ชำระหนี้สงฆ์ อุบายธรรม ชำระจิต สะสางดวงใจ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บุญญสิกขา, 6 มีนาคม 2010.

  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]


    อุบายธรรม ตามความหมายนัยยะ ของโบราณจารย์

    <o></o>
    คำว่า “ชำระ” หมายถึง ชะล้าง สะสางให้สะอาด เช่น ชําระร่างกาย; สะสาง, ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น, เช่น ชําระพระไตรปิฎก ชำระพจนานุกรม; พิจารณาตัดสิน เช่น ชําระความ; ใช้ในคําว่า ชําระหนี้.

    <o></o>
    คำว่า “หนี้” เป็นผลจากการกระทำเป็นสิ่งที่ติดค้าง อย่างใดอย่างหนึ่งไว้ จะต้องตอบแทน หรืองดเว้นให้ไว้

    <o></o>
    คำว่า “สงฆ์” หมายถึง หมู่ คณะ ส่วนรวม จำนวนมาก อันเน้นมุ่งหมายถึงการกระทำการอันเกี่ยวข้องกับส่วน หรือ จำนวนมากกว่าหนึ่งขึ้นไป ขยายความอาจหมายถึง กลุ่มชน สาธารณชน<o></o>
    <o></o>


    [​IMG]


    การชำระหนี้สงฆ์ ตามความหมาย ท่านใช้เป็นอุบายธรรม มุ่งให้แสดงวาระกรรมแห่งการชำระจิต สะสางดวงใจ ชะล้างดวงวิญญาณ เพื่อความสว่าง สะอาด บริสุทธ์ สงบเย็น อันเป็นผลมาจากกรรมอันใด ที่ได้เคยล่วงละเมิด ประมาทพลาดพลั้งไว้ ด้วยอกุศลจิตกับดวงจิตอื่นๆ โดยเฉพาะ กรรมที่กระทำไว้กับผู้มีพระคุณ ผู้เป็นใหญ่ และ/หรือ อันจะยังผลวิบากวาระกรรมอันที่ส่งผลจำนวนมาก หมู่ใหญ่ หรือสาธารณะ ทั้งที่เจตนา และไม่เจตนา ทั้งที่จำความได้ และจำความไม่ได้ นับแต่อดีตกาลชาตินับไม่ถ้วนโพ้นนั้น ที่ติดค้างคา และจะต้องตอบแทน ชดใช้ จนเป็นตราบาปประทับทรงอยู่ในดวงจิต พาให้ผูกวาระวัฏฏะ วังวนกรรม มิรู้จบสิ้น ..................................................



    [​IMG]


    หากจะได้มี อุบายกิจ อันจะเป็นการแสดงออก มุ่งเพื่อขำระ ชะล้าง สะสาง วาระจิตใหสะอาด สว่าง สงบ จึงเป็นกิจอันควรแก่กาล สำหรับวิญญูชนผู้มุ่งใฝ่หนทางหลุดพ้นห้วงแห่งทะเลวัฏฏะทุกข์


    [​IMG]



    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=46270[/MUSIC]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2010
  2. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ดีดี ดีจัง
     
  3. CLUB CHAY

    CLUB CHAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    507
    ค่าพลัง:
    +1,412
    ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยครับ
    ขอให้ทุกรูปทุกนามเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    ชำระล้าง เพื่อความสว่าง สะอาด บริสุทธ์ สงบเย็น

    [​IMG]


    อนุโมทนา สาธุการทุก ๆ ท่าน ทุกๆ ประการค่ะ

    นับจากนี้ คราใด เมื่อพิจารณาเข้าใจอุบายความหมายโดยนัยยะแยบยลของโบราณจารย์ท่านแล้ว การน้อมบุญ "ชำระหนี้สงฆ์" ของเรา จะกว้างไกลกว่า เพียงการชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าดิน ค่าทรายฯ เชียวเนาะ ! สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
     
  5. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]



    นะโม....๓ จบ


    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้า ชื่อ......……………………….….สกุล.………………………..... หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ พระเถระพระเถรี ตลอดจนพ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีพระคุณผู้สูงชาติ ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใน ๓ แดนโลกแสนโกฐจักรวาล ข้าพระพุทธเจ้าขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัย และท่านๆ ทั้งหลาย ด้วยกรรมที่เคยประมาท พลาดพลั้งไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ ตลอดจนพระคุณคำตักตำเตือนด้วยปรารถนาดีทั้งมวล<O:p</O:p
    <O:p
    ด้วยเหตุข้าพเจ้าระลึกได้ว่ามีเหตุเป็นหนทางแห่งความฉิบหาย คือ อารมณ์จิตพยาบาทด้วย อารมณ์ทิฏฐิ มานะจิต หลงติดอวิชชา ที่สั่งสม หลายภพ หลายชาติ และได้เคยกล่าวคำสาปแช่ง กล่าวร้ายบุคคลใดๆ ที่คิดเป็นศัตรูก็ดี ที่มาตักเตือนด้วยความปรารถนาดีก็ดี เป็นต้น
    <O:p</O:p
    <O:p
    ในปัจจุบันชาตินี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้สำนึกเห็นความที่เป็นอกุศลของจิตแล้ว ด้วยคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จึงตั้งจิตขอขมาทุกๆ พระองค์ ทุกๆท่านที่ล่วงเกิน ถอนคำแช่งที่เคยกล่าว คิด นินทา ในทุกๆชาติ ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดีหรือ ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดีหรือไม่เจนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
    <O:p</O:p
    <O:p
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ศัตรูทุกท่านได้โปรดอดโทษ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ.


    <O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
  6. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    วสุธรรม ขออธิษฐานชำระหนี้สงฆ์

    วสุธรรม ขออธิษฐานชำระหนี้สงฆ์


    นะโม....๓ จบ


    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้า นายวสุ โอภาสศุภกุล
    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ พระเถระพระเถรี ตลอดจนพ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีพระคุณผู้สูงชาติ ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาใน ๓ แดนโลกแสนโกฐจักรวาล ข้าพระพุทธเจ้าขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัย และท่านๆ ทั้งหลาย ด้วยกรรมที่เคยประมาท พลาดพลั้งไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ ตลอดจนพระคุณคำตักตำเตือนด้วยปรารถนาดีทั้งมวล<O:p</O:p
    <O:p
    ด้วยเหตุข้าพเจ้าระลึกได้ว่ามีเหตุเป็นหนทางแห่งความฉิบหาย คือ อารมณ์จิตพยาบาทด้วย อารมณ์ทิฏฐิ มานะจิต หลงติดอวิชชา ที่สั่งสม หลายภพ หลายชาติ และได้เคยกล่าวคำสาปแช่ง กล่าวร้ายบุคคลใดๆ ที่คิดเป็นศัตรูก็ดี ที่มาตักเตือนด้วยความปรารถนาดีก็ดี เป็นต้น <O:p</O:p
    <O:p
    ในปัจจุบันชาตินี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้สำนึกเห็นความที่เป็นอกุศลของจิตแล้ว ด้วยคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จึงตั้งจิตขอขมาทุกๆ พระองค์ ทุกๆท่านที่ล่วงเกิน ถอนคำแช่งที่เคยกล่าว คิด นินทา ในทุกๆชาติ ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดีหรือ ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดีหรือไม่เจนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี <O:p</O:p
    <O:p
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ศัตรูทุกท่านได้โปรดอดโทษ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ.
    นายวสุ โอภาสศุภกุล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • img001.jpg
      img001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.9 KB
      เปิดดู:
      103
    • somrak1.jpg
      somrak1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.9 KB
      เปิดดู:
      79
    • mana1.jpg
      mana1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.6 KB
      เปิดดู:
      85
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
  7. tharushnu

    tharushnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +1,276
    [​IMG]ขออนุโมทนาบุญกุศล กับคุณแม่บุญญและท่านทั้งหลายด้วยครับ...สาธุ
     
  8. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    วสุธรรม ขออธิษฐานชำระหนี้สงฆ์

    [​IMG]

    สาธุ สาธุ สาธุการ มหาอนุโมทนา สาธุการ พี่หมอค่ะ
    ขอน้อมคุณพระรัตนตรัย พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
    และอำนาจสิง่ศักดิ์ทั่วสากลจักรวาล ท่านรับรู้รับทราบ จิตกุศล หนทางการบำเพ็ญ ของพี่หมอ สำเร็จสัมฤิทธิผล สมคำอธิษฐานทุกประการนะคะ

     
  9. Naraporn_N

    Naraporn_N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +1,002
    นะโม....๓ จบ


    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้า นางสาวนราพร นาคะเกศ หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ พระเถระพระเถรี ตลอดจนพ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีพระคุณผู้สูงชาติ ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใน ๓ แดนโลกแสนโกฐจักรวาล ข้าพระพุทธเจ้าขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัย และท่านๆ ทั้งหลาย ด้วยกรรมที่เคยประมาท พลาดพลั้งไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ ตลอดจนพระคุณคำตักตำเตือนด้วยปรารถนาดีทั้งมวล<O:p</O:p
    <O:p
    ด้วยเหตุข้าพเจ้าระลึกได้ว่ามีเหตุเป็นหนทางแห่งความฉิบหาย คือ อารมณ์จิตพยาบาทด้วย อารมณ์ทิฏฐิ มานะจิต หลงติดอวิชชา ที่สั่งสม หลายภพ หลายชาติ และได้เคยกล่าวคำสาปแช่ง กล่าวร้ายบุคคลใดๆ ที่คิดเป็นศัตรูก็ดี ที่มาตักเตือนด้วยความปรารถนาดีก็ดี เป็นต้น
    <O:p</O:p
    <O:p
    ในปัจจุบันชาตินี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้สำนึกเห็นความที่เป็นอกุศลของจิตแล้ว ด้วยคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จึงตั้งจิตขอขมาทุกๆ พระองค์ ทุกๆท่านที่ล่วงเกิน ถอนคำแช่งที่เคยกล่าว คิด นินทา ในทุกๆชาติ ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดีหรือ ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดีหรือไม่เจนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
    <O:p</O:p
    <O:p
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ศัตรูทุกท่านได้โปรดอดโทษ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ. _/l\_
     
  10. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ

    -มหาโมทนากับกุศลจิต ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ

    สาธุ
     
  11. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    เสนอแนวทางอุบายธรรม ชำระหนี้สงฆ์ ผ่านเวบพลังจิต

    เว็บพลังจิต เป็นยอดนิยมอันดับที่ ๑ เว็บพุทธศาสนาทั่วโลก


    [​IMG]





    อนุโมทนาทุกๆ ท่านค่ะ

    ด้วยความสุขใจ ที่กระทู้ขยายความเข้าใจ "การชำระนี้สงฆ์" นี้ จะมีส่วนให้ท่านกัลยาณมิตรได้พิจารณานัยยะความลึกซิ้งชัดเจน อันจะมีผลต่อกิจการบำเพ็ญบุญด้วยจิตสว่าง สะอาด สงบ บนหนทางแห่งมรรคา

    พิจารณาแล้วค่ะว่า ท่านสมาชิกพลังจิตสามารถกระทำกิจบุญ "การชำระนี้สงฆ์" ได้ง่ายๆ ผ่านการสนับสนุนกิจกรรม "เวบพลังจิต.คอม"






    ด้วยเหตุผลปัจจัย ในฐานะ "เวบพลังจิต.คอม" เป็นชุมชนระบบเครือข่ายใหญ่ ยังผลต่อส่วนรวม ต่อสาธารณชน ทรงคุรค่ามหาศาล .... หากเราจะได้พิจารณา ...
      • เพียงกระทู้ใบบุญ เพียง ๑ กระทู้ ในพลังจิต
      • เพียง ๑ กระทู้ใบบุญ ในห้องใบบุญ สามารถโยงยกจิตคน ๑ คน
      • เพียง ๑ โพส ในกระทู้บุญ สามารถโยงยกจิตคนหลายคน
      • หากหลายๆ โพส หลายๆ กระทู้ คุณค่าของ "เวบพลังจิต.คอม" กว้างขวางเพียงใด มีผลกระทบอย่างไร กับจิตบุญของท่าน ๑ ท่าน
    เคยมีคำพูดสื่อมาว่า การสนับสนุนเวบ
    เพียงเพื่อต้องการความเป็น "สีม่วง" หรือ ?







    ในความเข้าใจส่วนตัว มิได้ต้องการ สีสรรใดใด หากต้องการความสุขใจการได้กระทำสิ่งที่เข้าใจในตนเองว่า หากจิตตั้งในคุณงามความดีที่ตนได้กระทำ จะมีผลต่อคนอื่นได้ โดยส่วนตัวแล้ว สนับสนุนเวบพลังจิต ด้วยจิตอุบายธรรม ผ่านความหมาย การชำระนี้สงฆ์"




    หมายเหตุ :-


    ข้อความข้างต้นโพสนี้ มิได้เกี่ยวเนื่องใดใดกับ ทีมงานพลังจิต หากได้พิจารณาด้วยจิตเหตุและผล ..... เรียนเพื่อทราบ หากท่านกัลยาณมิตร จะจิตพิจารณาด้วยตัวท่านค่ะ



    พร้อมเรียนเชิญนะคะ .... สาธุการค่ะ








    <!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2010
  12. วิชา ละ

    วิชา ละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +2,416
    ขออนุโมทนากับเจ้ากระทู้ด้วยครับ

    ขออนุโมทนาสาธุอย่างสูงกับทุกบุญครับผมตามข้างนี้ครับ
     
  13. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    พิจารณาความหมายคำว่า สงฆ์ & ภิกษุสงฆ์

    ด้วยได้รับข้อความ จากท่านกัลยาณมิตรที่น่ารัก แสดงความเห็นคำว่า "สงฆ์" และ "การชำระหนี้สงฆ์" ที่บุญญสิกขาได้นำมาสื่อไว้


    พร้อมนี้ ขอขยายความเห็นมายังท่านๆ ร่วมพิจารณากันนะคะ




    [​IMG]



    หากในความหมายโดยศัพท์บาลี
    คำว่า สงฆ์ หมายถึง หม่ คณะ ส่วนรวม ค่ะ

    เมื่อมาใช้ร่วมกับ คำว่า "ภิกษุ" เป็น "ภิกษุสงฆ์"
    ความหมายจึงได้ว่า พระภิกษุที่มาร่วมกันมากกว่าหนึ่งรูปขึ้นไป
    โดยปกติ เราจึงมีการกระทำ (แสดงออก) การถวายสังฆทาน พระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป

    เมื่อพิจารณาแท้ กิจบุญน้อมถวายสังฆทาน เราไม่ได้ถวายเพียง สงฆ์ แต่เราถวาย ภิกษุสงฆ์ ค่ะ


    .... และหากเราจะได้เลือกน้อมสังฆทานถวาย "พระภิกษุอริยะสงฆ์ ผู้ปฏิบัคิดี ปฏิบัติชอบ" ยิ่งจะเป็นเนื้อนาบุญ อานิสงฆ์มากกว่า พระภิกษุทั่วไป ซึ่งก็ไม่ได้ผิดประการใด เพราะพระสงฆ์องคเจ้าทุกรุป ทุกนาม ท่านอยู่ในสมณเพศ เป็น สมมุติสงฆ์ ค่ะ


    .... และ หากจะยิ่งได้มหากุศล ด้วยการน้อมจิตถวายพระพุทธองค์ เป็นพุทธบูชาค่ะ สาธุ

     
  14. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229
    huten ขออธิษฐาน ชำระหนี้สงฆ์

    ขออธิษฐานชำระหนี้สงฆ์ด้วยคนค่ะ สาธุ. สาธุ สาธุ
    ขอบคุณ น้องบุญญมากธรรมะจัดสรรให้จริงๆ
    :'( :'(
     
  15. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
  16. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]

    กราบอารธนาบารมี หลวงปู่ฯ คุ้มเหนือเศียรเกล้าฯ เจ้าค่ะ




    กราบขอบพระคุณ คุณพี่แก้วค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


    ต่อไปจะมาเล่าเรื่องใช้หนี้สงฆ์ให้ฟัง ...

    เรื่อง ใช้หนี้สงฆ์ น่ะสมัยนี้หาฟังกันยากเหลือเกิน พระขนาดไหนก็ตามไม่ค่อยจะมีใครพูดกัน เทศน์ก็ไม่เคยฟัง ใครพูดให้ฟังก็ไม่เคยฟัง ได้ฟังอยู่สำนักเดียวคือหลวงพ่อปานเท่านั้น หลวงพ่อปานนี่พูดทุกปีทำทุกปี พอถึง ๑ ปี คือขึ้นต้นปีใหม่ เข้าพรรษาใหม่ ๆ ท่านประกาศขอซื้อของสงฆ์

    คำว่าซื้อของสงฆ์นี่ท่านซื้อไม่ไผ่ ซื้อผลไม้ ซื้อดอกไม้ที่มีในวัด ในสมัยนั้นค่าของเงินสูง ท่านขอซื้อปีละ ๑๐๐ บาท ก็ซื้อไม้ทั้งหมด ซื้อผลไม้ทั้งหมด ซื้อดอกไม้ทั้งหมดปีละ ๑๐๐ บาท ในเมื่อพระสงฆ์สาธุ ท่านจะมอบเงินจำนวนนั้นเป็นสมบัติของสงฆ์ เป็นสิทธิของสงฆ์ที่จะพึงใช้ จะใช้ได้ต้องเอาเงินจำนวนนั้นไปใช้ในงานก่อสร้างหรือบำรุงสงฆ์ แล้วต่อแต่นั้นไปท่านชวนพระชำระหนี้สงฆ์ ตัวท่านเองก็ชำระหนี้เหมือนกัน

    มาว่ากันถึงการซื้อของสงฆ์ก่อน บรรดาลูกหลานทั้งหลาย หาที่ฟังยาก คือว่ามีโอกาสได้ฟังยาก ไอ้เรื่องการซื้อของสงฆ์หรือว่าการชำระหนี้สงฆ์ เวลานี้ฉันกำลังสร้างกุฏิชำระหนี้สงฆ์อยู่ เพราะรื้อกุฏิของสงฆ์ไป ๒ หลัง ฉันสร้างให้หลังเดียว แต่ว่าคุณค่า มีความคงทนดีกว่า การอยู่อาศัยได้สบายกว่า ๒ หลังที่รื้อไปพระอยู่ได้ ๕ องค์ยังลำบากเพราะห้องแคบ ฉันสร้างให้หลังเดียวเป็นกุฏิตึก อยู่ได้ ๖ องค์แบบสบาย ห้องกว้างกว่า แล้วก็มีศาลาดินเป็นเฉลียงข้างหน้า นั่งพักเล่นสบาย แถมส้วมให้อีก ๔ ห้อง บริเวณทั้งหมดเทพื้นคอนกรีตให้พระเดินสบาย ตั้งน้ำประปาเข้าไว้ให้พระใช้สบาย แสดงว่าฉันทำมามากกว่าของเก่า ดีกว่าของเก่าเป็นการชำระหนี้

    ลูกหลานอาจจะสงสัยว่ากุฏิพระ พระรื้อ ทำไมต้องชำระหนี้ ก็ขอบอกว่า ทรัพย์สินที่เขาสร้างไว้ในวัด เขาไม่ได้สร้างให้พระองค์ใดองค์หนึ่ง เขาสร้างถวายพระพุทธเจ้า คำว่าของสงฆ์นี่น่ะต้องหมายถึงพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เป็นของส่วนกลาง ไม่มีใครหรอกที่จะมาถือสิทธิว่าเป็นของฉัน จะเป็นสมภารองค์ไหน สมเด็จองค์ไหน เจ้าคณะองค์ไหน พระสังฆราชองค์ไหนก็ตาม จะมาชี้ว่าสมบัติของสงฆ์ที่เป็นของฉัน เป็นของส่วนตัว นี่ลงนรกหมด ลุงพุฒิไม่ยอมแน่ ใช่ไหมลุงพุฒิ ลุงพุฒิหันมายิ้ม บอกว่า ว่าเสียหลายรายการแล้ว รายการที่มีตำแหน่งใหญ่ ๆ ที่ไม่เคารพสิทธิในสงฆ์นั่นแหละ ว่าเสียหลายรายการแล้ว เอาเสียเยอะ เยอะเพราะเผลอคิดว่าโตแล้วทางนรกจะเว้น เรื่องนรกนี่เขาไม่เว้นใครหรอก ลุงพุฒิน่ะแกชอบกับฉันมาก

    สมัยเป็นมนุษย์เรียกว่าเป็นเพื่อนกันเลยก็ได้ แล้วเป็นเกี่ยววันพันดองกัน เคยล้อเคยเล่นกัน แกยังบอกว่าการเว้นในเรื่องกฎของกรรมนี้ไม่มี ถ้าว่าฉันไม่ดี แกก็เข็นเอาลงนรกเหมือนกัน ยังงั้นใช่ไหมลุง แกบอกว่า ใช่ นั่นถูกแล้ว เรื่องกฎของกรรมไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เรื่องส่วนตัวก็ส่วนตัว กฎของกรรมก็กฎของกรรม

    หลวงพ่อปานซื้อของสงฆ์ เพราะของเหล่านี้มันอยู่ในวัด ท่านเป็นประมุขของวัด ความจริงเราจะคิดกันอย่างเรา ๆ ก็คิดว่าท่านควรมีสิทธิ์ ท่านจะให้ใครก็ได้ ท่านจะกินจะใช้ยังไงก็ได้

    แต่ทว่าตามพระวินัยแล้วไม่มีสิทธิ์ ของในวัด ถ้าพระองค์ไหนปลูกไว้ ถึงเขาสึกแล้วก็ตาม เขาตายแล้วก็ตาม ของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์ ถ้าหากว่าเจ้าของยังบวชอยู่ มีอำนาจให้ใครได้ กินเองได้ ถ้าว่าเขาตาย เขาสึกไปแล้ว พระองค์ใดองค์หนึ่งจะถือเป็นทายาท กินใช้เองน่ะไม่ได้ เพราะเป็นของสงฆ์เสียแล้ว

    เหมือนของหลวง เวลาจะกินจะใช้ต้องประชุมสงฆ์กัน สงฆ์ทั้งหมดต้องประชุมอนุมัติ ว่าเราจะกินจะใช้ของประเภทนี้ด้วยวิธีการอย่างไร ถ้าหากว่าพระองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม เด็กก็ตาม ฆราวาสก็ตาม กรรมการวัดก็เถอะ ไปถือสิทธิ์ว่าฉันเป็นเจ้าหน้าที่ในวัดจะกินลูกไม้ลูกไหนก็ได้ จะเด็ดดอกไม้ดอกไหนก็ได้ จะโค่นต้นไม้ต้นไหนก็ได้ ไม้ลำไหนก็ได้ หน่อไม้หน่อไหนก็ได้ เอามาใช้เอามากินเป็นส่วนตัวโดยสงฆ์ไม่ลงมติอนุมัติ อย่างนี้มีโทษขั้นไหนลุงพุฒิ อเวจีมหานรก แกร้องบอกมาว่า อเวจีมหานรก

    ฟังไว้ให้ดีนะลูกหลานที่รักนะ หลวงพ่อปานซื้อ ซื้อแบบไหน ท่านบอกว่า ต้นไม้ก็ดี ต้นเล็ก ๆ ไม่ใช่โค่นต้นใหญ่ เช่น ไม้ลำหรือว่าหน่อไม้บางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด เป็นส่วนเล็กส่วนน้อย หรือว่าลูกไม้ก็ตาม ดอกไม้ก็ตาม ถ้ามีใครจะเด็ดเอาไปดม เอาไปบูชาพระ จะเอาไปกินเอาหน่อไม้ไปกิน เป็นบางส่วนหรือลำไม้บ้าง มีคนมาลักไม้บ่อย ๆ ที่หลังวัด เขาเคยมาตัดลำไม้บ่อย ๆ สมัยนั้นมีกอไผ่มาก ท่านบอกว่าส่วนเล็กน้อยประเภทนี้ฉันของซื้อ ขอซื้อสงฆ์ด้วยจำนวน ๑๐๐ บาท เพื่อเป็นการป้องกันโทษของบุคคลผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ พระสงฆ์ก็สาธุ

    เป็นอันว่า เด็กก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี ที่ได้กินมะม่วงบ้าง ฝรั่งบ้าง ผลไม้ที่มีอยู่เยอะ ใครอยากกินอะไรก็เอามากินได้ตามชอบใจ เพราะหลวงพ่อปานท่านซื้อแล้ว พอท่านซื้อท่านก็ให้สิทธิ์ ท่านอนุญาต ว่าพวกเธอน่ะ อยากจะฉันมะม่วง อยากจะฉันฝรั่ง อยากจะฉันอะไรก็ตาม นิมนต์ตามสบาย ฉันซื้อแล้ว ฉันซื้อสงฆ์แล้ว นี่ท่านซื้อเพื่อกันพวกฉันนะ กันพวกเด็ก ๆ หรือว่ากันคนอื่นเลว

    เรื่องชำระหนี้สงฆ์ ถึงวันเข้าพรรษาคนทำบุญมาก ท่านก็ประกาศแก่คนทุกคนว่าใครจะชำระหนี้สงฆ์บ้าง ของสงฆ์ตกอยู่ที่ไหน เรียกว่าตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ อย่างวัดร้างที่ปรากฏว่าเป็นดินเปล่า ไม่มีฐานะแสดงว่าเป็นวัดก็มี หรือบางแห่งแสดงฐานะว่าเป็นวัดแต่อยู่ในป่าในดงก็ตาม หรือวัดที่มีพระก็ตาม เราจะไปนำสิ่งของอะไรมาก็ตามในเขตนั้น จะเป็นต้นหญ้าสักต้น ไม้หักสักอันก็ตาม เขาถือว่าของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์ หรือว่าถ้าใครยึดแผ่นดินของสงฆ์ไว้เป็นสมบัติส่วนตัวละก็ซวยขนาดหนัก

    แบบนี้มีผู้เรืองอำนาจรุกรานสงฆ์เคยตกนรกขั้นขุมที่ ๗ มาแล้ว ขุมนี้หนักมาก รองจากอเวจีมหานรก เพราะอะไร เพราะบุกรุกที่ดินของวัด แต่ว่าวัดก็เป็นวัดร้าง ไม่รู้ว่าเป็นวัดร้างแค่นี้นา แค่นี้ตกนรกขุมที่ ๗ ไม่มีเจตนาโกง ซื้อต่อจากคนอื่นเขา แต่เขาก็ไม่ให้อภัย เรื่องนี้เป็นของยากนะ จะถือว่ามันไม่ผิดกฎหมายผิดอะไรฉันไม่รู้หรอก สำนักพญายมเขาไม่เกี่ยวนะ กฎหมายกฎระเบียบอะไรที่ชาวโลกมีกิเลสสร้างขึ้นน่ะ เขาไม่เกี่ยว

    ท่านก็บอกว่าคนเราทั้งหมดนี่นะจะรู้ได้ยังไง ไม้ลอยมาหน้าบ้าน เราเห็นว่าไม่มีเจ้าของเอาเข้ามาทำฟืน แต่ถ้าไม้นั้นมันมาจากวัดก็เป็นไม้ของสงฆ์ ไปเอาเข้ามันก็บาป ต้นหญ้าต้นฟางที่มันอยู่กลางทุ่ง สถานที่นั้นอาจจะเคยเป็นวัดมาก่อนก็ได้ เขาเคยถวายเป็นของสงฆ์ แต่ว่าสภาพของวัดมันสูญไป ของที่อยู่ในนั้นทั้งหมดแม้แต่แผ่นดินก็ยังเป็นของสงฆ์ เราไปเอาต้นหญ้ามาต้นเดียวก็บาป แล้วโทษเอาของสงฆ์หนักมาก เรียกว่าขั้นอเวจีขั้นเดียว มีระดับเดียว ระดับอื่นไม่มี

    แล้วท่านก็ชวนชาวบ้านชำระหนี้สงฆ์ ว่าใครจะชำระหนี้สงฆ์บ้าง ด้วยจำนวนเท่าไร เท่าไรก็ตามเอามารวมกันแล้วประกาศต่อหน้าสงฆ์ ขอชำระหนี้สงฆ์ คือ วัดร้างที่ปรากฏมีเป็นวัดก็ตามหรือไม่ปรากฏเป็นวัดก็ตาม วัดที่มีพระก็ตามวัดไหนก็ได้ ทำไปโดยเจตนาว่ารู้ว่าเป็นของสงฆ์ก็ตาม ไม่รู้ก็ตาม แต่สิ่งเหล่านั้นย่อมไม่ทราบค่าราคาของ คือว่าเป็นของเล็กน้อย ข้าพเจ้าทั้งหลายชำระหนี้สงฆ์ด้วยจำนวนเงินเท่านี้ ถ้าพระสงฆ์ทั้งหลายเห็นสมควรก็ขอให้สาธุขึ้นให้พร้อมกัน ถ้าพระสงฆ์ทั้งหลายไม่เห็นสมควรก็ขอให้นิ่งอยู่ ถ้าพระทั้งหมดสาธุพร้อมกันเป็นอันว่าใช้ได้ ชำระกันแบบนี้ทุกปี ท่านบอกว่าค่อย ๆ ทำไป เรื่องนี้มันเป็นเรื่องหนัก เพราะว่าเรื่องสงฆ์นี่นะลำบากมาก

    มีเรื่องเล่ามาในสมัยของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระพุทธกัสสป น่ากลัวจะไม่ใช่ซี เป็นสมัยพระวิปัสสีทศพลโน่น สมัยพระวิปัสสี นั่นมีพระอยู่ ๔ องค์ เวลานั้นข้าวยากหมากแพง ฝนแล้งไม่ตกตามฤดูกาล ข้าวที่บ้านเขาอาจจะมีมาก แต่ว่าข้าวที่วัดมีน้อย พระพวกนั้นมีเพื่อนมาหา ข้าวที่จะกินเข้าไม่พอ ข้าวส่วนตัวไม่มี ก็มีข้าวสารของสงฆ์ ไปนำข้าวสารของสงฆ์มา เมื่อได้ข้าวสารของสงฆ์มาคนละทะนานแล้วก็มาหุงเลี้ยงเพื่อน

    คิดในใจว่าถ้าเราได้ข้าวสารมาใหม่เราก็จะชำระหนี้สงฆ์ คือว่าเราจะใช้หนี้ให้

    แต่ในเมื่อยังไม่ทันจะใช้หนี้ พระ ๔ องค์นั่นตาย ตายทั้ง ๆ ที่ยังมีเจตนาว่าจะชำระหนี้แต่ก็ยังไม่ได้ชำระ

    ตายแล้วไปไหน ปรากฏว่าไปไหม้อยู่ในอเวจีมหานรก สิ้นพันปีนรก

    เมื่อพ้นจากอเวจีมหานรกแล้วตกนรกบริวาร ผ่านมา ๔ ขุม
    แล้วยมโลกีย์นรกอีก ๑๐ ขุม มาเป็นเปรต เปรตนี้จัดเป็น ๑๒ ระดับ ระดับที่ ๑ ถึงระดับที่ ๑๑ ไม่มีโอกาสที่จะได้โมทนาบุญของชาวบ้านที่ให้ ระดับที่ ๑๒ ที่เรียกว่าปรทัตตูปชีวีเปรต ตอนนั้นมีโอกาส

    ในระหว่างที่เป็นเปรตระดับที่ ๑ ถึง ๑๑ ก็พบพระพุทธเจ้าหลายองค์ ถามท่านว่าเมื่อไรข้าพระพุทธเจ้าจะได้กินน้ำเสียที

    เห็นน้ำเข้าวิ่งไป น้ำก็หายกลายเป็นทะเลเพลิง เห็นข้าวอยากจะกินวิ่งเข้าไปก็ปรากฏว่าเป็นทรายแล้วก็เป็นไฟลุก กินไม่ได้

    พระพุทธเจ้าแต่ละองค์ก็ทรงพยากรณ์ว่า เมื่อไรพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระสมณโคดมอุบัติขึ้นในโลก ในตอนนี้แหละญาติของเจ้าชื่อว่าพระเจ้าพิมพิสารจะบำเพ็ญกุศล แล้วเธอหมดทุกคนได้รับโมทนา ก็จะพ้นทุกขเวทนาเสียที

    เปรตทั้งหลายเหล่านั้นคอยกันมานาน จนกระทั่งเมื่อพระพุทธเจ้าทรงอุบัติ พระเจ้าพิมพิสารถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร แล้วถวายทานแก่พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์ทั้งหมด

    เมื่อถวายทานแล้วก็ไม่ได้กรวดน้ำ ไม่ได้กรวดซีเพราะไม่รู้ ตอนนั้นมันเป็นการทำบุญครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าทำบุญกรวดน้ำกันได้ผล เปรตทุกคนที่คอยอยู่ก็นั่งตั้งท่าจะโมทนา เห็นพระเจ้าพิมพิสารไม่กรวดน้ำให้ก็เดือดร้อน กลางคืนเข้ามาในพระราชนิเวศน์ พระเจ้าพิมพิสารก็ไม่เห็นตัว เป็นพระโสดาบัน แต่ท่านไม่เห็นตัว ก็เลยร้อง เมื่อร้องขึ้นมาพระเจ้าพิมพิสารก็ตกใจ แปลกใจว่าเสียงอะไรไม่ทราบมาร้องกึกก้อง

    ในเมื่อพระเจ้าพิมพิสารตกใจ ในตอนเช้าก็ไปหาพระพุทธเจ้า ไปถามว่าเมื่อคืนนี้ไม่รู้เสียงอะไร มันร้องกรี้ดกร้าด ๆ ตามในพระราชฐาน ไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าข้า ก็เล่าความนั้นให้ทราบ

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า เปรตเป็นญาติของพระองค์ต้องการโมทนาบุญ เมื่อวานนี้พระองค์ทรงทำบุญแล้วไม่ได้กรวดน้ำอุทิศให้ คำว่าอุทิศแปลว่าเจาะจงนะ อุทิศนี่นะเขาแปลว่าเจาะจงให้เฉพาะ

    พระเจ้าพิมพิสารจึงได้นิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์ทั้งหมดไปฉันอาหารในพระราชนิเวศน์ ตอนนี้เมื่อพระพุทธเจ้าฉันเสร็จก่อน จะโมทนา พระเจ้าพิมพิสารก็กรวดน้ำ ใช้คำว่า อิทัง โน ญาตินัง โหตุ แปลเป็นความว่า ขอผลทานนี้จงสำเร็จแก่ญาติของข้าพเจ้า เท่านี้ละนะ กรวดน้ำครั้งแรก เปรตทั้งหลายเหล่านั้นตั้งท่าคอยอยู่แล้ว ได้รับโมทนา เมื่อโมทนาแล้วร่างกายทิพย์หมด มีความอิ่มเอิบ มีความสวยสดงดงาม ร่างกายเทวดา

    แต่ว่าเป็นเทวดาชีเปลือยไม่มีเครื่องประดับ ไม่มีผ้านุ่ง เพราะอะไร เพราะว่าในสมัยก่อนที่จะตายไม่ได้เคยทำบุญถวายผ้าผ่อนท่อนสไบไว้ในพุทธศาสนา เมื่อร่างกายสวยแต่ไม่มีเครื่องประดับ ไม่มีเสื้อผ้า ไม่มีกางเกงนี่มันก็แย่เหมือนกัน ก็เดือดร้อน

    ตอนกลางคืนจึงเข้ามาหาพระเจ้าพิมพิสาร แสดงตัวให้ปรากฏ แต่ว่าตอนยืนน่ะสงสัยว่าจะยืนหันหลังให้ คงไม่ยืนหันหน้าให้หรอก คงจะอายเหมือนกัน

    พระเจ้าพิมพิสารแปลกใจว่า คนอะไรสวยก็สวย แต่แก้ผ้าไม่มีเสื้อไม่มีผ้า ตอนเช้าไปหาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า พวกเปรตพวกนั้นแหละเป็นเทวดา แต่ไม่เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา เพราะอาศัยบารมีที่พระองค์ให้อาหารเป็นทาน เขาก็มีแต่ร่างกายสวย ผ้าไม่มี

    พระเจ้าพิมพิสารถามว่า ทำไมเขาจึงจะได้ผ้า

    ท่านก็บอกว่าต้องถวายไตรจีวรแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แล้วก็อุทิศส่วนกุศลให้ เขาจะได้เครื่องประดับอันเป็นทิพย์

    พระเจ้าพิมพิสารก็ทำอย่างนั้น แต่พอได้เครื่องประดับแล้วเทวดามาแสดงตัวให้ปรากฏ แล้วนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็เลยไม่รบกวนอีก นี่เล่าถึงเรื่องของสงฆ์ให้ฟังนะ ว่ามีเจตนาขอยืมยังมีโทษขนาดนี้ แต่ถ้าหากว่าเราไปเอามาโดยไม่ขอยืมจะมีโทษขนาดไหน

    เอาละ บรรดาลูกหลานทั้งหลาย สำหรับวันนี้ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแก่ลูกหลานทุกคน สวัสดี

    บรรดาลูกหลานทั้งหลาย วันนี้วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๔ ต่อแต่นี้ไปก็นำเรื่องของหลวงพ่อมาเล่าแบบสรุป เพราะพูดมาก็มากแล้วรู้สึกว่าเวลาจะยืดเยื้อมาก ถ้าจะพิมพ์เป็นหนังสือคงจะพิมพ์กันยากเต็มที เพราะว่าหนังสือจะหนามาก เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ต่อแต่นี้ไปฉันจะพูดแบบย่อ ๆ ให้บรรดาลูกหลานฟัง

    เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องของการนำเอาอำนาจเจโตปริยญาณ หรือว่าไม่ใช่เจโตปริยญาณ ต้องเรียกกันว่าทิพยจักษุญาณที่หลวงพ่อปานมีอยู่ มาเล่าให้บรรดาลูกหลานฟัง ทั้งนี้เพราะว่าจะเล่าเรื่องราวที่ท่านรู้ขึ้นเองโดยไม่มีใครบอก เพราะว่าเป็นการรู้อำนาจของจิต และเป็นความรู้ตามพลังของจิต



    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.894004/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2010
  17. ลูกท่าน

    ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,649
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ
    การชำระหนี้สงฆ์
    เปรียบเสมือนการเตือนจิตเรา ว่าถึงเวลา
    ให้ระลึกถึงคุณงามความดี กรรมดีที่พึงปฎิบัติ
    ได้เวลาชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาด สว่าง
    กรรมใดๆ ในทุกชาติภพ เราจักควรคืนให้เขาเสียที
    จะหวงหนี้กรรมไว้กับตัวเพื่ออะไร
     
  18. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    lขออนุโมทนา...กับความรู้ใหม่ๆ.....ขอรับ



    เกล้ากระผม ...ปฐม....ฌาณ....ขอรับ
     
  19. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,662
    ค่าพลัง:
    +9,236
    ขออธิษฐานชำระหนี้สงฆ์


    [​IMG]


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะ



    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้า ชื่อ วิไล สกุล วิชากร

    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ พระเถระพระเถรี ตลอดจนพ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีพระคุณผู้สูงชาติ ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใน ๓ แดนโลกแสนโกฐจักรวาล ข้าพระพุทธเจ้าขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัย และท่านๆ ทั้งหลาย ด้วยกรรมที่เคยประมาท พลาดพลั้งไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ ตลอดจนพระคุณคำตักตำเตือนด้วยปรารถนาดีทั้งมวล

    <O:p</O:p
    <O:p
    ....ด้วยเหตุข้าพเจ้าระลึกได้ว่ามีเหตุเป็นหนทางแห่งความฉิบหาย คือ อารมณ์จิตพยาบาทด้วย อารมณ์ทิฏฐิ มานะจิต หลงติดอวิชชา ที่สั่งสม หลายภพ หลายชาติ และได้เคยกล่าวคำสาปแช่ง กล่าวร้ายบุคคลใดๆ ที่คิดเป็นศัตรูก็ดี ที่มาตักเตือนด้วยความปรารถนาดีก็ดี เป็นต้น


    <O:p</O:p
    <O:p
    .....ในปัจจุบันชาตินี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้สำนึกเห็นความที่เป็นอกุศลของจิตแล้ว ด้วยคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จึงตั้งจิตขอขมาทุกๆ พระองค์ ทุกๆท่านที่ล่วงเกิน ถอนคำแช่งที่เคยกล่าว คิด นินทา ในทุกๆชาติ ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดีหรือ ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดีหรือไม่เจนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี


    <O:p</O:p
    <O:p
    ....ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ศัตรูทุกท่านได้โปรดอดโทษ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ.




    ดอกบัว : วัดอรัญบรรพต หนองคาย
    ขออนุโมทนากับน้องบุญญสิกขาค่ะ<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2010
  20. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ถ้าต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก สิ่งที่ผมกลัวที่สุดมีอยู่ 2 อย่างคือ

    1 มีมิจฉาทิฐิ
    2 ค้างหนี้สงฆ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...