ตายแล้วไปดี ท่านชุมพล ศิลปอาชา

ด้วยศาสตร์แห่งการทำนายพุทธวงศ์ของสุวรรณโคมคำ
ได้ทราบด้วยการคำนวณ ว่าท่านตายแล้วไปดี
อนุโมทนาสาธุการ




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์



ช็อก! ชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 72 ปี จากภาวะหัวใจล้มเหลว



เมื่อวันที่ 21 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชุมพล ศิลปอาชา อายุ 72 ปี หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ที่ผ่านมา



ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2555 นายชุมพล ศิลปอาชา ได้หมดสติในทำเนียบรัฐบาล ทำให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา ต้องหามตัวนายชุมพลที่ไม่รู้สึกตัว หน้าซีด ตัวเหลือง ลงมาจากห้องทำงานชั้น 3 ตึกบัญชาการ ก่อนจะนำขึ้นรถโฟล์คตู้ประจำตำแหน่งสีขาว ทะเบียน ฮธ 7184 กทม. เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลมิชชั่น และพักรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวต่อไปยังห้องไอซียูที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และมาเสียชีวิตในที่สุด



ขณะที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการเสียชีวิตของ นายชุมพล ศิลปอาชา ว่า จากการที่ นายชุมพล วูบหมดสติที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้สมองขาดออกซิเจน นานกว่า 45 นาที ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ทัน การรักษาพยาบาลในสภาวะหัวใจล้มเหลวในวันนี้จึงเป็นเรื่องยาก ส่วนภายหลังจากนี้จะมีการหารือเตรียมเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมที่วัดเทพศิรินทร์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ คาดว่า จะสามารถทำพิธีรดน้ำศพได้ในวันพรุ่งนี้



ทั้งนี้ นายบรรหาร ได้กล่าวถึงตำแหน่งของพรรคที่ว่างลงว่า เป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคจะต้องหารือกันว่าจะมีใครเหมาะสม ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะให้รองหัวหน้าพรรครักษาการไปก่อน ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนตัวก็มีรายชื่อในใจอยู่แล้วและพร้อมที่จะตอบคำถามนายกรัฐมนตรีได้ในวันพรุ่งนี้ว่า จะให้ใครรับตำแหน่งแทน



ขณะที่มีรายงานด้วยว่า คณะรัฐมนตรีได้ขอเป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรมศพ นายชุมพล ศิลปอาชา ในวันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคมนี้ นอกจากนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพในวันอังคารที่ 22 มกราคม



สำหรับพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพนายชุมพล ศิลปอาชา นั้น จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 22 มกราคม เวลา 17.00 น. ที่ศาลา 1 วัดเทพศิรินทร์ โดยก่อนหน้านั้นจะมีพิธีเคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาลรามาธิบดีไปยังวัดเทพศิรินทร์ ในเวลา 13.00 น. และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ารดน้ำศพได้ในเวลา 14.00 น. จากนั้น จะมีการสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 22-30 มกราคม และหลังจากนั้นจะเก็บศพไว้ 100 วัน





ประวัติชุมพล ศิลปอาชา














สำหรับ นายชุมพล ศิลปอาชา นั้น เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2483 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของ นายเซ่งกิม และนางสายเอ็ง แซ่เบ๊ โดยเป็นน้องชายของ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทยสมรสกับ นางดวงมาลย์ ศิลปอาชา (สกุลเดิม เจียรสวัสดิ์วัฒนา) ผู้พิพากษาอาวุโส ศาลคดีเด็กสมุทรปราการ มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ นางสาวสลิลดา ศิลปอาชา และ นายรัฐพล ศิลปอาชา



ด้านการศึกษา นายชุมพล ศิลปอาชา จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร ก่อนจะคว้าปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาบริหารรัฐกิจ Syracuse University ที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสำเร็จการศึกษาได้กลับมารับราชการที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ก่อนจะลาออกไปเป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



ภายหลัง นายชุมพล ศิลปอาชา ตัดสินใจเข้าสู่สายงานการเมืองตามพี่ชาย โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรี ในสังกัดพรรคชาติไทย และได้รับเลือกตั้งตลอดมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2539 โดยในช่วงนั้น นายชุมพล ได้รับตำแหน่งสำคัญ ๆ ทางการเมืองมากมาย คือ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, รองประธานสภาผู้แทนราษฎร, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง



จากนั้น นายชุมพล ได้ผันตัวไปลงสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา และทำงานเป็นสมาชิกวุฒิสภาเรื่อยมา โดยไม่ค่อยมีบทบาทในสนามการเมืองให้เห็นเด่นชัดนัก กระทั่งในปี พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งให้ยุบพรรคชาติไทย และตัดสิทธิการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ทำให้ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่สามารถเล่นการเมืองได้ นายชุมพล ศิลปอาชา จึงได้กลับมารวบรวมสมาชิกพรรค และตั้งพรรคชาติไทยพัฒนาขึ้นแทน ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางสายการเมืองอีกครั้ง



ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 พรรคชาติไทยพัฒนา ภายใต้การนำของ นายชุมพล ศิลปอาชา ได้สนับสนุนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แทน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ นายชุมพล ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา



จากนั้น ในปี พ.ศ. 2554 มีการเลือกตั้งใหญ่เกิดขึ้น นายชุมพล ศิลปอาชา ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา และได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย พร้อมสนับสนุนให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นายชุมพล จึงได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านการท่องเที่ยว และการเกษตร พร้อมกับควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีกครั้ง



นายชุมพล ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์มาได้ปีเศษ ก็เกิดปัญหาทางสุขภาพขึ้น เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม โดยขณะที่นายชุมพลอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ได้เกิดช็อกหมดสติ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมิชชั่น ซึ่งอยู่ใกล้ทำเนียบรัฐบาลที่สุดทันที ก่อนจะถูกส่งต่อยังห้องปฏิบัติการหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลรามาธิบดี และพักรักษาตัวอยู่นานนับเดือนจนกระทั่งมาเสียชีวิตในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556 ในวัย 72 ปี

72 ปี 7 เดือน 15 วัน
ประวัติการทำงาน

ข้าราชการสำนักงาน ก.พ.

อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส.ส.สุพรรณบุรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2522, 2526, 2529, 2531, 2535/1, 2535/2, 2538, 2539


รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี


รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2524-2526 (สมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์)



รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พ.ศ. 2529-2531 และ 2535

ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2531-2534 และ พ.ศ. 2538-2539
ประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง พ.ศ. 2538-2539
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2540 (สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. 2551 (สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. 2554 (สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาประมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)

http://images.voicecdn.net/contents...=============================================

 

คุณความดีจารึกไว้บนแผ่นหิน
ตลอดสิ้นชีวาคนนับถือ
มองให้เห็นคุณค่าที่เป็นครู
มาเพื่อรู้รับโลกไม่โศกตรม

แสนสวาท
๑๑.๒๕ น. วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๖
ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๒

 

ขอแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของท่าน
ขอบุญกุศลที่ท่านได้กระทำเพื่อบ้านเมืองมาโดยตลอดนี้ จงนำท่านไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยตามกำลังบุญที่ท่านสะสมมาเทอญ

 

ผลกรรมกำลังไล่ล่า นักการเมืองชั่ว
ลงนรกกันเป็นแถวๆ คิวต่อไปอ้ายปื๊ดตายแน่ๆ...

 

ไม่ได้แช่งนะ ท่านสนั่นก็นอนรอมัจจุราชอยู่ ดึงสายยางเมื่อไหร่ท่านยมมารับดวงวิญญาณเมื่อนั้น สัตว์โลก เมื่อเกิด แล้ว ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ตามกฏธรรมชาติ แต่ระหว่างที่ตั้งอยู่ ทำดี หรือ ทำชั่วล่ะ เพราะ สิ่งนี้เท่านั้น ที่จะติดตามไป ทุกภพทุกชาติ

 

เห็นด้วยกับพี่นิพพาน กรรมที่ทำไม่ดีกับชาติมันสาหัสนัก

 

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นท่านก็รับไป
ไม่ว่ากรรมดี หรือ กรรมชั่ว นะครับ

 

นั้นซิค่ะกรรมใด ใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง

 

เขียนมาเป็นธรรมะให้สังเกตุ
ธรรมเป็นเหตุมาจากไหน ใคร่ครวญที่
พฤติกรรมปรากฏชัด ความต่างมี
มาจากที่ แดนไหน ใครรู้ตน
...เราเรียนรู้ความเหมือนและความต่าง
อยู่กันอย่าง เกื้อจิต แบ่งกุศล
เพราะรู้เหตุ รู้ที่ไป เพราะรู้ตน
สำเร็จผล เมื่อกาลดับ ลับได้ดี

แสนสวาท
๒๒.๐๖น.วันพุธที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๖
ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๒

 

...ไม่นานนักเราจะตายเป็นแน่แท้
กรรมไม่แน่อาจเข้ามา...กันเป็นสาย
เพิ่มกุศลบารมีธรรม เพื่อจะคลาย
ให้ทุกข์โศกโรคร้ายแปรเป็นธรรม

...เราจะครองสติได้หมั่นหรือไม่หนอ
หากได้ก่อกรรมวิบัติข้องขัดนั่น
จะเอาอะไรมาเสริมบารมีธรรม
จุติพลันเกิดในภพแห่งองค์ฌาน

...สติรู้หรือจะเอาดวงกสิณ
จิตจะนิ่ง ธาตุหวั่นไหว หากใครถาม
ใกล้จะตาย จะทำอย่าง ผู้มีฌาน
หรือดับกาล ไม่กลับ ลับโลกไป

...มาเถิดมา....เพื่อนพ้อง เพื่อนน้องพี่
เพิ่มกุศลบารมี แลองค์สาม
เรามาฝึก...กสิณก่อนได้องค์ฌาน
หากดับกาล สิ้นภพ จบเป็นพรหม

...มาบอกเรื่องการดับยากเป็นเหตุ
สมกับเจตนา เรื่องมรรคผล
ยากเหลือเกินจะทำจิตของตน
ให้เพิ่มล้นกุศล แห่งบุญทาน

...ยี่สิบเจ็ด คือวันแห่งกสิณ
ชวนนั่งนิ่ง เดินจงกรม เจริญกรรมฐาน
ไม่เแน่นัก ใกล้นี้ท่าน อาจได้ฌาน
เป็นครุกรรม กสิณกรรมฐานเป็นเหตุบุญ

...แล้วเปรียบเทียบ ดวงชาตา ธาตุกำเนิด
เพื่อให้เกิดบารมีกุศลใหญ่
ใช้หนึ่งวัน ร่วมทำกิจ ร่วมกันไกล
เรียนรู้ใช่เรื่องยาก อย่าพลาดวันอาทิตย์นี้ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖ นี้เทอญ....

ลงทะเบียนเรียนกสิณกรรมฐานที่นี่

โทรสอบถาม 026812524 (14.00-19.00น.) หรือ 08-9215-0588

 

อยากแก้รธน.ดีนัก ตายไปน่ะดีแล้ว หนักแผ่นดิน

 

ดีหรือชั่ว ตัวเรา รู้ให้หมด
กรรมกำหนด วิบากกรรม แต่ครั้งไหน
เกิดมาแล้ว ทุกข์ยาก มากเท่าใด
ควรที่ใจ จะเพ่งพิจ พินิจตน
จะอย่างไร เราทำดี ความดีตอบ
จะอย่างไร เราเคยชอบ บอกสักหน
ว่าเห็นกรรม ถนัดชัด ตนบอกตน
เพราะคิดพ้น บ่วงแต่หน นานผ่านมา
บอกเท่าไร จึงจะรู้ กรรมไม่หมด
เพราะใจจด จ่อเรื่อง ที่มุสา
เพราะเวียนวน ก่อกรรมใหม่ไม่นำพา
จะเดินวน ซ้ายขวา ท่าเหมือนเดิม
...
เกิดอีกที จุติใหม่ ก็เหมือนเก่า
เรื่องเดิมเน่า ใหม่ก็เน่า เฒ่าหลงเหลิง
เพราะคิดว่า ตนดีแล้ว ก็หลงเพลิน
ทำเป็นเมิน ไม่ยอมเปลี่ยน เพี้ยนเท่ากัน

แสนสวาท
๒๒.๓๒ น. วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖ แรม ๑ ค่ำ