ชาวบ้านตื่นพบพระพุทธรูปผุดลำน้ำโขง ผูกเรื่องโยงอาถรรพ์ศาลพญานาค

<TABLE width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ชาวบ้านตื่นพบพระพุทธรูปผุดลำน้ำโขง ผูกเรื่องโยงอาถรรพ์ศาลพญานาค </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ที่ประกอบอาชีพหาปลาในแม่น้ำโขง ได้พบพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร สูงประมาณ 75 เซนติเมตร ลักษณะสีเนื้อออกเป็นสำริด ไม่ทราบสร้างในสมัยใด และเป็นศิลปะแบบใด ลอยน้ำอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย จึงได้นำพระพุทธรูปขึ้นมาบนริมฝั่ง โดยชาวบ้านจำนวนมากมายืนมุงดูด้วยความสนใจ ชาวบ้านบางคนได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาทำการกราบไหว้พระพุทธรูปดังกล่าว พร้อมกับมีการโจษจันกันไปต่างๆ นานา
นายเกษมพันธ์ พิมพ์ไตรรัตน์ ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านหาปลาตามริมฝั่งแม่น้ำโขงเป็นผู้พบพระพุทธรูปในช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา จึงได้นำพระพุทธรูปขึ้นมาบนฝั่งตรงเถียงนาแห่งนี้ จากนั้นได้นำร่างทรงประจำหมู่บ้านมาทำนาย ทราบว่า พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมีชื่อว่า พระทิพวรรณ (พระสุข) ชาวบ้านจึงได้นำพระพุทธรูปไปเก็บรักษาไว้ที่วัดศรีทรายทอง บ้านบางทรายน้อย เพื่อรอการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ผู้เชียวชาญโบราณคดีว่าพระพุทธรูปองค์นี้ได้สร้างขึ้นในสมัยใด เป็นศิลปะในยุคใด มีอายุเท่าใด นอกจากนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อกันว่า การพบพระพุทธรูปผุดขึ้นมาในครั้งนี้คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างศาลพญานาคที่กำลังจะมีการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ โดยอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบพระพุทธรูปผุดขึ้นมาแต่อย่างใด อีกทั้งจุดที่พบพระพุทธรูปผุดขึ้นในแม่น้ำโขง มีระยะทางอยู่เหนือจากจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง ที่เกิดอุบัติเหตุเครนยักษ์ถล่มจนมีวิศวกรและคนงานชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต ประมาณ 9 กิโลเมตร
รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเชื่อในเรื่องอาถรรพ์ของพญานาคที่ปกปักรักษาแม่น้ำโขง ขณะเดียวกันในจุดที่พบพระพุทธรูป ในระหว่างการขุดหลุมลงเสาเอกของศาลพญานาค ยังได้พบไหบรรจุกระดูก และภายในยังมีมีดเก่าแก่อีกจำนวนหนึ่ง โดยในระหว่างนี้ได้มีเจ้าหน้าที่กรมการปกครองจากอำเภอหว้านใหญ่และชาวบ้านได้เฝ้าเวรยาม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพมาโจรกรรมพระพุทธรูป

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellPadding=5 width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center>

​

</TD><TD vAlign=center width=20></TD><TD vAlign=center> </TD></TR></TBODY></TABLE><HR width=550 SIZE=1>​

<TABLE width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD>ที่มา : ข่าวสด (วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๔๘)</TD></TR></TBODY></TABLE>