ชีวิตควรเป็นอยู่อย่างไร หลวงพ่อแดง

หลวงพ่อแดง อภินันโท ท่านไม่สบาย ปวดท้องมานานหลายปีแล้ว ช่วงที่เป็นใหม่ๆ ท่านก็รักษาโดยการฉันยาต้ม หมอสมุนไพรที่ไหนว่าดี ท่านก็ไปหามาต้ม อาการก็ได้แต่พอทุเลา แต่ไม่หาย จากนั้นท่านก็เลิกฉันยาต้ม คือ ไม่ฉันยาใดๆเลย อาการปวดนั้นยังคงอยู่ ท่านก็ได้แต่กำหนดรู้ ท่านมีความทุกข์กับขันธมารมาก บ่อยครั้งที่เปรยๆกับ พระเณรที่คุ้นเคยว่า “เมื่อไรหนอ จะตายๆไปซะที” เวลาที่ท่านทำกิจอย่างใดอย่างหนึ่งก็ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวย
ท่านจึงลองกลับมารักษาโรคอีกครั้ง คราวนี้ท่านไปหาหมอที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง
ครั้งที่หนึ่ง คุณหมอบอกท่านว่าเป็นโรคกระเพาะ หมอจึงสั่งจ่ายยารักษาโรคกระเพาะมาให้ท่านฉันเยอะมาก
ครั้งที่สอง ( เมื่อยาหมดท่านก็ไปรับยา ) ไปเจอหมอคนใหม่ หมอการตรวจอาการของท่าน แล้วบอกว่าท่านเป็นกรดไหลย้อน หมอก็สั่งจ่ายยารักษากรดไหลย้อนมาให้ท่านฉันเยอะมาก
ครั้งที่สาม ( ยาหมดท่านก็ไปรับยาอีก ) ) ไปเจอหมอคนใหม่ หมอการตรวจอาการของท่าน แล้วบอกว่าท่านเป็นโรคไต หมอก็สั่งจ่ายยารักษาโรคไตมาให้ท่านฉันเยอะมาก
หลวงพ่อท่านก็สงสัยว่า จริงๆแล้วท่านเป็นโรคอะไรแน่ ฉันยาตามที่หมอบอกแล้วก็ไม่หาย ท่านก็เลิกฉันยา ท่านพยายามใช้ธรรมโอสถเข้ารักษาอีก ปกติท่านก็ใช้ธรรมโอสถรักษาอยู่แล้ว บางที่เห็นท่านนั่งได้นานๆ ก็คิดว่า ท่านคงข้ามเวทนาไปแล้วกระมัง คงเข้าสู่สมาธิเพื่อดับเวทนาจากการปวดท้องกระมัง เมื่อมีโอกาสสนทนาธรรมกับท่านถึงเรื่องการเข้าสมาธิของท่าน ท่านบอกว่า “ ผมเข้าสมาธิไม่ได้หรอกท่าน เวทนามันกล้าเหลือเกิน ผมข้ามเวทนาไม่ได้ ได้แต่นั่งดูมัน กำหนดดูมันนั้นแหละ” พระสงฆ์หลายรูปที่รู้เรื่องของท่าน ก็บอกให้ท่านไปรักษาโรคภัยให้หายขาดเถิด ถ้าร่างกายแข็งแรง การปฏิบัติธรรมก็ไปได้เร็ว แล้วหลวงพี่อีกรูปก็กล่าวว่า ขึ้นว่า “ โรคบางอย่าง รักษาก็หาย ไม่รักษาก็ไม่หาย, โรคบางอย่าง ไม่รักษาก็หาย รักษาก็หาย, โรคบางออย่างรักษาก็ไม่หาย ไม่รักษาก็ไม่หาย” มีหลายรูปหลายท่าน แนะนำหลวงพ่อให้เข้ากรุงเทพ ไปโรงพยาบาลสงฆ์ ข้าพเจ้าก็เห็นดีด้วย จะได้รู้ว่า จริงๆแล้วหลวงพ่อเป็นโรคอะไร รักษาหายไหม? ท่านก็ปฏิเสธ ด้วยความที่ว่าเป็นพระป่า พระบ้านนอก ไม่คุ้นเคยกับกรุงเทพ ไม่ชอบความวุ่นวาย และต้องใช้จ่ายปัจจัยอีกเยอะกระมัง พระหลายๆรูปก็บอกท่านว่า อย่ากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเลย เพราะจะมีญาติโยม มาทำบุญกับพระอาพาธ ที่โรงพยาบาลสงฆ์ อยู่เนืองๆ หลวงพ่อบอกว่า เราจะไปหวังน้ำบ่อหน้าไม่ได้หรอก ข้าพเจ้าก็บอกท่านว่า ไปเถอะหลวงพ่อ ปัจจัยแค่ค่ารถไปกลับคงพอหาได้อยู่หรอก ไปตรวจดูให้รู้ว่าเป็นอะไร ส่วนจะรักษาหรือไม่ ค่อยว่ากันอีกที หลวงพ่อถามว่าจะไปอย่างไรล่ะ ข้าพเจ้าบอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา เราก็สัตตาหะ ไปก็ได้ หลวงพ่อแดง ท่านจึงเห็นด้วยและขอให้ข้าพเจ้าเดินทางไปเป็นเพื่อน ข้าพเจ้าก็ตอบรับด้วยความยินดี ส่วนการเดินทาง คิดกันเอาไว้ว่า วันที่ 5 กันยายน 2559 นี้ เพราะเป็นวันจันทร์ รถราคงไม่ติดมาก คุณหมอก็คงเข้าเวรเยอะ จะได้สะดวก
ท่านใดที่ต้องการร่วมบุญกับหลวงพ่อแดง ขอเชิญร่วมได้ที่........
ธนาคาร กสิกรไทย
ประเภท ออมทรัพย์
สำนักงานย่อย ถนนเดชอุดม
ชื่อ พระอาจารย์ อุดร
เลขที่ 007 – 3 – 36670 - 4

 

---

 

--