พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษในมุมมองของผมในฐานะช่างผู้สร้างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย glassbuddha2009, 15 ธันวาคม 2018.

  1. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    a129.jpg
    หลวงพ่อวิชาญที่มาเยี่ยมผมเมื่อไม่นานมานี้
     
  2. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ข้อเสีย ……. ประการในการสร้างพระแก้วมรกตและพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2498 ถึง พ.ศ. 2540
     
  3. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ข้อเสียข้อที่ 1

    เจตนาของสำนักต่างๆที่สร้างพระแก้วมรกตและพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ

    เนื่องจากมีเจ้าของโครงการนับตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2498 - 2540 หลายร้อยโครงการ ส่วนที่โครงการเกิดก่อนยุครัชกาลที่ 5 - 9 ที่เป็นคำสั่งสร้างไปยังต่างประเทศนั้น ผมคิดว่าเจตนาดีและบริสุทธิ์ ส่วนต่อมาที่มีบุคคลตั้งตนเองเป็นสำนักสร้างพระแก้วจำนวนมาก มากกว่า 25 สำนักฯนั้น ผมเชื่อว่าสำนักฯบางสำนักก็มีเจตนาเพียงเพื่อกอบโกยทำกำไรเข้าพกเข้าห่อเพียงอย่างเดียว ผลงานจึงออกมาในลักษณะที่มีข้อด้อยหลายข้อมาก ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ชิ้นงานแก้วจะมีคุณภาพด้อยขนาดนี้มาต่อเนื่องยาวนานกว่าครึ่งร้อยปี

    ส่วนสำนักฯใด หรือวัด หรือสำนักสงฆ์ หรือเจ้าของโครงการอื่นใดที่มีเจตนาในการสร้างบริสุทธิ์นั้น แต่บังเอิญเข้ามาในช่วงที่โรงงานหลอมแก้วต่างๆมากมายกำลังแย่งงานกัน จนเป็นเหตุให้คุณภาพด้อยลงถึงขนาดพระแก้วมรกตและพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษที่สร้างนั้น แตก ร้าว บิ่น กระเทาะ ปริ และอื่นๆภายหลังต่อเนื่องมาไม่หยุดมากกว่า 64 ปี ( ที่สร้างในยุคปี พ.ศ. 2520 ก็แตกต่อเนื่องมา 42 ปีแล้ว ) และยังจะแตก ร้าว ปริ ต่อไปอีก เพราะแก้วนั้นคุณภาพต่ำมาก
     
  4. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    สำนักสร้างพระแก้วมรกตและพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษมีมากเกินกว่า 25 สำนักฯ เมื่อบวกกับวัด สำนักสงฆ์ เจ้าของโครงการอื่นๆอีก มีคนสร้างพระแก้วมรกตและพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษรวมนับร้อยๆโครงการ หรือร้อยๆเจ้านั่นเอง เมื่อมีมากก็มีทั้งที่ดีและที่ไม่ดี ผมจะพูดถึงโครงการที่ดีว่า โครงการที่ดีนั้น เขาอาจมีเจตนาดี บริสุทธิ์เช่นของวัดที่เขามีเจตนาดี โดยอาจเรียกชื่อรุ่นนั้นเป็นชื่อพระเกจิอาจารย์ ส่วนโครงการที่ไม่ดีนั้นมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ส่วนมากจะเป็นสำนักฯ สำนักสร้างพระแก้วต่างๆที่มีมากกว่า 25 สำนัก บางคนไม่ทราบว่าเบื้องหลังเจ้าของสำนักสร้างพระเหล่านี้คือคนเพียงคนเดียว การจดทะเบียนเป็นสำนักฯนั้น เป็นเพียงการหลอกตา ความจริงคือจดยังไงก็ได้ สำนักฯที่ดีก็ขอชื่นชมหากมีนะครับ สำนักฯที่คิดแต่กอบโกยก็อีกเรื่องหนึ่ง เจ้าของสำนักฯนั้นเป็นเพื่อนกับคุณพ่อผมหลายสำนักฯ ซึ่งผมสนิทสนมกับท่านเหล่านั้นตั้งแต่เด็กๆจนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่โตมาจนกระทั่งผมมาเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตพระแก้วมรกตพระแก้ว 25 ศตวรรษของโรงงานหลอมแก้วของคุณพ่อผมเอง ผมจึงทราบเจตนาที่แท้จริงของเจ้าของสำนักฯต่างๆเหล่านั้นไม่ดี เจ้าของสำนักฯที่ดีนั้นผมยังไม่พบ ซึ่งก็อาจมีนะครับ แต่ผมโชคไม่ดีที่ยังไม่เคยพบเลย
     
  5. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ข้อเสียข้อที่ 2

    กดราคาต่ำจนต้องใช้เศษกระจกมาหลอม

    การกดราคาต้นทุนพระแก้วในยุคนั้น กดต่ำมาก ต่ำจนกระทั่งทางโรงงานแก้วที่สร้างพระแก้วนับร้อยโรงงาน อาจพูดได้ว่า เกือบทั้งหมด ได้เติมเศษกระจกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเศษขวด เศษกระจก เข้าไปในการหลอมที่มากเกินกว่าเบ้าหลอมอื่นๆ ในเบ้าที่จะทำการหลอมพระแก้ว ช่างจะเติมเศษกระจกหรือเศษขวดเข้าไปมากกว่า 35% บางโรงงานก็เติมมากกว่า 45% ซึ่งความจริงต้องมีเศษกระจกหรือเศษขวดด้วยก็จริง แต่อัตราต้องต่ำกว่านี้มากมาย ทั้งนี้เพราะเศษกระจกมีราคากิโลกรัมละไม่ถึง 1 บาท เมื่อหลอมมาเป็นองค์พระซึ่งมักจะมีน้ำหนักมาก ก็จะได้ลดต้นทุนลงไปทันที

    ต่างจากแก้วชั้นดีที่เขาจะเติมเศษกระจกเศษขวดในปริมาณที่พอเหมาะสมเท่านั้น อาจแค่ 15% + - นิดหน่อย และเติมเคมีภัณฑ์ให้มาก เนื้อแก้วที่ได้จากการที่มีเคมีภัณฑ์มากๆก็จะมีค่าอัลฟ่าต่ำกว่า 100 ซึ่งเป็นผลให้นับว่าเป็นแก้วดี มีความแข็งแรง โครงการโมเลกุลจะดีกว่าที่ผสมเศษแก้วจำนวนมาก

    หมายเหตุ
    โรงงานแก้วบางโรงงานถึงกับเติมเศษขวดเศษกระจกมากกว่า 50% ก็มี อันนี้จะเห็นได้จากการมองเนื้อแก้วได้ทันที ภาษาช่างเรียกว่าแก้ว poor เมื่อมองเนื้อแก้วตรงๆจะเห็นสีซีดๆ เซียนพระบางคนบอกว่า ที่ซีดนั้นคือเนื้อเก่าได้ที่ นั่นไม่ใช่ครับ มันคือแก้ว poor
     
  6. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    เอาไว้ผมจะได้อธิบายสีผิวของแก้วในที่อื่นอีกครั้งครับว่า สีของแก้วนั้น ที่ซีดแบบ poor กับสีขาวฝ้า หรือผิวกัดกรดนั้นมันต่างกันอย่างไร

    เอาไว้ภายหลังจะได้อธิบายต่อไปครับ
     
  7. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ทำไมผมจึงรู้สึกไม่ดีต่อการสร้างพระแก้วในยุคนั้น เนื่องจากผมเป็นคนที่ ถ้าทำอะไรมักทำให้ดีที่สุด หรืออย่างน้อยต้องดีมาก แต่ในเมื่อให้ผมเป็นผู้จัดการโรงงานหลอมแก้วแล้ว ต้องให้ผมทำอะไรที่ผมไม่เห็นด้วยมากๆ เพียงเพื่อทำให้สำนักสร้างพระแก้วไปขายแล้วกำไรเข้าบ้านเขามากๆจำนวนหลายสิบสำนักฯนั้น ผมรู้สึกไม่ดี จึงเป็นที่มาของการที่ผมต้องมาพยายามสร้างให้ดีภายหลัง และผมได้พิสูจน์แล้วว่า ผมได้แก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตได้ทุกข้อ แม้ว่าในวันนี้ผมจะไม่มีโรงงานหลอมแก้ว ผมจึงยิ่งเชื่อว่า หากสมัยนั้น สำนักฯต่างๆถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ที่จะสร้างให้ดีที่สุด ผลงานจะไม่ออกมาแบบนี้เลยครับ

    ไม่ว่าการออกแบบ การขึ้นแม่พิมพ์เหล็ก การสร้างจากโรงงาน การอบลดอุณหภูมิ ทุกอย่างเป็นไปเพื่อทำกำไรเพียงอย่างเดียว ผมรู้สึกว่า เหมือนผมถูกขืนใจให้ทำ แต่บัดนี้ผมได้แก้ไขให้ดีได้ทุกข้อแล้ว จึงรู้สึกดีขึ้นครับ
     
  8. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ข้อเสียข้อที่ 3

    การออกแบบ

    แทบทุกสำนักที่สร้างพระแก้วมรกตหรือพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ ไปจ้างคนออกแบบที่ไม่น่าจะเรียกว่า การออกแบบที่ถูกต้องเลย ผมจะไม่เอ่ยว่าชื่อสำนักฯใด หรือวัด หรือสำนักสงฆ์ใด ดูการออกแบบพระแม่โพสพของบางสำนักในสมัยนั้น ท่านเคยเห็นผู้หญิงที่ไม่สวยขนาดนั้นไหมครับ ? ขนาดของคอกับศรีษะเท่ากันเลย พระแม่โพสพเป็นหญิงงาม มีสัดส่วน มีคอเรียวยาว ไม่ใช่ขนาดคอกับขนาดศรีษะใหญ่เท่ากันแบบนั้น

    ส่วนการออกแบบรุ่นอื่นๆที่ดีก็มีนะครับ เพียงแต่ยังไม่พูดถึง พูดที่ผมเห็นว่า ไม่เข้าท่าก่อน อย่างนาคปรกนี่ แทบทุกสำนักฯเป็นแบบตัดตัวนาคให้เป็นสองท่อน ซึ่งนั่นคือจุดอ่อน จุดด้อยมากที่สุด เพียงเพราะถ้าแกะแม่พิมพ์ฐานเป็นนาคทั้งองค์ก่อน และแกะแม่พิมพ์พระทั้งองค์ อย่างนี้โรงงานแกะแม่พิมพ์เขาคิด 2 แม่พิมพ์ แต่ถ้าแกะนาคตัวขาดติดกับพระแก้ว แยกกับส่วนที่นาคขาดครึ่งตัว อย่างนี้โรงงานแกะเขาคิด 1.5 แม่พิมพ์ เพียงแค่ .5 เท่านั้น ต้องการลดต้นทุนเพียงค่าแม่พิมพ์ .5 เท่านั้น

    แต่นี่แหละครับ การลดต้นทุนเพียงเพื่อกอบโกยกำไรเข้าบ้านของบางสำนักฯ หรืออาจเป็นส่วนมากด้วยซ้ำไป
     
  9. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    การสร้างพระแก้วมีจำนวนมาก บางรุ่นบางสำนักฯออกถึงหลักแสนองค์ แต่กลับมาลดต้นทุนแม่พิมพ์ถึงขนาดนี้ จำนวนที่แต่ละสำนักฯสร้างพระแก้วนั้น ไม่ใช่น้อย นับแสนองค์ต่อรุ่นก็มี ยังไม่รวมถึงที่ตลาดมืดรับไปขายต่ออีกนับแสนองค์ต่อรุ่น ทั้งนี้จะได้เขียนต่อไปว่า ทำไมถึงมีตลาดมืดครับ
     
  10. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
  11. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ยกตัวอย่างการออกแบบที่ถูกต้อง กรณีนาคปรกนั้น หากออกแบบนาคทั้งองค์เป็นชิ้นเดียวกัน จุดด้อยหรือจุดอ่อนตรงที่ต้องมาต่อนาคนั้นก็หมดไป ความแข็งแรงเต็มที่จะเกิดขึ้น แยกองค์พระพุทธออกมาอีก 1 แม่พิมพ์เหล็ก จากนั้นสร้างพระพุทธโดยมีทับเสร็จที่ลึกพอที่จะเสียบลงในฐานนาค ถ้าออกแบบอย่างนี้ เขาจะถูกโรงงานแกะแม่พิมพ์เรียก 2 แม่พิมพ์ และเขาจะถูกโรงงานแก้วเรียกค่าสร้างเหมือนกับ 2 องค์ คือนาค 1 องค์พระ 1 แต่นี่ต่างหากที่เป็นความถูกต้อง

    การลดต้นทุนแม่พิมพ์ให้เหลือ 1.5 และลดต้นทุนที่โรงงานแก้วจะคิดให้อยู่ในอัตรา 1.75 แทนที่จะเป็น 2.0 ซึ่งต่อให้ 2.0 ก็ยังต่ำกว่าราคาขายมากมายนักครับ
     
  12. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    การออกแบบพระแก้วพระบูชาโดยเฉพาะปางนาคปรกนั้น ถือว่า มีความยากตรงต้องแยกออกเป็น 2 ชิ้นส่วน เพราะในสมัยนั้นงานปั๊มแก้วด้วยเทคนิค Pressed Glass ที่มีความจำกัดในหลายด้าน จึงต้องมี 2 ถอด แต่แทนที่จะเป็นองค์พระแก้วแยกออกจากฐานที่เป็นพญานาคที่สมบูรณ์เต็มทั้งองค์พญานาค กลับกลายเป็นถอดที่ทำให้มีข้อด้อย มีจุดอ่อน กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก นั่นก็คือ จุดเชื่อมต่อระหว่างตัวท่อนหัวของพญานาค กับตัวท่อนล่างที่ขดเป็นขนดของพญานาค ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีจุดเชื่อมต่อเล็กนิดเดียว

    เมื่อมาบวกกับปัญหาการใช้เศษแก้วปนเข้ามาหลอมมากเกินขนาด แก้วที่เป็นขอบรู หรือแก้วที่เป็นเดือย หรือทั้งสองส่วนมักมีอาการแตก บิ่น กระเทาะ ร้าว ปริ เพราะคุณภาพของน้ำแก้วที่กลายเป็นเนื้อแก้วนั่นเอง การที่สีผิวของเนื้อแก้วซีด ถ้าเป็นงานโลหะเขาจะดูว่าสวย ผิวเก่าได้ที่ แต่ทางวิชาแก้วมันคือข้อด้อยอย่างแรง
     
  13. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    frosted001.jpg
    ขออนุญาตนำภาพเมื่อสมัยผมเป็นที่ปรึกษาของช่างกัดกรดกัดแก้วของโรงงานโลตัสคริสตัล ระยองมาแสดงนะครับ นี่คือการใช้กรดกัดแก้วกัดให้ผิวแก้วดูเหมือนซีด แต่นี่คือการตั้งใจทำอย่างประณีตมาก

    ส่วนพระแก้วที่สมัยนั้นสร้างในราคาองค์ละ 25.- บาท ไม่มีการกัดกรดใดๆ แต่ซีดเพราะคุณภาพแก้วแย่มากนั้น เราภาษาช่างเรียกว่า แก้ว poor
     
  14. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ข้อเสียข้อที่ 4

    การใช้เล่ห์กล


    ในเรื่องการใช้เล่ห์กลนี้ ผมหมายถึงบางสำนักฯหรือบางเจ้าของโครงการสร้างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษที่แกะสลักไว้ที่แม่พิมพ์เหล็กว่าแม่พิมพ์สร้างในต่างประเทศ เมื่อใช้แม่พิมพ์เหล็กนั้นสร้างพระแก้ว พระแก้วนั้นก็จะมีอักษรติดว่า สร้างในต่างประเทศ ซึ่งผมไม่ขอระบุนะครับว่า คำว่าบางสำนักฯนั้น มีเยอะมากน้อยแค่ไหน ? หรือเป็นสำนักฯใด

    บางสำนักฯหรือบางเจ้าของโครงการฯก็ให้ช่างแกะสลักเครื่องหมาย เช่น อักษรบ้าง อื่นๆบ้าง ยกตัวอย่าง อักษร G.M. นั้น อาจไม่ได้หมายถึงเยอรมันก็ได้ ความจริงอาจเป็นชื่อของเจ้าของโรงงานแกะแม่พิมพ์ก็ได้ อาจชื่อ " โกวเมี้ยน " นี่ก็คือเล่ห์กลที่ทำให้คนนึกว่า แม่พิมพ์นั้นสร้างในเยอรมัน เป็นต้น
     
  15. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    สำนักฯต่างๆที่สร้างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษทุกรุ่นทุกปางทุกขนาดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 - 2540 มีจำนวนมากมาย มีคนที่พยายามรวบรวมรายชื่อตามหลักฐานที่เคยมีปรากฏในที่ต่างๆ รวมแล้วว่า มีประมาณ 20 สำนักฯ + - เล็กน้อย ( ตามความหมายของผู้ที่พยายามรวบรวมว่า อาจเป็น 18 สำนักฯ หรืออาจเป็น 2X กว่า ( ยี่สิบกว่า ) สำนักฯ แต่ความเป็นจริงแล้ว มีบางสำนักฯเกิดขึ้นมายังไม่ทันจดทะเบียนเลย พอเขาได้ช่องทางค้าขายพระแก้วในยุคนั้นๆ เขาก็ใช้วิธีไม่ต้องจดชื่อสำนักฯ อย่างนี้ก็มีไม่น้อยครับ

    ถ้าเอาที่จริงมาพูด ผมว่า คงมีมากกว่า 50 สำนักฯ ซึ่งเมื่อรวมกับวัดต่างๆที่ยกชูในชื่อของพระเกจิอาจารย์ และยังมีสำนักสงฆ์ รวมทั้งพระเกจิอาจารย์บางรูปก็ออกพระแก้วเองเลยก็อาจจะมี และยังมีเจ้าของโครงการเอกชนและหน่วยงานอื่นๆอีกมาก ผมว่า นับจริงๆคงถึงหรือเกิน 100 รายครับ ดังนั้น รายไหนมีความบริสุทธิ์เพียงใด ย่อมพิสูจน์ได้ยาก รายไหนซ่อนเร้นก็พิสูจน์ได้ยากอีกเช่นกัน เพราะสมัยนั้นมีบริษัทรับจ้างทำบัญชีให้สำนักฯต่างๆเหล่านี้ จากจำนวนสร้างจริงที่มหาศาลก็กลายเป็นแค่ตามบัญชีที่ตนเองยื่นต่อรัฐบาลเท่านั้น
     
  16. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    หลังจากปี พ.ศ. 2540 ยังมีวัดต่างๆ สำนักสงฆ์ และพระเกจิอาจารย์ต่างๆ รวมทั้งสำนักฯสร้างพระแก้วที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ กับเจ้าของโครงการอีกจำนวนหนึ่ง ยังมีการสร้างพระแก้วในไทย และส่งออกต่างประเทศก็มี ส่งในประเทศไทยก็มี มีทั้งใช้แม่พิมพ์เหล็กของรุ่นเดิมๆ รุ่นเก่าๆก็มี และที่เขารักความก้าวหน้า พัฒนารูปแบบปางใหม่ๆออกมาก็มี ถึงแม้ว่าจำนวนการสร้างจะลดลงมาก ปัจจุบันอย่างมากก็ไม่เกิน 5,000 องค์ต่อรุ่น ยกเว้นสำนักฯที่ยังดำเนินกิจการอยู่ จำนวนการสร้างเป็นเรื่องส่วนตัวของท่านครับ

    ยกตัวอย่าง ในปี พ.ศ. 2561 มีวัดๆหนึ่ง ได้พัฒนารูปแบบปางใหม่ มีความสวยงามพอสมควร ได้ว่าจ้างโรงงานแก้วเจษฏาให้สร้าง หน้าตัก 5 นิ้ว ราคาออกจากโรงงานองค์ละ 300.- บาทโดยพระแก้วนั้นเป็นเนื้อตันๆทั้งองค์ สร้างด้วยแก้วโซดาไลม์ซิลิก้าเกรดค่าอัลฟ่าต่ำกว่า 100 ซึ่งเป็นเนื้อแก้วคุณภาพที่ดี
     
  17. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ. 2559 มีพ่อค้าคนไทยคนหนึ่งเขาค้าขายพระแก้วอยู่แล้ว หากแต่ต้องการเปลี่ยนโรงงานแก้ว เพื่อนำไปขายในประเทศเพื่อนบ้านของเราหลายประเทศ และในที่สุดผมได้แนะนำให้ไปสร้างที่โรงงานหลอมแก้วแห่งหนึ่งที่นครปฐม หน้าตัก 3 นิ้วราคาออกโรงงาน 80.- บาท หน้าตัก 5 นิ้วถ้าผมจำไม่ผิดคงประมาณ 200.- บาท ซึ่งผมทราบว่า เขาส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้านมานานแล้ว และยังคงส่งไปขายอยู่อย่างต่อเนื่อง

    อย่างไรก็ดี รูปแบบปางก็ยังคงยึดรูป 25 พุทธศตวรรษ
     
  18. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    พอสรุปได้ว่า ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2498 ถึงปัจจุบัน พ.ศ. 2562 เหล่าพ่อค้า แม่ค้า นักลงทุน ได้แปรรูปตัวเองเข้ามาในลักษณะสำนักสร้างพระแก้วบางสำนัก ( ผมไม่ได้หมายถึงทุกสำนักนะครับ มีบางสำนัก หรืออาจจะมากสำนักที่ปลอมตัวเข้ามาในรูปแบบสำนัก ) เพื่อกอบโกยเงินกำไรเป็นอันมากผ่านการค้ารูปของพระพุทธเจ้า โดยไม่ได้ทำบุญทำกุศลเลย ( หากกอบโกยไปเท่าไรตีเป็น 100% แล้วทำบุญทำกุศลสักประมาณ 50% โดยทำบุญนั้นควรต้องเป็นบุญหลายๆชนิด เช่น สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน สาธารณประโยชน์ หรือจะเป็นทางพระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง ไม่ใช่เอาเงินไปถวายพระภิกษุให้ท่านผิดพระวินัย หรือเอาเงินไปทำบุญที่ผิดพระวินัย หรืออย่างน้อยที่สุดควรมี 30% ) แต่นี่บางสำนักฯสร้างพระแก้วกลับไม่มีเลยที่จะทำบุญทำกุศลตามที่ควรจะเป็น ถ้ามีก็ทำให้พระภิกษุผิดพระวินัยเสียมากกว่า
     
  19. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ปัจจุบันสำนักสร้างพระแก้วได้ลดจำนวนลงเป็นอย่างมาก อาจเหลือเพียงไม่กี่สำนักฯ นั่นผมไม่ขอวิจารณ์ แต่จะขอวิจารณ์เหล่าผู้ที่เป็นผู้ซื้อผู้ขายอิสระบางราย ที่เมื่อก่อนอาจไม่รู้ข้อมูลเหล่านี้มาก่อน ก็พูดเชียร์ซื้อขายกันเป็นตุเป็นตะ เมื่อก่อนผมยังไม่ได้ออกมาบอกความจริง แต่เมื่อผมพิจารณาแล้วว่า ในประเทศไทยนี้ไม่มีคนยอมพูดความจริงกันเลย หากผมตายไป ความจริงก็คงจะหายไป ไม่มีคนรู้ ผมจึงตัดสินใจพูดด้วยการเขียนไว้บนกระทู้นี้ ท่านที่ทราบแล้วจะได้กระจายความรู้ที่ถูกต้องต่อไป
     
  20. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,138
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ถึงแม้จะลดปริมาณการสร้างพระแก้วลงไปเป็นอย่างมาก แต่ผมยังเชื่อว่า จังหวะการสร้างพระแก้วของทีมช่างแก้วนั้น ก็ยังคงเหมือนเดิม คือทีม 6 - 8 คนต่อแท่นเครื่องปั๊ม สามารถปั๊มพระแก้วหน้าตัก 5 นิ้วได้ประมาณ 1 นาทีต่อ 1 องค์ต่อ 1 แท่น ถ้าโรงงานใดมีแท่นการสร้างพระแก้ว 1 แท่น สร้างพระแก้ววันละ 8 ชั่วโมง ก็จะสามารถสร้างพระแก้วได้ประมาณวันละ 500 องค์ต่อแท่น

    ก็ขึ้นอยู่กับว่าโรงงานนั้นๆยังใช้แท่นเครื่องปั๊มกี่แท่นเครื่อง ซึ่งหลังๆมาผมมักเป็นแค่ 1 ถึง 2 แท่นต่อโรงงานเท่านั้น ไม่เหมือนในอดีตที่บางโรงงานมีมากถึง 8 แท่นหรือมากกว่านั้น ยิ่งตอนสมัยประมาณปี พ.ศ. 2498 - 2525 มีบางโรงงานมีมากถึง 1X กว่าแท่นเครื่อง ( สิบกว่าแท่นเครื่องปั๊ม ) เมื่อเดินเครื่องเต็มพิกัดก็สามารถสร้างพระแก้วได้วันละ 6 พันหรือ 7 พันองค์ต่อโรงงานทีเดียว น่าเสียดายที่คนรุ่นหลังๆไม่เคยได้เห็นความรุ่งเรืองในการสร้างพระแก้วยุคนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...