ตำนานส้มตำ & มะละกอ

ตำนานส้มตำ & มะละกอ


<DD>หมากหุ่ง บักก้วยเต๊ด ลอกอ จะเรียกสำเนียงไหนก็หมายถึง มะละกอ ที่เราคุ้นปากกันนั่นแหล่ะ มะละกอถือเป็นผลไม้ยอดฮิตของคนไทยอย่างหนึ่งเลย เพราะมันมีประโยชน์สารพัดสารเพ แล้วก็เอาไปแปลงร่างเป็นอาหารได้อีกเพียบ โดยเฉพาะ ส้มตำ เมนูสุดฮิต

<DD>ที่ส้มตำแพร่หลายขนาดนี้ก็เพราะไม่ว่าจะอพยพไปไหนชาวอีสานก็ไม่เค้ย...ไม่เคยทิ้งข้าวเหนียว ปลาร้าและส้มตำเลย เราก็เลยมีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติเด็ดของส้มตำกันอย่างถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่ในวัง เชื่อกันว่าส้มตำได้เข้าวังครั้งแรกในสมัยของ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง คนที่เอาเข้าไปก็คือ คนที่ตามเสด็จแล้วได้ลิ้มลองส้มตำจนติดใจ เลยเอาสูตรกลับเข้าวัง แล้วจัดการปรับปรุงอย่างประณีตสมกับเป็นอาหารชาววังซะเลย

<DD>แล้วส้มตำก็เริ่มแตกหน่อออกมาอีกเพียบ ทั้งส้มตำปลาร้า ตำปู ตำไทย ตำไทยใส่ปู ตำปูปลาร้า ตำปลาร้าและตำปูม้า-ปูทะเล จนถึงปัจจุบันนี้ไงล่ะ

<DD>แต่ไม่ว่าจะชอบทานส้มตำแบบไหนก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้น เพราะมะละกอมีประโยชน์ตั้งแต่ต้นยันปลายใบเลยล่ะ เริ่มจากยางดิบใช้ทาแก้พิษตะขาบ ใบมะละกอสดใช้พอกแผลรักษาได้ทั้งแผลสด แผลเปื่อยและแมลงสัตว์กัดต่อย เอาใบไปย่างไฟใช้ประคบรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือจะเอาใบไปต้มแล้วดื่มเพื่อขับปัสสาวะก็ได้

<DD>ยังนะ ยังไม่หมด รากยังใช้ต้มดื่มขับประจำเดือน เมล็ดก็ใช้ต้มดื่มขับพยาธิ น้ำที่คั้นจากผลดิบก็ยังบำรุงน้ำนมสำหรับแม่ลูกอ่อนได้ ส่วนเนื้อมะละกอสุกที่ทานกันบ่อยๆ บำรุงสุขภาพภายในและช่วยบำรุงให้ผิวสดใสได้ด้วย และที่เด็ดสุดตรงยอดอ่อนและเนื้อมะกอทั้งดิบและสุกนั้น ยังมีสารเบต้าแคโรทีนที่ต่อต้านตัวก่อมะเร็งได้อย่างเยี่ยมยอดอีกด้วยนะ

<DD>แหม....ทั้งอร่อยทั้งประโยชน์ท่วมท้นขนาดนี้ อย่างนี้ไม่รัก มะละกอ ไม่ได้แล้วล่ะ ไม่งั้นจะมีคำกล่าวที่ว่า "ถ้ามาเมืองไทยแล้วไม่ได้ทานส้มตำ ก็เหมือนมาเมืองไทยแต่ไม่ได้ไปวัดพระแก้ว" เหรอ

<DD>รู้อย่างนี้แล้ว...อาหารเย็นวันนี้ส้มตำจะไปไหนเสีย งั้นมาดูสูตร ส้มตำไทย กันเลยดีกว่าจ้า (bb-flower </FONT></DD>