จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,487
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 79949.jpg
      79949.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      1,022
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    ๑๐. วาจาสุภาษิต
    ขยายความมงคลข้อที่ ๑๐ วาจาสุภาษิตเป็นอุดมมงคล วาจาสุภาษิตคือวาจาที่กล่าวดีแล้ว เป็นวาจาที่เป็นไม่มีโทษ ประกอบด้วยธรรม เป็นวาจาที่เป็นที่รัก เป็นวาจาจริงไม่เท็จ ไม่ส่อเสียด ไม่เหลวไหล เพ้อเจ้อ แม้วาจาที่แสดงธรรมแก่ผู้อื่นด้วยมุ่งประโยชน์แก่ผู้ฟัง ก็ชื่อว่าเป็นวาจาสุภาษิต เพราะเป็นปัจจัยให้ผู้ฟังได้รับความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า อีกทั้งยังอาจให้บรรลุมรรค ผล นิพพาน อีกโสดหนึ่งด้วย

    วาจาที่เป็นทุพภาษิตนั้นตรงกันข้ามกับวาจาสุภาษิต มีโทษมาก สามารถนำไปเกิดในอบายได้เหมือนเรื่องนี้

    ในสมัยของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเถระ ๒ รูปอยู่ในอาวาสเดียวกัน รักใคร่กันดุจพี่น้อง ทั้งมีข้อวัตรปฏิบัติงดงาม ต่อมามีพระธรรมกถึกรูปหนึ่งมาพักอยู่ที่อาวาสนั้น เห็นภิกษุ ๒ รูปนั้นมีลาภมาก ก็คิดริษยา กล่าววาจายุยงให้พระเถระ ๒ รูปนั้นแตกกัน ออกจากอาวาสนั้น แยกกันไปคนละทาง พระธรรมกถึกรูปนั้นก็ได้เป็นเจ้าอาวาส ได้รับลาภสักการะเป็นอันมาก ต่อมาพระเถระ ๒ รูปนั้นได้กลับมาพบกันที่วิหารแห่งหนึ่ง ไต่ถามกันทราบความจริงแล้วจึงกลับไปยังอาวาสเดิม ขับไล่ภิกษุผู้ริษยานั้นออกไป ภิกษุผู้ริษยานั้นเมื่อแตกกายตายไป บังเกิดในอเวจีมหานรก ได้เสวยทุกขเวทนากล้า เป็นเวลาช้านานตลอดพุทธันดร มาในสมัยของพระพุทธเจ้าของเรานี้ได้พ้นจากอเวจีมหานรก มาเกิดเป็นเปรตสุกร อยู่ที่เขาคิชฌกูฏ มีร่างกายใหญ่โตเหมือนมนุษย์ แต่มีศีรษะเป็นสุกร มีหางงอกออกจากปาก มีหมู่หนอนไหลออกจากปาก ด้วยอำนาจของการกล่าววาจาส่อเสียด ไม่มีความจริง เป็นทุพภาษิต

    เพราะฉะนั้นจึงควรงดวาจาทุพภาษิต กล่าวแต่วาจาสุภาษิต อันเป็นอุดมมงคล แล้วท่านก็จะได้พบกับความสุขและความเจริญตลอดไป

    http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html#11
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,487
    [​IMG]
    "ทุกข์ของผู้น้อยมี ทุกข์ของผู้ใหญ่มันก็มี
    เราจึงควรรู้จักฐานะหน้าที่ของตนเอง
    แล้วก็มีความสุขความพอใจในปัจจุบัน
    ที่นี่ เดี๋ยวนี้จะดีกว่า
    เมื่อเราได้เป็นผู้ใหญ่
    ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี พอใจ สุขใจได้"


    หลวงปู่ชา สุภทฺโท

     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    10 ภาวนา ให้ใจอยู่ใน พุทโธ - หลวงตา มหาบัว

    DrSeripiput Srimuang
    published on Feb 9, 2013


    2:00 หลวงปู่มั่นสอนธรรมให้หายสงสัย มั่นใจในพระนิพพาน
    6:00 จิตเสื่อม 1 ปี 5 เดือน - วิธีแก้ไข ภาวนาให้ใจอยู่ใน พุทโธ
    18:00 จิตสงบ ติดในสมาธิ 5 ปี - ออกรู้ด้านปัญญา อสุภ - ละกามราคะ ปฏิฆะ
    28:00 วิธีปฏิบัติธรรมสู่ อนาคามี -
    38:00 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต - ธรรมธาตุ - สมมติขาดไม่เหลือ กิเลสหมดสิ้น
    54:02 พระพุทธเจ้าสอนให้ดูใจ - สอนให้มาดูจิตด้วยสติ ให้นำคำบริกรรม พุทโธ มาติดแนบกับจิต
    1:09:00 ปฏิบัติธรรมที่บ้านนาสีนวล - บริกรรม พุทโธ พุทโธ
    1:16:00 ปัญญา - หลงสังชาร สังขารกลายเป็นสมุทัย ให้เข้าพักในสมาธิ
    1:25:30 ภาวนามยปัญญา - ปัญญาที่เกิดจากการภาวนา -

    1. พิจารณากายให้เป็นอสุภะ ให้เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    2.พิจารณา เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ให้เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    3.อวิชา - ขันธ์๕ เป็นเพียงเครื่องมือของอวิชา - ละอวิชา จะเห็นแสงสว่างจ้า - อาโลโก อุปาทิ - สันทิฏฐิโก - เข้าถึงธรรมธาตุ พระนิพพาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2020
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,487
    [​IMG]
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    a.3767782.jpg

    ถ้าศีลธรรมไม่กลับมา

    ถ้าศีลธรรม ไม่กลับมา โลกาวินาศ
    มนุษยชาติ จะเลวร้าย กว่าเดรัจฉาน
    มัวหลงเรื่อง กิน กาม เกียรติ เกลียดนิพพาน
    ล้วนดื้อด้าน ไม่เหนี่ยวรั้ง บังคับใจ
    อาชญากรรม เกิดกระหน่ำ ลงในโลก
    มีเลือดโชก แดงฉาน แล้วซ่านไหล
    เพราะบ้ากิน บ้ากาม ทรามเกินไป
    บ้าเกียรติก็ พอไม่ได้ ให้เมาตน
    อยากครองเมือง ครองโลก โยกกันใหญ่
    ไม่มีใคร เมตตาใคร ให้สับสน
    ขอศีลธรรม ได้กลับมา พาหมู่คน
    ให้ผ่านพ้น วิกฤตการณ์ ทันเวลา ฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2020
  9. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,487
    [​IMG]

    "ยินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี
    เป็นคนโชคดีที่สุด"


    หลวงปู่จันทร์ กุสโล
     
  10. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,487
    [​IMG]

    "เราควรชวนกันเข้าหาธรรมะ
    อย่าหันหลังให้ธรรมะ

    ถ้าไม่สนใจธรรมะ
    มันก็เหมือนกับเราหันหลังให้บ่อน้ำที่เย็นๆ
    แล้วไปหันหน้าเข้ากองไฟใหญ่ๆ"


    หลวงปู่ชา สุภทฺโท

     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2016
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>> a.3770405.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2016
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    a.3770828.jpg . .

    ขอบพระคุณที่มา ดอยแสงธรรม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2017
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    --------------------[​IMG]
    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    . .>[​IMG]

    . .พระสารีบุตร
    ประวัติพระสารีบุตร พระอัครสาวกผู้เป็นเลิศในทางปัญญา

    พระสารีบุตร มีชื่อเดิมว่า อุปติสสะ เป็นบุตรพราหมณ์ผู้บริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์และบริวาร ชื่อวังคันตะ และนางสารี เกิดในตำบลบ้านชื่อนาลกะหรือนาลันทะ ไม่ห่างจากกรุงราชคฤห์

    อุปติสสมาณพเป็นเพื่อนสนิทกับโกลิตมาณพ หรือพระมหาโมคคัลลานะ ทั้งสองคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นบุตรแห่งสกุลผู้มั่งคั่งเหมือนกัน เบื่อชีวิตการครองเรือนที่วุ่นวาย จึงพาบริวารไปขอบวชอยู่ในสำนักสัญชัยปริพาชก เรียนลัทธิของสัญชัยได้ทั้งหมด จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยสอนหมู่ศิษย์ต่อไป ทั้งสองมาณพยังไม่พอใจในคำสอนของสัญชัยปริพาชก เพราะไม่ใช่แนวทางที่ตนต้องการ จึงตกลงกันที่จะแสวงหาอาจารย์ที่สามารถชี้แนะแนวทางที่ดีกว่านี้ หากใครได้โมกขธรรม ก็ขอให้บอกแก่อีกฝ่ายหนึ่ง

    พบพระอัสสชิ

    ในวันหนึ่งอุปติสสมาณพได้เข้าไปในกรุงราชคฤห์ได้พบพระอัสสชิ ซึ่งเป็นหนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ กำลังบิณฑบาต อุปติสสมาณพเห็นพระอัสสชิ มีอาการน่าเลื่อมใส มีความประทับใจ จึงเข้าไปถามพระอัสสชิว่า ผู้ใดเป็นศาสดาของท่าน พระอัสสชิตอบว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นโอรสศากยราช เป็นศาสดา อุปติสสมาณพจึงขอให้พระอัสสชิแสดงธรรม พระอัสสชิได้ออกตัวว่าพึ่งบวชได้ไม่นาน ไม่อาจแสดงธรรมโดยกว้างขวาง อุปติสสมาณพจึงขอให้พระอัสสชิแสดงธรรมสั้น ๆก็ได้ พระอัสสชิได้แสดงธรรมแก่อุปติสสมาณพ เรียกกันว่า "คาถาเยธัมมา" เพราะขึ้นต้นด้วยคำว่า "เย ธัมมา" ในสมัยโบราณ ถือเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา อุปติสสมาณพได้นำคำสอนของพระอัสสชิไปแจ้งให้โกลิตมาณพทราบ โกลิตมาณพก็ได้ดวงตาเห็นธรรมเช่นเดียวกัน

    ชักชวนอาจารย์สัญชัยไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

    มาณพทั้งสองได้ไปชักชวนสัญชัยปริพาชก ให้ไปบวชเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าด้วยกัน แต่สัญชัยปริพาชกไม่ยอมไป มาณพทั้งสองก็รบเร้าว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ตรัสรู้เอง เป็นผู้รู้แจ้งจริง ต่อไปคนทั้งหลายจะหลั่งไหลไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แล้วอาจารย์จะอยู่ได้อย่างไร สัญชัยปริพาชกจึงถามว่า ในโลกนี้คนโง่มากหรือคนฉลาดมาก มาณพทั้งสองได้ตอบว่า "คนโง่มากกว่า" สัญชัยปริพาชกจึงกล่าวแก่มาณพทั้งสองว่า "ปล่อยให้คนฉลาดไปเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ให้คนโง่ซึ่งมีจำนวนมากกว่ามาเป็นลูกศิษย์ของเรา เราจะได้รับเครื่องสักการะจากคนจำนวนมาก คนฉลาดอย่างเธอทั้งสองจะไปเป็นศิษย์ของพระสมณโคดมก็ตามใจ"

    ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

    อุปติสสมาณพและโกลิตมาณพจึงไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่สวนเวฬุวนาราม ในกรุงราชคฤห์ ในขณะนั้นพระพุทธองค์กำลังประทับท่ามกลางพุทธบริษัทจำนวนมาก เมื่อเห็นมาณพทั้งสองกำลังเดินมา จึงตรัสบอกภิกษุสงฆ์ว่า "ภิกษุทั้งหลาย มาณพทั้งสองคนนั้นจะเป็นอัครสาวกของเราตถาคต"

    มาณพทั้งสองได้ทูลของอุปสมบทต่อพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ได้ทรงอนุญาตให้บวชเป็นภิกษุ พระมหาโมคคัลลานะอุปสมบทได้ 7 วัน ก็สำเร็จพระอรหันต์ ส่วนพระสารีบุตรอุปสมบทได้กึ่งเดือน จึงสำเร็จพระอรหันต์ พระอรรถกถาจารย์ได้อธิบายการที่พระสารีบุตรได้บรรลุพระอรหันต์ช้ากว่าพระมหาโมคคัลลานะว่าเป็นเพราะพระสารีบุตรเป็นผู้มีปัญญามาก ต้องใช้บริกรรมใหญ่ เปรียบด้วยการเสด็จไปของพระราชาต้องตระเตรียมราชพาหนะและราชบริวาร จึงจำเป็นต้องใช้เวลามากกว่าการไปของคนสามัญ

    ได้รับการแต่งตั้งเป็นอัครสาวก

    ในวันที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนมาฆะ ในคืนวันนั้นพระพุทธเจ้าทรงประทานพระโอวาทปาติโมกข์แก่จาตุรงคสันนิบาต จากนั้นพระพุทธเจ้าทรงประกาศแต่งตั้งพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกเบื้องขวาเลิศกว่าผู้อื่นในทางปัญญา พระมหาโมคคัลลานะเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายเลิศกว่าผู้อื่นในทางมีฤทธิ์

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระสารีบุตรว่าเป็นเอตทัคคะในทางปัญญา เป็นผู้สามารถจะแสดงพระธรรมจักรและพระจตุราริยสัจให้กว้างขวางพิศดารเสมอพระองค์ เมื่อมีภิกษุมาทูลลาพระพุทธเจ้าเพื่อจะเที่ยวจาริกไป พระพุทธเจ้ามักจะตรัสให้ภิกษุที่มาทูลลา ไปลาพระสารีบุตรก่อน เพื่อให้พระสารีบุตรได้สั่งสอน เช่นครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองเทวทหะ ภิกษุเป็นจำนวนมากได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อทูลลาไปชนบท พระพุทธเจ้าก็ตรัสสั่งให้ไปลาพระสารีบุตร แล้วทรงยกย่องว่าพระสารีบุตรเป็นผู้มีปัญญา อนุเคราะห์เพื่อนบรรพชิตทั้งหลาย เปรียบเสมือนมารดาผู้ให้กำเนิด ย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล

    พระสารีบุตรได้รับการยกย่องมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "พระธรรมเสนาบดี" พระสงฆ์ผู้ประกาศพระศาสนา ได้ชื่อว่าธรรมเสนา เป็นกองทัพธรรมที่ประกาศเผยแผ่ธรรม เมื่อไปถึงที่ไหน ก็ทำให้เกิดประโยชน์และความสุขที่นั่น พระพุทธเจ้าเป็นจอมธรรมเสนา เรียกว่า "พระธรรมราชา" โดยมีพระสารีบุตรเป็นพระธรรมเสนาบดี หรือแม่ทัพฝ่ายธรรม

    เป็นผู้มีความกตัญญู


    พระสารีบุตรยังได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้มีความกตัญญู แม้ว่าพระสารีบุตรจะได้รับการแต่งตั้งจากพระพุทธเจ้าเป็นอัครสาวกเบื้องขวา ผู้เป็นเลิศในทางปัญญา ท่านก็นับถือพระอัสสชิเป็นอาจารย์ เพราะพระอัสสชิได้แสดงธรรมแก่ท่าน ทำให้ท่านมีดวงตาเห็นธรรม และได้มาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา เมื่อพระอัสสชิอยู่ในทิศใด เมื่อพระสารีบุตรจะนอน จะนมัสการไปทางทิศนั้นก่อน และหันศรีษะไปทางทิศนั้น ภิกษุที่ไม่รู้เรื่องเข้าใจผิดว่าท่าานนอบน้อมทิศตามลัทธิของพวกมิจฉาทิฏฐิ ความทราบถึงพระบรมศาสดา จึงตรัสว่าพระสารีบุตรไม่ได้นอบน้อมทิศ ท่านนมัสการพระอัสสชิผู้เป็นอาจารย์

    ครั้งหนึ่งมีพราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อราธะ อยากจะอุปสมบทในพระพุทธศาสนา แต่ไม่มีภิกษุรูปใดรับอุปสมบทให้ เพราะเป็นผู้ชราเกินไป ราธะเมื่อไม่ได้บวชก็มีความเสียใจมาก มีร่างกายซูบซีด ผิวพรรณไม่ผ่องใส พระบรมศาสดาทอดพระเนตรเห็นราธะ จึงตรัสถามได้ความจริงแล้ว จึงตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า มีใครระลึกถึงอุปการะของราธะบ้าง พระสารีบุตรได้กราบทูลว่าท่านระลึกได้ ครั้งหนึ่งท่านเข้าไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ ราธะได้ถวายข้าวแก่ท่านทัพพีหนึ่ง พระศาสดาทรงสรรเสริญว่า ท่านเป็นผู้กตัญญูดีนัก อุปการะเพียงเท่านี้ก็ยังจำได้ จึงตรัสให้ท่านรับบรรพชาอุปสมบทราธพราหมณ์

    โปรดมารดาก่อนจะนิพพาน

    พระสารีบุตรได้พิจารณาเห็นว่าอายุสังขารจวนสิ้นแล้ว ปรารถนาจะไปโปรดมารดาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะนิพพานในห้องที่ท่านเกิด ปรากฏว่านางสารีพราหมณีผู้เป็นมารดา เป็นผู้ไม่ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา มีความเสียใจที่พระสารีบุตรและน้อง ๆ พากันออกบวชในพระพุทธศาสนา พระสารีบุตรพยายามชักจูงมารดาให้มานับถือพระพุทธศาสนาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงดำริจะไปโปรดมารดาเป็นครั้งสุดท้าย

    พระสารีบุตรได้กราบทูลลาพระพุทธเจ้าเพื่อไปนิพพานที่บ้านเกิด แล้วออกเดินทางกับพระจุนทะผู้เป็นน้อง กับพระที่เป็นบริวาร 500 องค์ เดินทางไปถึงหมู่บ้านนาลันทะ ซึ่งเป็นบ้านเกิด นางสารีพราหมณ์ผู้เป็นมารดา ได้จัดให้พระสารีบุตรพักในห้องที่เกิด และจัดเสนาสนะสำหรับเป็นที่อยู่ของภิกษุ 500 องค์ ที่เป็นบริวาร ในคืนวันนั้น ท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 องค์ มีท้าวเวสสุวัน เป็นต้น ได้มาถวายนมัสการพระสารีบุตรซึ่งกำลังนอนอาพาธอยู่ เมื่อท้าวจาตุมหาราชกลับไปแล้ว ท้าวสักกเทวราชหรือพระอินทร์ได้มาถวายนมัสการ เมื่อท้าวสักกเทวราชกลับไปแล้ว ท้าวสหัมบดีมหาพรหมก็ได้มาถวายนมัสการ มีรัศมีเปล่งปลั่งดังกองเพลิง ทำให้สว่างไสวไปทั้งห้อง เมื่อท้าวมหาพรหมกลับไปแล้ว นางสารีพราหมณีจึงได้ถามพระจุนทะเถระว่า ผู้ใดที่เข้ามาหาพี่ชายของท่าน พระจุนทะเถระจึงบอกมารดาว่า ท้าวจาตุมหาราช ท้าวสักกเทวราช และท้าวมหาพรหม ได้มาถวายนมัสการพระสารีบุตร

    นางสารีพราหมณีได้ฟังดังนั้นก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระสารีบุตรและพระพุทธเจ้า คิดว่าพระลูกชายของเรายังเป็นใหญ่กว่าท้าวจาตุมหาราช ท้าวสักกเทวราช และท้าวมหาพรหม พระพุทธเจ้าซึ่งเป็นครูของพระลูกชายของเราจะต้องมีอิทธิศักดานุภาพยิ่งใหญ่ พระสารีบุตรได้รู้ว่า บัดนี้มารดาได้เกิดความปีติโสมนัสและศรัทธาในพระพุทธเจ้าแล้ว ถึงเวลาที่จะเทศนาทดแทนพระคุณของมารดาและโปรดมารดาให้เป็นสัมมาทิฏฐิ จึงได้เทศนาสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า เมื่อจบเทศนาแล้ว นางสารีพราหมณีก็ได้พระโสดาปัตติผล

    ในเวลารุ่งเช้า พระสารีบุตรก็นิพพาน พระจุนทะเถระได้ทำฌาปนกิจสรีระพระสารีบุตร เก็บอัฐิธาตุนำไปถวายพระพุทธเจ้า ซึ่งประทับอยู่ พระเชตวัน เมืองสาวัตถี พระพุทธเจ้าได้โปรดให้ก่อพระเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของพระสารีบุตรไว้ ณ ที่นั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสยกย่องพระสารีบุตรว่าเป็นเลิศในความกตัญญูกตเวที และตรัสว่าลูกคนใดที่ทำให้พ่อแม่ตั้งอยู่ในสัมมาทิฏฐิ ลูกคนนั้นได้ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ด้วยความกตัญญูกตเวทีอย่างสูง

    https://sites.google.com/site/sawokbuddha/phra-sa-ri-butr
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Buddha1.jpg
      Buddha1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      280 KB
      เปิดดู:
      237
    • NeverForget3.jpg
      NeverForget3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.4 KB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2016
  18. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    3,978
    ค่าพลัง:
    +10,238
    เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๐ ขอกราบอาราธนาคุณพระรัตนตรัย
    และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลจักรวาล โปรดช่วยปกป้องคุ้มครองทุกท่าน
    ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง มีความสุข ความเจริญ ตราบจนเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
     
  19. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,487
    15823582_923748771060448_6445171997680598410_n.jpg
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018

แชร์หน้านี้

Loading...