ฌาณนอกสมาธิ กับฌาณหลับ เหมือนกันไหม..

อยากจะเรียนถามท่านหลวงปู่ฤาษีลิงดำค่ะ ว่าฌาณนอกสมาธิคืออะไร และมีจริงมั้ย แล้วเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วทำอย่างไรให้เรารู้ตัวกับฌาณนั้นได้ตลอดถ้าฌาณแบบนั้นมีจริง และทำไมถึงเกิดขึ้นกับตัวเราโดยที่เราไม่เคยรู้ตัวมาก่อน แล้วฌาณหลับด้วยค่ะ ว่าฌาณทั้งสองนี้คือความหมายเดียวกันหรือเปล่าค่ะ

นอกเหนือจากท่านหลวงปู่ฤาษีลิงดำแล้ว หากท่านผู้ใดมีประสบการณ์และความเข้าใจในเรื่องข้างต้นนี้ รบกวนช่วยไขปัญหาให้ดิฉันด้วยนะค่ะ

ปัญญาอันน้อยนิดนี้สับสนไปหมดแล้วเจ้าค่ะ ;k03

เรื่องของเรื่องคือดิฉันพึ่งเคยเข้ารับการฝึกวิปัสสนากรรมฐานเป็นครั้งแรก และมันก็เกิดเหตุการประหลาดมากมาย จนดิฉันสับสนกับตัวเองไปหมดแล้ว อ่านหนังสือก็สับสนเพราะหลายคนหลายความคิด ซึ่งมันก็เป็นปัญญาของท่านเหล่านั้นทั้งสิ้น แล้วมันก็ไม่สามารถไขข้อข้องใจในปัญหาที่คาใจดิฉันได้เลย ยิ่งทำให้ดิฉันสับสนมากขึ้น จนงงงงงงงงงงงงงง ไปหมดเลยเจ้าค่ะ

 

หากมีศรัทธาในสำนักใด
ให้นับคำชี้ขาดตามสำนักที่ท่านสังกัด
หากครูอาจารย์หรือผู้ฝึกสอนของสำนักที่ท่านสังกัดชี้ขาดอย่างไรให้ถือตามนั้น

เนียะ ผลของการบอกกรรมฐานแก้กรรมฐานกันข้ามสำนัก
มือใหม่ จะสับสน
จริงๆนะ มือใหม่เค้าจะต้องหาอะไรเกาะไว้ก่อน
หากไม่ให้เค้าเกาะอะไรเลย จะเละเสียมากกว่า

ให้ "ยึด" ไม่ต้องปล่อยวาง
"ยึด" ตามคำสอนของสำนักท่านเท่านั้น
หากมีข้อโต้แย้ง ก้ให้ "ยึด" ตามขอตัดสินของสำนักท่านไว้ก่อน

เช่นสำนักท่านบอกว่าห้ามยึด
ก้ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติของสำนักนั้นๆ
เพราะห้ามยึด

ให้ปฏิบัติตามคำสอนของสำนักที่อนุญาติให้ "ยึด" เท่านั้น

 

ฌาณนอกสมาธิ กับ ฌาณหลับ
ผมก็ไม่เคยได้ยิน เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ

งง...

 

อ้าว..... แย่แหละ

แล้วทำงั้ยดีล่ะค่ะ ใครรู้ช่วยตอบหน่อย แต่ฌาณหลับนะ เป็นคำของหลวงปู่ฤาษีลิงดำและค่ะ ดิฉันพึ่งอ่านเมื่อกี้ แต่สั้นเหลือเกินยังไม่ทันเข้าใจเลย ส่วนฌาณนอกสมาธิ ได้มาจากที่อื่นค่ะ

 

ถ้าเป็นความเห็นที่หลวงพ่อฤาษีท่านวินิจฉัยไว้
ท่านว่าหากก่อนจะหลับ สามารถทรงฌานไว้ได้
ท่านถือว่า ในขณะที่หลับในครั้งนั้น
ถือว่าเป็นการทรงฌาน
หากตายในขณะหลับในครั้งนั้น
ก็ไปอย่างน้อยพรหมแน่นอน

และท่านก็กล่าวเสริมอีกว่า
"หากมีวิปัสสนาญาณเข้มข้น ก็ไปนิพพานในที่สุด"

 

ใช้อย่างนี้หรือเปล่า "ฌานหลับ" ที่ว่า
หากเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านให้คำวินิจฉัยอย่างนี้

ส่วนหากสังกัดสำนักอื่น
ก็ไปถามเอาที่สำนักเองแล้วกัน
เนอะ...

 

ค่ะ ค่ะ... อย่างนั้นแหละค่ะ แล้วทีนี้การที่เป็นอย่างนั้น สามารถทำให้เรานิมิตด้วยหรือเปล่าค่ะ?

เรื่องของเรื่องคือปกติดิฉันจะทำสมาธิโดยการเฝ้าดูลมหายใจ ไปจนถึงวิปัสสนา ก่อนที่จะหลับ แล้วพอคืนหนึ่งก็เหมือนครึ่งหลับครึ่งตืน คือก็ยังรู้ตัวตลอด แล้วก็นิมิตไปว่าชายชุดขาว นั่งวิปัสสนาอยู่เหมือนกัน แล้วดิฉันก็เข้าไปกราบท่านผู้นั้น แล้วท่านผู้นั้นก็พูดว่าจะรับดิฉันไปแล้ว อยู่ไปก็มีแต่จะเพิ่มกิเลส พอได้ฟังเช่นนั้นดิฉันก็ร้องไห้เป็นการใหญ่แล้วก็พูดกับท่านผู้นั้นว่า ดิฉันยังปฎิบัติไม่สำเร็จเลย ขอเวลาอีก 6 วันได้มั้ย ท่านผู้นั้นก็ยิ้ม
พอเช้ามาทั้งคำพูดแล้วภาพ มันฝังใจดิฉันมาก และไปบวกกับคำว่าฌาณนอกสมาธิ กับคำว่าฌาณหลับ เลยทำให้เกิดความคิดว่าที่นิมิตแบบนั้นมันเรื่องจริง หรือแค่คิดไปเอง

 

แหม...
เรีืองจริงนี้คืออะไร
ถามคลุมเคลือนะครับ
เช่น จะให้ทำนายฝันหรือ ก็อาจจะไม่ชัวร์

เช่น หมายความว่าที่ฝันไปเนียะเชื่อถือได้หรือเปล่า?
เช่น นับว่าเป็นการใช้ทิพย์จักุษุญาญหรือเปล่า?

อย่างนี้ใช่หรือเปล่าครับ

ก้ถามกลับว่าปรกติจับลมหายใจเนียะ
สามารถจิตรวมได้ก่อนนอนทุกครั้งเป็นปรกติหรือเปล่า
เพื่อ อยากทราบความชำนาญและความละเอียดของฌานของท่านผู้ถาม

และก้ถามอีกว่า คืนที่ฝันเห็นภาพชายชุุดขาว นั้น
ก่อนหลับจิตรวมตัวดีหรือไม่ครับ
เพื่อจะได้ทราบแน่ชัดถึงคุณภาพของฌานหลับของคืนนั้น

และก้ถามอีกว่า ภาพที่เห้นเนียะชัดเจนสีสรรสดใสดีหรือเปล่าครับ
สามารถปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่สัมผัสขนาดไหน
เช่น เห็นแต่ภาพเหมือนดูอยู่หน้่าจอทีวี หรืออยู่ร่วมในเหตุการณ์
สามารถหยิบจับ เคลื่อนไหวในฝัน
เพื่อดูกำลังของสมาธิขณะที่ปฏิสัมพันธ์กับเหตุการในฝัน

และก็ถามว่าปรกติเมื่อความตายมาถึงท่านสามารถปรงใจได้สนิทหรือไม่
ปรงใจบ่อยหรือเปล่า มีความคิดเห็นเกี่ยวกับศีลทั้ง 5 อย่างไร
ยึดพระรัตนตรับเป็นที่พึ่งจรึงหรือเปล่า
เพื่อดุกำลังใจในการตัดกิเลส

ส่วนที่ถามว่าเรื่องที่เห็นในฝันหนะ
เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
ก็เลยไม่ได้ตอบ
เพราะคนถามก็งง เอง
สับสนในชีวิตเหมือนกัลลล

 

เอาตามความรู้น้อยๆของผมนะครับ

เพราะหลวงปู่ฤาษีลิงดำ คงมาตอบในนี้ไม่ได้นะ

ท่านเข้านิพพานไปนานแล้วครับ

...................


ณานนอกสมาธิ และ ณานนอนหลับ คุณมีวิธีปฎิบัติ อย่างไร อันนี้ก่อน

แต่วิธีที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้....

นอกสมาธิ จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่นอกสมาธิหลอกครับ เพราะกล่าวว่า ณาน นั้นแล้ว

ณาน คือ ทำให้เกิดสมาธิ โดยการเพ่ง

แต่ผมคิดว่า ท่านคงกล่าวถึง อานาปานสติ รึเปล่าครับ

คือการรู้ลมหายใจ สั้น-ยาว-ค่อย-แรง รู้ลม หรืออาจจะทรงกสินกองใดกองหนึ่งไว้ (หรือ ภาพพระ )

อารมณ์ก็จะเป็นทิพย์ มีสติ

..............................................

ส่วน นอนณาน อันนี้ชอบมาก

เพราะ

1. มนุษย์ปกติทั่วไปต้องนอน ใครที่อ้างบอกไม่มีเวลาทำสมาธิ ก็เอานี้เลยครับ นอนเข้าณาน

2.หลับเป็นสุข ตั้งเวลาตื่นเองได้

3.ไม่ฝัน หรือ ฝันก็จะอยู่ในสมาธิ คือ ไม่ใช่ฝันมั่วๆแบบร่างกายอ่อนเพลีย

4.ตื่นมาสบาย เพราะนอนเต็มกำลัง แม้แค่ 2-3 ชม ก้พอ


วิธีก็มีหลายแบบ ว่ากันง่ายๆ

-สวดมนต์ก่อนนอน จนเกิดณานสมาธิ

-ภาวนา บริกรรม หรือ คาถา ไปเรื่อยๆ จนหลับไปเอง

-เข้าสมาธิตามกำลัง

-จับอานาปานะสติ

-กสิน หรือ ทรงภาพพระ (ไม่แนะนำ อาโลกสิน หรือ กสินแสง มันสว่างแล้วนอนไม่ได้เลย ฮ่าๆ)


ถ้าผิดถูกยังไง รอคนต่อไปแนะนำแล้วกันครับ

ผมยังโง่อยู่

 

ถ้าของที่เราไปเห็นมาจริงๆ ก้เป็นสิทธิของเรา

คุณคิดว่าหากมีคนมาค้านว่าที่เราไปเห็นมา
เพราะเราคิดไปเอง

มันเป็นสิทธิของใครครับ

เป็นสิทธิของ "คนเห็น"

ถ้าเราอยากจะเห็น เค้าก็อยากจะเห็น

 

เวลาเกิดปัญหาเรื่องการปฏิบัติพระกรรมฐาน
แล้วมีความคิดเห้นของคนนอกสำนักเข้ามาสอดแทรก
ขั้นตอนแรก
ทำอย่างไรดีครับ?

 

หลวงพ่อฤาษีจะมาตอบได้ตอบไม่ได้
อยู่ที่คุณสังกัดสำนักไหน
จะเอาแบบ ยึด หรือ ไม่ยึด

 

ของที่คนอื่นเค้า "ยึด" ไว้แล้ว
"ยึด" ได้แล้ว

เราไปเห็นเค้า "ยึด" เข้า

เราควรทำอย่างไรครับ

สำนักที่สังกัดเนียะ มีผลนะครับ

 

5555.... คนถามยังงงเหมือนกันค่ะ...5555
แต่ถามกลับเยอะจัง ภาพที่เห็นก็มีสีสันปกติค่ะมีป่ามีต้นไม้มีก้อนหินเป็นอาสนะ ปกติมาก



"ทิพย์จักุษุญาญ" คำนี้แหละค่ะว่าดิฉันไปที่ญาณนั้นหรือเปล่า (แต่ก็งงงงกับคำนี้เหมือนกัน)

ส่วนความสามารถในการรวบจิต ดิฉันไม่ทราบตัวเองเหมือนกันค่ะ เพราะดิฉันไม่เคยกล้านั่งสมาธิเองนานเกินครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งได้เข้าฝึกวิปัสสนากรรมฐานอย่างจริงจังครั้งแรก เป็นเวลา 10 วัน เนี่ยแหละค่ะถึงได้กล้าที่จะมาปฎิบัติเองที่บ้าน

และก่อนหน้านี้ซึ่งมันก็เป็นมานานมากแล้วที่จะฝันหรือรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นความบังเอิญ จนมีคนบอกว่านั้นเป็นฌาณนอกสมาธิ ก็เลยสับสนว่าเกิดขึ้นได้งั้ย แล้วทำไมเกิด แล้วถ้าจริง นั้นก็จะตายแล้วนะซิ ยังปรงไม่ได้เลย

ส่วนศีล 5 ดิฉันพยายามปฎิบัติอย่างเคร่งครัดมาตลอด ที่ใช้คำว่าพยายามเพราะว่าทำงานบางครั้งก็ต้องพูดจาซิกแซกบ้าง ดิฉันจึงใช้คำว่าพยายามค่ะ

 

ฝันคลุมเครือ
อย่าเพิ่ง ไปให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องในฝัน
เนื้อเรื่อง จำเอาไว้ หรือจดบันทึกเอาไว้ก่อนก็พอ
หากเป็นเรื่องที่มีสาระ มันจะปรากฏสาระออกมาเอง

แต่หากตอนที่ฝันเห็นภาพ
สีสรรสดใสดี ปฏิสัมพันธ์จับเนื้อเรื่องได้ดี
รู้สึกมีอิสรเสรีกับเนื้อเรื่อง
ตื่นขึ้นจากฝันจำเนื้อเรื่องได้แม่น
และตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้สึกอ่อนเพลีย

ก้ถือว่าการภาวนาของท่านเป็นผล ไม่เสียเปล่า

ถือว่ามีกำลังฌานละเอียด มีแนวโน้มว่าจะภาวนาได้ดีขึ้นในอนาคต

 

ผมทายฝันให้เลยก็ได้

ชายชุดขาว มาบอกว่าจะให้ไปอยู่ด้วย
ไม่ได้แปลว่าจะเอาไปตาย

ปรกติเค้านิยมแปลว่า มีคนมาชวนให้ถืออุโบสถศีล หรือศีล8

โดยเหตุผลในความฝันชายชุดขาวให้ไว้ว่า

หากไม่ลองหัดถือศีล8 ดูบ้าง
การภาวนาอาจจะไม่ค่อยมีผล

พอได้มะ

 

คุณอารมณ์สุนทรีย์ คุณไม่โง่หรอกค่ะ คุณรู้เยอะกว่าดิฉันตั้งเยอะ

ใช่ค่ะทำอานาปาณสติ แล้วเข้าสู่วิปัสสนา

แต่เหมือนมันจะก้าวกระโดด กระโดดไปกระโดดมา (ฌาณ) จนงง

 

ปรกติคนเห็นเหตุการณืล่วงหน้า

จะไม่ถามคำถามอะไรแปลกพวกนี้

หากยังถามอะไรแปลกๆ ก้คือไม่รู้เหตุการณ์

คนรู้เค้าจะมาถามทำไม

เค้าต้องมาบอกสิ

คนไม่รู้สิถึงถาม

คนเห้นเหตุการณืล่วงหน้าเค้าจะถามอะไรมั้ย

ยกตัวอย่างของคนคำถาม ของคนที่เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้ามักถามมาซัก 2-3 คำถาม

หากยกตัวอย่างได้

ถือว่าเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า

 

โอ้.....ไม่ตายแหละ ดีใจเป็นที่สุด...อิอิ... แล้วทำไมต้องไปอยู่กับเค้าล่ะ เค้าเป็นใครก็ไม่รู้จัก

เรื่องศีล 8 ก็ต้องอดข้าวเย็นซิค่ะ (มันยากนะ) แต่ตอนนี้รับประทานแต่มังสวิรัต แล้วค่ะ

ฌาณละเอียด..... นั้นหมายความว่าดิฉันเดินมาถูกทางแล้วใช่มั้ยค่ะ?

 

คนเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ต้องตั้งคำถามแบบคนเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า
หากยังตั้งคำถามแบบคนเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าไม่ได้

แล้วใครจะเชื่อว่าเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า