ติดตามกิจกรรมพระกรรมฐาน

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 2 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    มีเรื่องที่ผมเป็นห่วงอยู่อย่างหนึ่งและค่อนข้างสวนกระแส ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ คือเรื่องพระมีเครื่องบินเพื่อใช้โปรดญาติโยม ผมเห็นว่าในโลกยุคโลกาภิวัฒน์(ผมหมายตามตัวอักษรวัฒนา ไม่เอาอภิวัตน์) การเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีโอกาสมากขึ้นในการโปรดญาติโยมในโลกที่แคบลงด้วยการคมนาคมและการสื่อสารโทรคมนาคม
    การที่พระสงฆ์จะมีเครื่องอำนวยความสะดวกอาศัยฤทธิ์การประดิษฐ์ของมนุษย์ปัจจุบันในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นกระจายไปทั่วโลกเป็นเรื่องที่ควรจะทำได้ตามขอบเขตของพระธรรมวินัย โดยเฉพาะเมื่อญาติโยมมีกำลังศรัทธาเพียงพอ พระภิกษุสงฆ์จะได้มีโอกาสความเป็นไปได้มากขึ้น ในการอนุเคราะห์ญาติโยม ตามสมควรแห่งธรรม
    หากทำความเข้าใจแก่ญาติโยมที่เข้าใจผิดให้ดี โลกวัชชะข้อนี้ก็หายไปได้ เป็นโอกาสให้ครูบาอาจารย์ในคณะสงฆ์ มีโอกาสสะดวกในการเผยแผ่ธรรมะได้สะดวกมากขึ้นต่อไป

    ส่วนข้อกล่าวโจทย์ข้ออื่นผมไม่มีข้อมูลเพียงพอ จึงยังขออนุญาตไม่กล่าวถึงในที่นี้ครับ ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยอีกครั้งครับ


    http://palungjit.org/threads/มุ่งเต...วยให้ผู้อื่นได้ด้วย.276215/page-3#post8020337
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    https://www.facebook.com/photo.php?...89591331.54695.238296179593402&type=1&theater

    ขอเชิญร่วมงานเจริญอายุวัฒนมงคล ๖๙ ปี ในปี ๒๕๕๖
    หลวงพ่อวิชัย เขมิโย ณ โรงเรียนถนอมบุตร

    ด้วยระยะทางที่ไกลและประกอบกับศิษย์กรุงเทพฯไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานฉลองอายุวัฒนมงคลของท่าน ณ วัดถ้ำผาจม จ.เชียงรายได้ ดังนั้นคณะศิษย์หลวงพ่อวิชัย เขมิโย ได้จัดมุทิตาสักการะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเนื่องในโอกาสงานเจริญอายุวัฒนมงคล ๖๙ ปี ในปี ๒๕๕๖ นี้ ณ โรงเรียนถนอมบุตร

    ในวันอาทิตย์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ บริเวณห้องศูนย์อนุรักษ์เครื่องปั้นดินเผาโบราณโรงเรียนถนอมบุตร เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๔.๓๐ น.

    โรงเรียนถนอมบุตร ตั้งอยู่ที่ 1/1 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 โทร 02-374-3999
     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    สมเด็จองค์ปฐมที่จะทำการเททองหล่อวันที่20ก.ค.56ที่วัดปานจัยนาราม ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ยังไม่ได้ใส่ซุ้มเรือนแก้ว ร่วมเดินทางและร่วมอนุโมทนาบุญได้ที่ 0863046948 คุณสมเกียรติ
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    คุณกุศลมงคล สุวรรณกูฏ ช่วยติชมแบบสมเด็จองค์ปฐมที่จะใช้หล่อวันที่ 20 ก.ค.56 ที่วัดปานจัยนาราม อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    [​IMG]

    1 แผ่นทองบูชาแด่คุณแม่พ่อ
    1 แผ่นทองหล่อเครื่องทรงองค์ปฐม
    1 แผ่นทองบูชาคุณพระโคดม
    1 แผ่นทองบูชาบรมราชจักรี
    เชิญบูชาแผ่นทองหล่อพระประธานสมเด็จองค์ปฐม พระปางนาคปรก ถวายเทียนพรรษา108วัด 20ก.ค.56 ติดต่อสอบถาม 086-303-6948 ( สมเกียรติ ดนัยสร)
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    ช่วงนี้ คนที่ไม่รู้จักพระพุทธศาสนาดีเพียงพอ เห็นเรื่องราวในศาสนาพุทธขัดกับใจ ขัดกับความไม่รู้ ขัดกับกิเลสตัวเองหรือหมู่คณะของตัว ใช้วาจาประมาทล่วงเกินไปทั่ว รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ๆดูแลพระพุทธศาสนา และสงฆ์
    น่าเป็นห่วงที่พวกนี้จะทำให้ผู้คนอื่นๆเข้าใจพระพุทธศาสนาผิดไปจากความเป็นจริง ไปจากพระธรรมวินัย ซึ่งจะเป็นกรรมต่อพวกเขาได้โดยไม่รู้ตัว

    ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลพระพุทธศาสนา ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาโดยไร้อคติทั้ง4 ปราศจากความสุดโต่งเข้าใจผิดของผู้ที่ยังเพิ่งเรียนรู้ หรือไม่เข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง

    และขอให้เพื่อนๆศึกษาพระธรรมให้ลึกซึ้งละเอียดอย่าเป็นเครื่องมือของพวกนี้เผยแพร่หรือเข้าใจพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านผิดไปจากความเป็นจริงโดยดีงามครับ

    สำหรับผมแล้ว นับวันผมก็จะเห็นความงดงาม ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย ความละเอียดปราณีต ตรงต่อความเป็นจริงของศาสนาพุทธ แม้ในขณะที่เกิดเรื่องราวที่ดูเผินๆแล้วอาจไม่เป็นที่ชอบใจ แต่รสและความงดงามอันวิจิตรของพระธรรม ก็ทำลายวจีกรรมของผู้ประมาทพระพุทธศาสนาได้ในที่สุด ต่อบัณฑิต และศรัทธาพุทธศาสนิกชนผู้ยังมั่นคงเรียนรู้อยู่ไม่ลดละโดยดีงามครับ
    ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ
    .
     
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    โอวาทครั้งสุดท้าย โดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ

    "..ผู้ถือไม่มีบาป ไม่มีบุญ ก็มากมายเข้าแล้ว แผ่นดินนับวันแคบ มนุษย์แม้จะถึงตาย ก็นับวันมากขึ้น นโยบายในทางโลกีย์ใดๆ ก็นับวันประชันขันแข่งกันขึ้น พวกเราจะปฏิบัติลำบากในอนาคต เพราะเนื่องด้วยที่อยู่ไม่เหมาะสม เป็นไร่เป็นนา จะไม่วิเวกวังเวง

    ศาสนาทางมิจฉาทิฐิ ก็นับวันจะแสดงปาฏิหาริย์ คนที่โง่เขลาก็จะถูกจูงไปอย่างโคและกระบือ ผู้ที่ฉลาดก็เหลือน้อย

    ฉะนั้นพวกเราทั้งหลายจงรีบเร่งปฏิบัติธรรม ให้สมควรแก่ธรรม ดังไฟที่กำลังไหม้เรือน จงรีบดับเร็วพลันเถิด ให้จิตใจเบื่อหน่ายคลายเมาวัฏสงสาร ทั้งโลกภายในหนังหุ้มอยู่โดยรอบ ทั้งโลกภายนอกที่รวมเป็นสังขารโลก ให้ยกดาบเล่มคมเข้าสู้ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาติดต่ออยู่ไม่มีกลางวันกลางคืนเถิด

    ความเบื่อหน่ายคลายเมาไม่ต้องประสงค์ ก็จะต้องได้รับแบบเย็นๆ และแยบคายด้วย จะเป็นสัมมาวิมุตติ และสัมมาญาณะอันถ่องแท้ ไม่ต้องสงสัยดอก

    พระธรรมเหล่านี้ไม่ล่วงไปไหน มีอยู่ ทรงอยู่ในปัจจุบัน จิตในปัจจุบัน ที่เธอทั้งหลายตั้งอยู่ หน้าสติ หน้าปัญญา อยู่ด้วยกัน กลมกลืนในขณะเดียวนั้นแหละ.."

    โอวาทครั้งสุดท้ายของอาจารย์มั่น
    (บันทึกโดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต)
    จากหนังสือ “เพชรน้ำหนึ่ง

    เครือข่ายกลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    "ควรระลึกถึงป่าช้าคือความตายบ้าง เพราะกรรมกับป่าช้าอยู่อยู่ด้วยกัน ถ้าระลึกถึงป่าช้า ในขณะเดียวกันได้ระลึกถึงกรรมด้วย อย่าอวดตัวว่าเก่งทั้งๆที่ไม่เหนืออำนาจของกรรม ไม่ควรอวดตัวว่าเก่งกว่าศาสดา สุดท้ายก็จนมุมของกรรม คือความเก่งของตัว"

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    สาธุๆๆ อนุโมทามิ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    จิตเป็นของอันเดียวไม่ใช่ของมาก
    เรามาอบรมภาวนา ก็คือเราต้องการเข้าถึงจิตอันเดียว
    คือเข้าถึงจิตเดิมนั่นเอง จิตเป็นของที่เร็วที่สุดตามไม่ทัน

    ที่ว่าจิตมากเพราะไปวิ่งตามมัน
    เหมือนกับเงา ถ้าไปวิ่งมันวิ่งด้วย
    ถ้าหยุดแล้วมันก็หยุดด้วยเรา

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี..

    สาธุๆๆ อนุโมทามิ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    <<<การปล่อยวาง>>>

    โยม : ไม้อันที่อาตมาถืออยู่นี่นะ มันสั้น หรือว่า มันยาว?

    โยม :ไม้อันนี้ธรรมชาติแท้ ๆ ของมันมีแค่นี้ เท่านี้ ... มันไม่สั้น และก็ไม่ยาว

    โยม ความต้องการที่จะให้ไม้นี้มันสั้นเข้า หรือยาวออก นั่นแหละ "ทุกข์"
    ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเรายอมตามธรรมชาติที่มันเป็นอยู่ ยอมที่ไหน ทุกข์ก็ไม่เกิดที่นั่น

    สมมุติว่าวันนี้ โยมหาเงินได้ ๑๐๐ บาท ธรรมชาติของมันแค่ ๑๐๐ บาท
    จะอยากให้ได้มากกว่านั้น...ก็ไม่ได้
    จะอยากให้ได้น้อยกว่านั้น...ก็ไม่ได้
    หาได้ ๕๐ บาท ธรรมชาติของเขาก็แค่นั้น
    หาไม่ได้เลย ธรรมชาติของมันก็เท่ากับหาไม่ได้เลย
    ยอมตามธรรมชาติที่มันเป็นทุกอย่าง ทุกแห่ง ทุกข์ก็ไม่เกิด

    ธรรมะอย่างนี้ปฏิบัติที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้
    ใคร ๆ ก็ปฏิบัติได้ ปฏิบัติเมื่อไหร่ ที่ไหน...ทุกข์ก็ไม่เกิดเมื่อนั้น ที่นั่น

    โยม : อีกอย่างหนึ่ง สมมุติว่าถ้าเราจะปลูกต้นไม้
    อันดับแรก เราต้องเตรียมดินให้ดี ขุดหลุมกว้างเมตร ลึกเมตร
    คลุกดินด้วยปุ๋ยคอกอย่างดี แล้วจึงปลูกต้นไม้ลงไป
    เมื่อปลูกแล้ว เราต้องคอยดูแล โดยหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ดายหญ้า และล้อมรั้วกันอันตรายให้

    หน้าที่ของเรามีเพียงแค่นี้ ทำให้ครบ ทำให้ดีที่สุด
    ส่วนผลที่ต้นไม้จะให้นั้น บางชนิด ๑ ปีให้ผล
    บางชนิด ๓ ปี ๕ ปี ๑๐ ปี
    นั่นเป็นเรื่องของเขา เป็นเรื่องของต้นไม้เขาเอง

    โยม : อย่าลืมนะ หน้าที่ของเรานั้น
    ทำเหตุให้ดีที่สุดเท่านั้น ส่วนผลที่จะได้รับเป็นเรื่องของเขา
    ถ้าเราดำเนินชีวิต โดยมีการปล่อยวางเช่นนี้แล้ว ทุกข์ก็ไม่รุมล้อมเรา

    ธรรมะอย่างนี้...ใคร ๆ ก็ปฏิบัติได้
    ปฏิบัติที่ไหนก็ได้ ปฏิบัติเมื่อไรก็ได้

    คำสอน...หลวงพ่อชา สุภัทโท
    วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

    สาธุๆๆ อนุโมทามิ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ
     
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ประชาสัมพันธ์ข่าวพิธีสมโภชยอดฉัตรทองคำมหาเจดีย์พุทธคยา
    สำหรับผู้สนใจที่จะได้อนุโมทนาสาธุการกับยอดฉัตรอย่างใกล้ชิด
    ก่อนที่จะนำไปประดิษฐานจริงบนมหาเจดีย์ที่ความสูง 53 เมตร
    เชิญร่วมงานได้ ในวันที่ 29 ส.ค.-1ก.ย.นี้ 09:00-20:00 น.
    ณ อาคารใหม่สวนอัมพร กรุงเทพมหานคร

    สาธุๆๆ อนุโมทามิ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ
     
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    เป็นครูสอนคนอื่นก็ดีอยู่
    หากสอนตัวเองด้วยก็จะดีมากขึ้น
    เราตรวจคะแนนให้คนอื่น ข้อนี้ถูก ข้อนั้นผิด
    เราเคยตรวจดูตัวเองบ้างหรือเปล่า?

    วันเวลาผ่านไปตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
    คะแนนฝ่ายดีกับคะแนนฝ่ายชั่วนั้น
    ข้างไหนมันมากน้อยกว่ากัน

    กลับไปตรวจตัวเองเด้อ
    ศีลมีมากมายหลายข้อ
    ไม่ต้องรักษาหมดทุกข้อดอก
    รักษาแต่ใจของเจ้าให้ดีอย่างเดียว
    กาย วาจา ก็จะดีไปด้วยนั่นแหล่ะ

    หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต
     
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467


    การทำบุญด้วยการไหว้พระพุทธรูปด้วยจิตศรัทธา

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการไหว้พระพุทธรูปด้วยจิตที่ศรัทธานั้นจะได้รับอานิสงส์ คือ อานิสงส์นี้จะไปเสริมดวงให้เป็นที่เคารพนับถือ
    ชีวิตครอบครัวก็จะสุขสบาย เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและน่าสรรเสริญ ปราศจากศัตรูที่คิดร้าย คนคิดร้ายก็จะสำนึกในความดีต่างๆ แล้วพ่ายแพ้ไป
    เส้นทางชีวิตมีแต่ความสุข สงบ พบเจอแต่เรื่องดีๆ ในชีวิต จะมีสติดี ทำให้ประสบความสำเร็จในเรื่องที่หวังได้ง่าย
    https://www.facebook.com/kusolmongkol.suvarnakudht

     
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาปฏิบัติธรรมพระกรรมฐาน วัดไหล่ดุม จ.ศรีสะเกษ
    http://palungjit.org/forums/%E0%...ml#post8276477
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    ประวัติย่อ
    หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร

    หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร ตอนนี้ หลวงปู่จำวัดอยู่ที่ วัดป่าเขามโนราห์ ชายป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นวัดร้าง ลักษณะเหมือนบ้านของชาวบ้านธรรมดา เป็นเรือนไม้สองชั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ช่วงนี้ท่านก็สลับออกธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เข้าธุดงค์ประมาณ1-2 เดือน เพื่อฝึกพระใหม่ที่ตามมาธุดงค์ เป็นการฝึก ซึ่งมีผู้กล่าวว่า ปู่สามารถฝึกพระบางองค์ได้ถึงขั้นอริสงฆ์ก็มีหลายรูปแล้ว ตอนนี้มีพระทั้งหมด 11 รูป

    หลวงปู่สังวาลย์ ท่านอายุ 73 ปี เกิดปี พ.ศ.2477 ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ขาว อนาลโย เคยธุดงค์กับพระเกจิสุปฏิปันโนมากมาย อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชา หลวงปู่เกษม(สุสานไตรลักษณ์) หลวงปู่บุดดา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่เทศ หลวงปู่มหาบัว ฯลฯ เป็นต้น โดยธุดงค์ในป่าลึก ทั้งเหนือ อีสาน ฯ บางครั้งท่านก็เดินธุดงค์องค์เดียวเป็นเวลาหลายปี ยกเว้นตอนเข้าพรรษาเท่านั้น ที่จำเป็นต้องอยู่จำพรรษาที่วัด ก็จะเป็นวัดล้างในป่า เสียส่วนมาก ท่านกรุณาเล่าประวัติให้ฟังพอสังเขป จำได้ไม่หมด ทั้งนี้เพราะทราบมาว่าปกติท่านไม่เคยเล่าให้ใครฟัง พระที่ตามธุดงค์กับท่านก็จะไม่ทราบเรื่องราวของท่านมากนัก ท่านไม่เคยให้สัมภาษณ์หนังสือใดๆ เพราะ ท่านไม่ติดยึดกับชื่อเสียงทางโลก หรือแม้กระทั่งการถ่ายรูป ตอนที่ท่านเข้าธุดงค์ในป่าลึกห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แอบถ่ายสถานที่ในวัดหลายรูป หัวหน้าเขตป่าไม้ชื่อคุณ.ทวี.เล่าให้คณะเราฟังในภายหลังว่าเคยแ อบถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาต ปรากฎว่ากล้องระเบิดเสียหายไป 3 ตัวเลย

    ดังนั้น ขอสรุปเรื่องราวของหลวงปู่สังวาลย์ โดยสังเขปดังนี้

    ท่านเป็นลูกศิษย์ ที่ร่วมคณะเดินธุดงค์กับท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    และพระสุปฎิปันโนที่เอ่ยนามแล้วทุกคนรู้จักเป็นที่เคารพของคนไท ยและท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงตามหาบัว สมัยอยู่กับหลวงปู่เทส เทสรังสี หลวงปู่สังวาลย์ เล่าว่า ปู่เคยไปธุดงค์ที่ทุ้งแสลงหลวง(ตอนนั้นอายุ53ปี) และมีเณร(อายุ 15ปี) ตามไปด้วยหนึ่งองค์ ระหว่างทางปู่ได้ไปเยียบกับระเบิดเข้า เณรได้เข้ามากอดขาหลวงปู่ แต่ปู่บอกให้เณรออกไป เดี๋ยวตายทั้งคู่ ถ้าปู่เป็นอะไร เณรจะได้ไปบอกคนมาช่วย ขณะจะถอนเท้าออกจากกับระเบิดท่านบอกให้เณรหนีไปไกลๆก่อน

    เมื่อท่านยกเท้าขึ้นก็เกิดระเบิดตูมสนั่น ตัวท่านลอยไปตกในหลุมหลาวที่ทำจากไม้ไผ่หลาวปลายแหลม(ไม้เสียบแ หลมๆของพวกผู้ก่อการร้าย) แต่หลาวไม่สามารถแถงทะลุเข้าท่านได้ ท่านก็นอนค้างอยู่นั้น แต่ท่านก็ขาหักแขนหัก และมีบาดแผลใหญ่ถูกกระเบิดเป็นรูใหญ่ ตรงช่วงต้นขาซ้าย หลังจากนั้นเณรก็เขามาช่วยปู่เอาจีวรพันขาปู่ เพราะเลือดไหลไม่หยุด จึงเอายาฉุนยัดไว้ที่รูแผล รูขนาดลูกปิงปองเลย ปู่เปิดให้ดูรอยบาดแผลใหญ่มาก ท่านบอกให้เณรเดินไปตามลำธารน้ำแล้วจะไม่หลงป่า เมื่อพบชาวบ้านให้แจ้งคนมาช่วย ส่วนตัวท่านก็นอนอยู่ที่นั้นขยับกายไปไหนไม่ได้ นอนอยู่ 3วัน แมลงวันมาเกาะขณะที่ท่านสลบไป รู้สำตัวขึ้นมาก็เห็นหนอนไชแผลเต็มไปหมด เลือดไหลจนซีดหมดทั้งตัว ปู่บอกจะตายก็ตาย ชีวิตนี้ไม่เอา ไม่ยึดติดอะไรแล้ว กว่าเณรจะเดินตามลำธาร ไปพบชาวบ้านใช้เวลา ถึง 3วัน 2คืน แล้วทหารเสนารักษ์ก็มาช่วยรักษาพาท่านไปโรงพยาบาลในที่สุด

    ต่อมา จากแรงระเบิดจึงทำให้ร่างกายของปู่บอบช้ำมาก โดยเฉพาะการทำงานของหัวใจไม่ดี ปู่พูดตามภาษาปู่ว่า “ หัวใจมันร้าว ” คือ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน หลวงปู่เป็นลมและหัวใจของปู่ก็หยุดเต้นไป อาการดังกล่าวเป็นด้วยกัน 3 ครั้ง ครั้งแรก 3 วัน 5วัน ห่างกัน

    3 เดือน ครั้งสุดท้าย 6 วัน จนคณะแพทย์ศิริราชลงความเห็นว่าท่านไม่ฟื้นแล้วทางวัดได้จัดทำพิธีศพ ซึ่งได้พระราชทานเพลิงศพ วันที่ 7 จะทำชาปณกิจ ม.ร.ว. คึกฤทธ์ ปราโมทย์ เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มาเป็นองค์ประทาน มีคนมาร่วมงานหลายพันคน มีรถมาจอดมากกว่า 400 คันในสมัยนั้น แต่ปรากฏว่า ท่านกลับฟื้นขึ้นมา อาจารย์ไมตรี ถามท่านว่าทำไมเขาไม่ฉีดฟอร์มารีน ปู่บอกหลวงปู่เทส เทสรังสี สั่งไม่ให้ฉีดศพของหลวงปู่สังวาลย์ ท่านว่า เพราะร่างเขาไม่เน่าหรอก

    อนึ่ง ท่านใดที่สนใจรายละเอียดถ้าได้มีโอกาสไปกราบท่านก็ให้เรียนถามห ลวงปู่ด้วยตนเองว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงที่ท่านหยุดหายใจ ไปสามครั้ง 3-6 วันนั้น

    ปฏิปทาท่านชอบธุดงค์ และอยู่ในป่าเสมอตั้งแต่ออกบวช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนภาคอีสานและเข้านมัสการหลวงปู่สังวาล ย์ ธมฺมสาโร และกล่าวชื่นชมหลวงปู่ ได้ให้สมญานามปู่สังวาลย์ว่า “ ช้างเผือก ” เพราะท่านชอบอยู่ในป่า หลวงตามหาบัวท่านชื่นชมหลวงปู่สังวาลย์ ก็ชอบเรียกหลวงปู่ว่า “เสือป่า” เพราะมีอัธยาศัยชอบธุดงค์อยู่ในป่าลึก ปู่บอกว่า บางครั้งช่วงอยู่ป่าเป็นเวลาหลายปี ปู่ฉันท์ผัก ใบไม้ สมุนไพรต้ม ไม่ได้ฉันท์ข้าวเลย (ยกเว้นตอนเข้าพรรษาเท่านั้น) หมายถึงปู่จะอยู่ในป่าลึกตลอด ไม่ได้ออกมาพบชาวบ้าน จึงไม่ได้บิณฑบาตกับใคร ท่านไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ไม่ยึดติดวัตถุ ไม่หลงติดความสุข ความสะดวกสบาย อาจารย์ ไมตรีทองประวัติ และ พระอาจารย์ สงคราม ลูกศิษย์หลวงพ่อกล้วยที่

    วัดป่าธรรมอุทธยาน จ.ขอนแก่น ท่านทั้งสองกรุณาแนะนำให้ได้ไปกราบหลวงปู่ในป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี

    เมื่อปี 2549 ท่านอาจารย์ ดร.วรภัทธ์ เคยนำคณะ 50 คนนั่งรถบัสเข้าป่าห้วยขาแข้งไปกราบหลวงปู่ สังวาลย์ แต่รถใหญ่เกินไปไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงในป่าวัดมโนราห์ แต่ก็น่าแปลกใจ หลวงปู่และพระจำนวนหนึ่งได้ติดรถชาวบ้านออกมาพร้อมเสื่อ มาพบคณะระหว่างทางกลางป่าโดยมิได้นัดหมาย ทางคณะจึงขออนุญาตนำเสื่อที่ท่านนำติดรถมาปู เพื่อกราบนมัสการและฟังธรรม

    (ในห้วยขาแข้ง โทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณอยู่แล้ว ยกเว้นบางที่แต่ต้องเป็นบนยอดเขาที่เหมาะสมเท่านั้น)

    ครั้งแรก แฟร์ได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ในป่าคิดว่าต้องลำบากมากแน่ๆ แต่ใจสู้เพราะจะได้พบพระป่าที่มีภูมิธรรมสูงจริยาวัติ น่าเลื่อมใส ได้พบท่านครั้งแรกไม่คิดว่าท่านอายุ 73 ปี คิดว่า 55 ปีเพราะดูหนุ่มและแข็งแรงมาก ทรายภายหลังว่า เวลาเดินธุดงค์ขึ้นเขาปู่เดินนำและเร็วมาก อีกทั้งในป่านอกจากจะมีเสือที่ปู่บอกว่ามันดัดเสียงเลียนแบบเสี ยงเยื่อที่มันตามล่าได้ถึง 7 เสียงแล้ว ยัง มี ช้าง กระทิง หมูป่า งู และสัตว์อื่นที่น่ากลัวอีกมากมายและที่ดูจะไม่น่ากลัวแต่กลับน่ ากลัวที่สุดคือ “เห็บ” ของสัตว์ที่มีมากมายและมันจะเกาะติดอยู่ตามใบไม้ใบหญ้า เมื่อคนเดินผ่านมันก็จะกระโดดเข้ามา เกาะติดและดูดเลือดและฝังตัวอยู่ในเนื้อ ทั้งเจ็บ ทั้งคันและเป็นแผลดำเลย กว่าจะบีบตัวมันออกและเอายาทากว่าจะหายก็เป็นแผลเป็นเลย นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องไข้ป่าที่ชุกชุมอีกต่างหาก

    แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนได้เกิดขึ้นเมื่อไปถึงและกราบนมัสการ ท่านแล้วยังไม่ทันที่จะถวายสังฆทานอาหารแห้งที่เตรียมมา หลวงปู่ท่านก็เมตตาสอนธรรมที่ติดข้องอยู่ในใจและชี้ให้เห็นคุณแ ละโทษของความไม่รู้ที่เราเคยปฏิบัติผิดๆมาตลอด ชี้ให้เห็นกิเลสในจิตที่มีอยู่และจะแก้ไข อย่างไรจนหมดสิ้นคำถาม โดยที่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามเลยแม้แต่น้อย รู้สึกอัศจรรย์ใจมาก เกิดความรู้สึกสงบอิ่มในธรรมที่เราดิ้นรนแสวงหามาตลอด เราเคยเพียรพยายามแก้ความสงสัย โดยหาหนังสือธรรมอ่าน แต่ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามที่ค้างคาใจทุกข้อที่เคยสงสัยหลายๆเร ื่องได้ ท่านบอกว่า “ ท่านไม่ใส่ใจใครจะมาหาหรือไม่มาท่านไม่มีอะไรติดใจ ใครมาอยู่ป่าแล้วบอกว่าลำบากอยู่ไม่ได้ เพราะยังติดสุขอยู่ ท่านก็ว่าดีแล้วไม่ต้องมาหาท่าน ”

    ท่านเมตตาสอนให้รู้จักปัญหาของโลกโดยเฉพาะผู้หญิง ที่เข้าวัด มักจะเจอปัญหาคำครหา 3 ข้อ เรื่องเข้าวัดเพราะ หนึ่ง มาชอบพระในวัด สอง เข้าวัดเพราะผิดหวังอกหัก สาม เข้าวัดเพราะมีปัญหาเรื่องไม่มีปัญญาทำมาหากินเลยมาอาศัยวัดอยู ่ ปู่ท่านบอกว่าไม่ต้องไปสนใจ

    ถ้าเรามีจิตใจมั่นคงหนักแน่น และผ่านเรื่องคำครหาต่างๆนี้ไปได้ เราก็ปฏิบัติธรรมได้สะดวก

    ได้กราบเรียนท่านว่าที่เดินทางเข้าวัดมานี้เพราะไม่อยากเกิดอีก แล้ว ท่านก็บอกว่าหลวงปู่ก็ไม่อยากเกิดอีกเช่นกัน แต่ตราบใดที่จิตใจยังมี ความอยาก มีความรัก ความโกรธ ความชอบไม่ชอบ ก็ต้องเพียรพยายามฝึกฝนต่อไป เปรียบเสมือนควั่นอ้อย เมื่อฟันไปได้เปราะหนึ่งแล้ว ก็ต้องถากถางมันต่อไป เพียรพยายามให้มันหมดจรดจากความยินดียินร้ายในจิตใจ ตราบใดที่จิตใจยังมีความยินดียินร้ายอยู่ไม่ควรไปสอนใครเขาเพรา ะจะเป็นกรรม ต่อเมื่อถึงที่สุดแล้วหมดจรดแล้ว ใครถามก็ให้ตอบว่า เราเคยปฏิบัติมาแบบนี้ เคยทำมาแบบนี้ เท่านั้น.

    หลวงปู่ไม่ให้ติดในนิมิต ไม่ให้ยึดติดอดีต และ ไม่ให้คิดถึงอนาคต เห็นอะไรให้ทิ้งไปอย่าไปสนใจเอามาเป็นอารมณ์เสียเวลา ท่านเล่าว่าหลวงปู่บุดดา ก็มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้เห็นอะไรมากมาย หลวงปู่บุดดา ท่านก็บอกไม่เอาเนอ หลวงปู่สังวาลย์ก็เหมือนกัน แต่ปู่บอก พยายามตัด ไม่อยากดัง ยิ่งตอนหลวงปู่ฟื้นมาใหม่ๆคนก็เข้าพบมากมาย ก็เป็นการพิสูจน์ว่า ปู่ไม่ติดยึดจริงๆ

    เพราะถ้ารู้แล้วเห็นแล้ว ก็จะมีเรื่องอีกมากมายตามมาเสียเวลา อิริยาบถ 4 หลวงปู่สอนว่ามี เดิน ยืน นั่ง และ อิริยาบถขณะทำการงานต่างๆเท่านั้น ไม่มีอิริยาบถนอนสมาธิ ขณะทำกิจการงานต่างๆ เพียรระลึกอยู่เสมอได้ รู้ลมหายใจ กำหนดพุทธโธ ใช้สติเป็นตัวรู้ รู้อิริยาบถเคลื่อนไหวต่างๆได้ตลอด(มหาสติปัฏฐาน4) เรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยคือ การนั่งสมาธิที่ถูกต้องของผู้หญิง คือท่านั้งกราบพระ ท่าที่นั่งทับเท้าทั้งสองข้าง และท่านั่งพับเพียบ เท่านั้น ไม่ใช่นั่งขัดสมาธิเหมือนผู้ชาย

    และแม่อึ่งที่อุปัฏฐากทำอาหารถวายพระเล่าว่า มีพระ 3 รูปยืนฉี่และสรงน้ำแล้วไม่นุ่งผ้าอาบน้ำฝนท่านก็รู้และว่ากล่าวตักเตือน แม้กระทั้งญาติโยมเวลาอาบน้ำในห้องน้ำก็ต้องนุ่งผ้าถุงอาบ จะเปลือยไม่ได้ เพราะมีเทวดาภพภูมิมากมายในวัดกลางคืนก็ให้ปักกรด เพียรเดินจงกรม นั่งสมาธิ เพราะวิเวกไม่มีสิ่งต่างๆมารบกวน ถึงจะมี ก็จงปฏิบัติจนไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็นอะไร ที่ในป่าห้วยขาแข้งอากาศกลางคืนเย็นตลอดปี เดือนเมษายนกลางคืนก็ยังหนาวต้องห่มผ้านวม หลวงปู่บอก นอนหลับไม่ต้องเปิดแอร์ เหมือนกรุงเทพ

    ฝึกปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สังวาลย์ ทำให้เข้าใจธรรมชาติ และวิถีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง อยู่แบบไม่ติดสุข ละความสะดวกสบาย แบบสมถะ สถานที่วัดป่าเขามโนรรห์ อยู่ติดกับลำธาร เราสามารถเดินขึ้นตามโขดหิน ลำธารไปได้ ภูเขาป่าไม้สวยงาม แต่หลวงปู่บอก

    ในโลกนี้ไม่มีอะไรสวยไม่มีอะไรดี มีแต่ความเสื่อมไป ตัวเราก็ต้องแตกสลายเสื่อมไป กลับสู่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทับถมไม่มีที่สิ้นสุด อย่ามัวแต่ยึดติดสิ่งจอมปลอม ในสิ่งที่มันหลอกลวงเราอยู่เลย

    ตัวเรา มิตรของเรา ศัตรูของเรา สัตว์ร่วมเกิดกับเรา ก็ต้องแตกสลายเสื่อมไปทุกผู้ทุกนาม แล้วเราจะไปยึดเอาอะไร หลวงปู่สอนอื่นๆ อีกมาก บางเรื่องแก้ไขเฉพาะบุคคล

    เพื่อนๆท่านใดที่สนใจจะไปปฏิบัติธรรม กับหลวงปู่สังวาลย์ ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะค่ะ ติดต่อกับอาจารย์ ไมตรี หรือ แฟร์ ได้ค่ะ เดินทางไปห้วยขาแข้ง ใกล้อ่างเก็บน้ำอ่างแก้ว และ น้ำตกอีซะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ

    อนึ่ง นับเป็นมหากุศลของชาวพุทธที่จะได้รับคำสั่งสอนของพระอริยะสงฆ์เจ้า ที่ยากจะพบหลวงปู่ได้บ่อยนัก เพราะท่านอยู่ในป่ามาตลอด


    ::
     
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    นักอนุรักษ์เฉียบขาด – หลวงปู่ชา สุภัทโท

    ในช่วงแรกที่หลวงพ่อชาและคณะสงฆ์ไปอยู่ที่วัดหนองป่าพง ไข้มาลาเรียระบาดหนักอยู่ถึง ๓ ปีเต็ม ทั้งพระเณรและแม่ชีเป็นไข้กันงอมแงม เริ่มจากหลวงพ่อก่อนเลย ท่านเป็นหนักมากจนเนื้อตัวเขียวคล้ำ นึกว่าถึงที่สุดแล้ว แต่ในที่สุดก็หาย

    พอหลวงพ่อหายลูกวัดก็เป็นกันใหญ่ ทั้งพระทั้งชีป่วยหนักไปตามๆ กัน แต่โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตกันเลย

    การรักษาในสมัยนั้นก็ไม่มีหยูกยาอะไรกินนอกจากยาสมุนไพร และสมุนไพรตัวสำคัญที่ใช้ปราบมาเลเรียนั้นแม่ชีบอกว่า “ที่ได้ผลตัดเชื้อได้อย่างเด็ดขาดก็บอระเพ็ดนี่ละ”

    สำหรับเรื่องโรงพยาบาลนั้น “หลวงพ่อท่านไม่ให้พาไปเกี่ยวข้องวุ่นวายด้วยหรอก ไม่ให้ไป ไม่ให้ลูกศิษย์ลูกหาเอ่ยถึงโรงพยาบาลเลย”

    อย่างไรก็ตาม มีหมอเข้ามาวัดบ้างเหมือนกัน ครั้งหนึ่งมีคณะแพทย์เขามากราบเรียนหลวงพ่อว่า

    “ป่านี้ทึบเกินไป ให้ตัดรอนกิ่งไม้ออกบ้างให้โปร่งๆ ลมจะได้เข้าสะดวก”

    หลวงพ่อตอบว่า “ตายซะคน เอาไว้แต่ป่าก็พอ”

    พวกหมอก็พยายามอธิบาย พูดโน้มน้าวหว่านล้อมด้วยเหตุผลต่างๆ นานาเกี่ยวกับเรื่องป่าแต่หลวงพ่อก็ยังยืนยันเจตนารมณ์ดั้งเดิม

    ท่านตอบอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “พระหรือชีก็ตาม อาตมาเองก็ตาม ตายแล้วก็แล้วไป เอาป่าไว้เสียดีกว่า”

    พวกหมอก็เลยพูดไม่ออก แล้วก็ลากลับ

    จากหนังสืออุปลมณี ชีวประวัติและศีลาจาวัตร หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี –หน้าที่ ๑๑๓


    https://www.facebook.com/kusolmongkol.suvarnakudht
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    ท่านพุทธทาส ขอโอกาสกราบ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ในโอกาสที่มาเยือนสวนโมกข์ ทั้งที่ท่านพุทธทาสมีอายุพรรษาเเก่กว่า สมเด็จท่านห้ามไว้ เเต่ท่านพุทธทาสก็ไม่ยอม จึงได้กราบท่านพุทธทาสกลับ..
    ขณะท่านสนทนากันอยู่มีไก่แจ้เข้ามากราบท่านด้วย..
     

แชร์หน้านี้

Loading...