จิตปรามาส เกิดทุกข์ทางใจ อยากได้ผู้ชี้แนะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย zestgolf, 2 สิงหาคม 2019.

  1. zestgolf

    zestgolf สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    สวัสดีครับ จะขอเล่าเรื่องความแปลกที่ผมไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงคิดว่าในนี้น่าจะพอมีผู้รู้ พอได้ชี้แนะ หรือให้คำแนะนำผมได้บ้าง เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ผมเริ่มปฎิบัติ จริงจังมาได้ สัก3ปี ส่วนมากจะฝึกจิตให้รู้สึกตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน ยืนเดินนั่งนอน นั่งสมาธิก่อนนอน เป็นประจำ พอเริ่มทำมาสักระยะ เกิดอาการแปลกๆ ดังนี้ครับ
    1 ปรามาสผู้มีพระคุณ พระพุทธ พระสงฆ์ พยายามหาคำตอบจากในเน็ตก็พอได้คำตอบบ้าง ว่าหลายๆคนก็้เกิดอาการเช่นนี้ เเรกๆเครียดมาก ว่าเราไม่ได้เป็นคนแบบนั้น จิตมันคิดไปเองได้อย่างไร พยายามหาคำตอบเริ่มศึกษาการดูจิต จึงมองดูเห็นได้ว่า จิตมันเป็นของมันแบบนั้นบังคับมันไม่ได้ยิ่งบังคับยิ่งทุกข์ จิตมันเกิดขึ้นมา แค่ดูมันสักพักมันก็หาย แต่ยิ่งไปบังคับมันยิ่งไม่สบายใจฝึกมองไปเรื่อยๆ ผ่านมาสองปี อาการเหล่านี้เริ่มลดลง แต่ก็มีแวปๆมาบ้างบางครั้ง ..อยากถามผู้รู้ว่า มันเกิดจากอะไรครับ แล้วที่ผมมองดูมันเกิดแล้วปล่อย แค่มองมันเฉยๆ ไม่ไปจับต้องมันแค่เห็นมันเกิดเป็นสิ่งแปลกปลอมที่บังคับไม่ได้ เดี่ยวมันก็หายไป พิจารณาว่าจิตมันก็ไม่ใช่เรา แบบนี้ถูกไหมครับ
    2..พออาการตามข้อ1เริ่มหายไป ก็มีความแปลกขึ้นมาอีก คือเห็นมีดของมีคมเป็นไม่ได้ จิตมันไปจับความเจ็บปวดที่โดนสิ่งของเหล่านั้น คือมันชัดมากว่ามีดหรือของแหลมคมเหล่านั้นเข้ามาหั่นลิ้น ตัดทิ่มแทงลิ้นตัวเองแล้วความรู้สึกที่ลิ้นโดนของเหล่านั้นมันชัดเเจนมาก เพียงแต่ ไม่แสดงความเจ็บปวดออกมาทางร่างกายภายนอก แต่ผมก็ยังไม่ละความเพียรพยายามหาคำตอบว่าเกิดจากอะไร ผมจึงมาดูเวทนา และ มาดูกาย พยายามพิจารณา อาการเหล่านี้ ก็หายไปได้บ้าง แต่ไม่ทั้ง หมด อยากทราบว่า เกิดจากสาเหตุอะไร แล้วพอมีวิธีแก้สภาวะนี้ไหมครับ
    3"" ตัวนี้หนักมากครับ เห็นของสกปรก อุจจาระ ซากสัตว์ ซากขยะ จิตมันไปจับสิ่งเหล่านั้น มันสนใจสิ่งเหล่านั้น ถึงขนาด น้ำลายไหลออกมาเต็มปาก ทุกครั้งที่สภาวะนี้เกิด ผมต้องบ้วนน้ำลายทิ้งหลายครั้ง พยายามดูให้เป็นอสุภะ แต่ก็ยังแรงอยู่อาการนี้ อยากได้ให้ผู้รู้เมตตา ช่วยแนะนำแนวทางแก้ไข หรือที่ผมพยายามมองดูมัน ดูเวทนา ดู อสุภะนี้ เป็นทางที่ถูกที่ควรไหมครับ ขอความกรุณา
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,422
    ค่าพลัง:
    +3,197
    เขาเรียกว่า "อภิสังขารมาร" ค่ะ

    ทุกคนส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติรู้กาย รู้จิต ได้ในระดับหนึ่งแล้วมักจะเจอปัญหานี้กันทุกคน

    คำว่า "อภิสังขารมาร" หลายคนจะรู้ว่าเป็นมารที่ปรุงแต่งบุญ ปรุงแต่งบาป เพื่อให้เกิดความดี -ความชั่ว เป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นมา หรือ เป็นมารคอยขัดขวางเรา ไม่ให้บรรลุความดี

    แท้ที่จริงแล้ว หลายคนอาจไม่ทราบว่า....

    เพราะว่าในอดีตที่ผ่านมาเราได้มีนิสัยทั้งดี และ ชั่ว ปะปนกันในการเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสาร เราอาจเคยทำผิดด้านกาย วาจา ใจ ในการพูดวีจีทุรจิต หรือ ผิดศีลด้านวาจา มาในชาติใดชาติหนึ่ง และ มารตัวนี้ ได้เกิดขึ้นในใจให้เราได้รับรู้ เมื่อเรายังไม่เคยฝึกปฏิบัติ เราจะมองเห็นการพูดวีจีทุจริตเป็นของที่ถูกต้อง เราจึงยอมทำตามกิเลส แต่....ตอนที่เราทำเราไม่เคยเห็นว่ามันผิด ต่อมาพอเรามาฝึกปฏิบัติเรียนรู้กายใจ สิ่งนี้ที่เราได้ทำในอดีตมาปรากฎให้เราเห็น เรากลับมองว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด เป็นสิ่งที่ไม่ดีงาม เราจึงเกิดการทุกข์ใจ ไม่อยากให้เกิด ที่เราเห็นได้เพราะเรามีสติระลึกรู้ ว่าสิ่งที่ปรุงแต่งบาปขึ้นมานั้นมันผิด นี่ไม่เฉพาะแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นนะคะ หากเราพิจารณาลงไปดี ๆ ขณะ ที่เรามีสตินั้น หากคำปรุงแต่งใด ๆ ที่เกิดขึ้นมาในหัวเป็นคำหยาบแล้วเกิดไปกระทบผู้อื่น เมื่อรับรู้ได้. เราจะรู้สึก "ทุกข์ใจ" ทันที นั่นคือ เรารู้แล้วว่า.... มันไม่ถูกต้องในใจ ของเรานั่นเอง เราจึงไม่อยากให้เกิดขึ้น นั่นคือ ตัวสติ นั่นเอง

    สังเกตุไหมคะ การปรุงแต่งขึ้นมา ที่ทำให้เราทุกข์ใจเพราะเรารับรู้ว่า...มี...คือ มีอะไร? คือมีการรับรู้ว่า มีการปรุงแต่งความชั่วหรือสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น โดยเฉพาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านต้องรับรู้ได้ว่าเรากำลังปรามาสท่าน แต่ลองดูซิคะ.... ถ่้าเกิดการปรุงแต่งขึ้นในหัวแล้วไปกระทบใคร ที่ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ ครูบาอาจารย์ที่ท่านรู้วาระจิต เมื่อเราปรุงแต่งขึ้นมาอาจจะไปกระทบนายสี ตาสา ที่เราไม่รู้ว่า...เราปรุงแต่งคำด่าว่าเขา หรือ ปรามาสเขา แล้ว...ทำไมเราจึงไม่ทุกข์ใจล่ะ ใครเคยเป็นไหม!

    นั่นแหละค่ะ.....

    เพราะเราไปยึดมั่นกับความดี ความไม่ดี ซ้อนการปรุงแต่งอีกที จึงทำให้เราทุกข์.... ใช่ไหมคะ สังเกตุตัวนี้ดี ๆ ค่ะ

    ดังนั้น... หากเราไม่สร้างความยึดมั่นทับซ้อนไปอีกที มองเห็นว่ามันเกิดขึ้น และดับไป มันไม่ใช่ตัวเราของเรา เราบังคับบัญชามันไม่ได้ เรารู้และวาง เราไม่ยึดมั่นมันก็ไม่ทุกข์ใจอะไรค่

    "อภิสังขารมาร" เป็นตัวที่เราให้เรารู้ว่า การทำผิด ก็คือ วจีทุจริต คือ การสร้างทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นทุกข์ปัจจุบัน หรือ ทุกข์ในอนาคต ที่เราจะต้องรับผลอย่างแน่นอน นั่นคือ การมีวิบากรรมในอนาคต และการทุกข์ในปัจจุบันคือ วจีทุจริต ทำให้มีศรัตรู คนเกลียด หรือ ทุกข์ในอนาคตทำให้รูปสมบัติผิดปกติไม่งาม หรือ ปากเหม็น เป็นต้น และทุกข์ละเอียดก็คือ "อภิสังขารมาร" นี่แหละค่ะ ที่เราไม่เข้าใจมันก็สร้างความทุกข์ให้แก่เราได้...

    เมื่อเรารู้แล้วการทำความผิดเป็นทุกข์ทุกประการ เราสร้างความเข้าใจให้แก่ตนเอง จะไม่ยอมทำผิดอีกคือ ตั้งสัจจะ 1 และมีสติเห็นในการไม่ยึดมั่นถือมั่นเรื่อง สังขาร 1 ผลลัพธ์ที่ได้จากรู้ตัวนี้ที่จริง คือ ตัวสติ เราจึงเห็นได้เราพิจาณาว่าไม่ใช่บาป นั่นคือ บุญกุศลต่างหาก ค่ะ เมื่อเรารู้แล้วจะได้ไม่ทุกข์ใจ เพราะกุศลคือ "สติ" ได้เกิดขึ้นแก่เรา

    เมื่อเรารู้แล้ว จึงไม่ยึด

    หากเรายึดมั่นอยู่อย่างนั้นปล่อยวางไม่ได้ ก็จะทุกข์ร่ำไป มารตัวนี้จะปรากฎใหเห็นจนกว่าจะมีสติปัญญาเห็นว่า พอเกิดขึ้นมารู้และปล่อยวาง เกิดขึ้นมารู้และปล่อยวาง ปัญญาที่ปล่อยวางจริง ๆ นี้แหละคะ มันมันเกิดขึ้นมาแหย่อีก เราไม่ยึด เราไม่ทุกข์ รู้แล้ววาง ไปเรื่อย ๆ ผลก็คือ วิบากกรรมละเอียดที่สร้างทุกข์ให้เราไม่ได้ เพราะเราเกิดปัญญาแล้ว ในที่สุดก็จะหายไปเอง ไม่เกิดขึ้นอีกค่ะ

    ดังนั้น....

    อภิสังขารมารที่เกิดขึ้น ทำให้เราได้ประโยชน์ 3 ข้อ คือ

    1.รู้การปรุงแต่ง เป็นทุกข์ทั้งปัจจุบัน อนาคต ส่งผลวิบากกรรมด้านหยาบ และด้านละเอียดคือ ตัวที่เป็นอภิสังขารมาร

    2.กำหนดรู้แล้ว สำนึกผิดไม่ยอมทำผิดซ้ำ ตัดวงจรกรรม ลดละนิสัย

    3.ฝึกให้เราเกิดปัญญาปล่อยวาง เรื่องสังขารทั้งหลายที่ไม่ใช่ตัวตนค่ะ
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,422
    ค่าพลัง:
    +3,197
    เกิดจากสัญญาอารมณ์ที่จำไว้ในอดีตค่ะ

    การแก้ พิจารณากาย-ใจ นี้ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตน เป็นอนัตตา จนรู้แจ้งเห็นจริง
    ตราบใดที่มีการ และยึดว่าเป็นของเรา สิ่งที่มากระทบย่อมสร้างความเจ็บปวด ให้เสมอ ในอดีตเราไม่รู้ว่าเราเคยเจอเหตุการณ์ใดมาบ้าง และก็ไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะต้องเจอสิ่งใดอีก ที่ทำให้ร่างกายของเราต้องได้รับทุกข์ หากจะหมดทุกข์ ต้องหมดกาย-ใจ

    พระโพธิสัตว์ทีท่านต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฎจักรสงสาร และสละเลือดเนื้อมานับเอนกอนันต์ หากท่านไม่มีการพิจาณาเรื่องกาย ใจ ตามความเป็นจริงนี้ คิดว่าคงสร้างบารมีไม่ได้แน่ค่ะ

    และเสริมอีกเรื่องหนึ่งค่ะ การพิจาณาจตุธาตุววัฏฐา เพิ่มอีกกองหนึ่งค่ะ ประกอบการพิจารณาเพิ่ม

    มองให้เห็นการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงค่ะ
    กำหนดรู้อยู่กับสภาวะปัจจุบันค่ะ
     
  4. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,363
    คุณจิตยิ้มไม่ต้อนทฤษฏีหรอกครับ จขกท.เขาโชกโชนอยู่แล้ว เขาต้องการวิธีแก้ซึ่งหากจะช่วยดีก็ดีไปแต่หากไม่ดีระวังจะโดนดึงลงเหวไปด้วยนะฮับ
     
  5. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ผมไม่ตอบข้อสองและข้อสาม เพราะมันเป็นผลอันเกิดจากข้อที่หนึ่ง เมื่อไหร่ที่คุณปราถนาคิดทำความดีเพียงเพื่อคิดว่าคุณดีกว่าคนอื่นนั้นผลมันจะออกมาแบบนี้ อัสมิมานะ ปกติเรื่องปกติเพราะคุณคิดไว้แล้วว่า คนอื่นไม่ทำแต่คุณทำ อันที่จริงเรื่องแบบนี้คุณควรคิดว่ามันเป็นกรรมที่เป็นไปตามวาระ ไม่ใช่นึกจะทำก็ทำได้ เมื่อได้ก็ควรเห็นสภาพความน่าอดสูและเห็นใจในสิ่งที่ต้องเจอไม่ควรนำมาเปรียบเทียบ ที่เห็นชัดเจนที่เด็กน้อยชอบกล่าวกับบุพการีคือ ป๊าจบ ป4 หหนูหรือผมจบ ป.ตรี เอ หรือ ป6 ช่างมันแต่มักเห็นแบบนั้น คิดดีดีสิ ว่าที่ยกตัวอย่างนั้นพอเห็นไหม ถ้าฝึกทางธรรมมันจะออกอาการเดียวกันแต่หนักกว่า สมองมีคิดสิอันนี้เรื่องต้องคิด แต่ถ้ารู้แล้วไม่ต้องคิด คนที่นึกไม่ออกว่ามีกายเพราะอะไรก็ไม่ต้องคุยเรื่องธรรมชั้นสูง โง่เกินจะรับรู้ ที่คนข้างบนพูดมาก็ดีนะ แต่ไม่โดน
     
  6. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อีกเรื่อง คำว่าเพราะกับคำว่าเป็นมันคนละเรื่องกัน อย่าโง่ เดี่ยวจะมาถามว่ามันเป็นธาตุ4 บิดาไม่เกี่ยวมารดาไม่เกี่ยว ก็บอกไว้เลย ถ้าลงแบบนี้แน่นอนแล้วละ ไปนรก
     
  7. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    คุณจิตยิ้มปฏิบัติมาถูกทางแล้วครับ กระแสเย็นกายเย็นใจจากการปฏิบัติเกิดขึ้นแล้วครับ ยังเหลืออีกครึ่งตัว
     
  8. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    อ่านเรื่องจิตปรมาสของ จขกท แบบผ่านๆ ขอให้แนวทางแบบสั้นๆนะครับ ว่า สรรพสิ่งที่เกิดในกายในใจที่มันมีชื่อเรียกหรือไม่มีชื่อ แล้วตัวรู้ได้ "รู้" คือรู้กิริยาของจิต เมื่อรู้แล้วอย่าไปยึดกิริยาที่รู้ ไม่ต้องไปทำอะไรครับ นี่เป็นขั้นตอนที่หนึ่ง ส่วนขั้นตอนที่สองเป็นเรื่องของปรมาส คือ"รู้"ไปแล้ว เกิดขึ้นไปแล้ว ดับไปแล้ว ทำไมยึดเข้ามาอีกครับ ถ้าอยากขอโทษหรือขมากรรม ก็ทำไปสิครับ
     
  9. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ส่วนเรื่องจิตวิ่งไปจับอะไรต่อมิอะไร ถือเป็นปรกติของจิตที่มีความตั้งมั่น มันไปจับไหน รู้ถึงไหน เราตามหรือไม่ตามก็ได้ครับ เอาแค่รับรู้ แค่ดูครับ ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า สิ่งที่เห็น "มันไม่ใช่เรา เราไม่ใช่มัน"
     
  10. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,363
    อะนะ แต่ตามกริยาของ จขกท.คือเป็นมัน 100% เอาเถอะครับ ถ้าอยากช่วยเขาก็ขอให้สำเร็จแล้วกันฮับ ลองสอนวิธีทำเขาจิฮับจะได้พ้น ไม่งั้นแค่รับรู้ แค่ดูของคุณนี่คือไปเป็นมันแล้วฮับ
     
  11. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ลืมวิธีใช้อ้างอิงข้อความ ขอตอบในข้อสามที่เห็นอุจระและของสกปรกจนน้ำลายไหล...ให้ดูความรู้สึกตอนน้ำลายไหลครับ
     
  12. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ยังยึดถืออยู่กับความเป็น
    ยังยึดถือรูปแบบอยู่หรือครับ ยังยึดถือว่ามันหรือไม่มันอยู่หรือครับ
     
  13. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    การปฏิบัติอย่าไปยึดว่าโน่นสมถะนี่วิปัสนา เพราะความจริงมันสลับเองของมัน จุดประสงค์ของการปฏิบัต เพื่อต้องการรู้สภาวะของจิต สภาวะของอาการ ที่เข้าไปเป็นและไม่เป็น เพียงแค่รับรู้ รู้แล้วดับ ดับแล้วไม่เหลือทั้งสภาวะเป็นและไม่เป็น "แค่ดู แค่รู้"
     
  14. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    หากจิตยึดถือในสิ่งผิด-สิ่งถูก สิ่งนั้นย่อมมี หากจิตไม่ยึดถือในสิ่งผิด-สิ่งถูก สิ่งนั้นย่อมไม่มี การปฏิบัติเพื่อคลายจากความยึดในอุปทานขันธ์ห้าว่าโน่นเรา นี่เรา
     
  15. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ สรุปท่อนแรกดังนี้
    +++ 1. ปฎิบัติ จริงจังมาได้ สัก3ปี
    +++ 2. ฝึกจิตให้รู้สึกตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน

    +++ 3. เกิดอาการ "แปลก ๆ"
    +++ ต้องถามตนเองว่า ขณะที่ "ฝึกจิตให้รู้สึกตัว" นั้น มัน "คิดเอง เออเอง" ได้ด้วยเหรอ
    +++ คำตอบคือ "มันเกิดจาก การไม่ได้ฝึก" "อยู่กับรู้สึกตัว" นั่นแหละ
    +++ คำตอบคือ ถ้ามันถูกต้อง "อย่างที่ คิด/พิจารณา" มันก็ต้อง "ยุติ พฤติกรรมที่ว่ามา" นานแล้ว
    +++ สรุปอาการคือ "เห็นมีดของมีคม จิตมันไปจับความเจ็บปวดที่โดนสิ่งของเหล่านั้น"

    +++ คำตอบคือ "ไม่ได้อยู่กับ ความรู้สึกตัวนั่นแหละ" จิตมันจึง "สมมุติ ย้อยรอย ลงไปในสถานการณ์" ตรงนี้ "เป็น นิสัยเก่า"
    +++ ให้ไปค้นหาอ่าน ในเรื่อง "กาฬสุตตนรก" เอาเองว่า "มันตรงกัน" กับอาการที่เกิดขึ้น หรือไม่
    +++ คำตอบอยู่ตรง ที่ว่า "2. ฝึกจิตให้รู้สึกตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน" นั้น
    +++ ทำความรู้สึก "ทั้งตัว" ที่เรียกว่า "สัมปชัญญะเต็มตัว" ได้จริงหรือเปล่า
    ตรงนี้แหละ
    +++ ถามจริง ๆ ว่า "เห็นของสกปรก อุจจาระ ซากสัตว์ ซากขยะ" ตรงนี้ "ยังไม่ใช่อสุภะ" อีกเหรอ
    +++ หาก "เห็นอสุภะ แล้ว น้ำลายสอ" ก็ยัง "พยายามดูให้เป็นอสุภะอยู่อีก"
    +++ มันจะกลายเป็นยิ่ง "สาดน้ำมันลงกองไฟ" หรือเปล่า

    +++ ก็ต้อง "ถามตนเอง" ว่า "ยิ่งดูอสุภะ ก็ยิ่ง น้ำลายสอ หรือเปล่า"
    +++ จิตตนเอง "มันชอบอสุภะ อย่างยิ่งอยู่แล้ว" หรือเปล่า


    +++ หรือมันเป็นเรื่อง "อุสทนรก 128 ขุม เป็นบริวารของมหานรก"
    +++ เกี่ยวกับเรื่อง "คูถนรก ขุมนรกเห่งขี้เน่า"

    =======================================
    +++ ผมไม่อยากเสียเวลานานมากไป ก็จะสรุปสั้น ๆ แบบ เรียงลำดับการ ดังนี้

    +++ 1. ฝึก "รู้สึกตัว" ในการใช้ชีวิตประจำวัน มา 3 ปี
    +++ 2. เกิดอาการ "ปรามาส (จิตมาร)" กำเริบ
    +++ (ไปค้นในเรื่อง จิตมาร 5 ภาค ที่ผมเคยโพสท์เอาไว้ เอาเองนะ)
    +++ (ถ้าถึงเวลา ก็คงจะ หาเจอได้เอง)

    +++ 3. ให้หาอ่านในเรื่องเกี่ยวกับ "ทิฎฐิสูตร" ตรง

    " จตูหิ ภิกฺขเว ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต
    เอวํ นิรเย กตเมหิ จตูหิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน
    มโนทุจฺจริเตน มิจฺฉาทิฎฐิยา อิเมหิ โข ภิกฺขเว จตูหิ
    ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔
    ประการนี้ เหมือนถูกนำมาโยนลงในนรก ธรรม ๔ ประการ
    คือ บุคคลผู้มีกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต และเป็นมิจฉา-
    ทิฎฐิ ผู้ที่ประพฤติธรรม ๔ ประการนี้เหมือนถูกโยนลงในนรก
    "
    =======================================
    +++ 4. ผมพิจารณาว่า น่าจะผ่าน มหานรก ชื่อ "กาฬสุตตนรก" รวมทั้ง นรกบริวาร (ยมโลก) ชื่อ "คูถนรก" มาแล้ว
    +++ 5. คงไม่ต้องมานั่งพูดเรื่อง สวรรค์/นรก ว่า จริง/เท็จ อะไรอีก เพราะมันเป็นเรื่อง "ประสพการณ์ส่วนบุคคล"

    +++ จขกท "โชคดี ที่หลังจากปฏิบัติธรรมมาบ้างแล้ว อาการเหล่านี้ หวลกลับมาเป็น พยาน ให้ตนเอง"
    +++ จขกท "ทราบดีอยู่แล้ว" ว่า ตนมาจากไหน ตรงนี้ "ไม่ต้องอธิบาย มันก็ฟ้องชัดอยู่ในตัว"
    +++ จขกท เกิดอาการ "เป็นทั้งตัว ไม่ใช่แค่ เห็นแบบมโน" ดังนั้น ควร "รู้/เข้าใจ" ชัดเจนอยู่แล้ว

    +++ จขกท "ถามหา วิธีแก้" ก็จะถามกลับไปว่า วิธีที่ จขกท ทำอยู่คือ "ฝึกจิตให้รู้สึกตัว" ตรงนี้
    +++ ทำได้ "ถูกต้อง" จริงหรือเปล่า หรือ "คิดเอาเอง" ว่าสิ่งที่ตนทำอยู่นั้น ถูกแล้ว

    +++ หาก จขกท ทำ ฝึกจิตให้รู้สึกตัว ได้จริง จขกท ก็น่าจะได้ "สัมโพชฌงค์" มานานแล้ว
    +++ ซึ่งหาก จขกท ได้ "สัมโพชฌงค์" มาจริง (ตามสัจจธรรม ไม่ใช่ มโนเอาเอง ว่าตนทำได้)
    +++ อาการจากข้อ 1-3 ตามที่ จขกท กล่าวมานั้น "จะปรากฏมาเป็นเพียงแค่ พยานธรรม" เท่านั้น
    +++ แต่จะ "ไม่" สามารถทำให้ จขกท "กลับ ไป เป็นและอยู่" ในปรากฏการณ์นั้น ๆ ได้อีกเลย

    +++ ทั้งหมดอยู่ที่ "จขกท ทำความรู้สึกตัว ทั้งตัว" ได้ตามความเป็นจริง หรือเปล่า เท่านั้น
    +++ ตรงนี้จึงเป็น "จุดเริ่มต้น ของวิธีแก้ ของ จขกท" ถ้าทำได้จริง
    +++ ให้ไปตรวจเอาเองกับ "โพชฌงค์ 7" ใน "พระ อภิธรรม 7 คัมภีร์"
    +++ ผลลัพธ์ จะต้องออกมา "ตรงกัน แบบ เป๊ะ ๆ คือต้องขึ้นที่

    โพชฌังโค สะติสังขาโต
    +++ โภชฌงค์ นั้น "มีสติเป็นสังขาร" (สติเป็นกาย)
    ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
    +++ มีอาการ "วิจัยสภาวะธรรม ในตน" (ไม่มีอาการ นึกคิด อะไรในตน)
    +++ ตรงนี้ เป็นอาการ "สภาวะตน เป็นอย่างไร ให้ รู้ ตามนั้น" (ไม่มีนึกมั่ว)
    วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
    +++ มีอาการ "เพียรไปเอง (วิริยะ) โดยไม่ต้อง พยายาม"
    +++ ภายใต้อาการ "สงบสุข (ปิติปัสสัทธิ)"
    +++ โดย "รู้ครอบ แห่งอาการตน (โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร)"
    สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
    +++ จวบจนอาการ "รู้อยู่/เฉยอยู่ (อุเบกขา)"
    +++ ท่ามกลางความแปรปรวนแห่งตน (อุเบกขาสัมโพชฌงค์)

    สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา
    +++ โภชฌงค์ 7 เป็นธรรมที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสไว้
    ภาวิตา พะหุลีกะตา
    +++ ผู้ที่ทำให้มาก (จนได้นิสัย)
    สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
    +++ ย่อมเป็นทางไปสู่ อภิญญา ความตรัสรู้ และ นิพพาน

    +++ สิ่งที่ จขกท ปฏิบัติอยู่นั้น ให้ "ตรวจอาการ กับ สัมโภชฌงค์" เอานะ
     
  16. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ แยกภาษาคำศัพท์ ดังนี้ "คำว่าเพราะ กับ คำว่าเป็น มันคนละเรื่องกัน"
    +++ ระหว่าง "เหตุผลตรรกะ" กับ "เหตุเกิดผลเกิด" มันคนละเรื่องกัน อย่าโง่
    +++ ตรงนี้คุณ kenny2 พูดได้ "ถูกต้อง" และ สามารถแยกแยะได้แล้ว
    +++ ยินดีด้วยนะ "คนมากกว่า 80%" หมดความสามารถในการ "แยก" ตรงนี้ได้
     
  17. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ หลังจาก login แล้ว ให้ทำ High light ตรงข้อความ เหมือนกับจะทำ copy เฉพาะ
    +++ แล้วมันจะมี "อ้างอิง+ตอบ" มาเอง กดตรง อ้างอิง แล้วก็จะ ทำได้ นะครับ
     
  18. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,363
    หืม อย่าตีความเอาเองครับ มโนมากไปไหมฮับ ผมตอบเรื่องที่ "คุณไม่บอกวิธีทำ" และคุณบอกว่า แค่ดูแค่รู้แล้วจขกท. ทำได้มะฮับ? และคุณบอกไม่ต้องเป็นมัน แต่จขกท. "เป็นมัน 100%" นี่คุณให้ยาผิดโดสนะครับ เหมือนหมอที่รพ. บ้าอะฮับ ให้ยามาตลอด "แต่ไม่เคยเห็นใครหาย"(กรณีเข้าไปในรพ บ้าแล้ว) แปลกไหมฮับแต่คนเชื่อว่ารักษาได้ ดังนั้นคุณก็ลองบอกวิธีทำดูนะฮับ เอาที่จขกท. ทำตามได้นะฮับ
     
  19. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ผมเข้ามาอ่านข้อความเดิมของคุณซ้ำอีกทีแล้วเกิดขำในความผิดพลาด คือตีความหมายของข้อความผิด ขอโทษด้วยครับ
     
  20. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,363
    ไม่เป็นไรฮับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...