ดวงขะตาของคนที่เกิดมาเพื่อสร้างบารมี !!

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย รักไร้พ่าย, 4 พฤศจิกายน 2009.

  1. chakaktrai

    chakaktrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +429
    ไม่โดนกะเขาสัีกกะกลุ่มเลยอ่ะคะ
    แต่ไม่เป็นไรยังไงเราก็มีจิตเราเป็นที่ตั้ง
    ที่จะคิดดี ทำดี ประพฤติดี
    ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะไหนก็รอดด้วยปัญญาทุกครั้ง
    จริงมั้ยคะ..คุณรักไร้พ่าย..อิอิ
     
  2. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
  3. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare107.htm



    ถาม – หากสวรรค์มีแต่สุข และใจของเทวดานางฟ้ามีความรื่นเริงยินดีอยู่อย่างนี้ตั้งแต่เกิดจนตาย พวกเขาจะเบื่อหน่ายสวรรค์กันบ้างไหม?


    ตอบ - เหมือนความฝันในแต่ละคืน

    คุณจะบอกได้ชัดที่สุดว่าเป็นฝันดีหรือฝันร้ายก็ในขณะจิตแรกที่รู้ตัวว่าตื่นขึ้น โดยมากคุณจะตื่นขึ้นแล้วรู้สึกเฉยๆ สะท้อนให้เห็นว่าเป็นฝันธรรมดา แต่ถ้าตื่นขึ้นแล้วโล่งอก แทบไชโยโห่ฮิ้วที่เมื่อครู่เป็นแค่ฝัน นั่นย่อมฟ้องว่าฝันนั้นร้ายกาจยิ่ง

    ทางสุดท้ายคือตื่นขึ้นแล้วแทบอยากเอาหัวโขกปูนให้สลบลงฝันต่อ เพราะยังตักตวงสุขไม่เต็มอิ่ม ก็แปลว่าฝันที่เพิ่งขาดตอนไปนั้นดีเกินจริง แสนสุขเกินกว่าโลกมนุษย์จะให้กับคุณได้ เมื่อตื่นขึ้นจากฝันหวานทุกครั้ง คุณจะอาลัยอาวรณ์ แสนเสียดายเสมอที่มันเป็นแค่ฝัน นั่นก็เป็นเพราะคุณยังไม่อิ่มไม่เบื่อ ไม่รู้สึกว่าพอ

    ชาติภพก็เหมือนฝัน และสวรรค์ก็คือฝันดีที่สุดที่คุณจะตื่นขึ้นมาเสียก่อนเบื่อ เมื่อยังหลงใหลฝันดีแล้วยังไม่อยากตื่นฉันใด คุณก็จะยังไม่อยากละสวรรค์ลงมาสู่โลกมนุษย์ฉันนั้น ขณะอยู่บนสวรรค์ จิตของคุณจะเต็มตื่น สามารถในการรับรู้สิ่งต่างๆโดยรอบอย่างพิสดาร คุณจะได้เสพแต่ภาพและเสียงงามละไม ล้ำประสบการณ์ทางแก้วหูแก้วตาของมนุษย์ เป็นต้นว่าคุณจะลืมเครื่องเสียงที่ดีที่สุดในโลก เมื่อสัมผัสมิติกว้างยาวลึกของดนตรีสวรรค์ ที่ส่ำเสียงเครื่องประกอบใหญ่น้อยลอยมาจากโค้งฟ้าเบื้องไกลคนละทิศ สอดประสานกันอย่างกลมกลืน และเป็นไปตามรสนิยมทางดนตรีสุดท้ายก่อนคุณตายจากโลกนี้ไป

    เหล่าเทวดาจัดเป็น
    นันทิ คือผู้มีแต่ความยินดี มีแต่ความพอใจในสิ่งที่ประสบพบพาน หากนันทิเป็นผู้เบื่อ ผู้หดหู่เศร้าหมอง ก็จะไม่เรียกว่าเป็นนันทิอีกต่อไป ฉะนั้นสวรรค์จะต้องเป็นงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงชั่วนาตาปี เพื่อหล่อเลี้ยงความเป็นนันทิเอาไว้

    ด้วยธรรมชาติอันปรากฏขึ้นเพื่อหล่อเลี้ยงความเป็นนันทิ สวรรค์จึงถูกขนานนามว่าเป็น
    นันทะคือมีหน้าที่ส่งมนต์ขลังสะกดให้จิตตกอยู่ในห้วงแห่งความปรีดาอันมีรสประหลาดล้ำ ชวนให้เคลิ้มคิดอยู่ตลอดเวลา ว่านี่เป็นชีวิตอมตะ มองไปยังทิศใดจะไม่เห็นการแก่ อีกทั้งหายากที่จะมีตายให้ดูเป็นอุทาหรณ์ เพราะสภาพทิพย์มีความยืนยง หนำซ้ำเมื่อตายก็ล่องหนหายไปเลย ไม่มีภาพไฟเผาให้สะเทือนใจอย่างในโลกมนุษย์เรา

    เทวดาจึงเกิดอุปาทานอย่างเหนียวแน่น ว่าสวรรค์เป็นที่น่าพอใจ เป็นนันทะขั้นสูงสุด ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้คิดเบื่อหน่ายในหมู่เทวดาทั่วไป

    ต้นกำเนิดที่ก่อให้เกิดสภาพอันเป็นนันทะ ก็คือมหากุศลกรรมที่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ มนุษย์จะได้รู้หลังความตาย ว่าหน้าที่ของบุญกุศลนั้น เป็นไปเพื่อความสุข เป็นไปเพื่อความชื่นใจ เป็นไปเพื่อความสนุกรื่นเริงโดยส่วนเดียว

    เราพอจะเห็นตัวอย่างได้จากบนโลกมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหนังเฉิดฉายล่อตาของอิสตรี หรือสุ้มเสียงกลมกล่อมเสนาะโสตของผู้มีบุญทางเสียง เพียงด้วยประสบการณ์สัมผัสวัตถุหยาบบนโลกประมาณนี้ ก็พอจะทำให้เราเข้าใจได้ ว่าวัตถุอันทรงพลังดึงดูดใจเป็นอย่างไร


    แต่วัตถุหยาบบนโลกมนุษย์นั้น เมื่อเปรียบกับวัตถุทิพย์บนโลกสวรรค์แล้ว ก็เป็นได้เพียงแค่แม่เหล็กดูดใจ ขนาดกระแบะมือเดียว ไม่อาจเทียบรุ่นกับแม่เหล็กดูดใจขนาดใหญ่เท่าห้องได้เลย
    บนโลกมนุษย์นี้ ถึงแม้คุณมีทุกอย่างครบ ทั้งหน้าตา ฐานะ และคนรัก แต่แค่ไม่บริหารร่างกายให้สม่ำเสมอ คุณก็มีสิทธิ์เป็นโรคเซ็งชีวิต จิตซึมเศร้า แขนขาลีบไร้เรี่ยวแรงได้แล้ว ในขณะที่บนโลกเทวดานั้น


    ถึงแม้คุณเป็นเพียงเทพบริวารที่แทบไม่มีสมบัติเป็นของตนเอง คุณก็จะมีสุขภาพแข็งแรงเป็นนิตย์โดยไม่จำเป็นต้องบริหารร่างกายแต่อย่างใด แถมยังรู้สึกถึงกำลังวังชามหาศาล เหาะเหินทันใจ ไม่ต้องเดินให้ปวดเข่า
    (บนสวรรค์มีเดินพอเป็นลีลา การเดินไม่ใช่วิธีหลักในการเคลื่อนที่ของเหล่าเทวดา)

    คุณต้องชอบแน่ๆ ไม่เบื่ออัตภาพชนิดนั้นแน่ๆ

    กล่าวโดยรวม เมื่อเรามองภาพใหญ่ที่สุดของสวรรค์ จะเห็นประกอบด้วยธรรมชาติสองขั้ว ขั้วแรกคือ
    จิต อันยังชุ่มด้วยความทะยานอยาก เหมือนพรานล่าเนื้อที่พร้อมจะพุ่งเข้าหาเหยื่ออันโอชะในทันทีที่เห็น ส่วนอีกขั้วหนึ่งคือวัตถุทิพย์ อันเอิบอาบไปด้วยรัศมีดึงดูดรุนแรง เสมือนสนามแม่เหล็กที่ส่งกำลังอยู่ตลอดวันตลอดคืน

    ถ้าจะกล่าวว่าเทวดามีความเบื่ออยู่บ้าง ก็เพียงชั่วครั้งชั่วคราวครับ ธรรมชาติใดมีแรงดึงดูดเข้าหากัน ธรรมชาตินั้นย่อมมีแรงผลักออกแฝงอยู่ในตัวเองเสมอ กล่าวคือเมื่อถึงจุดอิ่มตัวของพลังดึงดูด ที่สุดแล้วก็เปลี่ยนเป็นแรงผลักออกจนได้


    เช่น บนสวรรค์นั้น อาหารทิพย์รสหนึ่งอาจส่งกลิ่นเย้ายวนชวนรับประทานเหลือจะกล่าว แต่เมื่อได้บริโภคซ้ำหลายครั้งเข้า แค่คิดถึงรสทิพย์เดิมๆ ก็เกิดแรงผลักให้นึกอยากไปหารสทิพย์อื่นๆแล้ว

    นี่ก็คล้ายกับพวกเรา ที่อาจเบื่อก๋วยเตี๋ยวมื้อนี้ จึงสลับไปกินข้าวผัดมื้อหน้า สิ่งที่แตกต่างกันไปบ้าง ก็คือคุณอาจเบื่อก๋วยเตี๋ยวเพราะแม่ครัวรสมือไม่ดี ปรุงก๋วยเตี๋ยวได้ห่วยมาก

    แต่ถ้าเป็นบนสวรรค์แล้ว ที่อาหารทิพย์จะไม่อร่อยนั้นไม่มี มีแต่อร่อยจัดหรืออร่อยพอประมาณ เทวดาจะอยากเปลี่ยนรสชาติด้วยเหตุผลเดียว คือต้องการความหลากหลายหรือความแปลกใหม่ ล่อใจให้กระโดดทะยานไม่หยุดนิ่งไปเรื่อย

    ถาม - มีคนบอกว่าเทวดายังเบื่อหน่ายทิพยสมบัติ อยากลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็มี ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?

    จิตของมนุษย์แต่ละคน และจิตของเทวดาแต่ละองค์นั้น เสพสมบัติด้วยความยินดียินร้ายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการสั่งสมกรรม การสั่งสมกิเลส และการสั่งสมปัญญา

    เหตุผลทางใจที่ทำให้เทวดาหมดความไยดีในสมบัติทิพย์ของตนมีอยู่หลักๆ ตามที่ปรากฏบันทึกอยู่ในคัมภีร์พุทธ เรียงตามลำดับความน่าจะเป็น คือ

    ๑) ทนริษยาเพื่อนเทวดาไม่ได้
    ทิพยสมบัติของเทวดานางฟ้าไม่เหมือนกัน มีความวิจิตรพิสดารผิดกัน ขึ้นอยู่กับบุญที่แต่ละองค์ทำๆกันมา

    ยามเทวดาเยี่ยมชมวิมานของเพื่อนแล้วประจักษ์ในความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ก็เป็นทำนองเดียวกับที่คุณเรียนจบมาพร้อมเพื่อน แต่ได้งานต่างกัน สิบปีให้หลังเพื่อนมีทั้งคฤหาสน์หลังโต โรงรถมีเก๋งใหญ่กับรถสปอร์ตขึ้นเงาวับ ในขณะที่คุณผ่อนทาวเฮาส์กับรถมือสองหัวหูยุ่ง คุณก็คงเริ่มคิดมาก บังเกิดความไม่พอใจในสมบัติและฐานะของตนเองขึ้นมา

    ที่แสลงใจเด็ดขาดกว่านั้น คือเมื่อเทวดาเห็นนางฟ้าของเพื่อนงดงามบาดตาเกินนางฟ้าของตน ก็คงประมาณคุณแอบหลงรักแฟนเพื่อน รูปร่างหน้าตาเธอเย้ายวน แต่ห้ามแตะต้อง เท่านั้นไม่พอ เมื่อหันกลับมามองเมียคุณเอง ก็เจอแบบเตี้ยล่ำดำปี๋เหมือนกระปุกออมสินเก่าๆ อันนี้แหละคุณอาจถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ


    ความทรมานใจในเรื่องพรรค์นี้มีเพียงใดบนโลกมนุษย์ ยังนับว่าน้อยเมื่อเทียบกับความทรมานใจบนสรวงสวรรค์ เพราะคุณไม่มีทางลักลอบมีชู้โดยเจ้าของไม่ล่วงรู้ อีกอย่างเทวดาถือกำเนิดขึ้นด้วยมหาปีติ มหาโสมนัสในบุญกุศล จึงยากที่จะก่อเรื่องอัปยศอดสูประเภทลักกินขโมยกินได้ไหว

    เมื่อเกิดความกลัดกลุ้มริษยา เทวดาทำได้มากกว่าเอาแต่คิด พวกเขาทราบทางมาแห่งสวรรค์ มีสัญชาตญาณรู้ละเอียดกระทั่งว่าสมบัติชิ้นใดได้มาจากกรรมแบบไหน ถ้าไม่รู้ก็ถามเพื่อนที่รู้ เช่นว่าเพื่อนเคยทำอย่างไรมาถึงได้บ้านใสพร้อมเมียสวยเห็นปานนั้น เทวดาด้วยกันก็มักบอกเล่าโดยไม่เห็นความจำเป็นต้องปิดบัง

    เขาย่อมทราบว่าสมบัติทิพย์จะเกิดขึ้นได้นั้น ที่มาเดียวคือบุญอันสั่งสมไว้ชอบแล้วขณะเป็นมนุษย์

    บนสวรรค์นั้น แม้ริษยากันเพียงใดก็ซื้อหาเพิ่มเติมมาแข่งขันกันไม่ได้ เพราะการเป็นเทพคือภพที่เอาไว้เสวยวิบากตายตัวตั้งแต่ผุดเกิดจนแตกดับ โอกาสที่จะเพิ่มเติมบุญบารมีนั้นยากกว่ามนุษย์มาก เนื่องจากเทวดาต่างก็ไม่ต้องการการช่วยเหลือ


    ต่างมีสมบัติที่ผุดขึ้นให้ตนใช้เฉพาะตัว ดังนั้นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจึงไม่มี และเมื่อไม่มีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ไม่มีที่ตั้งของการทำทาน ต่างฝ่ายต่างเสวยบุญของตนเป็นหลัก

    อีกประการหนึ่ง เมื่อสมบัติทิพย์เป็นสิทธิ์ขาดเฉพาะตน ก็ไม่จำเป็นต้องคิดแย่งชิงหรือฆ่าฟันกันให้เมื่อย เมื่อไม่มีเหตุบีบคั้นให้ทำบาป ก็ไม่ต้องตั้งใจรักษาศีล ๕ เมื่อไม่มีความยากลำบากในการรักษาศีล ๕ ทางมาแห่งบุญใหญ่ก็ถูกตัดไปอีกหนึ่ง

    อีกประการ แม้เทวดามีโอกาสทำบุญอยู่บ้าง เช่นไปฟังอริยเจ้าเทศนา หรือไปใส่บาตรพระธุดงค์กลางป่า แต่โดยทิพยสภาพนั้น ไม่เอื้อให้เหล่าเทวดานางฟ้าได้ใช้กำลังใจมากนัก คือเมื่อจะเดินทางไปฟังธรรมก็ไม่ต้องเตรียมตัว ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง


    แค่คิดอยากไป ตั้งใจไปจริงๆ แวบเดียวก็ถึงแล้ว หรืออย่างเมื่อคิดจะถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้าและพระอริยสาวก ก็เพียงเนรมิตอาหารอันเป็นรูปหยาบขึ้นมาด้วยฤทธิ์ทางใจ ไม่ต้องตระเตรียมหุงหา ไม่ต้องคิดว่ามีสตางค์พอจ่ายค่ากับข้าวเผื่อพระหรือเปล่า

    อันว่ากำลังใจในการทำบุญนั้น มีส่วนสำคัญยิ่ง ที่จะเป็นตัวกำหนดรัศมีแห่งบุญว่ามากหรือน้อย บนโลกมนุษย์เต็มไปด้วยข้อบีบคั้นให้ต้องคิดมาก อยากสละทรัพย์หรือสละแรงให้ใครแต่ละที อาจหมายถึงการชักเนื้อให้ตนเองมีน้อยลง ลำบากมากขึ้นได้ทั้งสิ้น

    ธรรมชาติแห่งบุญนั้น จะทวีสูงขึ้นเมื่อยอมมีน้อยลงเพื่อให้คนอื่นมีมากขึ้น ตลอดจนยอมตัวลำบากมากขึ้นเพื่อให้คนอื่นลำบากน้อยลง

    นี่แหละครับ ที่มาข้อแรกของการ
    กลั้นใจตาย แห่งเทวดา เขาจะกำหนดจิตอย่างแน่วแน่เพื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ยอมลืม ยอมไม่รู้ ยอมลำบาก ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาจากสวรรค์ไป ก็เพื่อมาทำบุญเพิ่ม รูปชีวิตของเขา นับแต่การได้มาเกิดกับพ่อแม่แบบหนึ่งๆ ตกอยู่ภายใต้ความกดดันแบบหนึ่งๆ จะสอดคล้องกับแรงอธิษฐานขอบำเพ็ญบารมีแบบนั้นๆก่อนสละสวรรค์
    พวกคุณบางคนเพิ่งลงมาจากสวรรค์ด้วยเหตุคือหมดบุญ ช่วงต้นชีวิตอาจจะยังติดอยู่กับวิสัยทัศน์เทวดา อะไรๆดีหมด สบายหมด

    สุดท้ายก็โดนความเหลิงแบบมนุษย์เอาไปกิน แต่พวกคุณบางคนเพิ่งลงมาจากสวรรค์ด้วยเหตุคืออยากบำเพ็ญบุญเพิ่ม ช่วงต้นชีวิตจะชมชอบเรื่องการทำทาน การรักษาศีล การไหว้พระสวดมนต์ โดยไม่ต้องมีใครขู่เข็ญบังคับ แค่เห็นแบบอย่างดีๆก็อยากเอาตามทันที


    และยิ่งโตขึ้นความตั้งใจจะยิ่งเด่นชัดอย่างประหลาด ตั้งใจทำแต่ความดี มีความผูกพันกับสวรรค์อย่างลึกซึ้ง แค่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเทวดานางฟ้าแล้วเกิดปีติอย่างใหญ่ราวกับสัมผัสทิพยสภาพได้ ที่สำคัญคือเคยอธิษฐานตั้งใจทำดีแบบใด แรงอธิษฐานนั้นจะแปรเป็นสัญญาณนำร่อง เกิดความอยากทำ และตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเทด้วยชีวิตจิตใจทั้งหมด

    ยกตัวอย่างเช่นเทวดาที่จุติด้วยแรงอธิษฐานอยากได้นางฟ้างามพิลาศทัดเทียมเพื่อน เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ก็จะแสวงหาหญิงที่ดี หรือพร้อมจะดี ไม่สนใจรูปร่างหน้าตามากนัก เพียงเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง และร่วมทำบุญแบบไปไหนไปกัน เท่าไหร่เท่ากัน


    จิตทั้งส่วนตื้นส่วนลึกจะมองเลยไปข้างหน้า เลื่อมใสในบุญ เชื่อในผลบุญ และไม่ไยดีกับฐานะทางโลกมากนัก ผลสุดท้ายเขากับเธอย่อมรักและผูกพันกันด้วยอำนาจบุญทั้งในชาติปัจจุบัน และไปครองวิมานร่วมกันอีกในปรโลก สมความปรารถนาแต่ดั้งเดิมของ เขา

    ๒) ทนรับฐานะต่ำต้อยของตนเองไม่ได้
    เทวดาบางองค์ต้องตกไปเป็นบริวารของเพื่อน เพราะเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ต้องให้เพื่อนฉุดลากถูลู่ถูกังไปทำบุญ หรือต้องให้เพื่อนหว่านล้อมตะล่อมให้ศึกษาธรรม หรือต้องให้เพื่อนเกลี้ยกล่อมเป็นวรรคเป็นเวรกว่าจะยอมเลิกผิดศีลผิดธรรม เช่นนั้นจึงได้ชื่อว่าพึ่งบุญ พึ่งบารมีเพื่อน หาใช่เป็นเครดิตบุญบารมีของตนเองไม่

    แม้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์จะทำดี สั่งสมบุญไว้ไม่น้อย แต่ก็เป็นไปด้วยกำลังใจที่อ่อน ขาดเพื่อนพยุงเมื่อไรก็ดีดตัวออกจากวงจรบุญเมื่อนั้น ในที่สุดแม้จิตจะถึงสวรรค์ แต่ก็เป็นการถึงสวรรค์ตามเพื่อน เลยต้องไปอยู่ในวิมานของเพื่อนในฐานะบริวาร ไม่มีวิมานแสดงความเป็นเจ้าของบุญของตนเอง

    ถ้าคุณเคยสนิทสนมกับใคร ชนิดเล่นหัวกันได้ไม่ถือสา แล้ววันหนึ่งคุณต้องตกไปเป็นลูกน้องของเขา รับคำสั่งเขา เห็นเขาพูดจาวางฟอร์มเจ้านายกับคุณ คุณคงอยากลาออกจากงานไวๆ ซึ่งนั่นก็เช่นกัน การ
    กลั้นใจตายของเทวดาประเภทที่ตกไปเป็นบริวารเพื่อน คือวิธีหลบหน้าที่ดีที่สุด

    โดยมากเทวดาที่ลาสวรรค์ด้วยอาการทำนองนี้ จะไม่มีเจตนาที่แน่วแน่นัก อย่างมากแค่อยากไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อริเริ่มทำบุญด้วยตนเองบ้าง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นบุญประเภทไหน รู้แต่ว่าถือกำเนิดเกิดมาพร้อมกับความทระนง ไม่ชอบอยู่ใต้อาณัติใคร แตกเป็นแตก หักเป็นหัก พร้อมจะตบเท้าลาออกทันทีที่ไม่ชอบหน้าเจ้านาย

    บางทีโทสะและความอยากเป็นตัวของตัวเอง ก็แปรเป็นแรงผลักดันให้ทำบุญยิ่งใหญ่ได้เอง แต่หากจับพลัดจับผลู เข้าช่องความถือดีนำหน้า ก็อาจทำบุญแบบคนใจแคบ อยากเอาหน้าเอาตา และเผลอทำบาปประการต่างๆโดยมีความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นตัวบีบได้

    แต่ถ้าโชคดี เทวดาผู้เป็นเพื่อนยังเมตตาสอดส่อง ก็อาจได้เปรียบ คือใช้ชีวิตแบบมีเหล่าทวยเทพผู้เป็นเพื่อนเก่าคอยให้ความช่วยเหลือในรูปของแรงดลใจ หรือดลเหตุการณ์บางอย่างที่มีผลกับการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ เช่นถ้าจะตกลงร่วมมือกับโจร ก่อนหน้านั้นจะมีฝันเห็นความวิบัติของตนล่วงหน้าเป็นฉากๆ สมเหตุสมผล สมจริงสมจัง ตื่นขึ้นจึงเลิกคิดคบโจร หันมาคบปราชญ์แทน เป็นต้น

    ๓) พระโพธิสัตว์ปรารถนาจะบำเพ็ญบารมีต่อ
    พระโพธิสัตว์คือผู้ที่อยู่ในระหว่างการบำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ท่านจะรู้ด้วยอภิญญาจิตแบบเทวดา ว่าตนเองมีรัศมีแห่งโพธิญาณแก่กล้าเพียงใดแล้ว นั่นเป็นเหตุบันดาลใจให้ฮึกเหิม ไม่กลัวความลำบากในโลกมนุษย์ เสวยสวรรค์เพียงครู่เดียวก็ทุรนทุราย ใคร่อยากลงมาเป็นมนุษย์เพื่อเติมบารมีที่พร่องให้เต็มไวๆ

    พระโพธิสัตว์ประเภททิ้งความสุขบนสวรรค์มาลำบากในโลกมนุษย์ได้นั้น มักเป็นเทวดาชั้นดุสิต ซึ่งเป็นแหล่งรวมเทวดาผู้ใหญ่ ผู้พร้อมจะเสียสละตนเองเพื่อสรรพสัตว์ หรือไม่อีกทีก็เป็นพรหมซึ่งถือกำเนิดจากการบำเพ็ญเพียรเยี่ยงนักบวชผู้แผ่เมตตาได้ระดับอัปปมัญญา คือจิตใหญ่และแผ่กว้างได้ไม่มีประมาณ

    การตัดสินใจลงมาบำเพ็ญบารมีแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยและเหตุผลหลายๆอย่าง แต่โดยหลักก็คือ พระโพธิสัตว์จะลงมาด้วยความตั้งใจช่วยคน แต่การช่วยคนของพระโพธิสัตว์ก็มีเรื่องของมุมมองเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกท่านอาจเป็นพระเอกในหลายครั้ง แต่บางคราวเป็นวายร้ายอันดับหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปก็มี บุญใหญ่กับบาปหนักบางทีก็มาด้วยกันเหมือนเหรียญสองด้าน

    ๔) เห็นความไม่เที่ยง
    การเห็นความไม่เที่ยงบนสวรรค์นั้น ไม่อาจเกิดขึ้นขณะกำลังสนุกอยู่กับการเสพกาม อย่างน้อยต้องเคยบำเพ็ญเพียร เจริญวิปัสสนามาเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เห็นความเกิดดับ เห็นความไม่ตัวตนในรูปนามทั้งปวง กระทั่งจิตเกิดแรงดัน ปรารถนานิพพานแน่นอนแล้ว เพียงแต่อายุไม่ยืนพอจะบรรลุมรรคผล มีอันเป็นไปเสียก่อน

    มนุษย์เหล่านี้เมื่อตายลง แล้วไปอุบัติบนสวรรค์ ก็อาจตื่นเต้นในสภาพแวดล้อมใหม่ ตลอดจนยินดีในนางทิพย์และสมบัติทิพย์ได้บ้าง แต่หากแรงดันจากความปรารถนานิพพานที่สั่งสมมามีมากพอ ก็จะชนะความตื่นเต้นยินดีเสียได้ เห็นว่าภพแห่งเทวดาก็ยังมีน้ำตา และเกิดสัญชาตญาณรู้ขึ้นเองว่า
    ที่ใดมีน้ำตา ที่นั่นยังไม่สุขจริง

    เทวดาอื่นอาจเพ่งเล็งกามสุขชั้นเลิศ แต่เทวดาที่เอาวิปัสสนาญาณติดตัวมาด้วย จะเพ่งเล็งไปที่ความไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นไม่ควรวางใจ ไม่ควรฝากใจไว้ ใจจะน้อมไปสรรเสริญก็แต่การเข้าถึงมรรคผลเพื่อพ้นจากปวงทุกข์โศก พ้นจากความพรากจากแล้วๆเล่าๆไปเสีย

    หากวิปัสสนาญาณยังแจ่มจ้า เพราะเห็นความเกิดดับเข้ามาได้ถึงสภาพจิตเป็นขณะๆ เทวดาตนนั้นก็อาจบำเพ็ญเพียรต่อบนสวรรค์ได้เลย แต่หากวิปัสสนาญาณยังมีกำลังอ่อน ไม่อาจเอาชนะความยวนใจของทิพยสภาพได้ ท่านก็อาจตัดสินใจลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง พวกนี้เกิดเป็นมนุษย์อีกทีจะใกล้วัด ใกล้พระ ใกล้ธรรมขั้นสูงตั้งแต่เด็กๆ ต่อให้ใช้ชีวิตอย่างไร ในที่สุดโตขึ้นรู้ความก็ต้องเบื่อโลก เห็นความไร้แก่นสารของสรรพสิ่ง และอยากประพฤติธรรมเพื่อความหลุดพ้นสถานเดียวครับ

     
  4. อย่าลืมฉัน

    อย่าลืมฉัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +2,807
    ไม่เข้ากลุ่ม 1 และ 2

    สงสัยจะเป็นกลุ่ม 3

    อิอิ :cool:
     
  5. juten

    juten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +296
    วันอาทิตย์ ปีวอก ครับ
     
  6. แหวนหมั้น

    แหวนหมั้น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +29
    อนุโมทนาสาธุค่ะ เกิดวันจันทร์ปีมะเมียอ่ะ ไม่โดนเลยสักกลุ่ม
     
  7. sahathatch

    sahathatch สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    อนุโมทนาครับ

    ตรงกับดัวเองมากครับ (อยู่ในกลุ่มที่1และ 2 เลยครับ)
    เกิดวันเสาร์ เดือนกันยายน ปีมะแม
     
  8. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    555+เราพวกเดียวกันนะเออ...เจ้ายุ...
    หาพวกเจอแล้ว....
     
  9. nattysri

    nattysri สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +6
    เห็นด้วย

    :boo:อยู่ทั้งกลุ่มที่1 และ กลุ่ม 2 เลย โดนเลย
    วันจันทร์ เมษายน ปีขาล
    คือสนใจสวดมนต์ นั่งสมาธิ ตั้งแต่5-6 ขวบแล้ว และชอบไปปฏิบัติธรรมด้วย
    ใครมาคิดร้ายไม่ได้เลยนะ ก็รู้สึกเลยล่ะ
     
  10. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216
    ขอสอบถามครับ

    พอดีไม่ทราบว่าตัวเองจะนับว่าเป็นกลุ่มสองหรือเปล่า

    เพราะเกิดวันศุกร์ เดือนมีนาคม
    เลยไม่แน่ใจว่าคุณรักไร้พ่ากำหนดแบบไหนครับ
    ว่าเดือนนับแบบไทยหรือสากลครับขอทราบด้วยครับ


    ด้วยความเคารพ
    อ๋องครับ
     
  11. moondance2

    moondance2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +1,122
    เกิด วันศุกร์ สิงหา มะแม เฉียด หมดเลยง่ะ

    :boo:
     
  12. burapa23

    burapa23 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +51
    เข้าข่ายกลุ่มที่ 1 ครับเกิดเดือนมีนาคม ปีฉลู แม่นดีครับ
     
  13. HuiMayflower

    HuiMayflower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +824
    วันอาทิตย์ ปีเถาะ ไม่เข้ากลุ่มไหนเลย แต่ชีวิตจริง ๆ เป็นอย่างกลุ่ม 2 ค่ะ
    โดนหมัด heavy weight อัดหนัก ๆ เต็ม ๆ เป็นปี
    เลยเข้าทางธรรม เริ่มภาวนา ยิ่งโดนกระหน่ำหนักกว่าเดิม
    ก็ยังต้องอดทนค่ะ เพราะอาจารย์ที่นับถือกัน บอกว่า มันเหมือน..จะเร่งให้เราใช้กรรมหนักให้หมดไว ๆ มันเลยจะกระหน่ำหนัก ๆ พร้อม ๆ กัน (ท่านให้คิดว่านี่น่ะดีแล้ว)

    แล้วหลังจากนี้จะเบาลง ๆ ๆ
    ให้รักษาศีลให้ได้ (จากที่ไม่เคยมี เป็นคนร้ายกาจมาก)
    แล้วชีวิตใหม่จะปรากฎ..

    เราอดทนอยู่ค่ะ จะไม่เป็นคนขี้แพ้ต่อไปอีกแล้ว

    อ้อ..
    แต่ของคนสนิทข้างตัวคนนึง เข้ากลุ่มสองค่ะ
    เพราะชีวิตเค้าโดนดึงเข้าทางธรรม (โดยที่เค้าไม่รู้ตัว) มาพักนึงละ
    เรากำลังมองกรรมที่เค้ากำลังทำอยู่ (และเป็นกรรมซ้ำซากที่เค้าทำมานาน 7-8 ปีได้แล้ว)
    มันจวนสุกงอมเต็มที..
    และกำลังรอเวลาให้ถึงวาระของเค้า ซึ่งไม่นานแน่ ๆ
    อาจารย์บอกให้เราปฏิบัติไปก่อน ถึงเวลาเราจะได้ช่วยเค้าได้ด้วย..
     
  14. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ผมไม่ตรงกับหมวดหมู่ทั้งสองเลย ฮิๆๆ เรานี่มันเกิดมาเพื่อใช้กรรมจริงๆ
     
  15. K'San

    K'San สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    แม่นยำเลยครับ

    ตรงกับตัวเองที่อยู่ในกลุ่ม1+2 ครับ
     
  16. unbeatable

    unbeatable เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +151
    ไม่ตรงเลยครับ ของผมคงต้องอยู่กลุ่ม4 ไปพระนิพพานชาติปัจจุบันครับ (หวังว่านะครับ อิอิ)
     
  17. Blue Dragon

    Blue Dragon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +26
    เข้ากลุ่มที่ 2 ครับ เกิดวันศุกร์ ปีมะเมีย
    "กลุ่มที่ 2 ต้องเจออะไรหนักๆ หรือ เจออะไรหลอนๆ ก่อนจะเชื่อในธรรมะ"
    ตรงจริงๆครับ เพราะตอนนี้กำลังพบเจอแต่เรื่องไม่สบายใจอยู่ กำลังหาเวลาไปปฏิบัติธรรมอยู่ครับ
     
  18. Mr.dekwat

    Mr.dekwat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    ผมเข้าทั้ง 2 กลุ่มเลย พฤษภาคม ปีเถาะ และ วันอังคาร ปีเถาะ ถึงได้ทุกข์เป็นประจำ อิอิ :'(
     
  19. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    555 ไม่ตรงเลยซักกลุ่ม มะเป็นไรบารมีสร้างเองชาตินี้ก็ได้ ไม่มีคำว่าสาย สำหรับบุญ อิอิ
     
  20. pimenax

    pimenax สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    ผมอยู่กลุ่มหนึ่งอ่ะ อังคาร ปีขาล เดือน 5
     

แชร์หน้านี้

Loading...