ดาวสุข

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 8 มีนาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    หนังสือ ดาวสุข (อรุษา กิตติวัฒน์ คำนิยมโดย อ.วชิรเมธี)

    http://www.ruendham.com/book_detail.php?id=56

    คำนิยม
    ดาวสุข
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>
    แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์
    ทาง
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    อั้ม
    ฐนิชา ดิษยบุตร
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>
    อ้น
    สราวุฒิ มาตรทอง
    พิจารณา
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    อุ๊
    ช่อผกา วิริยานนท์
    ธรรมะวาไรตี้

    ย้อนกลับไปหลายปีก่อน อุ๊-ช่อผกา วิริยานนท์ เคยสวมบทบาทพิธีกรและผู้อยู่เบื้องหลังรายการโทรทัศน์
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>
    ท็อป
    ดารณีนุช โพธิปิติ
    ย้อนมองตัวเอง
    ด้วยธรรมะภาคปฏิบัติ

    หลายคนคงคุ้นเคยกับบทบาท โหด มันส์ ฮา หน้าจอทีวีของ ท็อป- ดารณีนุช โพธิปิติ อันที่จริงเธอเป็น Working Woman ทำงานหลายอย่างทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ในความเป็นครอบครัว เมื่อถนัดทำงานนอกบ้านมากกว่า ท็อปจึงสวมบทบาทหัวหน้าครอบครัวผู้เป็นฝ่ายออกไปทำงาน ขณะที่สามีทำหน้าที่พ่อบ้าน

    ภายใต้บุคลิกห้าวและดุ จริงๆ แล้วเธอเป็นคนใจดีมีน้ำใจ เผื่อแผ่ไปยังเพื่อนสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมงาน และคนอื่นๆ

    หลายปีผ่านไป จากหญิงแกร่งและเก่ง ท็อปเริ่มเกิดคำถามในชีวิต ใจที่เคยเบาสบายเริ่มขุ่นมัว เธอคิดว่าเป็นเพราะประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ขณะที่เธอเติบโตขึ้น มองเห็นโลกจริงว่าไม่ได้สวยงามอย่างที่เคยเข้าใจ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เคยอยู่ในหัวใจจึงค่อยๆ หดเล็กลงๆ และในที่สุดก็ตายจากเธอไป แต่การปฏิบัติธรรมทำให้เธอเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงกว่า และที่สำคัญเธอพบว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผู้เปรียบเสมือนความสดใสมองโลกในแง่ดีนั้นยังมีชีวิต
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    จริงๆ ชีวิตเราไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย มีแต่ปัญหาภายใน เพราะเราทำงานหลายอย่าง เหมือนสวมหมวกหลายใบ เมื่อก่อนนี้เราทนได้ เป็นคนไม่สงสารตัวเอง เราคิดว่าทำไหว แต่ลืมใจที่มันหนักมันล้า พอเหนื่อยเรื่องอารมณ์เลยปรวนแปร จากพื้นฐานที่เคยเป็นคนจิตใจดี ชอบให้ เคยมองเห็นความสวยงาม หรือมองอะไรด้วยใจ กลายเป็นคนแข็งกระด้าง โทสจริต ต้องให้ได้ ให้เสร็จ หลังๆ เราเริ่มไม่ค่อยชอบตัวเอง รู้สึกว่าบางทีอารมณ์เราน่ารังเกียจ

    เราอยากให้มันง่ายๆ สบายๆ บางทีเห็นคนอื่นที่ประสบความสำเร็จยิ่งกว่า หรือเก่งกว่าเรา ทำไมดูเขาเบาสบายกว่าเราตั้งเยอะ ไม่เห็นเคร่งเครียดจริงจังอะไรขนาดนี้ กลับมามองดูชีวิตตัวเองอย่างที่ไม่หลอกตัวเอง เราคิดว่าพอใจชีวิตที่เป็นอยู่แล้ว ทำงานมีเงินมีทองเลี้ยงครอบครัว ไปเที่ยวไปกินเหล้า ชีวิตมีความสุขสนุกจะตาย เป็นโลกของความหลง
    ตอนนั้นคิดว่าเข้าใจตัวเอง คิดว่านี่แหละความสุข

    เสร็จงานเราหาความสุขด้วยการไปกินเหล้า เที่ยวเฮฮาสนุกสนาน จนวันนึงมันเกิดเบื่อหน่ายต่อสภาพแบบนี้ พอดึกๆ ลูกนอนแล้วเราก็ออกไปเที่ยว เริ่มรู้สึกว่าไม่มีสาระอะไรเลย เหมือนเราหนีตัวเองรึเปล่า พอหันไปมองเริ่มเบื่อหน่าย รู้สึกเป็นอะไรที่เดิมๆ หาสาระกับสิ่งที่ทำไม่ได้

    เราเมา เราสนุก ณ เวลานั้น มีพฤติกรรมบ้าๆ บอๆ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นอารมณ์ตกตะกอนเป็นเรื่องอะไร วันไหนหงุดหงิดหรือพยายามแบกรับโน่นนี่ กดทับเอาไว้ พอกินเหล้าก็ระเบิดออกมา กลายเป็นอารมณ์ก้าวร้าว เกเร ไปหาเรื่องทะเลาะกับคนบ้า ทำอะไรประสาทๆ พอหายเมาแล้วก็ลืม จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เรารู้สึกว่าทำไมเราเป็นอย่างนี้อีกแล้ว ไม่ชอบตัวเองทุกครั้งที่เป็น

    เราเป็นคนพุทธ
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    บุ๋ม
    ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
    ดึงสติอยู่กับตัว มองปัญหาในแง่บวก

    ตั้งแต่เด็กโรงเรียนบุ๋มมีสอนเรื่องสวดมนต์ คุณแม่เองก็คอยสอนให้สวดมนต์ ไหว้พระ ตักบาตร พอปีใหม่ครอบครัวเราไม่ได้ฉลองอะไร แต่คุณพ่อต้องวางแผนแล้ว ว่าเราจะไปทำบุญตักบาตรกันที่จังหวัดไหน แม่บุ๋มเป็นคนฉะเชิงเทรา เลยพยายามพาบุ๋มไปที่วัดหลวงพ่อโสธร แล้วก็ไปที่วัดอื่นๆ แม่บอกว่าการทำบุญเราต้องทำบุญทุกๆ วัดโดยไม่เลือก เราตักบาตรจะต้องไม่เลือกเหมือนกัน ว่าเราจะตักบาตรพระรูปที่แก่ที่สุด ดูพรรษาเยอะกว่า แม่ยังสอนในเรื่องการทำทาน ถึงวันเกิดบุ๋มหลังจากที่ตักบาตรตอนเช้าแล้วบุ๋มจะเอาเหรียญที่สะสมไว้ในกระปุก เดินไปหยอดให้ขอทานตามท้องถนน เป็นสิ่งที่แม่ปลูกฝังเรามา

    จนกระทั่งเริ่มเป็นวัยรุ่น พออายุประมาณ ๑๒-๑๓ แม่สอนให้บุ๋มสวดคาถาชินบัญชร มีการยกครูด้วย จริงๆ แล้วท่านไม่ต้องการให้เราสวดถึงขนาดจะบรรลุหรืออะไร แต่ต้องการให้เรามีสมาธิ มีจิตที่ตั้งมั่น เพราะว่าการสวดมนต์ไม่ว่าจะเป็นบทไหนก็ตามดีทั้งนั้น การสวดคาถาอย่างเช่นชินบัญชรบทค่อนข้างจะยาว ทำให้บุ๋มมีสมาธิตรงนั้นได้นาน

    แม่เห็นว่าเราเป็นวัยรุ่นไงคะ กลัวเราใจร้อน กลัวห่างเหินแม่จนเกินไป เพราะทุกครั้งที่สวดมนต์ก่อนนอนบุ๋มจะนั่งอยู่ข้างๆ แม่ เพราะนอนห้องเดียวกับแม่ ถึงจะมีห้องนอนของตัวเองกลายเป็นไว้ใช้ใส่เสื้อผ้าอย่างเดียว บุ๋มจะเอาเสื่อปูข้างล่างนอนกับพื้น พ่อแม่ก็นอนบนเตียงไป จนกระทั่งโต
    </TD><TD> [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    บุ๋มเป็นลูกคนเดียว แม่เลี้ยงเราเหมือนเพื่อน ท่านไม่ได้ทำงานเพราะต้องการจะเลี้ยงเราให้มากที่สุด ดังนั้นบุ๋มจึงค่อนข้างจะสนิทกับแม่มาก ตอนเด็กๆ บุ๋มซนมากอยู่นิ่งๆ กับที่ไม่ได้เลย เป็นเด็กไฮเปอร์ สมาธิสั้น แม่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนมาก

    ตอนนี้คนจะมองว่าทำไมบุ๋มทำอะไรเร็วเหลือเกิน ทำโน่นทำนี่เยอะแยะมากมาย จริงๆ แล้วอาจเป็นเพราะบุ๋มอยู่นิ่งๆ กับที่ไม่ได้ ในหัวสมองบุ๋ม ตอนที่อยู่ตรงนี้จะคิดไปทางอื่นแล้ว ดังนั้นการฝึกสมาธิโดยการสวดคาถาชินบัญชร การต่อจิ๊กซอว์หรืออะไรก็ตาม ทำให้บุ๋มได้ฝึกสมาธิตัวเอง ค่อยๆ มีสมาธิแล้วก็จิตตั้งมั่นตรงนั้น

    หลายๆ ท่านพูดว่า สติต้องมาก่อนปัญญา เขาถึงใช้คำว่าสติปัญญา เราไม่เคยได้ยินคำว่าปัญญาสติ คือสติต้องมาก่อนปัญญา ถ้าสติมี ปัญญาถึงมี เลยเหมือนกับว่าถ้าเรามีจิตที่ตั้งมั่น มีใจที่สงบ เวลาเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ เราจะเห็นทางหลุดพ้นปัญหา

    ตอนเด็กบุ๋มโดนเพื่อนล้อว่ายายหน้ากระ ตอนนั้นนึกในใจทำไมมาล้อเราอย่างนี้ พอกลับมาบ้านแม่บอกว่า เพราะเขาไม่มีอย่างเรามั้ง แม่พยายามสอนให้บุ๋มมองโลกในแง่ดี สอนให้มองเห็นความเป็นจริงหลายๆ อย่าง เพราะชีวิตเรายังต้องเจอะเจออะไรอีกมาก ไม่ถึงขนาดพยายามดึงบุ๋มให้หนีจากโลกแห่งความจริง ยึดหลักอะไรมากจนเกินไป แต่ให้หลักธรรมในการที่จะมีหนทางดับทุกข์ แม่ให้บุ๋มไปแจมทุกๆ ศาสนานะคะ แม่บอกทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี จะไหว้พระพรหม จะศาสนาซิกข์-ฮินดู ตอนเรียนเอแบค บุ๋มก็ไปนั่งในโบสถ์คริสต์ คือทำอะไรก็ได้ที่ช่วยให้จิตใจสงบ

    แต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาเดียวที่มีทางหลุดพ้นจากความทุกข์ เป็นศาสนาเดียวที่มีคำสอนอย่างนี้ออกมา บุ๋มมองว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าพอมานั่งวิเคราะห์หลายๆ อย่าง ไม่เชย ไม่เคยล้าสมัยและใช้ได้กับความเป็นจริง อย่างเช่น มัชฌิมาปฏิปทา เดินทางสายกลาง ไม่ดีใจไม่เสียใจอะไรมากจนเกินไป อย่างตอนบุ๋มได้เป็นนางสาวไทย บุ๋มดีใจที่ได้ตำแหน่งนี้ แต่แน่นอนว่าต้องแลกอะไรไปหลายอย่าง ทั้งความเป็นส่วนตัว ข่าวที่เกิดขึ้นทั้งจริงและไม่จริง การต้องระวังคน ทั้งที่ก่อนนี้ไม่เห็นต้องระวังอะไรมากมาย เดินไปไหนก็สบายใจ

    ทุกอย่างมันมีทางสายกลาง แต่เมื่อเราหลุดไปทางใดทางหนึ่ง ดีใจอะไรมากเกินไปแล้ว ณ วันหนึ่งถ้าบุ๋มไม่ดังขึ้นมาล่ะ อย่างทุกวันนี้ถือว่าโชคดีที่บุ๋มยังมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เคยโดนเตือนสติมาว่า ไม่ได้นะบุ๋ม ให้จำวันแรกที่เดินก้าวเข้าไปสมัครนางสาวไทย นั่นแหละตัวตนที่แท้จริง บุ๋มไม่ใช่เป็น ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่ทุกคนรู้จัก แต่บุ๋มเป็นไอ้บุ๋มคนเดิมที่ทุกคนรู้จักตั้งแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นเราไม่ดีใจอะไรมากจนเกินไป มิเช่นนั้นถ้าวันหนึ่งตกลงมา เราก็จะฟุบ จะอยู่ตรงกลางไม่ได้เลย

    แล้วก็ไม่เสียใจอะไรมากจนเกินไป ตอนบุ๋มท้องได้ ๗ เดือน น้าสาวที่เลี้ยงบุ๋มมาตั้งแต่เกิดท่านเสียกะทันหัน บุ๋มช็อกมาก เพราะเราอยู่ด้วยกันมานาน เดือนนั้นน้ำหนักตัวไม่ขึ้นเลย คุณหมอถึงขนาดอัลตราซาวนด์ด่วนเพราะกลัวมีผลกระทบต่อเด็ก แต่บุ๋มมานั่งคิดว่า มันคือความจริงที่ต้องเกิดขึ้น จะช้าจะเร็วก็ต้องเกิด คิดเสียว่าคุณน้าไปดีแล้ว ถ้าอยู่กับเราอาจต้องเหนื่อย ทำงานเหนื่อย ใช้กรรมต่อไป ก็เลยทำใจได้เร็ว กลับมาเหมือนเดิมได้

    รวมถึงข่าวร้ายที่บุ๋มเป็นมะเร็งปากมดลูก ตอนบุ๋มเจอเชื้อมะเร็งปาก-มดลูก บุ๋มท้องได้ประมาณ ๓ เดือน อาจเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอ ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เชื้อเลยแข็งแรง ชนะภูมิต้านทานของเราได้ ทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลง เรียกว่าเริ่มเป็นขั้นที่หนึ่ง ตอนนั้นช็อก ลูกฉันจะเป็นยังไงบ้าง ทำไมชีวิตฉันต้องเจออย่างนี้ ฉันประสบความสำเร็จในชีวิตได้ด้วยการฝ่าฟันและต่อสู้อะไรมาหลายต่อหลายอย่าง ฉันทำบุญมาตลอด ฉันทำทานมาตลอด ฉันทำสิ่งดีเพื่องานการกุศลมาเยอะ แล้วนี่คือสิ่งที่ฉันได้รับหรือ ฉันจะต้องตายเร็วหรือ ชีวิตที่กำลังขึ้นไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ จะร่วงหรือ

    ถ้าฉันเป็นอะไรไป พ่อแม่จะอยู่ยังไง ถ้าฉันตายเร็วสามีจะไปมีใครมั้ย แล้วลูกฉันจะเป็นยังไง โอ้ย ตอนนั้นคิดสารพัด ปัญหาทุกอย่างเข้ามาในชีวิต แล้วถ้าข่าวออกไปล่ะ ใครจะจ้างฉันทำงาน ขณะที่ท้องยังมีเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในชีวิต มีข่าวตลอด แต่ได้กำลังใจจากสามี จากคุณพ่อคุณแม่ จากคนรอบข้าง รวมถึงจากประชาชน มีคนร้องไห้กับเรา เรารู้สึก โลกนี้มันมีอะไรดีๆ จังเลย แล้วฉันก็ได้มาเยอะเหมือนกันนะ ทำไมฉันยังเสียดายอะไรอีก ทำไมไม่มองวันนี้ ทำไมต้องมานั่งเสียดายว่าไม่รู้อีกกี่ปีหรือกี่วันข้างหน้าฉันจะตาย แต่ทำไมฉันไม่เสียดายวันนี้ตอนนี้ที่เป็นอยู่

    ฉันต้องกลับมามองตัวฉันใหม่ ทำยังไงที่ฉันจะอยู่กับพวกเขาได้นานที่สุด สู้กับโรคร้ายได้มั้ย หมอบอกยังมีโอกาสสู้ได้ ถ้าร่างกายคุณแข็งแรง ถ้าจิตใจคุณเข้มแข็งไม่เครียด โรคเครียดมีผลกับร่างกาย ทำให้ภูมิต้านทานแพ้เชื้อตัวนี้ บุ๋มกลับมาตั้งสติใหม่ เราจะทำยังไงดี เลยพยายามนั่งสมาธิ เดินจงกรม เดินในบ้านกับลูก ไปเล่นโยคะบ้าง

    ปกติบุ๋มนั่งสมาธิอยู่บ้าง สมาธิทำได้หลายอย่าง กำหนดลมหายใจ บางทีเดินจากตึกนึงไปอีกตึกก็กำหนดได้ เพื่อดึงให้จิตอยู่กับตัวเองก่อน ดึงกลับมาก่อนที่เราจะคิดเรื่องฟุ้งซ่านไปถึงอีกสิบๆ ปีข้างหน้า ซึ่งยังไม่รู้ว่ามันไปถึงไหน ดึงกลับมาก่อน เหมือนการเดินจงกรม

    การเดินจงกรมไม่จำเป็นต้องไปเดินในวัด คุณเดินที่ไหนก็ได้ แต่ขอให้คุณมีสมาธิมีจิตกับมันก่อน เรารู้ว่าเดินทางเชื่อมระหว่างตึกอย่างนี้ ค่อยๆ เดิน ตอนนี้ซ้ายนะ ตอนนี้ขวานะ ฉันหายใจเข้านะ บุ๋มอาจจะคิดเยอะหน่อย เพราะบุ๋มเป็นคนที่จิตเร็วมาก ไม่สามารถซ้ายหนอ ขวาหนอ สักพักไม่เกินสามหนอ ความคิดต่างๆ ก็เข้ามาในหัว แล้วก็จะท้อ ไม่ประสบความสำเร็จ

    ดังนั้นคุณลองทำตามสไตล์ที่เหมาะสมกับจิตของคุณเองก็ได้ เพื่อให้ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำหนแรก วันสองวันแรกไม่มีทางประสบความสำเร็จได้หรอก ซ้าย หายใจเข้า ขวา หายใจออก เห็นมั้ย มันมีสี่จังหวะเข้ามา แทนหายใจเข้าออกธรรมดาก็ทำได้ค่ะ

    บุ๋มว่าเราหาอะไรที่สามารถปรับกับตัวเองก็ได้ อ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ปล่อยจิตว่างบ้าง แล้วก็ดูแลเรื่องของอาหาร มีสติกับเรื่องการกิน เชื่อมั้ยคะ เซลล์กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ไม่ได้กินยาไม่ได้ไปรักษาอะไรเลย เพราะทำอะไรมากไม่ได้ตอนนั้นท้องอยู่ด้วยไงคะ เซลล์กลับมาปกติ โอเคเชื้อยังมีอยู่ เพราะเซลล์มะเร็งปากมดลูกเป็นเชื้อไวรัส เหมือนกับเชื้อหวัดที่อยู่ในตัวเรา ถ้าเกิดภูมิต้านทานเราแข็งแรง มันก็ไม่สามารถเพาะกายขยายเชื้อที่ทำให้เราป่วยขึ้นมาได้ แต่ถ้าเราอ่อนแอเมื่อไหร่ เชื้อมันจะมาแผลงฤทธิ์ในร่างกายของเรา

    หลังคลอดลูกแล้ว กลับมาตรวจหมอบอกมันหายไปแล้ว ดีใจมากเลย นี่แค่จิตใจก็สามารถสู้อะไรหลายๆ อย่างได้แล้ว

    เรายังใช้หลักธรรมบางอย่างเข้ามาหาคำตอบในจิตใจ หลายอย่างบุ๋มไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ ไม่สามารถหาคำตอบให้กับสังคมรอบข้างได้ อย่างเช่น ทำงานในวงการบันเทิง ทำไมคนชอบมาสายจังเลย ไม่มีสัมมาทิฐิ ศีลห้ายังถือกันยากเลย เอายังไงดี ฉันควรทำเหมือนที่เขาเป็นกันมั้ย แต่ฉันถูกสอนมาว่า อย่างน้อยควรถือศีลห้าข้อ ต้องไม่โกหกข้อนึงแล้วล่ะ ฉันจะทำได้มั้ย บอกได้เลยว่าทำยาก อย่างสมมุติ งานนี้บุ๋มรู้ว่าต้องเอาเราไปฆ่าแน่ หรือต้องโกงเราแน่ๆ แต่ด้วยมารยาทของสังคมล่ะ บุ๋มควรจะทำยังไง

    ช่วงแรกๆ เข้าวงการมา บุ๋มคิดว่าไม่ได้ ความถูกต้องคือความถูกต้อง มีคนเข้ามาจีบหรือพูดจาไม่ดี เราไม่ชอบ มาแนวข่มขู่ ถ้าไม่ไปกินข้าวกับผม ไม่กลัวผมเขียนข่าวอย่างนั้นเหรอ บุ๋มบอกไม่กลัว ถ้าพี่พูดจาอย่างนี้ อย่าว่าแต่แฟนเลยพี่ เพื่อนยังเป็นไม่ได้เลย แล้วบุ๋มก็กระแทกหูใส่ไป

    โอ้โฮ วันรุ่งขึ้น ๖ คอลัมน์ นามปากกาต่างกัน เขียนด่าเรากระหน่ำเลย เราแค้น เจ็บใจ แต่ก็หันมามอง อ๋อ เพราะปากเราไม่ดี ถ้าให้พูด ไว้โอกาสหน้าดีมั้ยคะพี่ เพื่อเอาตัวรอดในแนวนั้น เหมือนไปให้คำมั่นสัญญากับเขาอีก บางทีลำบากเหมือนกันที่จะถือศีลห้าข้อให้อยู่รอดในวงการได้

    แต่บุ๋มเชื่อว่าถ้าเราทำความดี ต้องมีคนเห็น แล้วเชื่อมั้ยคะ ต่อให้ภาพบุ๋มดูร้ายดูแรงขนาดไหนจากข่าวที่เขาเขียนกัน แต่ ณ วันหนึ่ง แม้กระทั่งข่าวเข้าใจผิดตอนที่มีเรื่องของพี่แหม่ม-คัทลียา เจอหน้าพี่แหม่ม บุ๋มไม่สบายใจ เข้าไปบอกเขา หนูไม่ได้ทำจริงๆ นะ ในหนังสือบอกปนัดดาไม่มีพี่เลยนะ เป็นเรื่องเข้าใจผิด พี่แหม่มบอก ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ เมื่อเขาให้อภัย เราก็ให้อภัยในสิ่งที่เข้าใจผิดกัน คนอื่นๆ ไม่เข้าใจ แต่สำหรับคนสองคนเราสบายใจแค่นี้พอ

    การที่เราถือศีลห้า ณ วันหนึ่ง สถานการณ์มันพลิก บางอย่างสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น นางเอกเขาอาจจะผิดพลาดหรืออะไรไป คนกลับมามองบุ๋มใหม่ นังมารร้ายกลับกลายเป็นนางเอก ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่บุ๋มต้องการ บุ๋มชอบเป็นนางร้ายของฉันอย่างนี้ ฉันไปของฉันเรื่อยๆ ชีวิตของฉันเป็นอย่างนี้ บุ๋มเชื่อสิ่งนึง อย่างน้อยเรามีศีลห้าข้อในใจ เรายึดมั่นตรงนี้ รู้ว่าไม่ดี อย่านะอย่าทำ จะช่วยให้เราอยู่รอดปลอดภัยได้ ความดีจะเป็นเกราะให้กับคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว

    แต่บางครั้งอาจดูเหมือนว่าทำไมคนชั่วมันได้ดี ทำไมคนดีทำแทบตายไม่เห็นได้ดี คุณต้องอดทน ไม่มีทางที่ทำชั่วปุ๊บฟ้าผ่าเปรี้ยง นั่นมันแค่นิยาย มันต้องรอเวลา แล้วคุณจะรู้สึกดี และเห็นโลกแห่งความจริงว่าความดีเป็นเกราะป้องกันตัวเราอย่างดีที่สุด

    อย่างในวงการบันเทิงมักมีปัญหากับศีลข้อสามกับข้อสี่ เอะอะเป็นเพื่อนกัน เป็นพี่เป็นน้อง ออกเดทกัน แต่ถ้าลองคุณตรงไปตรงมา คบก็คบ ไม่คบก็ไม่คบ ประชาชนจะรู้สึกว่าคุณก็แค่คนคนนึง แล้วจะไม่มีปัญหาอะไร จะไม่มีใครมาตามจิกคุณ ไม่มีใครมาด่าว่าหน้าด้านหรือโกหก ไม่ต้องมีภาพมาแฉยืนยัน ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจว่าทำไมถึงโดนอยู่ฝ่ายเดียว คุณไปทำอะไรก่อน คุณลืมไปแล้วไง ลืมว่าเคยไปโกหกเขาก่อน เป็นผลที่ตามมาจริงๆ

    ดังนั้นบุ๋มบอกได้เลยว่าการทำความดี ทำไปเถอะ เราอาจแค้นคนคน หนึ่งแทบตาย แต่พอคิดว่าทำไมต้องเอาไฟมาสุมในอกตลอด มันร้อน ฉันอิจฉาเขาจังเลย ทำไมเขาได้เป็นนางเอกทุกเรื่องเลย ทำไมฉันเป็นแต่นางมารร้ายทุกเรื่อง มานั่งมองอีกมุม มองโลกในแง่ดี เราก็มองได้ว่า เราเป็นนางมารร้ายตั้งหลายเรื่อง ได้เล่นเยอะกว่าอีก เหมือนมองน้ำในแก้วที่เขาพูดกัน มีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว ทำไมเหลือแค่ครึ่งแก้ว กับเหลือตั้งครึ่งแก้ว มองได้คนละแบบ พยายามมองโลกในแง่ดีไว้

    เรามีวิธีการคิดแตกต่างกันออกไป เรามีดีไม่แพ้คนอื่น มีดีอีกแบบ ถ้ามัวแต่เอาไฟมาสุมตัวเอง ร้อนจนตาย ยิ่งลนยิ่งเครียด หน้าเรายิ่งไม่ผ่องใส จิตเราก็ไม่นิ่ง คนมาอัดเราหรือพูดเหน็บแนมเรา แทนที่จะมองว่าทำไมทำกับเราอย่างนี้ คิดกลับกันว่า บางทีอาจเป็นเพราะชีวิตเขาไม่มีความสุข
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> [​IMG]</TD><TD> ทุกวันนี้บางทีบุ๋มยังโดนอยู่ มีกระแนะกระแหน เขาเรียกว่า ปาดหน้า เวลาเราโดนอย่างนี้ เราก็คิดว่าเขาเป็นถึงระดับนางเอกนะ ทำไมต้องมาแย่งงานกับกระจ๊อกอย่างเรา มาพูดให้ร้ายเรา มองกลับกัน ชีวิตเขาอาจจะไม่มีความสุข ถือว่าทำบุญทำทานไป เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริงๆ จะไปร้อนทำไม คือเอาสติกลับมาอยู่ที่ตัวเอง เหมือนคอยดึงสติกลับมา สติมันออกไปตลอดแหละ เจอสังคมอย่างนี้ ต้องคอยดึงสติ

    ช่วงนึงข่าวบุ๋มออกมาร้ายมากๆ บุ๋มคิดขนาดฉันจะออกจากวงการดีมั้ย ทำไมต้องมาทนให้คนด่า มันเจ็บใจ แต่ถามว่าวงการอื่นมีมั้ย ถ้าฉันยังทำงานอาจารย์อยู่ ถ้าฉันทำงานบริษัท เป็นพยาบาล หรือเป็นอะไร มีนินทาไม่ชอบขี้หน้ามั้ย มีหมด เพียงแต่ว่าวงสังคมเขาเล็ก แต่เราเป็นดาราคนรู้จักทั่วประเทศ แน่นอนสังคมก็แผ่กว้างตามจำนวนคนที่รู้จัก เราก็ทำของเราให้ดีไปเรื่อยๆ แล้วกัน ต่อให้เราไปยืนในสังคมอื่นทำงานอาชีพอื่น ก็โดนเหมือนกัน

     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>
    อี้
    แทนคุณ จิตต์อิสระ
    การทำงานคือการปฏิบัติธรรม

    การปฏิบัติธรรมในความคิดของ อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ คือ การทำหน้าที่ของมนุษย์ให้ดีที่สุด เรียนรู้ เข้าใจ และทำประโยชน์ให้กับสังคม ย้อนกลับไปตอนเริ่มเข้าวงการบันเทิงใหม่ๆ อี้เคยเป็นดาราวัยรุ่นพุ่งแรงในชื่อ เอกชัย บูรณผาณิต ผู้สวมบทตัวร้ายในละคร
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    กิ๊ก
    มยุริญ ผ่องผุดพันธุ์
    ธรรมะแก้
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>
    ตุ๊ก
    ดวงตา ตุงคะมณี
    ธรรมะปฏิบัติดัดไม้แก่

    บทบาท คุณหญิงนฤบาล ใน จอมใจ... คุณนายเรไร ใน แรมพิศวาส คุณหญิงดารณี เศรษฐินีผู้อุปถัมภ์วัดใน ธรรมะ (ทำไม) หรือ หม่อมศุภางค์ ใน แสงสูรย์

    สิ้นเสียงคัต ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี กลับมาสวมบทในละครชีวิตของตัวเอง สาวแกร่ง เก่ง กล้า สามารถ ผู้โลดแล่นในวงการบันเทิงมาหลายสิบปี เป็นทั้ง นางแบบ นางเอก นางร้าย พิธีกร เจ้าของธุรกิจ และที่สำคัญคือ
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    ธงธง มกจ๊ก
    คัชฑาเทพ เอี่ยมศิริ
    ภูมิคุ้มใจ ในวันที่ตื่นจากฝัน

    ๕ ปีก่อน ธงธง-คัชฑาเทพ เอี่ยมศิริ เคยถูกเรียกว่า
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>
    โอปอล์
    ปาณิสรา พิมพ์ปรุ
    การค้นหาตัวเอง จากโลกทางธรรม

     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    อ้อม
    พิยดา อัครเศรณี
    ปฏิบัติธรรมคือการพักผ่อน

    ภาพการปฏิบัติธรรมครั้งแรก สมัยเด็กอ้อมมักไปทำบุญกับคุณยาย บ้านท่านอยู่นครนายก ก่อนนี้เรามักไปนั่งที่ศาลาวัด ฟังเทศน์ แต่อ้อมมักไปนอนหลับ พอโตมาหน่อยคุณย่าไปบวช ท่านอายุมากแล้ว อ้อมเลยตามไปอยู่เป็นเพื่อน ช่วยดูแล คอยชงโอวัลติน ยกข้าว ทำอะไรให้คุณย่า สมัยก่อนจะมีแต่คนแก่ๆ ไปบวชที่วัด คุณย่าปฏิบัติธรรม อ้อมนั่งสมาธิ นั่งไปก็หลับ ตอนนั้นอ้อมยังเด็กมาก ไม่เข้าใจว่าสวดมนต์ไปเพื่ออะไร ฟังเทศน์แล้วก็งง มีต่อต้านเล็กน้อยเพราะไม่เข้าใจ

    สมัยเรียนมัธยมอยู่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ที่โรงเรียนมีการเก็บเงินเพื่อทำบุญให้โรงเรียนน้อง แบ่งเวรออกเป็นกลุ่มสี แต่ละสีต้องไปโรงเรียนน้อง ต้องไปช่วยเลี้ยงเด็กอ่อน บางทีก็ต้องไปบ้านพักคนชรา แล้วแต่โรงเรียนจัดเวร สัปดาห์ที่มาถึงเวรเรา เราก็ต้องไป บางทีอ้อมนึกในใจว่าไม่อยากไปเลย โรงเรียนจะเน้นคำว่า servant แปลว่าผู้รับใช้ เหมือนปลูกฝังให้เราช่วยเหลือคนโน้นคนนี้ตั้งแต่เด็ก คงค่อยๆ ซึมซับ โตมาอ้อมเลยรู้สึกอยากทำบุญ อยากช่วยคน
    ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยอ้อมลองนั่งสมาธิ อยากศึกษาดูว่าคืออะไร ชวนกันกับเพื่อนไปตามที่โน่นที่นี่ รู้บ้างไม่รู้บ้าง บางทีเขานั่งสมาธิกัน นั่งๆ ไปถามว่าเห็นปราสาทมั้ย อ้อมลืมตาขึ้นมากับเพื่อน เราไม่เห็นจะเห็นอะไรเลย รู้สึกว่าไม่ตอบคำถามเรา

    </TD><TD> [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    พอดีมีรุ่นพี่โรงเรียนมาแตร์เดอีคนนึงที่สนใจศึกษาธรรมะ เขาลองปฏิบัติมาหลายที่แล้ว เลยชวนอ้อมไปที่วัดห้วยส้ม เชียงใหม่ ที่นั่นมีการปฏิบัติวิปัสสนาในแนวสติปัฏฐาน ๔ อ้อมรู้สึกว่าอาจารย์ตอบคำถามที่เรามีข้อสงสัยได้ บางทีเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ เราไม่ควรจะต้องสงสัย แต่เราก็สงสัย ทำไมบางคนทำชั่วแล้วยังได้ดี ทำไมคนนี้นิพพานง่ายจัง ทำไมองคุลิ-มาลอย่างนั้นอย่างนี้ ฯลฯ อ้อมเป็นคนมีปัญหาเยอะมาก แล้วเขาตอบปัญหาของเราได้ด้วยเหตุและผล เลยทำให้เราเชื่อด้วยเหตุและผล

    อาจารย์บอกว่าอ้อมเจ้าปัญหามาก เราเป็นคนที่ต้องมีเหตุผลไงคะ ปกติที่เคยเรียนวิทยาศาสตร์ ต้องมีเหตุผลใช่มั้ย เราคือผ้าเปื้อนสีแล้ว เวลาเราเข้าไปปฏิบัติ เราก็สงสัยอยู่นั่นแหละ บางคนที่เป็นผ้าขาวไม่รู้เรื่องมา พอเข้าไปถึงปฏิบัติตามไปก็จบ ไม่ต้องสงสัยมาก แต่การที่อาจารย์ให้คำตอบเราได้ อ้อมเลยเกิดแรงใจที่จะปฏิบัติต่อ

    การเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ๗ คืน ๘ วัน ที่วัดห้วยส้มจะปฏิบัติแบบเคร่งครัดมาก ไม่ให้คุยกันเลย เพื่อให้มีขณิกสมาธิอยู่ทุกขณะ จะได้นั่งแล้วเกิดสภาวธรรมขึ้นมา แต่เราก็มีแอบคุยบ้างนะคะ ถ้าเราทำได้ตลอดอย่างนั้นก็เกิดสภาวะจริงๆ อ้อมทำได้แค่วันแรกๆ หลังทำไม่ค่อยได้ มีหลุดพูดไปบ้าง บางทีกินข้าว ๓-๔ คำ กำหนดไม่ไหวแล้ว หรือไปส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าเราผอมมากเลย

    ตอนแรกที่ไปปฏิบัติอ้อมไม่เข้าใจหรอก ว่าทำอะไรกัน พอไปหลายๆ ครั้ง อ้อมถึงเริ่มเข้าใจว่า อ๋อ ที่เขาให้ทำช้า เพื่อที่ว่าออกไปแล้วจะได้ทำอะไรให้ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมและมีสติตลอดเวลา อ้อมอยากให้เวลาเราเจออะไรแล้วไม่ตกใจกับมันมากเกินไป เรารู้ว่าเราไปเพื่อฝึกให้มีสติมากขึ้น เอามาใช้กับชีวิตประจำวันได้

    ปกติอ้อมเป็นคนทำอะไรเร็ว พอไปปฏิบัติแล้วเราช้าลง ทำอะไรค่อยๆ ทำ เมื่อเกิดอะไรขึ้นหรือมีสิ่งมากระทบ เราก็มีสติ อ้อมว่าการที่เราทำอะไรช้าลงก็ดีนะคะ แต่ต้องปรับใช้ให้เหมาะ อันไหนควรช้าก็ช้า อันไหนควรเร็วก็เร็ว มีสติรู้ไงคะ ไม่ใช่อยู่วัดแล้วช้า ออกมาก็ช้า ไม่ต้องไปไหนกันพอดี

    มีสติคือรู้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างคุยอยู่ก็รู้ว่าเราคุย ไม่ใช่ใจไปคิดถึงงานที่ทำเมื่อกี้ ฉันขึ้นเวทีไปไม่ดีเลย มัวแต่ไปพะว้าพะวัง ตรงนี้ก็ไม่มีสมาธิแล้ว ตอนนี้คุยอยู่ มีสติคุยตรงนี้นะ เดี๋ยวต้องไปกินข้าวกับเพื่อน อย่าเพิ่งไปคิดว่าอยากกินอะไร คุยให้เสร็จก่อน พออยู่กับปัจจุบัน จะทำให้อะไรง่ายขึ้น

    เมื่อก่อนอ้อมเป็นคนอารมณ์ร้อนกว่านี้เยอะ หลังจากไปปฏิบัติมา ตอนนี้อ้อมเฉยขึ้น นิ่งขึ้น มีเหตุผลขึ้น เวลามีปัญหาอะไรไม่แตกตื่นตกใจมาก มีปัญหา เอ้า ว่ากันไป

    เรื่องความโกรธยังมีอยู่บ้าง พระอาจารย์สอนว่าโกรธใครให้แผ่เมตตาทั้งตัวเองและคนนั้น แต่อ้อมยังทำไม่ค่อยได้ ยังมีกิเลสอยู่เยอะ โชคดีที่อ้อมเป็นคนลืมง่าย โกรธใครแล้วก็ลืม เจอหน้ากันอ้อมยังไปทักทายสวัสดีเขาก่อน ทำเอาเขางง แล้วมานึกได้ตอนหลังว่าเราเคยโกรธคนนี้นี่นา กลายเป็นเรื่องดีไป

    พอไปปฏิบัติหลายๆ ครั้งอ้อมเริ่มรู้ว่าไม่ต้องนิพพานก็ได้มั้ง คงไม่มีทาง อีกไม่รู้กี่ชาติ อ้อมคงยังไม่มุ่งไปทางธรรมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เลยเอาให้พอเหมาะพอดีพอควร นำมาใช้กับการทำงานหรือการใช้ชีวิตได้

    อ้อมยังปลงไม่ค่อยได้น่ะค่ะ ยังมีกิเลสอยู่ คงยังอยู่ทางโลก อ้อมยังอยากกินของอร่อย อย่างวิปัสสนาเวลากำหนดกิน ไม่ให้ยินดีไปกับรสอาหาร แต่บางทีอ้อมก็กำหนดว่า
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>
    ป๊อด โมเดิร์นด็อก
    ธนชัย อุชชิน
    ธรรมะรักษาสมดุลให้ชีวิต

    ป๊อด-ธนชัย อุชชิน เป็นนักร้องนำแห่งวงโมเดิร์นด็อก กลุ่มนักดนตรีร็อคซึ่งเริ่มต้นจากวงนักศึกษาที่ชนะการประกวดโค้กมิวสิกอะวอร์ด ปี ๒๕๓๕ และก้าวขึ้นมาจุดประกายดนตรีนอกกระแสบ้านเราให้เป็นที่นิยม

    ทศวรรษที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ป๊อดยังคงเป็นไอดอลของวัยรุ่นที่อยากก้าวสู่วงการดนตรี หากจะพูดถึงคนดนตรีร็อครุ่นใหม่ในบ้านเรา ที่ขายความสามารถ ไม่ใช่หน้าตา แน่นอนว่าชื่อ ป๊อด โมเดิร์นด็อก อยู่ในอันดับแรก

    ระยะหลังป๊อดมักปรากฏตัวในงานเสวนาหัวข้อเกี่ยวกับธรรมะประยุกต์สำหรับคนรุ่นใหม่ ล่าสุดเพิ่งได้รับเชิญไปร่วมสนทนาธรรมกับท่าน ว.วชิรเมธี พระนักเขียนผู้จุดกระแสธรรมะแพ็คเกจใหม่

    ป๊อด ยังร่วมโครงการ
     
  15. เสวกะ

    เสวกะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +53
    ไม่ว่าจะอยู่ในวงการ อาชีพใด ถ้ามีธรรมะ ก็นับเป็นสิ่งที่ดียิ่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...