จิตตะภาวนา (หลวงปู่พุธ ฐานิโย)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 19 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    .....แหม เค้าไม่ได้คิดมาก อาหลงไปจำมันทำไมเล่า จิตไหลไปอดีต ก็รู้ว่าไหลไป หุหุ .....



    ....จะไปช่วยมันคิดทำไม ว่ามันอนัตตา

    ก็แค่ รู้ตรงๆ
    อะไร ปรากฎ ก็รู้อันนั้น ให้เป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องฝึก สติ เท่านั้นเอง

    กายไหวรู้ทัน จิตไหว รู้ทัน
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เอาหล่ะ ผมหลงประเด็นตั้งแต่ต้น ผมขอโทษ

    อารมณ์วิปัสสนา แม้คลายจากสมาธิแล้ว อยุ่ในปัจจุบันแล้ว

    จะมอง จะตรึกก็เป็นธรรม ตามนั้น


    จะดูจิต ก็ต้องเห็น

    อนิจัง เกิดดับของจิต ส่งต่อกัน เป็นวัฏฏะ

    ความเร่าร้อนจากเวทนา อันจิตวิ่งเข้าไปรับ นั้นทุกขัง

    เราไปร่วมกับมัน เพราะไปยึดว่านั่นของเรา จิตเรา ถูกไหมครับ

    ทั้งหมดนี้ เป็นเช่นนั้น ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น

    ปัญญารู้เมื่อไหร่ เกิดความเห็นชอบ ว่าอนัตตา ไม่ใช่เรา


    ถ้าดูจิต ไปอยู่รูปนาม ของรู้กับถูกรู้ มัีนไม่รู้อะไร

    ต้องอาศัยคิด แต่คิดไปก็ไม่รู้

    รู้นั้นจึงเป็นสมมุตติขึ้นมา ผลคือนิมิต และ พรหมก่อนตาย
     
  3. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    ตรงนี้ ทำให้หลบเกิดนิวรณ์นะลุง ทำไมบอกให้ดูผู้อื่นด้วยล่ะ
    ถ้าในเรื่องจิตภาวนานี้หมายถึงให้รู้จิต ให้ทันจิตตัว สติมันตั้ง
    มันก็ไปสำรวมกับผู้อื่นเอง ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ไปตั้งท่าดูผู้อื่น
    มันจะไปผิดหลัก " ไม่ส่งสมุทัย" ไหมลุงหลง
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เอาล่ะ เอาล่ะ นายหลงลงให้ลุงปราบก้แล้วกัน

    สภาวะอนัตตา ไม่ต้องไปท่องจำ เห็นเองอย่างที่เข้าใจนั่นแหละ



    กายไหวรู้ทัน จิตไหว รู้ทัน

    รู้อะไรครับพี่น้อง สติตัดไปแล้วนะครับพี่น้อง
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อธิบายไปแล้ว

    ลองดูสิ ว่า จิตส่งออกนอกซักแอะหรือเปล่า

    หรือ รู้ลงมาที่ใจ

    ใจลอย ฟุ้ง ส่งนอกแล้วนะ หลบภัย
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846


    เอาหล่ะ ผมหลงประเด็นตั้งแต่ต้น ผมขอโทษ

    ได้เลย อาหลง ไม่ขัดศรัทธา เอาไป[​IMG]


    เดี๋ยว มาใหม่ครับ หาไรลงท้องก่อน
     
  7. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    ตรงนี้น่ะเหรอ ที่อธิบายแล้ว เอ๋แต่ก็ยังสงสัยอยู่นั้นแระลุง
    แล้วทำไม พระพุทธถึงบอกว่า อานนท์ เธอจงดูรู้ลมหายใจแล้วเธอจะไม่ทกุข์
    ไม่ได้สอนให้ ชมนก ชมไม้ เลยนะ ขออนุญาติ ที่เห็นต่างออกไป
    หลบภัย ค่อนข้างฟุ้งเล็กน้อย แต่ก็พอมองเห็นความฟุ้ง น่ะ
    ทำให้หลบภัย เลยไปมอง มิฉาสติ กับ สัมมาสติ น่ะ
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ไม่มีสิ่งใดให้ชมนกชมไม้ ใจลอย ไม่จดจ่อภายนอก

    สมัยพุทะกาลมีพระเถรีรูปนึง

    จะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ระหว่างทางฝนตก

    ท่านน้อมไปดูเม็ดฝน กระทบน้ำอยู่อย่างนั้น

    ปัญญาเกิด เห็น อนัตตา



    ทั้งนี้ไม่ได้หมายจิตออกนอก



    อีกอย่าง ปรมัตถ์ธาตุ ดำรงอยู่เช่นนั้น ไม่ต้องไปตรึง ไปคิดอะไร

    มันรู้สึกได้ เห็น ได้ยิน มันลงมาที่ใจ ต่างกับใจลอยพุ่งไปปรุง

    กระบวนการนี้ มีออกมาเป็นสภาวะธรรม บาลีนั้นมีอยู่

    ลองไปหาเอานะครับ


    เข้าใจอย่างไร ก็ทำไปอย่างนั้นแล้วกัน

    ธรรมะมีแต่จริงในจริง จริงในจริง

    วันนี้เห็นอย่างนี้ไม่ผิดหรอก เพราะเขาเห็นจริง
     
  9. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    ถ้าจะให้พิจารณาจากบทความ นะลุง อย่างเณรน้อย ที่ปลงผมแล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์
    ก็พิจารณาแล้ว มาลงที่ใจเป็นหลักเนอะ ทุกอย่างสำเร็จที่ใจ ลุงก็พูดอะไร ให้ชาวบ้านฟังง่ายๆ หน่อยซิ ใจหายกลับกรรมฐานของลุง นะเมื้อกี้ น่ะ เง้อ นี่ๆ เลิกใส่แว่นตาหรือยังลุง
    อนุโทนา นะลุง หลบไป รับต้องไปทำธุระก่อนนะ
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ปัญญาผมไม่ได้แทงตลอดไปทุกเรื่อง

    ก็เอาสภาวะมาเล่ากันครับ

    ออกจากการดูจิต ไม่มีอะไรทำก็ดูโลกมันไปตรงๆ รู้สึกไปตรงๆ

    รู้สภาวะธาตุไปตรงๆ จะนอกหรือใน หรือในในใน ไม่พ้นธรรมข้อนี้ครับ


    ยังใส่แว่นอยู่ดี ความหล่อไม่หมองลงเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2011
  11. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    พี่หลง กับพี่ณุ นี่ถ้าจะดูจิตเหมือนกัน สนทนากันก็เป็นประโยชน์ต่อผู้ไม่รู้จักจิตเช่นผม
     
  12. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>โชแปง, nannan54, jinny95 </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    แล้ว ต้องรู้ตรงแค่ไหน คนกินก็รู้ว่ากิน นอนก็รู้ว่านอน เดินก็รู้ว่าเดิน โทสะก็รู้ว่าโทสะ

    ราคะก็รู้ว่าราคะ

    แต่ว่า สมุทัยของมันหละ รู้อย่างไร

    คนที่บอกว่า รู้ตรงๆ นั้น เรียกว่า จิตอยู่ที่ฐาน เมื่อจิตอยู่ที่ฐาน ก็จะคอยแต่จะดูตรงๆ ไม่ให้มันปรุงไป ไม่ให้มันคิดไป แล้ว ทึกทักว่า สภาวะนั้นแหละ บริสุทธิ์

    แต่จริงๆ แล้ว กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม ยังมี
    จิตไม่อาจจะก้าวขึ้นไป อธิจิตยิ่งกว่า นี้ หากไม่ระลึก ทบทวน และ ทำสมาธิให้ยิ่งขึ้นไป

    จะอีกกี่ปี ก็ยังมีสัญญาแบบเดิม เรียกว่า ติดอยู่ใน ภพเดิมๆ ของตน ซึ่ง ภพที่หลงเข้ามาติดอยู่ นายเอกวีร์ติดอยู่ คือ ภพที่รู้ซื่อๆ นั้นแหละ
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    เชิญ บรรดา กิเลสทั้งหลายจงมาแย้ง

    1 ถ้าหากว่า จิตพ้นจากพันธนาการ แล้วจะต้องมาดูอะไร
    2 ถ้าหากว่า จิตยังไม่พ้นพันธนาการ แล้วดูแค่ รู้ซื่อๆ จะพอหรือ
    3 ถ้าหากว่า จิตขณะนั้นไม่มีนิวรณ์กำเริบ ไม่ต้องไปรู้ซื่อๆ มันก็รู้ซื่อๆ ของมันอยู่แล้ว

    แล้วถามว่า อริยมรรค อริยผล อริยสัจ เจริญให้แจ้งอย่างไร
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ทีนี้ ถามว่า แล้วจะทำให้คนที่ยังไม่รู้แจ้ง ได้รู้แจ้ง ได้อย่างไร
    บางคนว่า ฉันเห็นธรรม ก็เมื่อเวลาฉัน รู้ซื่อๆ แบบนี้แหละ แต่ว่า ลืมไปว่า กว่าจะมารู้ซื่อๆ นี้ตนเอง ต้องบากบั่นอะไรมาบ้าง ( ลืม ระลึกไม่ได้ ระลึกได้แค่ตอนที่มัน รู้ซื่อๆ นี้แล้วเกิดทัสนะ)

    เพราะว่า ตนพอใจอยู่กับ สภาวะของตนตอนนี้แล้ว ตนหลงพอใจกับปัญญาในระดับนี้เท่านั้น
    ครั้นพอมาแนะนำคนอื่น ก็ท่องอยู่แต่ รู้ซื่อๆ อย่าไปเพิ่มเติม
    สุดท้าย จิตตกไปแล้ว ล้มลุกคลุกคลาน ไม่รู้เท่าไร ก็ยังบอกว่า รู้ซื่อๆ

    รู้นะ อย่ามาเถียง
     
  16. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    งง

    แยกภูมิก่อน ต่อไปนี้คุยกับท่านขันธ์

    ไม่เอาแล้ว ราคะรู้ราคะ ไม่จำแนกแล้ว มองข้ามสมมุติไปเลย

    รู้ลงไปที่สภาวะ รู้รูปธาตุ มันเป็นอย่าไร

    ทวนขึ้นมาที่นาม เวทนา ใจรับ เร่าร้อนเกิดอย่างไร

    ดูไปให้ถึง ชีพจร จี้ไปที่เจตสิก

    ทวนขึ้นมาที่ใจรู้ เห็นปัญญาในสภาวะนั้น

    ในแค่ละสถาวะ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

    เป็นสภาวะปรมัตถ์ทั้งนั้น

    รู้ตรงๆ เห็นตามจริง ไม่ใช่รู้ซื่อบื้อ เอาสัญญามาจำแนก

    อธิบาย ฃ้ำๆ ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องไปพยายามเข้าใจ

    ปรมัตถ์อธิบายออกมามันก็เป็นสมมุติแล้ว

    เข้าไปรู้เองเถิด
     
  17. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ทีนี้ ถามว่า แล้วจะทำให้คนที่ยังไม่รู้แจ้ง ได้รู้แจ้ง ได้อย่างไร
    ฟังทิฏฐิเขาก่อน ต้องกล่าวเฉพาะคน เฉพาะกาล

    บางคนว่า ฉันเห็นธรรม ก็เมื่อเวลาฉัน รู้ซื่อๆ แบบนี้แหละ แต่ว่า ลืมไปว่า กว่าจะมารู้ซื่อๆ นี้ตนเอง ต้องบากบั่นอะไรมาบ้าง ( ลืม ระลึกไม่ได้ ระลึกได้แค่ตอนที่มัน รู้ซื่อๆ นี้แล้วเกิดทัสนะ)
    อุปมา เหมือนปาลูกดอก ตามองเป้า มองไปตรงๆ
    สติ สมาธิ ปัญญา หนุนกันเอง
    เมื่อเช้าเราอนุโมทนาบทความจินนี่ ในกระทู้มรรค ตรงนั้นชัดเจนมาก มนการเฉือนกิเลส

    เพราะว่า ตนพอใจอยู่กับ สภาวะของตนตอนนี้แล้ว ตนหลงพอใจกับปัญญาในระดับนี้เท่านั้น
    ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป จะอยู่คุยมากๆในเวบนี้ ถึงสิ้นเดือนเท่านั้น
    จากนั้นจะทำให้แจ้งยิ่งๆขึ้นไป


    ครั้นพอมาแนะนำคนอื่น ก็ท่องอยู่แต่ รู้ซื่อๆ อย่าไปเพิ่มเติม
    สุดท้าย จิตตกไปแล้ว ล้มลุกคลุกคลาน ไม่รู้เท่าไร ก็ยังบอกว่า รู้ซื่อๆ
    รู้ซื่อ คนละทางกับดูจิตริมทะเล
    รู้ตรงๆ รู้สึกไปตรงๆ บอกไปแล้ว กล่าวเฉพาะกาล
    ผู้ฟังถนัดดูจิต

    รู้นะ อย่ามาเถียง

    คิดว่าเถียง ก็เถียง หุหุ

    :cool:
     
  18. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    [​IMG]
    [​IMG] ยิ้มสวยเหมือนกันนะลุงหลง ตาโช
    แม้มุกเยอะเจงๆ เลย ก็อย่างที่เถียง เอ้ยถกอยู่ที่แระเนอะ คะ
    ทำไม หลายๆ คนถึงไม่ชอบสมมุติ ถ้าไม่รู้สมมุติ (มันจะได้กลิ่นละมุด=เมา)
    หลวงพ่อพุธท่านเทสว่า การรู้สภวะธรรม รู้เฉยๆ จำสภาวะธรรมได้ มันก็คือสัญญา
    ให้รู้ไปแบบนี้ๆ ซ้ำๆๆ จนกว่าสัญญาจะเปลี่ยนเป็นปัญญา อันนี้ก็เหมือนๆ กันนะ
    แต่การให้หลบภัยไปมองอย่างอื่นอยู่เนี้ย ตาโช ลุงหลง หลบภัยว่า ส่งสมุทัยอยู่ดี
    มันทำให้เรารู้แต่สิ่งภายนอก ไม่มาลงใจ ถ้าเรารู้แต่ตัวเรา จะทำให้การรู้แคบลง
    และมีพลัง น่ะ จริงๆ นะ ลุงหลง ตาโช
    ก็เหมือนประโยคหนึ่งกล่าว ไว้ว่า :โลกหยุดได้ที่ใจเรา :
    โลกทั้งใบ ให้ตาโชคนเดียว เอ๊า

     
  19. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ไม่เอาตำรามากล่าวนะ

    พิจารณา จิต เจตสิก รูป หรือ ขันธ์5 อายตนะ6 หรือย่อลง รูป นาม

    ซึ่่งเป็นสภาวะปรมัตถ์

    พิจารณา ทวนกระแสใจรับ และ ใจรู้ขึ้นไป

    ปัญญา เปรียบเหมือนมีดแหลมคม เข้าไปตัดอัตตา ด้วยอนัตตา

    ดุจ แสงสว่างมา ความมืดจักหายไป

    ความเร่าร้อน อันเกิดจากอัตตา ยึดว่ากู

    เมื่อถึงที่สุด จิตรู้ว่าธรรมชาติ เกิดดับ ทุกขัง หนีไม่ได้

    ห้ามไม่ได้ ปัญญาจะเกิด

    อุปมากำหมัดแน่นๆ ให้นานที่สุด นั้นสภาวะอัตตา

    เมื่อถึงที่สุด คลายลงมือลง นั้นสภาวะอนัตตา

    สภาวะนั้น เป็น สังขารนุเบกญาณ

    เมื่อนั้นจิตจะสงบ เบา นิ่งเย็น ไม่กินไม่นอน

    เสวยวิมุตติกี่วันก็ว่ากันไป

    ทีนี้ ให้สังเกตุดู มานะอยากคุยธรรม อยากประกาศธรรมไหม

    ถ้ามี แปลว่า ยังมีมานะ หรือ หงุดหงิดไหม ก็ให้พิจารณากันไป



    ประเด็นคือเข้าไปรู้ ต้องรู้ว่ารู้อะไร เห็นอะไร ดุจเรือมีทิศมีหางเสือ

    ไม่ใช่ รู้ๆไป รู้ว่างๆ


    ทุกอย่างลงที่จิต ถูกไหม

    ลองตอบหน่อย

    ทุกวันนี้ที่เราวิ่งเข้าไปดูจิตกันนั้น นี่โกรธ นี่เฉย นี่ราคะ

    เข้าใจกันว่าอย่างไร รู้ทุกข์ หรือ รู้เหตุเกิดทุกข์

    หรือ กาย เวทนา จิต แยกจากรู้ นั้นคือทางออกจากทุกข์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2011
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    แจม แจม แจม จินนี่แจมได้ออลทาม:boo::boo:
     

แชร์หน้านี้

Loading...