ตำนานหอกศักดิ์สิทธิ์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย แจ๊กซ์69, 6 มิถุนายน 2012.

  1. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,145
    ค่าพลัง:
    +1,960
    หอกศักดิ์สิทธิ์
    [​IMG]

    หอก แห่งลองกินุส (Lance of Longinus, Spear of Longinus) คือ หอกที่ใช้แทงพระเยซูคริสต์ หลายคนอาจจะคิดว่าหอกเล่มนี้เป็นหอกที่ใช้สังหารพระเจ้า แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริง ของการแทงด้วยหอกคือ เพื่อตรวจสอบว่า พระเยซูได้สิ้นพระชนม์แล้วหรือยัง(แน่นอนถ้ายังไม่สิ้นพระชนม์จะต้องมีปฏิ กริยาโต้ตอบของร่างกายแน่นอน)

    รายละเอียด

    <hr>
    • หอก ลองกินุส เป็นที่รู้จักกันอีกในหลากหลายฉายานาม ดังนี้ หอกแห่งโชคชะตา (Spear of Destiny) , หอกศักดิ์สิทธิ์ (Holy Lance, Holy Spear) หอกแห่งพระคริสต์ (Spear of Christ)
    • หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมในภาษา อังกฤษ จึงมีการใช้คำว่า Lance สลับไปมากับคำว่า Spear โดยทั้งสองคำมีความหมายถึง หอก ในภาษาไทยทั้งคู่ แต่คำว่า Lance นั้นมาจากคำว่า longche(ภาษากรีก แปลว่า หอก) คำนี้มีการกล่าวถึงในพระวรสารนักบุญยอห์น(Gospel of John)
    • ลองกินุส นั้นเป็น คาดว่าเป็นชื่อของ ทหารที่ใช้ หอกเล่มนี้แทงพระเยซู ชื่อ ลองกินุสนี้ไม่มีการกล่าวถึงใน พระวรสารนักบุญยอห์น แต่มีชื่อทหารโรมันนายนี้ปรากฏในพระวรสารฉบับของ นักบุญNicodemus หรือบันทึก(manuscripts)ในศตวรรษที่4ของPilate ในชื่อ ลองกินุส(Logginus หรือ Longinus)
    • มีหอกมากมายหลายเล่มที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็น หอกศักดิ์สิทธิ์ลองกินุส แต่มีเพียง 3 เล่มเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดว่าคือ หอกลองกินุส เล่มจริง คือ เล่มแรกคือหอกวาติกันลองกินุส(Vatican lance) , เล่มที่สองคือEchmiadzin lance เล่มสุดท้ายคือหอกเวียนนาลองกินุส(Vienna Lance) แต่ละเล่มล้วนมีตำนานอันยาวนาน
    รายละเอียดเกี่ยวกับ หอกเวีนยนาลองกินุส
    <hr>หนึ่ง ในหอกลองกินุสที่งดงามที่สุด มีประวัติ และตกทอดสู่เหล่าบุคคลที่ยิ่งใหญ่มากมายหลายยุคหลายสมัย นั้นไม่มีเล่นไหนเกิน หอกเวีนยนาลองกินุส
    [​IMG]
    ปฐม บทแห่งตำนาน เริ่มเมื่อ ค.ศ.33 เมื่อพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน และถูกนายทหารโรมัน แทงด้วยหอกเพื่อตรวจสอบว่า พระองค์สิ้นพระชนม์แล้วหรือยัง?

    [​IMG]
    ย่าง เข้าสู่ ค.ศ.287 นายทหารโรมันชาวอียิปเชี่ยน นามว่ามอริเชียส(Mauritius) ได้ค้นพบหอกลองกินุสติดในอียิปต์ มอริเชียสเป็นผู้นำกองทัพชาวอียิปต์ 6,666(บางที่ใช้ตัวเลข 6600 คน) ทุกคนล้วนนับที่คริสตศาสนา ต่อมา เขาได้กลายเป็น เซนต์มอริเชียส เนื่องจากขัดพระบัญชากษัตริย์ Maximian ในการเข่นฆ่าชาวคริสต์ และเป็นที่เคารพนับถือของชาวคริสต์ ทำให้ มอริเชียส ถูกประหารชีวิต

    [​IMG]
    ใน ช่วง ค.ศ.312 พระเจ้าคอนสแตนตินมหาราช กษัติรย์โรมันผู้นับถือคริสตศาสนา ที่เชื่อว่าพระองค์ได้รับการช่วยเหลือจาก หอกลองกินุส ในการประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาิติโรมัน พระองค์จึงทำการแทรก ตะปูศักดิ์สิทธิ์(ตะปูที่ใช้ตรึงกางเขนพระเยซู) ลงไปบนใบดอกลองกินุส

    [​IMG]
    ใน ช่วง ค.ศ.800 พระเจ้าชาร์ลมาญมหาราช(Emperor Charlemagne) กษัตริย์นักรบอันเกรียงไกร ผู้มีตำนานไร้พ่ายจนสามารถรวบรวมดินแดนแดนที่ปัจจุบันเป็น เยอรมัน ฝรั่งเศลไว้ได้เกือบทั้งหมด และเป็นผู้ก่อตั้ง อาณาจักรโรมันศักดิ์สิทธิ์ ตำนานกล่าวไว้ว่าพระองค์เชื่อว่า หอกศักดิ์สิทธิ์ได้ประทานพลังอำนาจให้แด่พระองค์ พระองค์ทรงเก็บรักษาหอกไว้กับตัวเสมอ และพระองค์ก็สิ้นพระชนม์เนื่องจากทำหอกตกจากมือจึงเสียชีวิตในการรบ พระองค์เป็นผู้เสริมปีกหอก ให้ แด่หอกศักดิ์สิทธิ์

    [​IMG]
    ใน ปีช่วง ค.ศ.1046 พระเจ้าเฮนรี่ที่3มหาราช ผู้สืบเชื้อสายมาจาก ชาร์ลมาญ พระเจ้าเฮนรี่ได้ทำการหุ้มหอกด้วยแผ่นเงิน เนื่องจาก หอกลองกินุสเกิดหัก(คาดว่าเป็นผลจากความพยายามจะ ฝัง ตะปูศักดิ์สิทธิ์ดอกที่ 2 ลงไปในหอก)

    [​IMG]
    ใน ช่วง ค.ศ.ที่ 1350 ในยุคสมัยของพระเจ้าชาร์ลที่4 พระองค์ได้สร้างปราสาท Karlstejn ในกรุง ปราก(Prague) เพื่อเป็นที่เก็บรักษา หอกลองกินุส และทรงหุ้มหอกลองกินุสใหม่ด้วยทองคำ

    [​IMG]
    ใน ช่วง ค.ศ.1400 ผู้สืบเชื้อสายจากพระเจ้าเฮนรี่ที่4 ได้ขายหอกศักดิ์สิทธิ์ ให้แก่สภาเมืองนูเรมเบิร์ก(Nuremberg town council) หอกศักดิ์สิทธิ์ถูกเก็บรักษาไว้ในหีบเงิน และถูกลืมเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์เกือบ 400 ปี

    [​IMG]
    ต่อ มาในช่วงปี ค.ศ.1796 นโปเลียน โบนาปาร์ต(Napoléon Bonaparte) ผู้เกือบจะได้เป็นเจ้าโลก ก็หวังในพลังอำนาจของ หอกลองกินุส ได้ปิดล้อมเมืองนูเรมเบิร์ก ทำการข่มขู่เหล่าสมาชิกสภาเมืองให้เปิดเผยที่ซ่อนและส่งมอบหอกให้แก่ตนเอง หอกลองกินุสจึงถูกนำไปซ่อนยังกรุงเวียนนา ให้พ้นจากเงื้อมือของนโปเลียน

    [​IMG]
    ใน ช่วงปี ค.ศ.1938 เมื่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์(Adolph Hitler) ยึดประเทศออสเตรียได้ ฮิตเลอร์ได้ยึดเอา หอกลองกินุส และนำกลับไปยังเมืองนูเรมเบิร์ก ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของ หอกลองกินุสเกือบ 400 ปี อีกครั้ง
    มีการกล่าวอ้างถึงขั้นว่า ฮิตเลอร์เก็บหอกลองกินุสไว้ใต้ที่นอนเพื่อเวลานอนจะได้ ดูดซับพลังอำนาจเข้าสู่ตนเอง

    [​IMG]
    ใน ช่วงปี ค.ศ. 1945 เมือเยอรมันแพ้สงคราม นายพล George S. Patton ค้นพบ หอกลองกินุสในบังเกอร์ใต้ดิน ใต้ปราสาทนูเรมเบิร์ก เขาจึงนำหอกลองกินุสกลับไปยัง ออสเตรีย และเก็บรักษาไว้พิพิธภัณฑ์ Schatzkammer จวบจนปัจจุบัน

    รูปภาพจาก National Geographic Channel

    คลังภาพ หอกลองกินุส
    <hr>
    [​IMG]
    เล่มนี้ คือ Echmiadzin lance

    [​IMG]
    เล่มนี้คือ หอกเวียนนาลองกินุส
    ข้อมูลอ้างอิง
    <hr>
     
  2. ต้อครับ

    ต้อครับ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอขอบคุณครับ
     
  3. Pubeth

    Pubeth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +605
    โอ้คุณแจ๊คหายไปนานเลยครับ
    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
     
  4. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    สิ่งศักดิ์สิทธ์ของศาสนาคริสต์มีเรื่องราวที่ลึกลับ น่าตื่นเต้น ชวนติดตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหอกศักดิ์สิทธ์ จอกศักดิ์สิืทธ์ Holy glass หีบพระบัญญัติ ผ้าห่อพระศพ

    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ แบบนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2014
  5. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ของเก๊ทั้งนั้น ของจริงจะไปหักง่ายๆแบบนั้นรึ ไม่มีรัศมีหรือรังสีแห่งความHolyเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังซ่อมได้ทุเรศมาก

    ของจริงต้องส่องแสงสว่างจ้า เป็นแสงแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขับไล่ความมืดและสิ่งชั่วร้าย ภูติผีปีศาจร้ายทั้งหลายแค่เจอแสงจากหอกHolyก็เผ่นแนบแล้ว เพราะพวกมันจะร้อนเหมือนโดนไฟเผา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2014
  6. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    อยากรู้เรื่องจอกสักดิสิทธิ์น่ะครับ รู้สึกจะมีที่มาจาก Arthurian's Legend
    มีใครพอจะมีข้อมูลทางนี้ไหมครับ ตำนานอาเธอร์แปลไทยก็มีน้อย และจะเป็นวรรณกรรมเสียส่วนใหญ่
     
  7. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    จอกศักดิ์สิทธิ์มี 2 ตำนาน
    ตำนานแรกบอกว่าเป็นแก้วไวน์ที่พระเยซูใช้ดื่มในอาหารมื้อสุดท้าย
    ตำนานที่สองบอกว่าเป็นแก้วที่ใช้รองรับพระโลหิตของพระเยซูขณะที่ถูกแทงด้วยหอก(ต่อมาหอกนั้นก็กลายเป็นหอกHoly)

    ในตำนานกล่าวไว้ว่า จอกศักดิ์สิทธิ์ มีความวิเศษคือ ถ้าหากผู้ใดได้ดื่มไวน์หรือน้ำองุ่น จากจอกศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ(แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นคนที่ยังพรหมจรรย์อยู่ ไม่เคยเรื่องอย่างว่า)

    ถ้าผู้ใดดื่มน้ำสะอาดบริสุทธิ์จากจอกศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง (อันนี้ไม่มีข้อจำกัด รักษาได้ทุกคน มั้ง)

    ใครอยากเห็นหอกHoly หรือ อยากดื่มน้ำจากจอกศักดิ์สิทธิ์ ก็ตามหาท่านกาลาฮัดให้เจอละกัน คาดว่าตอนนี้ท่านทำงานให้ศาสนจักร อยู่สำนักงานใหญ่วาติกัน ล่ะมั้ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...