"ตามรอยพระเจ้าตากสิน ท่องถิ่นธนบุรี"

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 ธันวาคม 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 ธันวาคม 2548 17:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จมาถึงวัดแจ้งเมื่อยามรุ่งอรุณพอดี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญที่คนไทยทั้งประเทศมิควรจะลืม เพราะนั่นคือวันที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งแผ่นดินกรุงธนบุรี

    สำหรับพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อประชาชนชาวไทยนั้น เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะทราบดีแล้วว่า หลังจากที่ประเทศไทยต้องเสียกรุงให้แก่ข้าศึกเป็นครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2310 เมื่อกรุงศรีอยุธยาถูกทำลายจนเสียหาย ยับเยิน สมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือเจ้าเมืองตากในขณะนั้น ได้ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกไปตั้งมั่นที่จังหวัดจันทบุรี จากนั้นก็ได้รวบรวมไพร่พลยกกลับมาตีข้าศึกกู้เอกราชเอาบ้านเมืองกลับคืนมาเป็นของชาวไทยอีกครั้ง

    สงครามในครั้งนั้นก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับกรุงศรีอยุธยา เมืองหลวงของไทยในสมัยนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเห็นว่าหากจะตั้งบ้านเมืองขึ้นมาใหม่คงจะเป็นเรื่องยาก อีกทั้งข้าศึกก็รู้จักพื้นที่ในกรุงศรีอยุธยาอย่างปรุโปร่งหมดแล้ว ดังนั้นพระองค์จึงมีพระราชดำริให้ย้ายเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยามายังกรุงธนบุรี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินในพระราชวังเดิม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในยุคสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินในแผ่นดินของกรุงธนบุรี และเนื่องในวันสำคัญนี้ เราจะไปตามหาร่องรอยของสมเด็จพระเจ้าตากสินที่ทรงประทับไว้ในกรุงธนบุรีนี้ด้วยกัน

    วัดแจ้ง...อรุณรุ่งที่กรุงธนบุรี

    เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินโปรดให้ย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามายังกรุงธนบุรี จึงได้กรีฑาทัพล่องเรือมาทางน้ำ และล่องมาถึงวัดมะกอกนอกเมื่อตอนรุ่งสางพอดี พระองค์จึงได้เสด็จขึ้นไปนมัสการพระมหาธาตุที่พระปรางค์ ซึ่งในขณะนั้นสูงเพียง 8 วาเท่านั้น และเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่เป็นวัดแจ้ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่พระองค์ได้เสด็จมาถึงวัดนี้เมื่อเพลารุ่งแจ้ง

    สมเด็จพระเจ้าตากสินตัดสินพระทัยสร้างพระราชวังขึ้นใหม่ในบริเวณนี้ และเมื่อสร้างพระราชวังเสร็จทำให้วัดแจ้งตั้งอยู่ในเขตวังพอดี พระองค์จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ด้วย และมิให้มีพระสงฆ์จำพรรษาเพราะถือเป็นวัดในวัง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินในวัดโมลีโลกยาราม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> และหลังจากรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน วัดแจ้งได้ถูกบูรณปฏิสังขรณ์อีกหลายครั้ง รวมทั้งได้เปลี่ยนชื่อจากวัดแจ้ง เป็นวัดอรุณราชธาราม และเป็นวัดอรุณราชวรารามอย่างในปัจจุบัน

    พระราชวังเดิม พระราชวังแห่งกรุงธนบุรี

    อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินได้มาสร้างบ้านเมืองขึ้นใหม่ที่กรุงธนบุรี ซึ่งพระราชวังของท่านนั้น ก็คือพระราชวังเดิมในปัจจุบัน ขณะนี้อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ ซึ่งสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นในตอนนั้นก็มี อาคารท้องพระโรง ซึ่งเป็นอาคารทรงไทย มีพระที่นั่งสององค์เชื่อมต่อกัน องค์หนึ่งคือท้องพระโรง ซึ่งใช้เป็นที่เสด็จออกว่าขุนนาง และประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ส่วนพระที่นั่งอีกองค์หนึ่งเรียกว่าพระที่นั่งขวาง เป็นส่วนของราชมณเฑียร หรือที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน

    ในบริเวณของพระราชวังเดิมยังมีป้อมปราการสำคัญที่ชื่อว่า ป้อมวิไชยประสิทธิ์ หรือชื่อเดิมว่า ป้อมวิไชยเยนทร์ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เดิมป้อมนี้มีอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นป้อมปราการทางน้ำ ป้องกันข้าศึกทางทะเล ในอดีตมีการใช้ขึงโซ่ข้ามแม่น้ำเพื่อเป็นด่านควบคุมเรือที่จะเข้าไปยังกรุงศรีอยุธยาด้วย

    และในสมัยกรุงธนบุรี ป้อมวิไชยเยนทร์ได้ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่ และได้พระราชทานนามใหม่ว่า
     
  2. PyDE

    PyDE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    812
    ค่าพลัง:
    +1,318
    รู้สึกอยากถ่ายรูปดวงอาทิตย์ติดพื้น พร้อมกับท้องฟ้าสีส้ม อย่างเงี้ยเนอะ
     
  3. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,295
    ค่าพลัง:
    +2,719
    นับถือในธรรมของพระเจ้าตากฯท่านมากครับ[b-wai]
     
  4. mr.sanyalak sanyalak

    mr.sanyalak sanyalak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +182
    ผมเด็กผั่งธนฯ ลูกหลานพระเจ้าตากสิน ขอร่วมเทิดพระเกียติ คุณงามความดี การเสียสละเพื่อแผ่นดิน
     
  5. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พระเจ้าตากสินมหาราช กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในยุคกรุงธนบุรี </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 ธันวาคม 2548 09:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เนื่องในโอกาสวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “ วันพระเจ้าตากสินมหาราช ” วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชให้แก่แผ่นดินไทย ดังนั้น เพื่อเป็นน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถ ตลอดจนการเสียสละอย่างใหญ่หลวงของพระองค์ กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอนัอมนำเรื่อง ปัญหาเศรษฐกิจและแนวทางการแก้ไขในยุคกรุงธนบุรี อันสรุปบางส่วนมาจากหนังสือ “ นวมหาราช ” ของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และ ” สารานุกรม พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ” ของมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม มานำเสนอเพื่อให้พวกเราปัจจุบันได้ทราบว่าในสมัยนั้น มีวิธีการแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้อย่างไร เพราะไม่ว่ายุคใดสมัยไหน ปัญหาเศรษฐกิจอันเป็นเรื่องเกี่ยวกับปากท้องชาวบ้านนับเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญของบ้านเมืองเสมอ ดูอย่างสมัยปัจจุบัน หากรัฐบาลไหนแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ก็มักไปไม่รอด จึงเป็นเรื่องที่น่าศึกษาและเรียนรู้ว่าในอดีต โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศชาติยังตกอยู่ในภาวะไม่ปกติจากภัยสงคราม นอกจากปัญหาเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคงของราชอาณาจักร ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจะต้องฝ่าฟันแล้ว พระองค์ท่านมียุทธศาสตร์อย่างไรในการเผชิญหน้ากับปัญหาเศรษฐกิจที่คงจะหนักหนาสาหัสไม่น้อยในสมัยนั้น

    ตลอดระยะเวลา 15 ปี ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นับตั้งแต่ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี ในปีพ.ศ. 2310 จนถึงปีพ.ศ. 2325 ที่เสด็จสวรรคต พระองค์ต้องทรงตรากตรำกรำศึกมาโดยตลอด นอกจากต้องรบพม่าเพื่อกอบกู้เอกราชในครั้งแรก รวมถึงการทำศึกกับก๊กต่างๆ ที่ตั้งตัวเป็นใหญ่แล้ว ยังต้องทำการรบกับพม่าที่ยกมาโจมตีอีกถึง 9 ครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกันก็ยังได้ทำสงครามขยายอาณาเขตอีกหลายครั้ง เป็นผลให้ไทยมีประเทศราชหลายแห่งกลับคืนมาเหมือนสมัยอยุธยา ซึ่งในช่วงแรกหลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 กล่าวได้ว่าเศรษฐกิจของบ้านเมืองอยู่ในภาวะตกต่ำเป็นอย่างยิ่ง การทำไร่นาและการค้าขายกับต่างประเทศหยุดชะงักลงเกือบจะสิ้นเชิง และแม้หลังการกอบกู้ชาติได้แล้ว ความอดอยากและการขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคก็เกิดขึ้นอยู่แทบจะตลอดรัชกาล เนื่องจากมีปัจจัยและสิ่งแวดล้อมที่ต้องทำให้สิ้นเปลืองและกระทบกับสภาพเศรษฐกิจโดยส่วนรวมหลายอย่าง อาทิ

    -ในช่วงก่อนกรุงแตก พม่าได้ยกทัพมาปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่นาน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถทำไร่ทำนา หรือค้าขายได้ตามปกติ ความขาดแคลนจึงเกิดขึ้นไปทั่ว

    -เมื่อครั้งทำศึกกับก๊กต่างๆ รวมทั้งศึกพม่าและชาติอื่นๆที่มีอีกหลายครั้ง ทำให้ต้องใช้กำลังพลในการตระเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น การต่อเรือ การระดมพลเพื่อฝึกปรือ ฯลฯ ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังการผลิตเป็นอย่างมาก

    -ในระยะแรกที่มีการสร้างเมืองหลวงใหม่ การสถาปนาเจ้านายต่างๆ รวมไปถึงการปูนบำเหน็จความดีความชอบแก่ข้าราชการขุนนาง ต้องใช้กำลังทรัพย์ไม่น้อย ทำให้มีรายจ่ายมากขึ้น

    -ในรัชสมัยของพระองค์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรีบฟื้นฟูและทำนุบำรุงพระศาสนา ตลอดจนชำระสะสางคณะสงฆ์ให้ตั้งมั่นอยู่ในธรรมวินัย เพราะได้ทรุดโทรมลงมากในช่วงบ้านเมืองเกิดจลาจล จึงจำเป็นต้องใช้พระราชทรัพย์เป็นอันมากเพื่อการดังกล่าว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=120 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=120>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จากเหตุข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าสภาพเศรษฐกิจบ้านเมืองเวลานั้น ถ้าพูดแบบสมัยนี้ก็ต้องว่า ตกอยู่ภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหรือพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงได้วางนโยบายที่จะผ่อนปรนความเดือดร้อนของราษฎร หรือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนี้

    ประการแรก ทรงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องความอดอยากและขาดแคลน ด้วยการพระราชทานข้าวสารให้แก่บรรดาข้าราชการทหารและพลเรือนทั้งไทย/จีน คนละ 1 ถังต่อ 20 วัน นอกจากนี้ ยังทรงแจกจ่ายอาหารเลี้ยงดูพลเรือนที่อดโซด้วย

    ประการที่สอง ในช่วงแรกที่ครองราชย์ และเพิ่งผ่านพ้นจากการจลาจลสงคราม จึงยังไม่มีผู้ทำไร่ทำนาเพื่อเพิ่มผลผลิตให้พอเลี้ยงดูผู้คน ทรงแก้ปัญหาด้วยการซื้อข้าวสารจากพ่อค้าสำเภาจีน โดยยอมซื้อในราคาแพงเพื่อแจกจ่ายคนทั้งปวง ซึ่งเมื่อข้าวขายได้ในราคาแพง บรรดาพ่อค้าจีนจากที่ต่างๆก็นำข้าวมาขายเพิ่มขึ้น เกิดการแข่งการขาย ข้าวจึงมีราคาถูกลงตามหลักดีมานด์ซัพพลาย ราษฎรก็ได้รับประโยชน์

    ประการที่สาม โปรดให้ข้าราชการผู้ใหญ่และผู้น้อยทำนาปีละ 2 ครั้งในปีพ.ศ. 2311 เป็นการแก้ปัญหาความขาดแคลน เพราะช่วงนั้นข้าวสารราคาสูงมาก ทำให้ราษฎรเดือดร้อน

    ประการที่สี่ ปรากฏว่าในปีพ.ศ. 2311 นั้นเอง ข้าวในยุ้งฉางและทรัพย์สินต่างๆเสียหายเป็นอันมาก เนื่องจากมีกองทัพหนูมากัดกินเป็นจำนวนมาก พระองค์จึงทรงรับสั่งให้ข้าราชการและพลเรือนทั้งหลายจับหนูมาส่งกรมพระนครบาลทุกวัน หนูจึงสงบหายไป

    ประการที่ห้า ทรงให้มีการส่งเสริมการค้าขายกับต่างประเทศ ซึ่งพ่อค้าที่มีบทบาทสำคัญในช่วงนั้นคงจะเป็นพ่อค้าจีน ซึ่งการค้ากับต่างประเทศนี้ก็ได้ช่วยบรรเทาความขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคภายในบ้านเมืองได้ในระดับหนึ่ง

    ประการที่หก การที่ทรงสามารถปราบปรามหัวเมืองต่างๆ รวมทั้งประเทศราช ทำให้มีฐานอำนาจทางการเมืองมั่นคง ซึ่งมีผลต่อการเก็บภาษีอากร ส่วย และเครื่องราชบรรณาการมาเป็นรายได้ ได้อีกส่วนหนึ่ง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ประการที่เจ็ด ในช่วงพม่ายกมาล้อมกรุงศรีอยุธยานั้น ปรากฏว่าราษฎรได้ฝังทรัพย์สินไว้ตามบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก เมื่อเสร็จสงคราม ก็มีเจ้าของไปขุดบ้าง ผู้อื่นไปขุดหาทรัพย์ที่เจ้าของตายแล้วบ้าง ดังนั้น ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงได้จัดเก็บภาษีแก่ผู้ที่ไปขุดหาทรัพย์เหล่านี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ไปประจำอยู่ที่กรุงเก่า และห้ามมิให้ผู้ใดขุดทรัพย์โดยพลการ ซึ่งการเก็บภาษีผูกขาดเช่นนี้ เป็นการเพิ่มพูนรายได้แก่แผ่นดินไม่น้อย

    ประการที่แปด ทรงเอาผิดและลงโทษผู้ที่บ่อนทำลายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงและเฉียบขาด เช่น ลงโทษประหารชีวิตผู้ที่ลักลอบทำเงินพด หรือผู้ที่เบิกข้าวหลวงแล้ว แทนที่จะไปแจกราษฎรกลับเอาไปให้ภรรยา ก็ได้ลงอาญาเฆี่ยนตี 100 ทีและปรับข้าวเป็น 10 เท่า ลดตำแหน่งลง และเอาลูกเมียไปจองจำ ต่อเมื่อมีศึก จึงค่อยไปทำราชการแก้ตัว อย่างนี้เป็นต้น การดำเนินการอย่างเฉียบขาดเช่นนี้ ทำให้คนกลัวและช่วยพยุงฐานะเศรษฐกิจได้บ้างส่วนหนึ่ง

    นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาประเทศในแนวแปลกใหม่สำหรับสมัยนั้นด้วย คือ ทรงให้มีการตัดถนนในฤดูหนาวคราวว่างศึก เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาของพ่อค้าประชาชน ซึ่งตามธรรมดาเส้นทางคมนาคมสมัยเมื่อ 200 ปีมาแล้ว มักจะเป็นทางน้ำทั้งสิ้น นับว่าพระองค์ทรงมีแนวคิดพัฒนาประเทศทันสมัยทีเดียว

    อย่างไรก็ดี แม้จะดำเนินการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างที่กล่าวมาแล้วก็ตาม สภาพเศรษฐกิจในสมัยพระองค์ก็มิได้มีความเจริญเติบโตสมบูรณ์อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ คงเป็นเพราะการศึกสงครามที่ยังมีอยู่แทบตลอดรัชกาลนั่นเอง ซึ่งปัญหาความอดอยากนี้ นับว่าเป็นปัญหาหนักทีเดียว จนพระองค์ถึงกับเคยเอ่ยพระโอษฐ์ด้วยความทุกข์พระทัยว่า “ ...บุคคลผู้ใด เป็นอาทิ คือ เทวดา บุคคลผู้มีฤทธิ์มาประสิทธิ์ มากระทำ ให้ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ขึ้น ให้สัตว์โลกเป็นสุขได้ แม้ผู้นั้นจะปรารถนาพระพาหาแห่งเราข้างหนึ่ง ก็อาจตัดบริจาคให้แก่ผู้นั้นได้ ความกรุณาเป็นสัตย์ฉะนี้... ”

    จากพระราชปรารภข้างต้น คงจะทำให้เราได้เห็นน้ำพระทัยของพระเจ้ากรุงธนบุรีอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าทรงตั้งใจเสียสละเพื่อราษฎรเพียงใด ตลอดรัชกาล พระองค์ต้องคิดทั้งเรื่องการรบข้าศึกศัตรู คิดเรื่องการฟื้นฟูและทำนุบำรุงบ้านเมือง คิดถึงการแก้ปัญหาปากท้องราษฎร แต่ละเรื่องนับเป็นภาระที่หนักยิ่ง หากมิใช่เพราะพระปรีชาสามารถ น้ำพระทัยที่ห้าวหาญ และความเสียสละของพระองค์ท่านแล้ว คงยากที่เราจะมีวันนี้ได้ ดังนั้น ในโอกาส “ วันพระเจ้าตากสินมหาราช ” วันที่ 28 ธันวาคม 2548 จะได้เวียนมาบรรจบอีกรอบหนึ่ง นอกเหนือไปจากการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านแล้ว สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ใคร่ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยได้ตั้งจิตอธิษฐานที่จะร่วมกันทำความดี เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา ให้สมกับที่พระองค์ได้ทรงเสียสละ จนเรามีประเทศไทยมาจนทุกวันนี้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    เพิ่มเติมจ๊ะ..

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวจันท์ร่วมพิธีบวงสรวงสักการะดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 ธันวาคม 2548 14:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=150>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ศูนย์ข่าวศรีราชา - ข้าราชการ ทหาร ครอบครัวทหารเรือ ในค่ายตากสิน และประชาชนทุกสาขาอาชีพ ได้ร่วมในพิธีบวงสรวงสักการะดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

    วันนี้ (28 ธ.ค.) ภายในค่ายตากสิน กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พลเรือตรีสุวิทย์ ธาระรูป รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะแด่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่ามกลางกำลังพลและหัวหน้าส่วนราชการที่เข้าร่วมในพิธีถวายสักการะเป็นจำนวนมาก

    โดยได้จัดให้มีการวางพานพุ่มดอกไม้สด และถวายบังคมพระราชานุสาวรีย์ของส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชนในจังหวัดจันทบุรี 35 หน่วยงาน โดยมีพลเรือตรี สุวิทย์ ธาระรูป รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประธานในพิธี นายพนัส แก้วลาย ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมจุดธูปถวายเครื่องราชสักการะและเครื่องบวงสรวง จากนั้นประธานในพิธีกล่าวถวายเครื่องบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

    สำหรับพิธีถวายเครื่องสักการระในครั้งนี้ เนื่องในโอกาสวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเทิดพระเกียรติแห่งพระวีรกษัตริย์ไทยที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชของไทย เมื่อมีพุทธศักราช 2310 โดยพระองค์ได้ทรงม้าศึกตีฝ่าวงล้อมจากกรุงศรีอยุธยาไปทางทิศตะวันออกและสามารถรวบรวมไพร่พลได้ที่เมืองจันท์ และหัวเมืองในบูรพาทิศแล้ว จึงยกกำลังไปกอบกู้อิสรภาพจากทหารพม่าได้จึงทำให้ประชาชนชาวไทยได้อาศัยผืนแผ่นดินไทยมาด้วยความผาสุก ตราบเท่าทุกวันนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    เพิ่มเติมอีก..จ๊ะ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ระยองจัดงานวันสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ-งานกาชาด-ฉลองปีใหม่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 ธันวาคม 2548 14:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์ข่าวศรีราชา - จังหวัดระยองจัดงานวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและงานกาชาดพร้อมร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

    นายวีระพัฒน์ จันทร์ชุม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สำนักงานจังหวัดระยองจัดงาน “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและงานกาชาดจังหวัดระยอง ประจำปี 2549” โดยเริ่มแล้วตั้งแต่เช้าวันนี้ (28 ธ.ค.) ตั้งแต่เวลา 07.30 น.ที่ผ่านมามีพิธีถวายสักการะพระบรมรูปจำลอง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดลุ่มมหาชัยชุมพล ถนนตากสินมหาราช ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

    ในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 15.00 น.มีการแห่ขบวนรถพระพุทธอังคีรสและพระเจ้าตากสินมหาราช จากหอพระพุทธอังคีรส และจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 17.00 น. ณ สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

    ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ และนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัด ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2549 ส่วนในช่วงปีใหม่จะมีการจัดกิจกรรมด้วยเช่นกัน สำหรับวันที่ 31 มกราคม 2548 เวลา 24.00 น.จะเป็นการเฉลิมฉลองเข้าสู่ปีใหม่ด้วยการจุดพลุและดอกไม้ไฟตัวอักษร “สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2549” และการกล่าวอวยพรปีใหม่จากประธานในพิธี

    ในวันที่ 1 มกราคม 2549 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไปจะมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูปเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ณ สวนศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดระยองจึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าวได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    พ่อบอก เมื่อใดที่ถึงคราวิบากให้นึกถึงพ่อ

    ไชโย ไชโย ชนะ ชนะ กูผู้ชนะ
     
  9. 9chan

    9chan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +14
  10. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    <TABLE cellSpacing=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD width=539 height=146>
    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom width=448 height=146>
    [​IMG] พระราชประวัติ [​IMG][​IMG]สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยกรุงธนบุรีเสด็จพระราช สมภพ ณ วันที่ 17 เมษายน พุทธศักราช 2277 ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศพระองค์ทรงเป็นสามัญชน กำเนิดในตระกูลแต้มีพระนามเดิมว่าสินพระราชบิดาเป็นจีนชื่อไหฮองเดินทางจากประเทศจีนมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย แล้วได้สมรสกับหญิงไทยชื่อนางนกเอี้ยงมีหลักฐานบันทึกว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเคยเป็นพ่อค้าเกวียนผู้ทรงปัญญาเฉลียวฉลาดและมีความสามารถด้าน กฎหมายเป็นพิเศษได้ช่วยกรมการเมืองชำระถ้อยความของราษฎรทางภาคเหนืออยู่เนืองๆ เนื่องจากได้ทำความดีมีความชอบต่อแผ่นดิน จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น เจ้าเมืองตากในเวลาต่อมา​

    [​IMG]ในปีพุทธศักราช 2308 - 2309 พระยาตากได้นำไพร่พลลงมาสมทบเพื่อป้องกันกรุงศรีอยุธยาระหว่าง ที่พม่าล้อมกรุงอยู่ได้ทำการต่อสู้จนเป็นที่เลื่องลือว่า เป็นแม่ทัพที่เข้มแข็งมากที่สุดคนหนึ่งและได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นพระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร ในวันที่ 4 มกราคมพุทธศักราช 2310 (ก่อนที่จะเสียกรุงศรีอยุธยา ให้แก่พม่าประมาณ3 เดือน)พระยาตากได้รวบรวมกำลังตีฝ่าวงล้อม ของพม่าไปตั้งมั่น เพื่อที่จะกลับมากู้เอกราชต่อไป

    [​IMG]จากหลักฐานตามพระราชพงศาวดารพระยาตากได้รวบรวมไพร่พลประมาณ 500 คน มุ่งไปทาง ฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกระหว่างเส้นทางที่ผ่านไปนั้นได้ปะทะกับกองกำลังของพม่าหลายครั้ง แต่ก็สามารถตีฝ่าไปได้ทุกครั้ง และสามารถรวบรวมไพร่พลตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ได้มากขึ้นเรื่อยๆในวันที่ 8 เมษายน พุทธศักราช 2310 พม่ายึดกรุงศรีอยุธยาได้เจ้าเมืองใหญ่ๆพากันตั้งตัวเป็นเจ้าและควบคุมหัวเมืองใกล้เคียง ไว้ในอำนาจหลังจากพระยาตากยึดเมืองจันทบุรีได้ ก็ได้ประกาศตั้งตัวเป็นอิสระและจัดตั้งกองทัพขึ้นที่นี่ โดยมีผู้คนสมัครใจเข้ามาร่วมด้วยเป็นจำนวนมากรวมทั้งนายสุดจินดาซึ่งต่อมาได้รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลที่หนึ่ง

    [​IMG]หลังฤดูมรสุมในเดือนตุลาคม พุทธศักราช 2310 พระยาตากได้ยกกองทัพเรือออกจากจันทบุรีล่องมา ตามฝั่งทะเลในอ่าวไทยจนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา และได้ต่อสู้จนยึดกรุงธนบุรีคืนจากพม่าได้ ต่อจากนั้นได้ยกกองทัพเรือต่อไปถึงกรุงศรีอยุธยา เข้าโจมตีค่ายโพธิ์สามต้น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2310 และสามารถกอบกู้เอกราชให้ชาติไทยได้เป็นผลสำเร็จโดยใช้เวลาเพียง 7 เดือนนับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยา ให้กับพม่า หลังจากนั้นได้ทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานี เนื่องจากทรงเห็นว่ามีชัยภูมิดี ประกอบกับกรุงศรีอยุธยาเสียหายหนัก จนยากแก่การบูรณะ ให้เหมือนเดิม ต่อมาในปีพุทธศักราช 2311 ได้ทรงปราบดา ภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนามว่า"สมเด็จพระบรมราชาที่ 4"แต่ประชาชนนิยมเรียกว่า"พระเจ้าตากสิน"ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีการทำศึกสงครามอยู่เกือบตลอดเวลาทั้งนี้เพื่อรวบรวมแผ่นดิน ให้เป็นปึกแผ่น และขับไล่พม่าออกจากราชอาณาจักรถึงแม้ว่าบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะสงครามเป็นส่วนใหญ่แต่สมเด็จพระเจ้าตากสินก็ยังทรงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประเทศในด้านต่างๆ เช่นด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจและสังคม ได้มีการติดต่อค้าขายกับประเทศต่างๆ เช่นจีน อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ ได้โปรดให้มีการ สร้างถนนและขุดคลองเพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคม นอกจากนั้นยังทรงส่งเสริมทางด้านการศาสนาศิลปวัฒนธรรมและวรรณกรรม รวมทั้งการศึกษาในด้านต่างๆของประชาชนอีกด้วย


    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    <TABLE cellSpacing=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD width=511 height=146>
    [​IMG]หลังจากครองราชย์ได้ประมาณ 15 ปีได้มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นเหตุให้รัชสมัยของพระองค์ต้อง สิ้นสุดลงสมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2325 ขณะที่มีพระชนมายุได้ 48 ปี ต่อจากนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์จักรีและได้ทรงย้ายราชธานีมาฝั่งกรุงเทพมหานคร

    [​IMG] เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินไทยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะได้ ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี (ซึ่งตรงกับวันที่ทรงปราบ ดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์) เป็น"วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน"นอกจากนั้นคณะรัฐมนตรียังมีมติให้ถวาย พระราชสมัญญานามว่า"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    ที่มา http://61.19.145.7/student/web42106/508/508-2852/hobby.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2005
  11. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ที่มา http://www.carabao.net/Song/songDetails.asp?songID=93
    ชื่อเพลง : เจ้าตาก โดยคาราบาว

    </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD>


    ยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ ความตั้งใจเด็ดเดี่ยว

    มื้อนี้เราจะเคี้ยวข้าว และทุบหม้อข้าว

    ตีแหกฝ่าวงล้อม ลุยพม่าข้าศึก

    นึกถึงความเป็นไทย ดีกว่าไปเป็นทาส

    สองมือถือดาบอย่างมั่นใจ

    นักรบไทยของพระเจ้าตาก

    ฝากฝังกรุงอยุธยา
    วันข้างหน้าข้าจะมาทวงคืนแผ่นดินไทยดาลเดือด

    ทัพข้าศึกรุมล้อม มัวแต่กล่อมสตรี เริงโลกีย์เป็นหลัก

    นักรบกลายเป็นศพ พบกับความปราชัย

    เจ้าตากทนไม่ได้ แผ่นดินไทยเป็นหลัก

    นักรบคือนักรบ นักสู้แห่งกรุงศรี

    ตีฝ่าทัพตองอู ตายหรืออยู่ไม่สําคัญ

    คืนนี้จันทร์หลับไหล แหกวงในวงล้อม

    อ้อมออกจากกรุงศรี ไปเข้าตีเมืองจันทน์

    ยึดเมืองจันทบุรี เป็นชุมนุมเจ้าตาก

    ตีชุมนุมต่างๆ ตีเจ้าฝางให้แตก

    ทบทวนความพ่ายแพ้ แก้ไขยุทธวิธี

    รวมชุมนุมที่มี ก่อนโจมตีเจ้าฝาง

    พ่ายแพ้เป็นบทเรียน ทําจากเล็กไปใหญ่

    เจ้าฝางชะล่าใจ ในไม่นานก็แตก

    จากอยุธยา มาเมืองจันทบุรี

    มากรุงธนบุรี ไทยจึงมีเอกราช

    จากอยุธยา มาเมืองจันทบุรี มากรุงธนบุรี ตากสินมหาราช
    </PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2005
  12. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    [​IMG]
    สุสานบรรจะฉลองพระองค์พระเจ้าตากสินที่เมืองซังเถา พระเจ้าตากสิน คือวีรบุรุษของชาติที่ประชาชนรู้จักดีพระองค์หนึ่ง จะเห็นได้ว่ามีอนุสาวรีย์ และศาลเทพารักษ์ที่อุทิศแด่พระองค์มากมาย พระองค์ทรงเป็นลูกครึ่งไทย-จีน กล่าวคือ มีพระราชบิดาเป็นจีนชื่อไหยฮอง มีพระราชมารดาเป็นไทยชื่อนกเอี้ยง และจะทราบต่อไปว่าจีนไหยฮอง มีพื้นเพเดิมอยู่แถบเมืองซัวเถา ในมณฑลกวางตุ้งเป็นจีนแต้จิ๋ว แซ่แต้ ซึ่ง แท้ที่จริงแล้วพระนามของพระราชบิดาพระเจ้าตากสินนั้นคือ แต้ย้งหรือต๋า และน่าจะมีบ้านเกิดอยู่ที่หมู่บ้านหัวฟู่ อำเภอเฉิ่งไห่ใกล้ๆ กับเมืองซัวเถา ด้วยพบหลักฐานสำคัญที่หมู่บ้านนั้น คือศาลประจำตระกูลแต้ และสุสาน บรรจุฉลองพระองค์ของ พระเจ้าตากสิน ซึ่งสุสานนี้ไม่ใช่สุสานฝังพระศพ พระเจ้าตากสินเป็นประเพณีปฏิบัติในหมู่ชาวจีน หากไม่มีศพก็ให้ฝังเสื้อผ้า แทน สุสานฉลองพระองค์อยู่ริมคูน้ำที่ล้อมรอบหมู่บ้าน สุสานหันหน้าไปยัง แม่น้ำหันเจียง ตัวสุสานเป็นเนินดินรูปครึ่งวงกลมก่ออิฐล้อมรอบมีบันได ทางขึ้นลดหลั่นเป็นระดับสองชั้น หน้าเนินหลุมดินมีแผ่นหินสลักอักษรจีน สามแถวปักประกาศไว้ เป็นประกาศที่แจ้งว่า สถานที่นี้คือสุสานบรรจุ ฉลองพระองค์พระเจ้าตากสินกษัตริย์สยาม ซึ่งเป็นสิ่งเตือนใจให้เรารำลึก ถึงวีรกรรมของพระองค์ ที่ได้ใช้พระปรีชาสามารถรวมแผ่นดินไทยให้เป็น ปึกแผ่นขึ้นใหม่ เป็นภารกิจยิ่งใหญ่ที่พวกเราคนไทยไม่ควร ลืมเลือนไม่ไกลกันนักยังใจกลางหมู่บ้าน เป็นที่ตั้งของศาลประจำตระกูลแต้ ซึ่งคงเป็นบ้านเดิมของพระราชบิดาแต้ย้ง ตัวศาลเป็นอาคารสามหลัง ชั้นเดียวสร้างติดกันก่อด้วยอิฐ หลังคาทรงเก๋งจีน ศาลแห่งนี้มีประตูเหล็ก โปร่งมีแผ่นหินสลักอักษรจีนค่อนข้างเลือนรางติดข้างประตูใจความว่า เป็นศาลประจำ ตระกูลแต้ สถาปนาในปีที่ ๑๑ แห่งศักราชสาธารณรัฐจีน (พ.ศ.๒๔๖๕) ซึ่งอยู่ในสภาพทรุดโทรม
    สถานที่สำคัญทั้ง ๒ แห่ง ที่หมู่บ้านหัวฟู่นี้ เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ อันมีความหมายต่อชาติไทย และเป็นหน้าที่ของคนไทย ที่จะต้องช่วยกัน ดูแลรักษาให้ดีกว่านี้ และให้คงอยู่สืบไป
    [​IMG]สุสานบรรจะฉลองพระองค์พระเจ้าตากสินที่เมืองซังเถา
     
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    อะไรที่โพสมานี้ก็ดูดีนะครับ
    แต่ที่ว่าท่านได้ถูกประหารที่ป้อมวิชัยประสิทธิเมื่อวันที่ 6เมษายน 2525 นั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมาก
    ในกลุ่มของลูกหลานบริวารพระเจ้าตากที่มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสมากมายในปัจจุบันไม่มีใครเชื่ออย่างนั้น เพราะท่านเองดำรงพระชนม์ชีพมาจนกระทั่ง 84 พรรษา ในเพศบรรพชิต โดยมีเรื่องเล่าในส่วนของบุญญาบารมีของท่านอีกมากมาย
    เรื่องนี้ไม่ขอตอบในเวปนี้แต่ท่านที่สนใจไปศึกษาได้จากผู้ที่อยู่ในสายของท่านได้ หรือจะลองไปติดตามที่ค่ายบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงตรามดูก็ได้ เพราะเป็น Unseen Thailand อีกแห่งหนึ่ง

    "ความจริงก็คือความจริง"
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ยังมีคนเข้าใจผิดมากมายจริงๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...