีมือถือละ(บางรูปเป็น BB IPHONE4 ก็มี)บ้างก็มีเครื่องเล่นเพลง สเตริโอ แม้แต่เกจิบางรูป พระนักเทศน์ชื่อดังๆด้วย(ไม่ขอเอ่ยนาม)บางรูป ก็เริ่มเห็นว่ามีโน๊ตบุ๊ก แล้วท่านก็ได้ให้คำตอบกับปุถุชนคนธรรมดาว่า..."อาตมาคิดว่า ถ้าสมัยนั้นพระพุทธองค์ มีเทคโนโลยีีแบบนี้...พระพุทธองค์คงใช้โน๊ตบุ๊กเหมือนกับอาตมาเพื่อให้เผยแพร่ศาสนาได้ง่ายขึ้น ผมคนเข้าใจกันชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ถ้าเจอหนักๆเลยก็จะเป็นพวก เกมเพลย์ ทีวี แหวนเพชร หรือเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย เพียงเพราะพระตรัยปิฎกไม่ได้เขียนไว้ เพราะงั้น....ถ้าสมัยพระพุทธองค์ เกิดยุคนั้นผู้ผลิตกางเกงในยี่ห้อเจเพลส รอสโซ่ แอปเปิ้ล ฯลฯ เกิดทันเนี่ย... ท่านก็อาจจะใส่เพื่อความห่างไกลจากโรค ไส้เลื่อนหรือโรคอื่นๆในป่าจากดินก็ได้(เท้าเราเดินเท้าเปล่าไปบางทียังไปเจอเชื้อไวรัส"หูด"ติดเท้ากันได้เลย)จริงมั้ยครับ?? เพราะงั้นเนี่ย ไม่มีในบรรหยัดนี่ครับ เพราะงั้นทำไมพระสมัยนี้ถึงยังใส่กางเกงในไม่ได้ หรือสมมติว่าถ้ามีใครบอก"ก็ใส่ได้นิ่ ไม่ได้ห้ามอะไร" แบบนี้พระก็ไม่ต้องโกนหัว ไว้ทรงรากไทร ได้น่ะซิ

    สืบเนื่องมาจากคำถามแรก ตกลงเราควรเชื่อพระไตรปิฎกได้แค่ไหน ในเมื่อหากคิดจริงๆแล้ว พระไตรปิฎกก็เหมือน...การที่นักกฎหมายในศาสนา หรือ พระสงฆ์ มาร่างกฎหมายกันเอง แล้วก็เขียนลงไปเป็นตัวอักษรว่าพระพุทธเจ้าตรัสแบบนั้นแบบนี้ แก้กฎหมาย(สังฆายนา)กันเองอีก 8-9 ครั้ง ผมควรคิดยังไงครับ

    อย่างที่สองคือ มันจะมีบรรทัดฐานในสังคมที่ว่า...หากเกิดกรณีผู้หญิงถูกข่มขืนจากโจรผู้ร้ายหรือใครก็ตาม... สังคมก็จะอนุญาติให้ไปทำแท้งอย่างถูกกฏหมาย อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่ว่าผู้หญิงไม่ได้เป็นคนทำ.. แต่ถ้ามองอีกแง่มุมนึงเนี่ย.. มันก็คือการผิดศีลอยู่ดีในข้อห้ามฆ่าสัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ในเคสนี้เนี่ย คือ"ตั้งใจ" ทำแท้งเสียด้วย แถมฆ่าคนอีกต่างหาก การไปพรากชีวิตเด็กเนี่ย มันถูกเหรอครับ ถ้าผู้อ่านเป็นเด็กเนี่ย ก็ย่อมไม่อยากให้ใครมาเอาชีวิตเราไปถูกมั้ยคับ? สรุป...ซวย โดนทำร้ายจิตใจ เก็บไว้ก็...รับไม่ได้ ลูกเกิดมาจากคนเลว ทำแท้งก็ฆ่าคน.........ตกลงคิดเห็นว่ายังไงกันครับ?? ถ้าใช้วิจารณญาณแบบธรรมดาคนทั่วไปก็คงจะ ไปทำแท้งซิ เก็บไว้ก็บ้าแล้ว แต่ถ้าเกิดยึดหลักตามศาสนาแบบ เคร่งจริงๆอ่ะ..ก็ต้องเก็บเด็กไว้เลี้ยงเป็นลูกซะเอง พ่อชื่ออะไรเผลอๆยังไม่รู้เลย ใช่มั้ยคับ ฝากเป็นอีกคำถามนึงนะคับ

    คำถามที่ 3 ตอนผมบวชเณรเนี่ย หลวงพี่รูปนึงบอกให้นั่งปัสสาวะ(นั่งฉี่) เหตุเพราะเป็นพฤติกรรมของกษัตริย์(พระพุทธเจ้า) ประมาณว่า สง่างาม(- - ผู้ชายนั่งยองๆฉี่) ตกลงแล้วเนี่ย...พระพุทธศาสนาล้าหลังเกินไป หรือคนทั้งโลกปัสสาวะไม่สง่างามเองครับ??

    คำถามที่ 4 เท่าที่เคยดูทางโทรทัศน์มาเนี่ย...จะมีคนตายแล้วฟื้น...แล้วคนเหล่านี้ก็จะมาเล่าให้ฟังว่า ในนรกเนี่ย...เป็นอย่างนี้ๆๆๆ ท่านสุวรรณเนี่ย นุ่งโจงกระเบน พูดจาภาษาไทยกันเฉยเลย ส่วนของฝรั่งเนี่ย เขาก็มีนะคับ ตายแล้วฟื้นเนี่ย แต่ของเขาไม่มีกระทะทองแดง ยมทูตพูดภาษาอื่น มีปีก มีเขา ไม่ได้นุ่งโจงกระเบน ส่วนบางศาสนา บางลัทธิเขาไม่มีนรก...... ผมเคยได้ยินมานะครับว่า ก่อนตายนึกถึงความเลวจะไปนรก นึกถึงพระนึกถึงความดีจะไปสวรรค์ เหมือนๆกับว่าอนุภาคจิตมันยิ่งใหญ่และรุนแรงมาก ถ้าอย่างนั้นเนี่ย...เกิดผมเปลี่ยนไปเชื่อศาสนาที่เขาบอกว่านรกไม่มีอยู่จริงเนี่ย...ผมอาจจะหลุดพ้นจากนรกได้ใช่มั้ย ถ้าเปลี่ยนความเชื่อเนี่ย(คิดเล่นๆน่ะคับ ผมไม่เปลี่ยนศาสนาหรอก)

    คำถามที่ สุดท้าย ผมเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึง มีความสงสัยเวลาผมดูภาพยนตร์เรท x หรือ คลิปที่ถ่ายกันทั้งหลายแหล่ ผมอยากรู้ว่า ผมจะบาปกับเธอมั้ยคับ มองในแง่วิทยาศาสตร์นี่ก็คือ ผมมองคอมพิวเตอร์ตัวเองอยู่นะ -''- แล้วถ้าหนังบางเรื่องมันออกแนวเธอถูกบังคับเนี่ย.. ผมถือว่าผมมีส่วนรู้เห็นโดยไม่ช่วยเหลือเธอมั้ยครับ ศาสนาว่าไว้ว่า ถ้าเห็นแล้วไม่ช่วยนี่ก็บาปนี่


    หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงยังนับถือพุทธอยู่ ทั้งที่ความคิด คำถามแต่ละเรื่องเนี่ย.....เห้อ...... สิ่งที่ทำให้ผมยังเชื่ออยู่ในหลายๆอย่างคือ ผมไปอ่านเจอเรื่องหนูพิมพาวดี ที่...มาช่วยพ่อตัวเองเมื่อชาติที่แล้วน่ะคับ ประมาณว่าพ่อไปทำกรรมมา เป็นเพชรฆาต เกิดใครยังไม่ได้อ่าน อยากให้ไปลองอ่านดูน่ะคับ แล้วพลับพลาที่หนูพิมพ์อยู่เนี่ย - - ไปเห็นมาแล้ว แล้วก็นามสกุลของคุณหมอเนี่ย ก็นามสกุลอดีตนายกนี่เอง คงไม่เอามาแอบอ้างเล่นๆหรอก แต่ก็เชื่อว่าทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น

    ที่มาตั้งคำถาม ณ ที่บอร์ดนี้บอกตรงๆไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร หรือว่าใส่ความใคร เรื่องบางเรื่องคนเราก็อยากรู้จริงๆ จะให้ไปถามใครซึ่งๆหน้าก็กลัวเค้าต่อยปากเอา หากผมทำอะไรผิด หรือทำให้ใครไม่พอใจยังไง ผมขอเรียนตรงๆว่า ท่านเข้าของเว็บบอร์ดแห่งนี้สามารถลบกระทู้ผมได้เลยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกรุณาอ่านมาจนถึงจุดนี้(ถึงไม่ตอบคำถามก็ไม่เป็นไร) ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
     
  2. หนูอ้อ

    หนูอ้อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ความเชื่อของมนุษย์ กฏเกณฑ์ของมนุษย์ ไม่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรมค่ะ
     
  3. paulbkk

    paulbkk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +5
    เป็นผู้อ่านกระทู้มาเสียนาน วันนี้นึกครึ้ม ขออาสาเป็นผู้ตอบดูบ้าง จากมุมมองของผู้ศึกษาพระพุทธศาสนา จนคลายความคับข้องใจ กลายเป็นเชื่ออย่างสุดใจ เลิกคิดสงสัย และนับถือพระพุทธศาสนา อย่างมีเป้าหมาย เพื่อถอนรากถอนโคนความทุกข์ทั้งปวง แบบไม่ต้องกลับมากำเริบอีก

    จริงๆก่อนนี้ตั้งแต่เป็นเด็ก ผมเองเคยนึกตำหนิ เวลาเห็นแม่ตัวเองยกมือไหว้พระปลกๆ เวลาใส่บาตร ในใจนึกว่า แม่เป็นอะไร ทำไมต้องกราบกรานขนาดนั้น ก็แค่คนอีกคน ใส่จีวร เดินมาขอข้าว กลับไปกินที่วัดสบายๆ เหลือๆ ด้วยซ้ำ บ้านเรารึ ไม่ได้เหลือกิน เหลือเก็บสักเท่าไหร ความสงสัยใจใจ มีอยู่ แต่ไม่ได้ถามใคร และปล่อยผ่านไปเหมือนเด็กทั่วไป คงไว้แค่ความไม่เชื่อถือในพระพุทธศาสนา

    วีรกรรมเยอะ เรื่องความไม่เชื่อน่ะครับ แต่ไม่ใช่ที่ที่จะมาเล่าเรื่องนั้นตรงนี้ ผู้อ่านท่านอื่นจะเบื่อสะก่อน และผมมองว่าอาจหลงประเด็นได้ :)


    ขอแสดงความเห็นแบบคนรู้น้อยสักคนนะครับ

    เรื่องห้ามใส่กางเกงในน่ะ ใช่ครับ มีแปดอย่าง ถูกบรรหยัดไว้แค่นั้น ให้มองถึงวัตถุประสงค์ว่า บรรหยัดไว้แบบนั้นเพราะนั่นคือสิ่ง "จำเป็น" สำหรับการมีชีวิตอยูแบบสมถะ แบบที่ไม่ต้องเป็นภาระ ของชาวบ้านมากนัก มีบาตรไว้ขอข้าว เพื่อนกินมื้อเดียว เพราะพระสงค์ไม่มีรายได้ ก็สมควรกินอาหารแค่วันละครั้ง ให้มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกินอิ่มสบาย สบง จีวร ที่ครองนั้น ที่ถูกต้องให้ผ้าห่อศพมานุ่ง มาห่ม ไม่ใช่ต้องการความน่ากลัวอะไร แต่เพื่อ อีกเช่นกัน ไม่เป็นภาระของญาติโยม อะไรที่นอกเหนือจากการมีไว้เพื่อดำรงชีวิตได้ ถือว่า "ไม่จำเป็น" ทั่งหมด

    กาลเวลาผ่านไป ยุคสมัยเปลี่ยนไป ความหมายของคำว่า "จำเป็น" และ "ไม่จำเป็น" ก็ย่อมเปลี่ยนไป ลองนึกดูง่ายๆก้ได้ ว่า เมื่อสิบปีก่อน ตอนคุณยังเด็ก คุณเอง และคนรอบตัวคุณ ก็ไม่ได้ใช่โทรศัพท์มือถือกันอย่างแพร่หลายอย่างทุกวันนี้ เราเองก้ผ่านเวลานั้นมาได้ แบบไม่ได้รุู้สึกขาดอะไร นี่คือภาพแค่ช่วงเวลาสิบปี ทีนี้ลองนึกความต่างของสมัยนี้กับเมื่อ สองพันห้าร้อยกว่าปีที่แล้ว ไม่อาจจินตนาการได้เลยทีเดียว

    ลองนึกถึงคำว่า "จำเป็น" แล้วคุณจะได้คำตอบว่าควร หรือไม่ควร มี BB Iphone 4 :)

    ผมเองไม่ได้เป็นพระ เคยทำงานเอกชน ตอนนี้ทำส่วนตัว อายุเลขสามต้นๆ ใช้โทรศัพท์มือถือแบบสองซิม ราคาไม่ถึงสามพัน แต่ใช้มาหลายปี เพราะต้องการแยกเบอร์ทำงานกับเบอร์ส่วนตัว และไม่ต้องพกสองเครื่อง และมองว่าจะใช้แพงไปทำไม ในเมื่อรายได้ที่หามา ควรเอามาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นมากกว่าการไปซื้อโทรศัพท์ราคาแพงไว้เข้ากลุ่ม เช่น เอาไว้ใช่จ่ายเรื่องปากท้อง หรือความเป็นอยู่สุขสบายของครอบครัว หรือเก็บไว้ใช้ เผื่อเหตจำเป็นฉุกเฉิน คุยโทรศัพท์ครั้งละไม่เกินห้านาที เพราะคุยเฉพาะเรื่องจำเป็น ไม่ได้ใช้ BB หรือ Iphone เพราะมันไม่ได้จำเป็น

    ผมไม่บังอาจไปบอกหรอกว่าพระที่มีอุปกรณ์เหล่านั้น ท่านจำเป็นหรือไม่ ความจำเป็นของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากันนะครับ

    ผมไม่บังอาจไปบอกว่าพระรูปไหนทำผิด หรือถูก บางทีสิ่งที่ถูกที่สุดคือ ทำตัวเองให้ถูก ไม่ว่าเราจะเป็นสถานะไหนนะครับ แบบนี้คุณจะหมดคำถามที่มี และมองทุกสิ่งในแบบที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยมอง

    ดังนั้นเหตุที่ไม่ต้องใส่กางเกงใน เพราะไม่จำเป็น และเพื่อรุ้จักสำรวมกิริยา เวลาจะเดินจะนั่ง ต้องรุ้ตัว ว่าจะไม่ประเจิดประเจ้อ เพราะผุ้ชายมักไม่ค่อยระวังเวลาจะเดินจะนั่ง การไม่ใส่กกน เพื่อให้จิตอยุ่กับการตลอด อย่างน้อยให้คอยเฝ้าระวังกิริยาของตน ก็๋ยังดีกว่านึกฟุ้งซ่านไปเรื่องนอกกาย

    พระอาจารย์ที่ผมรู้จักมีงานเขียนหนังสือเผยแพร่พระพุทธศาสนา ผมมองว่าโนตบุคจำเป็นมาก เพราะยุคนี้ จะให้บันทึกถ้อยคำบนใบลานคงไม่ใช่เรื่อง เขียนงานแล้วส่งไฟล์ให้ผู้อื่นไปเผยแพร่ต่อ โดยส่งผ่าน internet ในรูปแบบ email ผมก็มองว่า เป็นเรื่องจำเป็นเช่นกัน

    พระรูปไหนที่มี facilities มากกว่าการนี้ ก็แสดงให้เห็นได้ว่า มีของที่ไม่จำเป็น แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปทำกิจของสงฆ์

    กิจของสงฆ์ ไม่ใช่รับกิจนิมนต์ แต่คือการกลับมาอยุ่สงบๆเพื่อปฏิบัติ แน่นอนผลสูงสุดของการปฏิบัติ คือเพื่อความหลุดพ้น แม้หากไม่หลุดพ้น ก็จะได้รู้เพิ่มและสั่งสอนคนอื่นได้ เพราะนั่นคือหน้ที่ของพระ

    ดังนั้น พระสงฆ์จำเป็นต้องไว้ผมทรงนั้นทรงนี้มั้ย ===> ไม่จำเป็น

    เมื่อเรารุ้ถึงความจำเป็นแล้วนั้น เราก็ไม่ต้องสงสัยอีกเลยว่าพระไตรปิฎกนั้นเชื่อได้แค่ไหนนะครับ ขนาดมีไว้เป็นแนวทาง ยังหลงกันได้ขนาดนี้ ผมกล้าโยนคำถามให้ผู้อ่านทุกท่านถามตัวเองว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา อ่านหนังสือก็เยอะ ดูหนังโป้ก็ไม่น้อย ดูเรื่องดีมีาสระ และไร้สาระ แต่ท่านเคยแม่จะเปิดพระไตรปิฎกขึ้นมาอ่านกับบ้างไหม หากไม่ถูกบังคับให้เปิดอ่านตอนบวชอยู่ หากท่านไม่เคยแม่จะนึกอยากเปิดอ่้านด้วยตนเอง แล้วท่านจะมามีความแคงใจในพระไตรปิฎกทำไม

    ก่อนจะตอบเรื่องการทำแท้ง ผมอยากให้ผู้อ่านตระหนักว่าการตอบคำถามแบบฟันธงนั้น มันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางตอบได้ตรงใจทุกๆคนได้ เพราะแต่ละคนมีเหตผลไม่เหมือนกัน ดังนั้น ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนมาก็ต้องดูเหตปัจจัยกันไป การที่สังคนอนุญาติให้ทำแท้งได้ เพราะหากน้องหญิงคนนั้นไม่พร้อมจะมีลูก แล้วจะไปยัดเยียดให้เขาเป็นแม่คนไปทำไม มันไม่ใช่เรื่องง่าย สังคมจึงเปิดโอกาสให้น้องหญิงได้เลือกเอง

    แต่หากผมเองเป้นน้องหญิงคนนั้น ผมคงไม่ทำแท้ง เพราะผมถือว่าเป็นกรรมของผมเองที่ต้องถูกข่มขืน และเป็นวิบากที่ต้องมามีลูกติดให้เจ็บช้ำเล่นๆ แบบไม่เต็มใจ ผมก็จะก้มหน้ารับกรรม เพื่อจะได้ชดใช้ให้หมดไปในชาตินี้ และไม่ต้องผูกเวรใหม่ด้วยการทำแท้ง หากผมทำแท้งเวรเก่าก็ใช้ยังไม่หมด แต่เวรใหม่ก็มาจ่อรอ รับกรรมซะดีกว่า และสอนลูกที่เกิดมาให้เป็นคนดี แม้เขาจะเกิดมาแบบเราไม่เต็มใจ แต่เราปรับเปลี่ยนพื้นที่ในเราเองให้มีเขาแบบเต็มใจได้ ไม่ใช่หรือ

    อย่างที่สาม ตอบสั้นๆว่าเพราะสำรวมกิริยาวาจานะครับ

    สี่ คงเล่ากันยาวเลย ผมขออนุญาติเล่าแบบสั้นนะครับ สำหรับคำตอบแบบยาว ผมยินดีให้ข้อมูล แอด msn ไปถามส่วนตัวได้ครับ artist-bkk@hotmail.com

    นรกสวรรค์นั้นถูกปรุงแต่งให่แตกต่างกันไป ด้วยจิตของคนที่เกิดในต่างชาติ ต่างธรรมเนียม และผมยังไม่เห็นว่ามีศาสนาไหน ไม่กล่างถึงนรกสววรค์ระครับ

    สุดท้าย กามเป็นเรื่องที่ทำให้หลงได่ง่าย ผมเองก็ไม่ได้หลุดพ้นอะไรหรอกครับ แต่เมื่อมาตระหนักได้ว่าเวลาเหลือน้อย เราไม่อาจรู้ได้ว่าพรุ่งนี้จะเป้นคิวเราหรือไม่ที่จะตายไปซะก่อน ดังนั้น เวลาที่มีอยู่ เริ่มจากนาทีต่อไปเลย ควรใช้ไปกับสิ่งที่จรรโลงจิตใจ ไม่ให้ไหลลงต่ำไปกว่าเดิม คุณไม่ผิดที่คุณดูหนังโป้ เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่คุณไม่ควรมีใจนึกสนุกไปกับเรื่องในหนัง เพราะจิตคุณเองแหละที่จะไหลลงต่ำกว่าเดิม ถ้าคุมไม่อยุ่คุณจะไม่แค่ดู แต่คุณจะลงมือทำซะเองในที่สุด นี่แหละที่พระพุทธองค์กล่าวไว่ว่าจิตมนุษย์นั้น ถ้าปล่อยให้ฟุ้งก็มัน "ไหลลงต่ำ" หากปล่อยไป อาจไหลลงต่ำกว่าความเป็นมนุษย์ในที่สุด

    จึงควรเอาเวลาที่มี มาใช้กับเรื่องที่จรรโลงใจให้เกิดเรื่องดีๆ ตามแต่หน้าที่ของตน เช่นคุณเป็นนักศึกษา เอาเวลามาอ่านหนังสือเรียนให้ทะลุไปเลย หรือหนังสือธรรมะ น่าจะดีกว่ามั้ยครับ เผื่อวันนึงที่คุณอายุเยอะขึ้น มีลูกมีหลาน แล้วลูกหลานคุณถามคำถามแบบนี้ คุณจะได้ตอบเขาได้แบบที่เขาไม่ต้องมีข้อสงสัยในใจไงครับ
     
  4. biww

    biww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +202
    คุณ paulbkk........??? คุณตอบคำถามได้เยี่ยมมาก ๆ ......
     
  5. paulbkk

    paulbkk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอบคุณนะครับ :) เขินจัง ขอโทษด้วยครับ พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก สะกดผิดเยอะเลย แต่สิ่งสำคัญคือเนื้อความน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2011
  6. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    คุณ paulbkk ตอบได้ดีครับ เราไม่ใช่ผู้รู้ คิดได้เท่าคุณก็เยี่ยมแล้ว อยากให้ชาวโลก คิดดีทำดีอย่างคุณครับ
     
  7. paulbkk

    paulbkk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +5
    อยากให้เป็นยังงั้นเหมือนกันนะครับ เป็นสมาชิกมานาน ได้แต่อ่าน ศึกษา เมื่อเห็นว่าสบโอกาสถ่ายทอดได้ จึงรีบทำ และอยากทำให้ได้ดี การสนทนาธรรมถือเป็นหนึ่งใบบุญกิริยา 10

    เป็นเรื่องน่าเสียดายที่การตั้ังจิตตนให้มีสัมมาธิฐิ เปลี่ยนแปลงอะไรในใจเราเป็นเรื่องง่ายกว่าเปลื่อนอะไรนอกกาย แต่คนส่วใหญ่ไม่คิดจะทำ
     
  8. Phuket

    Phuket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +877
    ไม่แตกหรอก เพราะถ้าแตกแล้วพุทธทำนายในอนาคตกาลที่ว่าพระศรีอาริยเมตไตรจะลงมาเป็นพุทธเจ้าองค์ต่อไป แล้วถ้าโลกแตกจริงก็คงต้องใช้เวลาสร้างโลกด้วยวงแหวนกาแล็คซี่อีกเป็นล้านๆปีเลยนะ

    โลกไม่แตกหรอก ไร้สาระนะ
     
  9. tantaileo

    tantaileo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณครับ
     
  10. applegreen

    applegreen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +555
    พระไตรปิฎก เป็นการรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระสาวกมากำหนดกันเอง

    ส่วนเรื่องตกนรก ต่อให้นับถือศาสนาอื่น แล้วทำชั่วก็ตกนรกอยู่ดี นรกสวรรค์ นิพพาน

    การเวียนว่ายตายเกิดมันมีเป็นปกติอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบแล้วเอามาประกาศ

    ให้คนได้รับรู้และสงเคราะห์ให้คนพ้นจากวัฏฏะ ต่อให้โลกนี้ไม่มีพุทธศาสนา นรก สวรรค์

    นิพพาน วัฏฏะก็มีเป็นปกติอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า"ทางของเราเป็นทางสายเอก"

    ในที่นี้คือเป็นทางตรงที่จะหลุดพ้นจากวัฏฏะได้ ถ้าคนที่ไม่มีศรัทธาในพุทธศาสนาก็จะคิด

    ว่าพระพุทธเจ้าหลงตัวเอง ก็แล้วแต่คนจะคิด กรรมใครกรรมมัน

    สำหรับเราแล้วยังไงก็เชื่อพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว
     
  11. tantaileo

    tantaileo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอขอบคุณผู้ที่ให้ความเมตตาผมอีกครั้งน่ะคับ หลายคำตอบเป็นคำตอบที่ทำให้ผมเข้าใจกระจ่างขึ้นแต่หลายๆคำตอบก็ยังทำให้ผมรู้สึกครางแคลงใจอยู่ดีน่ะคับ อย่างข้อแีรก สำหรับเรื่องของความจำเป็นและไม่จำเป็น สิ่งที่ตอบมาผมเห็นด้วยในเรื่องของกางเกงในที่คุณpaulbkk กล่าวมาว่าให้พิจารณาจากความจำเป็นน่ะคับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ส่วนเรื่องของพระตรัยปิฎกที่ทำการสังคายนามา 9 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายทำในประเทศไทย เมื่อปี 2331(พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปและ 2331 ปี) คุณจะมั่นใจอะไรนักหนาขนาดนั้นเหมือนกับว่า "อัดเทป"เสียงคำสอนมายังไงอย่างงั้น สิ่งที่ผมถามก่อนหน้านั้นไม่ใช่เนื้อหาในพระตรัยปิฎก สิ่งที่สงสัยคือผู้ที่รวบรวมผู้ที่สร้างพระตรัยปิฎกขึ้นมา แหล่งที่มาของพระตรัยปิฎกน่ะคับเชื่อถือได้แค่ไหน เพราะต่างประเทศ กระทั่งต่างจังหวัด หรือแม้กระทั่งต่างวัด ความเชื่อบางอย่างก็ต่างกันแล้ว สิ่งเหล่านี้จึงทำให้มี"นิกาย"หรือ"ลัทธิ"...ขึ้นมา ขนาดพระบางประเทศยังมีภรรยาได้เลย ประจวบกับข่าวเมื่อไม่นานมานี้วัดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเห็นข่าวว่าจะทำการชำระพระตรัยปิฎกเปลี่ยน ไตรลักษณ์(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา--->>อนิจจัง ทุกขัง "อัตตา") เห็นมั้ยครับ ผ่านมา 2554 ปีแล้ว คำสอนอาจถูกเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าพระตรัยปิฎกจะมีการสังคายนาอีกหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ ถ้าจะว่ากันมาปากต่อปาก ก็นั่นล่ะครับ มันอาจจะทำให้เนื้อหาผิดเพี้ยนก็ได้ ในเมื่อพระตรัยปิฎกเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงเขียนเอง ผมจึงสงสัยในความชอบธรรมของผู้สร้างมันขึ้นมาโดยเฉพาะการสังคายนาครั้งหลังๆเนี่ยล่ะคับ สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้เนื้อหาในพระตรัยปิฎกไม่ได้มาจากพระพุทธองค์ก็ได้....เพราะงั้น ที่ถามว่าผมจะไปสงสัยทำไม.. มันอดสงสัยไม่ได้ครับ

    ส่วนเรื่องผู้หญิงโดนข่มขืนแล้วจะทำแท้งดีหรือไม่่เนี่ยน่ะคับ ผมต้องขอแสดงความรู้สึกยอมรับนับถือในจิตใจของคุณ paulbkk จริงๆ แล้วก็อึ้งทึ่งเหลือเกิน "ผมคงไม่ทำแท้ง เพราะผมถือว่าเป็นกรรมของผมเองที่ต้องถูกข่มขืน และเป็นวิบากที่ต้องมามีลูกติดให้เจ็บช้ำเล่นๆ แบบไม่เต็มใจ ผมก็จะก้มหน้ารับกรรม เพื่อจะได้ชดใช้ให้หมดไปในชาตินี้" ต้องมามีลูกติดให้เจ็บช้ำเล่นๆ....มันหมายความเด็กคนนี้มันตัวซวยใช่มั้ยคับ แล้วคนเป็นแม่คิดกับลูกแบบนี้ แล้วความรู้สึกลูกล่ะคับ ลูกเกิดมาจะรู้สึกยังไง พ่อเป็นใครไม่รู้ ถามแม่ แม่ก็ตอบไม่ได้ ถ้าตอบลูกก็แย่อีก ดีไม่ดีจะกลายเป็นคนมีปัญหา เป็นเด็กที่มีปมด้อยไปตลอดชีวิต เก็บกดทางในดีไม่ดีไประบายกับสังคมขึ้นมา หรือหลงผิดขึ้นมา บลาๆๆ คุณมองแค่ความรู้สึกตัวเองไม่ได้หรอกคับ (มันเหมือนเรื่องโลกแตก ไก่กับไข่ยังไงไม่รู้เนอะ) ถ้าคิดในลักษณะนี้แล้วถ้าคุณโจรหรือคุณผู้ร้ายไม่หนำใจ มาซ้ำเติมเพิ่มหรือไปเรียกพวกมาเนี่ย คุณก็คงไม่ต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจล่ะคับ เพราะถือว่ามันเป็นเวรเป็นกรรมที่ทำมาเมื่อชาติที่แล้ว ปล่อยให้ท้องไป ลูกเกิดขึ้นมาเป็นลูกใครก็ไม่รุ ได้แต่นั่งเดาหน้าพ่อเขา? คนส่วนใหญ่ในข้อนี้ผมคิดว่าไม่น่าจะนำศีลข้อที่ 1 มาใช้น่ะคับ ผู้ถูกข่มขืนเองแค่ให้ความรู้สึกเป็นผู้เป็นคนกลับมาเป็นปกติก็ยากแค่ไหนแล้ว คงไม่คิดว่าจะมีลูกให้ช้ำใจเล่นๆน่ะคับ ยิ่งถ้ามีลูกมาช่วยย้ำเตือนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ชีวิตจริงคงเป็นไปได้ยากน่ะคับ

    ส่วนเรื่องสวรรค์กับนรกมีจริงรึไม่ ผมโอแคแล้วก็ยอมรับในสิ่งที่ตอบมา ขอบคุณมากๆคับข้อนี้เห็นด้วย

    ส่วนข้อที่ว่าดูหนังโป๊แล้วไม่ผิด แต่จิตใจมันต่ำลง......มุมมองของผมยังไม่รู้สึกว่ามันต่ำน่ะคับบางทีรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ธรรมดาซะด้วยซ้ำ บางทีหน้าซ้ำๆก็แทบจะชาด้าน ไม่ได้ขวนขวายหรือพยายามหาสิ่งบำเรอทางเพศด้วยซ้ำ ผมกลับมองโลกในแง่ที่ว่่่าผมไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร ถ้าไม่ดูซิครับ น่าจะต้องไปหาทางออกจากการลงมือปฏิบัติจริงซะมากกว่า

    สุดท้ายคำพูดของผมอาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคนในที่นี่ (ซึ่งอาจจะมองผมเป็นพวกขยะทางธรรมไปแล้ว 555+) นี่คงเป็นคำพูดของคนที่ยังมีกิเลสหนากว่าใครในบอร์ดนี้ก็ได้ แต่อย่างน้อยพูดตรงๆว่าการที่ผมได้มาสนทนาแล้วก็ได้มาดูบอร์ดต่างๆของคนในเว็บนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า มันยังมีอะไรดีๆที่ผมยังไม่รู้อีกเยอะเหมือนกัน ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆความเห็นและทุกๆคนในเว็บบอร์ดนี้มา ณ ที่นี้ด้วยน่ะคับ

    ทั้งนี้ทั้งนั้น คำถามของผมที่ถามผู้อ่านไปในแต่ละข้อ ผมมองว่าจะตอบยังไงก็ได้ ไม่ว่าจะออกหัวหรือก้อยก็ได้ทั้งนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นหรือทัศนคติของผู้เขียนเท่านั้น การตอบที่แตกต่างกันนั้นไม่ผิด ความแตกต่างทางความคิด มันจึงก่อให้เกิดศิลปะการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันทำให้คุณภาพชีวิต คุณภาพคน แล้วบุคลิกของบุคคลนั้นแตกต่างกัน ส่วนตัวผมเอง บางอย่างผมก็อยู่ในกรอบ บางอย่างก็คิดนอกกรอบ นอกคอกบ้าง ศิลปะการใช้ชีวิตของผมเป็นอย่างนี้ โปรดอย่าถือโทษโกรธเคืองถ้าความเห็นไม่ตรงกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...