ช่วยด้วยค่ะ อยากฆ่าพ่อมาก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 21 ธันวาคม 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    จะปฏิบัติธรรมยังโดนขัดขวางค่ะ ไม่ไหวแล้ว
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ดีขึ้นละค่ะ นึกขึ้นได้ว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้า ที่ทนมาทั้งหมด เพื่อผลที่ได้รับนี้ค่ะ
     
  3. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    พาท่าน หรือ ขอเงินจากท่าน ไปปล่อยปลา สักเดือนละ 40-50 ตัวครับ
    เป็นการฝึกความเมตตาไปในตัวด้วยครับ
    ถ้าความโกรธและความเมตตามีกำลังเท่ากันก็จะสามารถหักล้างกันได้
    เพราะศัตรูของความโกรธ คือ เมตตา ครับ

    แล้วก็ควรอยู่ห่าง ๆ กันสักระยะก็จะเป็นการดีครับ
    เพราะตราบใดที่เรายังไม่สามารถทรงฌาน 4 ได้
    ตราบนั้นเราก็ยังไม่สามารถที่จะไว้ใจตัวเองได้ครับ

    และถ้าทรงฌาน 4 ได้แล้วก็ต้องทรงความเป็นพระโสดาบันให้ได้โดยเร็ว
    ไม่งั้นก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี
    เพราะงั้น ควรอยู่ห่าง ๆ กันสักพัก แล้วก็ปฏิบัติธรรมไปด้วย จะดีกว่าครับ

    แล้วก็แนะนำว่า ควรให้เราและพ่อสวดคาถามหาสะท้อนด้วยครับ
    พิมพ์คาถาออกมาติดตามบ้านให้เห็นกันทุกคนไปเลยครับ จะได้อ่านทุกคน
    ต่างฝ่ายก็จะได้ยั้งคิดกันมากขึ้น
    และควรหาบูชาพระที่เราเชื่อมั่นติดตัวไว้ทั้งเราและพ่อด้วยครับ

    สำหรับพระเครื่องที่เชื่อถือได้นะครับ สามารถเข้าไปดูได้ที่นี้ครับ
    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=807

     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    มีอยู่ช่วงนึงที่ภาวนาคาถามหาสะท้อนค่ะ จิตนิ่งดีค่ะ สนใจพระไพรีพินาศค่ะ ไว้ไปบ้านเติมบุญแล้วจะไปดูค่ะ ขอบพระคุณค่ะ แต่อาการปิตุฆาตมันเกิดความรู้สึกเป็นระยะค่ะ หลายปีหลังมานี้เป็นระยะๆ นึกอยากหยิบปืนไปยิงค่ะ วันนี้ก้อเป็น ต้องทนอารมณ์ท่านดุด่า บ่น ใส่อารมณ์ ข่ม เก็บกดค่ะบอกตรงๆ มีครูบาอาจารย์แนะนำให้อธิษฐานจิตขอเป็นบุตรพระพุทธเจ้า ซึ่งให้ผลที่ดีค่ะ แม้จะได้เป็นจริงหรือไม่จริง ก้อมีผลเชิงจิตวิทยา เพราะเหมือนเตือนตนว่าเป็นใคร ควรทำอะไร วันนี้คิดทันค่ะ ว่าถ้าทำปิตุฆาต ก้อต้องไปนอนคุก และลงอบาย คิดมาตลอด ทนมาตลอดค่ะ สาเหตุที่โดนว่าวันนี้คือท่านรู้ว่าจขกท.กำลังหาวัดไปปฏิบัติธรรม ท่านจึงโมโหไม่ให้ไป ท่านบอกว่าจขกท.จะปฏิบัติไม่ได้อีกเพรสะติดเพ่ง ท่านฟังพระองค์นึงบอกมาค่ะ ซึ่งทางบ้านเชื่อถือว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ปฏิบัติตรง ท่านพูดอะไรพ่อเชื่อทุกอย่าง โดยไม่พิจารณาตามหลักเหตุผลที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเลย แบ้วคิดว่าควรไปปฏิบัติให้รู้จริงว่าติดเพ่งแล้วจริงมั้ย แก้ได้มั้ย จะปฏิบัติไม่ได้จริงรึเปล่า ซึ่งเราควรพิสูจน์ด้วยเหตุผลด้วยการปฏิบัติ ท่านว่าเยอะมาก ซึ่งแล้วต้องทนมาตลอด เพื่อนเก่าแบ้วรู้นิสัยพ่อหมด จนเดี๋ยวนี้แล้วไม่รู้จะปรับทุกข์กับใครแล้วค่ะ แบ้วไม่ชอบท่าทีพ่อหลายอย่าง เหมือนไม่ใช่พ่อ คือแบ้วไม่รู้ว่าการกินเหล้าทำให้อะไรมาสิ่งรึเปล่าหรือโดนของอะไร มีวิญญาณตามมั้ย เพราะพ่อบ่นว่าแม่แทบทุกวัน และมีท่าทีแปลกๆกับแบ้วเวลาแกเผลอ มีการแตะเนื้อต้องตัว มีการพูดในทางกาม ซึ่งบางทีพ่อจะมีท่าทีรักลูกมากมาลูบหัว คือแบ้วคิดว่าแกน่าจะป่วยหรือเป็นอะไรบางอย่าง อาจเป็นโรคหลายบุคลิก ซึ่งตอนนี้แบ้วก้อเป็นโรคซึมเศร้า แล้วเป็นคนซึมซับง่าย แต่แม่ทนได้ทุกอย่าง บางทีแบ้วอยากจะปรี๊ดแทน เรื่องจะขอเงินพ่อไปปล่อยปลาหรือให้แกท่องอะไร แกไม่ฟังแบ้วค่ะ แกฟังพระที่แกนับถือ ซึ่งแบ้วเคยโทรไปถามท่าน ว่าแล้วจะกลับมาปฏิบัติไม่ได้จริงหรือ ท่านก้อไม่ได้ว่านะคะ ว่ากลับไม่ได้ แต่ท่านบอกว่าต้องมีอาจารย์คุมสมาธิเท่านั้นเองค่ะ ปัญหาน่าจะเป็นพ่อแบ้วสื่อสารมาผิดๆไม่เข้าใจอะไรหลายอย่าง พ่อบอกให้นั่งปฏิบัติเอง ไม่ต้องไปฟังอาจารย์คนไหน ท่านก็แสนใจธรรมะนะคะ แต่ไม่ได้อ่านเยอะ แค่ทำกรรมฐานบ้าง แบบทำเองกับบ้านน่ะค่ะ เดี๋ยวนึกอะไรออกจะมาเล่าต่อค่ะ
     
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ขอโทษค่ะ พิมพ์ในมือถือ พิมพ์ผิดเยอะมาก แต่พออ่านรู้เรื่องนะคะ
     
  6. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    ถ้าเรายังไม่รู้จริง หรือยังรู้ไม่ลึก เราก็ต้องพึ่งครูบาอาจารย์อยู่ครับ
    และอาจารย์ที่เราจะให้ความนับถือก็ต้องเป็นท่านที่รู้ในเรื่องนั้น ๆ จริง
    ถามว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าท่านรู้จริงแค่ไหน
    เราต้องลองปฏิบัติดูก่อน ได้ผลยังไง ติดขัดตรงไหนก็ไปถามท่านครับ
    เหมือนกับเราเดินทางจากอุบลจะไปกรุงเทพ
    แล้วเราเพิ่งเดินไปถึงยโสธร ตลอดทางที่ผ่านมาเรารู้ว่ามีอะไรบ้าง
    แต่เราไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง เราก็ไปสอบถามจากครูอาจารย์ที่ท่านผ่านมาแล้วได้

    วิธีพิสูจน์อย่างหนึ่งก็คือ สิ่งที่เราปฏิบัติมานั้น เราทำจริง สิ่งที่ผ่านมาเราจะรู้ว่าเป็นยังไง
    เพราะประสบการณ์นั้น ต้องเป็นสิ่งที่นักปฏิบัติจริง ๆ เท่านั้นถึงจะรู้ได้
    ถ้าท่านสอนในเรื่องนั้น ๆ ถูก ก็แสดงว่าท่านมีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ จริง
    แล้วจะทำให้เรามีความเชื่อมั่นในตัวท่านมากยิ่งขึ้นครับ
     
  7. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    สำหรับการฝึกสมาธิ ถ้าเราติดเพ่งเกินไป
    ก็ให้ลองเปลี่ยนมาเป็นวิธีการนับเอาครับ
    เช่น

    หายใจเข้า หายใจออก นับ 1

    หายใจเข้า หายใจออก นับ 1
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 2

    หายใจเข้า หายใจออก นับ 1
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 2
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 3

    หายใจเข้า หายใจออก นับ 1
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 2
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 3
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 4

    หายใจเข้า หายใจออก นับ 1
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 2
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 3
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 4
    หายใจเข้า หายใจออก นับ 5

    เมื่อครบ 5 ชุดก็เริ่มนับ ใหม่

    แบบนี้ เป็นต้น

    หรือ แบบนี้ก็ได้ เช่น

    ใช้
    เกษา โลมา นขา ทันตา ตโจ
    ตโจ ทันตา นขา โลมา เกษา
    ครบนี้นับ 1

    ตัวอย่าง
    หายใจเข้า เก
    หายใจออก ษา

    หายใจเข้า โล
    หายใจออก มา

    ไปเรื่อย ๆ จนถึง เกษาอีกที ก็นับเป็น 1 รอบ
    ทำไปจนถึง 10 รอบ แล้วก็เริ่มนับ 1 ใหม่

    แบบนี้จะช่วยแก้อาการเพ่งได้
     
  8. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    ส่วนการฝึกสมาธินั้น ฝึกอันไหนจะได้เร็ว
    พระอาจารย์เล็กท่านเคยบอกไว้ตามนี้ครับ


    ถาม : ฝึกกสิณอันตรายไหมคะ ?
    ตอบ : ต้องดูว่าเราเองมีสติสัมปชัญญะบกพร่องหรือเปล่า ? ถ้าบกพร่องแล้วไปได้กสิณไฟ เดี๋ยวก็ไปไล่เผาชาวบ้านเขาสนุกสนาน จริง ๆ แล้วคนที่ทำได้ ถ้าเอาไปใช้ผิดก็จะเสื่อม แต่ว่าในการเสื่อมลักษณะนี้ไม่นานหรอก พอเรารวบรวมกำลังใจได้ก็ได้ใหม่ แต่ถ้าใช้ผิดอีกก็พังอีก

    เพราะฉะนั้น..ถ้าถามว่าฝึกกสิณอันตรายไหม ? ก็ต้องดูอย่างหลวงพ่อท่านฝึกปฐวีกสิณ คือ กสิณดิน แล้วก็ไปหัดเดินในน้ำ ปรากฏว่าก้าวลงไปร่วงตูมเลย เพราะอธิษฐานใช้ผิด ตอนนั้นถ้าว่ายน้ำไม่เป็นก็อันตราย ...(หัวเราะ)... ถ้าว่ายน้ำเป็นก็ไม่เท่าไร ท่านไปอธิษฐานว่าให้แม่น้ำทั้งสายแข็งตัว นั่นผิด เพราะว่าเรือแพต่าง ๆ สัญจรไม่ได้ ต้องอธิษฐานว่าน้ำทุกจุดที่เราเหยียบเท้าลงไปให้แข็งเหมือนแผ่นดิน ถ้าอย่างนั้นถึงจะได้ ใช้ผิดหน่อยเดียวอาบน้ำเที่ยงคืนเลย ...(หัวเราะ)... หนาวแทบแย่ ฤดูหนาวด้วย

    หรือไม่ก็อย่างเจ้าจ๊อบเจ้าเมย์ลูกสาวหลวงพี่สามารถ ตอนนี้คงจะโตเป็นสาวแล้ว ตอนนั้นเรียนมัธยมอยู่ ชอบแกล้งเพื่อนเวลาเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำของวัดท่าซุงเขาจะทำรางน้ำยาว ๆ ทะลุถึงกันทุกห้อง เจ้านั่นเข้าไปถึงก็เพ่งน้ำ เพื่อนจ้วงลงไปเสียงดังก๊อง! แทนที่จะเป็นน้ำ กลายเป็นน้ำเเข็งไปเลย เด็ก ๆ เขาเล่นกันสนุก เพื่อนจะตักน้ำล้างก้นดันไม่ให้ล้าง ...(หัวเราะ)... แกล้งทำให้น้ำแข็งซะ


    ถาม : ฝึกกสิณกับฝึกอานาปานสติอย่างไหนเร็วกว่ากันครับ ?
    ตอบ : จริง ๆ แล้วฝึกกสิณจะมีภาพเป็นเครื่องจูงใจ ทำให้กำหนดได้ง่ายกว่า อานาปานสติเรากำหนดรู้ตามลมไป..ใช่ไหม ? บางทีรู้สึกว่าไม่เห็นภาพไม่เห็นอะไร สำหรับบางคนแล้วจะไม่ตรงกำลังใจเขา เพราะฉะนั้นต้องดูว่าตัวเองถนัดอย่างไหน ถ้าเราถนัดอย่างไหน ทำอย่างนั้นเราจะได้เร็ว ดังนั้นที่ถามว่าอันไหนจะได้ผลเร็วกว่ากัน หรือว่าคล่องตัวกว่ากัน ก็ต้องดูว่าเราชอบเราถนัดแบบไหน

    ถาม : สมมุติว่าได้มาแล้วเสื่อมเร็ว ?
    ตอบ : ได้มาแล้วเสื่อมเร็วก็ต้องหัดซ้อมให้ให้คล่องตัว ถ้าใช้จนคล่องตัวนึกเมื่อไรได้เมื่อนั้น โอกาสเสื่อมก็ยาก ยกเว้นว่าเราไปใช้ผิดผิดประเภท จะโดนลงโทษให้เสื่อม เพราะคิดอยากจะช่วยเขาอยู่เรื่อย

    พวกเราส่วนใหญ่แล้วติด..ใช่ไหม ? นิสัยเห็นเขาแล้วอดสงสารไม่ได้ เห็นเขาลำบากโดยไม่ได้ดูก่อนว่าเขาลำบากเพราะทำกรรมอะไรมา ถึงเวลาก็ลุยไปช่วยเลย ก็เป็นการฝืนกฏของกรรม ถ้าฝืนกฏของกรรมวิชาจะเสื่อมไป จนกว่าจะรวบรวมกำลังใจได้ใหม่อีก การใช้ฤทธิ์ใช้อภิญญาสำคัญตรงต้องยอมรับกฏของกรรม ตราบใดที่จิตยังไม่ยอมรับกฏของกรรมจริง ๆ จะต้องไปฝืนนั้น เราไม่สามารถใช้ได้เต็มที่หรอก

    บางคนก็แปลกใจ ขนาดฝึกกสิณมาแท้ ๆ แต่ใช้ได้นิดเดียว คือ ถ้ายังไม่ยอมรับกฏของกรรมจริง ๆ จะใช้ยาก โดยเฉพาะพวกฤทธิ์พวกอภิญญาสำหรับนักปฎิบัติแล้ว ท่านให้ใช้ส่วนของธรรมะเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับตัวเอง ตัวเองต้องยอมรับกฏของกรรมเป็นปกติ จึงสามารถเข้าถึงมรรคผลได้


    ถาม : แสดงว่าใช้กรรม ...?
    ตอบ : จริง ๆ แล้วก็คือว่า มีหรือไม่มีก็เท่ากันนั่นแหละ มีก็ดีตรงที่กำลังใจเข้มแข็ง ทำให้อาศัยกำลังตรงนั้นตัดกิเลสได้ง่ายแต่ ถ้าเผลอก็ติดอยู่แค่นั้น

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1802
     

แชร์หน้านี้

Loading...