ฐานทัพ UFO ในประเทศจีน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย tum399, 28 มกราคม 2007.

  1. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    ฐานทัพ UFO ในประเทศจีน


    พสุเชษฐ์ เขียน[​IMG]<O:p</O:p

    เรื่องราวเกี่ยวกับ UFO ยังคงเป็นเรื่องที่สร้างความฉงนสนเทห์ให้กับเรามานานนับ10ปีแล้วเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ที่ขับเคลื่อน UFO นั้นเป็นมนุษย์ที่มาจากโลกอื่นหรือโลกของเรากันแน่และถ้าเป็นมนุษย์ที่มาจากโลกอื่นจริงๆแล้วละก็มันมีความประสงค์ดีหรือประสงค์ร้ายกับเรา ที่จะกล่าวถึงในคราวนี้เป็นเหตุการณ์ครั้งใหม่ล่าสุดที่เกิดขึ้นในเอเชียบ้านเรานี่เอง
    <O:p</O:p
    Kongka la เป็นแนวสันเขาที่พาดผ่านบริเวณเทือกเขาหิมาลัยและเป็นขอบเขตพื้นที่พิพาทกันระหว่างจีนกับอินเดีย ทั้งสองเคยทำสงครามแก่งแย่งชิงดินแดนแถบนี้มาก่อน ซึ่งในปัจจุบันนี้จีนได้ยึดพื้นที่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีชื่อว่า AKSAI CHIN และอินเดียได้ยึดแถบตะวันตกเฉียงใต้ที่มีชื่อว่า LADAKH ครั้งใหญ่ในช่วงปี 1962 พื้นที่แห่งนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ลึกลับมากที่สุดแห่หนึ่งในโลก ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ต่างก็ลงกันว่า จะไม่มีการลาดตระเวนในขอบเขตพื้นที่ดังกล่าว แต่จากคำบอกเล่าของบรรดานักท่องเที่ยวพระภิกษุสงฆ์ และบรรดาผู้คนที่อาศัยอยู่ใน LADAKH ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ากองกำลังของทั้งฝ่ายจีนและอินเดียยังคงปักหลักรักษาดินแดนของตนแองอยู่นอกจากนั้นยังมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้อีกด้วยจากคำบอกเล่าของคนที่อยู่ในฝั่งจีนและฝั่งอินเดียนั้น สถานที่แห่นี้เป็นพื้นที่ที่มีคนเห็น UFO ลอยขึ้นมาจาพื้นดินซึงมีผู้คนอยู่ในบริเวนนั้นต่างก็ชื่อว่ามีฐานทับ UFO ซ่อนอยู่ในชั้นใต้ดินของพื้นที่แห่งนี้ และทางรัฐบาลจีนกับอินเดียต่างก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี
    <O:p</O:p

    นอกจากนั้น นักบวชฮินดูที่เดินผ่านหุบเขา KAILASH ทางทิศตะวันตกได้สังเกตแสงประหลาดที่อยู่บนฟ้า ขณะเดียวกัน ชุมชนท้องถิ่นที่อยู่ในอาณาเขตของจีนก็บอกว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องประหลาดเลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำจนดูเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และสิ่งที่เห็นนั้นเป็นยานมีแสงรูปร่างคล้ายสามเหลียม ค่อยลอยตัวขึ้นจากพื้นดินอย่างเงียบเชียบ
    <O:p</O:p
    พระธุดงค์บางองค์บางรูปที่มีความสนใจจะเข้าไปดูที่พื้นที่แห่งนั้นได้ถูกทหารฝ่ายจีนห้ามเข้า ในขณะเดียวกัน ทางทหารฝ่ายอินเดียห้ามเข้าอีกเช่นกัน ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายไม่ยอมให้ใครเดินทางผ่านเข้าออกระหว่างสองประเทศโดยการผ่านเข้ามาทางพื้นที่ดังกล่าว
    <O:p</O:p

    การกระทำของทหารที่ลาดตระเวนอยู่ชายแดนของอินเดียเป็นที่หน้าสงสัยต่อพระธุดงค์ที่อยู่ในบริเวนนั้นมาก จากการที่ทหารหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ที่นั่นได้กล่าวกับพระว่าได้รับคำสั่งไม่ให้ผู้ไดเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว และเป็นเรื่องจริงที่มีรูปทรงประหลาดลอยขึ้นมาจากใต้ดินและมีแสงที่สว่างมากๆผู้คนที่อาศัยอยู่ที่แถบนั้นพากันหัวเราะเยาะ เมื่อพวกพระที่มาถามถึง UFO ปรากฏตัวออกมาในบริเวนนั้นโดยได้มาอยู่อาศัยลึกลงไปในใต้ดินพวกพระเชื่อว่าทางรัฐบาลของจีนและอินเดียไม่ต้องการจะเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ด้วยสาเหตุบางอย่างและเมื่อพวกเขาเอาเรื่องไปเล่าให้รัฐบาลท้องถิ่นฟัง ก็ถูกกำชับว่าให้ปิดเรื่องราวเหล่านี้เป็นความลับ
    <O:p</O:p

    สถานที่ดังกล่าวเป็นเขตดินแดนที่เปลือกโลกแผ่นยูเรเชีย(Eurasia Plate)และแผ่นอินเดียน(Indian Plate) มาบรรจบกันในลักษณะเกยกันอยู่ แต่ที่นี่แผ่นเปลือกโลกได้มุดเข้าไปอยู่ข้างใต้ลึกกว่าที่อื่นๆในโลก เปลือกโลกที่มีความลึกขนาดนี้นี่เองที่เอื้อต่อการสร้างฐานทัพใต้ดินของ UFO อย่างเหมาะสมยิ่ง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    KONGKA LA นั้นเป็นแนวหุบเขาที่มีหินสีสวยสดใสอยู่มากมาย และนี่เองที่เป็นเหตูผลทางการจีนกับอินเดียไม่เข้าไปขุดอุโมงค์หรือทำเหมืองในพื้นที่ดังกล่าวที่ทั้งมีความเก่าแก่และยังไม่มีใครเข้าไปสำรวจอย่างจริงจัง
    <O:p</O:p
    เมื่อเร็วๆนี้เองทางการจีนกับอินเดียพยายามหาทางแก้ปัญหาในเรื่องข้อพิพาทระหว่างชายแดนที่เคยเกิดขึ้นและเริ่มสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันอีกครั้ง แต่ในพื้นที่ของ Aksai Chin ยังมีข้อพิพาทกันอยู่ และการเจรจาของทั้งสองฝ่ายยังไม่มีท่าทีว่าจะจบสิ้นลงได้
    <O:p</O:p
    ทางการจีนกับอินเดียได้กางแผนที่มีอาณาเขตติดต่อกันเป็นแนวยาวตลอดแนวเทือกเขาหิมาลัย และต่างถกเถียงกันในขอบเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอินเดียก็อ่างว่า Aksai Chin เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอินเดีย แต่ในทางกลับกันหลังจากที่จีนเอาชนะอินเดียในปี ค.ศ1962 ได้แล้วพวกเขาก็สร้างเส้นทางที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ผ่านเข้าไปในบริเวณ Kongka La แต่พวกเขาก็เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นโดยไม่บอกเหตุผล ซึ่งจากสาเหตุนี้จึงเป็นโอกาสให้อินเดียมาถกเถียงกับจีนเพื่อทวงพื้นที่ Aksai Chin กลับคืน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แม้แต่โรงเรียนที่อยู่บริเวนดังกล่าวต่างก็จัดการประกวดวาดภาพซึ่งเด็กๆมากกว่าครึ่งได้เลือกที่จะวาดรูป วัตถุประหลาดที่บินอยู่บนท้องฟ้า หรือกำลังเคลื่อนตัวออกจากหุบเขา ซึ่งเด็กๆยังคงจำสถานที่และเวลาปรากฏตัวของวัตถุรูปทรงประหลาดได้อย่างแม่นยำ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มีนักวิจัยเรื่องจานบินหลายท่านที่เชื่อว่ามีฐาน UFO ซ่อนอยู่ในชั้นใต้ดินหรือแม้แต่ในมหาสมุทร Kongka La เป็นสถานที่ที่มีปรากฏการณ์ที่น่าสนที่สุดในขณะนี้ วัตถุรูปทรงประหลาดได้ลอยออกมาจากหุบเขาที่ไม่มีใครเข้าไปถึงได้ ซึ่งหุบเขานี้ก็คือหุบเขาหิมาลัยซึ่งสภาวะอากาศลมแรงและอากาศหนาวจัดตลอดทั้งปี(แม้แต่น้ำตกที่ไหลออกมายังกลายเป็นน้ำแข็งได้ในพริบตา) ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในอากาศหนาวขนาดนี้น่าจะเป็นพวกที่มาจากนอกโลกมากกว่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หรือความเป็นไปได้อีกทางหนึ่งก็คือในบริเวณนั้นเป็นฐานทัพอากาศใต้ดินทางยุทธศาสตร์(Underground strategic air force base) ของใครบางคน แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะในบริเวณนั้นยังมีข้อพิพาทกันระหว่างจีนกับอินเดียอยู่ ไม่มีชาติไหนที่กล้าเข้ามาแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลของทังสองฝ่ายแน่

    <O:p</O:pแต่เมื่อมีผู้พบเห็นและรายงานเรื่อง UFO ที่ปรากฏในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมากขนาดนี้ ทางรัฐบาลทั้งสองฝ่ายต่างทำไม่รู้ไม่เห็น และบอกไม่ได้ว่าสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้านั้น ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรกันแน่? <O:p</O:p
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    *** พาหนะ ของ พระอรหันต์ ****

    คล่องตัว...ใช้เดินทางไป....โปรดสัตว์ ....
    จิตต่างระดับกัน...จึงมองเห็นต่างกัน...ไม่เห็นพระสักที !!!
    มนุษย์ เห็นเข้าคิดไปต่างๆ นานา
    บางชาติลงทุนสร้าง...สมรรถนะ ไม่ถึงไหน !!!
    มองเห็น...สวรรค์....แต่ ไปไม่ถึง !!!


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...