จัดการวัดห้ามไหว้พระ นำเสนอ ที่ประชุมมส.

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 28 กรกฎาคม 2008.

  1. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    จัดการวัดห้ามไหว้พระ นำเสนอ 'ที่ประชุมมส.'

    [​IMG] พบวัดพิลึก ห้ามไหว้พุทธรูป (23 คน กำลังดูอยู่) ([​IMG] 12345678)


    จัดการวัดห้ามไหว้พระ นำเสนอ 'ที่ประชุมมส.' [27 ก.ค. 51 - 03:20]


    [​IMG]
    หลวงปู่เกษม อาจิณฺณสีโล ​


    กรณีมีผู้ร้องเรียนเข้ามายัง
     
  2. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    อนุโมทนาสาธุค่ะ.....การเข้าไปตรวจสอบเป็นสิ่งที่ดีค่ะ
     
  3. Laywoman

    Laywoman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +201
    เร่งตรวจสอบเลยค่ะ
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
  5. พระวิภังค์

    พระวิภังค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +2,238
    ขออนุโมทนากับ พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) ที่กล่าวแก้ด้วยข้อความในพระไตรปิฎก ...เพราะหลวงพ่อเกษม อาจิณฺณสีโล ท่านบอกว่าท่านยึดถือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ตามพระไตรปิฎก
     
  6. pipat

    pipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +128
    เร่งแก้ไขด่วนครับ
     
  7. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    เคยอ่านพระไตรปิฎก เรื่อง โทษของการห้ามผู้อื่นบูชาพระธาตุ หรือเปล่าล่ะ ????????????????????????????????????
    ถ้าไม่เคย แปลว่า ที่บอกว่าเชื่อตามพระไตรปิฎก ถือว่าเป็นแค่ข้ออ้างแล้วล่ะ
     
  8. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    ในเรื่องผ้ายันต์ขอตอบนะครับ ยันต์ต่างเช่น นโมพุทธายะ นี่หมายเอาพระพุทธเจ้า5พระองค์ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ตำรายันต์ท่านพระอาจารย์เกษม คงไม่เคยศึกษานะครับว่าตำรายันต์เกิดมาจากคัมภีร์มูลกัจจายน์ ที่พระมหากัจจายน์หรือพระสังกัจจายน์ท่านแต่งขึ้นเพื่อให้สัตว์โลกที่มีวาสนาบารมีน้อยได้ใกล้ชิดพระพุทธองค์เพียงลัดนิ้วมือ บ้านผมมีธงแดงหลวงพ่อฤาษีลิงดำติดหน้าบ้านก็ไม่เห็นเป็นไรเลยทำอะไรก็ดีไปหมด ผมว่าทุกอย่างขึ้นกับจิตนะจิตเราดีอยากอุทิศบุญก็อุทิศได้ไม่ใช่ว่ามีผ้ายันต์จะอุทิศบุญไม่ได้
     
  9. MarkZilla

    MarkZilla เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +191
    ควรตรวจสอบไถ่ถาม ท่านก่อน บางสิ่งเป็นที่คนขี้เหม็นอย่างเราอย่างท่านตัดสินได้ หรือไม่ เทศน์ของหลวงปู่ตื้อเป็นตัวอย่าง หักมุมในหลายแง่หลายมุม แต่ทุกมุมมันตงที่ตรงทางไปเสียหมด อย่าให้พระดีๆต้องถูกทำลายโดยกระแสของคนที่ ยังมีกิเลสในใจอยู่ อันเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดี ต่างความเชื่อเข้ามาทำลายโดยที่เรายืนมองอยู่ห่างๆด้วยความสะใจ ดังที่เคยเกิดขึ้น ผมไม่ได้เห็นด้วยกับคำสอนของท่านทั้งหมดเพราะเคยอ่านหนังสือของท่าน พระที่ไม่สะสม ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอามิส ไม่สนใจเรื่องทางโลก ระวังจะกลายเป็นบาปอันหาที่สุดมิได้ครับ
     
  10. คนตาบอด

    คนตาบอด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +42
    ท่านที่ไม่รู้จริง แต่กล่าวสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกไป ผลที่ออกมา อาจจะไม่ตรง ตามความจริง...

    เหตุที่เรา สักการะบูชา รูปเหมือนของพระพุทธองค์นั้น เป็นการเชื่อมโยงจิตใจของมษุษย์คนเราให้เชื่อว่า พระพุทธเจ้ามีจริง บุคคลที่สามารถหลุดพ้น จากราคะ โทสะ โมหะมีจริง ดังนั้น สิ่งที่แทนตัวตนของพระพุทธองค์ก้อคือ รูปเหมือนนั้นเอง ให้เรายึดเสมอไว้ในจิต ในใจของชาวพุทธศาสนิกชนว่า อย่างน้อยเลย เราเอง ไม่เห็นพระพุทธเจ้าด้วยสายตาตัวเอง แต่เราก็เชื่อเสมอว่า พระพุทธเจ้ามีจริง ธรรม คำสั่งสอนของพระองค์มีจริง ถ้าพระพุทธเจ้าไม่มีจริง มนุษย์เราสมัยนี้ คงไม่มีการบวชแล้วนับถือศาสนาพุทธอย่างแน่นอน ไม่มีวัด ไม่มีอุบาสก อุบาสิกา ไม่มีภิกษุ ไม่มีสามเณร

    แม้ภิกษุ-สามเณรเอง ก็มีพระพุทธรูปเหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่สักการะบูชา กราบไหว้ น้อนนำ ธรรมะ คำสั่งสอน ของพระพุทธองค์นำมาปฎิบัติบูชา

    การกราบไหว้บูชา แม้จะไม่แสดงถึงผลให้เห็นทันตา หรือผลในปัจจุบัน แต่ที่แน่นอนเลย ผลทางจิต หรือผลทางใจ แม้ในขณะที่เรากราบไหว้บูชา เราลึกถึง คุณพระรัตนตรัย อันมีค่ามหาศาลนั้น (พระพุทธองค์ตรัสว่า แม้เสี้ยววินาทีที่เรานึกถึงพระพุทธองค์ ก่อนตายผลบุญเหล่านี้ก็ทำให้เราไปสู่ภพ ภูมิ เทวดาได้)

    เทียบไม่ได้เลยกับการกราบไหว้รูปเหมือนของพระพุทธองค์ โดยในใจเรานั้น นึกถึงคุณของพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    แต่ถ้าพระสงฆ์เอง ห้ามมิให้ อุบาสก อุบาสิกากราบไหว์ รูปเหมือนของพระพุทธองค์ เรื่องนี้เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง แม้อุบาสก อุบาสิกา ตอนที่พระพุทธองค์ ยังไม่ดับขันธ์ปรินิพพาน ก็ยังกราบไหว้พระพุทธองค์ ไฉนเลย เมื่อพระองค์ ดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว อุบาสก อุบาสิกาทำรูปเหมือนนั้น ไว้กราบไหว้บูชาจะเป็นเรื่องที่ผิด

    ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ การที่เราจะทำให้ 3 สิ่งนี้ให้ครบถ้วน ล้วนเกิดจากศรัทธาเป็นแรกเริ่ม แต่นี้ที่ ท่าน ห้ามไม่ให้อุบาสก อุบาสิกากราบไหว้ เป็นการตัด ความศรัทธา ความเชื่อ ของบุคคลที่มีศรัทธาแล้ว และบุคคลที่เริ่มจะศรัทธาในพระพุทธเจ้า

    ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติว่า เพื่อนผมจะไปถวายจตุปัจจัย ในวัดแห่งหนึ่ง แต่มีเพื่อนผมอีกคนบอกว่า อย่าไปเลย พระวัดนั้น ไม่ใช่พระพุทธเจ้า และวัดนั้นก็เป็นเพียงแค่วัตถุ อย่าไปยึดมั่นถือมั่นเลย จงประพฤติปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเถอะ.. แต่ความเป็นจริงแล้ว พระวัดนั้นแม้จะไม่ใช่พระพุทธเจ้าจริง แต่ท่านก็แต่งกาย สำรวม กิริยา มารยาท ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เสมือนตัวแทนของพระองค์ในการประกาศศาสนา ในการนำหลักคำสอนของมาเผยแพร่ และวัดเอง ก็เป็นสถานที่ พักอาศัย สถานที่รวบรวม พระไตรปิฎก เป็นสถานที่สงบ ระงับ จากความวุ่นวาย ทั้งภายนอก และภายใน อันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ของภิกษุผู้มีใจสงบระงับแล้วจาก กิเลสความเศร้าหมอง ไม่มีความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลงแล้ว..

    ผมเองในฐานะที่เป็นปุถุชน คนมีกิเลสหนาอยู่ รู้สึกตกใจในเรื่องแบบนี้ เมื่อพระภิกษุเอง ท่านบอกมาแบบนี้แล้ว คนที่ไม่รู้เรื่องในด้านการปฎิบัติ ตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ไม่เข้าใจในส่วนที่ลึกละเอียดแล้ว จะจับผิด จับถูกในการปฎิบัติอย่างแน่นอน

    ผมขอกราบเรียนพระคุณเจ้าที่รู้เรื่องละเอียด ในส่วนนี้ ช่วยชี้แจง ให้ความกระจ่าง แก่ พุทธศาสนิกชน ชาวพุทธทุกคน ให้หายสงสัยด้วยครับ

    สาธุ.....
     
  11. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    ช่วยกันตรวจสอบดีแล้วครับ อะไรที่ผิดก็จะได้แก้ไขกันได้ทันท่วงที เดี๋ยวญาติโยมที่ไปปฏิบัติที่สำนักท่านจะเห็นผิดเป็นชอบ จะเป็นมิฏฉาทิฎฐิกันไปซะหมด ผมอยากให้ชาวพุทธเห็นถูกต้องตามคำสอนขององค์บรมศาสดา ซึ่งมรรค 8 ข้อแรก ก็สัมมาทิฎฐิ ถ้าผิดตั้งแต่ข้อแรกแล้ว บุคคลผู้นั้นก็ยากที่จะบรรลุธรรม ยากที่จะได้มรรคผล ยากที่จะได้เข้าพระนิพพานเอกันตบรมสุข รวมทั้งพวกเราที่เป็นพุทธศาสนิกชนทุกคนก็อยากจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ผู้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐ และเป็นที่เคารพสักการะบูชาสูงสุดของพวกเราให้อยู่ไปตลอด 5,000 ปี
    ................................................................................................................................
    นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ขอทุกท่านเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน
     
  12. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +847
    มิจฉาทิฐิ


    นั่งสมาธิเป็นหรือเปล่าวก็ไม่รู้ เห็นนรกสวรรค์ หรือเปล่าวก็ไม่รู้
    สอนแบบ แปลกๆ พระพุทธรูป เป็นตัวเเทนมรการเบิกพระเนตร
    มีเทวดาคุ้มครอง ทำอย่างนี้
    มิจฉาทิฐ ล้วนๆ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2008
  13. aero1

    aero1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +54
    ขณะที่พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ผู้ ที่นับถือพระพุทธศาสนาแล้วไม่นับถือพระพุทธรูป ถือว่าไม่ผิดหลักคำสอนตามพระไตรปิฎก แต่ไม่ควรลบหลู่ หรือห้ามไม่ให้คนอื่นไม่นับถือพระพุทธรูป เพราะพระพุทธรูปถือเป็นอุเทสิกเจดีย์ ซึ่งเป็นรูปสักการะแทนพระพุทธเจ้า และมีระบุในพระไตรปิฎกว่า องค์แทนพระพุทธเจ้าจะเรียกว่าเจดีย์ทั้งหมด แต่ไม่ ได้หมายถึงเจดีย์ที่มียอดแหลมๆ ทั้งนี้ จะประกอบด้วยเจดีย์ 4 รูปแบบ คือ 1.พระธาตุเจดีย์ คือ พระบรมสารีริกธาตุ 2.บริโภคเจดีย์ คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเคยใช้สอย เช่น ต้นโพธิ์ 3.ธรรมเจดีย์ คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน และ 4.อุเทสิกเจดีย์ คือ รูปเหมือน เช่น พระพุทธรูป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สังคมกำลังเกิดความแตกแยก พระสงฆ์ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่ชี้นำความถูกต้องให้ประชาชนไม่ควรที่จะสร้าง ความแตกแยกขึ้นในสังคมอีก

    http://www.thairath.co.th/offline.ph...&content=98419


    ผู้ ที่นับถือพระพุทธศาสนาแล้วไม่นับถือพระพุทธรูป ถือว่าไม่ผิดหลักคำสอนตามพระไตรปิฎก

    ท่านที่จะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ควรเข้าใจในเรื่องนี้ก่อน เพราะท่านเกษม ไม่ได้ลบลู่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่ท่านชี้ให้เห็นว่า อย่ากราบแค่ทองเหลืง ควรจะเข้าให้ถึงธรรมวินัยซึ่งคือ ตัวแทนที่แท้จริงของพุทธเจ้า หรือผู้สืบทอดอำนาจโดยชอบธรรม ต่างหาก
     
  14. พลัjจิต

    พลัjจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +18
    พระบ้าที่คุณว่านะ อนาคามีนะโว้ย หันดูตาม้าตาเรือมัง
     
  15. พลัjจิต

    พลัjจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +18
    รู้เลยว่าอะไรจะเกิดแต่ก็ไม่กลัว สุดๆไปเลยเจ๋งท่านเจ๋งจริงๆ หลวงพ่อเกษมเจ๋งสุดๆ
    พระที่รักษาพระวินัยยิ่งกว่าชีวิต พระที่ไม่มียศฐาบัญดาศักดิ์ ไม่รับเงินรับทอง กับถูกว่า
    ไอ่พระที่รับเงินรับทอง มียศฐาบัญดาศักดิ์ กับถูกยกย่อง มันน่าแปลก
     
  16. harn2002

    harn2002 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +2
    เท่าที่เคยได้ยินมา....

    คือเรื่องหลวงพ่อเกษมผมได้ยินมานานแล้ว เพราะมีคนที่รู้จักเขานับถืออยู่ แล้วเขามาเล่าให้ฟัง ไอ้เราก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ เพราพระอะไรห้ามไม่ให้แขวนพระ และที่บ้านก็ไม่ให้มีพระด้วย และถ้าจะเข้าไปที่วัดแห่งนี้ก็ห้ามแขวนพระเข้าไปด้วย เขาเคยชวนไปที่วัดเหมือนกันแต่ไม่ได้เข้าไป
    และจะเล่าสิ่งที่ทำให้เขานับถือหลวงพ่อเกษมให้ฟัง คือเมื่อก่อนเขาเจ็บขาเรื้อรัง ไม่หายคือเป็นมานาน และพอเขารู้จักหลวงพ่อเกษมและปฏิบัติตามที่ท่านบอก ขาที่เจ็บค่อยๆหาย และจนตอนนี้ขาไม่มีอาการเจ็บอีกเลย เขาเลยนับถือตั้งแต่นั้นมา คือเรื่องการโอนบุญให้เจ้ากรรมนานเวร อะไรนี่และ ที่จำได้อะนะ และเขาเล่าว่าที่หลวงพ่อเกษมไม่ให้แขวนพระเพราะว่า คนทุกคนมีเทวดาประจำตัว ถ้าแขวนพระเทวดาประจำตัวจะเข้าไกล้ และคอยช่วยเหลือไม่ได้ รวมทั้งผีปู่ผีย่า ผีบรรพบุรุษ จะเข้าไก้ลและคอยช่วยเหลือไม่ได้อะไรประมาณนี้และครับ
    อ๋อลืมบอกไปว่าคนที่เล่าให้ฟังเขาเป็นตำรวจ และเขาบอกว่าเพื่อนเขาก็นับถือหลวงพ่อเกษมกันหลายคนเหมือนกันครับ
    ผมแค่เล่าให้ฟัง ตามที่ได้รู้มานะครับ เพราะผมก็ไม่เคยเข้าไปที่วัดนี้เหมือนกัน
    สวัสดี......
     
  17. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    เป็นไปได้ไหมที่บางคนเคยสร้างพระพุทธรูปบริจาคไว้แล้วก่อนตายจิตไปจับยึดว่านี่เป็นพระพุทธรูปของฉัน หลังจากตายไปแล้วจิตก็เลยไปสถิตอยู่ในพระพุทธรูปนั้น?!
    บังเอิญพระเกษมสามารถเห็นได้ และมีเยอะจึงต้องการบอกว่า อย่าไปยึดติดกับพระพุทธรูป
    เป็นความหวังดี แต่วิธีการไม่แยบคายพอ ปุถุชนที่ยังไม่ได้ฌานอย่างท่านจึงไม่เข้าใจ การสอนลักษณะเดียวกันนี้คล้ายๆกับวิถีแห่งเซ็น คือเป็นชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งต่อมาการเผยแผ่แบบนี้จึงไม่เป็นที่นิยมในสังคมวงกว้าง

    สมัยผมเป็นเด็ก อายุ 6หรือ9 ขวบจำได้ไม่มั่น ได้มีโอกาสกราบหลวงปู่มหาบัว ญานสัมปันโน(ไม่เรียกหลวงตาเพราะหลวงตาคือพระที่ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว) ตอนกราบในใจนับ 1-2-3 เงยหน้าขึ้นมา หลวงปู่ถาม(เสียงแข็งตามสไตล์ของท่าน)ว่าคิดอะไรอยู่ เวลากราบครั้งที่หนึ่งนึก พุทโธ กราบครั้งที่สองนึกธัมโม กราบครั้งที่สามนึกสังโฆ ตอนนั้นรู้สึกงงมาก ว่าหลวงปู่ทราบได้อย่างไร

    ฉะนั้นผู้ที่กราบไหว้พระพุทธรูปมีกี่เปอร์เซ็นที่ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง นึกหนึ่ง สอง สาม อย่างสมัยผมเป็นเด็กหรือ ใจไปอยู่ที่อื่น
    จึงเป็นไปได้ไหมที่ก่อนตายจะนึกถึงพระพุทธเจ้า แต่จิตไปยึดติดกับพระพุทธรูป หลังจากตายแล้วจิตจึงไปเกาะติดกับพระพุทธรูปนั้น มันต่างกัน นี้ด..เดียวจริงๆนะ ก็เราไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้ากันใช่ไหมหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2008
  18. ปทุมธานี

    ปทุมธานี ยอมไม่ทำดีกว่าทำร้ายคนอื่น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +1,217
    ใครเคยได้ชม ซีดี บ้าง ผมเคยได้ชมแล้วครับ
     
  19. คนตาบอด

    คนตาบอด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +42
    ธรรม ของพระพุทธองค์ ไม่ลึก บุคคลต่างสามารถรู้ได้ตามสติปัญญา

    ความหมาย...คืออะไร จะเข้าใจกันว่าอย่างไร

    -พระพุทธรูปองค์นี้ ไม่ใช่พระพุทธเจ้า อย่าไปบูชา ด้วยดอกไม้ อย่าไปกราบ ไหว้มัน มันเป็นเพียง แค่วัตถุ

    -พระองค์นั้น องค์นี้ อย่าไปกราบ อย่าไปไหว้ พระองค์นี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้า เป็นเพียงแค่ ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ประกอบกันขึ้น หรือ ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แค่นั้น

    -วัดนี้ วัดนั้น อย่าเข้าไป อย่าไปถวาย พวกข้าว พวกน้ำ สบงจีวร ขันน้ำ ผ้าห่ม ธูป เทียน วัดนี้ก้อเป็นเพียงวัตถุ เหมือนกัน

    - บิณฑบาต ก็ไม่ต้องไปใส่ การทำบุญนั้น ไม่จำเป็นจะต้องใส่บาตเสมอไป

    - เวลา คนห่มผ้า เหลือง เดินผ่าน ไม่ต้องกราบ ไม่ต้องไหว้ เป็นเพียงแค่ธาตุ 4 เท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น

    -ไม่ต้องมีวัด ไม่ต้องมีโบสถ์ ไม่ต้องมีศาลาการเปรียญ เพราะมันเป็นเพียงวัตถุ อย่ายึดมั่นถือมั่นนัก

    - ฯลฯ

    อีกมากมายที่เด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจใน เรื่องการปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจะเข้าใจผิด จนถึงขนาดที่ว่า ไม่จำเป็นต้องบวช ไม่จำเป็นจะต้องไหว้พระ ไม่จำเป็นจะต้องใส่บาตร ไม่จำเป็นจะต้อง เข้าวัด ปฏิบัติธรรม เวียนเทียน ไม่จำเป็นจะต้อง ใส่ หรือแขวนพระ ที่คอ เพราะว่าพระที่แขวนนั้น เป็นเพียงแค่วัตถุ ..แต่การมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรม นามธรรม สามารถใช้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวได้ ไม่มีผิด

    แต่..การจะข้ามน้ำ ถ้าเราว่ายน้ำไม่เป็น ก็จำเป็นจะต้องอาศัยเรือ เพื่อข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ ถ้าบุคคลยังไม่เข้าใจ และรู้ละเอียดพอประมาณแล้ว จะหลงทางได้มากกว่า ..

    เพราะการปฎิบัติธรรมนั้น ยกตัวอย่างเช่น การทำสมาธิ เรานั่งไปทำไม เดินจงกรมไปทำไม การกระทำเหล่านี้ล่ะ นำพาไปสู่ การได้สมาธิ

    การกราบไหว้ พระพุทธรูป ชาวพุทธด้วยกัน เขารู้ว่าไม่ใช่การกราบไหว้เพียงแค่เป็นวัตถุ เท่านั้น แต่เป็นการกราบไหว้ทางกาย และใจด้วย เราไม่อาจจะรู้เลย ว่าคนอื่นเขาทำงานอะไร ในเมื่อเขาทำเพียงแต่อยู่ในใจ แต่ถ้าเขาแสดงออกทางกายด้วยเราถึงรู้ว่าเขากำลังทำอะไร..เขามีศรัทธาเชื่อมั่นในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าจึงทำความเคารพด้วยการ กราบไหว้ทางกาย กราบไหว้ทางใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นเองจะนำพาไปสู่การปฎิบัติธรรม เพราะความเชื่อ เชื่อว่า ถ้าเราทำตามพระพุทธองค์แล้ว เราจะสามารถ สลัดกิเลส คือ ราคะ โทสะ โมหะได้...

    ความเชื่อในขั้นแรก แสดงความเคารพออกมา ด้วยการกราบไหว์รูปเหมือนของพระพุทธเจ้า ขั้นนี้ล่ะ จะพาพวกเราทุกคน พากันปฎิบัติตาม ถ้าเราไม่มีความเชื่อด้วยแล้ว เราไม่ทำตามเด็ดขาด นี่เป็นกันทุกคน

    ถ้าสมัยพุทธกาล ไม่มีวัด ไม่มีพระพุทธรูป ไม่มีโบสถ์ วิหาร ไม่มีสถานที่ ที่ศาสนิกชน สร้างถวายพระพุทธองค์ขึ้น สมัยนี้ คงจะไม่มีวัดเป็นแน่แท้

    สิ่งใดมีค่า สำหรับคนหนึ่ง แต่ไม่มีค่าสำหรับคนหนึ่ง
    สิ่งใดไม่มีค่า สำหรับคนหนึ่ง แต่สิ่งนั้นมีค่าสำหรับคนหนึ่ง...

    ปุถุชน.....
     
  20. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +973
    รู้ได้อย่างไรว่าท่านเป็น อนาคามี


    "เพราะว่า คนทุกคนมีเทวดาประจำตัว ถ้าแขวนพระเทวดาประจำตัวจะเข้าไกล้ และคอยช่วยเหลือไม่ได้ รวมทั้งผีปู่ผีย่า ผีบรรพบุรุษ จะเข้าไก้ลและคอยช่วยเหลือไม่ได้อะไรประมาณนี้และครับ " ไม่ใช่ดอกครับ เทวดาเค้าชอบอยู่กับพระพุทธรูป เทวดาชอบรักษาพระพุทธรูป พระเครื่องมีอยู่ ไอ้ที่เข้าใกล้พระไม่ได้ ไอ้นี่ น่ะ ผีเปรต อสุรกาย มันไม่อยากอยู่ใกล้พระ

    อาบัติน่ะ จะปรับก็ปรับได้ โทษ เอาพระพุทธรูปอันเป็นของสงฆ์มาทำลายโดยมีไถยจิต อาบัติปาราชิกคับ เบามาหน่อยไม่มีไถยจิต แต่โทษทำลายเจดีย์ก็มีอยู่ แล้วแต่คณะสงฆ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...