ชาตินี้ตามมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำจนได้

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o> </o>
ตามที่ได้สัญญาไว้ค่ะ ที่ว่าจะเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของการได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำหลังจากที่ท่านได้มรณะภาพไปแล้ว<o></o>
<o> </o><o> </o>
หลังจากที่ฟื้นจากตายแล้ว ดิฉันก็มีจิตฝักใฝ่ในการทำความดีมากขึ้น ได้ชักชวนพ่อแม่และผู้ใกล้ชิด ให้ทำความดีด้วย หากพบว่าใครที่พอจะมีบุญเก่ามาบ้างก็จะเล่าเรื่องตายแล้วฟื้นให้เขาฟัง เพื่อปรารถนาจะให้เขาได้เร่งปฏิบัติสร้างความดี แต่บางทีดิฉันก็ต้องระวังค่ะจำเป็นต้องเลือกคน เพราะประเดี๋ยวเขาจะหาว่าเพี้ยน<o></o>
<o> </o>
การปฏิบัติความดีของดิฉันที่ผ่านมาก็ยังไม่ถูกต้องสักเท่าไร จิตยังหลง เผลอ กับกิเลสทางโลก มากบ้างน้อยบ้าง สลับกันไปมา<o></o>
<o> </o>
ชื่อของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้น ผุดขึ้นในจิตดิฉัน เมื่อประมาณ 30 ปี ที่แล้ว แต่เพราะยังกิเลสหนาอยู่มาก ก็ไม่ได้ขวนขวยหาความรู้ทางปริยัติธรรม แต่จิตก็ยัง อยากรู้ว่าท่านเป็นใคร ทำไมชื่อท่านจึงมาติดอยู่ในจิตได้<o></o>
<o> </o>
นึกย้อนกลับไปเมื่ออายุ 9 ขวบ มีอยู่วันหนึ่งไปนั่งอยู่ด้านหลังห้องครูใหญ่ ไม่ได้เข้าห้องเรียนนั่งสงบอยู่อย่างนั้นค่ะ แต่ไม่รู้ว่านั่นแหละ จิตทำสมาธิล่ะ จิตเริ่มปะติดปะต่อตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ<o></o>
<o> </o>
อยู่มาวันหนึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้เข้าไปจัดหนังสือในห้องทำงานของนาย เห็นปกหนังสือเล่มหนึ่งยื่นออกมา ก็เลยหยิบมาดู หน้าปกเขียนว่า หลวงพ่อปาน ก็อ่านได้หน่อยหนึ่ง วางไม่ลงค่ะ จิตบอกว่าต้องอ่านต่อให้จบ ก็เลยขออนุญาตนายเอาไปอ่านต่อ นายก็แสนจะใจบุญ บอกว่า ยกให้เอาไปอ่านเลย <o></o>
<o> </o>
ดิฉันใช้เวลาอ่านไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็จบ และอ่านอีกหลายเที่ยว ทุกคำพูดที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเขียน โดนใจเป็นที่สุด ทุกครั้งที่อ่านและคิดถึงหลวงพ่อก็เกิดปิติค่ะ จิตบอกว่า “หลวงพ่อฤาษีลิงดำนี่เอง ที่เราค้นหามาตั้งนาน เพิ่งพบวันนี้นี่เอง” นี่เองค่ะเป็นจุดเริ่มต้นให้ดิฉันปฏิบัติเข้าถึงความดีได้ถูกต้องขึ้นมาอีก<o></o>
<o> </o>
ดิฉันก็ตั้งจิตว่า “อยากทราบว่าการทำความดีที่ถูกต้องนั้นทำอย่างไร และปรารถนาเหลือเกินที่จะได้ยินเสียงของหลวงพ่อ น้ำเสียงท่านจะเป็นอย่างไรหนอ” ไม่นานนักก็ไปได้หนังสือธรรมะเกี่ยวกับการปฏิบัติความดีให้ถึงแก่นมาอ่าน ก็เริ่มปฏิบัติตั้งแต่นั้นมาค่ะ และต่อมาก็ได้ยินเสียงธรรมะของหลวงพ่อค่ะ ขอบอกว่าเกิดปิติเป็นที่สุด จิตบอกย้ำว่า “ใช่แล้วเสียงนี้คุ้นมากเลย เหมือนเคยได้ยินเสียงนี้มานานแสนนานแล้ว” สงสัยว่าชาติที่แล้วดิฉันจะยังปฏิบัติไม่ถึงแก่น จึงยังต้องมาตามหาท่านในชาตินี้ และก็ไม่ได้พบท่านในขณะที่ท่านยังมีชีวิตหรอกค่ะ<o></o>
<o> </o>
<o> </o>
<o> </o>
ตั้งแต่นั้นมาดิฉันก็ปฏิบัติความดีให้เข้มข้น จริงจัง ยึดบารมี 10 ทัศ ปฏิบัติจนถึงวินาทีนี้ค่ะ บางทีเผลอก็มีค่ะ แต่ว่าปฏิบัติได้มากกว่าไม่ได้ค่ะ สามีเองจากที่ไม่ค่อยศรัทธาก็เริ่มปฏิบัติด้วย หน้าที่การงานเขาก็ดีขึ้นตามลำดับค่ะ<o></o>
<o> </o>
พอทราบจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฯ ซึ่งมีนามแฝงว่า “Panpajan” ว่ามีสำนักปฏิบัติธรรมฯ สายหลวงพ่อฯ ที่โคราชด้วย อยู่ที่ตรอกจันทร์ ทุกๆ เดือนท่านพระครูปลัดเจ้าอาวาสวัดท่าซุงมาโปรดโยมที่โคราช ดิฉันก็ตั้งใจจะไปค่ะ<o></o>
<o> </o>
เมื่อนัดกันกับอาจารย์ที่ปั้มน้ำมันบางจากเย็นวันศุกร์แล้ว ไปรออาจารย์ตั้งแต่ 6 โมงถึงเกือบทุ่ม อาจารย์ก็ยังมาไมถึง พายูก็ตั้งเค้า ดิฉันก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า “หากว่าชาติที่แล้วเป็นลูกศิษย์ท่านมาก่อนก็ขอให้อย่ามีพายุจะเดินไปลำบาก และขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเถิด” เย็นนั้น ฝนที่ตั้งเค้าก็ไม่ตกเป็นแต่ลมพัดเย็นสบาย อาจารย์ฯ ขับรถมาถึงเกือบทุ่ม บอกเพิ่งสอนเสร็จ ตอนนี้ให้รีบขับรถตามมาเลยเพราะ พิธีเริ่มทุ่มตรง ท่านก็ขับรถนำหน้าพาไปที่สถานปฏิบัติธรรมฯ ดิฉันก็ขับตาม ก็พาไปส่งที่หน้าสำนักปฏิบัติธรรมฯ แต่อาจารย์ไม่ได้เข้าไปด้วยน๊ะ บอกว่า “ครูพาหนูมาส่ง แต่วันนี้ไม่เข้าไปด้วยน๊ะ ” บอกอีกว่า “เห็นเขาทำอะไรก็ให้ทำตาม” ดิฉันไม่รอช้าจอดรถแล้วก็รีบเดินเข้าไปเลยค่ะ ก็มีครูเดินมาหา พอจะถาม ดิฉันก็บอกว่า “หนูยังไม่เคยมาค่ะ” แล้วก็เข้าไปกราบพระประธาน จิตตอนนั้นสงบมากค่ะ ครูก็ให้หยิบจานดอกไม้ที่เตรียมไว้เพื่อบูชาครูค่ะ<o></o>
<o> </o>
ดิฉันรับจานดอกไม้มาก็น้อมจิตอธิษฐานว่า “ชาตินี้ลูกได้ดั้นด้นมาจนพบหลวงพ่อฯ ณ ที่นี้แล้ว หากชาติที่แล้วลูกได้เคยเป็นศิษย์ฯ มาก่อนและอาจปฏิบัติเผลอไปบ้างไม่มากก็น้อยก็ขอให้หลวงพ่อฯ ได้โปรดอภัย และเมตตารับลูกเป็นศิษย์ในชาตินี้ด้วยเถิด ลูกขอถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ถึงแม้ไม่มีบุญเคยเห็นหลวงพ่อฯ ในขณะที่ยังมีชีวิต ก็ขอน้อมจิตถวายตัวจนกว่าชีวิตจะหาไม่เจ้าค่ะ” <o></o>
<o> </o>
เมื่อฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกแล้ว ก็กลับมาบ้าน คืนนั้นก็เกิดนิมิตเป็นอัศจรรย์ที่สุดในชีวิต หลวงพ่อมายืนอยู่ที่หัว องค์ท่านใหญ่มากค่ะ ดิฉันต้องแหงนหน้าจนคอตั้งบ่า มองดูท่าน เห็นท่านครองชุดจีวร มองมาที่ดิฉัน สายตาหลวงพ่อเมตตามากค่ะ มีพรมผืนใหญ่สี่เหลี่ยมจัตุรัสกางอยู่ระดับเดียวกับหน้าผากท่าน กว้างเท่าแผ่นฟ้าสุดลูกหูลูกตา กางอยู่เช่นนั้น สีแดงเข้ม มีอักขระเป็นเหมือนยันต์ ดิฉันก็ยังโง่ ไม่รู้ว่านั่น คือ ยันต์เกราะเพชร <o></o>
<o> </o>
จิตบอกว่า “ท่านรับดิฉันเป็นลูกศิษย์แล้วค่ะ” จิตบอกต่อว่า “โอ้เราหนอโง่มาเสียนาน เกือบพลาดไปอีกชาติแล้วไหมล่ะ”<o></o>
<o> </o>
พอมาเล่านิมิตให้อาจารย์ที่แนะนำฟัง ท่านก็บอกว่านั่นแหละยันต์เกราะเพชรล่ะ ก็เลยถึงบางอ้อ รีบไปค้นอ่านเลยค่ะ อย่าหาว่าโม้นะคะ หมากัดที่เลี้ยงไว้กัดไม่เคยเข้าเลยค่ะ (บางทีไปแหย่เขาแล้วเขาโกรธก็งับจริง) แต่ก็ไม่กล้าบอกสามี เดี๋ยวเขาจะว่าบังอาจเล่นของค่ะ รู้อยู่คนเดียว เพิ่งบอกท่านทั้งหลายวันนี้แหละค่ะ ...วันหน้าถ้ามีโอกาสอีก ก็จะเล่าให้ฟัง เรื่อง สุนัขเทวดาค่ะ ** ดิฉันจะสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าเสมอค่ะ หลังจากนั้น ก็อันเชิญหลวงพ่อปานฯ มาสถิตที่ฐานกลางใจ และอัญเชิญหลวงพ่อฤาษีฯ มาสถิตที่ฐานกลางลำตัว ...แล้วจึงตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วยคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า 9 จบ (วิธีสวดก็มีเทคนิคค่ะ ถ้ามีโอกาสวันหน้าจะเขียนให้อ่านค่ะ) .....แล้วตามด้วย อัญเชิญยันต์เกราะเพชรมาคลุมกายและรถยนต์ที่ใช้อยู่ แล้วว่าอิติปิโส 3 จบ กลั้นหายใจแล้วกลืนน้ำลาย 3 ครั้งติดต่อกันค่ะ แต่ในเบื้องต้นท่านต้องมีศีล 5 ค่ะ แล้วก็ต้องทรงให้ได้เช่นนั้นตลอดเวลานะคะ.....ที่ได้มาทั้งหมดนี้ก็จากบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายของหลวงพ่อฤาษีฯ ที่มาโพสไว้ในเว็ปพลังจิตนี่แหละค่ะ..ดิฉันก็เลยนำมาปฏิบัติค่ะ ท่านทั้งหลายจะลองนำไปใช้ก็ได้นะคะ ชีวิตมีแต่ดีกับดีค่ะ.....**<o></o>
<o> </o>
ขอเล่าต่อค่ะ ตลอดเวลาที่เห็นหลวงพ่อฯ ในนิมิตนั้น จิตมีพลังอย่างมากจนถึงวินาทีนี้ ตอนนั้นเกิดปิติตลอดเวลาค่ะ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมานิมิตนั้นก็ยังคงอยู่ถึงทุกวินาทีนี้ค่ะ คอยเป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้เราอย่าเผลอ ให้ตั้งใจตั้งหน้าตั้งตาเร่งสร้างบุญให้ได้ทุกขณะจิตค่ะ ตอนเช้าดิฉันรีบเตรียมตัวไปอีก เพราะที่สถานปฏิบัติธรรมฯ จะมีพิธีบวงสรวงเทวดาทำบุญครบรอบ 2 ปี ก่อตั้งสถานปฏิบัติธรรมวัดท่าซุง สาขาตรอกจันทร์ โคราช ก็เลยเล่าให้ครูที่สอนฝึกฟังค่ะ<o></o>
<o> </o>
ถึงวินาทีนี้ ดิฉันก็ยังคงมั่นคงในการปฏิบัติให้ถึงความดีให้ได้มากที่สุดเพราะความตายมีอยู่ทุกขณะ ขอบอกก่อนว่าดิฉันก็ไม่ได้เป็นผู้ที่ดีพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ มีกิเลสหนาพอสมควรค่ะ แต่ก็พยายามลอกมันออกไปจากจิตทีละเล็กทีละน้อยค่ะ<o></o>
<o> </o>
ขอจบไว้เท่านี้ก่อนนะคะ โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีก เป็นเรื่องของสุนัขเทวดาที่ได้มาเลี้ยงเอาไว้ค่ะ <o></o>
<o></o>

 

จำภาพนั้นไว้ให้มากๆนะครับ ภาพที่อยู่ในความทรงจำ เป็นสังฆานุสติ ด้วย

 

ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำของ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พระยาเดโชชัยมือศึก<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3088734", true); </SCRIPT> ค่ะ

 

ผมก็ฝึกอยากเห็นนรก เห็นสวรรค์กับเขาบ้าง

 

อย่าไปให้จิตเกิดความอยากค่ะ เพราะจะเป็นนิวรณ์ ซึ่งก็คือกิเลส
ฝึกจิตดีแล้ว ทุกอย่างมาเองค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้คะ
แล้วอย่าลืมเล่าต่อนะคะ..รออ่านอยู่คะ