จากความว่าง สู่ความมึนตึง

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย devwood, 13 ตุลาคม 2013.

  1. devwood

    devwood สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +10
    เนื่องจาก กระทู้นี้ http://pantip.com/topic/31102029
    ทำให้ผมเห็นอันตรายของหลายๆคนที่เข้าใจกับความว่างผิดไป
    เกิดเป็นไปดูถูกความหมายหรือภาษาคำว่า "ความว่าง" ที่ครูอาจารย์ท่านพูดไว้
    ด้วยปัญญาอันน้อยนิด ขออธิบายด้วยตรรกะซึ่งมันคงสื่อถึงได้ยาก
    เพราะตัวตรรกะเองก็เป็นทั้งสื่อและตัวขัดขวางการเข้าถึงธรรมะเช่นกัน แต่ก็ขอลองสักครั้งเผื่อจะมีใครพอรับได้

    ความว่าง
    พุทธศาสนาบ้านเรามีหลายสาย ในหลายสายนั้น ท่านก็พาคนเข้าถึงตามวิธีของท่าน
    แต่คนที่ลือคำสอนออกมาก็ตีความหมายเอาเองจนเกิดการตีกันของสายต่างๆ
    ทางวัดป่า ท่านก็มีการยกเรื่องสวรรค์ เทวดา บุญบาปมาเข้าถึงกลุ่มศิษย์ แต่ปลายทางท่านก็พาไปพบผู้รู้
    สุดท้ายผู้รู้ก็เป็นแค่คำเรียกเพื่อสื่อถึงสิ่งนั้น ไม่มีครูบาอาจารย์ซักองค์เดียว ที่ยกพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ไปเป็นมหาเทพ
    แต่ศิษย์บางหมู่ที่ความต้องการในจิตใจใฝ่หาสิ่งที่คงอยู่ตลอด และมีความสุขตลอด ก็ไปพากันสร้างอรหันต์ให้เป็นมหาเทพ
    เท่ากับเราไปยึดอรหันต์ไว้ ยึดนิพพานว่าเป็นที่อยู่แห่งมหาเทพ ซึ่งผิดไปจากที่ครูบาอาจารย์วัดป่าท่านสอนมามาก

    ทีนี้ก็มีทางฝั่งของเดินปัญญาที่กล่าวถึง ความว่าง หรือความโล่ง หรือความไม่มีตัวไม่มีตนขึ้นมา
    ก็มีหมู่สิทธิ์ที่เข้าไม่ถึงเต็มที่เอามาตีความโดยตรรกะ ก็กลายเป็นไม่รับไม่รู้อะไรอยู่อย่างสงบจนนิ่ง
    และนั่นเป็นตัวอันตรายมาก การเข้าถึงความว่างด้วยความนิ่ง ตัดความคิดทิ้ง จะพาเราไปเป็นก้อนหิน
    และยึดความว่างเพื่อให้ว่างจากเรื่องอื่นๆ แต่จริงๆแล้วความว่างที่สายเดินปัญญาพูดถึง ก็คือตัวผู้รู้
    ที่ทางสายวัดป่านิยามไว้ เป็นการรู้ตาม รู้ตามสภาวะ พอเรารู้ตามสภาวะ อย่าไปใช้ความคิด
    สภาวะนั้นก็จะถูกปลอดปล่อย พอถูกปลดปล่อยมันก็ว่าง ก็ค่อยๆปลดปล่อยไป สุดท้ายก็ปลดปล่อยผู้รู้
    ก็จะว่างอย่างสว่าง ว่างอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ว่างอย่างมึนตึง

    ทั้งหมดทั้งมวลต้องใช้พื้นฐานอื่นๆมาประกอบมากพอสมควร ทำการศึกษาและวิจัยอย่างยิ่งยวด
    เพื่อจะได้ไม่ยึดและปลดปล่อยได้ถูก หากไปขัดใจใครเข้าก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้
    มันเหมือนการอธิบายให้คนขี่จักรยานไม่เป็นฟังด้วยปาก ยากนักที่จะหาคนฟังแล้วขี่ได้เลย
    เพราะนั่นคือการสอนขี่จักรยานด้วยตรรกะ แต่ถ้าค่อยๆประครอง พาไปขี่ฝึกหัดให้ขี่ เขาก็จะขี่เป็น
    แล้วมันก็คือการขี่จักรยานด้วยตัวรู้ หรือขี่ด้วยสภาวะน่ะครับ

    http://pantip.com/topic/31103537
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2013
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    บอกตรงๆ ที่ จขกท ยกขึ้นมา เข้าใจผิดๆ เกือบทุกๆเรื่องที่ยกมา
     

แชร์หน้านี้

Loading...