ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับบทสวดจักรพรรดิและบทสัพเพ ของวัดสะแก

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 19 กันยายน 2013.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับบทสวดจักรพรรดิและบทสัพเพ ของวัดสะแก
    [​IMG]
    พอดีเห็นทางเว็บวัดสะแกเลยเอามาฝากมาครับ
    ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับบทสวดจักรพรรดิและบทสัพเพ

    เนื่องจากมีผู้ศรัทธาหลวงปู่ดู่ที่เพิ่งรู้จักท่านและรับทราบแนวทางการปฏิบัติจากภายนอก มาซักถามที่วัดสะแกเกี่ยวกับบทสวดจักรพรรดิและบทสัพเพฯ อยู่เสมอ ๆ ทางวัดสะแกจึงเห็นควรชี้แจงผ่านเว็บไซต์ของวัดเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้

    1. บทสวดจักรพรรดิ

    เป็นเรื่องจริงที่หลวงปู่ท่านสอนคาถา “นะโม พุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณฯ” แต่ท่านเรียกว่า “บทบูชาพระ” มิได้เรียกว่า “บทสวดจักรพรรดิ” อย่างที่ภายนอกกำลังเผยแพร่อยู่ในปัจจุบัน หลวงปู่เคยเล่าว่าท่านมิได้เป็นผู้ผูกคาถาขึ้นเอง หากแต่จดจำมาเมื่อครั้งเล่าเรียนอยู่ที่วัดประดู่ทรงธรรม
    หลวงปู่ไม่เคยสอนให้สวดคาถาดังกล่าวชนิดส่งเสียงดังในที่สาธารณะ (เช่น ตามวัดหรือสำนักปฏิบัติธรรม) รวมทั้งไม่เคยสอนให้สวดตามกำลังวัน (การสวดตามกำลังวันอาจเป็นกุศโลบายของผู้เผยแพร่ แต่ไม่เคยได้ยินว่าหลวงปู่พาทำ ที่หลวงปู่เน้นมาก ท่านเตือนลูกศิษย์เสมอ ๆ มิให้ส่งเสียงรบกวนคนอื่นที่มุ่งมาหาความสงบที่วัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังปฏิบัติสมาธิภาวนา ท่านว่าเป็นกรรมหนัก การสวด (คาถา) เสียงดัง และสวดหลาย ๆ จบ ควรสวดกันที่บ้านหรือที่ส่วนตัวจะเหมาะควรมากกว่า หากจะสวดที่วัดควรดูความเหมาะสมและก็ไม่ควรรบกวนผู้ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ และไม่ใช่สวดตามกำลังวันเกิด (เว้นแต่การสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นที่ถือเป็นกิจของชาววัดทั้งหลาย ที่ตกลงให้เป็นกิจวัตรประจำวันที่ให้ทำด้วยความพร้อมเพรียงกัน เพราะมีเนื้อหาธรรมที่ต้องพิจารณาอยู่เนือง ๆ เช่น บทพิจารณาความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นต้น)
    หลวงปู่ไม่เคยพรรณนาถึงอานิสงส์ของบทสวดนี้อย่างที่เผยแพร่กันอย่างพิสดาร หลวงปู่มีแต่สอนว่า “สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน” สวดมนต์แต่น้อย ภาวนาให้มาก ๆ สวดมนต์เป็นส่วนเสริม การบำเพ็ญจิตตภาวนาเป็นเรื่องหลัก และที่สำคัญ หลวงปู่มิได้สอนให้สวดอย่างลัทธิเทวนิยม กล่าวคือสวดอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดลบันดาลความสำเร็จให้ เพราะขัดกับหลักกรรมและหลักความเพียรในทางพระพุทธศาสนา หลวงปู่สอนว่า “ความสำเร็จนั้นมิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง”
    ๒. บทสัพเพฯ

    บท “สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพะลัง อะระหันตานัญจะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส พุทธังอธิษฐามิ ธัมมังอธิษฐามิ สังฆังอธิษฐามิ” หลวงปู่เรียกว่า “บทอาราธนาพระเข้าตัว” มิใช่ “บทแผ่เมตตา” บทนี้ เป็นการอาราธนาคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ มาประดิษฐานที่จิตของเรา เพื่อเป็นอุบายให้เราเกิดความสำรวมระวังในการรักษาใจ (รักษาความเป็นพระภายใน) โดยพยายามมิให้เกิดความโกรธ ความโลภ ความหลง ทั้งในยามหลับตาและลืมตา
    บท “พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักกะวาฬัง สังฆัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ” เป็นบทอธิษฐานแผ่เมตตา กล่าวคือเป็นการกล่าวขอคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่มีอยู่ในอนันตจักรวาล มาเป็นทุนในการเจริญเมตตา ซึ่งก็เป็นการแผ่เมตตาตามปกติ มิใช่การมุ่งปรับภพภูมิให้สัมภเวสีอย่างที่เผยแพร่กัน ซึ่งหากมุ่งเน้นเช่นนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องฝืนกฎแห่งกรรม
    ทางวัดสะแกขออนุโมทนาที่มีหลายหมู่หลายคณะมีศรัทธาช่วยกันเผยแพร่หลวงปู่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งหากได้ช่วยกันทำให้ผู้มาใหม่ได้รู้จักปฏิปทาและคำสอนที่ถูกตรงของหลวงปู่ ก็จะเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง
    ที่มา วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : รวมคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
     
  2. krichthep

    krichthep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +3,965
    ขอสอบถามผู้ตั้งกระทู้
    1. ท่านคิดว่ามีสักกี่ อ.ที่สามารถทำให้คนหันมาสวดมนต์ภาวนา กันเป็นประจำสม่ำเสมอได้
    บ้าง ท่านใดบ้าง
    2. ท่านคิดว่าพุทธศานาในยุดพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จะคงอยู่โดยไม่มีความเสื่อม หรือ
    ถดถอย ไปจนครบ 5,000 ปี หรือไม่
    3. ท่านคิดว่าท่านจะมีวิธีอะไรบ้างในการที่จะดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศานาให้อยู่จนครบ
    5,000 ปีโดยไม่เสื่อมลง

    ขอทราบ จากผู้ด้อยการศึกษาด้านพระธรรมฯ
     
  3. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ท่านจะเรียกมนต์บทนี้ว่าอะไรผมก็จะยังสวดต่อไปด้วยความศรัทธาในตัวหลวงปู่ดู่ครับ หลวงตาม้ามีวิธีใช้บทสัพเพฯ คือ ให้นึกแผ่เมตตาให้กับสรรพสิ่ง แล้วจึงต่อด้วยบทสัพเพฯจึงเข้าใจว่าบทสัพเพฯ เป็นบทแผ่เมตตา ท่านให้แผ่ก่อนแล้วจึงอารธนาพระด้วยบทสัพเพฯ น้อมบารมีพระเ้ข้าตัวแล้วนึกให้บารมีนั้นแผ่ออกไป ทั้งของเราและของพระที่เราน้อมเ้ข้ามาเป็นการฝากกระแสไปกับบารมีของพระครับ น่าจะเป็นการมองต่างมุมครับ อยู่ที่ศรัทธาครับ ยกตัวอย่างที่ใช้นะครับ
    ข้าฯขออารธนาบาีรมีแห่งองค์สมเด็จพระสัมามสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์โดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันมหาจักรพรรดิ์ทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระเจ้าจักรพรรดิ์ พระธรรม พระอริยเจ้าทุกพระองค์ โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บารมีแห่งเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์ทั้งหลายทั้งสามแดนโลกธาตุ มีบารมี หลวงปู่ทวด หลวงตาม้า หลวงปู่ดู่ เป็นที่สุด ขอบารมีหลวงปู่ดู่ ได้โปรดเมตตา น้อมรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่ไปสามแดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วย นรกภูมิเบื้องล่าง มนุษย์ภูมิเบื้องกลาง เทวพรหมโลกเบื้องสูง ให้ทุกรูปทุกนามที่สามารรับกระแสบุญของหลวงปู่ได้ ขอเชิญทุกท่านอนุโมทนาในกุศลผลบุญนี้เทอญ (แผ่เมตตา แผ่บุญ อุทิศบุญ )
    สัพเพพุทธา พลาปัญตาฯ...................... (5จบ)(น้อมรวมบารมีพระเ้ข้าตัวนึกถึงองค์พระมาครอบตัวก็ได้)
    พุทธังอธิษฐามิ ธรรมมังอธิษฐามิ สังฆังอธิษฐามิ (น้อมจิตถึงองค์พระแล้วแผ่ออกไป)
    ของผมต่อด้วย (คาถาพระปัจเจกฯ ของหลวงปู่ฤาษีลิงดำครับ เคยอ่านเจอหากต่อดัวยบทนี้จะสามารถแทงทะลุตลอดได้) ไม่ได้คิดลบหลู่ใครนะครับ เป็นมุมมองของผมเองครับ อนุโมทนา
     
  4. rukmac

    rukmac เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +377
    "การสวดอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดลบันดาลความสำเร็จให้ ขัดกับหลักกรรมและหลักความเพียรในทางพระพุทธศาสนา ความสำเร็จนั้นมิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง" ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2013
  5. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    ผมก็ถามกลับว่า ทำไมท่านต้องคิดว่าพระพุทธศาสนาอยุ่ได้แค่๕๐๐๐ปีในเมื่อพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ตราบใดมีการปฏิบัติ พระอริยะจะไม่ว่างจากโลก สำหรับผมการเผยแพร่ธรรมะ ครูบาอาจารย์แท้ ไม่มีการบิดเบือน ปรุงแต่งเพื่อให้เอาพระธรรมหรือธรรมะครูบาอาจารย์มาขาย นั้นดีที่สุดครับ เป็นการเคารพธรรมและครูบาอาจารย์ครับ
     
  6. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    จริงๆผมก็แค่เอาประกาศของวัดสะแกมาเผยแพร่ ที่สำคัญคือคำสอนที่แท้ของหลวงปู่ดู่ครับที่เราพึงรักษาไว้ ที่จริงผมเองก็สวดอยู่ แต่ทางวัดอยากชี้แจงผมเห็นว่าพลังจิตเปิดกว้างก็นำมาลงให้เท่านั้นเองครับ
     
  7. krichthep

    krichthep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +3,965
    ผมไม่ได้บอกว่าพระพุทธศาสนาจะอยู่ได้แค่ 5,000 ปี นะครับอ่านให้ละเอียด เพราะผมก็เคยได้ยินได้ฟังมาว่า พระพุทธศาสนาในพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จะมีอายุ 5,000 ปี
    แล้วก็จะมีพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป สืบต่อวงศ์ของพระพุทธศานาต่อไป
    จริงๆ ที่ผมจะบอกตามคำที่ได้ยินได้ฟังมาก็คือ เหตุที่พระพุทธศานาในพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันต้องเสื่อมลง เพราะมวลมนุษย์ชาติ จิตใจเสื่อมลง สร้างและเจริญในวัตถุกัน ไม่สนใจคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น
    พอมีใครสั่งสอนก็ว่าไม่ดี (แต่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไร ให้ดีขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นความเสื่อมของพระพุทธศาสนาในที่สุด)
    เลยอยากจะแจ้งว่า ผมไม่อยากให้ท่านเป็นหนึ่งในนั้น
    ครูบาอาจารย์ มีมากมายหลากหลายท่าน หลายสำนัก หลายวัด การนำคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าท่าน มาเผยแพร่ก็ย่อมแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าแต่ละท่านจะใช้แนวทางอย่างไร
    ฉะนั้น ไม่ว่า ถ้าหนึ่งในอาจารย์ที่พลาดพิงถึงนั้นเป็นครูบาอาจารย์ของผม ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ก็ตาม หรือครูบาอื่นๆ ที่ผมเคารพศรัทธา รวมถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หรือแม้แต่การเตรียมรับพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็ตาม ผมไม่อยากให้มีใคร ต้องมาวิจารณ์ เพราะมันจะกลายเป็นสงครามวาทะกันเปล่าๆ (ยกเว้นว่าท่านไม่ได้พุทธบริษัท ไม่เข้าใจคำสังสอนของพระพุทธองค์ คำสั่งของครูบาอาจารย์ต่างๆ )
    ศรัทธาใคร ศรัทธามันดีกว่า
    "เพราะคนดีเขาไม่ตีใคร"
     
  8. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    ผมก็ไม่ได้ว่าหลวงตาม้านี่ครับ นี่เป็นประกาศของทางวัดสะแก วัดประกาศออกมา อย่างไรผมก็ลงตามนั้น เพราะผมเองก็ศรัทธาหลวงปู่ดู่ และไม่เห็นว่ามีท่อนไหนพาดพิงหลวงปู่ดู่ หรือมีท่อนไหนพาดพิงหลวงตาม้าเลย ทางวัดประกาศออกก็เพราะเหตุวัดได้ถูกถามมามาก ทางวัดก้็ถลงความจริงทางวัดบอกว่าหลวงปู่ดู่ท่านสอนแบบนี้ เรียกแบบนี้ มีสักท่อนไหมที่ว่าคำสอนหลวงตาม้าผิดก็ไม่มีไม่ทราบว่ามาดิ้นพล่านๆเดือดร้อนเรื่องอะไร ก่อนอื่นไปศึกษาพุทธพจน์และแก่นคำสอนที่แท้ของหลวงปู่ดู่ก่อนดีไหมครับ คนดีไม่ตีใคร ผมก็ไม่ได้ไปตีใคร ผมลงตามประกาศชี้แจงทางวัด แต่คนที่มาโพสโพสด้วยอารมณ์ มีทั้งโทสะ โมหะ จะเรียกคนดีได้หรือไม่ ศรัทธาหลวงปู่ดู่ แต่ไม่ดำเนินรอยทางตามท่านกลับเที่ยวเอาคำสอนคนดีไม่ตีใครมาอวดอ้างทำเป็นปราชญ์สั่งสอนผู้อื่นด้วยโมหะ ไม่ต้องมาอ้างว่าปรามาสหรอกครับ ผมศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า อ่านคำสอนหลวงปู่ดู่ ผมก็ไม่เคยอ้างเอาพุทธพจน์มาตีใครเหมือนคุณครับ หากคุณว่าสนใจพระพุทธธรรมจริงเหตุใดไม่ลด อกุศลมูลสามอย่างตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนล่ะครับ
     
  9. bestsu

    bestsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +617
    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลของทางวัด
    แต่อ่านโดยรวมแล้วทางวัดบอกเป็นแนวว่า หลวงปู่ดู่ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไรกับคาถานี้ หรือการเผยแพร่คาถานี้ (เพราะบทความได้กล่าวถึงการรบกวนคนนั่งสมาธิ ซึ่งไม่ทราบว่าจะไปนั่งสมาธิตรงที่เขาสวดมนต์ทำไม หรือใครอุตริไปสวดข้างๆหูคนที่กำลังนั่งสมาธิ)
    ดังนั้นผมอยากทราบข้อมูลว่าหลวงปู่ดู่ท่านพูดถึงคาถานี้ไว้อีกหรือเปล่าครับ เช่นกล่าวถึงอานิสงส์คาถา หรือการอุทิศส่วนกุศลเป็นของไร้สาระเพราะเหนือกฎแห่งกรรม
     
  10. krichthep

    krichthep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +3,965
    ผมไม่ได้โพสต์ด้วยโมหะ สักหน่อยนะครับ ผมเป็นคนอารมร์ดีตลอดด้วยบทสวดจักรพรรดิ์ ที่ท่านพูดถึงนี่แหละ ฮิๆๆ
     
  11. krichthep

    krichthep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +3,965
    บทสวดมหาจักรพรรดิ์ เป็นบทสวดบูชาพระพุทธเจ้า และพระอริยฯ และรวมถึงพระบรมสารีริกธาตุด้วยนะครับ ไม่ใช่บทสวดบูชาพระเจ้า นะครับ
     
  12. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    ต้องไปถามทางวัดสะแกแล้วล่ะครับเพราะเขาประกาศ ผมเพียงแค่คัดลอกมา ผมลงลิ้งค์ไปแล้ว ไปต่อว่าทางวัดได้เลยครับถ้าคุณไม่เห็นด้วย
     
  13. rukmac

    rukmac เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +377
    ผมรู้และเข้าใจครับ เพราะก่อนสวดก็ต้องตั้งสัจจะอฐิษฐาน เวลาสวดก็สวดคำแปลไปด้วย ผมก็เชื่อว่าทุกท่านรู้และทำอยู่ และผมก็เข้าใจประเด็นของบทความที่ จขกท.นำมาเผยแพร่ ขออนุโมทนานะครับ สวดมนต์นะดีอยู่แล้วครับ แต่มีสติตอนสวนมนต์ด้วยจะดีมาก
     
  14. tareerat

    tareerat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +7
    โปรดยิ้ม ให้กันเถอะ
     
  15. krichthep

    krichthep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +3,965
    ถ้าท่านไม่นำมาโพสต์ต่อ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็ไปกราบหลวงปู่อยู่ประจำที่วัดสะแก ผมก็ไม่เห็นใครมาสะกิดให้ผมนำมาโพสต์ต่อเลย อะครับ
    ต้องถามว่าท่านโพสต์ไว้เพื่อจุดประสงค์ใด สนุก ว่างงาน ไม่มีอะไรจะทำ สาธุ
    ไปเตรียมตัวอาบน้ำ สวดมนต์ดีกว่า
     
  16. krichthep

    krichthep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +3,965
    การสวดมนต์เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสมาธิ ไม่ว่าจะใช้บทสวดใดก็ตาม เวลาเครียดๆ สวดแล้วทำให้หายเครียดได้นะครับ ลองทำดูสักวันละ 4-5 จบนะครับ สาธุ
     
  17. wat.R

    wat.R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +745
    โปรดลบกระทู้นี้เถอะครับ เดี๊ยวจะกระทบถึงครูบาอาจารย์และความรู้สึกกันไปใหญ่ครับ /ด้วยความเคารพในทุกๆท่านครับ
     
  18. wangwang

    wangwang เมตตาคุณณัง อะระหังเมตตา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +629
    สวัสดีครับ ผมขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อย แต่ไม่เกี่ยวกับ จขกท.นะครับ(แต่ขออนุญาติใช้พื้นที่ครับ) เพราะแถลงการณ์ชิ้นนี้ ผมเคยเห็นมาแล้ว แต่นึกไม่ออกว่าที่ไหน แล้วก็มีความคิดผุดขึ้นมาทันทีในขณะนั้นว่า แถลงการณ์ชิ้นนี้เมื่อได้เผยแผ่ออกมาแล้ว จะมีผลอย่างไรบ้างโดยวิจารณญาณในภาพรวม เช่น
    1.จะเป็นผลดีหรือผลตรงข้าม อย่างไหนจะมากกว่ากันกับการเผยแผ่เกียรติ คุณของหลวงปู่
    2.การที่ข้างนอกพาให้ปฏิบัติกันอยู่ขณะนี้เป็นสิ่งที่ดีหรือตรงข้ามอย่างไร
    3.การที่เกียรติคุณของหลวงปู่ขจรขจายกว้างไกลอยู่ขณะนี้ มาจากข้างนอกหรือข้างใน หรือไปด้วยกัน เปรียบดั่งปีกนกที่นำพาไปได้ทุกที่
    4.การที่ข้างนอกปฏิบัติและดำเนินการกันอยู่อย่างนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อส่วนรวม
    5.คาถามหาจักรพรรดิ์ เป็นบทบูชาพระรัตนตรัยรวม หรือจะเป็นบทสำหรับอ้อนวอนร้องขออย่างไร โดยดูจากเนื้อหาของคาถา
    6.การที่บุคคลมีจริตต่างกันในการปฏิบัติ เช่น บางคนชอบสวดมนต์มากกว่าการนั่งสมาธิภาวนา หรือตรงข้ามกับที่กล่าว หรือบางคนชอบยืนเดินนอนทำสมาธิหรือสวดมนต์ โดยยึดหลักทำแล้วมีความสุข จะเป็นการทำความดีเหมือนกันหรือไม่อย่างไร

    ผมก็ขอแสดงความคิดเห็นเพียงแค่นี้ครับ โปรดใช้วิจารณญาณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2013
  19. เมตตาวิหารี

    เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +437
    อะไรที่เป็นความดี ทำแล้วงอกงามได้ และให้ผลดีกับตนและส่วนรวม ให้ทำกันต่อไปเถิด เพราะความดีมีแต่ให้คุณ ไม่มีโทษ
     
  20. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    หยุดเถิดท่าน ดีทั้งนั้นถ้าเป็นธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...