ตามรอยธรรมพ่อแม่ครูอาจารย์

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 25 กรกฎาคม 2013.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]
    ซ้าย : หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต
    กลาง : หลวงปู่ขาว อนาลโย
    ขวา :หลวงปู่จันทา ถาวโร



    "ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะเข็ญร้อน ภายหลังจะดิ้นตาย"
    ปริศนาธรรมของหลวงปู่ขาว อนาลโย แก้โดยหลวงปู่จันทา ถาวโร
    ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น หมายความว่า
    ให้รีบประพฤติปฏิบัติ ทำคุณงามความดี
    อดนอนผ่อนอาหารเผากิเลสให้เร่าร้อนทั้งวันคืน
    ไม่หวั่นไหวต่อร้อนหนาวและหิวกระหาย


    ทีนี้เมื่อจิตสงบลงไปได้ขณิกะก็ดี อุปจาระก็ดี

    หรือเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรก็ดี ก็นอนเย็นสบาย

    หิวกระหายก็ไม่มี ก็นอนเย็นสบายดี นี่แหละ จะนอนเย็น

    เมื่อความตายมาถึงก็นอนเย็น เย็นใจ

    แม้กายมันจะร้อนก็เรื่องของกาย แต่ใจนั้นมันเย็น

    ใจเย็นอยู่กับพุทโธธัมโมสังโฆอยู่กับคุณงามความดีที่ได้ทำไว้

    จึงเรียกว่า จิตเต อะสังกิลิฎเฐ สุคะติ ปาฎิกังขา

    เมื่อจิตฝึกฝนอบรมได้ดีแล้ว

    สุคติเป็นที่ไปเบื้องหน้า โดยไม่ต้องสงสัย

    ใฝ่เย็นจะเข็ญร้อน ภายหลังจะดิ้นตาย
    เป็นผู้ประมาทอยู่นะ ประมาทไม่เร่งทำความเพียรนั่นแหละ
    ผลัดวันปันเวลาอยู่เสมอ ฉะนั้น เมื่อไฟร้อนมาถึงภายหลังจะดิ้นตาย
    คือว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยมาถึงจะดิ้นตาย
    หรือเหตุเภทร้ายเกิดขึ้นเผชิญหน้า
    มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นก็จะดิ้นตาย
    ไม่มีสติปัญญาแก้ตนออกจากของชั่วช้าลามกได้
    นั่นแหละจะดิ้นตาย
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    คนที่ว่าตนเองรู้ ตนเองฉลาดแล้ว คนนั้นคือคนโง่ที่สุด

    คนที่มีนิสัยถ่อมตน ไม่ถือตัว ไม่อวดความรู้ที่ตนเองมี

    คนนั้นคือนักปราชญ์ผู้รู้จริง

    และผู้นั้นจะมีความรู้จากบุคคลต่างๆ สิ่งต่างๆ อีกมาก
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    วิมุตติคือความหลุดพ้น


    การทำความดี มีการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา เป็นต้น
    การทำความชั่ว มีกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เป็นต้น
    ครั้นเราทำความดี ความดีจะตามสนองให้เรามีความสุข มีสุคติเป็นที่ไป
    ครั้นเราทำความชั่ว ความชั่วจะตามสนองให้เรามีความทุกข์ มีทุคติเป็นที่ไป
    พวกเราได้อัตภาพร่างกายมาสมบูรณ์บริบูรณ์
    ก็เป็นเพราะปุพเพกตปุญญตา บุญของเราได้ทำมาแต่ปางก่อน
    พวกเราจึงไม่ควรประมาท ควรรีบทำคุณงามความดี ละความชั่ว
    ความชั่วก็ให้เห็นว่ามันพาไปในทางไม่ดี
    ทำแล้วได้รับความเดือดร้อน ตกนรกทั้งเป็นนั่นแหละ
    พวกเรามีการมาทำบุญให้ทาน มีการสดับรับฟังธรรมะ
    รักษาศีลภาวนา ก็พาให้เกิดความสบายใจ
    นั่นแหละบุญ เห็นกันที่นี่แหละ ไม่ต้องรอตายแล้วจึงจะไปสวรรค์
    ใจดีก็เป็นสวรรค์แล้ว ใจร้ายก็เป็นนรก เดี๋ยวนี้แหละ
    เพราะเหตุนี้จงทำใจให้ร่าเริง อย่าไปทำให้เศร้าหมองขุ่นมัว
    มันจึงจะมีความสบาย จึงจะมีความสุข เพราะฉะนั้นจึงควรทำความดี
    อย่าประมาท ให้พากันทำสติสัมปชัญญะให้รู้ตัวอยู่ทุกเมื่อ คือความรู้ตัวในการกระทำ
    ก่อนทำอะไรลงไปให้คิดเสียก่อนว่า มันได้ผลดีหรืออย่างไรต่อไปข้างหน้า
    ถ้ารู้ว่ามันไม่ดีให้ความทุกข์ เราก็ไม่ทำ ประกอบแต่คุณงามความดี
    ให้ระลึกรู้ว่าเมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล ไม่ได้ทำเสียเปล่าหรอก
    ทำเหตุลงไปแล้วไม่ได้รับผล ไม่มีหรอกในโลกนี้
    เหตุดีก็ต้องได้รับผลดี เหตุชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว มันจะสูญหายไปไม่มี
    การปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีโทษ มีแต่คุณคือจิตไม่ขุ่นมัว จิตผ่องใส จิตเบิกบาน
    จะยืน เดิน นั่ง นอนก็มีความสุข ไม่มีความทุกข์ จะเข้าสู่สังคมใดๆ ก็องอาจกล้าหาญ
    การทำความเพียร เมื่อสมาธิเกิดขึ้นมีขึ้นแล้ว
    จะไม่มีความหวั่นไหว ไม่มีความเกียจคร้านต่อการงานทั้งทางโลกทั้งทางธรรม
    จากนั้นก็เป็นปัญญาที่จะมาเป็นกำลัง เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้วรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์
    จะเรียนทางโลกก็สำเร็จ จะทำทางธรรมก็สำเร็จ
    พระพุทธเจ้าท่านจึงสั่งสอนอบรมให้เกิดให้มีขึ้นมา
    เบื้องต้นตั้งแต่ศีล ศีลเป็นที่ตั้งของสมาธิ สมาธิเป็นที่ตั้งของปัญญา
    ไม่ว่าศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางมาแห่งวิมุตติคือความหลุดพ้นด้วยกัน
    ธรรมทั้งหลายตกอยู่ในไตรลักษณ์ มีทุกขา มีอนิจจา มีอนัตตา
    ทั้งสามนี้ให้สำนึก พึงรู้ ทุกขัง ชาติ ความเกิดมาเป็นทุกข์
    อนิจจัง มันไม่เที่ยง มันแปรเป็นอื่น อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน
    บอกมันก็ไม่ฟัง บอกไม่ให้มันแก่มันก็แก่ ฟันบอกไม่ให้มันหลุดมันก็หลุด
    หัวบอกไม่ให้มันหงอกมันก็หงอก หนังบอกไม่ให้มันเหี่ยวมันก็เหี่ยว
    ผลที่สุดไม่นานก็นอนตายทับแผ่นดิน
    ส่วนดินก็ไปเป็นดิน ส่วนน้ำก็ไปเป็นน้ำ ส่วนลมก็ไปเป็นลม ฯลฯ
    เหลือแต่ดวงวิญญาณนี้เท่านั้น นี่ธาตุ ๔ ให้พิจารณาแยกออก ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
    ธาตุดินต่างหาก ธาตุน้ำต่างหาก ธาตุลมต่างหาก ธาตุไฟต่างหาก มารวมกันแล้วก็แตกดับไป
    เป็นของไม่แน่นอน เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ทุกขังมีแต่ทุกข์ ถ้าใครไปยึดไปถือ
    ส่วนอริยสัจ ๔ ให้พิจารณาให้รู้ให้เห็นตามเป็นจริง
    ทุกข์ ควรกำหนดรู้ สมุทัย ควรละเสีย นิโรธ ควรทำให้แจ้ง มรรค ควรทำให้เกิดให้มี
    ชาติ ความเกิด ชรา ความแก่ พยาธิ ความเจ็บ มรณะ ความตาย นี่ทุกขสัจ
    ทุกข์มันเกิดมาจากไหน ทุกข์เป็นตัวผล สมุทัยเป็นตัวเหตุ
    สมุทัย คือกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
    ความใคร่ในรูปที่สวยที่งามในวัตถุกามต่างๆ
    มีเงินทองข้าวของ เป็นต้น เรียกว่า กามตัณหา
    ความอยากมี อยากเป็น อยากเป็นโน่นอยากเป็นนี่
    อยากเป็นเศรษฐี คหบดี เป็นต้น เรียกว่า ภวตัณหา
    ความไม่พอใจ ของได้มาแล้วหายไปก็เกิดความไม่พอใจ
    ร่างกายของตนก็ดี ของคนอื่นก็ดี เมื่อแก่ลงมามีความชำรุดทรุดโทรม
    ผมหงอก ฟันหัก แก้มตอบ เป็นต้น เลยไม่พอใจ
    หรือเสียงเขาด่า เขานินทา ได้ยินเข้าก็เกิดความไม่พอใจ นี้เรียกว่า วิภวตัณหา
    ตัณหาทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นเหตุให้สัตว์ท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสาร
    ในภพน้อยภพใหญ่นับกัปนับกัลป์ไม่ได้
    ตัณหามันเกิดขึ้นมาจากไหน ต้องค้นหาเหตุมัน
    เหตุมันเกิดจากอายตนะภายในและอายตนะภายนอกมาสัมผัสกัน
    ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส
    กายถูกต้องสัมผัส ใจรู้ธรรมารมณ์
    พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้สำรวมอินทรีย์ทั้งหก คือสำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    ให้เพียรสำรวม เพียรละ ไม่ให้เกิดความยินดียินร้าย ทำจิตให้เป็นกลางวางเฉยต่ออารมณ์ นี่เรียกว่าการดับตัณหา
    การทำความเพียร การสำรวมและการทำความดีทุกอย่างเพื่อละ
    ตัณหา นี้แหละเป็นทางมรรคเมื่อมีปัญญา เห็นความเกิดขึ้น ความดับไปของสังขารทั้งหลาย
    เห็นแน่ว่าไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
    เป็นเพียงธาตุ ๔ มาประชุมกันเข้า
    แล้วก็แตกสลายไปอย่างนี้แต่ไหนแต่ไรมา ฐิติธรรมมีการตั้งขึ้น มีอยู่ แล้วดับไป
    พิจารณารู้เท่าทันในสิ่งเหล่านี้ไม่หวั่นไหว เรียกว่า นิโรธ คือผู้วางเฉยต่ออารมณ์ ดังนี้แหละ
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    การปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีโทษมีแต่คุณ คือจิตไม่ขุ่นมัว จิตผ่องใส


    จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีความสุขไม่มีความทุกข์


    จะเข้าสู่สังคมใดๆ ก็องอาจกล้าหาญ


    การทำความเพียร เมื่อสมาธิเกิดมีขึ้นแล้วจะไม่มีความหวั่นไหว


    ไม่ความเกียจคร้านต่อการงาน ทั้งทางโลกทั้งทางธรรม


    จากนั้นก็เป็นปัญญาที่จะมาเป็นกำลัง

    เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้วรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์

    จะเรียนทางโลกก็สำเร็จ จะทำการธรรมก็สำเร็จ

    พระพุทธเจ้าท่านจึงสั่งสอนอบรมให้เกิดให้มีขึ้นมา

    เบื้องต้นตั้งแต่ศีล ศีลเป็นที่ตั้งของสมาธิ

    สมาธิเป็นที่ตั้งของปัญญา

    ไม่ว่าศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางมาแห่งวิมุตติ

    คือความหลุดพ้นด้วยกัน
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ทุกชีวิตเกิดมาเพียงเพื่อจะเกิดแล้วก็ตายลงไป

    หลายคนใช้ชีวิตเพียงเพื่อตัวเองไปวันๆ

    แต่จะมีสักกี่คน ที่จะคิดทำเพื่อคนอื่น

    อย่างน้อยเพียงเพื่อสักวันนึง

    โลกจะได้จารึกจดจำในความดีของเรา
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้

    คนตาบอดอยากที่จะบำบัดโรคตาบอดให้มันตาแจ้งก็มีอยู่

    คือปัญจกรรมฐาน กรรมฐาน ๕

    พระพุทธเจ้าให้น้อมเข้ามาค้นคว้ากรรมฐาน ๕ นี้

    เกศาผม โลมาขน นขาเล็บ ทันตาฟัน ตะโจหนัง

    ตจ ปริยนฺโต หนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ

    ปุโร นานัปปารัสสะ อสุจิโน

    เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีประการต่างๆ นั่น

    นี่แหละ ลืมตาขึ้นมาให้มันเห็น แล้วตั้งใจทำอยู่อย่างนั้น

    ไม่ใช่ทำวันเดียว เดือนหนึ่ง หรือปีหนึ่ง

    ทำเอาตาย เอาชีวิตเป็นแดน เรื่องทำความเพียร
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    จงตั้งใจพิจารณาธาตุก้อนอันนี้แหละ

    พิจารณาเข้าเป็นธาตุหรือ หรือสัตว์ หรือคน ก้อนนี้น่ะ

    หลอกลวงเรา กัดเรา ไม่มีความสุข

    เพราะเหตุนั้น หัวใจมันจึงขุ่นมัว

    เมื่อมันรู้เท่ามันปล่อยวางแล้วนั่นแหละ

    จิตมันจึงจะลืมตาได้ เห็นความสว่าง

    เหมือนกับดวงจันทร์

    ถ้าถูกเมฆครอบงำแล้วก็มืดไม่เห็นฟ้าเห็นสิ่งทั้งปวง

    เมื่อก้อนเมฆผ่านไปลมตีไปแล้วไม่มีอะไรปิดบังดวงจันทร์แล้ว

    ดวงจันทร์ก็แจ่มจ้าสว่างไสวฉันใด

    ท่านผู้มีความเพียรฝึกอยู่จนเป็นนิสัยของตนแล้ว

    เห็นตามความจริงของสังขารแล้วว่า

    มีความเกิดขึ้นในเบื้องตน

    มีความแปรปรวนในท่ามกลาง

    มีความแตกสลายไปในที่สุด ไม่มีอะไรเป็นสาระแก่นสาร

    พอจิตว่างจะมีแต่ความสว่างไสว

    มันก็มีแต่ความสุข ไม่มีอะไรจะเปรียบ

    เอาอะไรที่เป็นแก่นสาร ไม่มีอะไรที่จะเป็นแก่นสารแล้ว

    จิตมันก็ไม่มีตนมีตัว

    เมื่อมันว่างตนว่างตัวแล้ว ก็เป็นจิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    คนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมย่อมไม่รู้จักมันหลงเชื่อมันทำตามมัน

    มันก็พาไปพบทุกข์ คนไม่รู้ก็คิดว่าเป็นความสุข


    [​IMG]


    การปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีโทษมีแต่คุณ

    คือจิตไม่ขุ่นมัว จิตผ่องใส

    จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีความสุขไม่มีความทุกข์

    จะเข้าสู่สังคมใดๆ ก็องอาจกล้าหาญ

    การทำความเพียร เมื่อสมาธิเกิดมีขึ้นแล้วจะไม่มีความหวั่นไหว

    ไม่ความเกียจคร้านต่อการงาน ทั้งทางโลกทั้งทางธรรม

    จากนั้นก็เป็นปัญญาที่จะมาเป็นกำลัง

    เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้วรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์

    จะเรียนทางโลกก็สำเร็จ จะทำการธรรมก็สำเร็จ

    พระพุทธเจ้าท่านจึงสั่งสอนอบรมให้เกิดให้มีขึ้นมาเบื้องต้น

    ตั้งแต่ศีล ศีลเป็นที่ตั้งของสมาธิ สมาธิเป็นที่ตั้งของปัญญา

    ไม่ว่าศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางมาแห่งวิมุตติ

    คือความหลุดพ้นด้วยกัน
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้ว มันจะไม่ไว้หน้าใคร มันทำลายทั้งสิ้น

    แก่นแท้ของธรรมอยู่ที่ สติ

    เราเองเป็นผู้ทำจิตของตนให้เศร้าหมอง

    ผู้อื่นช่วยไม่ได้ แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้

    ทำเองรู้เองได้เอง
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    จงทำใจให้เหมือนแผ่นดิน

    เพราะว่าแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้เคยโกรธใคร

    ทำอะไรใครเลย

    จงทำใจเหมือนน้ำ

    เพราะธรรมดาของน้ำย่อมเป็นของสะอาด

    ชำระของสกปรกได้ทุกเมื่อ และ

    เป็นของดื่มกินเพื่อมีชีวิตช่วยเหลือแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

    จงทำตนให้เหมือนผ้าเช็ดเท้า

    เพราะธรรมดาของผ้าเช็ดเท้าย่อมไม่มีความรักความชังฉันใด

    ใจเราก็ทำเหมือนกันฉันนั้น

    เมื่อเราตั้งใจฝึกฝนอบรมได้เช่นนี้แล้ว

    ไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่ความสุข ความทุกข์ในใจก็จะไม่เกิด
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ผู้ศึกษาเล่าเรียนจบพระไตรปิฎก

    ผู้นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้รักษากิ่งก้านสาขา รักษาใบ รักษากระพี้

    ผู้ที่ภาวนาได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำเอาแก่นมันเฮ็ดการได้

    ธรรมะมีแต่มันอยู่มันกิน มันสวดมนต์ อยู่ทุกวันเท่านั้น

    ธรรมะเป็นอย่างนี้แหละ
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ตามรอยหลวงปู่หล้า เขมปตฺโต วัดบรรพคีรี (ภูจ้อก้อ) ต.หนองสูง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร

    [​IMG]


    ถ้าหากโลกทั้งปวงหนักไปทางสอนตนเองเป็นชั้นหนึ่ง

    และเป็นของจำเป็นมากกว่าสิ่่งใดๆแล้ว

    การโต้เถียงเกี่ยงงอนรังเกียจเบียดสีกัน

    ก็คงสงบไปในตัวเท่าที่ควร

    และพุทธศาสนาก็ยืนยันว่า

    สอนตนดีแล้ว จึงสอนท่านผู้อื่น จึงไม่เดือดร้อนในภายหลัง
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    มองตัวเองให้มากจึงจะเป็นคนดีได้

    มัวแต่มองท่านผู้อื่นแล้วไซร้ ก็กลายเป็นคนพาลไปไม่รู้ตัว

    เพราะนิสัยคนพาล ย่อมเพ่งโทษผู้อื่นเป็นวัตร

    โบราณท่านกล่าวว่า อุจจาระของตน นั่งดมอยู่ก็พอดมได้

    อุจจาระท่านผู้อื่นเล่า มากระทบจมูกเข้าก็เกิดเป็นพิษเป็นภัยขึ้น
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    กบเฝ้าดอกบัว


    ชาวโลกทุกถ้วนหน้าที่เคารพ พวกเราอย่าได้เป็นกบเฝ้าดอกบัว และอย่าได้เป็นกบเลือกนายเลย นายของพวกเราคือพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำสอนที่ทรงพระเหตุผล สมต้นสมกลางสมปลายบริบูรณ์ดีพอแล้ว พร้อมทั้งฆราวาสและบรรพชิต สอนจิตสอนใจของพวกเราให้ละเอียดสูงส่งตรงไปให้ ชนะความเมาความหลงของเจ้าตัว สอนไม่ให้เข้าข้างตัวโดยฝ่ายเดียว สอนให้แลเหลียวดูใจท่านผู้อื่นและให้เอาตนเป็นพยานก่อน ยกอุทาหรณ์เรื่องเกี่ยวกับชีวิต เรารักชีวิตเรายิ่งกว่าใดๆทั้งสิ้น มีผู้มาเฆี่ยนตีบีโบย ทำร้ายล้างผลาญเราก็ไม่พอใจเลยแม้แต่ขณะจิตเดียว สัตว์อื่นท่านผู้อื่นนั้นเล่า เขาก็ถือว่าชีวิตของเขาเป็นของหวงและมีค่า

    เหตุนั้นการละเมิดปาณาติบาต ทำชีวิตสัตว์ให้ถึงปวดเจ็บตายจึงไม่ควรทำเลยขาดตัว เมื่อเห็นข้อนี้เป็นพยานเด่นชัดแล้ว ข้ออื่นๆ ในด้านที่ว่าศีลทั้งห้าข้ออันเป็นพรหมจรรย์เบื้องต้นของพระพุทธศาสนา อันเป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนาจะมั่นคงถาวรอยู่ที่พระนครหลวงใจก็มีเหตุผลเป็นอันเดียวกัน เป็นการเข้าใจกันได้ง่ายๆ ไม่ลี้ลับเลยๆ เราไม่พอใจส่วนใด ท่านผู้อื่นก็ไม่พอใจส่วนนั้นๆ การพูดโกหกพกลมก็ไม่พอใจทั้งสองฝ่าย เสียประโยชน์ทั้งผู้พูดและผู้ฟัง เสียเวลาตลอดจนถึงขั้นสูงของอันตรายฉิบหาย กาเมกาโมก็โดยนัย เขาล่วงประเวณีเราในลูกเมียผัวหรือหลานเหลน เราก็เกิดโมโหไม่ชอบ "เขาก็เหมือนกัน" สุราเล่าแต่ไม่กินมันก็เมาอยู่แล้ว คือเมากิเลสไม่สร่าง ศีลห้าสี่ข้อข้างท้าย ถ้าลองระเบิดมากหนักเข้าหนักเข้า (ก็ตกลง"ฆ่า" มารวมอยู่ข้อต้นอีกละถูกมั้ย)

    ถ้าชาวโลกพร้อมกันมีศีลห้าบริบูรณ์แล้ว ไม่ต้องมีตำรวจทหารและเวรยามให้ลำบาก กฎหมายของประเทศชาติตลอดกฎหมายโลกก็ไม่ต้องตั้งขึ้นมากหลายมาตราให้ท่องจำมาก เสียเวลา หลับนอนไปก็ไม่สะดุ้งผวาเพราะไม่มีเวรอยู่รอบด้าน จิตใจชาวโลกก็เบิกบานหรรษาหน้าตาผ่องใสผิวพรรณวรรณะผุดผ่อง หน้าก็ไม่นิ้วคิ้วก็ไม่ขมวด เป็นมนุษย์และเทวดาเต็มภูมิ เสียงระเบิดตูมๆตามๆก็ไม่มี มีแต่เสียงสวัสดีคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพ่อคุณแม่ คุณลุงคุณป้า คุณน้าคุณอา คุณพี่คุณน้อง คุณลูกคุณหลานคุณเหลน คุณมิตรคุณสหาย คุณครูบาคุณอาจารย์คุณครูคุณพระ คุณพระมหากษัตริย์ คุณรัฐธรรมนูญ คุณพระพุทธคุณพระธรรมคุณพระสงฆ์ (ไม่มีเสียงเปรี้ยวเสียงเผ็ด) มีแต่เสียงสมานมิตรสมานฉันท์ อารมณ์อาหารของใจก็เบิกบานหรรษา ไฟโทสะก็บรรเทาหรือระงับ การตายโหงด้วยศาสตราวุธตามตรอกห้วยราวดอยดงดอนรั้วสวนไร่นาในบ้านในเมืองในกรุง และตามถนนหนทาง ฯลฯ ก็จะไม่มี จะสมฐานะว่าเป็นโลกมนุษย์เต็มภูมิ ส่วนสัตว์โลกเล่าก็จะเบาลงอีก เวรภัยนานาอเนกก็ลดน้อยลงมาก จะไม่มีเสียเลยก็ว่าได้ หนทางไปพระนิพพานก็โล่งโถงตรงไป สิ้นลมปราณวันใดก็จะทรงวิญญาณไปดีเพราะไม่ได้หอบเวรภัยไปด้วย ไปแบบเบาๆแบบเย็นๆไม่เข็ญใจ ประตูใจไปนรกและเปรตปิดดีแล้ว ไม่ได้สร้างขึ้นไว้ ก็มีคติเป็นสอง ไม่มนุษย์ก็สวรรค์เท่านั้นเองละ

    เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ก็เป็นผู้รูปสวยตระกูลสูง อายุยืนทั้งมีทรัพย์ภายนอกและภายใน และไม่มีใครมาทำอันตรายต่อทรัพย์สิน ไม่มีใครมาล่วงประเวณีและไม่มีใครมาโกหกพกลมต้มตุ๋น ไม่ได้เป็นคนบ้าใบ้เสียจริตผิดมนุษย์ เพราะไม่ได้ล่วงละเมิดศีลห้า เพราะศีลเป็นทรัพย์ถาวรมาก ผู้ไม่เชื่อศีลไม่เชื่อธรรม ก็คือผู้ไม่เชื่อตนในสิ่งที่ควรเชื่อนั่นเอง กรรมและผลของกรรมฝ่ายดำนำสนองจองอยู่ในอู่ของขุมมืดตื้อ เป็นของเหลือวิสัยที่พระอาจารย์จะเทศน์เอาได้ ก็ต้องปล่อยไว้ใช้อุเบกขา แต่ก็ชักจะเป็นอุเบกขวาง ของนักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาบ้าง แต่ผู้ใจสูงธรรมสูงมีวิธีหลีกได้ไม่เป็นไร มีหน้าที่ทำใจให้สูงกว่าผู้ที่ยังอินทรีย์อ่อนอยู่ ให้อภัยร่ำไปก็ได้ การให้อภัย ในใจและออกเสียงก็ดีมันก็เป็นธรรมะ อันไม่หมกเวรภัยไว้ในโลกอยู่แล้ว และก็เป็นพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายอีกด้วย

    ผู้เขียนลงเอยเห็นชัดไปเข้าข้างพระธรรมแท้ว่า ถ้าชาวโลกทุกถ้วนหน้าถึงพระพุทธเจ้าพระธรรมะเจ้าพระสงฆะเจ้า เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่ปฏิบัติบูชา ผูกขาดจองขาดไม่เอาลัทธิอื่นมาปนเปสร้างปัญหา พร้อมทั้งทรงศีลห้าบริบูรณ์แล้ว โลกมนุษย์ทั้งโลก จะเป็นโลกุตตระโลก สงบเย็นปราศจากสรรพเวรสรรพภัยให้เห็นประจักษ์แก่ตานอกและตาใน จะพากันผินหน้าจิตใจพร้อมทั้งเจตนามุ่งหน้า สูงส่งตรงไปสู่ธรรมอันไม่ตายคือพระนิพพาน โดยมิได้มีพระอาจารย์ภายนอกมาชักจูงเลย เพราะอำนาจพระอาจารย์อันทรงอยู่มีอยู่ที่อู่ของขันธสันดาน ที่เรียกว่าสันทิฏฐิโกและปัจจัตตัง จะเป็นพลังธรรมะทิพย์ ใจทิพย์ สติทิพย์ ปัญญาทิพย์ เกิดขึ้นไม่ต้องสงสัยสามัคคีกันไปในธรรม ไม่ตายแลฯ
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ใจใดเห็นภัยในรสใจอันเดือดร้อน

    ใจนั้นจะรู้จักการลดผ่อนในเรื่องร้อนของใจ

    ใจใดไม่รู้จักรสของใจ ใจนั้นไม่รู้จักรสของธรรม

    ใจใดไม่รู้จักทางใจ ใจนั้นไม่รู้จักทางธรรม

    ใจใดไม่รู้จักพึ่งใจ ใจนั้นก็ไม่รู้จักพึ่งธรรม

    ใจใดไม่รู้จักเหตุแห่งใจ ใจนั้นก็ไม่รู้จักเหตุแห่งธรรม

    ใจใดไม่รู้จักดับเหตุแห่งใจ ใจนั้นไม่รู้จักดับเหตุแห่งธรรม

    ใจใดไม่รู้จักหลุดพ้น ใจนั้นก็ไม่รู้จักธรรมอันหลุดพ้น

    ใจใดไม่เคารพใจ ใจนั้นก็ไม่เคารพธรรม

    ใจใดไม่รู้จักใจที่ควรปฏิบัติเคารพ

    ใจนั้นก็ไม่รู้จักธรรมที่ควรปฏิบัติเคารพ

    ใจใดที่ไม่รู้จักสรรพใจ ใจนั้นก็ไม่รู้จักสรรพธรรม

    ใจใดไม่รู้จักเอกใจในปัจจุบัน ใจนั้นก็ไม่รู้จักเอกธรรมในปัจจุบัน

    นิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    อารมณ์วู่วามนั้นหากบุคคลใดรู้ตัว ก็ต้องถือว่าเป็นคนมีปัญญาแล้ว

    และหากถ้ามันเห็นว่าไม่มีประโยชน์มันก็จะวางไปเอง

    แต่ถ้าหากเห็นว่ามีประโยชน์มันก็วางไม่ได้

    อย่างไรก็ตาม มันจะถึงกับฆ่าหรือตีเขาหรือไม่

    ข้อนี้ก็เป็นส่วนที่จะต้องรู้อีก

    ถ้ามันหมายจะฆ่าจะตีเขาก็ส่อแสดงให้เห็นว่ามันยังมีกิเลสมากอยู่

    เรื่องนี้เราต้องพิจารณา
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ใครๆ ในโลกนี้ก็เหมือนกัน

    ถ้าหากเห็นว่าโลภโกรธ หลง มันเป็นของอร่อยอยู่

    มันก็ลดละไม่ได้ มันต้องไปสังเวย เป็นอาหารของกิเลสต่อไป


    [​IMG]


    ชาวโลกทุกถ้วนหน้าที่เคารพ

    พวกเราอย่าได้เป็นกบเฝ้าดอกบัว และอย่าได้เป็นกบเลือกนายเลย

    นายของพวกเรา คือ พระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เป็นคำสอนที่ทรงพระเหตุผล

    สมต้นสมกลางสมปลายบริบูรณ์ดีพอแล้ว

    พร้อมทั้งฆราวาสและบรรพชิต

    สอนจิตสอนใจของพวกเราให้ละเอียดสูงส่ง

    ตรงไปให้ชนะความเมาความหลงของเจ้าตัว

    สอนไม่ให้เข้าข้างตัวโดยฝ่ายเดียว

    สอนให้แลเหลียวดูใจท่านผู้อื่นและให้เอาตนเป็นพยานก่อน
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ผู้มีศรัทธาความเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ

    มีวิริยะในสิ่งที่ควรเพียร

    มีสติในสิ่งที่ควรระลึกได้

    มีสมาธิในสิ่งที่ควรตั้งมั่น

    มีปัญญาในสิ่งที่ควรรอบรู้

    เป็นกองทัพธรรมสมดุลกันแล้ว

    ย่อมเป็นช้างสารมหากำลังใหญ่

    ความหลงที่เรียกว่าอวิชชา

    จะตั้งกองพลเข้ามาทางประตูใด

    ความหลงย่อมอยู่ใต้อำนาจของธรรมแท้ ใจแท้

    ศรัทธาแท้ วิริยะแท้ สติแท้ สมาธิแท้ ปัญญาแท้

    เพราะธรรมเหล่านี้ขึ้นสู่โลกุตรแล้ว

    ไม่มีเทวดา มาร พรหมและมนุษย์ใดๆ

    จะปลดเกษียณให้ลงสู่โลกีย์ได้
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ตามรอยธรรมหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม ถ.กรุงศรีใน อ.เมือง จ.สุรินทร์

    [​IMG]


    "ขอให้ท่านทั้งหลายจงสำรวจดูความสุขว่า

    ตรงไหนที่ตนเห็นว่ามันสุขที่สุดในชีวิต

    ครั้นสำรวจดูแล้วมันก็แค่นั้นแหละ

    แค่ที่เราเคยรู้เคยพบมาแล้วนั่นเอง

    ทำไมจึงไม่มากกว่านั้น มากกว่านั้นไม่มี

    โลกนี้มีอยู่แค่นั้นเอง แล้วก็ซ้ำๆซากๆ อยู่แค่นั้น

    เกิด แก่ เจ็บ ตายอยู่ร่ำไป

    มันจึงน่าจะมีความสุขชนิดพิเศษกว่า ประเสริฐกว่า ปลอดภัยกว่านั้น

    พระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านจึงสละสุขส่วนน้อยนั้นเสีย

    เพื่อแสวงหาสุขอันเกิดจากความสงบกาย สงบจิต สงบกิเลส

    เป็นความสุขที่ปลอดภัยหาสิ่งใดเปรียบมิได้เลย"
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    กายนี้คือก้อนทุกข์ กายนี้เป็นที่หมายให้พ้นเสียจากทุกข์

    ฝึกสติปัญญาให้ดีแล้วมาพิจารณากายนี้ให้แจ้ง

    เดี๋ยวก็จะพ้นทุกข์เอง


    [​IMG]


    ที่ใจไม่สงบ ก็ให้รู้ว่ามันไม่สงบ

    เพราะอยากสงบ มันจึงไม่สงบ

    ขอให้พยายามภาวนาเรื่อยๆไปเถอะ

    สักวันหนึ่งก็จะได้สงบตามต้องการ
     

แชร์หน้านี้

Loading...