จิตสังขาร เกิดดับ เกิดดับควรยึดหรือ

ใครคือผู้กำหนดรู้..ถามครั้งที่สองครับ

 

จุดที่มันชอบตามไปรู้คือเจตสิก แต่ไอ้เจตสิกที่มันตาม มันพาแต่ไปรู้เรื่องชาวบ้าน รู้แต่เรื่องรอบตัว แต่ไม่สนใจรู้ตัวเอง เราจึงต้องสร้างเจตสิกฝ่ายดีขึ้นมานั่นคือสติ สร้างโดยการดึงให้มันมารู้จักตัวเอง สร้างจนมันจำได้เองจนเกิดอัตโนมัติ แทนที่การตามรู้เจตสิกปรุงแต่ง

 

คำตอบมีอยู่ในนั้นแล้วค่ะ

คุณละอองไฟ ถนัดถาม

แต่ไม่ถนัดที่จะตอบนะคะเนี่ย

 

เป็นการยอมรับโดยละม่อมว่าเรามี
เรานี่แหล่ะคือผู้สร้างเจตสิก

 

ถึงพระพุทธเจ้าอยู่ตรงหน้า มาบอกว่าจิตไม่ใช่เรา
คุณก็ไม่สามารถรู้สึกแบบนั้นได้
ตราบใดที่ยังไม่เห็นและสัมผัสด้วยตัวเอง

หากคิดว่าถามแล้วจะได้คำตอบจนคิดได้เอง

เดินไปถามตู้กับข้าวน่าจะได้ประโยชน์พอกัน

 

สนทนากันเรื่องจิตหรือใจ มันจะเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา
ใกล้จะโดนแต่ก็ไม่โดน เพราะจิตแท้
(ตัวท็อปหรือใจ)มันเป็นผู้รู้(ตัวจริงหรือธาตุรู้)
ที่ไม่มีตัวตน
ไม่มีรูปลักษณ์
ไม่เกิดไม่ดับ มันทำหน้าที่รู้ทุกสิ่ง(ที่เกิดดับ)
ในจักรวาล
แต่สิ่งเกิดดับใดๆไม่อาจจะรู้หรือ
แทรกแซงธาตุรู้นั้นเนื่องจากจิตแท้นี้
ไม่มีอะไรปรากฎ มีเสียงแต่ก็แค่เสียง
เงียบ(Sound of.Silence)
เสียงที่หู เนื้อไม่มีโอกาสจะได้ยิน
เพราะเสียงนี้ได้ยินได้ด้วย"ใจ" เท่านั้นฮับ

 

ด่วน!! ขายตู้กับข้าวมือ 2 สภาพดี
มี
ขาครบ รุ่นนี้มีลำโพงในตัว
55 ฮับ

 

ตู้กับข้าวมันหาง่าย
ตู้กลับใจ.
ตลอดชีวิตคุณแฟนต้าแนน
จะเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ

 

หากับข้าวมาใส่ด้วยนะ
ถามได้ อิ่มด้วย

 

นั่นงัยเห็นตู้กับข้าวเป็นผู้รู้ไปแล้ว

 

อูยยย แบบนี้เข้าล็อคจิตเที่ยงเต็มๆเลยค่ะลุงแมว

 

เริ่มส่งออกไปสิงตู้กับข้าวแล้ว

 

เผื่อคุณละอองไฟจะแจ้งจากการตามหาคำตอบว่าใครเป็นเจ้าของตู้กับข้าว

 

รุ่นนี้ไม้สักเทียม แมงวันเข้าออกสบาย
ไม่มีลำโพง 55

 

สมัยนี้มีลำโพงด้วยหรอคะ
ป้าดโท้วววว

 

แจ้งตั้งนานแล้วครับ
เราเป็นเจ้าของได้ชั่วคราว
ไม่ใช่เจ้าของที่ยั่งยืนถาวรตลอดกาล
ก็จะ Link เข้ากับไตรลักษณ์ทันทีครับ

จะว่าเป็นเจ้าของก็ไม่ผิด
จะว่าไม่ใช่เจ้าของมันก็ถูก
การสนทนาธรรมะ
ต้องแสดงให้ถูกที่ถูกเวลาครับ
ผิดที่ผิดเวลาเมื่อไหร่
นั่นคือการบ่งชัดว่า
รู้ธรรมะแต่ไม่เข้าใจธรรมะจริง

 

แนนว่าคุณเอาโลกกับธรรมมาผสมกันจนสับสนในตัวเอง

ถ้าเห็นจริงมันจะชัดเจน ไม่ใช่อันนี้ก็ดี แบบนี้ก็ใช่ไปหมด ตอบตัวเองได้ไม่เป๋ไปมา

 

คุณแฟนต้าแนน
กำลังปฏิเสธความจริง
ว่าโลกกับธรรมรวมอยู่ด้วยกันหรือครับ

 

คุณไม่เข้าใจความจริง
ว่าที่เราสร้างกฏเกณฑ์ สังคม
การแสดงความเป็นเจ้าของสารพัดรอบตัวมันเกิดจาก
จิตอวิชชา สร้างสมมุติทุกอย่างมาปิดบังความจริง คือ ธรรมชาติของรูปนาม

โลกที่พูดคือ โลกสมมุติ โลกที่เต็มไปด้วยความไม่รู้

ส่วนโลกที่เป็นธรรมชาติก้อนธาตุ มันไม่มีความคิดปรุงแต่งใดๆเลย เป็นเพียงรูปนึงในปรมัถต์

ในความที่เรายังต้องอาศัยในโลกสมมุติ เราก็เดินไปตามบทบาท แต่ใจที่แจ้งมันย่อมรู้เต็มอกว่าอะไรคือความจริงไม่มีเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นได้

 

ธาตุรู้เนี่ยะ อยู่เหนือไตรลักษณ์

เวลาพระเขาพูด ~ นี่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา < อันนี้เขาพูดธรรมชาติของไตรลักษณ์ จิตแค่"เห็น"ไตรลักษณ์ แต่ตัวธาตุรู้ไม่ใช่ตัวไตรลักษณ์

แต่จิตอวิชชา อยู่ใต้ไตรลักษณ์ แต่ธาตุรู้ อยู่เหนือไตรลักษณ์ มันไม่มีเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ไปโน่นนี่นั่น แต่มันรู้อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง และตัวมันไม่มีความวุ่นวายใดๆ

จิตที่เดินวิปัสสนาไปเองเป็นพักๆ ก็จิตอวิชชาดำเนินการทั้งนั้น ธาตุรู้มันแค่มอง แล้วรู้เฉยๆ อย่างเดียว