จากชีวิตจริง ดาราสาวสวย มีชื่อเสียง เป็นภิกษุณีผู้มีธรรม

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย paang, 21 เมษายน 2012.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    [​IMG]

    โคฮีนัว หรือ ชนะคยา ภิกษุนี

    จากชีวิตจริง ดารานางแบบสาวสวย มีชื่อเสียงมาก
    เป็นภิกษุณีผู้มีธรรมะในใจ เปี่ยมด้วยความสุข

    เรามาร่วมอนุโมทนา สาธุ ไปกับเธอคนนี้กันนะครับ
    ผู้ไม่หลงความงาม ชื่อเสียง และเงินทอง...
    แต่กลับหันหน้ามุ่งหาความสงบ...ทางธรรม...
    ขอให้เธอเจริญในธรรมและบรรลุสิ่งที่เธอหวัง...

    -------------------------
    โคฮีนัว สิงค์ ชื่ออันไพเราะภาษาเปอร์เซียโบราณอันแปลว่า มงกุฎเพชร

    เป็นชื่อในวงการของ ทิพปา สิงค์ นักแสดงและนางแบบสาวชั้นแนวหน้า
    ของเนปาล เชื้อสายอินเดีย ที่จู่ๆ ตัดสินใจผันตัวเองมาบวชเป็นภิกษุณี
    เธอโกนผม ไม่แต่งหน้า และทำสิ่งที่สวนทางกับอาชีพนักแสดงอย่างยิ่ง
    จนหลายคนตกใจ มีทั้งเสียงยินดี ไม่พอใจ และสนับสนุนในคราวเดียวกัน
    หลังจากการเป็นนางเอกมิวซิค วิดีโอ กว่า ๒๕ เรื่อง และอาชีพนางแบบ
    กว่า ๑๐ ปี บน catwalks bikini shoots และนิตยสารเสื้อผ้าแฟชั่น

    ตอนนี้เธอได้ชื่อใหม่ทางพระพุทธศาสนาแบบเนปาล
    เธอกล่าวว่าที่เธอเลือกจะบวชเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนา
    ก็เพราะพระพุทธศาสนานั้นเรียบง่ายและเป็นความจริงของชีวิต
    และสอนให้เธอได้เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
    ชื่อเกิดของเธอคือ ทิพปา
    ต่อมาเมื่อเข้าวงการดารานางแบบก็กลายเป็น โคฮีนัว
    ในขณะที่แม่ของเธอชอบเรียกเธอว่า ชนะคยา
    ส่วนพ่อของเธอให้ nickname ใหม่กับเธอหลังบวชเป็นภิกษุณีว่า “buddha”

    [​IMG]


    ภิกษุณีสาวสวยให้สัมภาษณ์อย่างติดตลกเกี่ยวกับชื่อเหล่านั้น
    แต่อย่างไรก็ตามชื่อของเธอตามแบบสงฆ์
    ซึ่งเป็นตัวตนจริงของเธอก็คือ Ani Losang Dolma

    นอกจากนี้ ภิกษุณีคนสวยยังกล่าวว่า เธอไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นหรือดีใจ
    กับการได้เป็นนักแสดงหรือเวลามีคนมาชมในความสวยของรูปร่างน่าตาของเธอ
    เพราะสำหรับเธอมันก็เป็นแค่อาชีพหรือภาระหน้าที่หนักหน่วงเท่านั้น
    ผู้คนที่เข้ามามองดูเธอแค่เพียงรูปร่างภายนอก ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเธอ
    บางคนชื่นชมในความสวยก็ดีไป ในขณะที่มีอีกหลายๆ คน
    ในสังคมอันโบร่ำโบราณของอินเดียและเนปาล
    ที่มองว่า นักแสดงนางแบบเป็นพวกขายเรือนร่าง



    ภิกษุณีสาวอดีตนักแสดง ยังกล่าวอีกว่า
    เธอรู้สึกชื่นชมการเป็นภิกษุณีมาก
    ตั้งแต่เด็กเวลาที่เธอพบพวกภิกษุณี ที่ Swayambu
    นางดูมีความสุขและแต่งกายแบบเดิมเสมอ เรียบง่าย
    และปราศจากเครื่องยึดเหนี่ยวใจให้ตกต่ำ เช่น สังคมของคนธรรมดา
    ที่ต้องนึกถึงภาพลักษณ์และปั้นแต่งอยู่เสมอ

    ยิ่งเวลาอายุน้อยมีกิเลสอยากได้มากเท่าไร สังเกตได้ว่าความสุขก็น้อยลงเท่านั้น
    หลายคนคิดว่าที่เธอบวชภิกษุณี เพื่อสร้างข่าวให้ตัวเองดังยิ่งขึ้น
    แต่ภิกษุณีสาวก็กล่าวว่าไม่เป็นความจริงเช่นนั้น
    เพราะเธอไม่ได้บอกสื่อมวลชนเลยตลอดเดือนที่เริ่มบวช แต่คนอื่นก็มาสืบรู้กันเอาเอง
    ภิกษุณีสาวกล่าวว่า เธอเป็นนางแบบที่ดังอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องสร้างข่าวเทียม
    เพื่อทำลายชื่อที่มีอยู่แล้วด้วยการโกหก
    เธอคิดว่าตลอดระยะเวลาเป็นดารานางแบบนี้ เธอก็ได้สร้างชื่อมามากเกินพอแล้ว
    และเธออยากจะละทิ้งมันไปทั้งหมดจริงๆ แล้วสื่อมวลชนเป็นสิ่งที่เธอยอมแพ้
    เวลาที่ใครสักคนเกิดมา ไม่มีใครรู้หรอกว่าตัวเองจะโตขึ้นแล้วเป็นอะไร
    เราทุกคนซึมซับเรียนรู้สิ่งรอบตัวและก็กลายเป็นเราในอนาคต
    และแน่นอน ภิกษุณีไม่ใช่คนของสื่อมวลชน

    เธอกล่าวว่าความแตกต่างระหว่างตอนเป็นโคฮีนัวกับตอนนี้ ก็ตลกดี
    เจอเหตุการณ์ที่ต่างกัน ตอนเป็นโคฮีนัว ก็มีแฟนคลับผู้ชายโทรมา
    ให้ฉันเลิกกับแฟนของตัวเอง (ดาราด้วยกัน)
    ในขณะที่แฟนคลับผู้หญิงของแฟนเรา ก็โทรมาบอกให้เขาเลิกกับเรา

    พอมาตอนนี้ เป็นภิกษุณีโกนหัวใส่จีวร มีวันหนึ่งเดินไปบิณฑบาต
    เจอกลุ่มเด็กผู้ชายกำลังเตะบอล พวกเค้าบังเอิญเตะมาโดนหัวเรา
    พวกเค้าคิดว่าเราเป็นเณรผู้ชาย ภิกษุณีสาวกล่าวพลางหัวเราะ

    ภิกษุณีสาว กล่าวว่า เธอจะไม่มีทางกลับไปเดินบนเส้นทางเดิม
    ของนักแสดงอีกตลอดไป เพราะการเป็นภิกษุณีคือสิ่งที่ฉันอยากเป็นมาตลอด

    ทั้งหมดนี้คือหนทางของหญิงสาวที่ก้าวสู่การเป็นภิกษุณีในต่างแดน
    แน่นอนว่ามีทั้งเสียงคัดค้านและต้อนรับ

    [​IMG]

    ผู้สื่อข่าวถามคำถามสุดท้ายจากเธอว่า
    เธอมีอะไรที่จะบอกเยาวชนรุ่นเด็กบ้าง

    ภิกษุณีสวยสวยตอบว่า
    คนเรานั้นเกิดมาก็ง่ายต่อการพบเจอสุขและทุกข์
    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอันแสนสั้น
    สิ่งที่เป็นอมตะคือวิญญาณของเรา
    คนที่สามารถอยู่กับทั้งสุขและทุกข์
    โดยไม่สะทกสะท้านคือผู้ที่ค้นพบสุขอันแท้จริง


    ขอขอบคุณที่มาของเนื้อหา http://www.dhammajak.net
    ภาพจาก : http://images.palungjit.org/f545/โคฮีนัว-หรือ-ชนะคยา-ภิกษุนี-31875.html#post45308[.545/CENTER]​
     
  2. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    ภิกษุณีสวยสวยตอบว่า
    คนเรานั้นเกิดมาก็ง่ายต่อการพบเจอสุขและทุกข์

    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอันแสนสั้น
    สิ่งที่เป็นอมตะคือวิญญาณของเรา
    คนที่สามารถอยู่กับทั้งสุขและทุกข์
    โดยไม่สะทกสะท้านคือผู้ที่ค้นพบสุขอันแท้จริง


    สาธุ..
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ _/\_
     

แชร์หน้านี้

Loading...