"ตะรุเตา" แดนดินถิ่นฝัน เกาะสวรรค์แห่งอันดามัน

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 15 ธันวาคม 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 ธันวาคม 2548 17:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ช่องประติมากรรมหินธรรมชาติที่เกาะไข่สัญลักษณ์ของ จ.สตูล</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สรรพสิ่งใดๆในใต้หล้าล้วนแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

    เกาะตะรุเตา แห่ง จ.สตูล ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ที่กระแสธารแห่งกาลเวลาได้เปลี่ยนแปลงเกาะนี้จากดินแดนอันน่าหวาดหวั่นครั่นคร้ามให้กลายเป็นดินแดนสวรรค์ เกาะในฝันของผู้หลงใหลความงดงามแห่งท้องทะเล

    ตะรุเตา นรกแห่งอันดามัน

    ย้อนอดีตไปเมื่อ พ.ศ. 2479 รัฐบาลเลือกเกาะตะรุเตาแห่งท้องทะเลอันดามันให้เป็นนิคมฝึกอาชีพและกักขังนักโทษคดีอุจฉกรรจ์ ในลักษณะทัณฑสถานธรรมชาติ หรือพูดง่ายก็คือ"คุกเปิด"ที่ตั้งอยู่กลางทะเลลึก โอบล้อมไปด้วยผืนน้ำคลื่นลมอันแปรปรวน ซึ่งใครที่คิดจะหนีจากเกาะแห่งนี้หากรอดพ้นจากวิถีกระสุนของผู้คุมไปได้ ก็ยังต้องไปเผชิญกับปลาฉลามและจระเข้ และความโหดร้ายของท้องทะเล

    พ.ศ. 2481 นักโทษชุดแรก 500 คน ถูก ส่งมายังเกาะตะรุเตา ซึ่งแต่ละคนล้วนต้องโทษร้ายแรง

    พ.ศ. 2481 นักโทษการเมืองจำนวน 70 คน ถูกส่งมายังเกาะตะรุเตา โดยถูกควบคุมอยู่ที่อ่าวตะโละอุดัง

    พ.ศ. 2484 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น เกาะตะรุเตาถูกตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร ยา และเครื่องใช้ต่างๆ ทำให้คนบนเกาะอดอยากและเจ็บป่วยล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก ผู้คุมและนักโทษส่วนหนึ่งจึงเปลี่ยนมาเป็นโจรสลัดเข้าปล้นสะดมเรือบรรทุกสินค้าทั้งของชาวไทยและต่างชาติที่แล่นผ่านไปมา เกาะตะรุเตาในช่วงนี้ดูๆไปคล้ายนรกบนดิน

    พ.ศ. 2491 วันที่ 15 มีนาคม เรือรบอังกฤษกับทหารจำนวน 300 คน บุกเกาะตะรุเตาและเข้าจับกุมกวาดล้างเหล่าโจรสลัดที่มีขุนอภิพัฒน์สุรทัณฑ์ตั้งตนเป็นหัวหน้าพร้อมๆกับยกเลิกนิคมฝึกอาชีพนักโทษ นับเป็นการปิดฉากตำนานนรกแห่งตะรุเตาไปโดยปริยาย

    หลัง พ.ศ. 2491 วันเปลี่ยนคืนผ่าน เกาะตะรุเตาถูกทิ้งร้างภายใต้สายลม แสงแดด และเกลียวคลื่นแห่งท้องทะเลอันดามัน



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    เกาะหลีเป๊ะยามเช้าอากาศสดใส เหมาะไปดำน้ำดูปะการัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตะรุเตา สวรรค์แห่งอันดามัน

    19 เมษายน พ.ศ. 2517 กรมป่าไม้(สมัยนั้น)ประกาศตั้งตะรุเตาและหมู่เกาะใกล้เคียงให้เป็นอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของเมืองไทย หลังจากนั้นมาดินแดนที่เคยถูกกล่าวขวัญว่าเป็นดังนรกบนดินก็ได้กลับกลายมาเป็นแดนสวรรค์ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงตามสายธารแห่งกาลเวลาจากหลังมือเป็นหน้ามือ

    26 ธันวาคม พ.ศ. 2548 คลื่นยักษ์สึนามิพัดถั่งโถมโหมกระหน่ำท้องทะเลอันดามัน เกาะตะรุเตาได้รับผลกระทบบ้างบางส่วน แต่กระนั้นก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่เกาะนี้อีกครั้งนั่นก็คือ น้ำทะเลสวยใสขึ้นส่วนหาดทรายก็สะอาดขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลให้ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" กลับมาเยือนตะรุเตาอีกครั้ง โดยจุดแรกในการท่องตะรุเตาเรามุ่งหน้าไปค้างแรมที่เกาะหลีเป๊ะ เกาะที่ได้รับฉายาว่า"มัลดีฟส์เมืองไทย"

    ในระหว่างทางเราไปแวะเที่ยว เกาะไข่ ที่โดดเด่นไปด้วยช่องประตูหินธรรมชาติทอดตัวโค้งจรดพื้น ท่ามกลางหาดทรายขาวนวล โดยในอดีตเกาะแห่งนี้เคยเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลจำนวนมากคนจึงเรียกขานกันว่าเกาะไข่ แต่ว่าปัจจุบันเรามองไม่เห็นทั้งเต่าและไข่ เห็นมีแต่นักท่องเที่ยวไปยืนแอ๊คถ่ายรูปและเดินควงคู่ลอดใต้ช่องประตูอยู่จำนวนหนึ่ง



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    เรือหางยาวเรียงรายเทียบหาดที่เกาะราวี
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จากเกาะไข่เรือเฟอร์รี่ลำโตแล่นไปจอดนิ่งอยู่หน้าอ่าวพัทยาแห่งเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งทันทีที่ถึงเกาะนี้พวกเราก็อดใจไม่ไหวกับน้ำทะเลสีครามใสที่ไหลเป็นริ้วใสจนสามารถมองลงไปเห็นปะการังใต้น้ำได้อย่างสวยงาม

    งานนี้ไม่มีการรีรอแต่อย่างใด"ผู้จัดการท่องเที่ยว"กระโดดตูมลงเล่นน้ำทันที

    ด้วยความสวยใสของน้ำทะเลที่นี่ทำให้ไม่ว่าจะแหวกว่ายเล่นหรือดำน้ำตื้น(snockelling)ดูปะการังก็น่าเพลิดเพลินทั้งนั้น สำหรับวันแรกบนอุทยานฯตะรุเตาขอเที่ยวแค่นี้ก่อน ส่วนในวันรุ่งขึ้นเราตื่นแต่เช้าเพื่อลงเรือหางยาวมุ่งหน้าสู่ร่องน้ำจาบัง และ เกาะราวี เพื่อยลโฉมปะการัง 7 สีอันเลื่องชื่อของร่องน้ำจาบังและแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์แบบแห่งเกาะราวี



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    หาดหินที่ดำมนงามดังชื่อ เกาะหินงาม เชื่อว่าถ้าเรียงหินได้ 12 ชั้นจะสมปรารถนา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เรือประมาณ 4-5 ลำมาเรียงกันหยุดดับเครื่องผูกทุ่นตรงร่องน้ำกลางทะเลลึกที่มีกระแสน้ำค่อนข้างแรงและเชี่ยว ดังนั้นการลงดำน้ำตรงจุดนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ ทางที่ดีควรเกาะเชือกจากเรือที่ขึงไว้เป็นแนว ซึ่งก็ทำให้ขจัดอุปสรรคในการดำน้ำของพวกเราได้เป็นอย่างดี ทำให้เราสามารถมองเห็นปะการังที่เรียงรายอยู่มากมายในท้องทะเลได้อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่มีสีสันสดสวยทั้งสีม่วง สีแดง สีชมพู สีเหลือง สีฟ้า สมดังคำร่ำลือที่ว่าร่องน้ำจาบังแห่งนี้มีปะการังเจ็ดสีสวยไม่เป็นรองใคร

    จากโลกใต้ทะเลเราเปลี่ยนบรรยากาศไปขึ้นบกที่ เกาะหินงาม เกาะที่มีก้อนหินงามสมดังชื่อเกาะ โดยที่หาดของเกาะหินงามจะเต็มไปด้วยก้อนหินสีดำกลมรีมนเกลี้ยงเกลาขนาดเล็กใหญ่ต่างๆดูลื่นเป็นมันเงา ครั้นยามเมื่อถูกคลื่นซัดสาด ก้อนหินเหล่านี้จะถูกแสงอาทิตย์สาดส่องกระทบดูดำมันวาววับน่ามองเป็นยิ่งนัก

    สำหรับที่เกาะหินงามนี้ มีตำนานเล่าต่อๆกันมาว่า หากสามารถเรียงก้อนหินได้ 12 ชั้น แล้วอธิฐานก็จะได้สมดังปรารถนา ทำให้ที่เกาะนี้เต็มไปด้วยกองหินสูงเรียงรายอยู่ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าหินทุกก้อนที่นี่ต้องคำสาปของจำพ่อตะรุเตาหากใครเก็บออกไปจากเกาะจะต้องมีอันเป็นไป ซึ่งก็ทำให้หินงามที่เกาะนื้ยังคงอยู่ไม่ต่างไปจากอดีต

    ถัดมาจากเกาะหินงาม เรือน้อยแล่นไปจอดที่ชายหาดเกาะราวี เกาะที่ได้ชื่อว่าเป็นสวนแห่งปะการังที่สวยงามทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่สมบูรณ์ เกาะนี้เป็นเกาะที่เงียบสงบดูเป็นธรรมชาติ มีหาดทรายสีขาวสะอาดเม็ดทรายเนื้อนุ่มละเอียดสบายเท้า น้ำทะเลใสแจ๋วมองเห็นพื้นทรายได้อย่างชัดเจน

    "ผู้จัดการท่องเที่ยว"ได้ลงเล่นน้ำดำดูปะการังทันทีหลังจากที่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศอันสวยงามสงบเย้ายวนชวนให้หลงใหล ที่เกาะราวีแห่งนี้มีเชือกทุ่นตรึงขนานเป็นแนวยาวกับชายหาดเพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวปะการัง ที่นี่ก๊วนเราสามารถลงดำน้ำตื้นดูปะการังได้อย่างสบายใจ เพราะสำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่แข็งก็สามารถเกาะเชือกดำน้ำตื้นได้สะดวก



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    ชื่นชมฟ้าสวย หาดทรายขาว น้ำทะเลใสไล่สี ที่เกาะราวี
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>แนวปะการังใต้ท้องทะเลแห่งนี้ยาวเหยียดและมีหลากหลายชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามด้วยตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปทรง ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลจนไม่อาจละสายตา พร้อมทั้งยังมีเพื่อนๆแหวกว่ายอยู่รอบกายจนนับไม่ถ้วน เพื่อนๆที่ว่านี้ไม่ใช่ชาวคณะหรอก แต่เป็นฝูงปลาทะเลน้อยใหญ่ ที่ต่างพากันว่ายอวดสีสันลวดลายเหลือง ดำ แดง อยู่ทั่วไป

    ที่นี่ "ผู้จัดการท่องเที่ยว"ดำน้ำยลแสงสีใต้ทะเลอันดามันอย่างเมามันในอารมณ์ จนแทบจะถูกแสงแดดเคลือบสีเข้มไปทั้งตัว อีกทั้งเมื่อเริ่มจะหมดแรงข้าวต้มแล้ว เราจึงได้ตัดใจขึ้นมาจากน้ำเพื่อทานอาหารกลางวันอันโรแมนติก นั่งลงบนทรายขาวบริสุทธิ์นุ่มนิ่ม ปากก็อ้าหม่ำอาหาร ตาก็สอดสายกัดกินบรรยากาศ หูฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทรายอย่างไพเราะ จมูกก็สูดอากาศอันบริสุทธ์สดชื่น ทั้งที่อาหารในมื้อนี้เป็นแค่แกงส้มกับไข่ดาวแต่มันช่างอร่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาเลยทีเดียว

    นี่อาจเป็นเพราะว่าบรรยากาศของพื้นที่ช่วยสร้างสรรค์ให้เรากินอะไรก็อร่อย ก็อย่างว่าแหละเมื่อนั่งอยู่ในดินแดนที่เป็นดังเกาะสวรรค์ อะไรๆรอบข้างมันพลอยดูเป็นสวรรค์ไปด้วย ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้วพื้นที่ของตะรุเตาจะเป็นดังนรกแห่งอันดามัน เพราะในวันนี้ดูยังไงๆเกาะตะรุเตาก็คือดินแดนอันสวยงามที่รักการทะเลน่าจะหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง

    **************************************************
    **************************************************
    **************************************************

    อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตั้งอยู่ที่ ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวง 406 บ้านฉลุง แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 416 (สตูล-ละงู) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4052 ซึ่งแยกจาก อ.ละงู ตรงไปสู่ท่าเรือปากบารา ที่มีเรือออกจากท่าเรือปากบาราสู่เกาะตะรุเตา และเกาะอาดัง ทุกวัน เวลา 10.00 น. และ 15.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ค่าโดยสารคนละ 200 บาท

    ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา โทร. 0-7472-9002-3 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 3 (ปากบารา) โทร.0-7478-3485 ททท. สำนักงานภาคใต้เขต 1 โทร. 074-243-747 , 074-238-518

    ส่วนผู้ที่สนใจเที่ยวเกาะตะรุเตากับบริษัททัวร์ สอบถามได้ที่ ฟูจิทัวร์ โทร. 0-2918-6067-8




    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    นักท่องเที่ยวที่เกาะราวีดำดูปะการังภายใต้น้ำทะเลยามต้องแสงเป็นริ้วระยับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>การเดินทางไปจ.สตูล และ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา

    ที่พัก

    ร้านอาหาร


    อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2005
  2. อรพิน โกรธารพ

    อรพิน โกรธารพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +211
    ไปมาแล้ว..การันตีว่า ธรรมชาติ งามมาก ๆ
    ชื่นชมและดื่มดำกับบรรยากาศ ..ดี ๆ
    บนเกาะตะรุเตา ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เยอะพอสมควร
     
  3. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    <IFRAME src="http://flash.manager.co.th/show_photoslide/slide_new.swf?id_=0912056&proj_=7_25052005_163923&count_=4351" width=660 height=500></IFRAME>​


    slide
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2005
  4. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +2,719
    อยากไปอ่ะ นู๋ตาพาไปทีจิครับ

    [b-wai]
     
  5. skyboy

    skyboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +592
    ...แค่หลับตาลง หายใจช้า ๆ เบา ๆ นึกถึงภาพว่าได้เดินเกี่ยวก้อยกับใครซักคนบนผืนทราย...
    ก็มีความสุขมากแล้วครับ... อิอิ
    "ขอบฟ้า ขอบฝั่ง ความหวัง รอคอย...เธอ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...