ชีวประวัติ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม โดย..ธีรภัทโท

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 20 กรกฎาคม 2013.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    รูปภาพฝ่ามือข้างขวา หลวงปู่ชอบ ฐานสโม รูปนี้ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ท่านตั้งชื่อให้ว่า " ฝ่ามืออรหันต์ " รูปนี้ถ่ายเมือ มกราคม 2534 โดย.อ.เฉลียว สิงห์ทองลา..
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม กับ พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท (ครูบากล้วย) รูปนี้ถ่ายที่ ห้องกระจก กุฏิเย็ยสุดยอด วัดป่าโคกมน ถ่ายเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2536 โดย.อ.เฉลียว สิงห์ทองลา



    [​IMG]

    " เป็นสุข เป็นสุข " คำให้พรที่สั้นที่สุดของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงกราบนมัสการ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ในงานพิธีเปิดเจดีย์พิพิธภัณฑ์ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ณ วัดเจติยาคิรีวิหาร(ภูทอก) ในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๓๓ ภาพนี้ถ่ายโดย..เกษม คูวิบูลย์กิจ



    [​IMG]

    จากซ้ายไปขวา
    1.หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดศรีสุทธาวาส(วัดเลยหลง) จ.เลย 2.หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
    3.หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าโคกมน จ.เลย
    4.หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย
    5.หลวงปู่ซามา อจุตโต วัดป่าอัมพวัน จ.เลย
    ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี พ.ศ. 2513 ที่ข้างพระอุโบสถวัดศรีสุทธาวาส
    ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    1.พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม 2.หลวงปู่บุญเพ็ง ขมาภิรโต 3.หลวงปู่สุวัจ สุวโจ ถ่ายเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2533 ที่ วัดเจติยาคิรีวิหาร(ภูทอก) จ.บึงกาฬ โดย..คุณเกษม คูวิบูลย์กิจ



    [​IMG]

    หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดศิริกมลาวาส กรุงเทพมหานคร กราบนมัสการ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่ ศาลาหุ่นขี้ผึ้ง วัดป่าโคกมน จ.เลย เมื่อ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗ ภาพโดย..วีระศักดิ์ โพธิสัตย์
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    สมเด็จพระสังฆราชสกลสังฆมหาปรินายก(เจริญ สุวัฑโณ) กราบนมัสการ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศน์วิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๓๖ ภาพโดย..วีระศักดิ์ โพธิสัตย์



    [​IMG]

    พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ไปเยี่ยมและสนทนาธรรมกับ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ในภาพหลวงปู่ชอบท่านจับมือหลวงตามหาบัว แล้วท่านพูดว่า " มหาบัว ผมฝากท่านดูแลหมู่คณะและแผ่นดินแน่เด้อ มีท่านเท่านั้นที่ทำได้ คนอื่นนั้นเรามองไม่เห็นว่าใครจะทำได้ " จากนั้นอีกสองเดือนต่อมาหลวงปู่ชอบท่านก็มรณภาพ และอีกไม่กี่ปีต่อมา หลวงตามหาบัวท่านก็กู้ชาติกู้แผ่นดินในนาม " โครงการผ้าป่าช่วยชาติ " ได้ทองคำเข้าคลังหลวงเพื่อค้ำฐานะของประเทศมากถึง ๑๒ ตัน..

    ภาพโดย..ท่านอานนท์
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม นั่งสนทนากับลูกศิษย์ที่หน้าวิหารธรรมรังษี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ภาพนี้ถ่ายเมื่อเดือนเมษายน 2513 ภาพโดย.หลวงตาปี



    [​IMG]

    พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ไปเยี่ยมสนทนาธรรมกับ พระคุณเจ้าหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ บรรยากาศการสนทนาธรรมเป็นไปด้วยความรื่นเริง ระหว่างที่ทั้งสององค์ท่านสนทนาธรรมกันอยู่นั้น องค์หลวงปู่แหวนท่านได้ถามหลวงปู่ชอบเป็นเชิงปริศนาว่า " ท่านอาจารย์ชอบจะกลับมา(..) อีกไหม " หลวงปู่ชอบท่านตอบว่า " ถ้ากลับมาเชียงใหม่ ผมจะมาอีก แต่ถ้ากลับมาเกิด..ผมไม่กลับมาอีกแล้ว."
    มีนาคม 2527 ภาพโดย..อ.เฉลียว สิงห์ทองลา
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    ถึงแม้องค์ท่านทั้งสองจะมีอายุพรรษาไล่เลี่ยกัน หลวงปู่หลุยท่านเกิดวันที่ 11 ก.พ.2444 หลวงปู่ชอบท่านเกิดวันที่ 12 ก.พ.2444 หลวงปู่ชอบท่านมีอายุทางโลกอ่อนกว่าหลวงปู่หลุย 1 วัน แต่หลวงปู่ชอบท่านบวชก่อนหลวงปู่หลุย 2 เดือน ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันกับหลวงปู่ชอบ องค์ท่านหลวงปู่หลุยจะแสดงออกกับหลวงปู่ชอบด้วยความเคารพ มีกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนกับท่านนั้นเป็นพระผู้น้อยอยู่เสมอ..

    ภาพนี้ถ่ายที่..ที่พักสงฆ์ กม.27 ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    พระคุณเจ้าหลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย กับ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าโคกมน จ.เลย สองพระเถราจารย์ของจังหวัดเลย ผู้ได้ชื่อว่า " ยอดมงกุฏเพชรแห่งเมืองเลย
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    พระพุทธรูปสามพี่น้อง

    [​IMG]


    พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม องค์ท่านเล่าเรื่อง " พระพุทธรูปสามพี่น้อง " ให้ลูกศิษย์ที่มาร่วมงานทอดกฐินวัดท่าแขกฟัง เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๖

    “ พระพุทธะรูปทั้งสามองค์นี้สร้างขึ้นจากศรัทธาของพราหมณ์สามพี่น้องเมืองนาดูนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นอธิฐานสัญญาว่า ถ้าเกิดชาติไหนขอให้เราสามพี่น้องได้พบกันในศาสนาของพระพุทธเจ้า พราหมณ์พี่สร้างพระพุทธรูปนาคปรก(หลวงพ่อแสนมงคล) พราหมณ์เขาถือว่าพระพุทธรูปนาคปรกคือนามแห่งอำนาจ พราหมณ์น้องอีกสองคนสร้างพระพุทธรูปปางสมาธิ(หลวงพ่อโชค-หลวงพ่อชัย) ”..

    “ พระพุทธรูปสามองค์อยู่วัดท่าแขกร้อยกว่าปีแล้ว มีพ่อค้ากองเกวียนเร่เอามาจากกู่เก่าเมืองนาดูนใส่มากับเกวียนสินค้า พวกพ่อค้าเร่เอาของมาขายทางเมืองเชียงคาน(จ.เลย) แล้วพวกเขาจะข้ามโขงเอาของไปขายทางเมืองสานะคาม เมืองแก่นท้าว เมืองไชยะบุรี(ประเทศลาว) ตอนนั้นอีสานเขตนี้เกิดโรคห่าระบาดมีคนตายจำนวนมาก พวกพ่อค้าก็ตายไปหลายคน พวกที่รอดชีวิตเกิดความกลัวพากันทิ้งสิ่งของรวมทั้งพระพุทธรูปสามองค์นี้ไว้ในป่า ”..

    “ชาวบ้านไปพบพระพุทธรูปสามองค์ถูกทิ้งไว้ในป่า เขาจึงพากันอาราธนาพระพุทธรูปทั้งสามองค์ใส่เกวียนเพื่อจะนำไปไว้ที่วัดในเมืองเชียงคาน แต่วัวไม่ยอมเดินไปตามทางที่เจ้าของเขาต้องการให้ไป วัวลากเกวียนเดินไปทางอื่น เจ้าของเฆี่ยนตีอย่างไรวัวมันก็ไม่ยอมไปตามที่เขาต้องการ เขาจึงเสี่ยงทายกันว่า ถ้าวัวไปหยุดกินน้ำ หรือหยุดพักที่ไหน ถือว่าพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้อยากจะอยู่ที่นั่น เขาจึงปล่อยวัวลากเกวียนบรรทุกพระพุทธรูปไปโดยไม่มีผู้ใดบังคับ ”..

    “ พวกตีฆ้องร้องป่าวก็บอกข่าวไปตามทาง ผู้คนพากันออกมานิมนต์พระพุทธรูปทั้งสามองค์ให้อยู่ที่วัดบ้านเมืองของตน วัวลากเกวียนผ่านไปทางไหน พระเณรชาวบ้านเขาจะเอาน้ำเอาหญ้ามาให้วัวกิน เพื่อเขาจะได้อาราธนาพระพุทธรูปสามพี่น้องให้อยู่ที่วัดบ้านเมืองของตน ”..

    “ วัวลากเกวียนบรรทุกพระพุทธรูปผ่านหลายที่ แต่ไม่ยอมหยุดกินน้ำกินหญ้าที่ไหนเลย พอมาถึงวัดท่าแขก ตอนนั้นวัดท่าแขกเป็นวัดร้างแล้ว พระเณรหนีข้ามโขงไปอยู่เมืองสานะคามกันหมด วัวมาหยุดพักกินน้ำซับ ” (น้ำที่ผุดขึ้นเองโดยธรรมชาติ อยู่ทางฝั่งโรงเรียนมูลมังหลวงปู่ชอบในปัจจุบัน)..

    “ กินน้ำแล้ววัวก็ไม่ไปที่ไหนอีกเลย คนที่ตามมาดูเขาจึงเห็นพ้องกันว่าพระพุทธรูปสามองค์นี้ท่านอยากจะอยู่ที่วัดท่าแขก เขาจึงพาอาราธนาพระพุทธรูปสามพี่น้องประดิษฐานไว้ที่โบสถ์เก่าวัดท่าแขก พระพุทธรูปสามพี่น้องจึงอยู่วัดท่าแขกตั้งแต่นั้นมา "..

    “ พระพุทธรูปสามพี่น้องนี้จะอยู่ด้วยกันตลอด อย่าไปแยกองค์หนึ่งองค์ใดให้พรากจากกัน มันจะเกิดเหตุไม่ดีได้ พระพุทธรูปทั้งสามองค์มีความศักดิ์สิทธิ์ลึกลับซ่อนอยู่ในตัว มีเทวดาพญานาคมากราบไหว้ทุกวัน มีพญานาคเขามารักษาดูแลทุกวัน ข้างขึ้นเป็นพญานาคฝ่าย อิสโรนาคราช มาดูแล ข้างแรมพญานาคฝ่าย กากะละนาคราช มาเฝ้ารักษา ”

    " บางครั้งถ้าเห็นงูขึ้นมานอนอยู่ในโบสถ์ หรือนอนอยู่หน้าพระ ก็ปล่อยเขา อย่าไปไล่ไปตีเขาเป็นอันขาด ให้เขาอยู่ตามประสาของเขาไป บางทีเป็นพวกพังพานที่เขามาเฝ้ารักษาพระแสดงเป็นกายหยาบให้เราเห็นก็มี "..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วัดท่าแขก

    [​IMG]


    วัดท่าแขก บ.น้อย ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย ทางเข้าวัดเป็นถนนเส้นเดียวกับทางเข้าแก่งคุดคู้ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย วัดท่าแขกเป็นวัดโบราณเก่าแก่ของจังหวัดเลย ตามหลักศิลาจารึกที่ถูกค้นพบภายในพระอุโบสถหลังเก่าของวัดท่าแขก ซึ่งเขียนจารึกด้วยอักษรภาษาลาวโบราณ นักโบราณคดีกรมศิลปากรได้แปลภาษาลาวจากหลักศิลาจารึกเป็นภาษาไทยว่า..

    วัดท่าแขก สร้างเมื่อวันเสาร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะเมีย พุทธศักราช ๒๒๐๙ จุลศักราช ๑๐๒๘ ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา วัดท่าแขกสร้างขึ้นด้วยศรัทธาของท้าวสุวรรณแผ้วพ่าย พระราชโอรสของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช กษัตริย์ผู้ครองนครล้านช้างหลวงพระบาง..

    ท้าวสุวรรณแผ้วพ่าย สร้างวัดท่าแขกเพื่ออุทิศให้กับพระมเหสีและพระราชธิดาของพระองค์ที่ได้สวรรคตพร้อมกันเนื่องจากเรือล่มในแม่น้ำโขงเขตเมืองเชียงคาน ในคราวที่ท้าวสุวรรณแผ้วพ่ายพาพระมเหสีและพระราชธิดาเสด็จทางเรือไปยังเมืองเวียงจันทร์..

    วัดท่าแขก ชื่อเดิมในสมัยก่อนชาวบ้านคนท้องถิ่นเรียกชื่อวัดแห่งนี้ว่าวัดท่าแข่ คำว่าแข่ ในภาษาอีสานแปลว่าจระเข้ เหตุที่ชาวบ้านสมัยก่อนเรียกว่าวัดท่าแข่เพราะที่บริเวณท่าลานหินข้างวัดที่ติดกับแม่น้ำโขงสมัยนั้นจะมีจระเข้มาอาศัยอยู่อย่างชุกชุม จระเข้มักจะพากันมานอนผึ่งแดดอยู่ที่ท่าลานหินของวัด เมื่อสร้างวัดขึ้นมาแล้วชาวบ้านจึงพากันเรียกชื่อวัดว่า " วัดท่าแข่ "..

    ปัจจุบันมีการเรียกชื่อวัดแห่งนี้ผิดเพี้ยนไปจากชื่อเดิมมาก จากเดิมเรียกว่าวัดท่าแข้ ปัจจุบันเพี้ยนไปเป็นชื่อ " วัดท่าแขก " ดั่งที่ทราบกันในปัจจุบัน..

    ปีพุทธศักราช ๒๔๖๙ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ หลวงปู่สีโห เขมโก หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และพระภิกษุสามเณรอีกจำนวน ๔๐ กว่ารูปได้เดินธุดงค์ผ่านมาเมืองเชียงคาน หลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่นได้พาคณะศิษย์ที่ติดตามมาหยุดพักภาวนาอยู่ที่วัดท่าแขก ซึ่งตอนนั้นวัดท่าแขกยังเป็นวัดร้างอยู่..

    ปีพุทธศักราช ๒๔๗๐ หลวงปู่เสาร์ กัตสีโล หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่หล้า ขันติธโร เดินทางมาพักภาวนาอยู่ที่วัดท่าแขก หลวงปู่เสาร์พาหลวงปู่ชอบและพระเณรร่วมกับชาวบ้านเชียงคานทำการบูรณะซากปรักหักพังของอุโบสถและเจดีย์ขึ้นมาใหม่ หลวงปู่เสาร์ท่านให้ลูกศิษย์ขนเอาเศษอิฐมาก่อเป็นแท่นเพื่อใช้เป็นฐานที่ตั้งของพระพุทธรูปโบราณ ๓ องค์ที่พบอยู่ภายในอุโบสถวัดท่าแขก หลวงปู่เสาร์และหลวงปู่ชอบพักภาวนาอยู่ที่วัดท่าแขกประมาณ ๑๕ วัน จากนั้นองค์ท่านหลวงปู่เสร์ได้เดินทางไปเที่ยววิเวกไปทางเมืองแก่นท้าว ประเทศลาว..

    ปีพุทธศักราช ๒๕๑๙ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านมีดำริที่จะฟื้นฟูวัดท่าแขกจากสภาพวัดร้างให้เป็นวัดขึ้นมาในพระพุทธศาสนาอีกครั้ง เนื่องจากที่วัดท่าแขกมีพระพุทธรูปโบราณอยู่สามองค์ ซึ่งเป็นสมบัติพระพุทธศาสนาชุดสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ที่วัดแห่งนี้ หากปล่อยพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ไว้โดยไม่มีผู้ใดเข้ามาดูแล พระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้อาจอันตธานหายไปได้ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบท่านจึงมอบหมายให้ลูกศิษย์ของท่านคือ พระราชสีลสังวร(เจ้าคุณนาซ่าว) และ หลวงพ่อบัวคำ มหาวีโร ร่วมกับพระอีกสามรูปคือ หลวงพ่อก้อนทอง ปิยธัมโม หลวงพ่อบุญเรือง พระพัง เข้ามาบูรณะวัดท่าแขกขึ้นใหม่อีกครั้ง..

    พระราชสีลสังวรและหลวงพ่อบัวคำพาชาวบ้านน้อยเชียงคานรื้อซากปรักหักพังของพระอุโบสถและซากเจดีย์เก่าของวัดท่าแขกเพื่อทำการจัดเรียงขึ้นมาใหม่ สร้างศาลาชั่วคราวมุงด้วยสังกะสีเพื่อเอาไว้ครอบพระพุทธรูปโบราณทั้งสามองค์ ก่อนจะเข้าพรรษาในปีนั้นหลวงปู่ชอบท่านได้เดินทางมาพักค้างคืนที่วัดท่าแขกสองคืน พอใกล้จะถึงวันปวารณาเข้าพรรษาองค์ท่านจึงกลับไปจำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ.โคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย..

    หลวงปู่ชอบท่านได้มอบหมายให้ลูกศิษย์ของท่านคือ หลวงพ่อบัวคำ มหาวีโร หลวงพ่อก้อนทอง ปิยะธัมโม หลวงพ่อสอน อยู่จำพรรษาที่วัดท่าแขกเพื่อบรมศีลธรรมให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่น จากนั้นเป็นต้นมา " วัดท่าแขก " จึงมีพระภิกษุสามเณรที่เป็นลูกศิษย์ของ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เดินทางเข้ามาพักและจำพรรษาที่วัดท่าแขกตราบจนปัจจุบันนี้..

    ปีพุทธศักราช ๒๕๒๔ พระอาจารย์แดง จันทวังโส ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดท่าแขก หลวงปู่ชอบท่านจึงมอบหมายให้พระอาจารย์แดงเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าแขก โดยองค์ท่านหลวงปู่ชอบได้เมตตารับเอาวัดท่าแขกไว้ในความอุปถัมภ์ขององค์ท่าน วัดท่าแขกจึงอยู่ในความเมตตาของ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม มาจนตราบเท่าทุกวันนี้..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    เปรตลักกินของสงฆ์

    [​IMG]


    พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านพูดถึงเปรตตนหนึ่งที่อยู่วัดท่าแขก ต.เชียงคาน องเชียงคาน จ.เลย ให้ฟังว่า..

    “ ตอนท่านอาจารย์เสาร์พาเรามาพักอยู่วัดท่าแขก ท่านบอกเราว่า ท่านชอบ ที่วัดนี้มีเปรตผู้ชายตนหนึ่งตัวสูงๆผอมดำเหมือนถูกไฟไหม้จนเกรียมไปทั้งตัว ตัวสูงเท่าหลังคาโบสถ์ หาเก็บของบูดของเน่าในวัดกิน เก็บมูตรเก็บคูถกินไปตามกรรมของมัน ”..

    “ เราจึงพิจารณาดูบุพกรรมของเปรตตนนี้ แต่ก่อนเปรตตนนี้อดีตเคยเป็นโยมอาศัยอยู่ในวัดนี้ ตอนที่ยังเป็นคนมีนิสัยชอบลักขโมยของ หรือไม่ก็ถือวิสาสะเอาของวัดไปกินไปใช้โดยไม่แจ้งให้พระเณรท่านทราบ อยากกินอะไรอยากได้อะไรมันก็แอบเอาไปเลยโดยไม่มีการขออนุญาตจากพระเณร พอพระเณรท่านถามมันก็ปฏิเสธ ด้วยมานะทิฐิของตนมันออกปากท้าทายไม่กลัวบาปกรรม ”..

    “ เพราะความมืดบอดของจิตใจมันถึงทำแบบนี้ เข้าวัดแต่ตัว แต่จิตใจไม่มีวัตรปฏิบัติเลย คิดว่าบาปบุญไม่มีมันจึงไม่เชื่อในเรื่องของบาปกรรม ทำอะไรลงไปก็ทำไปตามกิเลสมันบงการ พวกจิตมืดบอดแบบนี้ยากแก่การโปรด ไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าอีกกี่พระองค์มาตรัสรู้มันถึงจะได้รู้เห็นธรรมกับเขาบ้าง ”..

    “ พอสิ้นอายุขัยตายจากโลกนี้ไปแล้ว มันก็ได้เกิดเป็นเปรตที่นี่ เป็นเปรตที่มีความหิวโหยอยู่ตลอดเวลา หิวโหยเพราะบาปกรรมของตนบีบบังคับ อาหารการกินก็ไม่มีเพราะบาปกรรมมันปิดบัง เมื่อหิวขึ้นมาก็หาเก็บของบูดของเน่ากิน เก็บขี้หมาขี้แมวตามพื้นดินกิน เลียดินกินเสลดน้ำลายที่คนถ่มบ้วนทิ้งอยู่ตามพื้นดิน เรามาวัดท่าแขกทีไรก็เห็นแต่มันเดินเก็บกินมูตรคูถอยู่อย่างนั้น เห็นแล้วสังเวชใจ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมมันทำมาแบบนี้ ผลจึงออกมาแบบนี้ ”..

    กราบเรียนถามองค์ท่านว่า ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้วเปรตตนนี้จะเอาอะไรกิน หลวงปู่พอที่จะโปรดสงเคราะห์เปรตตนนี้ได้ไหม..

    หลวงปู่ชอบท่านตอบว่า “ เราโปรดมันไม่ได้เพราะจิตมันมืดบอด จิตไม่มีด้านดีพอที่จะรับบุญได้ เป็นโมฆะบุรุษผู้บกพร่องในธรรม อาหารของบูดเน่ามันเกิดจากผลกรรมของเปรตตนนี้ ของพวกนี้ไม่มีวันหมดหรอก เมื่อมันหิวขึ้นมาเมื่อไหร่ กรรมจะบันดาลให้มูตรคูถเหล่านี้ผุดขึ้นมาให้มันเห็นเอง สิ่งเหล่านี้จะหมดไปพร้อมกับกรรมของมันเท่านั้น ถ้ากรรมยังไม่หมดมันก็จะเป็นเปรตอยู่ที่วัดนี้ไปอีกนาน ”..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กราบลาองค์ท่านหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล

    [​IMG]


    หลังจาก พระคุณเจ้าหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ท่านพาหลวงปู่ชอบมาพักภาวนาอยู่ที่วัดท่าแขก ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ประมาณครึ่งเดือน หลวงปู่เสาร์ท่านจึงพาหลวงปู่ชอบและลูกศิษย์ท่านอื่นออกจากวัดท่าแขกเดินทางไปที่บ้านท่าดีหมีบริเวณปากแม่น้ำเหืองไหลลงแม่น้ำโขง หลวงปู่เสาร์พาลูกศิษย์พักภาวนาอยู่ที่นี่สองคืน..

    จากนั้นหลวงปู่เสาร์จะพาท่านและหมู่คณะข้ามไปเที่ยววิเวกที่เมืองแก่นท้าว ปากลาย ประเทศลาว แต่หลวงปู่ชอบท่านคิดถึงโยมแม่ของท่าน ท่านอยากจะกลับไปหนองบัวบานเพื่อโปรดโยมแม่ในทางธรรม หลวงปู่ชอบท่านจึงแจ้งเจตนาของท่านให้องค์ท่านหลวงปู่เสาร์ทราบ องค์ท่านหลวงปู่เสาร์ยินดี และอนุโมทนากับท่านที่จะไปโปรดโยมแม่ให้พบกับแสงสว่างในทางธรรม..

    องค์ท่านหลวงปู่เสาร์จึงอนุญาตให้ท่านเดินทางกลับบ้านเพื่อไปโปรดโยมแม่ หลวงปู่ชอบท่านจึงกราบลาองค์ท่านหลวงปู่เสาร์ที่บริเวณปากแม่น้ำเหืองบ้านท่าดีหมี ท่านยืนมองดูหลวงปู่เสาร์และหมู่คณะนั่งเรือข้ามแม่น้ำเหืองเพื่อเดินทางไปเมืองแก่นท้าว..

    ที่ปากแม่น้ำเหืองบ้านท่าดีหมีแห่งนี้คือสถานที่สุดท้ายที่หลวงปู่ชอบท่านได้มาพักภาวนากับองค์ท่านหลวงปู่เสาร์ นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาหลวงปู่ชอบท่านก็ไม่ได้พบกับองค์ท่านหลวงปู่เสาร์(ด้วยตาเนื้อ)อีกเลย ตราบถึงวันที่ พระคุณเจ้าหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ท่านละสังขารนิพพานจากไป..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    โปรดโยมแม่

    [​IMG]


    หลังจากหลวงปู่ชอบท่านกราบลา พระคุณเจ้าหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่ปากแม่น้ำเหือง บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย หลวงปู่ชอบท่านเดินทางมาที่ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องของท่าน จากนั้นองค์ท่านได้เดินทางมาพักที่ วัดป่าหนองบัวบาน บ้านหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี..

    โยมแม่ของท่านเมื่อทราบว่าพระลูกชายกลับมาเยี่ยมบ้าน โยมแม่ของท่านดีใจเป็นอย่างมากที่จะได้พบกับพระลูกชายอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้พบกับพระลูกชายมานานหลายปี เมื่อท่านมาพักอยู่ที่วัดป่าหนองบัวบาน โยมแม่ของท่านจะมาทำบุญกับท่านทุกวันและ โยมแม่ปาจะตามมาถวายอาหารการขบฉันให้กับพระลูกชายอยู่มิได้ขาด หลวงปู่ชอบท่านจึงทำหน้าที่ลูกลาก คือลูกที่ลากแม่เข้าวัดเพื่อให้โยมแม่ของท่านได้มีโอกาสทำบุญโดยผ่านทางพระลูกชาย..

    แต่ละครั้งที่โยมแม่มาเยี่ยม หลวงปู่ชอบท่านจะบอกจะสอนเรื่องศีลธรรมให้กับโยมแม่ของท่านฟังวันละเล็กละน้อย จนโยมแม่ของท่านมีจิตใจโน้มเอียงเข้ามาในทางธรรม โยมแม่ปานิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองบัวบาน ท่านพิจารณาเห็นสมควรที่จะจำพรรษาเพื่อโปรดโยมแม่ ท่านจึงรับนิมนต์จำพรรษาที่วัดป่าหนองบัวบาน อีกประการหนึ่งนั้น นับตั้งแต่หลวงปู่ชอบท่านบวชมาท่านยังไม่เคยจำพรรษาที่บ้านหนองบัวบานเลย มีแต่ไปจำพรรษาที่บ้านอื่นเมืองไกลซึ่งไม่ใช่บ้านเมืองของญาติสนิทมิตรสหายของท่าน..

    ปี ๒๔๗๐ หลวงปู่ชอบท่านจำพรรษาที่บ้านหนองบัวบาน โดยท่านมีเจตนาที่จะโปรดโยมแม่ของท่านให้รู้เห็นเป็นธรรมในจิตใจ วันพระแปดค่ำสิบห้าค่ำโยมแม่ของท่านก็จะมาถือศีลอยู่ที่วัด ท่านจึงมีโอกาสฝึกหัดทางด้านจิตภาวนาให้กับโยมแม่ หลวงปู่ท่านบอกโยมแม่ของท่านมีวาสนาในทางนี้ พอฝึกหัดภาวนาได้ไม่นานเท่าไรจิตของโยมแม่ปาก็พบกับความสงบ พบกับแสงสว่างใน " ธรรมแรก " ของจิต..

    หลวงปู่ท่านกล่าวว่า “ ไม่ว่าบุญหรือบาปที่เราเคยทำมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน การภาวนาจะทำให้เห็นผลในปัจจุบัน ทำให้เกิดความรู้ในปัจจุบัน เกิดความรู้ที่จะละวางในกิเลสได้ พระอริยะเจ้าแต่ละชั้นภูมิท่านก็อาศัยการภาวนานี่แหละเป็นวิธีจัดการกับกิเลส ”

    โยมแม่ของท่านถึงจะไม่รู้ธรรมถึงขั้นถอดถอนกิเลสให้หมดสิ้นไปจากจิตใจของตนเองได้ เมื่อ “ ธรรมแรก ” ได้เกิดสว่างขึ้นมาในจิตใจ ความคิดอยากจะบวชจึงเกิดขึ้นในใจของโยมแม่ปา หลังออกพรรษาแล้วปีพุทธศักราช ๒๔๗๑ โยมแม่ของท่านบอกกับท่านว่า “ แม่ไม่อยากจะอยู่ทำอะไรให้กับทางโลกอีกแล้ว ลูกเต้าคนอื่นๆหรือไร่นาสาโทแม่ก็ไม่ห่วง บั้นปลายของชีวิตแม่อยากจะบวชชี ท่านครูบาชอบมีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ ”..

    เมื่อหลวงปู่ท่านทราบเจตนาของโยมแม่ ท่านอนุโมทนาและยินดีในเจตนาของโยมแม่ ญาติพี่น้องของท่านทุกคนต่างยินดีและร่วมอนุโมทนากับโยมแม่ปา หลวงปู่ชอบท่านจึงพาโยมแม่ของท่านไปบวชชีกับท่าน พระคุณเจ้าหลวงปู่บุญ ปัญญาวโร วัดป่าหนองวัวซอ(ปัจจุบันคือวัดปุญญานุสรณ์) ตำบลหนองวัวซอ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งวัดนี้จะอยู่ไม่ไกลจากบ้านหนองบัวบานมากเท่าไรนัก..

    เมื่อโยมแม่ของท่านบวชเป็นแม่ชีแล้ว หลวงปู่ชอบท่านพาโยมแม่ชีปามาจำพรรษาที่วัดป่าหนองบัวบานเพื่อที่ท่านจะได้ดูแลโยมแม่ชีของท่านอย่างสะดวก อาหารการขบฉันที่ท่านบิณฑบาตมาได้ ถ้าอาหารนั้นเป็นของประณีตและไม่เป็นโทษกับธาตุขันธ์ของโยมแม่ ท่านจะเก็บอาหารนั้นให้โยมแม่ชีของท่าน ท่านบำรุงโยมแม่ชีของท่านด้วยปัจจัยสี่ตามมีตามได้เพราะสมัยนั้นลาภสักการะของท่านไม่ได้มีมากมายเหมือนกับในปัจจุบัน..

    องค์ท่านหลวงปู่ชอบ “ เราเห็นบุญคุณความรักความห่วงใยที่แม่มีต่อเรา หากบ่มี " แม่ปา " คนนี้ ก็บ่มีวันนี้ของเรา บุญคุณของแม่ปาเราบ่เคยลืมเลย ตอบแทนพระคุณของแม่เราก็ได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ อามิสบูชาเราบ่ค่อยมีให้แม่ได้กินได้ใช้ สมัยก่อนเรายังบ่มีลาภสักการะอะไรมากมายเหมือนกับทุกวันนี้ แต่เราแทนพระคุณของแม่ด้วยการปฏิบัติให้แม่เห็นเป็นตัวอย่าง เราแทนพระคุณแม่ด้วยการปฏิบัติบูชา บอกศีลสอนธรรมให้กับโยมแม่ จนแม่มีปัญญา มีความเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธศาสนา มีความเชื่อมั่นในคำสอนของพุทธเจ้า "..

    " เราหาเงินหาทองให้แม่บ่ได้ หาทรัพย์สินภายนอกให้แม่บ่ได้ แต่เราบอกสอนธรรมให้แม่ได้ เราพาแม่หาอริยะทรัพย์ภายใน เพื่ออยากให้แม่มีอริยะทรัพย์อันประเสริฐนี้ติดไปกับจิตใจของแม่ตลอดไป หน้าที่ของลูกเราทำได้อย่างที่สุดแล้ว จะเหลียวหลังเราก็บ่อายหน้า จะเบิ่งฟ้า(จะมองฟ้า)เราก็บ่อายดิน ทุกๆอย่างของเรา เราได้ทำหน้าที่นี้ได้สมบูรณ์หมดทุกอย่างแล้ว ”..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น

    [​IMG]


    หลังจากออกพรรษาที่สี่ของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ปลายปีพุทธศักราช ๒๔๗๑ หลวงปู่ชอบท่านทราบข่าวว่าองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านพักภาวนาอยู่ที่ เสนาสนะป่าบ้านสามผง ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ท่านมีความมุ่งมั่นอยากจะเดินทางไปกราบองค์ท่านหลวงปู่มั่นเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ชอบท่านจึงชวนครูบาขาว(หลวงปู่ขาว อนาลโย) และ ครูบาหลุย(หลวงปู่หลุย จันทสาโร) เพื่อไปกราบและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่มั่นด้วยกัน..

    หลวงปู่หลุยและหลวงปู่ขาวท่านทั้งสองเกรงว่า ถ้าเข้าไปหาหลวงปู่มั่นพร้อมกันหลายองค์เช่นนี้ เกรงว่าท่านจะไม่รับให้อยู่ร่วมสำนักด้วย หลวงปู่ชอบท่านจึงอาสากับหมู่คณะท่านจะเป็นผู้เข้าไปกราบหลวงปู่มั่นก่อนหมู่เพื่อน โดยให้ครูบาขาวกับครูบาหลุยตามไปสมทบในภายหลัง เมื่อตกลงกันเช่นนี้แล้วหลวงปู่ชอบท่านจึงอาสาเป็นกองหน้าให้กับหมู่คณะ โดยท่านจะเป็นผู้ที่เข้าไปกราบองค์ท่านหลวงปู่มั่นก่อน..

    หลวงปู่ชอบท่านเดินทางออกจากวัดป่าหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เพื่อไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่มั่นที่เสนาสนะป่าบ้านสามผง ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม หลวงปู่ชอบท่านแวะเข้ามากราบและพักอยู่กับท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์(หลวงปู่จูม พันธุโล)วัดโพธิสมภรณ์ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่อสอบถามข่าวองค์ท่านหลวงปู่มั่นจากท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์..

    เมื่อท่านทราบแน่ชัดแล้วว่าองค์ท่านหลวงปู่มั่นพักอยู่ที่บ้านสามผง ท่านสอบถามเส้นทางที่จะไปบ้านสามผงกับท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์จึงบอกเส้นทางที่จะไปบ้านสามผงให้ท่านทราบ พอท่านทราบทางที่จะไปบ้านสามผงแล้วท่านจึงกราบลาท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ เพื่อเดินทางไปหาองค์ท่านหลวงปู่มั่นตามที่ท่านตั้งใจเอาไว้..

    หลวงปู่ชอบท่านเดินทางออกจากวัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี มาทางอำเภอบ้านดุงเพื่อไปยังเขตอำเภอบ้านม่วงและอำเภอคำตากล้า ท่านอาศัยถามทางจากพระเณรและชาวบ้านระหว่างทางที่ท่านผ่าน บางครั้งท่านก็เดินหลงทางเพราะไม่คุ้นเคยกับเส้นทางและสถานที่แถวนี้มาก่อน ถ้าผ่านหมู่บ้านใดถ้ามีวัดท่านก็จะขออาศัยพักที่วัดของหมู่บ้านนั้น ถ้าหมู่บ้านใดไม่มีวัดพอที่จะอาศัยพักได้ ท่านก็จะนอนพักอยู่ในป่าใกล้หมู่บ้านเพื่ออาศัยบิณฑบาต..

    ท่านเดินหลงทางไปถึงเขตบึงกาฬ ท่านได้พบกับพระที่ออกจากวัดสามผงมาเที่ยววิเวก พระภิกษุท่านนี้บอกให้ท่านไปทางอำเภอบ้านแพง เพราะเส้นทางนี้จะตัดตรงไปที่เขตอำเภอศรีสงคราม หลวงปู่ชอบท่านออกจากบึงกาฬมาที่อำเภอบ้านแพงมาพักภาวนาอยู่ที่ภูลังกา ออกจากบ้านแพงท่านก็เดินตัดเข้าเขตอำเภอศรีสงคราม เมื่อท่านรู้ว่าเข้ามาถึงเขตอำเภอศรีสงครามแล้วใจของท่านมีอาการกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเมื่อรู้ว่าตัวเองเดินเข้าไปใกล้สถานที่ที่องค์ท่านหลวงปู่มั่นพักอยู่ ท่านยิ่งเกิดความประหม่า และความกลัวขึ้นมาในใจของตนเอง..

    ด้วยเกรงว่าหลวงปู่มั่นจะไม่รับท่านเป็นลูกศิษย์ เกรงว่าหลวงปู่มั่นจะไม่ให้ท่านอยู่ปฏิบัติในสำนักกับองค์ท่าน เพราะกิตติศัพท์ที่ขึ้นชื่อขององค์ท่านหลวงปู่มั่นคือ ท่านจะดุกับพระเณรเถรชีเป็นอย่างมาก จนท่านตั้งใจว่า " ตอนนั้นถ้าท่านพระอาจารย์มั่นไม่รับเราเป็นลูกศิษย์ เราก็จะกลับมาสึกที่อุดร เราถึงขั้นเอาชีวิตบวชของตนมาฝากเป็นฝากตายกับท่าน เราจะอยู่ได้ไปเป็นในพระศาสนา หรือจะได้สึกนั้น ทุกๆอย่างขึ้นอยู่กับคำประกาศิตของท่านอาจารย์มั่นแต่เพียงผู้เดียว "..

    ตอนนั้นท่านยอมหมดทุกอย่าง เพราะท่านมั่นใจว่าพระอาจารย์มั่นเท่านั้นที่จะเป็นผู้ที่ชี้แนะหนทางพระนิพพานให้กับท่านได้ ท่านมีความมั่นใจในองค์ท่านหลวงปู่มั่นเป็นอย่างมากโดยไม่คิดเปลี่ยนใจเป็นอย่างอื่นเลย..

    หลวงปู่ชอบท่านเดินทางมาถึงเสนาสนะป่าบ้านสามผงประมาณบ่ายแก่ๆ ท่านหยุดอยู่ใกล้ทางเข้าเสนาสนะป่าบ้านสามผงชั่วขณะเพื่อทำใจในเวลาที่เข้าหาท่านพระอาจารย์มั่น ตอนที่ท่านเดินเข้าไปในเสนาสนะป่าบ้านสามผงครั้งแรกนั้น สถานที่แห่งนี้เงียบสงบวังเวงมาก ท่านไม่ได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกันเลย ทั้งๆสถานที่แห่งนี้มีพระเณรอยู่รวมกันมากมายหลายองค์ จนท่านเกิดวังเวงขึ้นมาในใจ พอท่านเดินเข้าไปในเสนาสนะป่าบ้านสามผง ท่านได้พบกับพระหนุ่มรูปหนึ่งที่เดินเข้ามาทักทาย และสอบถามท่าน..

    ท่านถามพระรูปหนุ่มรูปนี้ว่า “ ขอโอกาสขอรับ ท่านอาจารย์มั่นท่านพักอยู่ที่นี่บ่ ” พระรูปนี้ตอบท่านว่า “ ท่านอาจารย์ใหญ่พักอยู่ที่กุฏิสิมน้ำขอรับ ” พระรูปนี้จะเข้ามารับเอาบริขารจากท่านเพื่อแสดงออกถึงน้ำใจ และแสดงออกถึงอาคันตุกะวัตร คือวัตรปฏิบัติต่อผู้มาเยือนอันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพระป่ากรรมฐาน แต่ท่านไม่ให้พระรูปนี้ถือบริขารให้ ท่านบอกว่าท่านจะถือบริขารเข้าไปหาท่านพระอาจารย์มั่นเอง สหธรรมิกท่านนี้จึงเดินนำทางพาท่านไปยังที่พักของท่านพระอาจารย์มั่น..

    ผู้เขียนเรียนถามองค์ท่านว่า หลวงปู่จำได้ไหมว่าพระองค์ที่หลวงปู่พบที่บ้านสามผง และได้พาหลวงปู่เข้าไปกราบหลวงปู่มั่นนั้นท่านเป็นใคร ชื่ออะไร องค์ท่านหลวงปู่ชอบตอบว่า เราจำพระองค์นี้ได้ดีเราไม่เคยลืมชื่อของท่านเลย พระที่พาเราเข้าไปหาพ่อแม่ครูจารย์มั่นนั้นท่านชื่อ ครูบาเทสก์(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)..

    ตอนที่หลวงปู่ชอบท่านเข้าไปกราบองค์ท่านหลวงปู่มั่นที่เสนาสนะป่าบ้านสามผงนั้น หลวงปู่มั่นท่านพักอยู่ที่กุฏิสิมน้ำ เป็นโบสถ์ไม้อยู่กลางน้ำ หน้าที่พักของหลวงปู่มั่นจะมีบ่อน้ำ ซึ่งน้ำบ่อแห่งนี้จะใช้เป็นที่สรงน้ำประจำขององค์ท่านหลวงปู่มั่นในตอนนั้น..

    (ปี ๒๕๓๖ หลวงปู่ชอบท่านพาผู้เขียนไปดูสถานที่แห่งนี้ สิมน้ำที่ท่านกล่าวถึงตอนผู้เขียนไปเห็นอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก มีเสาไม้เพียงสี่ต้นปักโด่เด่อยู่ในน้ำแก่งสงคราม ไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้เลย สิมน้ำและบ่อน้ำที่ว่านี้จะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับซุ้มประตูทางเข้าวัดป่าบ้านสามผงในปัจจุบัน )..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ฟ้าผ่าแล้ง

    [​IMG]


    พอหลวงปู่ชอบท่านเข้ามาถึงที่พักขององค์ท่านหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านเห็นหลวงปู่มั่นนั่งอยู่ในที่พัก ท่านวางบริขารลงเพื่อที่จะจัดแจงห่มผ้าจีวรเฉวียงบ่าเข้าไปกราบท่านพระอาจารย์มั่น แต่ท่านยังไม่ทันที่จะห่มผ้าจีวรเสร็จเรียบร้อยดีเลย องค์ท่านหลวงปู่มั่นก็ตวาดเสียงดังดุใส่ท่านทันที โดยไม่มีเค้าลางให้ท่านทราบมาก่อนล่วงหน้า ถ้าเปรียบเป็นฝน ก็เป็นฝนที่ตกลงมาแบบไม่มีเค้าครึ้มเมฆดำ จนท่านเองตกใจงุนงงที่จู่ๆท่านก็โดนพระอาจารย์มั่นดุด่าว่ากล่าว และไล่ให้ท่านออกไปจากสำนักบ้านสามผง..

    หลวงปู่ชอบ “ เรานะจำได้บ่เคยลืม ท่านอาจารย์ใหญ่ว่าให้เราว่า ออกไปเดี๋ยวนี้พระผีบ้า ท่านจะเข้ามาทำอะไรที่นี่ ครูบาอาจารย์ท่านบ่มีหรือถึงได้ดั้นด้นเดินทางมาหาเราถึงบ้านสามผง พระเคาขาดแบบนี้(พระที่ไม่อยู่ในโอวาทของครูบาอาจารย์)เราไม่รับเอาไว้หรอก กลับไปเดี๋ยวนี้อย่ามาอยู่กับเรา ท่านมาทางไหนก็ให้ท่านกลับไปทางนั้นไม่ต้องมากราบเราดอก ออกไปเดี๋ยวนี้ ไป๊ ”..

    “ ตอนนั้นเราเกิดอาการประหม่า และกลัวท่านอาจารย์มั่นมาก เรากลัวจนพูดอะไรไม่ออกบอกอะไรก็ไม่ถูก มันสั่นไปหมดทั้งตัวทั้งใจ เสียงของท่านอาจารย์ใหญ่มั่นมีอำนาจมาก เสียงท่านดังกังวานชัดถ้อยชัดคำ เราเองตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าตนเองไปทำความผิดอะไรมาท่านถึงได้ขับไล่เราอย่างดุดันแบบนี้ เปรียบตัวเองตอนนั้นเหมือนถูกฟ้าผ่าแล้งลงตรงใจ ”..

    “ เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีในตอนนั้น ได้แต่ก้มลงกราบองค์ท่าน แหงนหน้าขึ้นมาสบตากับท่าน อยากจะเห็นหน้าค่าตาขององค์ท่านในขณะนั้น พอเห็นสายตาของท่านใจเราก็สะดุ้ง บอกไม่ถูกเลยในตอนนั้น เกิดเกรงกลัวท่านอย่างจับจิตจับใจ ”..

    แววตาขององค์ท่านหลวงปู่มั่นในตอนนั้น หลวงปู่ชอบท่านบอกว่าไม่ต่างอะไรกับแววตาของเสือที่จ้องเหยื่อให้จังงัง แต่แตกต่างกันตรงที่แววตาเสือเป็นแววตาของเพชฌฆาตนักฆ่า แต่แววตาของหลวงปู่มั่นนั้นซ่อนความเมตตาเอาไว้ลึกๆ จนท่านสามารถสัมผัสกระแสเมตตาขององค์ท่านหลวงปู่มั่นได้ด้วยจิตของท่าน..

    เมื่อหลวงปู่มั่นไม่ให้ท่านอยู่ร่วมสำนัก ท่านจึงกราบลาองค์ท่านหลวงปู่มั่นออกจากเสนาสนะป่าบ้านสามผงมาเดินทางมาพักอยู่ที่ป่าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำศรีสงครามมากเท่าไรนัก สถานที่แห่งนี้จะอยู่ห่างจากบ้านสามผงประมาณสี่-ห้ากิโลเมตร ท่านพักค้างอยู่ที่นี่หนึ่งคืน..

    ท่านนึกรำพึงถึงวาสนาของตนเอง ตอนนั้นท่านเกิดรู้สึกน้อยใจในวาสนาตนเอง ท่านว่า เราอุตส่าห์เดินทางรอนแรมผ่านป่าผ่านเขาเพื่อมาหาครูบาอาจารย์ นอนค้างแรมอยู่ในป่าในเขาก็หลายคืน ด้วยใจที่มุ่งหวังเพื่อจะมาขอฝากฝังชีวิตบวชของตนเองไว้กับท่าน เพื่อให้ท่านได้ช่วยอบรมบ่มนิสัยชี้แนะแนวทางการปฏิบัติให้กับตนเอง แต่ท่านกับไม่ให้เราอยู่ร่วมสำนักกับท่าน..

    ท่านว่า พอท่านนึกถึงเรื่องนี้แล้วท่านไม่ทราบว่าน้ำตาตนเองเอ่อออกมาตั้งแต่เมื่อไร ได้แต่บอกกับตนเองว่า เมื่อเราอยู่ปฏิบัติร่วมสำนักกับท่านพระอาจารย์มั่นไม่ได้ เราก็จะขอปฏิบัติทำความเพียรอยู่ใกล้ๆกับท่านก็พอ แม้เพียงแค่ชั่วข้ามคืนเราก็พอใจแล้ว คืนนั้นท่านทำความเพียรเดินจงกรมนั่งภาวนาเพื่อน้อมถวายแด่องค์ท่านหลวงปู่มั่นที่ป่าแห่งนี้จนดึกดื่นเลยเที่ยงคืนแล้วท่านจึงพักผ่อน..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    หลวงปู่มั่นให้พระเณรมาตาม

    [​IMG]


    เช้าวันรุ่งขึ้นหลวงปู่ชอบท่านออกไปบิณฑบาตกับชาวไร่ที่เขาพักอยู่ใกล้ๆกับป่าที่ท่านพัก หลังจากฉันอาหารเสร็จแล้วท่านก็จัดบาตรบริขารเพื่อที่จะเดินทางกลับมายังบ้านหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ขณะที่ท่านกำลังจัดเตรียมบริขารอยู่นั้น ท่านเห็นพระและสามเณรร้องเรียกหาท่าน ท่านจำได้ว่าพระที่มาเรียกท่านนั้นเป็นพระองค์ที่พาท่านเข้าไปกราบหลวงปู่มั่นเมื่อวันวาน..

    พระรูปนี้พูดกับท่านว่า " ครูบา ท่านอาจารย์ใหญ่บอกให้ผมรีบมาตามครูบาให้กลับไปพบท่านเดี๋ยวนี้ ท่านบอกผมกับสามเณรให้มาตามครูบาที่ป่าแก่งสงคราม ดีนะที่ผมกับสามเณรสิมมาพบท่านอยู่ที่นี่เสียก่อน ถ้าไม่พบครูบาที่นี่แล้ว ผมก็ไม่รู้จะไปตามหาท่านได้ที่ไหน ท่านอาจารย์ใหญ่สั่งกำชับมาว่าต้องตามหาท่านให้พบ และให้พาท่านกลับไปหาพ่อแม่ครูอาจารย์ให้ได้ "..

    พอหลวงปู่ชอบท่านได้ยินว่าองค์ท่านหลวงปู่มั่นสั่งให้ท่านกลับไปพบเช่นนี้ ท่านขนลุกซู่ และเกิดอัศจรรย์ในองค์ท่านหลวงปู่มั่นเป็นอย่างมาก ท่านรีบจัดบริขารของตนเองให้เสร็จ และเดินตามพระเณรเพื่อกลับไปพบกับองค์ท่านหลวงปู่มั่นอีกครั้ง..

    ระหว่างทางที่ท่านกับพระรูปนี้และสามเณรเดินมาด้วยกัน ท่านเรียนถามชื่อพระรูปนี้ว่า " ขอโอกาสท่านครูบา ท่านครูบามีชื่อว่าอีหยังข้าน้อย(ท่านมีชื่อว่าอะไรขอรับ) พระรูปนี้ตอบท่านว่า " ผมชื่อ พระเทสก์ เทสรังสี " (พระคุณเจ้าหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย) ท่านครูบาเทสก์ถามชื่อของหลวงปู่กลับว่า " ท่านครูบามีชื่อว่าอีหยังข้าน้อย " ท่านตอบว่า " ข้าน้อยชื่อว่า พระชอบ ฐานสโม "..

    หลวงปู่ท่านถามชื่อสามเณรที่มากับท่านครูบาเทสก์ว่า " สามเณรมีชื่อว่าอะไร " สามเณรองค์นี้ตอบท่านว่า " ข้าน้อยชื่อว่า สามเณรสิม (วงศ์เข็มมา)(พระคุณเจ้าหลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาป่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่)..

    หมายเหตุ.ครูบา ทางอีสานใช้เรียกนำหน้าชื่อพระที่ท่านยังมีอายุพรรษายังน้อย

    ( บอกเล่าท้ายตอน ) ตอนหลวงปู่ชอบท่านเล่าเหตุการณ์ตอนที่องค์ท่านหลวงปู่มั่นให้พระเณรมาตามท่านกลับไปพบองค์อีกครั้งนั้น หลวงปู่ท่านพูดถึงตอนที่ท่านถามชื่อหลวงปู่เทสก์ เทสรังษี และ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ครั้งแรกนั้น ส่วนตัวผู้เขียนถึงกับตื่นเต้นในการพบรู้จักกันของทั้งสามองค์ท่านอย่างเป็นทางการ

    เหมือนกับหลวงปู่ชอบท่านย้อนอดีตที่มาของการรู้จักกันครั้งแรกของท่านกับหมู่คณะสหธรรมิกให้ฟัง ทีแรกตอนนี้ผู้เขียนกะว่าจะไม่นำลงในเฟสชีวประวัติขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วเรื่องนี้ควรจะนำลงไว้ให้ท่านผู้สนใจใคร่รู้ได้ศึกษาความเป็นมาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งสามองค์ท่าน เพราะที่มาของความสัมพันธ์ครูบาอาจารย์ทั้งสามท่านผู้เขียนก็ไม่เคยปรากฏเห็นว่ามีการเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องนี้มาก่อน จึงนำลงเพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ทราบถึงที่มาของครูบาอาจารย์ทั้งสามองค์ท่านเพื่อเป็นวิทยาทาน..


    https://www.facebook.com/pages/หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม/451703388208111
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต " บรรลุธรรมธาตุ "

    [​IMG]


    หลวงปู่ชอบท่านพักภาวนาอยู่กับองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ ถ้ำดอกคำ บ้านสหกรณ์ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่..

    มีเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญ ถึงเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องของท่านโดยตรง แต่หลวงปู่ชอบท่านเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์วันองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บรรลุ “ ธรรมธาตุ ” สำเร็จมรรคผลเป็น “ พระอรหันต์ ” ในพระพุทธศาสนา..

    คืนนั้นเวลาประมาณตีสามกว่า หลวงปู่ชอบท่านนั่งภาวนาอยู่ที่พักของท่าน จิตท่านในเวลานั้นสว่างไสวใสงามมาก แต่แล้วจู่ๆความสว่างไสวของจิตเกิดดับวูบลงไปอย่างกะทันหัน พร้อมกับมีเสียงกึกก้องกัมปนาทสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วขุนเขา..

    ท่านเปรียบเทียบว่าเสียงนี้ไม่ต่างอะไรกับระเบิดปรมาณูมาระเบิดอยู่ข้างๆตัวเรา จนท่านเกิดอาการสั่นไหวในจิตคล้ายกับผืนแผ่นพสุธาจะแตกสลายกลายเป็นจุล..

    อาการเหล่านี้เกิดขึ้นภายในจิตของท่านเท่านั้น แต่สิ่งต่างๆที่อยู่ภายนอกก็เป็นปรกติทุกอย่าง ตั้งแต่ท่านภาวนามาก็ไม่เคยประสบพบเจอกับอาการแบบนี้ของจิต ท่านจึงพิจารณาดูภายในว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิตของตน พิจารณาดูจิตก็ไม่เห็นผิดปรกติตรงไหน..

    ท่านจึงพิจารณาดูภายนอกว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น พอดึงจิตออกมาดูข้างนอก จิตท่านก็พุ่งตรงไปที่องค์ท่านหลวงปู่มั่นทันที..

    ท่านเห็นเทวดาพากันมาห้อมล้อมองค์ท่านหลวงปู่มั่นจำนวนมากเทวดาพากันมาจากทุกสวรรค์ชั้นภูมิ จนเต็มพื้นดินแผ่นฟ้านภากาศ ครั้งนั้นท่านว่าเทวดามาหาองค์ท่านหลวงปู่มั่นมากถึงสิบโกฏิ(หนึ่งโกฏิเท่ากับสิบล้าน) รัศมีบารมีเทวดาเปล่งประกายเจิดจ้าจนทำให้ทั่วบริเวณถ้ำดอกคำสว่างไสวด้วยรัศมีของเทพเจ้าเหล่าเทวดา..

    แต่รัศมีของเทวดาทั้งหลายยังไม่เท่ากับรัศมีธรรมขององค์ท่านหลวงปู่มั่น รัศมีธรรมขององค์ท่านสว่างไสวกว่ารัศมีเทวดามากมายจนเกินประมาณ..

    หลังจากชื่นชมรัศมีบารมีธรรมขององค์ท่านหลวงปู่มั่นแล้วท่านก็ถอนจิตออกมา ท่านรำพึงในใจว่า “ เหตุการณ์นี้ต้องสำคัญกับท่านอาจารย์ใหญ่อย่างแน่นอน ”..

    ข้ามอีกวัน เวลาประมาณสี่โมงเย็น หลวงปู่ชอบท่านเข้าไปเตรียมน้ำสำหรับสรงองค์ท่านหลวงปู่มั่น ขณะที่ท่านผลัดผ้าให้กับองค์ท่านหลวงปู่มั่นนั้น หลวงปู่มั่นถามท่านว่า ท่านชอบตอนนี้การภาวนาของท่านเป็นอย่างไรบ้าง..

    ท่านกราบเรียนองค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า การภาวนาของข้าน้อยตอนนี้เป็นปรกติดีขอรับ เพียงแต่เมื่อคืนวานมีเหตุการณ์หนึ่งทำให้จิตของข้าน้อยดับวูบลงไป มีเสียงดังกัมปนาทเหมือนระเบิดขนาดใหญ่มาแตกอยู่ข้างๆ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ข้าน้อยก็ไม่เคยเป็นมาก่อนในขณะกำลังภาวนา..

    องค์ท่านหลวงปู่มั่นถามว่า เรื่องนี้ท่านพิจารณาเห็นเป็นเช่นไร..

    ท่านตอบว่า ข้าน้อยพิจารณาดูภายในจิตก็ไม่เห็นอะไรผิดปรกติ พอถอนจิตออกมาดูภายนอก เห็นพ่อแม่ครูอาจารย์มีรัศมีสว่างไสวสดใสงดงามมาก รัศมีของพ่อแม่ครูอาจารย์สว่างไสวกว่าทุกครั้งที่ข้าน้อยเคยเห็นมา มีเทวดาจากทุกชั้นภูมิพากันมาหาพ่อแม่ครูอาจารย์มากที่สุดเท่าที่ข้าน้อยเคยพบเห็น แต่ข้าน้อยไม่ทราบว่าที่เทพเจ้าเหล่าเทวดาพากันมาหาพ่อแม่ครูอาจารย์จำนวนมากถึงขนาดนี้เพราะเหตุจากอะไร..

    องค์ท่านหลวงปู่มั่นพูดขึ้นมาว่า ที่ท่านชอบเห็นเทวดามาหาเราจำนวนมากนั้น พวกเทพเทวดาเขาพากันมาร่วมอนุโมทนาที่เรา “ บรรลุธรรมธาตุ ” พ้นทุกข์แล้ว จากนี้ต่อไปการเกิดของเราจะไม่มีอีกแล้ว ทุกอย่างของเรามันขาดสะบั้นลงไปหมดแล้ว พระอรหันต์ท่านสิ้นกิเลสเช่นไร เราก็สิ้นกิเลสแล้วเช่นนั้น..

    เสียงดังเหมือนเสียงระเบิดที่ท่านได้ยินนั้น เป็นเสียงอนุโมทนาของเทพเจ้าเหล่าเทวดา เสียงอนุโมทนาของเทวดาเป็นเสียงเทวะฤทธิ์ไปกระทบกับจิตของท่านในขณะนั้นพอดี จึงเป็นเหตุทำให้จิตของท่านสะเทือนจนถอนออกจากสมาธิอย่างกะทันหัน..

    สิ้นคำพูดที่องค์ท่านหลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบท่านบอก “ เราถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เราเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องราวแบบนี้ คำว่า “ ธรรมธาตุ ” ตั้งแต่เราเกิดมาพึ่งจะได้ยินคำนี้ในวันนั้นเอง จนเราเกิดปีติอย่างแรงกล้าน้ำตาไหลพรากออกมาอย่างไม่รู้ตัว”..

    ท่านว่า ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยคำใดออกมาเพื่อให้สมกับฐานะธรรมของพ่อแม่ครูจารย์มั่น เรากราบลงแทบเท้าพ่อแม่ครูจารย์มั่นโดยห้ามการกระทำของตนเองไว้ไม่อยู่ ก้มมองดูเท้าของพ่อแม่ครูจารย์มั่นแล้วร้องไห้ออกมาเพราะตื้นตันใจที่องค์ท่าน “ บรรลุธรรมธาตุ ” เป็น “ พระอรหันต์ ” อย่างสมภูมิ..

    หลวงปู่ชอบ “ เราร้องไห้แบบไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของตนเองได้อย่างไรในตอนนั้น มันเป็นนามธรรมเกินที่จะอธิบายให้ทราบได้ ถึงตอนนั้นพ่อแม่ครูจารย์มั่นจะดุด่าอย่างไรเราก็ยอม แต่ท่านก็ไม่ว่าอะไรให้เรา ท่านปล่อยให้เราแสดงความรู้สึกออกมา พอความรู้สึกผ่อนลงแล้วพ่อแม่ครูจารย์จึงว่าให้เรา ฮ่วย..มันเป็นถึงขนาดนี้หรือท่านชอบ ปีตีกระแทกจิตแรงจนบ่อน้ำตาแตกเลยหรือท่าน ”..

    ท่านกราบเรียนองค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า ข้าน้อยตื้นตันใจที่รู้ว่าพ่อแม่ครูอาจารย์จบกิจในพระพุทธศาสนาพ้นทุกข์แล้ว เหลือแต่ข้าน้อยเท่านั้นที่ยังต้องปฏิบัติกิจในพระศาสนาอีกต่อไป ชาตินี้ข้าน้อยขอปรารถนารู้เห็นธรรมเหมือนกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์..

    องค์หลวงปู่มั่นบอกกับท่านว่า ถ้าท่านอยากสำเร็จมรรคผลนิพพานในชาตินี้ ท่านอย่าละความเพียรที่เคยบำเพ็ญมา ท่านอย่าท้อถอยเป็นอันขาด ให้ปฏิบัติตามที่เราอบรมสั่งสอนมา ถ้าท่านทำตามนี้แล้วเรารับรองให้เลยว่า ชาตินี้ท่านจะได้มรรคผลนิพพานสมใจอย่างแน่นอน..
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    " ปรารถนาพ้นทุกข์ในชาตินี้ "

    [​IMG]


    เมื่อหลวงปู่ชอบท่านได้รับกำลังใจจากองค์ท่านหลวงปู่มั่น ท่านตั้งสัจจะต่อองค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า “ ชาตินี้ข้าน้อยขอปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพานเหมือนกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ถึงตายข้าน้อยก็ไม่อาลัยในชีวิต ”..

    ใจท่านตอนนั้นฮึกเหิมห้าวหาญในการปฏิบัติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ท่านจึงเกิดความมั่นใจในตนเองว่า ชาตินี้เราจะต้องสมความปรารถนาอย่างแน่นอน เพราะตอนนั้นหลวงปู่ชอบท่านสำเร็จภูมิธรรมเป็น “ พระสกิทาคามี ” แล้ว ความปรารถนาอยากสำเร็จเป็น “ พระอรหันต์ ” ในชาตินี้ของท่านจึงแรงกล้าเพราะภูมิธรรมชั้น “ พระสกิทาคามี ” เป็นแรงกระตุ้นผลักดัน..

    องค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า “ ให้มันได้อย่างนี้ซิถึงจะได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ของเรา ขอให้ท่านทำตามที่ได้ตั้งสัจจะไว้นี้ อ้ายเฒ่ารับรองให้เลยว่าท่านจะสมปรารถนาอย่างแน่นอน ”..

    จากนั้นองค์ท่านหลวงปู่มั่นบอกท่านว่า “ แต่ละคนมีวาสนาสถานที่แตกต่างกัน วาสนาของเราคือถ้ำดอกคำ วาสนาของท่านอยู่ฟากเมืองเชียงใหม่โน่น ”..

    พอว่าจบองค์ท่านหลวงปู่มั่นชี้มือไปทางเมืองเวียงแหงเชียงดาว หลวงปู่ชอบท่านมองไปในทิศทางที่องค์ท่านหลวงปู่มั่นชี้มือ โดยที่ท่านเองในตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าคือที่ไหนกันแน่..

    แต่ท่านเชื่ออย่างสนิทใจในคำพูดขององค์ท่านหลวงปู่มั่น ทั้งที่ตอนนั้นท่านยังไม่เคยไปเที่ยววิเวกทางเมืองเวียงแหงเชียงดาวมาก่อน คำพูดของพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนั้นท่านว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง หากองค์ท่านพูด หรือทำสิ่งใดลงไปแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ท่านจึงจำคำพูดขององค์ท่านหลวงปู่มั่นไว้ขึ้นใจ..

    คืนนั้นราวสองทุ่มหลวงปู่ชอบท่านเข้าไปนวดเส้นถวายองค์ท่านหลวงปู่มั่น หลังจากนวดถวายองค์ท่านเสร็จแล้วท่านกราบเรียนถามข้อธรรมการปฏิบัติที่ท่านยังสงสัยติดคาอยู่..

    องค์ท่านหลวงปู่มั่นบอกกับท่านว่า “ ในชั้นจากนี้ไปให้ท่านหมุนเข้ามาพิจารณาในกายของตนเองเพียงอย่างเดียว พิจารณาให้เห็นถึงกฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาให้เห็นถึงความเสื่อมไม่สวยงามของกายกาม พิจารณาให้เห็นทุกข์เห็นโทษของมัน พิจารณาจนแตกหักกันไปข้างหนึ่ง เมื่อกายนครกามนครมันแตกพังออกไปได้แล้วประตูพระนิพพานจะเปิดอ้ารอเพียงแต่ท่านจะเดินเข้าไปเท่านั้น ถ้าถึงตรงนี้แล้วท่านไม่ต้องไปถามใครว่าพระนิพพานไปทางไหน ท่านจะรู้ได้ด้วยตัวของท่านตนเอง ”..

    “ การดำเนินสติปัญญาในชั้นนี้หนักหน่วงรุนแรงมาก กำลังกาย กำลังสติ กำลังสมาธิ กำลังปัญญามีอยู่เท่าไหร่ให้ทุ่มใส่ลงไปกับมันให้หมด เพียรเข้าออกในการพิจารณาอยู่อย่างสม่ำเสมอท่านก็จะรู้เห็นขึ้นมาเอง ท่านอย่าท้อถอยในความเพียรนี้เป็นอันขาดนะ เพราะภูมิกิเลสชั้นนี้มันลึกซึ้งแยบยลในกลอุบายมาก "..

    " มันทั้งหยาบทั้งละเอียด มันมีทั้งมืดและสว่างที่จะมาหลอกล่อจิตของเราให้ไขว้เขวไปได้ พอสติปัญญาอ่อนข้อลงเมื่อไหร่ มันจะย้อนกลับมาตีตลบหลังเราได้ทันที ให้ระวังชั้นนี้ไว้ให้มากๆ ขวากหนามดงใหญ่ของกิเลสมันก็คือชั้นนี้แหละ ผู้ปฏิบัติจะพ้นทุกข์ได้หรือไม่ได้มันอยู่ที่ด่านนี้แหละ ”..

    หลังจากองค์ท่านหลวงปู่มั่นแนะนำอุบายธรรมให้กับหลวงปู่ชอบแล้ว องค์ท่านนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า “ ท่านชอบ ท่านเป็นลูกศิษย์องค์หนึ่งที่เรามั่นหมายที่จะฝากพระศาสนาไว้ให้ท่านดูแล ท่านเป็นผู้หนึ่งต่อไปในอนาคตจะเป็นครูบาอาจารย์สืบทอดแทนเรา ทุกอย่างที่ผมสอนท่าน ผมก็ถอดออกมาจากจิตจากใจทั้งหมด เหลือแต่ท่านเท่านั้นที่จะปฏิบัติเอาเอง "..

    " พ่อแม่เลี้ยงลูกมาก็หวังพึ่งพาลูกในยามแก่เฒ่า ครูบาอาจารย์อบรมสั่งสอนลูกศิษย์มาก็หวังพึ่งพาลูกศิษย์สืบหน่อต่อแนวพระศาสนาแทนครูบาอาจารย์ ให้ท่านชอบนำเรื่องนี้ไปพิจารณาดูว่า คำพูดของอ้ายเฒ่านี้หมายถึงอะไร ”..

    จากนั้นองค์ท่านหลวงปู่มั่นก็บอกให้ท่านกลับไปทำความเพียร หลวงปู่ชอบท่านกราบลาองค์ท่านกลับที่พักด้วยความปีติซาบซึ้งในเมตตาที่องค์ท่านหลวงปู่มั่นมีต่อท่าน ท่านกลับมาที่พักเดินจงกรมภาวนาเพื่อถวายเป็นอาจาริยะบูชาธรรมแด่องค์ท่านมั่นด้วยศรัทธาแรงกล้าอย่างที่ท่านไม่เคยเป็นมาก่อน คืนนั้นท่านเดินจงกรมถวายบูชาพระคุณขององค์ท่านหลวงปู่มั่นจนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่..

    ระหว่างพักอยู่ที่ " ถ้ำดอกคำ " กับองค์ท่านหลวงปู่มั่น หลวงปู่ตื้อท่านเล่าเรื่องภายในของท่านให้หลวงปู่ชอบฟังว่า ท่านนิมิตเห็นองค์ท่านหลวงปู่มั่นลอยขึ้นไปบนอากาศแล้วหายลับไป ในนิมิตนั้นหลวงปู่ตื้อท่านตะโกนถามองค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า..

    " พ่อแม่ครูบาอาจารย์จะเหาะไปสวรรค์วิมานชั้นฟ้าไหนขอรับ มีเสียงตอบจากองค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า เราไม่ได้เหาะไปสวรรค์ชั้นวิมานไหนๆ เราไม่ได้เหาะไปพรหมโลกชั้นไหนๆ เราไปในสถานที่สัตว์โลกทั้งหลายไปไม่ถึง "

    ในนิมิตหลวงปู่ตื้อท่านตะโกนบอก " พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ข้าน้อยขอไปด้วย เสียงขององค์ท่านหลวงปู่มั่นบอกท่านว่า ถ้าท่านอยากจะไปด้วยกับเรา ท่านต้องทำให้ได้เหมือนกับเราก่อน "..

    หลวงปู่ตื้อเล่าเรื่องนิมิตของท่านให้หลวงปู่ชอบฟังเพื่อปรึกษา หลวงปู่ชอบบอกท่านว่า " เรื่องทุกอย่างที่อาจารย์ตื้อรู้เห็นมามันก็บอกเหตุผลในตัวของมันอยู่แล้ว อาจารย์ใหญ่มั่นท่านพ้นทุกข์แล้ว เหลือแต่พวกเรานี้แหละที่ยังต้องทำกิจภายในจิตภายในใจของตนเองต่อไป "..

    หลวงปู่ตื้อท่านเข้าใจในความหมายนี้ทันที ท่านถามว่าอาจารย์ใหญ่สำเร็จกิจพระศาสนาอยู่ที่ไหน หลวงปู่ชอบบอกท่านว่าอาจารย์ใหญ่ท่านสำเร็จกิจพระศาสนาอยู่ที่นี่แหละ..

    หลวงปู่ตื้อท่านถึงกับเผลอตัวอุทานเสียงดังออกมาว่า “ อัศจรรย์ใจหลายเด้ อัศจรรย์ใจหลายเด้ ”..

    องค์ท่านหลวงปู่มั่นพักภาวนาอยู่ที่ถ้ำดอกคำเกือบสองเดือน พอย่างเข้าเดือนเจ็ด(ปีพุทธศักราช ๒๔๗๘) องค์ท่านจึงพาลูกศิษย์กลับมาที่สำนักสงฆ์บ้านป่าเมี่ยงแม่สาย หลวงปู่ชอบท่านพักอยู่ที่บ้านป่าเมี่ยงแม่สายกับหลวงปู่มั่นระยะหนึ่ง พอมีพระเณรเข้ามาพักปฏิบัติกับองค์ท่านหลวงปู่มั่นเพิ่มมากขึ้น ท่านจึงกราบลาหลวงปู่มั่นไปจำพรรษาทีอื่น..

    หลวงปู่ชอบท่านกราบลาองค์ท่านหลวงปู่มั่นเดินทางออกจากบ้านป่าเมี่ยงแม่สายเที่ยววิเวกมาทางเขตอำเภอแม่แตง ท่านมาพบกับ “ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ” นักบุญแห่งล้านนาที่แม่แตง ครูบาเจ้าศรีวิชัยพาพระเณรและศรัทธาญาติโยมมาบูรณะ “ พระธาตุม่อนขาว ”..

    หลวงปู่ชอบท่านพักภาวนาอยู่เชิงดอย บ้านตีนธาตุ ใกล้กับ พระธาตุม่อนขาว ท่านจึงเข้าไปกราบ “ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ” ที่พระธาตุม่อนขาว บ้านตีนธาตุ..

    หลวงปู่ชอบท่านพักอยู่ที่เชิงดอยบ้านตีนธาตุประมาณสามสี่วัน จากนั้นท่านกราบลาครูบาเจ้าศรีวิชัยเที่ยววิเวกมาทางอำเภอแม่ริมท่านเข้ามาพักที่เสนาสนะป่า บ้านแม่สะลวง ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่..

    ท่านเห็นว่าสถานที่แห่งนี้เงียบสงบเหมาะแก่การพักจำพรรษา สถานที่แห่งนี้นอกจากท่านแล้วไม่มีพระเณรองค์ใดมาร่วมจำพรรษา หลวงปู่ชอบท่านจึงอธิฐานจำพรรษาที่ ๑๑ ของท่านในปีพุทธศักราช ๒๔๗๘ ที่ เสนาสนะป่าบ้านแม่สะลวง..

    หมายเหตุ.. พระธาตุม่อนขาว บ้านตีนธาตุ ตำบลแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จะอยู่บนดอยทางฝั่งซ้ายมือก่อนถึงที่ทำการชลประทานอำเภอแม่แตง ก่อนถึงวัดป่าหมู่ใหม่ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ประมาณสองกิโลเมตร..
     
  19. คิงคอง99

    คิงคอง99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    3,277
    ค่าพลัง:
    +23,769
    คุณ vanco ทำไมไม่ลงประวัติ พระเดชพระคุณองค์ปู่ชอบ ต่อล่ะครับเพิ่งได้อ่านครับ อยากอ่านต่อครับ*-*
     

แชร์หน้านี้

Loading...