ชวนขันธ์แสดงธรรม...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฟางว่าน, 3 กันยายน 2012.

  1. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    -
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2023
  2. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ชวนคุณขันธ์แดงไม่มาเลยขัน์ดำมาแทน
    อรูปราคะ เป็นชื่อของโลภะที่ติดข้องในอรูปฌานและอรูปภพ
    ซึ่งเป็นตัวโลภะเจตลิกนั่นเอง คือ เป็นความพอใจในฌานที่เป็นอรูปฌาน คือ
    ๑.อากาสานัญจายตนะฌาน
    ๒. วิญญานัญจายตนะฌาน
    ๓. อากิญนัญจายตนะฌาน
    ๔. เนวสัญญานาสัญญยตนะฌาน

    มีความติดใจในอรูปภพ คือ ในอรูปภูมิทั้ง ๔ ได้แก่
    ๑.อากาสานัญจายตนะภูมิ
    ๒. วิญญานัญจายตนะภูมิ
    ๓. อากิญนัญจายตนะภูมิ
    ๔. เนวสัญญานาสัญญยตนะภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กันยายน 2012
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    แสดงว่า ตัวโลภะเจตลิก ทำให้ได้ไปเกิดยัง อรูปพรหม
    ถูกไหมครับ ลุงหมาน
     
  4. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +2,985
    อะไร อะไร ก็ทราบหมดแล้ว .....ทำให้ได้ นะครับ รู้อย่างเดียว ไปไม่รอด
     
  5. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ใช่ครับ...โลภะเจสิก เป็นตัวกระตุ้นเป็นตัวนำให้ทำฌาน
    เมื่อได้รูปฌานมาแล้วก็อยากได้ฌานสูงๆขึ้นไปอีก
    ได้แก่อรูปฌาน เมื่อได้มาแล้วก็พึงพอใจในตนที่ได้มาจึงเรียกได้ว่า อรูปราคะ
    เมื่อจุติลงก็ไปเกิดในอรูปภูมิ ก็พึงพอใจในภูมิที่ตนได้มาคือ อรูปภูมิ
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    จิตเป็นกุศล กับจิตเป็น มหากุศล

    แตกต่างกันไหมครับ ลุงหมาน
     
  7. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ไม่แตกต่างครับ เพียงใช้คำพูดที่สั้นกว่ากันหน่อย มันก็เป็นจิตประเภทเดียวกัน
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    จิตมีสติเกิดประกอบด้วยปัญญา เรียกว่า จิตเป็นกุศล หรือจิตเป็น มหากุศลครับ ลุงหมาน
     
  9. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    สติย่อมเกิดกับจิตที่เป็นมหากุศลเสมอ
    สติเกิดกับจิตที่เป็นสัมปยุตจิต และวิปปยุตตจิต
    ปัญญาเกิดกับจิตที่เป็นสัมปยุตจิต แต่ไม่เกิดกับวิปปยุตตจิต
    ทั้งสัมปยุตจิต และวิปปยุตตจิต เป็นมหากุศลทั้งคู่
    ทั้งกุศล กับมหากุศล เป็นจิตประเภทเดียวกัน
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    เช่นนั้นแล้ว

    จิตเป็นกุศล กับ จิตเป็นมหากุศล เมื่อไม่ต่างกัน
    ให้ผลแตกต่างกันไหมครับ ลุงหมาน
     
  11. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    เหตุไม่ต่าง ผลก็ย่อมไม่ต่าง เหตุกับผล ย่อมตรงกันเสมอ
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    แล้ว
    ความต่าง ของสมาธิของอาราฬดาบส
    กับ
    สมาธิของพระพุทธเจ้า จะต่างกันที่ตรงไหนครับ ลุงหมาน

    แล้วจะมาใหม่ครับ ขอบคุณที่มาตอบให้ครับ
     
  13. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ไม่ต่างกัน แต่อาราฬดาบสเป็นสมาธินอกศาสนา
    คิดว่าเนวสัญญานาสัญญายตนะตรงนี้คือพระนิพพาน
    เพราะสมาธินั้นประหารกิเลสไม่ได้เลยเพียงกดทับไว้เหมือนหินทับหญ้า

    ตอนที่พระพุทธเจ้าเป็นลูกศิษย์ อาฬาลดาบส กับอุทกดาบส
    นั้นพระพุทธเจ้าถามว่าธรรมมีแค่นี้หรือ อาฬาลดบส กับอุทกดาบสตอบว่ามีแค่นี้
    พระพุทธเจ้าจึงเล็งว่าธรรมของอาจารย์ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด เพราะเป็นธรรมที่ต้องเกิดอีก
    พระพุทธเจ้าแสวงหาธรรมที่ไม่เกิด จึงได้ละทิ้งอาจารย์ทั้งสองเพื่อแสวงหาโมกขธรรมเอง
    จึงรู้ได้ว่าเพราะอวิชชาที่เป็นอนุสัยที่เป็นต้นตอหรือรากเง่าของการเกิดอีก
    เพราะฉนั้นอนุสัยนี้ต้องทำลายได้ด้วยมรรคทั้ง ๔ คือวิปัสสนากรรมฐาน หรือที่เรียกว่าสติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม นั่นแหละ
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    อรูปภูมิ..ลักษณ์เป็นอย่างไรครับ..ขยายความให้หน่อยคับ..
    ฟังแล้วเข้าใจว่า ดวงจิตที่ลอยเวิงว้าง..นิ่งๆไม่มีรูป ไม่มีสติ และไปอยู่ ณ สถานที่ในจักรวาลอื่นๆ..
     
  15. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,653
    ค่าพลัง:
    +1,211
    ฌานที่มาจากการเจริญสติที่จิตเขาทำของเขาเองแต่มีตัวรู้อยู่
    โดยที่สังขารนี้ไม่ว่าจะเป็นสังขารไหนเขาไม่ต้องการนั้น
    มีชื่อเรียกไหมครับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วครับ
     
  16. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    อรูปภูมิเป็นภูมิที่บุคคลเกิด ไม่มีรูป มีแต่นาม
    หรือเรียกว่ามีแต่จิตอย่างเดียวด้วยอำนาจของฌาน
    จิตไม่ได้ลอยเวิ้งว้างอย่างที่เข้าใจ แต่อาศัยอารมณ์ และกรรม
    สติมีครับ เพราะสติเป็นามธรรม อยู่ใน ๓๑ ภูมิ แต่เป็นภูมิที่ไม่มีรูปคืออรูปภูมิครับ
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ขอบคุณครับ
     
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    ขอบคุณครับลุงหมาน หมดคำถามแระ
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    จริงหรือเปล่า จริงเร๊อ จริงไหมน๊า
     
  20. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    ต่างกันแค่ ทุกข์ควรกำหนดรู้ กับทุกข์ไม่กำหนดรู้ เท่านั้นแหละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...