จักรวาลคืออะไร ความไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอย่างไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย neoth, 11 ตุลาคม 2005.

  1. neoth

    neoth สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    และจัรวาลเกิดขึ้นได้อย่างไร
    อยากรบกวนถามท่านใดก็ได้ที่ท่านมีความรู้ในเริ่องนี้ เพราะมันคาใจผมมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้วอยากรู้จริง ๆ แต่คงไม่มีอำนาจสมาธิพอที่จะเดินทางไปเองได้ ขอความกรุณาบอกด้วยครับ
     
  2. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ก่อนนอน ให้กลับตา ตั้งจิตอธิษฐาน และกำหนดจิตให้แน่วแน่
    ขอให้แสงแห่งพลังจักรา ที่เป็นอมตะ แห่งนิรันดร์จงได้มาสิงสถิตย์ในตัวข้า

    ขอให้พลังแห่งเมตตาธรรม ได้บังเกิดแก่ตัวข้า บังคับจิตของข้าฯ เข้าสู่ภวังค์
    แล้วท่านก็จะได้รู้ได้เห็นว่า คำว่า "จักรวาล" นั่นคือ "จักร" ที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันไปตามกระแสแห่งดวงจิต อันเป็นที่มั่น อันเป็นศูนย์กลางแห่งมวลทั้งหลาย

    ดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าที่เป็นจริง เปรียบเสมือนดวงจิตที่ส่องประกายในเลิศหล้า ที่ทอแสงแข่งกับดวงจันทราที่สว่างไสวในยามค่ำคืนอันมืดมิด

    หากท่านกำหนดจิตเห็นประกายแห่งมวลดารา แล้ว ... ท่านจะพบกับ "จักรวาล" หากจิตของท่านเจิดจ้าผุดประกายเหมือนสุริยัน ท่านก็จะพบกำเนิดแห่งสุริยะจักร ... ฉันนั้น แล

    นั่นคือคำอธิบายของคำว่า "จักรวาล"
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    เรื่องจักรวาลนี่ เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เกินกรอบความคิด และจิตนาการของมนุษย์มากครับ แต่มนุษย์เราก็ชอบค้นคว้าค้นหากัน ผมเองก็สนใจมากครับ วัยเด็กๆเข้าท้องฟ้าจำลองบ่อยมาก

    แม้แต่นักวิทยาศาสตร์เองก็ตามศึกษาและก็ยังคงไล่ตามปรากฎการณ์ที่มองเห็นจากการสังเกตจากปัจุจบัน ย้อนกลับไปสู่อดีต เพื่อจะอธิบายที่มาที่ไป ตั้งกฎเกณฑ์กันขึ้นมามากมาย แต่จากการศึกษาในที่สุดเขาก็ไม่ทราบว่าอะไรอยู่เบื้องหลังแห่งการก่อกำเนิด

    ไอสไตน์ เคยพูดถึงการสร้างจักรวาลว่า "พระเจ้าคงไม่ทอดลูกเต๋าครั้งเดียวหรอก"
    สตีเฟ่น ฮอกินส์ ยังบอกว่าวิทยาศาสตร์ยังขาดความรู้ในประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งก่อนการเกิด Big Bang แล้วก็มักจะพูดถึงเรื่อง"พระผู้สร้าง"ว่าท่านเป็นสุดยอดนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแห่งจักรวาล


    ผมมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทฤษฏีของพระผู้สร้างของ
    อาจารย์ปริญญา ตันสกุล จะ้เล่าให้ฟังกันครับ...เผี่อจะเป็นประโยชน์กันบ้าง..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • nebula.jpg
      nebula.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.6 KB
      เปิดดู:
      229
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2005
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    Episode 1 การอุบัติขึ้นค้วยตนเอง

    มีคำพูดอยู่คำนึงครับว่า "จักรวาลอยู่ในตัวเรา" อยากรู้อะไรลองค้นหาที่ตัวเราเอง จะพบคำตอบได้เช่นกันครับ...

    เริ่มเล่าตั้งแต่ก่อนมี"พระผู้สร้าง"กันเลยครับ..

    ก่อนการอุบัติขึ้นของจักรวาลมีเพียงสนามพลังงานที่เว้งว้างว่างเปล่าและความมืดมิดหาที่สิ้นสุดไม่ได้ แต่ในความไม่มีนั้น มี "แก่นแท้ของอนัตตา"ดำรงอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปและเกิดการเคลื่อนไหลไปตามทิศทางการหมุนวนของสนามพลังงานสากลนี้ด้วย

    ในขณะที่หมุนวนไปต่างก็เริ่มจัดตัวกันอย่างเป็นระเบียบโดยหมุนวนเข้าหาศูนย์กลางของสนามพลังงานสากลนั่นเอง การหมุนวนดังกล่างนี่เกิดขึ้นเมื่อใด หรือใช้เวลานานเท่าใดก็มิมีใครสามารถหยั่งถึงได้ มีเพียงอนุภาคของแถบสเปตตรัมของแสงที่ค่อยๆจัดเรียงตัวรวมกันเข้าหาศูนย์กลางและหมุนวนรวมกันจนเข้มข้นในระดับหนึ่ง....

    ฉับพลันก็เกิดการอุบัติขึ้นใหม่ของรูปธรรมหนึ่ง อันเกิดจากการรวมตัวของสรรพสิ่งซึ่งเป็น"แก่นแท้ของอนัตตา"ที่เคยมีดำรงอยู่ในสนามพลังงานสากลนั้น และเป็นจุดศูนย์กลางของการหมุนวนด้วย อันเป็นที่มาแห่งการอุบัติขึ้งด้วยตนเองของ "จิตจักรวาล" หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาล เป็นพลังงานที่มีความสมดุลในตนเอง เป็นความมีที่เหมือนไม่มี ในที่นี้ก็คือ "ความว่าง"หรือ"สุญญตา" เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่อุบัติขึ้นเองเมื่อ 8,100,060 ล้านปี (แปดล้านหนึ่งแสนหกสิบล้านปี) ที่ผ่านมา

    และเริ่มมีการสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกเป็นครั้งแรก คือ "สำนึกแห่งการรู้คิด" ในช่วงแรกนั้นท่านก็มิต่างอะไรกับเด็กแรกเกิดครับ.. คำถามแรกที่ถามตนเองเพื่อให้ได้คำตอบมีอยู่ 3ประการคือ

    "นี่เราเป็นใคร?"
    "มาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร? "
    "ที่นี่คือที่ไหน?"
    ไม่ว่าจะพิจารณาเนิ่นนานไปแค่ไหน คำตอบคือ "ความเงียบ"

    การเป็นผู้อุบัติขึ้นมาใหม่ ย่อมไม่มีรหัสข้อมูลจากประสบการณ์การเรียนรู้ใดๆ เพราะเป็นผู้อุบัติขึ้นใหม่ อุบัติด้วยตนเอง และเป็นผู้ไม่มีอดีต...

    เมื่อไม่มีคำตอบ รูปธรรมจิตจักรวาล จึงได้สั่นสะเทือนทางจิตสำนึกเป็นครั้งที่สอง นั่นคือ "คิดที่จะรู้" อันมีหัวใจสำคัญดังนี้คือ...

    "ความใฝ่รู้"
    "การเป็นผู้แสวงหาความรู้ "
    "การเป็นครูคนแรกของและคนสุดท้ายของตนเอง"

    มีคำถามมากมายที่ต้องการรู้ จึงเคลื่อนตนเองไปในสนามพลังงานสากลทุกทิศทุกทางเพื่อหาคำตอบ....ความรู้ใหม่ที่ค้นพบได้ในขณะนั้นก็คือ ....

    สถานที่ซึ่งตนดำรงอยู่นั้นเป็นสนามพลังงานที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมาก แม้จะเดินทางค้นหาขอบเขตสิ้นสุดไปยังทิศทางใด ก็มิอาจพบขอบเขตสิ้นสุดนั้นได้เลย ทั้งๆที่รู้อยู่ว่า

    "ขอบเขตสิ้นสุดนั้นมีอยู่จริง"

    จึงพบว่าท่ามกลางความเวิ้งว้างเสมือนไร้ขอบเขตสิ้นสุดนั้น

    "มิมีผู้ใดอีกเลย นอกจากเราเท่านั้น"

    จึงถามตนเองต่อไปว่า..(เป็นคำถามสำคัญครับ..)
    "ถ้ามีใครสักคนที่เหมือนเราทุกอย่าง มาอยู่กับเราในขณะนี้ก็น่าจะดีไม่น้อยเลย จะได้ถามเขาว่าเราเป็นใคร มาจากไหน"

    เพียงแค่สิ้นสุดการกำหนดนึก ในฉับพลันนั้นเอง...! ก็เกิคอีกสี่งหนึ่งที่มีคุณสมบัติเหมือนตนเองทุกประการ มีรูปธรรมทางพลังงาน 12 เหลี่ยมมุม...ตรงกันทุกประการ ดั่งกับฝาแฝด ด้วยเหตุแห่งการ "กำหนดนึก" ของตนเท่านั้นเอง จึงได้ความรู้ใหม่จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น..

    ขั้นต่อมา รูปธรรมจิตจักรวาลดวงใหญ่ทั้งสองรูปธรรมละก็ยังได้สร้างรูปธรรมทางพลังงาน11เหลี่ยมมุม ขึ้นมาอีกจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน...
    รูปธรรมเหล่านี้ที่อุบัติขึ้นมาใหม่เรียกว่าเป็น "จิตจักรวางดวงเล็ก"เป็นอาณาจักรหรือ"แดนสุญญตา"ที่ดำรงอยู่ในสนามพลังงานสากลนั้นนั่นเอง...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • nebula.gif
      nebula.gif
      ขนาดไฟล์:
      48 KB
      เปิดดู:
      121
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2005
  5. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    วิธีตรวจจักรวาล ภพ ๓ และโลกันต์



    [​IMG]
    ลักษณะภพ ๓ และโลกันต์[​IMG] วัตถุประสงค์และวิธีตรวจ [​IMG] ภูมิ ๓๑


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="45%" border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid" align=middle>อรูปภูมิ ๔</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อากิญจัญญายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>วิญญาณัญจายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid" align=middle>


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทธาวาสภูมิ ๕ ชั้น</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อกนิฏฐภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทัสสีภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทัสสาภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อตัปปาภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">
    ทุคคติภูมิ ๔





    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message -->
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    Episode 2 การก่อกำเนิดเอกภพและจักรวาล universe>Galaxcy

    รูปธรรมจิตจักรวาลดวงใหญ่ ซึ่งเป็นผู้กำหนดสร้างจิตจักรวาลรูปธรรมอื่นๆขึ้นมานั้น ได้เรียนรู้ว่าสรรพสิ่งทั้งหมดที่ตนสร้างขึ้นมานั้น ล้วนเป็นสรรพสิ่งในมิติของแก่นแท้ หรือในมิติทางพลังงานทั้งสิ้น ถึงแม้จะอุบัติขึ้มมามากมายเพียงใด ก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนความว่างโล่งของสนามพลังงานสากลอันไพศาลนั้นได้เลย
    ปณิธานแห่งการรู้คิดในลำดับต่อมา ของจิตจักรวาลดวงใหญ่ก็คือ....

    "เราจะเปลี่ยนแปลงความเวิ้งว้างว่างโล่งนี้เสีย"

    ปฏิบัติการใหม่ ด้วยกระบวนการสั่นสะเทือนตนเองเพื่อการสร้างใหม่ในมิติที่หยาบยิ่งกว่าเดิม ซึ่งมนุษย์เรียกว่า "ตัวตน" หรือสรรพสิ่งทางกายภาพนั่นเอง

    ว่าแล้วท่านก็ทรงกำหนดสร้าง สนามพลังงานใหม่ขึ้น ทับซ้อนสนามพลังงานสากลที่มีอยู่เดิม ให้มีขอบเขตจำกัดเป็นทรงกลมคล้ายผลส้ม และกำหนดให้สนามพลังงานนี้มีการหมุนวนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องตลอกเวลา
    มนุษย์เรียกสนามพลังงานที่สร้างขึ้นใหม่นี้ว่า "เอกภพ"

    แล้วก็กำหนดสร้างสรรพสิ่งที่เรียกว่า ระบบกาแลคซี่จำนวนถึง 12,500 ล้านแกแลคซี่ อันประกอบด้วยดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และเทหวัตถุทั้งหลายจำนวนมากมาย โดยมีกาแลคซี่ที่เป็นระบบใหญ่ในเอกภพนับได้จำนวน6 กาแลคซี่ และมี 7จักรภพ(ระบบสุริยะ) ซึ่งมีกาแลคซี่ทางช้างเผือกเป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดใน6กาแลคซี่ ซึ่งมีถึง2ระบบสุริยะ
    หนึ่งในนั้นก็มี."ดาวเคราะห์โลก"ดวงนี้ ดำรงอยู่...ในพิกัดที่เป็นกึ่งกลางของทรงกลมเอกภพ

    โดยกำหนดให้ทุกสรรพสิ่งมีพลังอำนาจในตนเอง ในการสั่นสะเทือนแก่นแท้ของตนเองเพื่อการดำรงอยู่ เพื่อการสร้างใหม่ และเพื่อการเสื่อมสลายตัวตนมายา อันเป็นเปลือกนอกได้อย่างอิสระเสรี ในอันที่จะช่วยค้ำจุนความสมดุลของทรงกลมเอกภพทั้งระบบ ทั้งใน มิติทางกายภาพ และ มิติทางพลังงานของแก่นแท้..

    ทั้งระบบย่อยถึงระบบใหญ่ สรรพสิ่งจึงถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่นั้น.. ทุกสี่งจึงเคลื่อนไหลไปตามกระแสธรรมชาติได้ อย่างสมดุล และเป็นหนึ่งเดียวกัน..

    มนุษย์สามารถเรียกดินแดนหรือสถานที่ทุกแห่งบนสนามพลังงานสากล ที่มีรูปธรรมแห่งสุญญตาทั้งหลายเหล่านี้ดำรงอยู่ว่า "แดนสุญญตา"

    และมนุษย์อย่างเราก็คงได้คำตอบแล้วว่า"อนัตตาเป็นผู้สร้างอัตตา" นั่นเอง


    โครงสร้างของสากลจักรวาล จึงเป็นระบบระเบียบ มีกฏจักรวาลชัดเจนด้วยอัฉริยภาพของผู้สร้าง การทดลองและความอยากรู้อยากเห็นขององค์แห่งธรรมชาตินั่นเองครับ.. ไม่ได้สับสนอลหม่านบูดๆเบี้ยว และไม่ได้เกิดจากความบังเอิญแน่นอน
    "ทุกอย่างล้วนมีเหตุ มีปัจจัย" ดังที่"พระพุทธเจ้า"ท่านทรงตรัสเอาไว้..

    เนื้อหาการเรียนรู้จาก อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ครับ..น่าคิดดีไหมครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2005
  7. bluesky

    bluesky สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +17
    ดูเหมือนมันใหญ่สำหรับเรา แต่มันอาจจะเล็กสำหรับบางสิ่งบางอย่าง ..อยู่เหนือความรู้และความเข้าใจของเราในตอนนี้
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    Episode 3 กาแลคซี่ทางช้างเผือก และความสัมพันธ์ระหว่างเอกภพ

    "กาแลคซี่ทางช้างเผือก" ในปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทรงกลมเอกภพ อันมี "ระบบสุริยะ ถึง 2 ระบบ" ค้ำจุนไว้ ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกันบนแขนกาแลคซี่ทางช้างเผือก อีกฟากหนึ่งมีระบบสุริยะและดาวเคราะห์รวม 5 ดวง ส่วนระบบสุริยะของเรามีดาวเคราะห์รวม 9 ดวง โดยมีดาวพูลโตเป็นเศษส่วนเมอริเดี้ยน จะเข้ามาใกล้ แล้วหายออกไปไกลๆเสมอ กำหนดให้โลกเป็นผู้นำระบบโดยมีมุมเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ 23องศาครึ่ง โคจรเป็นวงรี (เหมือนรถจักรยานกำลังเข้าโค้งต้องเอียงเพื่อรักษาศูนย์ถ่วง) และจำเป็นต้องมีรูปธรรมพร้อมกับจิตวิญญาณเพื่อมาทำหน้าที่สร้างสรรค์ดูแล และทำหน้าที่ให้สมบูรณ์พร้อมในเวลาเดียวกัน

    กำหนดให้ดาวเคราะห์บางดวงดวงที่มีสี่งมีชีวิต มีหน้าที่ช่วย "ค้ำจุนสมดุลของเอกภพทั้งระบบ"โดยให้สรรพสี่งและสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มี "กลไกทางไฟฟ้า" ในการผลิตและปลดปล่อยพลังอำนาจทางไฟฟ้า เพื่อผลิตพลังงานมอบให้กับระบบใหญ่อีกทอดหนึ่ง โดยเฉพาะ"ดาวเคราะห์โลกเสรี"ดวงนี้ ก็ได้ถูกกำหนดสร้างและติดตั้งวัตถุที่อยู่ใจกลางโลกที่เป็น "แก่นแท้" มีอะตอมของออกซิเจนเหลวที่เข้มข้น และบริสุทธ์สีเขียวปีกแมลงทับ โดยให้มีความไวต่อประจุไฟฟ้าที่เป็นบวก+และลบ- โดยเฉพาะกับอนุภาคประจุไฟฟ้าที่เป็นประจุบวก+

    โดยสร้างกลไกให้สิ่งมีชีวิตสามารถผลิตประจุไฟฟ้าออกมาได้ และเมื่อกระทบกันก็จะเกิดปฏิกริยาทางไฟฟ้าขึ้นทันที จะเกิดการระเบิดแตกตัว และหลุดออกมาเป็น"ก๊า๊ซออกซิเจน" แทรกซึมขึ้นมาสู่ผิวโลกและฟุ้งกระจายไปทั่วบรรยากาศ รวมทั้ง"สร้างแรงเหวี่ยง"และ "สนามแม่เหล็กไฟฟ้า" ห่อหุ้มเป็นสนามพลังงานของโลกด้วย ช่วยป้องกันเทหวัตถุจากนอกระบบโลกเหมือนรั้วบ้านที่แข็งแกร่งด้วย

    และกำหนดให้มี "ประตูมิติ" อยู่บริเวณปลายแขนทั้งสองข้างของกาแลคซี่ ใช้เป็นทางผ่านเข้าออกของจิตวิญญาณที่อาษาเข้ามาทำหน้าที่ เรียกว่า"ด่านนภาลัย" หรือ "ประตูแห่งนิพพาน"

    และดวงดาวที่ปรากฏบนท้องฟ้าที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเป็นดาวฤกษ์หรือดวงอาทิตย์จำนวนมากนั้น ก็มิได้เป็นดวงอาทิตย์ไปเสียทั้งหมดเป็นเพียง"ดาราประดับฟ้า" ซึ่งส่วนมากสะท้อนแสงได้ สลับกับดวงอาทิตย์อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อลดทอนความร้อนแรง ไม่ให้ท้องฟ้าดูโล่งจนดูวังเวงเกินไป และเป็นเพียงแสงสว่างเพื่อ"นำทางกลับบ้าน"บนถนนแห่งทางช้างเผือก
    ถ้าหากเป็นพระอาทิตย์ไปหมดดังที่นักวิทยาศาสตร์บอกไว้..จะร้อนแรงเกินที่สี่งมีชีวิตจะดำรงอยู่ได้..

    ในจุดนี้ คุณสตีเฟ่น ฮอกิ้นส์ นักวิทยาศาสตร์ผู้โด่งดัง ยังเคยสงสัยว่าทำไมเวลากลางคืน โลกหันเข้าหาด้านมืด ได้รับแสงจากดวงดาว (พระอาทิตย์)จำนวนมากมายหลายดวง แต่ทำไมโลกไม่ร้อนจนไหม้เกรียม หรือสว่างไสวเหมือนเวลากลางวัน แล้วก็เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะแสงกำลังเดินทางมาไม่ถึง หรือดวงดาวเหล่านั้นกำลังเคลื่อนที่ห่างจากโลกเราออกไป..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2005
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    Episode 4 โลกและรูปธรรมของสิ่งมีชีวิต

    "โลก" เริ่มแรกเดิมที่ได้สร้างยังเป็นของแข็งข้น ที่ยังไม่สมบูรณ์
    สี่งมีชีวิตแรกสุดยังไม่อาจดำรงอยู่ได้ จึงกำหนดสร้างสร้างของเหลวที่เรียกที่เรียกว่า"น้ำ"ช่วยทำละลายให้อ่อนนุ่ม กำหนดพื้นที่ราบ ภูเขา ทะเลทราย แหล่งน้ำไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม (มีการออกแบบนะครับ..) และจากนั้นได้"กำหนดสร้างพืชพันธุ์ และสรรพสิ่งทางกายภาพ"โดยเฉพาะ "ต้นไม้"ทั้งเล็กและใหญ่ให้เป็น"กลไกทางไฟฟ้าที่สามารถผลิตไฟฟ้า"ที่เป็นประจุบวก ผ่านใบ กิ่งก้าน ลำต้น และราก ลงสู่พื้นดิน เข้าไปจุดระเบิดอะตอมออกซิเจนเหลวที่อยู่ใจกลางโลก เพื่อสร้างแรงเหวี่ยวหมุนรอบตัวเองของโลก และผลิตก๊าซออกซิเจน ปกคลุมพื้นผิวโลก..
    จะเห็นว่าท่านก็เป็นนักทดลองและคอยแก้ปัญหา ไม่ต่างกันกับนักวิทยาศาสตร์โลกเช่นกัน..เพียงแต่มุ่งไปในทางสร้างสรรค์ และไม่ทำลายสิ่งหนึ่งเพื่อไปสร้างอีกสิ่งหนึ่ง...เหมือนกับมนุษย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2005
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    ต่อมาปรากฏว่า ต้นไม้ไม่สามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอ เนื่องจากให้ "ประจุไฟฟ้าที่เป็นบวกคงที่เกินไป" จึงแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการทดลองสร้าง "สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนย้ายตำแหน่งไปมาได้บนพื้นผิวโลก" ให้มีรูปแบบและผิวลำตัวเหมือน"ต้นไม้"ที่เดินได้..
    "ไดโนเสาร์"จึงอุบัติขึ้นนับแต่นั้น มีมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งบนบก ทั้งในน้ำ และปรับปรุงเพิ่มกลไกทางไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ทั้งพวกคอสั้นและพวกคอยาว และให้มีน้ำหนักมวลมากๆ ให้เกิดความสมดุลด้านน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลก..
    ช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากเพราะเป็นช่วงทดลอง ที่มนุษย์มักจะเรียกกันว่า "การวิวัฒนาการ"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kkn70101.gif
      kkn70101.gif
      ขนาดไฟล์:
      53.4 KB
      เปิดดู:
      285
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2005
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    แต่โลกและจักรวาลมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก.. พลังงานยังไม่เพียงพอ จึงทดลองสร้าง "เผ่าพันธ์มนุษย์"ที่มีกลไกทางไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ"ไร้ขีดจำกัด "โดยนำเอารูปธรรมกลุ่ม "สตีฟฟา"ที่มีพัฒนาการสูงสุดในขณะนั้นมาดัดแปลงสร้างและแก้ไขจนเกิดต้นแบบมนุษย์กลุ่มแรกมาสู่รูปแบบมนุษย์ในยุคปัจจุบัน เมื่อ 60,000 ปีก่อน ที่เรียกกันว่า "อดัมและอีฟ" มีจำนวนรวม 300 รูปธรรม มีทั้งกลุ่มผู้หญิง และกลุ่มผู้ชายไม่ได้มา เพียง 2คนอย่างที่เราเข้าใจกัน..
    มีต่อนะครับ..ขอพักเดี๋ยวเดียว..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • photo1.jpg
      photo1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.5 KB
      เปิดดู:
      275
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2005
  12. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    อืม..ครับ เป็นอจินไตย จริงๆ
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    ใช่ครับ k-Attawat เป็นอจินไตยจริงๆ ..หวังว่าคงจะอ่านง่ายๆไม่ปวดหัวนะครับ..ใช้ภาษาที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจกันง่ายหน่อย..จริงๆแล้วไปหาอ่านกันได้ครับ กับหนังสือชุด"จิตจักรวาล" ทุกๆซี่รี่ ตอนนี้มีอยู่ 20 กว่าชุดแล้ว ควรค่าสะสมเอาไว้ครับ...เป็นสมบัติคู่โลกในยุคพลังงานใหม่..มีรายละเอียดที่น่าสนใจมากมาย ที่เติมเต็มความรู้เดิมของเรา หรือเปลี่ยน"ดวามเชื่อ"ให้เป็น"ความรู้"ได้อย่างดีทีเดียวครับ ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • cos-illust.gif
      cos-illust.gif
      ขนาดไฟล์:
      22.6 KB
      เปิดดู:
      180
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2005
  14. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    จักรวาล "แดงเดือด" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พายุเลือดและวิญญาณพล่าน"

    ปล. ใครจิตแข็งให้เพ่งไปที่ avatar ของผมได้เลยครับ !!!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    แดงเดือดดีจริงๆครับ...เพ่งไม่ไหวแล้ว..ช่วยด้วยคร๊าบ..บ...
    หลุมดำดูดผมลงไปแล้ว..ว...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • chih028-3f.jpg
      chih028-3f.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.2 KB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2005
  16. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    คุณmead เพ่งจริงๆ หรือครับ ... ผมล้อเล่นเฉยๆนะ ฮิฮิ !!!
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    Episode 5 หน้าที่ของการเป็น"คนสองมิติ"

    จิตวิญญาณที่มาจากแดนสุญญตา ซึ่งเป็นตัวตนภาคแรกอันสูงส่ง ได้แบ่งคลื่นความถี่เป็นจิตวิญญาณมนุษย์ ซึ่งถือเอา "ปณิธานแห่งนิพพาน" ติดตัวมาด้วย ให้มาทำหน้าที่บนดาวเคราะห์โลกเสรีใบนี้ โดยต้องมีชุดสวมใส่หรือ"เครื่องยนต์แห่งกรรม"เป็นร่ายกายมนุษย์ เพื่อมาทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา คือการเป็น"คนสองมิติ"ของมนุษย์ ในการสั่นสะเทือนตนเองใน"มิติทางกายภาพ"และ"มิติทางพลังงาน"เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก+เพื่อมอบประจุบวก+ ให้แก่ดาวเคราะห์โลก ในอันที่จะนำไปใช้สร้างแรงเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองของแกนโลก เพื่่อช่วยให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องและสมดุล ช่วยค้ำจุนเอกภพซึ่งเป็นระบบใหญ่อีกทอดหนึ่ง..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Aura.jpg
      Aura.jpg
      ขนาดไฟล์:
      189 KB
      เปิดดู:
      88
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2005
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    ด้วยเหตุนี้ รูปธรรมที่คิดแล้วกระทำด้วย"อารมณ์ด้านบวก"ออกมากลไกสมองซีกขวาก็จะทำงานปลดปล่อย "สายธารแห่งประจุ+" ซึ่งเป็นประจุไฟฟ้าที่โลกต้องการเป็นพลังงานให้กับโลก ทำให้โลกมีความสมดุล..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2005
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    ในทางตรงกันข้าม ถ้ารูปธรรมนุษย์คิดและกระทำด้วย"อารมณ์ที่เต็มไปด้วยกิเลส"ความโลภ ความโกรธ ความหลง หรืองมงายในตัวตนมายา อันนำพาไปสู่พฤติกรรมขยะใดๆ กลไกสมองจะปลดปล่อย "สายธารแห่งประจุลบ-"ออกมา ซึ่งเป็นประจุไฟฟ้าที่โลกไม่ต้องการ
    และอนุภาคประจุลบเหล่านี้จะไปเกาะรวมตัวกันบนสนามพลังงานของโลก และเฝ้ารออนุภาคที่มีประจุบวก+มาเปลี่ยนคุณสมบัติให้เป็นกลาง (เหมือนน้ำกับน้ำมันที่รวมตัวกันไม่ได้ เป็นขยะล่องลอยอยู่บนสนามพลังงานของโลก)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2005
  20. เจ้าโก้

    เจ้าโก้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +939
    จักรวาล เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 15,000 ล้านปีก่อน ตามหลักฐานของนักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบัน
    โลกเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3,000 - 4,000 ล้านปีก่อน
    สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ก็เกิดมาเมื่อประมาณ 2,500 ล้านปีก่อน
    ไดโนเสาร์ สูญพันไปแล้ว 65 ล้านปี
    มนุษย์สายพันธุ์ โฮโมซาเปี้ยน เกิดมาเมื่อไม่กี่แสนปีก่อน
    ยุคหิน ยุคไฟ ยุคเหล็ก ห่างจากยุคของเราไปไม่กี่หมื่นปี
    อารยธรรม ก่อนที่จะมีตัวอักษรใช้ (ตามความเชื่อของนักวิทยาศาตร์ยุคปัจุบันส่วนใหญ่) ย้อนไปได้ ราว 6,000 ปี เรียกว่ายุคก่อนประวัติศาสตร์
    ล่มสลายไปแล้วก็เช่น อียิปต์ โรมัน เป็นต้น
    ศาสนา ของโลก เกิดมาประมาณ 2,000- 3,000 ปีก่อน
    400-500 ปีก่อน กลุ่มประเทศอารยธรรมชั้นนำของโลก ยังเชื่อว่าโลกแบน
    200-300 ปีก่อน ยังมีสงครามล่าอาณานิคม กันอยู่เลย
    โคลัมบัสก็ไปเจออเมริกา ยุคนั้น ยุโรปเป็นใหญ่ในโลก การพัฒนาวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป
    ยุคสมัยของพวกเราจริงๆ เริ่มเมื่อ60กว่าปีก่อน หลังสงครามโลก ไอสไตน์มีส่วนสำคัญที่ทำให้วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจากสมการของท่าน
    คอมพิวเตอร์ที่พอใช้งานได้ ที่ไม่ใช่ อินิแอค ก็เพิ่งเกิดพร้อม windows 95 และเรียกได้ว่า เพิ่งจะกระจายไปถึงคนทั่วไป
    แค่ 10 ปี ก่อน?
    อารยธรรมวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ 300 ปี?(ของโลกเรา) กับอายุจักรวาล 15,000 ล้านปี?

    เรา...กำลังจะไปไหนกัน?

    หากมีดาวสักดวง ที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตเร็วกว่าโลก
    และอารยธรรมของพวกเขา สามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้ มากกว่าโลกเรา
    ซัก 1,000 ปี 10,000 ปี 100,000 ปี หรือ...
    อาจเป็นหลายล้านปี โดยอารยธรรมนั้นไม่ล่มสลาย

    พวกเขาจะก้าวหน้าแค่ไหนหนอ?
    ก็ไหนจักรวาลนี้ มีดาวแบบดวงอาทิตย์อยู่ตั้งเป็น ล้านล้านดวง ( 1 ตามด้วย 0 12 ตัว)
    ...
    หิวแล้ว กิน มาม่าก่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...