ชำระแค้นด้วยการสวดพุทธะ

นางบอกว่า นางมีบ้านอยู่ที่หมู่บ้าน ๑๓ ในตำบลไหล ลูกชายของนาง ชื่อ ไหลฟุซิ่น ไปฟังธรรมะของอาจารย์คั่นจือ เมื่อกลับถึงบ้าน ลูกก็สวดพระนามพุทธะตามหนังสือที่อาจารย์ แจกให้ สวดเช้า สวดเย็น และสวดอย่างตั้งใจด้วย ลูกชายของนาง จบปริญญาตรีเมื่ออายุ ๒๓ จากนั้นเขาก็ป่วยเป็นวัณโรค วัน ๆ กินแต่ยา หรือไม่ก็ฉีดยา ๒ ปีนี้ พวกเราใช้จ่ายทางเยียวยาเป็น จำนวนมาก จนกระทั่งเร็วๆนี้ หลังจากลูกสวดพระนามพุทธะแล้ว ร่างกายของลูกค่อยดีขึ้น

ครอบครัวของนางมีทั้งหมด ๔ คน มีนาง สามีภรรยา น้อยของสามีและลูกชาย นางบอกว่า ตายายทั้งสามได้ทุ่มกำลัง เงินกำลังกายต่อการป่วยของลูกมาก เพราะลูกเป็นที่หวังของพวกเราในยามแก่ชรา แต่ว่าปลายปีที่แล้วในเดือน ๑๒ ของจีน ลูกฟุซิ่นเกิดเรียกพวกเรา ๓ คนไปที่หน้าเตียงและได้บอกกับพวก เราว่า พ่อและแม่ทั้งสาม วันนี้เที่ยงลูกจะไปจุติยังแดนสุขาวดีแล้ว ก่อนจากไปจะเล่าอะไรๆ ให้ฟัง ขอให้พ่อแม่ทั้งสามโปรดระงับ ความโศกเศร้าเสียใจด้วยนะครับ และพี่ชายของผมบัดนี้ก็มีครอบ ครัวที่ญี่ปุ่นคงอีก ๒ เดือนจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนพวกท่าน ต่อ จากนั้นไป ท่านทั้งสามก็จะมีที่พึ่งและไม่เงียบเหงาอีกต่อไป
สามีฉันฟังแล้วพูดกับลูกชายว่า “ช่วงหลังนี้สุขภาพของลูกก็ดีขึ้นมากแล้ว พวกเราภาวนาขอท่านออนีทอฮุก (อมิตตาพุทธ) คุ้มครองลูก ลูกจงอย่าจากพวกเราไปนะ”

ลูกชายพูดสวนขึ้นมาว่า อันที่จริง ผมมาเกิดเป็นลูกของท่าน ก็เพื่อมาทวงหนี้ เพราะในชาติก่อน ท่านทั้งสามได้ร่วมมือคดโกง เงินของลูก ลูกจึงเกิดมาเพื่อทวงหนี้ ฉะนั้นตั้งแต่เกิดมาจนถึงจบ ปริญญาได้ผลาญเงินท่านก็ไม่น้อย ยิ่งมาป่วยเป็นวัณโรคผลาญเงิน หนักขึ้น แต่ก็ยังไม่สาสมกับเงินที่ถูกท่านโกงไป ความตั้งใจของลูก กะว่าจะผลาญจนกระทั่งพวกท่านจำต้องขายบ้านขายช่องตกอับยากจน หาที่ซุกหัวนอนไม่ได้ และจะอดตายในที่สุดแต่ปีนี้ผมตั้ง ใจสวดมนต์เพื่อลดละกรรมเก่า และกะจะไปจุติยังแดนสุขาวดีแล้ว หนี้กรรมของทั้งสี่ก็จะจบสิ้นลง บัดนี้ หนี้กรรมได้จบสิ้นแล้ว เมื่อลูกจากไป ท่านทั้งสามต้องตั้งใจสวดพระนามพุทธะ “นำโม ออนีทอฮุก” นะ แล้วพวกเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งในแดน สุขาวดีถึงเวลาแล้วช่วยหยิบ “ยอดคัมภีร์” มาให้ลูกด้วย พวกท่าน ก็ช่วยลูกสวดด้วยนะ ในขณะสวดนั้นพวกท่านอย่าร้องไห้ และ อย่าขยับเขยื้อนกายของลูก พวกท่านหันหลังไปแล้วช่วยกันสวดนะ ลูกก็สวดด้วย

ฟุซิ่นเอาหนังสือยอดคัมภีร์ถืออยู่ในมือแล้วพนมมือขึ้น

ตอนแรก ๆ สวดเสียงดัง พวกเราก็ช่วยสวด ถึงแม้ลูก ห้ามพวกเราหันหลังมอง แต่ฉันก็อดแอบมองไม่ได้ พวกเราสวด ได้ราว ๒๐ นาที เสียงสวดของลูกค่อย ๆ แผ่วเบาลงถึงเฮือกสุดท้ายมือทั้งสองก็วางลง หนังสือยอดคัมภีร์หล่นอยู่ที่หน้าอก ลูกจากไปด้วยอาการสงบ ส่วนที่บอกเรื่องพี่ชายที่อยู่ญี่ปุ่นนั้น พวกเรายังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แล้วจู่ ๆ พวกเราก็ได้รับจดหมายจาก ลูกชายคนโตว่าจะกลับมาเยี่ยมพวกเราที่ไต้หวัน ตรงกับคำพูด ของฟุซิ่น

บทความจุติแดนสุขาวดีนี้ เป็นประจักษ์พยานให้เห็นว่า การสวดพระนาม “นำโมออนีทอฮุก” นั้น นอกจากจะสลายหนี้กรรมในอดีตชาติได้แล้ว วิญญาณของเรายังสามารถไปจุติยังแดนสุขาวดี และยังสามารถล่วงรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตชาติ ดัง เช่น ที่เกิดขึ้นกับไหลฟุซิ่นนั่นเอง

เราสวดพระนามพุทธะ “นำมอออนีทอฮุก” สวดเช้า สวดเย็น และสวดอย่างตั้งใจทุกวัน
ให้หมั่นสวดพระนาม ๓ พระพุทธองค์ (ร้อย, พัน, หมื่นจบ)

นำมอออนีทอฮุก นำมอกวนซืออิมผ่อสัก นำมอไต่สี่จี่ผ่อสัก

วิธีการสวดมนต์นั้น จะสวดโดยนับเม็ดประคำ สวดออกเสียง หรือสวดในใจยิ่งสวดมากเท่าไรยิ่งจะเป็นศิริมงคลแก่ผู้สวด

บรรยายมนต์ ออนีทอฮุก (นำมอออนีทอฝอ) หรือ อมิตาพุทธ

สามารถทำให้กรรมเวรในอดีตชาติ จากหนักเป็นเบา ยิ่งสวดมากจะช่วยให้เวรกรรมหมดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นการ เสริมบารมีให้กับตัวเราเอง ทำให้หน้าตาผ่องใส ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มาเบียดเบียน สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว

ออนีทอฮุก ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ถ้าผู้ใดที่มุ่งมั่นไปเกิด ณ แดนสุขาวดีพุทธเกษตร ให้หมั่นสวดภาวนาว่า “นำมอออ นีทอฮุก” และผู้นั้นจะต้องมีศีลธรรม สร้างกุศลเชื่อในกฎแห่ง กรรม ไม่เบียดเบียนสัตว์ บำเพ็ญปฏิบัติธรรมเมื่อหมด อายุขัย ไปแล้ว ออนีทอฮุก กวนซืออิมผ่อสัก และไต่สี่จี่ผ่อสัก และ บริวาร จะเสด็จมารับไปอยู่ ณ แดนสุขาวดี ไม่ต้องกลับมาเวียน ว่ายตายเกิด

สัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุณีได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าผู้ใดจะไป เกิดในแดนสุขาวดี หรือหลุดพ้นจากวัฏสงสาร” จะต้องปฏิบัติ คุณธรรม ๓ ประการ คือ

๑. กตัญญูต่อพ่อแม่ ปฏิบัติธรรมต่อครูบาอาจารย์ มีเมตตา ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตปฏิบัติธรรมด้วย กาย วาจา ใจ ๑๐ ประการ

๒. ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจะต้องได้รับไตรสรณคมน์ เพื่อเป็นลูก ศิษย์ของชาวพุทธที่แท้จริงและถือศีล ไม่ประพฤติและกระทำในสิ่งที่ไม่สมควร

๓.สละตัวเพื่อผู้อื่นในทางที่ถูก เชื่อในกฎแห่งกรรม อ่านและ ท่องหนังสือธรรมะทางมหายาน
คุณธรรม ๓ ประการนี้ เป็นคำกล่าวของพระพุทธเจ้าทุกพระ องค์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งเป็นกฎแห่งกรรมที่จะหลุดพ้น จากวัฏสงสาร

 

๑. กตัญญูต่อพ่อแม่ ปฏิบัติธรรมต่อครูบาอาจารย์ มีเมตตา ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตปฏิบัติธรรมด้วย กาย วาจา ใจ ๑๐ ประการ

๒. ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจะต้องได้รับไตรสรณคมน์ เพื่อเป็นลูก ศิษย์ของชาวพุทธที่แท้จริงและถือศีล ไม่ประพฤติและกระทำในสิ่งที่ไม่สมควร

๓.สละตัวเพื่อผู้อื่นในทางที่ถูก เชื่อในกฎแห่งกรรม อ่านและ ท่องหนังสือธรรมะทางมหายาน

สาธุการค่ะ