ด่วน... จิตต้องไม่แช่ในความว่าง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 31 มีนาคม 2019.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    จิตต้องมีสติเห็นทั้งความมีและความไม่มีอยู่ในความว่าง
    ไม่ใช่จิตไปพอใจ กับความปลอดโปร่งโล่งสบาย
    และพอใจได้แช่อยู่
    ในความว่าง
    แต่ต้องมีสติเห็นว่ามีความรู้สึกนึกคิดปรุงแต่งเกิดขึ้นใน
    จิต
    ท่ามกลางความว่างขณะนี้(ไม่ใช่ขณะนั้น
    หรือขณะโน้น)
    หรือเห็นด้วยสติว่าขณะนี้
    ไม่มีความรู้สึกนึกคิดปรุงแต่งใดๆ
    เกิดขึ้นในความว่าง( ไม่ใช่ขณะอื่น)
    จนกว่าจะเห็นความดับของที่เกิดขึ้น
    และมีสติเห็นแล้วเห็นอีก
    จนจิตไม่ยึดในความไม่เที่ยง เหลือแค่รู้
    ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นและสิ่งนั้นย่อมดับไป
    จนกว่าจะสิ้นการยึดมั่นถือมั่น
    เมื่อนั้นก็จะถึงความสิ้นทุกข์

    เล่าให้ฟังซื่อๆ ไม่ได้โม้ฮับ
     
  2. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    NEOWORLD..แค่บรรทัดแรก ก็ย้อนแย้ง -ในตัวเองแล้ว ฝึกอะไรบ้าๆบอๆหือ..ดูที่คุณโพสต์

    ..จิตต้องมีสติเห็นทั้งความมีและความไม่มีอยู่ในความว่าง..

    ในเมื่อมันว่างอยู่ คุณจะเห็นความมีอะไร-ในความว่าง-ไอ้กะบือเฒ่าเจ้าเล่ห์ หือ ๆๆ
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    จิตใครไม่ป่วงล่ะหลุกเอ๊ย
     
  4. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    NEOWORLD..ไอ้กะบือ ในเมื่อจิตพบว่างแล้ว จะย้อนจิต-สติ กลับไปดูว่ามีความปรุงแต่งอยู่ในจิตอีกทำส้นTEEN อะไรวะขอถาม..ฝึกแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จิตจะว่างจริง-พอว่างต้องย้อนไปดูใหม่ให้จิตไม่ว่าง ดังข้างล่างนี่นะ สาทุด..

    "ในความว่าง

    แต่ต้องมีสติเห็นว่ามีความรู้สึกนึกคิดปรุงแต่งเกิดขึ้นใน
    จิต"..
     
  5. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ..จะบ้าตาย..ไปแล้วเว๊ยยยส์ สาทุด..รัวๆๆๆๆ
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ณ ขณะนี้
    การที่ไม่รู้ว่าเกิดอา
    การกระเพื่อมขึ้นในใจที่ว่างเปล่า
    แล้ว
    นั่นคือการไม่มีสติ
    จึงไม่มีโอกาสที่จะ
    รู้อาการดับของอาการที่เกิดขึ้นที่จิต
    ขณะนี้
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    หมดอนาคตแล้วเม้นต์นี้
    หลุกเอ๊ยย
    ปิดโรงเรียนทำโกดังให้เช่าเถอะนะหลุก
     
  8. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    ปวีเข้าใจว่า คำว่าว่างของลุงแมวแบบสายดูจิต ที่ใช้แค่การตามรู้ชั่วขณะ ก็คือเฉยๆ (แต่ลุงใช้คำว่าว่าง)
    ไม่ใช่ความว่างแบบสมถะเข้าฌาน ถูกต้องไหมคะ
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    มันก็ว่างอันเดียวกันแหล่ะ
    แต่การได้มาและการใช้มันต่างกันอยู่
    ว่างสมถะเป็นความสงบปฏิบัติเพื่อตัดความวุ่น
    ในใจในสมองแต่มันก็โล่งเบาจนน่าเสพ
    นักปฏิบัติบางส่วนบางคน
    ก็เสพติดและจมในความว่างนี้อารมย์นี้
    เเถมคิดว่านี่คือสุดทางของ
    ความเป็นพุทธะ
    แล้ว
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    สร้างจิตว่าวแบบสมถะ
    ว่างด้วยการบริกรรมพุทโธ
    นี่สากลเลยฮับ
    จะกำกับลมหายใจพุทธเข้า โธออกก็ได้
    หรือไม่กำกับลมหายใจก็ได้
    คือเอาแค่พุทโธถี่ยิบ ไม่ให้
    มีช่องที่ผัสสะภายนอก
    จะแทรกเข้ามาจนคิดไปนอกเรื่องได้

    หรือว่างแบบมโนก็มีเช่นแบบกสิณต่างๆ
    40 อย่างก็ได้
    บางคนมีกสิณติดติดตัวมาแค่นึก
    ก็เจอว่างได้เลยก็ได้มั้ง 55
     
  11. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ถ้ารู้วิธีเหม่อลอย

    ก็ว่างแล้ว ลุงแมว

    อิอิ
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ถ้าไม่มีสติ
    ก็เป็นว่างแบบ
    ฟุ้งด้วยอากาศฮับ ( ฮา)
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    55 ท่านศาสดาปี๊ดแตก
     
  14. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    ไม่นะ ว่างเฉยๆ แบบดูจิตคือฝึกให้เกิดปัญญาท่ามกลางกิเลสที่แทรกอยู่ตลอดเวลา จิตฟุ้งไปอดีต อนาคต ปัจจุบันตลอดเวลา

    ว่างแบบสมถะ มันจะอยู่กะปัจจุบันขณะล้วนๆ ถ้าเอาความว่างนั้นมาฝึกวิปัสสนา อะไรที่มากระทบ ทางทวารทั้ง 6 มันก็จะอยู่แค่ปัจจุบันตรงนี้ กิเลสมันจะถูดกดไว้ ไม่แทรกมาแบบสายดูจิต

    นอกจากสายดูจิตฝึกไประยะนึง ตัวสมาธิตั้งมั่นจะมาซัพพอร์ตให้อยู่กะปัจจุบันขณะ นั้นๆ เวลาฝึกแบบสมถะ ก็อีกเรื่อง

    อันนี้ลุงพึ่งเปลี่ยนมาสายดูจิต เพราะพึ่งฟัง ลต หรือป่าวคะ
     
  15. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    สาย แพะ ชน แกะ ไปเรือยเปื่อย

    ว่าง แล้วสะดุ้ง

    รู้เลย พวก ตีความ สู่รู้

    ลต เฮีย!!!
     
  16. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ต่างกันหลุกเอ๊ย อยากฟังหลวงตาหลังไมค์
    พูดรู้เรื่องกว่า ท่านลุงแมวเยอะ
    ลุงแมวแค่จินตะน่ะ หลุกเอ๊ย
    ปี๊ดมัยอ่ะหลุ่ก

    ใครสั่งมาปี๊ดหือหลุกเอ๊ย
     
  17. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ดูจิต มันอยู่กะปัจจุบัน ตลอดนะ

    ""
    ปล่อยวางคือการไม่ยึดมั่นถือมั่นในสังขาร
    ขันธ์
    โดยมีความ
    เข้าใจและเห็นความจริงของจันธ์ 5 ว่าเป็น
    อนิจจัง หรืออนัตตาก็ได้
    ด้วยการพิจารณากายขันธ์แบบทะลุทะลวง
    ก็ทำให้ใจปล่อยวางสิ้นการยึดมั่นถือมั่นได้
    หรือพิจรณาการปรุงแต่งที่เกิดขึ้นกับจิต(วิญาญขันธ์)
    ก็ทำให้ใจปล่อยวางเลิกยึดมั่นถือมั่น
    ได้อีกเช่นกัน
    แต่สิ่งสุดท้ายที่ต้องปล่อยวางคือตัวผู้ที่
    กำลังปล่อยวาง
    ที่ไม่ค่อยยอมปล่อยกัน

    ดังนั้น ถ้าหากพิจารณาปล่อยวางกายสังขารได้
    ปล่อยวางจิตสังขารก็ได้
    แต่ลืมปล่อยวางตัว
    ผู้กำลังปล่อยวาง
    ก็พ้นทุกข์ไม่ได้หรอกฮับ

    แค่มาเล่าให้ฟังไม่ได้โม้ฮับ """

    ยกตัวอย่างจากทู้นู้น

    ถ้ามาถึงขั้นฟักไข่ ไม่ต้องไปบอกเรย
    มันจะคลายตัวปล่อยวางด้วยตัวมันเอง
    ความเพียรมันเพียรได้ไปจนสุด เจตนามีได้ไปจนสุดผล4 ถึงจะจบเจตนา
    จบแล้วจึงเป็นกริยาล้วนๆ พ้นกรรมเหนือบุญบาป

    (อนุมานเอา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2019
  18. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ยอดเยี่ยมครับผม

    ปล. มีคนเข้าใจลุงแมวแล้ว...
     
  19. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ขอสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยครับคุณ ปวีรัศม์ชา..เพราะคำกล่าวของคุณมีเหตุผลน่ารับฟัง กล่าวคือน่าสนใจครับ มีเหตุผลที่ยกมาเปรียบเทียบระหว่าง ว่างแบบสมถะ กับ ว่างแบบดูจิต..
    ..ในความเห็นผมนะครับ ว่างแบบสมถะ ไม่ใช่ว่างแบบกดกิเลสไว้ สมถะ ทำให้จิตเจริญ..นั่นหมายถึงจิตเขาทิ้งนิวรณ์5 ทิ้งกิเลสไปก่อนแล้วครับ เมื่อจิตไม่มีกิเลส จิตจะผ่องแผ้ว เบาสบาย การทรงสมาธิจะเกิดเองครับ(ตรงนี้สภาวะเขาจะบังคับให้เกิดเป็นเอง)

    ...ว่างแบบสาย ดูจิต ที่คุณ ปวีรัสม์ชา ยกมานี่ผมว่า มันเป็นการฝึกให้เกิดปัญหามากกว่า-เกิดปัญญา-เพราะการใช้จิตหรือความคิดตามดูเหตุการณ์ที่เข้ามาในจิตตลอดเวลานั้น ท่ามกลางกิเลสที่แทรกอยู่ตลอดเวลา จิตจะฟุ้งตลอดทั้งชีวิต เพราะธรรมทั้งหลายเกิดขึ้น ในชีวิตประจำวันนั้น เกิดครั้งละ6ทาง อายตนะ จิตจะวิ่งวุ่นตลอดเวลา อันไหนสนใจมาก น้ำหนักจิตก็จะวิ่งไปเกาะปัญหานั้น เราจะรับยังไงไหว..เกิด-ดับดับ-เกิดๆๆๆๆ

    ..สติปัฏฐานสี่ ในหมวดธรรมมานุปัสสนา เขาจึงเน้นเรื่อง จิตต้องทรงสมาธิก่อน ไม่วิ่งวุ่นไปทุกอายตนะที่รองรับอารมณ์ที่โคจรมา
    แต่ปัจจุบัน มีศาสดาองค์ใหม่ นำหลักสูตรดูจิต แบบจิต ไม่มีสมาธิมาสอนคนเต็มศาลา ศิลก็กระพร่อง-กระแพร่ง-จิตก็เลยนวุ่นหนักไปครับ หลักสูตรใหม่ ดูจิต ที่วิ่งวุ่นไปทั้งชีวิต ไม่ปรากฏผล อะไรเลยกับผู้ฝึกสักคนจนปัจจุบันนี้ครับ
    ดูจิตแล้วฟุ้งตลอดชีวิต-เพื่อการเรียนรู้ในปัจจุบันขณะ..คือการไล่ตามความคิด-ไปตลอดชีวิต- ไม่สามารถจะหยุดยั้งเขาได้-เพราะอายตนะรับอารมณ์ครั้งละ6ทาง รับแบบสายฟ้าแล็บ แต่เรามีจิตเดียว..จิตเดียว-ที่รองรับอารมณ์ และไม่มีทางตัด ละ เลิก กิเลสได้เลยหากจิต มีสมาธิไม่พอที่จะตัดกิเลสนั้นๆได้..(ความเห็นส่วนตัวครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2019
  20. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    หลวงตาหลังไมค์เคี่ยวลูกศิษย์ของท่าน
    ในคลิปฮับ
    ฟังแล้วเหมือนตัวเองโดนเคี่ยวไป
    กะเค้าด้วยฮับ
    ฟังบ่อยๆ ค่อยๆ เข้าใจฮับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...