ตราบเท่าที่ยังมีกายกับมีจิตดับทุกข์ไม่ได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 19 สิงหาคม 2020.

  1. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    แค่นี้ไม่พอ ต่องรู้ด้วยว่าเป็นกุศลหรืออกุศล...นะ
    จิตเจตสิก กุศลกี่ดวง อกุศลกี่ดวง....
    และ..
    สัมมาทิฐิ คือ ปัญญาชอบ....นะครับ
    เมาปริยัติมากเลย
     
  2. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    วิธีปฏิบัติ

    ไม่จำเป้นเลยครับ จะไปประชดให้ ยาก หาเฮียแสงทำไม

    พระพุทธเจ้าท่านสอนง่ายๆ
     
  3. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    ประชดที่ไหน อาผมพูดอย่างนึ้จริงๆวันนี้
     
  4. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    ผ่องแผ้วหรือเศร้าหมอง
    ไม่เน้นเฉยๆเพราะแก่แล้ว
     
  5. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    แค่เริ่มปฎืบัติก็ปวดหัวแล้ว เพราะต้องนะวังไใม่ให้เป็นกิเลส...
     
  6. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762

    ดู คำสอนนะ ง๊ายง่าย

    [๒๘๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่อย่างไรเล่า

    ภิกษุในธรรมวินัยนี้
    จิตมีราคะ ก็รู้ว่าจิตมีราคะ
    หรือจิตปราศจากราคะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ
    จิตมีโทสะ ก็รู้ว่าจิตมีโทสะ
    หรือจิตปราศจากโทสะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากโทสะ
    จิตมีโมหะ ก็รู้ว่าจิตมีโมหะ
    หรือจิตปราศจากโมหะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ
    จิตหดหู่ ก็รู้ว่าจิตหดหู่
    จิตฟุ้งซ่าน ก็รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน
    จิตเป็นมหรคต ก็รู้ว่าจิตเป็นมหรคต
    หรือจิตไม่เป็นมหรคต ก็รู้ว่าจิตไม่เป็นมหรคต
    จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า
    หรือจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า
    จิตเป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ
    หรือจิตไม่เป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตไม่เป็นสมาธิ
    จิตหลุดพ้น ก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น
    หรือจิตไม่หลุดพ้น ก็รู้ว่าจิตไม่หลุดพ้น ดังพรรณนามาฉะนี้





    ภิกษุ
    ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตภายในบ้าง
    พิจารณาเห็นจิตในจิตภายนอกบ้าง
    พิจารณาเห็นจิตในจิตทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง
    พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในจิตบ้าง
    พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในจิตบ้าง
    พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในจิตบ้าง

    ย่อมอยู่ อีกอย่างหนึ่ง
    สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า จิตมีอยู่
    ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัย
    ระลึกเท่านั้น

    เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว
    และไม่ถือมั่นอะไรๆในโลก


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ฯ
     
  7. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ถึง ได้บอกไงครับ

    การได้ฟังธรรมที่สมบูรณ์ เป็นอาหารคำแรก จะทำให้ติดกระดุมเม็ดแรกถูก
     
  8. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    อะ อย่างหลวงตามหาบัว แนะนำ

    ดูนะ

    ..........................................
    ในกาลในสมัยเดียวนั้นเอง
    สามารถที่จะพิจารณาสติปัฏฐานทั้งสี่นี้ไปพร้อม ๆ กันได้

    เพราะอาการทั้งสี่นี้เป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นสับสนปนเปกันอยู่ตลอดเวลา
    ไม่ได้มีการกำหนดว่า
    กายจะต้องปรากฏขึ้นก่อน
    แล้ว เวทนาเป็นที่สอง
    จิตเป็นที่สามธรรมเป็นที่สี่

    ไม่ใช่อย่างนั้น

    เป็นสิ่งที่สัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน
    อยู่ทั่วสรรพางค์ร่างกาย
    และจิตใจของเราล้วนแล้วตั้งแต่เป็นเรื่องของสติปัฏฐาน ๔ ทั้งนั้น

    การที่เราจะพิจารณาในส่วนสภาวะทั้งหลาย
    ที่ปรากฏขึ้นมาสัมผัสกับใจของเราส่วนใดนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง

    อ่านต่อที่นี่ https://palungjit.org/threads/ในกาลในสมัยเดียวนั้นเอง-สามารถที่จะพิจารณาสติปัฏฐานทั้งสี่นี้ไปพร้อม-ๆ-กันได้.700464/


    ถ้า น้า ไปฟัง สิ่งที่ไม่สมบูรณ์

    ต้องกายก่อน
    ต้องจิตก่อน เถียงกันอยู่นั่นแหล่ะ
     
  9. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    อะ นี้อีกตัวอย่างนึง ของการแนะนำ โดยหลวงปู่พุธ ฐานิโย

    กลัว กิเลส นัก ใช่มั้ย
    ...............................................


    ดังนั้น
    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านจึงให้พิจารณา
    ดูจิตของเราว่า
    มีกิเลส โลภ โกรธ หลง หรือไม่
    ถ้าเราทราบแล้วว่าเรามี เราก็ยอมรับสภาพความจริงว่าเรามี
    เมื่อรู้ว่าเรามีแล้ว เราก็อาศัยกำลังของกิเลสนั้นแหล่ะ เป็นเครื่องกระตุ้นเตือนใจให้เกิดความทะเยอทะยาน
    ในความอยากได้
    อยากดี
    อยากมี
    อยากเป็น

    โลภ อยากได้คุณธรรม

    เอาความโลภกระตุ้นเตือนใจให้เกิดความ ทะเยอ ทะยาน
    ให้ไหว้พระสวดมนต์มากๆ
    เดินจงกรมนานๆ
    นั่งสมาธินานๆ
    พิจารณาธรรมะให้รู้แจ้งแทงตลอดตามความเป็นจริง
    อาศัยพลังของความโลภเป็นเครื่องกระตุ้นเตือน
    ที่นี้กิเลส
    บรรดากิเลสทั้งหลายเนี๊ยะ

    ในเมื่อพูดถึงกิเลสแล้ว
    เราว่ามันชั่ว มันเศร้าหมอง มันไม่ดี
    แต่ความจริงนั้น
    เราจะได้ดิบ ได้ดี เพราะกำลังของกิเลส มันกระตุ้น
    เราอยากได้มรรคผลนิพพาน ก็เพราะอาศัยความโลภนั้นแหละเป็นเครื่องกระตุ้น
    แต่ว่าเราในเมื่อเราถูกกิเลสกระตุ้นแล้วเราก็ต้องประพฤติให้มันถูกต้อง
    แม้ว่าเราจะทำความโลภมากมายสักเพียงใดก็ตาม
    แต่หากไม่ผิดศีล ๕ ข้อ อทินนาทาน บาปไม่มี
    เพราะหลักฐานที่พระพุทธเจ้าทรงเทศน์เอาไว้ว่า ใครประสงค์เอ่อ
    ใครต้องการประโยชน์ในปัจจุบัน
    ต้องอาศัยหลักธรรม ๔ ข้อ เป็นเครื่องปฏิบัติ

    อ่านต่อที่นี่ https://palungjit.org/threads/ศีลเป็นคุณธรรมของมนุษย์-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.279665/
     
  10. KeeMaoAu

    KeeMaoAu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2020
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +22
    เห็นสิ่งที่มากระทบอายตนะทั้ง6เป็นธรรมดา ความทุกข์ก็ไม่น่าจะเกิดนะครับ กายก็อยู่ ส่วนจิตก็ทำหน้าที่ของเขาไป สิ่งที่ไม่เที่ยงจะเอามากอดให้ทุกข์ไปทำไม
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    มันเป็นธรรมชาติเมื่อผัสสะ จิตก็เกิด
    เวทนาสัญญาสังขาร
    ก็เกิดพร้อมกันด้วย
    คือมีการคิดปรุง ปรุงคิดสืบต่อ
    แต่ถ้ามีสติปัญญาว่องไว รู้ทันก็ตัดตอน
    ก่อนเลย
    แต่หากไม่ได้ฝึกฝน ก็ตกเป็นเหยื่อเวทนา
    พอใจ หรือไม่พอใจ
    เป็นตัณหาคือ
    อยากได้ หรือไม่อยากได้
    เป็นทุกข์เพราะตัณหาที่ใจ
    นั่นแหล่ะจะพากายลำบากไปด้วยคับ
     
  12. KeeMaoAu

    KeeMaoAu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2020
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +22
    รู้ทันธรรมชาติด้วยการเห็นสิ่งมากระทบเป็นธรรมดา
    เมื่อเห็นเป็นธรรมดา ใจก็ไม่กระเพื่อม
    เหตุแห่งการเห็นเป็นธรรมดาเนื่องด้วย
    รู้ว่าสิ่งที่มากระทบไม่เที่ยงเกิดจากปัจจัยภายนอก
    เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เมื่อไม่ยึดถือ ก็วางได้
    ผมพยายามอธิบายแบบที่ตัวเองเข้าใจ
    ประมาณนี้ใช่ไหมครับ
     
  13. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    อย่า ศึกษาธรรม เพื่อ เอาความเข้าใจ

    มันจะเปน การศึกษา ด้วย ตรรกะ
    แทน การ ประจักษ์ เปน ประสพการณ์

    ไฟ เวลา เราจับ รับรู้ การปล่อย จะเกิด
    แล้ว ก้เหน เน้นตรงการเหน อาการปล่อย

    ไฟ มันร้อน พอรู้ว่าร้อน ก้ปล่อยแต่ต้น(คิดเอา
    ก่อนแล้ว ไม่ได้จับ ไม่เคยจับ)

    มันจะได้ ภูมิ "การเห็น" คนละอย่างกัน

    อันนึง ได้แค่ ตรรกะ กล่าวแล้ว เทห์
    ฉลาดล้ำ

    อันนึง เปน ประสพการณ์ ตามจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2020
  14. KeeMaoAu

    KeeMaoAu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2020
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +22
    ไม่ใช่เข้าใจครับแต่เวลาอธิบายใช้ความเข้าใจ
    ส่วนเรื่องสุข ทุกข์นั้นใช้ความรู้สึก
    ส่วนที่เป็นความรู้สึกเป็นเหมือนรสชาติที่ต้องชิมเอา
    แต่ในส่วนการอธิบายก็ต้องใช้สมมุติบัญญัติ
    คอยสื่อสารเพื่อความเข้าใจอยู่ดี
    เท่ห์หรือไม่เท่ห์ไม่ใช่จุดประสงค์ในการสื่อสารเลยครับ
     
  15. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    อธิบาย การ รู้รสธรรม อันนี้ พอใช้

    แต่ มันยังมี ดิ้นรน แฝงอยู่

    ต้อง ขออนุญาติปรักปรำ

    ว่า ยังเข้าไปรู้ รสธรรม ได้ไม่ชัด
    ยังแอบ คาดเดา


    หลวงตามหาบัว ท่าน ปรารภว่า

    หากอิงอรรถ อิงธรรม แต่ยังมี
    การคาดเดา

    ก้จะมีอาการ เกาหมัด ให้เหน


    ให้กำหนดรู้ แยบ มันไว้ด้วย
    อย่า การ์ดตก
     
  16. KeeMaoAu

    KeeMaoAu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2020
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +22
    ถ้าพี่เก่งขนาดรู้วาระจิตผู้อื่นขนาดนั้นผมก็สุดแล้วแต่พี่จะคิดครับ นานาจิตตัง ธรรมเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน แต่ผมก็ไม่ทราบว่าพี่เรียนศึกษามาจนมีอภิญญารู้วาระจิตผู้อื่นผ่านคอมเม้นต์ได้หรือเปล่า ด้วยความเคารพครับ
     
  17. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262

    ธรรม เปน ของกลาง ครับ

    ผัสสะ เปน อนัตตา

    หาก ปัจจัตตัง แล้ว ขีดเส้น แบ่ง เขา เรา

    อันนี้.....

    คนละ ปัจจัตตัง ใน ธรรมวินัยนี้
     
  18. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262

    พระ ศาสดา ตรัสไว้

    การ ดูว่า ใครมี ธรรม

    สามารถ ดูได้ คำพูด


    ทรง ระอา อิทธิปาฏิหารย์

    ทรงเว้นขาด การใช้ อิทธฤทธิ์ ปาฏิหารย์
     
  19. KeeMaoAu

    KeeMaoAu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2020
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +22
    ผมพูดถึงประเด็นที่พี่บอกว่ารู้ไม่แน่ชัดนะครับผมแค่อยากบอกตรงนั้นเท่านั้นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...