ช่วยแชร์ประสบการณ์ผ่าตัดแล้วใช้วิปัสนากรรมฐานเข้าช่วยให้ทราบบ้างค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย The eyes, 25 เมษายน 2014.

  1. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    คืออยากทราบประสบการณ์ค่ะ ใครเคยเข้ารักษาตัวผ่าตัด (เล็กหรือใหญ่ก็ได้)และในขณะที่จะผ่าตัด ใช้ประโยชน์จากการฝึกวิปัสนากรรมฐานเข้าช่วยบ้างไหมคะ? คืออยากรู้เกี่ยวกับประสบการณ์เหล่านี้ ค่ะ
    อาจจะลำดับ การเตรียมความพร้อม ก่อน ขณะ และหลังผ่าตัด ก็ได้ค่ะ *#*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2014
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    วิปัสนากรรมฐาน ที่คุณต้องการจะกล่าวถึงนี่คือการปฏิบัติแบบสายยุบหนอพองหนอหรือเปล่านะครับ...เอาเป็นว่าเอาตอนที่ผมเคยในการรักษาตัวแล้วกัน ตอนก่อนผ่าตัดนี่ไม่ค่อยได้กำหนดหละครับ ก็พิจารณาธรรมปกติในมรณานุสสติกรรมฐานบ้างเพราะผ่าตัดเล็ก ตอนผ่าตัดก็สติตามรู้ครับเพราะว่าหมอฉีดยาชาไม่ค่อยรู้สึกก็กำหนดรู้ไปว่าหนอกำลังทำอะไรกับแผล แต่ตอนผ่าเสร็จช่วงยาชาหมดฤทธิ์นี่หละครับ กำหนดได้ชัดในเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน กำหนดรู้ในเวทนาคือความปวด รู้ไปรู้ไป รู้ต่อไปจนนึ่งความปวดจะมีอาการเบาลงมากเลยครับ มองจนให้เห็นว่าความเจ็บจริงแล้วมันมาจากกายเข้ามาที่ใจ ตัดที่ใจรู้ความเจ็บจะเบาลง ไม่โอดไม่ครวญ ไม่ทุกข์ พอหายแล้วมาพิจารณารู้ในความปวดที่หายไป เห็นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา ไม่เหลือ นี่คือปกติของร่างกาย เท่านั้นหละครับ ประสบการณ์ที่เคยผ่านมา
     
  3. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ทุกสายค่ะ .ที่มีประสบการณ์ คือนึกสงสัยขึ้นมาค่ะ ว่าถ้าเกิดมีคนสามารถปฎิบัติจนสามารถตัดความรู้สึกออกจากกายได้แล้ว พวกท่านเหล่านั้นเวลาต้องเข้ารับการผ่าตัด จะมีวิธีจัดตัวเองอย่างไรค่ะ หรือขณะผ่าตัด จิตมีการเคลื่อนเข้า ออกเองโดยอัตโนมัติ อะไรประมาณนี้ค่ะ อยากเห็นหลายๆเครสค่ะ

    ส่วนในกรณีของคุณ Phoudet. มีความเป็นไปได้ไหมคะว่า ขณะผ่าตัดการที่เราไปตามรู้ตอนนั้นมันจะทำให้เรารู้สึกเจ็บมากขึ้นกว่าการทำจิตให้ว่างหรือไม่รับรู้นะค่ะ
    (ถือว่าเป็นการแชร์ข้อมูลกันนะคะ มันคงมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องเข้ารักษาตัวด้วยวิธีการอย่างนี้)
    ปล.จขกท.เคยผ่าตัดเล็กมาที่แขน แต่ไม่เคยใช้หลักวิปัสนากรรมฐานเข้าช่วย เลยสงสัยว่า ถ้ามีคนเคยใช้ มันจะดีอย่างไร เป็นอย่างไร ใช้อย่างไรค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2014
  4. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    บางคนทนความเจ็บปวดไม่ได้ หรือไม่ยอมทนความเจ้บปวด เขาจะหลบเข้าฌาน หรือ ถอดจิต ออกจากร่างไป

    แต่ ในการตามความรู้สึก หรือ จับที่ความเจ็บ จะเจ็บมากเจ็บน้อย อยู่ที่จิตเรานั้นละเอียดขนาดไหน ถ้ายังหยาบอยู่เวลาตามความเจ็บจะรู้สึกเจ็บมากขึ้นเรือยๆ ถ้าจิตละเอียดพอจะแยกได้ว่านั่นมันขันธ์มึงนี่มันจิตกู (แล้วใครเจ็บหละนี่ อิอิ อันนี้ขอไม่บอกนะ เพราะสิ่งนี้ต้องรู้ต้องเรียนและประสบด้วยตัวเอง)

    โดยเบื้องต้น ผู้เฒ่าผู้แก่สอนว่า เป็นการพิจารณากาย (สติปัฏฐานสี่) ... เพื่อให้รู้ว่ากายนี่ไม่ใช่ของเรา มีเกิดขึ้น มีเสื่อมสลาย มีสูญเสีย และดับไป ท่านว่า เป็นการโน้มเข้าสู่ไตรลักษณ์...

    ได้เวลาแล้ว เดวจะไปวัดและ คงไม่ได้มีโอกาสตอบสืบเนื่อง ขอ ยุ ติ ธรรม เพียงเท่านี้
     
  5. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิอยู่กับสภาวะรู้ ไม่หลงเผลอสติเข้าไปเป็นสภาวะที่ถูกรู้
     
  6. สุทัส

    สุทัส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +102
    ดูจิตตน ไม่ต้องไปดูเวทนา
    จิตจะแยกออกมาจากสิ่งที่ถูกรู้ได้เอง
     
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    โดยส่วนตัวไม่เคยผ่าตัด แต่อดีตเคยจำได้ว่าตอนตัวเองปวดไมเกรนมากๆ(กินยาแล้วไม่หาย ปวดทั้งคืน)

    เกิดความรู้สึกว่ายิ่งเราไปดิ้นรนทุรนทุรายกับมันมาก มันยิ่งปวด พอดีว่าเมื่อก่อนใจเด็ดด้วย ไม่ได้กลัวตายและกลัวกิเลส เลยลองเจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานดู แยกจิตออกมาเป็นผู้รู้ผู้ดูอยู่เฉยๆ ไม่คิดไม่ปรุงแต่งอาการเจ็บปวด และไม่เข้าไปหลงจมแช่อยู่กับอาการเจ็บ ปรากฏว่าก้อเห็นสิ่งที่เมื่อก่อนไม่เห็น คือเห็นไตรลักษณ์ของอาการปวด มันจะเหมือนเป็นระลอกนะ คือไต่ระดับความปวดขึ้นมาถึงปวดมากและลดไป แล้วก้อไต่ระดับขึ้นมาใหม่ และลดไปอีก สภาวะแบบนี้เกิดขึ้นถี่มาก กายเจ็บก้อจริง แต่ใจไม่ทุกข์ไปกับมันด้วย คือแยกกายกับจิตออกจากกันได้ ..เราว่าความบีบคั้นทางใจสลัดยากกว่านะ เพราะเวลามีทุกข์ทางใจจะบื้อไปเลยภาวนาไม่เป็น

    เวลาเราทุกข์ทางกาย แล้วสามารถเห็นการเกิดดับที่กายได้ โดยไม่ไปหลงปรุงแต่งเป็นทุกข์ทางใจ เราว่าช่วยได้เยอะเลย ความอยากหายเจ็บปวด มันเป็นทุกข์ซ้อนทุกข์ จิตใจจะดิ้นรนอยากจะหายอย่างเดียว โดยลืมกลับมาพิจารณากายโดยความเป็นไตรลักษณ์

    แต่อย่าถามนะว่าเดี๋ยวนี้เราเป็นไง ขนาดไปขูดหินปูนยังเหงื่อแตกเสียวมากเลยอ่ะ คือเดี๋ยวนี้จิตไปเกาะอยู่ที่การรับสัมผัสทางผัสสะหมด(ทวาร6) ทุกวันนี้ยังแก้ไม่หาย มันอยู่ที่ความเพียรในการปฏิบัติด้วย ...ขออนุโมทนาสาธุธรรม
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ว่าไปแล้วเรื่องแบบค่อนข้างมีประโยชน์นะ..เคยได้ยินคุณหมอที่รู้จัก
    เล่าให้ฟังว่าพระสงฆ์บางรูปที่เคยรู้จักท่านไม่ได้ยาชาช่วยขณะฉีดยา
    ท่านบอกเองว่าไม่ต้อง..และก็เคยได้ยินเรื่องเล่าของหลวงพ่อมีชื่อบาง
    ท่านก็มีเรื่องทำนองลักษณะของการยกจิตไปอยู่ที่อื่นในขณะที่กำลัง
    ผ่าตัดแต่การไปของท่านอยู่ในระดับชำนาญเราเรียกง่ายๆว่าไปทั้ง
    กายทิพย์หรือเต็มกำลังหรือแบบที่จิตหรือกายทิพย์มีส่วนร่วมใน
    บริเวนสภาพแวดล้อมนั้นได้...

    แต่ประเด็นหลักที่เคยลองทำเหมือนกันคืออยากจะรู้เฉยๆว่าถ้าดันเกิด
    ตายจริงๆแล้วดวงจิตเราสามารถที่จะไปอยู่ที่ไหนได้เท่านั้นเอง.และก็จะ
    ดูเรื่องความสามารถในการตัดร่างกายด้วย.ไว้ตรวจสอบตัวเอง ไว้ดูระดับ
    ของสภาวะจิตตัวเอง.เพื่อความไม่ประมาท.จะได้เจียมเนื้อเจียมตัวไว้.

    .ส่วนการเตรียมตัวอะไรนั้นไม่มี.เรียกว่าไม่มีการตั้งท่า
    เอาวะ..ลองดู..จัดไป..เพราะถ้ายังต้องมีการเตรียมตัวตั้งท่าอยู่
    ส่วนตัวคิดว่าในทางการปฏิบัติของตนเองถ้ายังตั้งท่าอยู่
    แสดงว่าตัวเองยังใช้ไม่ได้หรือคงเก่งแต่ปาก(ส่วนตัวนะ)..

    วิธีการที่ทำคล้ายที่คุณ ตั้งฉาก แนะนำนะ.เคยมีโอกาสตอนที่คุณหมอกำลังกรอฟัน
    เพื่อทำการอุดฟันบางซี่ ..พอเครื่องมือ
    ลงมาที่ฟันมันก็จะมีอาการเสียวขึ้นมา.รู้สึกว่าชักไม่ไหว.เลยไปโล๊ดด..ก็ไปได้แต่
    ว่าไปในลักษณะของการไปๆมาๆ.เพราะไม่ใช่ผู้ชำนาญ.เนื่องจากไม่ได้ทำเป็นอาชีพ
    จะกลับมาเมื่อดันไปได้ยินคุณหมอ.กำลังพูดกับผู้ช่วย.
    และก็ไปๆมาอยู่นั่นหละ.จะว่าแล้วก็มันไปอีกแบบ.คือเสียวปุ๊บไปปั๊บ
    วนไปวนมาอยู่อย่างนี้..คิดๆแล้วก็ตลกดี..
    .
    ถ้าจะให้แนะนำคือ..ให้นึกถึงสถานที่ๆไม่มีในโลก.และระดับสูงกว่าระดับโลกไว้ก่อน..
    ที่ๆพระสงฆ์มีชื่อท่านอยู่..หรือที่ๆพระพุทธฯท่านเสด็จมาบ่อยๆ..
    อย่างน้อยไปปรากฏหรืออยู่บริเวนนั้นให้ได้.เพื่อความสบายใจในระดับหนึ่ง..
    แม้ออกมาได้แต่อยู่บริเวณนั้น.ก็คงไม่ต่างอะไรกับพี่สัมพะเว ๕๕๕
    พอไปตรงนั้นได้บ่อยๆ
    ซักครั้งที่ ๓ หรือ ๔ แล้วกลับมาพิจารณาตัดร่างกายและพิจารณาความตายซ้ำเข้าไปอีก
    และค่อยนึกถึงระดับพระพุทธฯหรือพระปัจจักเจกพุทธฯ..ถึงจะสามารถ
    ไปปรากฏต่อหน้าท่านได้แม้เพียงชั่วขณะก็ยังดีกว่าไปไม่ได้.
    ..หากนึกถึงก่อนได้ตั้งแต่แรกเลยก็ดี.
    ใครทำได้ก็ขอโมทนา..แต่ส่วนตัวมองว่ากำลังเราและการวางของจิต
    มันจะไม่พอที่จะรักษาระยะเวลาตรงนั้นให้นานได้เพียงพอ..
    กว่าจะกิจกรรมบนโลกจะเสร็จ
    ก็เลยใช้วิธีการที่เล่าให้ฟังมาเพื่อความชัว..ไม่มีอะไรหรอกเล่าให้ฟังเฉยๆ
    ส่วนใครทำได้ไม่ได้.กรณีอย่างนี้ต้องตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน..

    ปล.ประมาณนี้..
     
  9. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ที่ถามก็กะว่าจะตั่งท่าไว้ก่อนค่ะ (แต่จริงๆไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมพวกนี้ /ไม่คิดอยากลองอีกด้วยค่ะ) แค่ผ่าตัดเล็กที่แขนนี่ก็สุดแสนจะบรรยายแล้ว (คุณหมอฉีดยาชา ยายังไม่ทันออกฤทธิ์เลย จับผ่าซะแล้ว แถมผ่าแล้วค่อยมาถามว่าเจ็บไหม รู้สึกไหม ขณะผ่า )ToT. เลยตอบหมอไปว่า เจ็บตั่งแต่ฉีดยาแล้ว ! ตอนนี้ก็ยังรู้สึกอยู่ เล่นผู้ช่วยพยาบาลหน้าบานเลย

    ตอนนี้ลองฝึกปฎิบัติอยู่.เลยลองถามประสบการณ์แต่ละท่านว่าเป็นยังไง คิดไปเองว่า พอถึงเวลาจริง แต่ละท่านจะตัดความรู้สึกได้ไหม (หรือตื่นเต้นจนลืม หรือเจ็บปวดจนลืม )อยากให้แชร์ให้ฟังค่ะ เผื่อใครต้องเข้ารับการรักษาจะได้ไว้ใช้เป็นแนวทางบ้างค่ะ

    ขอโมทนาสาธุสำหรับท่านที่กำลังปฎิบัติและท่านที่สามารถปฎิบัติได้แล้วค่ะ *#*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2014
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    คนรู้จัก พ่อ เลือดออกในสมอง นอนห้อง icu รอผ่าตัด

    ลูกไม่อยู่เฝ้าพ่อห้อง icu แต่เลือกไป ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน แทน 3 วัน 2 คืน

    อุทิศบุญกุศลให้พ่อ ให้ เจ้ากรรมนายเวร ขอให้พระช่วยคิดในใจไม่ได้เอ๋ยปากบอกพระที่เป็นพระอรหันต์นะครับ^^

    สรุปว่า ผ่าตัดสมองจบ รักษาตัวอยู่หลายเดือนหายเหมือนคนปรกติ ทั่วๆไปครับ

    ^^


    ถึงแม้ว่าคนผ่าตัดจะไม่ได้ปฏิบัติกรรมฐาน แต่ลูกเลือกไปปฏิบัติแทนครับ


    อีกเรื่อง อันนี้พ่อช่วยลูก

    ลูกไปซิ่งมอไซร์ บิดไป 200+ขึ้นไป เครื่องแรง ^^ จริงๆ เกินแน่ๆ แต่เข็มมันโชว์ได้แค่นั้น ล้ม หัวฟาดพื้นถนน +ไถไปเลย 200+กิโลเมตร ลองคิดเองละกันว่าขนาดไหน อาการสุดๆ กระโหลกแตกเห็นเนื้อสมองเลย เข้า ICU ไม่ได้ใส่หมวกด้วย

    พ่อเลยโทรไปขอให้พระที่รู้จัก เป็นพระอรหันต์ ช่วยเหลือ

    สรุปว่า รอดครับ กลับมาปรกติ

    ^^
     
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    จริงๆผลการปฏิบัติในเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานนั้นมีผลไม่แตกต่างกันนะครับ ผลที่ผมได้จะคล้ายกับที่คุณ นวลปราง ประสบพบเจอเลยครับ คือเมื่อเรามีสติตามรู้ในเวทนาแห่งกายอย่างจดจ่อ ไม่ถอยสติตามรู้อยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุด(ถ้าตามแบบที่ครูท่านสอนท่านก็ให้ภาวนาว่าปวดหนอ) ความเจ็บปวดนั้นมันจะลดอาการลง บางครั้งมันก็จะเพิ่มขึ้นบ้างแต่มันไม่มีสภาวะครอบคลุมใจ มันมีอาการเหมือนดังเปลวไฟ ที่ไหวๆอยู่ และมันจะมีอาการเหมือนว่าความปวดเป็นสิ่งที่ใจไปถูกรู้ถูกดู เมื่อใจไปถูกรู้ถูกดูอย่างจดจ่อ สติเกิดในขณะนั้นความเจ็บปวดไม่อาจครอบงำจิตใจได้เลย มันเป็นของมันเอง...คือในปกติที่เราไม่ได้ฝึกคือเราไม่รู้นั้น เมื่อเจ็บเราไม่มอง ขาดสติตามดู ความเจ็บมันไม่เพียงเจ็บกายสำคัญสุดคือเจ็บที่ใจเรานี่ จากเจ็บน้อยมันทนไม่ได้ มันเจ็บเยอะ แล้วใจก็จะไปหลงตั้งค่าในทันทีว่าเจ็บ ทรมาน มันมีผลครอบงำใจ เราไม่ต้องการมัน อย่างนั้น มันจะเจ็บเสียยิ่งกว่าเจ็บ....

    ผมว่าการฝึกกรรมฐานในเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน นี่เห็นธรรมได้ง่ายมากนะ เพราะความเจ็บกายนี่เป็นของหยาบ มันชัดมาก มันชัดกว่าอย่างอื่น เจ็บใจ นี่เห็นยากกว่าเจ็บกายมาก เพราะเจ็บใจนี่กิเลสมันปรุงหลงตั้งค่าเรียบร้อย บางครั้งตามไม่ทัน แต่เจ็บกายนี่ตามทัน เห็นทัน เห็นพระไตรลักษณ์ได้ง่าย....ก่อนเจ็บ เจ็บอยู่ หายเจ็บ ชัดเจน....

    ขณะผ่าตัดหมอฉีดยาชาครับ ตอนยาไม่หมดฤทธิ์นั้น มันจะเห็นกายเหมือนก้อนธาตุ หน่วงๆ ตอนเย็บมันจะมีความรู้สึกอยู่ว่าเข็มลง ดึงไหม(ดึงไหมยาวหรือสั้นนี่ก็รู้ได้) อย่างนี้หละครับ รู้ตามอาการแห่งกายที่ถูกกระทบ ตอนทำไม่เจ็บมากครับ มารู้เวทนาเอาตอนยาหมดฤทธิ์ เวทนาเห็นชัด....

    กรรมฐานกองนี้เห็นยากสำหรับผู้ไม่ได้สดับครับ ผู้ไม่มีพื้นฐานตามปกติของมนุษย์รักตัวกลัวตาย รักสุขเกลียดทุกข์ จะรับได้ยาก เพราะตามรู้ไม่ทัน บางครั้งไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าไปรู้นี่มันรู้อย่างไร แต่ถ้าทำได้แล้วมันรู้สึกว่ากรรมฐานกองนี้เห็นธรรมได้ง่ายมากครับ ความรู้สึกผมเห็นว่ามันเป็นกรรมฐานหยาบ เห็นได้ง่าย อานาปานบรรพ ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นกรรมฐานละเอียด ใจมันไปได้ง่าย จับได้ยากกว่า....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2014
  12. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ไม่ต้องตั้งท่ามากครับ เดี๋ยวมันจะล้มเสียไม่เป็นท่า รู้ไปตามตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ในสติปัฏฐานสูตรเลยครับ เห็นได้ในปัจจุบันเลย เช่น ตอนนี้นั่งพิมพ์งาน มันสบายอยู่รู้ว่าสบาย มันเฉยๆอยู่รู้ว่าเฉยๆ พอนั่งท่าเดิมนานๆเริ่มเมื่อย รู้ไปตรงๆว่าเมื่อย พอเมื่อยเริ่มเปลี่ยนเป็นปวด ก็รู้เลยว่าปวด เปลี่ยนท่าแล้วมันสบาย สุขเวทนาเกิดรู้ไปว่าสุขเวทนาเกิด อย่างนี้ไปเรื่อยๆ....ร่างกายมันก็จะฟ้องไตรลักษณะ เวทนาเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ปวดขี้รู้ว่าปวดขี้ นั่งขี้รู้ว่าสบาย ก็รู้ว่าสบาย หายปวดรู้ว่าหายปวด อย่างนี้หละครับ ....คุณนวลปรางเขาก็เอามาใช้กับไมเกรนได้อย่างนั้นหละครับ วิธีเดียวกัน....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2014
  13. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าสมาธิตั้งมั่นอยู่กับสภาวะรู้ อย่างบริสุทธิ์
    อาการของเวทนาทั้งหลาย จะไม่มีขึ้น ไม่มีลง ไม่มีไป ไม่มีมา
     
  14. สุทัส

    สุทัส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +102
    "อย่าไปตามดูอาการของเวทนา ให้ดูจิตอย่างเดียว"
    หลวงปู่หลุย จันทสาโร
     
  15. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    คุณสุทัส แนะนำเพิ่มเติมด้วยค่ะ ให้ดูจิตอย่างเดียว ใช่การดับความรู้สึกไหมคะ?
     
  16. Malaiteva

    Malaiteva เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +192
    .กิเลสที่เกิดกับใจ(ธัมมารมณ์)เป็นที่ตั้งแห่งสติ
    .ในเคสนี้ก็เช่น ^รู้สึกหวาดเสียว ไม่สบายใจ^เมื่อเห็นของมีคม เช่น เข็ม มีดหมอ เห็นบาดแผล เลือด
    เห็นความเจ็บปวด
    .นี้เป็นอารมณ์ประเภทโมหะ เกิดขึ้นก็ฝึกตั้งสติไว้
    .เมื่อกิเลสในใจทุเลาลง เวทนาที่เกิดขึ้นทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็ค่อยเป็นธรรมดา เป็นวิบากไป
    .กิเลสโมหะมีมาก ที่ท่านว่ากิเลส1500
    แหละ
    .เพราะฉะนั้น พระโสดาบันไม่ใช่ของง่าย(ไม่ใช่เรานะ)...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2014
  17. สุทัส

    สุทัส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +102
    คนละอย่างกัน พิจารณาง่ายๆ
    ที่ไม่ให้ไปดูอาการของเวทนา เพราะเมื่ออาการเวทนากล้าขึ้น จิตที่ไม่มีกำลัง จะไปแทรกแทรงได้ง่าย ผลก็คือไปมุ่งดับความรู้สึกทางกาย หรืออื่นๆตามความปรุงแต่งของจิต
    ที่ให้ดูจิตคือให้รู้เท่าทันความปรุงแต่งในจิต เสมือนดับไฟเสียแต่ต้นลมนั่นเอง.
     
  18. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    เอาเป็นว่าถ้าท่านใดมีความสนใจและต้องการเข้าใจในการฝึกวิปัสสนาแนวสติปัฏฐาน ๔ ในเรื่องของ เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ....ให้ละเอียดมากขึ้น...

    ตลอดจนเป็นการตอบคำถามของคุณ dawlong ในเรื่องกำหนดรู้เวทนา แล้วเข้าใจในเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ตลอดจนวิธีกำหนดรู้เวทนาแห่งกายให้ได้ผลตามหัวข้อกระทู้ที่กล่าวไว้ ...

    ผมมีพระธรรมเทศนาจากท่าน สยาดอภัททันตะวิโรจนะ (มหาคันถวาจกบัณฑิต-มหากัมมัฏฐานาจริยะ)เจ้าสำนักวิปัสสนา ณ วัดงุยเตาอูกัมมัฏฐาน อำเภอท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนม่าร์ หนึ่งในพระวิปัสสนาจารย์ใหญ่ผู้เป็นอาจารย์แนะนำวิปัสสนากรรมฐานให้กับ นิสิต พระนิสิต พระวิปัสนาจารย์ไทยที่ศึกษาในหลักสูตรปริญญาโท วิปัสสนาภาวนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และคณะพระวิปัสสนาจารย์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการปฏิบัติสายวิปัสสนากรรมฐานในประเทศไทย ทั้งในตอนนี้และในอนาคต จำนวน สอง กัณฑ์ ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ ตามไปศึกษาได้เลยครับ....

    [​IMG]

    [​IMG]

    เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน 1
    https://www.youtube.com/watch?v=xRm-4MCeKDE

    เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน 2

    https://www.youtube.com/watch?v=ukctXkDfPyQ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2014
  19. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    สมาธิตั้งมั่นอยู่กับสภาวะรู้ สิ่งที่ถูกรู้จะเป็นอะไรก็ตามแต่ ก็เป็นเพียงสิ่งที่ถูกรู้

    ทุกข์ของจิต เกิดจากการที่เคลื่อนออกจากสภาวะที่รู้ ไปยึดครองเป็นสภาวะที่ถูกรู้ ยิ่งยึดแรงมาก ทุกข์ก็มาก

    ดังนั้นแล้ว เมื่อสมาธิตั้งมั่นอยู่กับรู้เฉยๆ ได้ เมื่อนั้น "เรา" จะเป็น "รู้" ไม่ได้เป็น "ทุกข์" ทุกข์ทั้งหลาย จะมีอยู่เป็นปรมัตถ์ ตามสภาวะดั้งเดิมแท้ๆ ของมัน เป็นแค่สภาวะนั้นๆ ตามธรรมชาติของมัน ไม่ได้มีความหมาย และ ไม่ได้มีใครไปครอบครองเป็นเจ้าของ ไม่เกิดเป็นทุกข์ปรุงแต่งขึ้นภายในจิต
     
  20. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ที่เราชอบทำนะ สวดมนต์ในใจแล้วจับที่บทสวดนั้น ก็เจ็บน้อยลงหรือไม่เจ็บเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...