ชาวพุทธทั่วโลก ไหว้ "พระทองคำ" วันตรุษจีน

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย guawn, 16 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ชาวพุทธทั่วโลก ไหว้ "พระทองคำ" วันตรุษจีน

    ตวงศักดิ์ ชื่นสินธุ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำ (ภาพเล็ก) พระทองคำในอดีตที่พอกด้วยปูน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร มีชื่อเป็นทางการว่า "พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ใน "เดอะ กินเนส บุ๊กส์ 1991" หนังสือเก็บสถิติของโลก ว่า

    เป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

    ปัจจุบันหลวงพ่อทองคำประดิษฐานอยู่ที่วิหารของ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระที่ทั้งคนจีนและคนไทยให้ความเคารพนับถือกราบไหว้สักการะอย่างมาก บุญญาบารมีของหลวงพ่อยังดังไปไกลถึงต่างแดน มีคนจากต่างประเทศข้ามน้ำข้ามทะเลมากราบไหว้ที่วัดไตรมิตรไม่เว้นแต่ละวัน

    เนื่องด้วยหลวงพ่อทองคำ เป็นพระเก่าแก่สิริรวมอายุตั้งแต่ค้นพบมาจนถึงปัจจุบันมากกว่า 700 ปีแล้ว วิหารที่ประดิษฐานแต่เดิมก็ทรุดโทรมเก่าคร่ำคร่า ดังนั้นพุทธศาสนิกชนที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อจึงเห็นว่าถึงเวลาเสียทีที่จะสร้างวิหารใหม่สวยงามให้หลวงพ่อ

    ประกอบกับปี 2550 เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเนื่องด้วยความเป็นพระเก่าแก่ เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน จึงตกลงจะมีการสร้าง "พระมหามณฑป" ถวายแด่พระทองคำ ไม่ใช่วิหารธรรมดาอย่างที่เป็นมา ซึ่งขณะนี้ทางวัดได้จัดพื้นที่เตรียมสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ปี 2551

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ พระเทพภาวนาวิกรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นผู้แถลงไข ว่าหลวงพ่อทองคำมีการค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2499 เป็นปีทองของการที่จะเกิด 25 พุทธศตวรรษ

    "ก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้ว่าหลวงพ่อทองคำเป็นพระทองคำแท้ เพราะมีการโบกปูนทับทั้งองค์ไว้ กระทั่งต่อมามีการจะเคลื่อนย้ายองค์พระ ทำให้ปูนกระเทาะออกมองเห็นเป็นทองคำสุกอร่ามอยู่ข้างใน เจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรมาดู มาศึกษาก็พบว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ หนัก 5.5 ตัน เฉพาะมูลค่าทองคำตามที่บันทึกไว้ใน กินเนส บุ๊กส์ ประมาณ 28.5 ล้านปอนด์" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    พระมหามณฑปประดิษฐาน จำลอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระเทพภาวนาวิกรม บอกต่อไปว่า คนเขาเชื่อกันว่าหลวงพ่อทองคำเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของ จ.สุโขทัย โดยประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย เพราะตามหลักฐานที่กรมศิลปากรค้นพบ และทั้งในหลักศิลาจารึกมีพูดถึง ว่า "กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง"

    "คำว่า พระพุทธรูปทอง น่าจะเป็นพระพุทธรูปทององค์นี้ เพราะปริมาณทองคำแท้รวมถึงขนาดพระพุทธรูปเกินกว่าที่สามัญชนทั่วไปจะสร้างไว้เป็นสมบัติส่วนตัว อย่างไรก็ดี ต่อมาคงมีการพอกปูนลงรักปิดทองทั่วทั้งองค์ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับองค์พระ ไม่ทราบว่าไปตกอยู่ในสถานที่ใดบ้าง ทราบแต่เพียงว่าล่าสุดประดิษฐานอยู่ที่วัดพระยาไกร (วัดโชตนาราม)

    ต่อมา วัดพระยาไกร กลายเป็นวัดร้าง ไม่มีคนดูแล ประกอบกับ บริษัท อีสต์เอเชียติก จำกัด ขอเช่าพื้นที่วัดเพื่อดำเนินกิจการของบริษัท ที่ประชุมคณะสงฆ์จึงให้วัดไตรมิตรวิทยาราม และวัดไผ่เงินโชตนาราม ไปอัญเชิญพระพุทธรูปสององค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวัดพระยาไกรมาประดิษฐานไว้ตามสมควร ทางคณะของวัดไผ่เงินฯ เดินทางไปถึงก่อน จึงเลือกอัญเชิญพระพุทธรูปสำริดไป เหลือแต่พระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้ไว้ให้วัดไตรมิตร.."

    เมื่อหลวงพ่อทองคำมาถึงวัดไตรมิตร ขั้นแรกทางวัดได้แต่เพียงปลูกเพิงสังกะสี เพื่อบังแดดบังฝนให้กับองค์พระ ที่ริมถนนด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถ

    พลวงพ่อทองคำอยู่ที่นั่นนานถึง 20 ปี เพราะหาที่ประดิษฐานที่เหมาะสมไม่ได้ ต่อมาในปี 2497 ทางวัดจึงได้งบประมาณในการสร้างวิหารใหม่ให้องค์พระพุทธรูปให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี

    แล้วก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น รองเจ้าอาวาสเล่าว่า เมื่อการก่อสร้างพระวิหารเสร็จสิ้นลง จะมีการย้ายพระพุทธรูปเพื่อนำขึ้นประดิษฐานบนวิหาร แต่กลับเคลื่อนย้ายองค์พระไม่สำเร็จ ไม่มีการขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ดังนั้น การเคลื่อนย้ายจึงต้องหยุดเอาไว้ชั่วคราว

    "ตกตอนกลางคืนมีพระรูปหนึ่งลงมาเดินสำรวจดู ว่าทำไมจึงเคลื่อนย้ายพระไม่ได้ และพบว่าที่บริเวณพระอุระขององค์พระมีรอยร้าว เมื่อเข้าไปดูก็เห็นเป็นสีทองสุกอร่ามในเนื้อปูนนั้น จึงเรียกให้คนมาช่วยกระเทาะปูนออก จึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์ และยังพบด้วยว่ามีทองเก็บสำรองเอาไว้ที่ใต้ฐาน และพบกุญแจสำหรับถอดองค์พระออกได้เป็น 9 ชิ้น จึงใช้กุญแจนั้นถอดองค์ออก แล้วช่วยกันประกอบเป็นองค์พระบนวิหารขึ้นใหม่ เมื่อศึกษาถึงศิลปะขององค์พระแล้ว ก็พบว่าเป็นพระพุทธรูปที่สร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย จึงได้ตั้งชื่อว่า พระพุทธสุโขทัยไตรมิตร

    "ทางวัดเห็นว่า การที่องค์พระเดิมหุ้มปูนไว้แล้วมากระเทาะออกทำให้เห็นเป็นทองคำ เกิดในยุคของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จวบจนทุกวันนี้ก็ 50 ปีพอดี ฉะนั้นเราคิดว่าน่าจะเอาพระบารมีของในหลวงกับพระพุทธรูปทองคำนี้ สร้างประชาชนทั่วโลกให้ได้รู้จักอารยธรรมโลหะของไทยที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเรามีอารยธรรมอะไรที่เป็นจุดเด่น ในสายตาของชาวโลก ถ้าพระพุทธศาสนาต้องนึกถึงพระพุทธเจ้า ถ้านึกถึงอินเดียก็จะนึกถึงโลหะที่เป็นรูปพระพุทธเจ้า แต่พอมาถึงเมืองไทย จะนึกถึงโลหะอะไรที่เป็นอารยธรรมของโลก ฉะนั้น ประเทศไทยก็มีพระพุทธรูปทองคำ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าเราเป็นประเทศอารยะ เป็นสิ่งที่คนไทยจะได้ภูมิใจ"

    ครั้นมาถึงปี 2550 ทั้งด้วยความสำคัญของพระทองคำ และปีมหามงคลครบ 80 พรรษาของพระเจ้าอยู่หัว ทางคณะกรรมการวัดจึงมีโครงการจัดสร้าง "พระมหามณฑป" เพื่อประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำ

    "เพราะถือว่าประเทศไทยเรามีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เราจึงควรทำสิ่งสำคัญถวายพระองค์ท่าน" รองเจ้าอาวาสกล่าว

    พร้อมกับปรารภอีกว่า การที่ไม่มีวัดไหนอัญเชิญพระทองคำไป อาจเป็นเพราะท่านอยากจะอยู่ที่วัดไตรมิตร เพราะเป็นสถานที่เหมาะด้วยประการทั้งปวง ทั้งเป็นแหล่งทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือมีร้านทอง และเป็นแหล่งเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะมีอารยธรรมไทย-จีน ที่ใหญ่ที่สุด ท่านจึงอยากอยู่เป็นหลักชัยของประเทศไทยที่นี่

    "..เป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องสร้างมณฑปถวายท่าน.." เสียงรองเจ้าอาวาสยังอธิบายต่อ พร้อมบอกว่าเป็นเรื่องน่าดีใจที่มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เข้ามาช่วยเหลือ อีกทั้งรัฐบาลก็จัดให้โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปเข้าอยู่ในโครงการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เรื่องที่คิดว่ายากก็ง่ายเข้า.."

    หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร เป็นแหล่งสืบทอดพระศาสนา เป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ ดังนั้นการก่อสร้างพระมหามณฑปที่กำลังจะเกิดขึ้น นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์อันรุ่งเรืองที่เกิดแก่พระศาสนาแล้ว ยังเป็นการสะท้อนถึงความศรัทธาของมหาชนที่มีต่อหลวงพ่อทองคำ

    ดังนั้น ตรุษจีนปีนี้ วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ หากยังไม่มีโปรแกรมไปทำบุญที่ไหน แวะไปสักการะหลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตร เพื่อสร้างบุญกุศลสะสมไว้เป็นทุน

    เพราะไม่เพียงแต่ได้ทำบุญสักการะหลวงพ่อที่เคารพศรัทธาเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสถึงแหล่งประวัติศาสตร์ของชาวไทย-จีน ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองหลวง นอกเหนือจากย่านเยาวราช

    ทั้งได้บุญ ทั้งได้ความสุข
    ref.http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01pra01160250&day=2007/02/16&sectionid=0131
     

แชร์หน้านี้

Loading...