ตรวจกรรมกับคนมีญาณ อ. "ประทีป" โฟกัสกรรม

พบกันอีกแล้วครับ กับคนไม่เคยหยุดรัก นามว่า “รักไร้พ่าย”

ผมเชื่อว่าหลายคนคงได้เคยไปพบคนมีญาณและเคยได้รับ
คำแนะนำดีๆต่างๆ เช่น ข้อคิดเชิงธรรมะ แต่เชื่อมั๊ยครับว่า
คำแนะนำที่ดีเหล่านั้น เราอาจไม่ได้ซาบซึ้งถึงใจเรา
ทั้งๆเราก็รู้ว่า ธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ทำไมเรายังรู้สึกว่า
เรายังทุกข์อยู่ ใจเราเหมือนยังไมได้ปลดปล่อยจากความทุกข์นั้น
ก็เพราะว่า เรารับรู้ธรรมะนั้นผ่าน ความคิด แต่ไม่ได้ผ่านจิตรู้ของเราเอง

ความคิดกับ จิตตัวรู้นั้นต่างกัน ความคิดเป็นเพียงแค่เหตุผล
ผ่านการไตร่ตรองวิเคราะห์ แต่ตัวจิตรู้ของเราอยู่เหนือเหตุผล
ซึ่งจะรู้ว่าสิ่งไหนที่ใช่ หรือไม่ใช่สำหรับเราโดยไม่ต้องผ่านความคิดเลย

หากเมื่อจิตรู้ของเราได้รับการเปิดทาง ความทุกข์ใจต่างๆก็คลายลง
ความปิติใจก็จะบังเกิดขึ้น เราจะรู้ว่าจิตเรารู้หรือไม่ก็ต้อง
สังเกตุจากความปิติที่เกิดขึ้น

ผมขอนำเสนอเรื่องราวของคนมีญาณอีกท่านหนึ่ง เพราะชายผู้นี้
เป็นคนมีญาณจริงแน่นอน และที่สำคัญ ญาณของเขาสามารถที่
จะเข้าถึงจิตใจของคนที่มีทุกข์ได้อย่างลึกซึ้ง เหมือนว่า
เขาคือส่วนหนึ่งของชีวิตเราเลย

การตรวจกรรมของเขาเพื่อให้จิตรู้ของคนๆนั้นได้รับความปิติ
เพราะ อ. ท่านนี้ เหมือนไปนั่งในใจของคนๆนั้นและพูดแนะนำ
ในสิ่งที่ใจของคนนั้นต้องการ นี่คือเอกลักษณ์ของคนมีญาณท่านนี้เลย

ผมจึงเรียกการใช้ญาณเพื่อเปิดจิตรู้ให้กับผู้คนของ อ. ท่านนี้ว่า

“การโฟกัสกรรม”

คนมีญาณท่านอื่น อาจบอกทางแก้ทุกข์ในใจให้กับคน แต่ อ.
คนนี้บอกทางเข้าไปในใจเพื่อชี้ให้เห็นทุกข์ของ
ตนเองและชี้ทางแก้นั้นให้

ท่านนี้มีชื่อว่า

อ. “ประทีป”

ผมได้ไปหา อ. ประทีปเพื่อให้ อ. ได้ช่วยตรวจกรรมให้
ซึ่งบ้าน อ. อยู่ ซอย วัชรพล แถวถนนรามอินทรา
สิ่งที่ผมได้รับจากการตรวจกรรมนอกจากความแม่นยำแล้ว
ยังมีสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่านั้น

นั่นคือ การเข้าใจความเป็นตัวผมอย่างมาก
ผมเป็นคนเจอคนมีญาณมามาก แต่น้อยคนนัก
ที่จะสามารถเข้าใจในความรู้สึกของผมแบบถึงแก่น
และให้คำแนะนำในสิ่งที่ใจผมเรียกร้องได้มากเท่ากับ อ.ประทีปผู้นี้เลย

คนอื่นอาจให้คำแนะนำการแก้ปัญาหาชีวิตไปตาม ความคิด ที่
จดจำมา ว่าควรแก้แบบไหน
แต่ อ.คนนี้เข้าใจในสิ่งที่ใจคนนั้นต้องการ ไม่ใช่รื่องอื่นที่นอก
เหนือจากใจเของคนนั้นคิดอยู่เลย
นี่คือความต่าง

ขอเกริ่นนำเรื่องราวของ อ ประทีป นิดนึง

อ. ประทีป เป็นชายหนุ่มอายุ 37 ปั แต่ เดิมนั้นประกอบอาชีพ
เป็นเซลล์แมนขายสินค้า แต่เมื่อถึงวาระแห่งชีวิตที่จะต้องผัน
ตัวเองเพื่อมาทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณค้วยการชี้ทาง
สว่างให้กับผู้คนที่กำลังประสบทุกข์ ญาณของ อ.
จึงเกิดขึ้นพร้อมกับการช่วยเหลือจากเทพต่างๆ

อ. จึงยุติหน้าที่การเป็นเซลล์ตั้งแต่นั้น และมาทำหน้าทีนี้แบบเต็มตัว
และ อ ประทีป เพิ่งจะเปิดตัวเองได้ไม่นานนี้เอง คือไม่ถึง 1 ปี
ผู้คนจึงยังไม่รู้จักเขามากนักในวงกว้าง

เมื่อผมได้ไปถึงบ้าน อ. ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดูเงียบสงบ
เหมาะกับการสนทนาเรื่องจิตวิญญาณอย่างมาก
เมื่อเข้าไปในบ้านและได้นั่งพักสักครู่
ได้ทักทายกันพอสมควร

ผมก็รู้ทันทีว่า อ. ประทีปเป็นกันเองมากๆ
พูดคุยแบบสบายๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเลย เพราะ อ.
ประทีป ต่างจาก คนมีญาณอื่นๆ ตรงที่ อ.ไม่ได้รับลูกค้าแบบเชิงพาณิชย์
คือ มาต่อคิวดูยาวเหยียด ดูให้คนแปปๆแล้วก็จบ
เรียกคนต่อไปเข้ามา ไม่ใช่เลย

แต่ อ. ต้องการให้คนที่มาดูกรรมนั้นผ่อนคลายที่สุด
และให้ทุกข์ของคนนั้นได้รับการปลดปล่อย
ให้จิตของเขาได้เกิดปิติ และได้รับสิ่งดีๆกลับไป

อ.ได้เตรียมของว่างมาให้ผม

และคำแรกที่ อ. ทักผม คือ

“ในหัวคุณมีไอเดียที่คิดอยากจะทำมากมาย”

ซึ่งก็ใช่เลย ผมเรียกว่าเป็นเจ้าโครงการเลยหละ
และคำต่อมาที่ อ. ทักคือ

“คุณมีปัญหาสายตานะ ตัดแว่นซะ”

และก็ใช่อีกเพราะผมเป็นคนสายตาสั้นและเอียงด้วย
แต่ก็ใม่ชอบใส่แว่น
หลังจากนั้นการตรวจกรรมจึงเริ่มขึ้น

อ. ประทีป ได้หลับตา และท่องภาษาแปลกๆ ซึ่งเข้าใจว่า เป็น
ภาษาเทพ ซึ่งผมก็คุ้นเคยกับภาษาพูดแบบนี้จากคนมีญาณ
อื่นๆที่เคยไปหา แม้ว่าจะแปลไม่ออกก็ตาม

"คุณมีครูบาอาจารย์ดูแลรักษาอยู่นะ คอยติดตามอยู่ตลอด
คุณนับถือในเทพ"

ตอนนั้น ผมก็รู้ดีอยู่แก่ใจแล้วว่าองค์ไหน แต่อยากลอง
ถามเพื่อดูว่า อ. จะรู้ไหม

"องค์ไหน ครับ" ผมถาม

อ. ประทีป มองหน้าผมแล้วยิ้มด้วยความมั่นใจ
จากนั้นได้ผายมือไปยัง รูปถ่ายที่แขวนอยู่ แล้วพูดขึ้นว่า

“องค์นั้น"

ผมได้มองตามมือ อ. ไปยังภาพนั้น และภาพที่เห็นนั้นคือ
องค์พระพิฆเณศ
ผมหันกลับมามองหน้า อ. ที่กำลังยิ้มให้ผมอยู่
ผมก็คิดในใจว่า เออ อย่างนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย

เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมขอนำบทสนทนาระหว่างผมกับ อ ประทีป
มาให้อ่านกันนะครับ โดยที่ผมได้อัดเทปเอาไว้
เพื่อที่คุณจะได้รับรู้ถึงวิธีการตรวจกรรมของ อ. ประทีปไปด้วย

อ.ประทีป : แรกๆ คุณเฉยๆ พอเห็นพระพิฆแณศ
คุณไม่ได้เชื่อสิ่งแหล่านี้เลย เพราะคุณเกิดมาอยู่ในโลกเทคโนโลยี่
จนวันหนึ่งก็เหมือนโดนขีดเส้นให้เข้ามาในทิศทางนี้

รักฯ : ใช่ครับ

อ.ประทีป : ขอถามก่อนว่า นึกยังไงถีงมาที่นี่

รักฯ :ผมรู้สึกว่าผมต้องมาทำหน้าที่นี้ หน้าที่เพื่อตามหาคนมีญาณ

อ.ประทีป : เป็นคำสั่ง !! ใช้คำว่าเป็นคำสั่ง คำสั่งในการเผยแพร่

รักฯ : อ๋อ

อ.ประทีป : ขนลุกเลย

รักฯ : คำสั่งจากใคร

อ.ประทีป : ท่านต้องการให้ตัวคุณ เป็นตัวเชื่อมโยง และเป็นตัวพิสูจน์
เพราะเวลาคนกลางพิสูจน์ จะพูดตามที่ได้ยินได้ฟัง
คำพูดที่ไม่มีการปรุงแต่งตาม ความเป็นจริง ถ้าเป็นคนอื่นแล้วมี
การปรุงแต่งขึ้น คนอื่นอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่

รักฯ : แล้วผมจะทำสำเร็จไหม

อ.ประทีป : ความสำเร็จ มากจากหลายพลัง อันดับแรกต้องมี
ความมุ่งมั่นของตัวเองก่อน ต่อให้เขามีดวงชะตาดี
ก็ไม่สำเร็จถ้าไม่มุ่งมั่น อันนี้เป็นหลักสัจธรรมทั่วไป

รักฯ : ผมมีเต็มเปี่ยมเลย

อ.ประทีป : มีเต็มร้อย แต่ทีนี้ ท่านอยากให้คุณจัดระบบ คือคุณ
มีควมคิดโน่น คิดนี่อยากที่จะทำ พลังในตัวคุณมันแรงมาก
แต่อย่าลืมนะครับ รถที่มีความเร็วสูงๆ แล้วคุมความเร็วไม่ได้
มันจะแฉลบออก ผมจะแนะว่าให้ควบคุมตรงนี้ให้ได้

รักฯ : ผมอยากจะทำธุรกิจของตัวเอง อยากจะเขียนหนังสือ เกี่ยวกับผู้มีญาณ

อ.ประทีป : เราอย่าไปยึดติด ถ้าเราไปยึดติดความทุกข์คนอื่น
จากวันเป็นเดือน มันจะสะสม


รักฯ : ผมมีดวง เรื่อง ญาณมั๊ย

อ.ประทีป : มี

จากนั้น อ. หลับตาและท่องภาษาเทพ

อ.ประทีป : ชีวิตอีกด้านนึงของคุณกำลังโหยหาความรัก
แต่ไม่สมหวัง


รักฯ : ใช่ครับ ทำไมเหรอครับ

อ.ประทีป : เพราะเกิดจากกรรมที่มาจากอดีตชาติ คุณเคย
ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเสียใจ ผู้หญิงคนนี้มีพลังบริสุทธิ์
รักคุณด้วยใจ ในอดีตชาตินะ

รักฯ : เขาเป็นใคร

อ.ประทีป : ถ้าเปรียบเทียบกับสมัยนี้ เป็นหม่อมเจ้า

รักฯ :แล้วผมเป็นอะไรในชาตินั้น

( อ . หลับตา ท่องภาษาเทพอีก)

อ.ประทีป : คุณเคยเข้าออกวัดตลอด เข้าวัด ออกวัด
เป็นผู้ซ่อมแซม ปฎิมากรรมของวัด เป็นช่าง
เป็นผู้สร้างสรรค์งาน

( อ. ทำนายตรงกับที่คุณต้น คุณหม่อม ทำนายผมเลยเรื่องนี้ )

รักฯ : มาต่อเรื่องความรักของผมครับ อ.

อ.ประทีป : เมื่อคุณทำให้เขาเสียใจ ทำให้เกิดการอาฆาต ถ้าไม่มีการ
อโหสิกรรม ก็จะไม่สมหวังในความรักตอนนี้เธอก็ยังวนเวียนกับคุณอยู่

รักฯ : อาจารย์เห็นเลยเหรอ

อ.ประทีป : ใช่ สังเกตุไหมว่า เวลาที่มีคนรักคุณ คุณจะไม่สนใจเลย
แต่คนที่คุณรักกลับไม่รักคุณ ใช่มั๊ย

รักฯ : ใช่ๆ อ สื่อกับเธอได้ไหม

อ.ประทีป : ยังไม่เรียกมา ค่อยๆเป็นไปตามสเต็ป
เราต้องเคารพสิทธิ์ของเค้า เคารพในครูบาอาจารย์ของเค้าด้วย

รักฯ : ผมจะอโหสิกรรมกับเธอได้ไหม

อ.ประทีป : ได้ แต่เค้ายังยึดติด อย่าลืมนะว่า จิตมนุษย์ ที่ยึดติดมากๆ
ฝังใจมากๆ ถ้าไปเกิดใหม่ จิตเดิมก็ยังยึดติดอยู่

รักฯ : ใช่ๆ อ.จะเรียกเธอมาได้ไหม

อ.ประทีป : เดี๋ยวสักพักนึงนะ

พักกินของว่าง จากนั้น อ. ก็ชวนผมกินของว่าง
กำลังติดลม

อ.ประทีป : สบายๆ นะ


หลังจากกินของว่างเสร็จ ก็มาคุยต่อ

รักฯ : เรื่องความรัก ตกลงว่า ผมจะมีคู่ไหม

อ.ประทีป : ใจคุณคิดเสมอว่า ถ้าคุณยังทำภารกิจไม่เสร็จ คุณก็ยังไม่พร้อม
ใจนึงอยาก ใจนึงไม่พร้อม เรื่องความรัก ผู้หญิงที่เข้ามา แล้วไม่ใช่คู่คุณจริงๆ
คุณจะรำคาญเองนะ พอมาอยู่ด้วยกันคุณรู้สึกว่าไม่ใช่ คุณก็เลยเบรกตัวเอง

รักฯ : ภาระกิจคือตรงนี้ใช่มั๊ย

อ.ประทีป : ใช่ แต่ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว

รักฯ : เป็นเพราะเธอ ที่เป็นวิญญาณที่อาฆาตใช่มั๊ย

อ.ประทีป : มันมีผลพวงหมด บางประเด็นที่เกิดขึ้นเพราะตัวคุณด้วย
และเพราะผู้หญิงที่คุณรักด้วย กรรมมันมาเป็นระลอกเหมือนคลื่นในทะเล
ไม่ใช่มาตูมเดียว

รักฯ : แต่คู่แผมจะมีไหม

อ.ประทีป : มี

รักฯ : มีเมื่อไหร่ นานไหม

อ.ประทีป : ต้องขอนะครับ ต้องขอจากสิ่งศักดิสิทธิ์
ที่คุณเคารพนับถือ ไม่นั้นจะไม่เจอคู่แท้

รักฯ : ขอได้ด้วยเหรอ

อ.ประทีป : ขอได้

รักฯ : กลับมาเรื่องงาน ผมอยากจะออกจากงาน ถ้าเขียนหนังสือเต็มตัว ผมจะทำได้ไหม

อ.ประทีป : จิตใจร้อนรุ่มในเรื่องงาน เหมือนอยู่ในที่ทำงานตอนนี้ไม่มี
ความสุขแล้ว ยังกล้าๆกลัวๆที่จะต้องออก แต่ใจหนึ่งรักที่จะทำความ
ฝันให้สำเร็จ ทำไปเลย ไม่ต้องกลัว

รักฯ : ผมทำคู่กันไปก่อน

อ.ประทีป : ถ้าอยู่ตัวแล้วค่อยฉากออกคิดจะทำอะไร
ทำเลยนะครับ เพราะสิ่งที่คุณทำ เป็นสิ่งดี
แล้วทุกอย่างจะถูกเปิดทางให้

( อ ท่องภาษาเทพอีก )

อ.ประทีป : การมาหาผมครั้งนี้ของคุณ เพราะถึงวาระแห่งการเชิญมา
เพื่อให้คุณทำได้แล้ว อย่าไปรีรอ มุ่งมั่นทำเลย ถึงเวลาแล้วนะ
คือคุณไปดูคนมีญาณมาหลายที่ จนคุณต้องบอกตัวองว่า
มันยังไม่สุดท้ายแต่มาที่นี่เป็นที่สุดท้าย เพราะข้อมูลพอสมควรแล้ว ใช่มั๊ย

รักฯ : แล้วทำไมที่นี่เป็นที่สุดท้าย

อ.ประทีป : เพราะทุกอย่างจะเปิดทางให้ ที่นี่

รักฯ : ใครเปิดทางให้

อ.ประทีป : เอ้า !! มีครูบา อาจารย์ แล้วยังไม่รู้อีกเหรอ

รักฯ : ฮ่าๆ

อ.ประทีป : จงเชื่อมั่นในสิ่งที่อยู่ในตัวเอง เป็นสิ่งที่ดี

อ.ประทีป : จิตของคุณไม่รวม ทำให้สับสนบ้าง เวลาคุณยืนกับคนเยอะๆ
แต่ใจโครตเหงาเลย เป็นอย่างงั้นรึเปล่า จริงไหม

รักฯ : จริง ครับ

อ.ประทีป : เหมือนเราอยู่คนเดียว ท่ามกลางความสนุกสาน

รักฯ : เป็นเพราะอะไร

อ.ประทีป : จิตเราไม่รวมเป็นหนึ่ง ไม่สามารถดึงกลับมาได้
รู้สึกอึดอัด แต่เดี๋ยวกลับไปทุกอย่างจะดีขึ้น โดยไม่รู้ตัวหรอก ในเรื่องของจิต

รักฯ : องค์เทพที่ผมนับถือช่วยไหม

อ.ประทีป : ช่วย ผมดูดวง ผมต้องการช่วยให้พ้นจากความทุกข์
อย่าบอกนะว่าคุณไม่ทุกข์ ทุกข์อยู่
คุณยังหาคำตอบไม่ได้ และคุณก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้
มันไม่ใช่เหม่อลอยนะ หาสาเหตุไม่ได้ มันรู้สึกแย่ นี่คือเรื่องจิต


อ. ประทีป : ขอให้คุณขอการหยั่งรู้ ขอการนำ แล้วท่านจะ
ประสิทธิ์ประสาทให้สละสลวง อย่าลืมสวดมนต์ นั่งสมาธินะ
สวดขอบารมีจากเบื้องบน ท่องชินบัญชรได้หรือยัง

รักฯ : เคยท่อง

อ.ประทีป : ท่องให้ได้สิ

รักฯ : ปุตตกาโม่ นะ

อ.ประทีป : สมเด็จโต คุณก็นับถือ

รักฯ : ใช่

อ.ประทีป : สมเด็จโต กับ หลวงปู่ทวด ยังคุ้มครองเมืองไทย
ท่านขอเบื้องบนว่าไม่เข้าอรหันต์ เพื่อโปรดสัตว์โลก
ท่านจึงมีอภินิหารมากเวลาทุกครั้งที่มีคนสวดชินบัญชร แล้วอธิษฐานจิต
ท่านก็จะลงมาโปรด มาให้พร ช่วยเหลือต่อคนที่สวด

รักฯ : ท่านคุ้มครองผมอยู่หรือเปล่า

อ.ประทีป : ครับ คุ้มครองอยู่ คนหนึ่งคน อาจมีเทพ หลายองค์
ผลัดเปลี่ยนมา ไม่จำเป็นต้ององค์ใดองค์หนึ่งท่านไม่ยึดติดสังขาร

รักฯ : ผมมีกรรมหนักไหม

อ.ประทีป : ไม่หนัก คนอื่นหนักกว่าอีก โดยเฉพาะ
กรรมจากการฆ่าตัวเองตาย เมื่อเทียบกับฆ่าคนตาย
การฆ่าตัวเองเป็นบาปอย่างยิ่ง

รักฯ :อ สื่อถึงเทพแต่ละองค์ได้มั๊ย

อ.ประทีป : แล้วแต่บางช่วง แล้วแต่ที่จะสื่อหรือไม่ อย่าลืมว่า
ตัวผมเป็นแค่คนธรรมดาผมไม่บังอาจ ไปบอกว่า
สื่อถึงเทพหลายๆองค์ที่ยิ่งใหญ่ได้พลังของเทพบริสุทธิ์มาก

รักฯ : ปรติ อ จะสื่อถึงเทพ หรือเทพมาสื่อกับ อ ครับ

อ.ประทีป : พร้อมกัน มาบรรจบกัน บางอย่างท่านจะให้รู้
ท่านก็ให้รู้เลย บางอย่างเราขอ ให้รู้ ท่านก็ให้

รักฯ : อย่างผมมาหา อ ไม่ใช่บังเอิญนะ

อ.ประทีป : มันถึงวันเวลา อย่าลืมนะครับ ว่าเรายังมีกิลส ผมก็มี
คุณก็มีบางครั้งเราไปอ้างเทพเบื้องบน เราแค่ผงธุลี
บางคนมาถามว่าผมมีเทพอะไร แต่เขาควรถามผมว่า
มาสนทนากับผม คุณได้อะไร มีเหตุผล มีสติ
และจิตวิญญาณที่หมักหมมด้วยกิเลสได้ถูกชำระล้างได้มาก
ขึ้นไหม ผมจะแนะแนวทางเดินให้คนแบบนี้

รักฯ : แล้วผมเป็นคนยังไงในภาพรวม

อ.ประทีป : อันดับแรก คุณมักยึดติดกับคำสรรเสริญเยินยอ
อย่าไปยึดติดเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็จะดับไป
สอง คุณสวดมนต์บ้างสิ ทำบ้างรึป่าว

รักฯ : ไม่ค่อยได้ทำ

อ.ประทีป : การสวดมนต์มีผลมากกว่าทำสังฆทานก่อนสวด
รักษา สมาทานศีล 5 ทำตัวเราให้เป็นผู้บริสุทธิ์ เราสวดเสร็จ อธิษฐานแผ่
เมตตา เรารู้สึกว่าเป็นผู้ให้ สอนเราไม่คิดอะไร เราพักทุกอย่างที่การสวดมนต์

รักฯ : หนึ่ง ไม่ยึดติด สอง สวดมนต์ มีอีกไหมครับ

อ.ประทีป : ส่วนอื่นๆไม่สำคัญมาก ผมเน้นไม่ให้คุณยึดติดคำ
สรรเสริญ เพราะวันหนึ่งคุณยึดติดคำสรรเสริญขึ้นมา คุณจะหลง
จิตมันแยบยลมากนะ

รักฯ : ครับ

อ.ประทีป : เหมือน คุณเดินขึ้นเขา แล้วพิชิตยอดเขาได้
คุณจะป็นหนึ่งในผู้พิชิตยอดเขา

รักฯ : ผมจะถึงจุดนั้นได้เหรอ

อ.ประทีป : ถึงได้ แต่คุณจะยึดสิ่งเหล่านี้

รักฯ : ผมยอมรับว่า ผมยึดติดมากกว่าเงินนะ

อ.ประทีป : บอกได้เลยว่า ถ้ามีคนเขาฉลาด เขาใช้คำพูดดีๆ กับคุณ
คุณจะสู้ถวายหัวให้เขาเลย จริงมั๊ย แม้ เงินสักบาทคุณไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
แล้วมันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ คุณก็อยากได้ แต่รับปากเขาไว้
แล้ว เพราะศักดิ์ศรี นี่ไง อันดับแรกเลย อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึงเลย
มันจิ๊บๆ นี่แหละจุดอ่อนของคุณ

รักฯ :ใช่ครับ ผมศักดิ์ศรีจริงๆนะ แล้วอนาคตผมจะรุ่งไหม

อ.ประทีป : รุ่งครับ แต่ผมเน้นว่าอย่าไปยึดติด สมมติวันนี้คุณฟัง
ว่าอนาคตจะรุ่ง คุณมีพลัง แต่วันรุ่งขึ้น คุณยัง ต้องไปโหนเรถเมลล์
ใบแจ้งหนี้มาแล้วมันจึงขัดแย้งกับภาพในอนาคต
แล้วทำให้เกิดทุกข์ นี่แหละครับ โทษของการไปยึดติดกับคำทำนายอนาคต

รักฯ : ครับ แล้วเรื่องการเงินผมหละ

อ.ประทีป : คุณเก็บเงินไม่อยู่ เงินที่เสียไป หมดไปกับการเรียนรู้
แสวงหา ดูดวง ไปหาคนมีญาณ ใครแม่นก็ไปข้อมูลมันเยอะแล้ว
เขียนได้แล้ว เพราะคุณชอบไปเก็บเกี่ยวประสบการร์แล้วกลับมาถ่าย
ทอดให้คนได้รับรู้

รักฯ : ฮ่าๆๆ ใช่เลยๆๆ

.......................................................

อ.ประทีป : ผมจะตอบคำถามในจิตที่คนนั้นต้องการ นี่คือหัวใจ
ของการตรจกรรมกับผม เพราะหากจิตถูกเปิด เหมือนจิตมีแผนที่
จิตเป็นตัวรู้ บอกว่าใช่ เพราะจิต ไม่ใช่เหตุผล ผมจึงบอกในสิ่งที่ใจ
เขาต้องการ การมาแล้วได้คำตอบกลับไป เป็นการช่วยจริงๆ
ส่วนจะไปปฎิบัติหรือไม่ ขึ้นกับเขาเอง

รักฯ : ครับ

อ.ประทีป : หากคนไหนเดือดร้อนมา ผมจะอธิษฐานจิตช่วยเขา

รักฯ : อธิษฐานจิตช่วยด้านไหน

อ.ประทีป : ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ เพราะผมจะขอต่อสิ่งศักดิสิทธิ์
ให้กับคนที่มาหาผมให้ได้รับความสุข เพราะตัวผมฝืนร่างกาย
ที่จะนั่งสมาธิ สวดมนต์ เพื่อช่วยพวกเขา เหมือนน้ำบริสุทธิ์
ที่ผลักดันน้ำขุ่นให้ออกไป ใจของคนนั้นก็ค่อยๆใสขึ้นๆแต่คนนั้นต้อง
เปิดใจตัวเอง เพื่อให้ได้รับพระพร พระพรนั้นไม่ใช่มาจากผมแต่มา
จากสิ่งศักดิสิทธิ์

รักฯ : ครับ

อ.ประทีป : ผมก็อยากถามคุณบ้างว่า บรรดา อ.
คนมีญาณที่คุณเคยไปดูมา เทียบกับผมแล้วเป็นยังไง

รักฯ : ผมว่า อ. สุดยอดเลยครับ ในแง่ของการให้คำแนะนำ
และเข้าใจในชีวิตของคน

อ.ประทีป : ผมไม่ต้องการคำสรรเวริญ เพียงแค่อยาก
รู้ ผมขอบอกว่า ลำพัง แต่ความรู้และสมองของผมมันน้อยนิด
แต่เพราะ ครูบาอาจารย์ของผม แนะนำ ด้วย

รักฯ : แสดงว่า เทพต่างๆ ท่านก็ฟังเราคุยกันอยู่

อ.ประทีป : ผมไม่ใช่นักพูดนะ ถ้าคุณมานั่งไล่เรียงด้วยสติของคุณ
คุณจะรู้ว่าสิ่งที่ผมแนะนำคุณต่างๆไม่ใช่ผมพูด คุณจะรู้เองว่าจิต
จะเกิดความบันเทิงในจิต เวลาผมคุยกับคนที่มาหาผม ผมไม่ได้
จำกัดเวลา คือ มาดูแล้วกลับไป ยังมีทุกข์อีก
อย่างนี้เรียกว่าไม่ได้อะไร เป็นการดูหยาบๆ ผมจะคุยไปเรื่อยๆ
สบายๆ เพราะผมถูกสั่งมาให้พูด

รักฯ : อ ผมอยากรู้ว่า ผมกับ อ มีบุญสัมพันธ์กันมาก่อนไหม

อ.ประทีป : ผมให้คุณตอบได้มั๊ย

รักฯ : ผมว่ามี

อ.ประทีป : ในชาติก่อนนั้น คุณเป็นช่างในวัด ผมก็
เจอคุณในวัด ผมเป็นคนที่ไปทำบุญในวัด

รักฯ : แล้วหน้าที่ผม กับ อ ต้องมาร่วมบุญกันอีกไหม

อ.ประทีป : ในอนาคต คุณจะต้องกลับมาที่นี่ แต่ไม่ได้มา
ดูดวงกับผมแล้ว แต่ จะกลับมาช่วยกันสร้างสรรค์
แล้วไม่ใช่ผมคนเดียว แต่คุณจะต้องไปร่วมกับคนมีญาณอีกหลายๆคน


.............................

นี่คืออคำพูดต่างๆของ อ ประทีป ที่สรุปให้อ่านกัน

"ผมไม่อยากดังหรอก เพราะเวลาดังคนก็มาดูกับผมมากมาย
เพราะผมต้องการจะมีเวลาในการช่วยคนให้ได้มาก การจะช่วยคนๆ
หนึ่งขึ้นมาจากความทุกข์นั้น ต้องใช้เวลา ไม่ใช่มาดู แป๊บๆแล้วกลับไป
นั่นไม่ใช่ทางของผม ผมถือว่า คนที่มาหาผมนั้น ผมได้รับเกียรติ
จากเขานะ เพราะเขาไว้วางใจเราถึงเล่าความลับของเขาให้เราฟัง
ดังนั้นผมต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่"

"ผมหยั่งรู้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับชีวิตเขา ไม่ใช่ไปหยั่งรู้ว่าคนๆ
นั้นพกเงินมากี่บาท เพราะไม่ใช่ทางที่ช่วยให้เขาพ้นทุกข์
บางคนที่เคยมาดูกับผม เคยไปดูดวงมามากมาย แต่หาแก่นชีวิต
ยังไมได้ ผมก็ต้องมาช่วยเขา"


"ผมไปนั่งในจิตของเขา ไปนั่งในความรู้สึกของเขาหมอดูทีเก่ง
ไม่ใช่ทำนายแม่น แต่ คือการชี้แนะให้เขาพ้นออกจากทุกข์ได้ด้วย
คำพูดที่เป็นเหตุผล และมีสติ และเป็นไปได้"

...................................................................

นี่คือตัวอย่างของบทสนทนา จากการได้อ่าน คุณจะสังเกตุว่า อ.
พูดในเรื่องที่ผมคิดทั้งหมดเลย และไมได้ถามนำทางผมด้วย อ.
พูดขึ้นก่อนปัญหาที่คาใจผมแทบทุกเรื่อง

ในความเห็นผม คิดว่า คนอื่นอาจมีญาณเพื่อแก้ทุกข์ให้
กับคนที่ปลายเหตุ แต่ อ. ท่านนี้ใช้ญาณเพื่อแก้ทุกช์ของคนที่ต้นเหตุ

หากอยากติดต่อ อ. ประทีป
โทรที่เบอร์

0899264266

 

ไม่ทราบอาจารย์คิดค่าครูอย่างไร กรุณาลงให้ละเอียดด้วยครับผม

ท่านทำนายผ่านโทรศัพท์ไหมครับ


ฝากแนะนำ ท่าน yakuzaa12 ผู้มีญาณ ที่คุณรักไร้พ่าย ควรคุยกับท่าน

 

สวัสดีค่ะ คุณ รักฯ
จะมากไปไหมค่ะ ถ้าจะให้คุณ รักฯ ลงรายละเอียดให้อ่ะ จริงอยู่ที่คุณ รักฯ ให้เบอร์ดทรเอาไว้แล้ว แต่ก็เกรงใจ กลัว ติดต่อไปไม่ถูกเวลาอ่ะค่ะ ช่วยหน่อยนะค่ะค่ะ
ช่วยลงรายละเอียด ให้ด้วยค่ะ เวลาใดถึงเวลาใด ค่าครูเท่าไร ไม่สะดวกวันไหน สะดวกที่บ้านหรือโทรศัพท์ ขอพรในสิ่งที่ดีๆจงมีแก่คุณนะคะ

 

เคยดูกับอาจารย์ อาจารย์ใจดีมาก ทำนายแม่น และแนะนำวิธีการแก้ไขให้ด้วย ส่วนค่าครู ดูทางโทรศัพย์ 299 บาท ถ้าไปบ้านอาจารย์ 500 บาท เวลาดูก็ 10.00 น.

 

คุณรักเห็นคุณตั้งฉายาว่า รักไร้พ่าย เลยคิดว่าเป็นคัสโนวาเสียอีก
ที่แท้ คุณก็ตามล่าหาความรักเหมือนกันหรือคะ
แต่คุณคงจะสมหวังในเร็ววันนี้ ทั้งเรื่องงานและความรัก
เพราะคุณเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
เวลาที่คุณดัง แล้วอย่าลืมคำเตือนของอ.ประทีปล่ะ ที่ว่าอย่ายึดติดกับคำเยินยอ
ดูอย่างอดีตนายกผู้ยิ่งใหญ่เป็นตัวอย่าง เหลิงในอำนาจ สูงได้ก็ร่วงได้หากขาดสติ

 

งุงิงุงิ

 

ขอบคุณคุณรักไร้พ่ายครับ นำแต่สิ่งดีๆมาให้เสมอ หากคุณรักไร้พ่ายได้ออกหนังสือจริงผมจะขออุดหนุนด้วยคนครับ

 

อนุโมธนาครับ

 

อ่านเพลินเลยคะ ^^

 

จากที่อ่านขอบอกว่าทุกคนที่คุณรักไร้พ่ายได้แนะนำมา อ.ประทีป ตรงจุดที่สุด เพราะท่านแก้ปัญหาตรงจิตที่เป็นทุกข์ของคน ๆ นั้นโดยตรง อนุโมทนา...สาธุ ค่ะ

 

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ขอให้คุณรักไร้พ่าย สมหวัง สมความปราถนาทั้งการงานและความรักนะคะ เอาใจช่วยค่ะ

 

ขอบคุณครับ ที่ช่วยแนะนำผุ้มีญาณหลายๆท่านให้ได้รับรู้
คงมีมาให้อ่านเรื่อยๆนะครับ

 

โอ้....อ่านไป โดนใจหลายจุด
ขอบคุณ คุณ รักฯ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

 

อ่ะ .. ได้ยินอ.บอกแล้วนะคะ
รวมเล่มได้แล้ว
แต่ดังแล้วอย่าลืมตัวนะ
อ.ท่านบอกว่าอย่ายึดติด

 

แฟนคลับอีกคนปูเสื่อรออ่านอยู่ครับ อ่านแล้วอาจารย์ประทีปโดนใจผมเลย
ท่าทางอาจารย์ต้องคิวยาวอีกแน่ ขอบคุณคุณรักไร้พ่ายที่แนะนำให้พวกเราครับ

 

แฟนคลับอีกคน รอติดตามผลงานคะ
ขอให้คุณรักฯ สมหวังในเรื่องที่ปรารถนาทุกๆเรื่องนะคะ

 

yakuzaa12 ใช่ครับ พี่เขาเก่งจริง แต่ไม่ต้องการชื่อเสียง เงินทอง ผมนับถือ เป็น อาจารย์ สอนผมเลยครับ พี่ yakuzaa12 จะส่งธรรมมาให้ฟัง พร้อมแนะนำ ให้สวดมนต์
ใส่บาตร ภาวนา ประจำ ครับ

 

เอาเป็นคลิปเสียงที่บันทึกไว้มาลงเลยน่าจะได้อรรถรสมากกว่านี้นะครับ ด้วยความเคารพครับ

 

ขอบคุณครับ ที่ติดตามอ่าน

อ ประทีป คิดค่าดูทางโทรศัพท์ 299
หากไปดูด้วยตัวเองก็ 500
แต่ อ บอกว่า ใครมีปัญหาเรื่องเงิน ดูให้ฟรีครับ

อ. ยังหนุ่มนะครับ ยังไม่แก่ แถมยังหล่อด้วย

 

คุณนี่เป็นนักจับผิดหรือไงคะ

โดยส่วนตัวก็ไม่ได้รู้จักกับคุณ แล้วที่คุณว่าหลายทู้ แบ่งสี ตรงไหนหรือ
คะที่ดิฉันแบ่งสี คนเราถ้าไม่มีชนักปักหลังจะกลัวอะไรหรือคะ ดิฉันก็พูด
ไปตามความเป็นจริง แล้วมันไม่จริงตรงไหนหรือคะคุณ ที่อดีตนายก
เหลิงในอำนาจ หรือคุณมัวแต่งมโข่งอยู่แต่ในรูไม่ได้ดูความเป็นไปของ
บ้านเมืองหรือไง ช่วยบอกด้วยนะว่าดิฉันแบ่งแยกตรงไหน ถ้าในใจคุณไม่
คิดถึงสี แล้วความคิดที่คุณพูดมานี่มันจะออกมาจากปากคุณหรือไง ในเมื่อ
คุณเป็นคนคิดเองเสร็จสรรพ อย่าได้เอาความคิดของคุณเที่ยวได้ตัดสินคนอื่น แล้วเที่ยวได้ไปสั่งสอนใครหัดมองดูตัวเองก่อนแล้วค่อยมาสั่งสอนคนอื่นนะคะ แต่ละกระทู้เขาให้คนแสดงความคิดเห็น มันเป็นประชาธิปไตยสิทธิเสรีภาพ ของคนที่พึงแสดง ในเมื่อผู้นำประเทศทำตัวอย่างที่ไม่ดีให้คนในประเทศเห็น ประชาชนอย่างดิฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่เอาท่านเป็นตัวอย่างหรือคะ
หรือคุณชอบสั่งสอนลูกหลานคุณให้นิยมคนโกงบ้านกินเมืองหรือคะ นั่นมันเรื่องของคุณแต่อย่ามาให้ดิฉันเห็นดีเห็นงามตามคุณเพราะคนอย่างดิฉันนิยมแต่คนที่รู้จักผิดชอบชั่วดี อยู่ในศิลในธรรม ไม่ใช่นิยมคนโกงชาติโกงแผ่นดินค่ะ