ตอบข้อสงสัย ทำไมวัดท่าซุงถึงไม่จัดเป่ายันต์เกราะเพชร

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HipPo*, 19 พฤศจิกายน 2010.

  1. HipPo*

    HipPo* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    3,101
    ค่าพลัง:
    +7,908
    คัดลอกบทความตอนหนึ่งจาก "เสียงจากถ้ำ" โดย พระเดชพระคุณหลวงตา วัชรชัย ที่กล่าวแถลงถึงข้อข้องใจที่หลายคนยังสงสัยว่า



    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #998049; COLOR: #998049" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ก็อย่างที่หลวงตาเขียนเล่า "เรื่องในบ้านใหญ่" เปะปะ เล่าลำดับเหตุการณ์มาถึงตอนที่ ๕ นี้ ก็พอดีมาถึงช่วงครบรอบวันเกิด ๖๐ ปีของท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงองค์ปัจจุบัน ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เรื่องราวย้อนหลังกว่า ๒๐ ปีก่อนหน้านี้ อยากจะบันทึกเล่าไว้เกี่ยวกับท่านอาจารย์โดยตรง

    เห็นชัดเจนว่า พระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ได้ฟูมฟักฝึกฝนท่านอาจารย์มาเพื่อเป็นเจ้าอาวาส ทายาทเจ้าสำนักของท่าน โดยที่คนอื่นพระอื่นสังเกตเห็นไม่ชัดเจน แต่ค่อย ๆ เด่นชัดมาตามลำดับกาลเวลา มารยาทวาสนาของท่านอาจารย์ก็รองรับบทปฏิบัตินั้นมาได้ไม่พลาดพลั้ง .. โดยเฉพาะที่หลวงตาได้สัมผัสผูกพันมาด้วยตัวเอง

    ขอเล่าเหตุการณ์สำคัญเมื่อ ๑๕-๑๖ ปีก่อนโน้น..ก่อนพระคุณพ่อจะมรณภาพ ๑ ปี มีพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวันเสาร์ ๕ ค่ำ ในวันศุกร์ ๔ ค่ำก่อนงาน พ่อก็บอกพระอาจารย์และพระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุงว่า งานนี้พระ..(พระของพ่อหมายถึงครูบาอาจารย์ มีพระพุทธเจ้าเป็นต้นสุด)..สั่งให้จัดพิธีครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชร ก็ให้เตรียมพานครูไปวางไว้ข้างหน้าที่ตนนั่งเข้าพิธีรับยันต์เกราะเพชรที่พ่อจะเป่า

    ปรากฏดังนี้ ..

    พระอาจารย์ (พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ) บอกว่าท่านไม่ขอครอบเป็นครูเป่ายันต์ เพราะไม่อยากวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ ขอให้จบลงในสมัยชีวิตหลวงพ่อฤๅษีฯ เถิด

    พระองค์อื่นก็ไม่กล้าขอเข้าพิธีเพราะพระอาจารย์ไม่เอา

    เมื่อท่านผู้อาวุโสสูงและได้รับคำประกาศจากพ่อท่ามกลางสงฆ์ในสังฆกรรมปาติโมกข์ว่าให้ทำหน้าที่เจ้าอาวาสแทนพ่อ และเป็นเจ้าอาวาสเมื่อพ่อตายแล้ว ถ้าองค์นี้ไม่เข้า.. ใครจะกล้าเข้าพิธี
    ก็ปรากฏอีกว่า.. มีโยมที่เป็นหัวหน้าช่างทำบายศรีของวัดท่าซุง คือโยมศุภาพร (ธรรมบดี) เข้าไปขอพรจากพระอาจารย์อนันต์ว่า

    ขอให้พระสงฆ์ได้โปรดรับเข้าพิธีครอบครูเป่ายันต์เถิด ได้มาแล้วไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร ถ้ามีเรื่องต้องใช้จะเสียโอกาสมงคลสูงสุดนี้ โยมจะจัดพานไหว้ครูมาถวายทุกองค์ ..

    พระอาจารย์อนันต์ยิ้มรับ พระสงฆ์ทั้งหลายก็เลยได้โอกาสนั้นด้วย

    ตกลงว่าทุกองค์ที่มีศรัทธาและเข้าพิธีวันนั้นเป็นครูเป่ายันต์เกราะเพชรทุกองค์ !

    พอพ่อสิ้นชีวิต ตั้งศพที่ศาลา ๑๒ ไร่ เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา (หลวงปู่สามพระยาของลูกหลาน) ปรารภฝากมาว่า อยากให้วัดท่าซุงจัดเป่ายันต์เกราะเพชร เสาร์ ๕ ต่อไป เพื่อเป็นเหตุรวบรวมศิษยานุศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ ให้เป็นปึกแผ่น ไม่แตกสลายหายหน้าไปเพราะขาดหัวแถว พระสงฆ์ส่วนใหญ่ต้องการให้พระอาจารย์จัดงานเป่ายันต์ พระอาจารย์ก็บอกว่าไม่จัด.. ศพพ่อก็ยังตั้งอยู่ในศาลา ๑๒ ไร่ และยังตั้งใจว่าจะไม่ขอวัดรอยเท้าพ่อ

    พระส่วนใหญ่ยืนยันให้จัด ส่วนน้อยคอยมติผลสรุป

    หลวงตาก็บอกพระอาจารย์ให้ท่านเตรียมตัว พรุ่งนี้ประชุมที่ศาลา ๑๒ ไร่ ต่อหน้าศพพ่อ จะมีมติส่วนใหญ่ให้เป่ายันต์

    พระอาจารย์อนันต์ หันมายิ้มบอก..

    "คอยดูวันประชุมก็แล้วกัน.."

    อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร..
    ก่อนจะเล่าเรื่องผลสรุปมติการ "เป่ายันต์เกราะเพชร" ของบรรดาลูก ๆ พระสงฆ์ ศิษยานุศิษย์พระคุณพ่อ..หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงต่อไป.. ก็ขอแจ้งให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ทราบว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ๑๖ ปี ผ่านมาแล้ว คือก่อนพระคุณพ่อจะทิ้งสังขารหนึ่งปี บรรดาลูก ๆ พระภิกษุในสมัยนั้นต่างก็ถูกกาลเวลาและกฎธรรมดาบังคับให้แก่บ้าง.. ตายไปแล้วบ้าง.. สึกไปแล้วบ้าง

    ที่ยังเหลืออยู่จนบัดนี้ ที่นึกได้จำได้ก็มี พระคุณอาจารย์อนันต์, พระอาจารย์โอ(พิชิต), หลวงพี่ทีป, หลวงพี่สุรจิต, หลวงพี่ชัยวัฒ์, หลวงพี่ละออง, หลวงพี่ดุ่ย, หลวงน้าสัมฤทธิ์, หลวงน้าสุนทร ขออภัยที่จำได้แต่นึกไม่ออกอีกหลายองค์ที่ยังทรงชีวิตพระอยู่ได้ถึงปัจจุบันวันนี้..

    และที่ลืมไม่ลงเลยก็มี อาจารย์เล็ก อาจารย์สมปอง และหลวงตาวัชรชัย.. ผู้เขียนนี่แหละ เอ้า! ฟังกัน.. อ่านกันต่อ...
    วันนั้น.. เมื่อพระทั้งสิ้นกราบศพพ่อเสร็จแล้ว ก็เข้าห้องประชุมที่ศาลา ๑๒ ไร่ ใกล้ ๆ ศพพ่อตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่นั้นแหละ พระอาจารย์อนันต์ ตอนนั้นได้รับตราตั้งเจ้าอาวาสจากเจ้าพระคุณสมเด็จวัดสามพระยา เจ้าคณะใหญ่หนกลางเรียบร้อยแล้ว ก็กล่าวเปิดประเด็นปรารภเรื่องที่สมเด็จฯ อยากให้จัดเป่ายันต์เกราะเพชรทุกวันเสาร์ห้า ..ท่านใดจะมีความเห็นอย่างไรบ้าง

    ก็มีการแสดงความเห็นนำขึ้นองค์หนึ่ง (ตอนนี้สึกไปแล้ว) ว่าควรจัดอย่างยิ่ง เพราะหลวงปู่ปานและพระคุณพ่อฤๅษีฯ ได้ทำ นำตั้งแบบแผนไว้มั่นคงดีแล้ว.. ลูกศิษย์ทั่วโลกก็ยอมรับนับถือว่าการเป่ายันต์เกราะเพชรเป็นเรื่องของมงคลชีวิตสูงสุดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะคุ้มภัยให้ร่างกายคนรับยันต์ได้อย่างวิเศษสุด จิตใจก็จะมั่นคงในสรณธรรมกรรมฐานมากยิ่งขึ้น

    เรียกจัดเป่ายันต์ครั้งไร มีคนเข้ารับยันต์เต็มแน่นศาลา ๑๒ ไร่ และต้องจัดถึง ๒ รอบ เป็นการรวมศิษย์เก่า เรียกศิษย์ใหม่ได้โดยชอบธรรม.. ต้องเป่าครับ.. ต้องจัดครับ

    ..และที่สำคัญหลวงปู่วัดสามพระยาสนับสนุนให้จัดเป่าอีกด้วย ไม่เป่าไม่ได้หรอกครับ..

    ยกมือกันมาก...เกือบหมดแหละ !
    พระอาจารย์ก็บอก..ดี..ดี..มีเหตุผล ผมไม่ค้านเลย แต่ผมลืมเล่าให้ทุกท่านฟังอยู่เรื่องหนึ่ง.. คือก่อนหลวงพ่อท่านจะมรณภาพสัก ๑ เดือน หลวงพ่อเรียกผมเข้าไปหา.. พูดเรื่องยันต์เกราะเพชรว่า

    "เออ..นันต์ จำไว้ไปบอกกันด้วย หลวงปู่ปานเคยบอกว่า คนที่จะเป็นอาจารย์เป่ายันต์เกราะเพชรให้ศิษยานุศิษย์ได้นั้น จะต้องมีความสามารถเป็นพิเศษ ที่จะรู้กฎของกรรมเฉพาะหน้าของศิษย์ทั้งหลายจะได้บอกให้จิต ทำอารมณ์ให้ตรงกับที่ท่านผู้เป็นใหญ่ผู้มีทิพยอำนาจผู้ประสาทพิธีลงมา เพราะฉะนั้นต้องมีใจเป็นทิพย์มั่นคงไม่ถอยหลังแล้วคือ ...

    ต้องเป็นพระอรหันต์วิชชา ๓ เป็นอย่างน้อย
    หรือต้องเป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็มแล้วอย่างหลวงปู่ปาน เป็นต้น

    จึงจะรับคำสั่งจากท่านเบื้องบน มีสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นประธาน.. แล้วประสาทบอกอารมณ์ควบคุมอารมณ์ศิษย์ที่เข้าพิธีได้

    แล้วพระอาจารย์อนันต์ก็พูดต่อว่า ผมพร้อมที่จะจัดพิธีเป่ายันต์ให้ แต่ผมเป่าไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เป็นพระอรหันต์เหมือนหลวงพ่อ.. และก็ไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็มแล้วเหมือนหลวงปู่ปาน..

    เอ้า !... ใครเป็นพระอรหันต์วิชชาสามเป็นอย่างน้อย หรือเป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็มแล้วบ้าง.. ยกมือขึ้นนะครับ... ผมจะน้อมจัดพิธีเป่ายันต์ถวาย มีไหมครับ?...

    ในขณะบัดนั้นก็เงียบสนิท ไม่มีมือยกรับรองตัวเอง..

    แล้วพระอาจารย์ก็บอกว่า เมื่อยังไม่มีผมก็ยังไม่กล้าจัดเป่ายันต์เพราะจะขัดคำครูบาอาจารย์ พวกเรามาเร่งความเพียรกัน ใครเป็นพระอรหันต์เมื่อไร เป็นพระโพธิสัตว์พร้อมจะตรัสรู้เมื่อไรบอกผมด้วย จะได้จัดพิธีถวาย

    ตั้งแต่วันนั้นมา ในวัดท่าซุงก็ไม่พูดถึงเรื่องจัดเป่ายันต์เกราะเพชรอีกเลย...


    ที่มา/ขอบคุณ เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม ครับ

    <!-- / message -->

    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤศจิกายน 2010
  2. HipPo*

    HipPo* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    3,101
    ค่าพลัง:
    +7,908
    ต่อๆๆๆๆ

    มีถ้อยความที่ผู้เขียนต้องกล่าว ไม่กล่าวจะเสียหาย ๒ ประการ เพราะลูกหลาน พี่น้อง ศิษยานุศิษย์ร่วมครูอาจารย์ คือ หลวงพ่อฤๅษีฯ และพระคุณอาจารย์อนันต์มาถาม มาซักไซ้ผู้เขียนถึงเรื่องสำคัญ ๒ กระแส

    คือ.. เรื่องอาจารย์เล็กวัดท่าขนุน ศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อฤๅษีฯ จัดเป่ายันต์เกราะเพชร

    ..มาถาม มาเล่าให้ฟังทุกครั้งที่อาจารย์เล็กเป่ายันต์ในวันเสาร์ห้า ทำนองว่าได้ผลไหม หลวงตาคิดว่าอย่างไร ..เพราะหลวงพี่เล็กก็นั่งอยู่ในที่ประชุมวันนั้น หลวงพี่นันต์ว่าอย่างไรบ้าง???...

    ก็ต้องเขียนบอกความเห็นของหลวงตาผู้เขียน ตามที่ได้ตอบผู้มาถามทุกครั้งนั้นว่า อาจารย์เล็ก (หลวงพี่เล็ก) ท่านก็เข้าพิธีครอบครูเป่ายันต์พร้อมกันด้วย... ท่านได้เข้าประชุมวันนั้นด้วย... ทราบคำแถลงของพระอาจารย์อนันต์ด้วยกัน การที่ท่านออกจากวัดท่าซุง ก็ออกมาโดยชอบเหมือนหลวงตา เมื่อท่านตั้งหลักได้ มีลูกศิษย์ลูกหาตามเคารพ ท่านจัดเป่ายันต์เกราะเพชรได้ก็ต้องมีความมั่นใจถึง ๓ ประการ

    ๑. หลวงพ่อประทานครอบครูเป่ายันต์เหมือนพี่น้องทุกองค์
    ๒. จัดเป่ายันต์ในวันเสาร์ห้าตามแบบฉบับครูบาอาจารย์
    ๓. เรื่องเป็นพระอรหันต์หรือพระโพธิสัตว์ หลวงตาผู้เขียนไม่รู้
    แต่ก็ไม่กล้าบอกว่าท่านไม่ใช่.. อาจารย์เล็กคนเดียวที่รู้ตัวท่านเอง
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  3. HipPo*

    HipPo* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    3,101
    ค่าพลัง:
    +7,908
    ต่อๆๆๆ

    มีเรื่องอยากจะเล่าให้ลูกหลานฟังคือเรื่องการเป่ายันต์เกราะเพชรในระยะแรก...อยากฟังไหม?

    เอาตั้งแต่เริ่มแรกที่หลวงตาสัมผัสรู้เห็นมาด้วยตนเองนะ ตอนแรกพระคุณพ่อ(หลวงพ่อฤๅษีฯ) ยังยืนยันที่จะไม่เป่ายันต์เกราะเพชร ตอนที่หลวงตายังไม่ได้บวชแต่ไฟแรงอยากบวชออกธุดงค์ เข้าไปหาพระคุณพ่อ ขอให้ท่านจัดเป่ายันต์เกราะเพชรเหมือนสมัยหลวงปู่ปานวัดบางนมโค (ผู้เป็นที่รักและมีพระคุณต่อท่านประดุจพ่อ) ท่านมองหน้า..หน้าเข้มตาดุเชียว..

    "จะเอาไปทำไม!"

    ก็กราบเรียนท่านว่าจะได้เป็นมงคล เป็นยันต์วิเศษคุ้มกายคลุมใจให้อาจหาญมั่นคงในการถวายชีวิตปฏิบัติธรรมชนิดเอาเป็นเอาตายกันเลย

    "ข้าไม่เป่า" ท่านยืนยันทั้งน้ำเสียงและสีหน้าสายตา
    "ข้าไม่เดินทับทางที่พ่อข้าเดิน..ไม่ต้องมาขอ..เขอ..อะไรทั้งนั้น!"

    ลูกหลานเอย หลังจากนั้นอีก ๕ ปี เมื่อหลวงตาบวชได้พรรษาแรก พระคุณพ่อก็จัดเป่ายันต์เกราะเพชรเป็นครั้งแรกในชีวิตของท่าน โดยให้เหตุผลว่า 'พระ' (หมายถึงพระพุทธเจ้าหรือหลวงปู่ปาน) มาบอกให้จัดเป่ายันต์เกราะเพชร ลูกหลานจะได้มีความมั่นคงในคุณความดีที่ปฏิบัติบูชากันอยู่ จะได้มีมงคลมีพรคุ้มชีวิตจิตใจ เพราะว่าถึงเวลาแล้ว เมื่อได้รับยันต์เข้าตัวแล้ว ใจก็จะยึดมั่นในศีลและสรณาคมน์อย่างมั่นคง เป็นเครื่องป้องกันอบายภูมิได้โดยตรงอีกด้วย


    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #998049; COLOR: #998049" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ในการจัดงานเป่ายันต์ครั้งแรกนั้น จัดทำที่ศาลา 'พระพินิจอักษร' ซึ่งเป็นศาลาใหม่ที่สุดในเวลานั้น ตั้งอยู่ขนานกับโบสถ์ ติดกับสระน้ำร้านอาหารโยมกิมกี พอถึงเวลาพิธี..ผู้คนไม่รู้มาจากไหนกัน แน่นขนัด.. เบียดเสียดเข้าประตูศาลาพระพินิจอักษร เป็นลมล้มกลางแถว ต้องอุ้มหนีเท้า.. คลื่นผู้คน..เป็นพัลวัน จัดเพียงรอบเดียวในตอนบ่าย เมื่อเสร็จพิธีเป่ายันต์ครั้งแรก ลูกหลานศิษยานุศิษย์พระคุณพ่อทั้งหลายต่างก็รอวันเสาร์ห้าหน้า อันเป็นวันเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งที่สองอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเหตุว่า..

    พระคุณหลวงปู่ปาน และพระคุณพ่อได้พูดถึงอานิสงส์อานุภาพของยันต์เกราะเพชรไว้นานแล้ว ลูกหลานจำได้ติดตรึงใจว่า ต้องรักษาศีล ๒ ข้อ คือข้อไม่ลักทรัพย์ และข้อไม่ดื่มสุรา ต่อมาในสมัยพระคุณพ่อได้เพิ่มเป็นว่าต้องรักษาศีลได้ทั้ง ๕ ข้อ ยันต์จึงจะเข้าตัวจึงจะเป่ายันต์ติด ต่อไปถ้าไปผิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง.. ที่รักษาสัจจะเพื่อรับยันต์เพราะเพชรนั้น ยันต์ก็จะหลุดจะเสื่อมสภาพจากเกราะเพชรคุ้มกายนั้น ถ้าอยากได้ยันต์อีก ก็ต้องรักษาศีลเป็นสัจจะแล้วรอเสาร์ห้าต่อไป เมื่อเข้าไปรับยันต์ในพิธี ยันต์ก็จะเข้าตัวติดตัวได้อีก

    อยากรู้อานุภาพยันต์เกราะเพชรไหมล่ะลูก!... สมัยหลวงปู่ปานท่านบอกว่า อานิสงส์ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ.. พิษร้ายทั้งหลาย ไม่ว่าจะงูพิษกัด ตะขาบกัด จะทำอันตรายไม่ได้ เมื่อถูกพิษทำร้ายแล้ว ก็จะวิ่งขึ้นมาได้แค่ข้อมือข้อเท้า หรือข้อต่อถัดจากแผลพิษนั้นเท่านั้น แล้วก็จะพลันวิ่งกลับสลายจากร่างกายไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งป้องกันไสยศาสตร์ คุณไสยได้โดยตรงอีกด้วย ส่วนอันตรายอื่น ๆ อีกนั้นก็คุ้มได้ไม่เกินกฎแห่งกรรมของแต่ละคน

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #998049; COLOR: #998049" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ทีนี้สัญลักษณ์เครื่องกำหนดรู้ว่า ยันต์เข้าตัวได้แล้วนั้น จะมีอาการปรากฏต่าง ๆ กันไปหลายลักษณะ คือรู้สึกว่าคันตามผิวหนัง ตามเนื้อตามตัวบ้าง รู้สึกร้อนหรือเย็นบริเวณหน้าผากอย่างชัดเจนบ้าง บางคนถึงกับจับไข้ไปเลยก็มีมากราย และที่ตื่นเต้นที่สุดก็คือ เมื่อแม่อุ้มท้องบุตรแล้วเข้าไปรับยันต์เกราะเพชร แม่ก็ได้คุณของยันต์สำหรับตัว แต่เมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว จะมีลายเส้นยันต์เกราะเพชรสีแดงชัดเจนปรากฏทั่วตัวหรือบางส่วนของร่างกาย จะมีอาการอย่างนั้นชัดเจนอยู่ ๗ วัน ยันต์ก็จะซึมเข้าร่างกายหายร่องรอยภายนอกไป ต้องรอพิสูจน์นานหน่อย เด็กคนนั้นจะไม่มีใครทำร้ายได้เลยตราบเท่าที่ยังรักษายันต์ไว้ได้

    แถมอีกนิดปิดอานิสงส์ยันต์เกราะเพชร คือเมื่อเจ้าของยันต์นั้นตายลง เผาศพแล้วให้ดูที่กะโหลกศีรษะ จะมีเส้นยันต์เกราะเพชรเต็มรูปยันต์เป็นสีขาวติดอยู่ที่กะโหลกชัดเจนมาก หลวงตายืนยันได้เลยจากกรณีของ 'หลวงปู่ทองเทศ' วัดท่าซุง

    หลวงปู่ทองเทศอายุร้อยกว่าปี นอนอยู่กุฏิหมายเลข ๗ ของกุฏิ ๑๐ หลัง หลังโบสถ์วัดท่าซุง ทุกครั้งที่มีการเป่ายันต์พระคุณพ่อจะให้พาดสายสิญจน์ล้อมรอบฝั่งโบสถ์ทั้งหมด ระยะสุดท้าย พิธีจัดในศาลา ๑๒ ไร่ ท่านบอกว่าแม้ไม่ได้อยู่ในศาลาพิธี แต่อยู่ในเขตสายสิญจน์ล้อม ให้ภาวนาพุทโธอธิษฐานขอรับยันต์ ก็จะรับได้เหมือนนั่งอยู่ต่อหน้าพระคุณพ่อซึ่งกำลังเป่ายันต์อยู่

    หลวงปู่ทองเทศ นอน..นั่งภาวนาในกุฏิ ซึ่งอยู่นอกกำแพงศาลา ๑๒ ไร่ ท่านอธิษฐานมั่นคงขอรับยันต์เกราะเพชรทุกครั้งที่มีการเป่ายันต์ พอหลวงปู่ตาย... พระทั้งหมดอยากรู้ผลพิสูจน์ จัดเมรุเผาศพที่ลานหน้าโบสถ์ ไฟมอดแล้วก็เข้าไปเขี่ยดูกะโหลกหลวงปู่ทองเทศ เห็นเส้นยันต์เกราะเพชรชัดเจน ตามตำราไม่มีผิดเพี้ยน!

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #998049; COLOR: #998049" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ลูกหลานเอย... พักมือสักครู่หนึ่งก่อน.. จะเอาต้นฉบับไปให้เขาพิมพ์ 'เสียงจากถ้ำ' ได้ ๔ หน้ากระดาษแล้ว... เฮ่อ! กว่าจะเขียนออกมาได้หนอ...

    ไปดูเขาขุดหลุมปลูกต้นไม้มา นั่งรอเวลาเลิกกรรมฐาน รอเวลาคุยกับลูกหลานญาติโยม ก็เลยเขียนต่อเล่าเติมให้จบตอนต้นฉบับ 'เสียงจากถ้ำ'...

    ขณะนี้เวลานี้พระคุณพ่อจากพวกเราไปแล้ว มาถึงยุคสมัยของ 'พระอาจารย์พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ' เป็นเจ้าอาวาสทายาทคุณสมบัติทุกอย่างของพระคุณพ่อ รวมทั้งการเป่ายันต์เกราะเพชรอีกด้วย ที่จริงแล้วพระคุณพ่อก็ได้เมตตา ทำพิธีครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชรให้ลูก ๆ พระภิกษุทั้งหลายจำนวน ๒๐ กว่าองค์ ตามที่ได้เคยเล่าให้ฟังมาแล้ว

    เท่าที่ทราบดีกันอยู่ว่า ลูกพระที่จัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรตามรอยพ่อองค์แรกก็คือ 'อาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ' แห่งวัดท่าขนุนหรือเกาะพระฤๅษี

    พระคุณอาจารย์อนันต์ไม่จัดเป่าที่วัดท่าซุง ด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่พระคุณพ่อฤๅษีฯ ไม่จัดพิธีทับทางที่หลวงปู่ปานดำเนินมาแล้ว แต่กาลเวลาผ่านไปถึงเวลาปัจจุบันเหตุปัจจัยก็เปลี่ยนไป อาจจะถึงเวลาที่พระคุณอาจารย์อนันต์ จะเมตตาเป่ายันต์เหมือนกับที่พระคุณพ่อจัดเป่าให้ลูกหลานเพราะถึงเวลาอันเป็นมงคล และจำเป็นที่ต้องทำแล้ว.. ก็อาจจะเป็นไปได้

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #998049; COLOR: #998049" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ขอเขียนอีก ๒ หน้ากระดาษ ลูกหลานเอย.. หลวงตาพูดถึงยันต์เกราะเพชรในบ้านใหญ่มาพอสมควรแล้ว สิ่งควรพูดถึงเมื่ออยู่ในบ้านใหญ่วัดท่าซุง ก็คือคำสอนอันเป็นอมตะล้ำค่าที่พระคุณพ่อเคยสั่งสอนทั้งทางตรงและทางอ้อม

    พ่อจะสอนอยู่ตลอด เตือนอยู่เสมอว่า อย่ายึดถือทุกสิ่งทุกอย่างว่ามันจะเป็นของเราเป็นเราอยู่ได้นานตลอดไป มันเกิดมีขึ้นมา แล้วก็เปลี่ยนแปรสิ้นสภาพไป สลายไปไม่มีเหลือในที่สุด

    และในระหว่างที่มันยังสัมพันธ์ หรือครอบครองคบค้ากับเราอยู่ ก็อย่าไปใช้มันทำความเลวความชั่ว จงใช้มันทำความดีให้มากให้ฉลาดที่สุด เพราะอีกประเดี๋ยวมันก็จะหมดเวลา หมดสภาพ สลายจากเราไปตามกฎธรรมดา แล้วเราก็จะเสียดายว่า

    "รู้อย่างนี้ไม่ทำเลวอย่างนี้ก็ดีแล้วหนอ.. รู้อย่างนี้เราน่าจะทำความดีให้มากกว่านั้นจริง ๆ หนอ"

    หลวงตามีวาสนามีเวลาอยู่กับพ่อน้อยหลือเกิน.. แม้จะมีโอกาสที่พ่อให้ลูกเสมอกัน ก็ไม่เข้าใจ ไม่ฉลาดที่จะฉกฉวยตักตวงโอกาสอย่างนั้นมาทำความดีตามที่พ่อสอนพูดเฉพาะตัวว่า

    "..เออนี่คุณ..ในระหว่างที่ยังไม่ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่อะไร ก็ไม่ต้องร้อนใจอยากทำหน้าที่ รีบเอาเวลาไปทำความเพียร ทำกรรมฐานให้มากที่สุด ให้ใจสบายที่สุดเสียก่อน เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงาน จะได้เหนื่อยแต่กายแต่ใจเป็นสุข"
     
  4. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192
  5. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    ยันต์เกราะเพชร

    [​IMG]


    <?xml:namespace prefix = v /><v:shapetype class=inlineimg id=_x0000_t75 title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" smilieid="24" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" v:shapetype o<>วิธีเป่ายันต์เกราะเพชร<O:p</O:p

    เวลาจะเป่ายันต์เกราะเพชรท่านก็เขียนใส่กระดานดำ เขียนใส่กระดานดำแล้วก็ให้คนที่จะรับยันต์เกราะเพชรจุดธูปเทียนบูชา รับศีลแล้วก็ภาวนาว่า พุทโธ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออกนึกว่า โธ <O:p</O:p

    ถ้ามีลูกอยู่ในท้องด้วย <O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ถ้ามีลูกอยู่ในท้อง ก็ให้จุดธูปแทนลูกในท้อง ๑ ดอก เวลาคลอดบุตรออกมา ยันต์จะเต็มตัวไปทั้งตัวคือมียันต์เกราะเพชรทั่ว ทั้งตัว และภายใน ๗ วัน ยันต์ก็จะหายเข้าไปในตัว สำหรับคนที่เป็นผู้ใหญ่นั้น ย่อมไม่เห็นยันต์<O:p</O:p
    ถ้าใครรักษาไว้ได้ด้วยดี เวลาตาย เมื่อเวลาเขาไปเผา ที่กะโหลกจะเห็นรูปยันต์ติดอยู่ แต่ว่ายันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปานนี้ ท่านกล่าวว่าได้มาจาก ยอดธงมหาพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นธงออกศึก ท่านตัดท่านเขียนเอามาโดยเฉพาะ แบ่งมาเป็นยอดของธง คือธงนั้นน่ะมียันต์มาก ทีนี้เอายันต์ๆ หนึ่งใน ยอดธงมหาพิชัยสงคราม ท่านให้ชื่อว่า ยันต์เกราะเพชร<O:p</O:p

    อานุภาพของยันต์เกราะเพชร<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    เวลาที่ท่านจะเป่าให้ ท่านอธิบายว่าของ ๆ ท่านไม่รับรองเรื่องคงกระพันชาตรี รับรองแต่เพียงว่าใครรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว<O:p</O:p
    ๑. จะไม่ตายโหง <O:p</O:p
    ๒. จะไม่ถูกคุณผี คุณคน จะป้องกันสรรพอันตราย ที่บุคคลทั้งหลายทำมา ด้วยวิชาการต่าง ๆ <O:p</O:p
    ๓. จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์พิษ อย่างนี้เป็นต้น<O:p</O:p

    ห้ามแช่งคนอื่น <O:p</O:p

    <O:p</O:p
    แล้วบุคคลทั้งหลาย ถ้าได้รับยันต์เกราะเพชรไปแล้วถ้าบูชาไว้ได้ด้วยดี ถ้าบุคคลใด หรือใครก็ตามกลั่นแกล้ง บุคคลที่ได้รับยันต์เกราะเพชรแล้ว ท่านห้ามไม่ให้โกรธตอบ ให้ทำเฉยๆ แล้วบุคคลประเภทนั้น จะรับผลกรรมที่ตัวทำนั้นเองโดยเฉพาะ หมายความว่า เราไม่ต้องทำตอบ เมื่อเขาแกล้งเราด้วยวิธีใดก็วิธีนั้นแหล่ะจะลงโทษเขา ถ้าเขาคิดจะฆ่าเราเขาก็ตายเอง จะกลั่นแกล้งเราให้ย่อยยับ เขาก็ย่อยยับเอง ถ้าทำให้เรา ลำบากเขาก็ลำบากเอง อันนี้เป็นวิธีการอันหนึ่ง ที่ไม่ได้ทำเขาให้ลำบาก ถ้าเขาทำก็ผลนั้นเขาจะพึงรับเอง เราไม่บาป <O:p</O:p

    รักษาศีล ๒ ข้อนี้ให้ได้<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่าใครจะรับยันต์เกราะเพชรกับท่านก็ตามจะต้องรักษาศีล ๒ ข้อ คือ<O:p</O:p
    ๑. ห้ามดื่มสุราเมรัยเด็ดขาด เว้นไว้แต่เป็นกระสายยา<O:p</O:p
    ๒. ห้ามทุจริต โดยการลักขโมย ฉ้อโกง อย่างนี้เป็นต้น<O:p</O:p
    ถ้าใครปฏิบัติในศีล ๒ ประการได้ ยันต์เกราะเพชรก็จะคุ้มครองบุคคลนั้น ถ้าเขารักษาศีล ๒ ประการไม่ได้ยันต์เกราะเพชรก็ไม่คุ้มครอง อันนี้เป็นความจริง <O:p</O:p

    อาการที่เกิดขึ้นหลังเป่ายันต์<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ทีนี้วิธีเป่ายันต์ของท่าน ไม่ใช่เป่าทีละคน ท่านเป่าทีละศาลา คือนั่งกันเต็มศาลา และท่านให้จุดธูปตามที่กล่าว แล้วภาวนาว่า พุทโธ ท่านก็นั่งภาวนาอยู่หลังกระดาน จนกระทั่งปรากฏว่า บางคนมีอาการหนักที่ศีรษะบ้าง เหมือนไรไต่ที่ศีรษะบ้าง มีการร้อนหูร้อนหน้าบ้าง อย่างนี้ชื่อว่ายันต์เกราะเพชรเข้าถึงตัว และอาการอย่างนี้จะทรงอยู่ ๒ - ๓ วันจึงจะหาย <O:p</O:p
    ทั้งนี้เพราะว่ายันต์เกราะเพชรจะค่อย ๆ ซึมไปจนกระทั่งทั่วร่างกาย และอาการอย่างนั้นจึงหาย ถ้าหากว่ายันต์เกราะเพชรยังไหลไปไม่ทั่วร่างกายเพียงใด ความรู้สึกหนักหรือร้อนหน้าร้อนร้อนตา หรือมีคล้ายๆ ไร ไรไต่หน้าไต่ตาตอมหน้าตอมตาอย่างนี้ ก็ยังปรากฏอยู่<O:p</O:p

    ไม่มีค่าตอบแทน-ไม่มีค่าครู<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ทีนี้การเป่ายันต์เกราะเพชรของท่าน แต่ละคราว ต้องเป่าเฉพาะวันเสาร์ ๕ คือ วันเสาร์ตรงกับขึ้น ๕ คํ่า จะเป็นเดือนอะไรก็ได้ การเป่ายันต์เกราะเพชรของท่านไม่มี ค่าครู ไม่มีค่าวิชา <O:p</O:p

    ( จากหนังสือประวัติ หลวงพ่อปาน เล่มเก่า )<O:p</O:p


    นี่คือปัจจุบัน<O:p</O:p


    เรื่องเป่ายันต์ เกราะเพชร <O:p</O:p


    พระทีได้รับการคอบครู จากหลวงพ่อมี ๙ องค์ นะ <O:p</O:p

    ( อะไร คือจุดประสงค์ของหลวงพ่อ ในการคอบครู ของ หลวงพ่อ ) <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    <TABLE class=MsoTableGrid style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-yfti-tbllook: 480; mso-padding-alt: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-border-insideh: .5pt solid #CCFFCC; mso-border-insidev: .5pt solid #CCFFCC" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=1><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #ccffcc 1pt solid; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ccffcc 1pt solid; WIDTH: 424.8pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=566 colSpan=2>
    พระครูปลัดอนันต์<O:p</O:p







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ccffcc 1pt solid; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    (ไม่ค่อยมั่นใจ ไม่ลงดีกว่า)<O:p</O:p








    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #e0dfe3; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-left-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    หลวงพี่เอก<O:p</O:p







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 2"><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ccffcc 1pt solid; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    หลวงพี่ปลัดวิรัช โอภาโส<O:p</O:p








    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #e0dfe3; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-left-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    หลวงตาวัชรชัย<O:p</O:p







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 3"><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ccffcc 1pt solid; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    หลวงพี่เล็ก<O:p</O:p








    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #e0dfe3; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-left-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    พระชาติชาย<O:p</O:p








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 4; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ccffcc 1pt solid; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    หลวงพี่บัญชา สึก<O:p</O:p








    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ccffcc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #e0dfe3; WIDTH: 212.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ccffcc 1pt solid; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-top-alt: solid #CCFFCC .5pt; mso-border-left-alt: solid #CCFFCC .5pt" vAlign=top width=283>
    ท่านน้อย สึก<O:p</O:p








    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    ( ข้อมูล จากหลวง พี่เล็ก )<O:p</O:p


    คุณสมบัติ ของผู้เป่า<O:p</O:p

    หลวงตา วัชรชัย (อ้างคำพูด พระครูปลัดอนันต์) ว่า อย่างน้อยสำเร็จ วิชชาสาม หรือ เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมี เต็มแล้ว
    <O:p</O:p
    หลวงพี่เล็ก ผู้เป่าต้องสำเร็จ วิชชาสาม หรือ สมาบัติแปดขึ้นไป<O:p</O:p
    ( สมัยที่สิ้นหลวงพ่อลงใหม่ ๆ มีการประชุมสงฆ์กัน ทางกรรมการสงฆ์ลงความเห็นว่า ห้ามเป่ายันต์เกราะเพชรเด็ดขาด ยกเว้น ใครจะได้วิชชาสามหรือสมาบัติแปดขึ้นไป อาตมาเองเป็นคนชอบทะลุกลางปล้อง บอกว่าวิชชาสาม ผมไม่รู้เพราะพระพุทธเจ้าไม่ได้ทำนายให้ผม แต่สมาบัติแปดผมว่าหมู ฉิบหายเลย แน่ะ คนปากเสีย ชอบอวดเก่ง ) ท่านว่าท่านเองนะ งัดมาทั้งดุ้น เลย<O:p</O:p

    ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเป่ายันต์<O:p</O:p

    วัดท่าซุงท่านว่า ไม่ควรเป่า เพราะไม่มีใครยอมรับ ว่าตัวเองได้ วิชชาสาม หรือ สมาบัติแปด
    <O:p</O:p
    กรรมการสงฆ์วัดท่าซุง ท่านว่าไม่ควรเป่า เพราะจะเป็นการ วัดรอยเท้าพ่อ
    <O:p</O:p
    หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน ท่านว่า การเป่ายันต์เกราะเพชรจะไม่ขาดสายลงถ้าหากว่าวาระและเวลาสมควรเมื่อไหร่ อาตมา ถ้าได้รับคำสั่งมาจะประกาศบอกญาติโยมอย่างเป็นทางการ นะ..
    <O:p</O:p
    หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง ท่านว่า เหมือนวัดท่าซุง
    <O:p</O:p
    และ หลวงตา กล่าวว่า เรื่องความเป็นพระอรหันต์ หรือพระโพธิสัตว์ ของ อาจารย์ เล็ก ว่า หลวงตาไม่รู้ แต่ไม่กล้าบอกว่าท่านไม่ใช่.........อาจารย์ เล็ก คนเดียว ที่รู้ตัวท่านเอง ( พฤษภาคม ๒๕๕๒ ) อึม ... (เรื่องของพระ เราไม่เกี่ยว)<O:p</O:p
    บรรดา ศิษย์ ส่วนใหญ่ ท่านว่า ควรจะเป่า<O:p</O:p

    ทางออกสำหรับผู้อยาก ( แนวคิดของผู้เขียน )<O:p</O:p

    แขวน พระหลวงพ่อ ที่มียันต์ ใช้ได้หมด ยกเว้นของเก๊
    <O:p</O:p
    ไปเลยครับ วัดท่าขนุน เป่าไม่ออก ก็ไม่สึกหรอ ไม่มีเสีย ได้กับเสมอตัว ยกเว้น ค่ากิน ค่าเดินทาง สังเกต จากอาการ ยันต์เข้า ขนาดอยู่บ้าน ยังขอรับได้เลย นับปะสาอะไรกับอยู่วัด ทำเป็นคิดมาก
    <O:p</O:p
    วัดท่าซุง เลยครับ วันเสาร์๕ ยิ่ง เดือน๕ ยิ่งดี เวลาบวงสรวง อาราธนา ขอรับ
    </v:shapetype>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤศจิกายน 2010
  6. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ การเป่ายันต์แต่ละครั้ง "พระข้างบน" จะสั่งมาครับ

    ก็ขอให้ลูกหลานหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นปึกแผ่นเดียวกันครับ

    และต้องมาสงสัยเวลาใครเป่าได้หรือไม่เลยครับ เพราะการเป่ายันต์แต่ละครั้ง

    ผู้ที่ได้รับยันต์ไปก็ต้องรักษาศีลอย่างน้อย 2 ข้อให้บริสุทธิ์ คือ

    ห้ามลักทรัพย์ และห้ามดื่มสุราหรือของมึนเมา (น่าจะรวมยาเสพติดทุกชนิดด้วย)

    แค่นี้ประเทศไทยก็เป็นสุขแล้วครับ ไม่มีโจร ไม่มีคนขาดสติ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2013
  7. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    อนุโมทนา ด้วย ครับท่าน ...
    (ขณะที่รับยันต์ ในขณะนั้น ศิลจะบริสุทธิ์ทุกคน เพราะขณะรับ จิตจะจับอยู่กับกุศล) เมื่อรับแล้ว ค่อยระวังเรื่องศีล ๒ ข้อ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤศจิกายน 2010
  8. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    มีอีกตอนหนึ่ง ที่หลวงตาวัชรชัย พูดไว้ว่า

    "วันหนึ่ง ถ้าพระข้างบนมีคำสั่งมา พระครูปลัดอนันต์ ก็จะเป่ายันต์เกราะเพชร ตามคำสั่งของพระข้างบน"

    ยังไงฝากเจ้าของกระทู้หาบนความนี้ด้วยครับ เป็นบทนำในนิตยสารเสียงจากถ้ำครับ

    โมทนา
     
  9. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ....ศีล ข้อที่ 2 เนี่ย เรื่องหนังแผ่นผี หรือเพลง เอ็มพี 3 ก็ไม่ได้อุดหนุนนานมากๆๆ แล้ว

    ....แต่ว่า พวก โปรแกรมคอมพิวเตอร์ พวก แอนตี้ไวรัส นี่สิค่ะ เช่น พวกวินโดว์ทั้งหลาย

    เราก็ยังใช้ของก๊อปอยู่ อย่างนี้จะเรียกเป็นการผิดศีลได้ไหม

    ....แล้วอย่างหนัง บูลเรย์ ที่โหลดจาก เว็บบิท เนี่ย อยู่ในขอบข่ายนี้ด้วยไหมคะ
     
  10. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ....เพิ่มเติมนิดนึง คือ ...พวกเว็บบิท หรือ โหลดบิทเนี่ย มันเป็น เครื่อข่ายใช้ แชร์ไฟล์

    ทุกอย่างร่วมกัน ไม่ได้มีเรื่องการค้าขาย อย่างแผ่นผีหรืออะไรๆอย่างที่เราเห็น พันธุ์ทิพย์

    บางที พวกที่นั้นเค้าโหลดบิทเนี่ยแหละมาขายอีกที แต่ว่าเรา โหลดมาเพื่อใช้ ไม่ใช่ทำ

    การค้า....

    .....แต่ถ้าไม่ใช่การทำผิดศีลข้อที่ 2 ตรงๆ แค่ศีล อาจจะ ด่างพร้อยไปบ้าง อย่างนี้ถ้าได้

    รับการเป่ายันต์ จะยังมีผลอยู่หรือไม่คะ
     
  11. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291


    เจตนา เป็นตัวกรรม .. จัดว่าเป็นกรรมที่ละเอียด ไม่ทำให้ศิลขาด แต่ทำให้พร่องในศีล

    พิจารณา เรื่องของพระนางมัลลิกาเทวี หลังดับขันธ์แล้ว ขาข้างหนึ่งของพระนาง ต้องจุ่มนรก ๗ วันมนุษย์ เพราะความกังวล ทั้งที่พระนางไม่ได้ละเมิดศีล (องค์ที่ถวายอทิสทาน คู่กับพระเจ้าปเสนทิโกศล)



    คิดว่า .. ศิลไม่ขาด อานุภาพของยันต์เกราะเพชร ยังอยู่ ครับ

    <TABLE height=152 cellPadding=20 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD class=green width="90%" bgColor=#ffff66 height=125>วิธีดูว่าเข้าข่ายอทินนาหรือไม่

    โจรกรรมมี 14 อย่าง

    1. ลัก- ถือเอาทรัพย์เมื่อเจ้าของไม่เห็น ที่เรียกว่า ขโมย และตัดช่องย่องเบา
    2. ฉก - ชิงเอาทรัพย์ต่อหน้าเจ้าของ - ตีชิง วิ่งราว
    3. กรรโชก - ขู่ให้เขากลัวแล้วให้ทรัพย์ - จี้
    4. ปล้น - รวมหัวกันหลายคน มีศัตราอาวุธเข้าแย่งทรัพย์
    5. ตู่ - อ้างหลักฐานพยานเท็จ หักล้างกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น เช่น ที่ดิน เป็นต้น ซึ่งไม่อยู่ในปกครองของตน
    6. ฉ้อ - โกงเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่ตนปกครอง เช่น โกงของฝาก โกงที่ดินที่ตนอยู่อาศัย เป็นต้น
    7. หลอก - ปั้นเรื่องให้เขาเชื่อแล้วให้ทรัพย์
    8. ลวง - ใช้เล่ห์เอาทรัพย์ด้วยเครื่องมือลวง เช่น โกงตาชั่ง เป็นต้น
    9. ปลอม ทำหรือใช้ของปลอม เช่น ธนบัตรปลอม ยาปลอม เป็นต้น
    10. ตระบัด - ยืมของคนอื่นมาใช้แล้ว ยึดเอาเสีย กู้หนี้แล้วไม่ใช้ดอกและต้น
    11. เบียดบัง - กินเศษกินเลย เช่น เลี้ยงสัตว์ กินค่าอาหารสัตว์ เป็นต้น
    12. สับเปลี่ยน - แอบสลับเอาของผู้อื่น ซึ่งมีค่าสูงกว่า
    13. ลักลอบ - หลบหนีภาษีของหลวง หรือลอบนำสิ่งที่ต้องห้าม เช่น เหล้าเถื่อน เข้ามาในประเทศ
    14. ยักยอก ยักเอาทรัพย์ของคนที่ถูกริบไว้ ยักยอกภาษียักยอกทรัพย์ที่ถูกฟ้องล้มละลายไว้
    ทำโจรกรรม 14 อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่งด้วยตนเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นทำ หรือร่วมกับคนอื่น ศีลขาด

    อนุโลม โจรกรรม คือ ทำงานคล้ายโจรกรรม

    1. สมโจร - สนับสนุนโจร เช่น ให้ที่พักและอาหารและรับซื้อของโจร
    2. ปอกลอก - คบเขาเพื่อปอกลอกเอาทรัพย์
    3. รับสินบน - รับสินจ้างแล้วทำผิดหน้าที่ เพราะเกรงใจเขา
    ทั้ง 3 อย่างนี้ ศีลไม่ขาด แต่ด่างพร้อย เฉพาะการรับสินบนนี้ ถ้าผู้รับมีเจตนาร่วมกับผู้ให้ในการทำลายกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น ก็เป็นการร่วมโจรกรรมโดยตรง ศีลขาด

    ฉายาโจรกรรม คือ การกระทำที่ไม่ทำอนุโลมโจรกรรม แต่ทำพัสดุของผู้อื่นให้สูญเสีย และเป็นสินใช้ตกอยู่แก่ตน

    1. ผลาญ - ทำลายทรัพย์ของผู้อื่นให้เสียหาย (ไม่เอามาเป็นของตน) เช่น เผาบ้านเรือน
    2. หยิบฉวย ถือวิสาสะเกินขอบเขต เช่น ลูกหลานเอาของพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือถือเอาของญาติมิตรมากกว่าที่เขาอนุญาให้ เอาโดยไม่ต้องซื้อขอ ทั้ง 2 อย่างนี้ ศีลไม่ขาด แต่ทำให้ด่างพร้อย
    </TD></TR><TR><TD class=yellowold width="90%" bgColor=#ffff66 height=62>องค์ประกอบ อทินนาทาน

    1. ของนั้นมีเจ้าของหวงแหน
    2. รู้ว่าของนั้นเจ้าของหวงแหน
    3. ตั้งใจลักสิ่งของนั้น
    4. พยายามลักสิ่งของนั้น
    5. ได้สิ่งของนั้นมา ด้วยความพยายามนั้น
    พร้อมองค์ประกอบทั้ง 5 ศีลขาด ถ้าไม่ครบองค์ เป็นเพียงด่างพร้อย ไม่บริสุทธิ์
    ทำเองหรือใช้ให้ผู้อื่นทำ ศีลขาด

    พิจารณาว่ามีโทษมากหรือน้อย

    1. วัตถุ - ของมีค่ามาก มีโทษมาก มีค่าน้อย มีโทษน้อย
    2. เจตนา - ความตั้งใจที่เจือด้วยกิเลสมาก มีโทษมาก ที่เจือด้วยกิเลสน้อย มีโทษน้อย
    3. ประโยค - ความพยายามที่จะได้สิ่งของนั้นมา ถ้า พยายามมาก มีโทษมาก พยายามน้อย มีโทษน้อย
    </TD></TR><TR><TD class=orange width="90%" bgColor=#ffff66 height=62>การถือเอาของผู้อื่น โดยวิสาสะ คือของญาติหรือมิตร หรือคนคุ้นเคยกัน เคยช่วยเหลือกัน เคยอนุญาตไว้ก่อน แม้จะถือเอาโดยไม่บอก ก็ไม่เป็นอทินนาทาน แต่ต้องประกอบ
    ด้วยองค์ 5 ประการ

    1. เจ้าของเป็นผู้สนิทกับตน
    2. เจ้าของเคยอนุญาตไว้ก่อน
    3. เมื่อถือเอาแล้ว ไม่มีคนสนเท่ห์
    4. ของนั้นเป็นของที่เจ้าของไม่หวงแหนสำหรือเรา หรือพอให้ได้
    5. เมื่อเจ้าของรู้แล้ว ก็พอใจ ไม่ว่าอะไร

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    สงสัยอยู่สองเรื่องแค่นั้นเอง
    1. แรกเริ่มเดิมทีหลวงพ่อ(หมายถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)ท่านว่าจะไม่เป่า เพราะท่านเกรงว่าจะทำได้ไม่ดีเท่าหลวงปู่ปาน แต่เมื่อพระกับหลวงปู่ปานสั่งให้ท่านทำ ท่านจึงทำและทำตามแบบที่หลวงปู่ปานทำ คือไม่ได้เป่าเองแต่อาศัยบารมีพระเป่าให้ ถือว่าหลวงพ่อท่านวัดรอยเท้าหลวงปู่ปานมั้ย? ไม่ถือ เพราะหลวงปู่ปานอนุญาติเองโดยความเห็นชอบจากพระท่านสั่งมาด้วย
    แล้วทำไมการที่พระท่านสั่งให้หลวงพ่อท่านครอบครูยันต์เกราะเพชรเพื่อให้ศิษย์วัดทั้งหมดสืบสานต่อไป ทำไมถึงคิดว่าเป็นการวัดรอยเท้าครูบาร์อาจารย์ ไม่คิดอีกมุมมองหนึ่งบ้างว่าถ้าไม่ทำตามจะเป็นการขัดคำสั่งครูบาร์อาจารย์บ้างหรือ?

    2.จากวีดีโอ พิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวัดท่าซุงสมัยที่หลวงพ่อท่านยังอยู่ ท่านได้พูดถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะเป่ายันต์เกราะเพชร ว่าต้องทำอะไรได้บ้าง เช่น มีทิพย์จักขุญาณแจ่มใส สามารถมองเห็นพระพุทธเจ้าได้ทั้งหมด พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด พระอรหันต์ที่ละสังขารแล้วทั้งหมด เทวดาทั้งหมด พรหมณ์ทั้งหมด และต้องสามารถรู้ได้ชัดเจนว่าพิธีเสร็จหรือยังโดยใช้การคาดเดาไม่ได้เลย
    แต่ทำไมหลวงพ่อไม่กล่าวถึงเรื่องการครอบครูยันต์เกราะเพชร? หรือละไว้ในฐานที่เข้าใจ?
     
  13. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ทราบมาว่า วัดท่าซุงจะไม่ไร้ซึ่งพระอรหันต์ ดังนั้นการเป่ายันต์ย่อมมีผู้สืบทอดครับ

    ลูกศิษย์หลวงพ่อที่ออกจากวัดไปสงเคราะห์ญาติโยมในภูมิภาคต่าง ๆ ก็เป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบครับ

    ดังนั้น การเป่ายันต์มีผู้สิบทอดแน่ ๆ เพราะอาศัยบารมีและคำสั่งจากพระข้างบนครับ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2010
  14. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    ถ้าคุยถึงเรื่อง หลวงตาวัชรชัย เท่าที่ไป นมัสการ และถวายสังฆทาน ท่านมา ท่านไม่ธรรมดา ครับ ที่แน่ ๆ ท่านไม่ใช่ พระสุกขวิปัสโกแน่นอน เพราะได้สัมผัส อะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่อง เจโตปริยญาณ ของท่าน

    เรื่องหนังสือ เสียงจากถ้ำนารายณ์ ตอนที่กล่าวด้านบนนี้ ผมยังอ่านไม่เจอ ไม่แน่ใจ นะ ว่าอยู่เล่มใหน
     
  15. เจ้าจันทร์

    เจ้าจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +431

    กราบอนุโมทนา สาธุ ขอบพระคุณอย่างสูง สำหรับแสงสว่างนำทางที่ท่านนำมาให้อ่านค่ะ
     
  16. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ
    พระคาถาเงินล้านของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ตั้ง นะโม ๓ จบ
    สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
    นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา



    (บูชา 3,7,9 จบ ตัวพระคาถาต้องว่าทั้งหมด ​
    ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเป่ายันต์<O:p</O:p


    วัดท่าซุงท่านว่า ไม่ควรเป่า เพราะไม่มีใครยอมรับ ว่าตัวเองได้ วิชชาสาม หรือ สมาบัติแปด
    <O:p</O:p
    กรรมการสงฆ์วัดท่าซุง ท่านว่าไม่ควรเป่า เพราะจะเป็นการ วัดรอยเท้าพ่อ
    <O:p</O:p
    หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน ท่านว่า การเป่ายันต์เกราะเพชรจะไม่ขาดสายลงถ้าหากว่าวาระและเวลาสมควรเมื่อไหร่ อาตมา ถ้าได้รับคำสั่งมาจะประกาศบอกญาติโยมอย่างเป็นทางการ นะ..
    <O:p</O:p
    หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง ท่านว่า เหมือนวัดท่าซุง
    <O:p</O:p
    และ หลวงตา กล่าวว่า เรื่องความเป็นพระอรหันต์ หรือพระโพธิสัตว์ ของ อาจารย์ เล็ก ว่า หลวงตาไม่รู้ แต่ไม่กล้าบอกว่าท่านไม่ใช่.........อาจารย์ เล็ก คนเดียว ที่รู้ตัวท่านเอง ( พฤษภาคม ๒๕๕๒ ) อึม ... (เรื่องของพระ เราไม่เกี่ยว)<O:p</O:p
    บรรดา ศิษย์ ส่วนใหญ่ ท่านว่า ควรจะเป่า<O:p</O:p

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 พฤษภาคม 2013
  17. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ...ขอบคุณสำหรับคำตอบ ที่ไขข้องข้อข้องใจได้อย่างละเอียดมากๆนะคะ คราวนี้จะได้สบายใจสักทีค่ะ
     
  18. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ความเชื่อของผม หลวงตาคือพระ..ปฏิสัมภิทาญาณครับ

    เรื่องหนังสือเสียงจากถ้ำนั้น ฉบับที่ ๒๕ เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ ครับ

    เรื่องในบ้านใหญ่ ตอนที่ ๘ มรดกพระดี ครับ

    ไว้ผมหาเวลาพิมพ์ต่อให้ครับ ถ้าใครมีให้อ่านหน้าที่ ๒๔ แล้วจะเข้าใจครับ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2010
  19. bnbk

    bnbk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,047
    ค่าพลัง:
    +15,613
    หาวีดีโอปี 35 จะมีการครอบครูให้เห็น (ในเวปนี้มีอยู่นะ)
     
  20. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +782
    แบบนี้ข้าราชการไทยไม่โดนหมดเลยหรือครับ ทั้งหักหัวคิวบ้าง เอื้อประโยชน์บ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...