ติดตามสถานการณ์ "ซีเรีย" สงครามจะขยายขอบเขตหรือไม่???

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย จริง?หรือ?, 28 สิงหาคม 2013.

  1. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ผู้นำรัสเซียวิจารณ์สหรัฐพยายามทำตัวเหนือ "ยูเอ็น"
    วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 เวลา 10:46 น.
    [​IMG]
    รัสเซียชี้การโจมตีทางทหารต่อซีเรียของสหรัฐ มีแต่จะเป็นการกัดเซาะโครงสร้างนโยบายด้านความมั่นคงของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) และเสี่ยงที่จะเป็นการปลุกให้กลุ่มก่อการร้ายฟื้นคืนชีพครั้งใหญ่


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่าเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ "เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส" เผยแพร่บทความต่างความเห็นต่อบทบรรณาธิการ ซึ่งเขียนโดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีใจความสำคัญเกี่ยวกับการที่สหรัฐยังคงไม่ล้มเลิกแผนการโจมตีทางทหารต่อซีเรียอย่างเต็มร้อยว่า ไม่มีข้อดีใดเลย การใช้ความรุนแรงทางทหารมีแต่จะทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตมากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งไปทั่วทั้งภูมิภาคอาหรับ โดยเฉพาะในอิหร่าน และกรณีพิพาทระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง

    นอกจากนี้ มาตรการแทรกแซงทางทหารของวอชิงตัน ยังจะเป็นการปลุกกระแสให้กลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ และเครือข่ายซึ่งแฝงตัวอยู่มากในตะวันออกกลาง อาศัยจังหวะนี้ออกมาก่อความวุ่นวายแน่นอน

    ผู้นำรัสเซียกล่าวต่อไปว่า การเลือกใช้มาตรการดังกล่าวของสหรัฐ ที่ยังคงมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น คืออีกหนึ่งความพยายามของวอชิงตัน ที่ต้องการแสดงอิทธิพลเหนือสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ซึ่งถือเป็นการสั่นคลอนเสถียรภาพในการบริหารงานของยูเอ็นอย่างหนัก และอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังองค์กรสากลแห่งอื่นด้วย

    ปูตินปิดท้ายว่า ในเมื่อสหรัฐอ้างมาตลอดถึง "หลักการและเหตุผล" ให้เชื่อว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนกว่า 1,400 ศพ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. คือรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด มอสโกก็มี "หลักการและเหตุผล" ของตัวเองที่จะเชื่อเช่นกันว่า อัสซาดไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เป็นฝ่ายกบฏ ตราบใดที่ยังไม่มีการแสดงหลักฐานอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ทุกฝ่ายต่างมีสิทธิ์จะเชื่อตามแนวคิดของตัวเองทั้งสิ้น


    ผู้นำรัสเซียวิจารณ์สหรัฐพยายามทำตัวเหนือ "ยูเอ็น" | เดลินิวส์
     
  2. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    กองทัพสหรัฐลั่นยังพร้อมยิงซีเรียตลอด 24 ชั่วโมง
    วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 เวลา 12:27 น.
    [​IMG]
    กองทัพเรือสหรัฐยังคงยืนยันอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมโจมตีซีเรียตลอด 24 ชั่วโมง และเผยว่าปฏิบัติการสู้รบจะเป็นไปอย่าง "หนักหน่วง"


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.ย. นายเรย์ มาบัส เจ้าพนักงานผู้ช่วยบัญชาการทหารเรือสหรัฐ แถลงเมื่อวันพุธว่า แม้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ จะประกาศระงับแผนการโจมตีซีเรียชั่วคราว เพื่อพิจารณาข้อเสนอจากรัสเซีย ที่ต้องการให้ทางการดามัสกัสส่งมอบอาวุธเคมีที่มีอยู่ทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรกลางสากลระหว่างประเทศ แต่เรือพิฆาต เรือยกพลขึ้นบก และเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของกองทัพเรือและนาวิกโยธิน จะยังคงประจำการอยู่รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะเป็นที่น่าไว้วางใจได้กว่านี้

    มาบัสกล่าวด้วยว่า ทหารทุกนายที่ประจำการอยู่บนเรือแต่ละลำยังคงเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมเป็นฝ่ายเปิดฉากยิง ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากผู้นำสหรัฐ ซึ่งการโจมตีจะเป็นไปอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เพื่อให้ภารกิจลุล่วงโดยเร็วที่สุด

    มีรายงานด้วยว่า นายชัค ฮาเกล รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) โทรศัพท์สายตรงไปยังนาวาอากาศเอกทอม ดิกคินสัน ผู้บัญชาการเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส นิมิตซ์ ซึ่งยังคงประจำการอยู่นอกน่านน้ำซีเรีย หรือทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อขอบคุณทหารทุกนายที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน ทั้งที่เวลานี้เป็นช่วงนอกเวลาประจำการ

    http://www.dailynews.co.th/world/232533
     
  3. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    กบฏซีเรียเฮ! สหรัฐจัดส่งอาวุธให้แล้ว
    วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 เวลา 13:02 น.
    [​IMG]
    หนังสือพิมพ์สหรัฐ “เดอะ วอชิงตัน โพสต์” รายงานว่า ทางการสหรัฐได้จัดส่งอาวุธและอุปกรณ์ทางเทคนิคไปทางเรือ ให้กับกลุ่มกบฏซีเรียแล้ว


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ว่า หนังสือพิมพ์“เดอะ วอชิงตัน โพสต์”เผย เมื่อช่วงกลางคืนของวันพุธ หน่วยสืบราชการลับสหรัฐ (ซีไอเอ) ได้จัดส่งอาวุธลงเรือหลายลำ เดินทางไปยังซีเรียแล้ว โดยสิ่งที่วอชิงตันส่งไปให้นั้น ได้แก่ อาวุธเบา ซึ่งคือ อาวุธที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของขนาดปากกระบอกปืนต่ำกว่า 100 มิลลิเมตร อุปกรณ์สื่อสาร ชุดยาสำหรับทหาร และอาวุธที่สามารถตรวจหาร่องรอยได้ จำนวนหนึ่งให้กับกลุ่มกบฏซีเรีย โดยมีจุดประสงค์เพื่อสมานรอยร้าวระหว่างกลุ่มกบฏกันเอง ทั้งนี้ รายงานไม่ได้ระบุว่า อาวุธจำนวนดังกล่าวจะถึงมือกบฏซีเรียเมื่อใด

    อย่างไรก็ตาม การส่งมอบอาวุธครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงต่อชาวอเมริกันว่า เขาจะยืดเวลาการใช้อาวุธโจมตีซีเรียออกไป เพื่อให้รัสเซียเจรจากับฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ออกคำสั่งใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน ยอมส่งมอบอาวุธเคมี ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ


    กบฏซีเรียเฮ! สหรัฐจัดส่งอาวุธให้แล้ว | เดลินิวส์
     
  4. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +603
    หนักเข้าๆ ..... ไปทุกที
     
  5. Proud&Prime

    Proud&Prime Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    38
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +74
    ยอมเสียหน้าดีกว่าตกเป็นเครื่องมือคนอื่น
    เชื่อผมสิอย่าเลย
     
  6. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียเผยยอมปลดอาวุธเคมีเพราะรัสเซีย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2556 00:30 น.

    ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียระบุเมื่อวันพฤหัสบดี(12) ว่ารัฐบาลของเขาตอบตกลงที่จะยอมส่งมอบอาวุธเคมีแก่นานาชาติก็เพื่อตอบสนองต่อแนวคิดริเริ่มของรัสเซีย ไม่ใช่เพราะเกรงต่อคำขู่ของสหรัฐฯ ท่าทีที่ยังแข็งกร้าวของผู้นำรายนี้มีขึ้นขณะที่มอสโกและวอชิงตัน เริ่มต้นเจรจาสำคัญต่อแผนปลดอาวุธดามัสกัสเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิบัติการทางทหารของอเมริกา ด้วยทาง โอบามา หวังว่าการหารือครั้งนี้จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นรูปเป็นร่าง

    นายอัสซาดให้สัมภาษณ์กับรอสซิยา24 สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของรัสเซีย ยืนยันว่าซีเรียจะยอมวางอาวุธเคมีให้อยู่ภายใต้การควบคุมของต่างชาติตามกรอบข้อเสนอของมอสโก "ที่ซีเรีย ยอมส่งมอบอาวุธเคมีให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติก็เพราะรัสเซีย คำขู่ของสหรัฐฯไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเรา" เขากล่าวพร้อมระบุว่า ซีเรีย มีแผนยื่นเอกสารต่อสหประชาชาติเพื่อลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับอาวุธเคมีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตามจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงทางสหประชาชาติ ก็ออกมายืนยันว่าได้รับเอกสารขเข้าร่วมสนธิสัญญาสากลห้ามใช้อาวุธเคมีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ความเคลื่อนไหวของนายอัสซาด มีขึ้นขณะที่สหรัฐฯและรัสเซีย เริ่มต้นหารือกันที่เจนีวา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อเสนอที่ให้ซีเรียเปิดประตูต้อนรับคณะผู้ตรวจสอบและกำจัดอาวุธเคมีของพวกเขา โดยนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ หารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศมอสโกและคณะ เพื่อพิจารณาข้อเสนอจากแดนหมีขาว ซึ่งส่งผลให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัดสินใจถอนคำขู่ใช้กำลังทหารโจมตีรัฐบาลของนายอัสซาด

    ในเรื่องนี้นายโอบามา ออกมาแสดงความหวังในวันพฤหัสบดี(12) ว่าการเจรจาของคณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายจะนำมาซึ่งแผนที่ใช้การได้ต่อการปลดอาวุธเคมีของซีเรีย "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการหารือระหว่างท่านรัฐมนตรีต่างประเทศเคร์รีกับลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เช่นเดียวกับบุคคลอื่นๆ จะสามารถก่อผลลัพธ์ที่เป็นรูปเป็นร่าง"
     
  7. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    อัสซาดย้ำพร้อมปลดอาวุธเคมี แต่สหรัฐต้องหยุดคุกคาม
    วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 05:29 น.
    [​IMG]
    ประธานาธิบดีอัสซาด ผู้นำซีเรีย ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์รัสเซีย พร้อมให้นานาชาติเข้าควบคุมอาวุธเคมีตามข้อเสนอของรัสเซีย แต่สหรัฐต้องยุติการข่มขู่ใช้กำลังทหารโจมตี


    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ “รอสซิยา 24” ของรัสเซียเมื่อวานนี้ว่า ซีเรียพร้อมสละอาวุธเคมีในครอบครอง และต้องขอบคุณความพยายามทางการทูตของรัสเซีย แต่ตำหนิสหรัฐที่พยายามยุติกระบวนการทางการทูต ขณะเดียวกัน ผู้นำซีเรีย ก็เรียกร้องกลับด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐควรยุติการข่มขู่ใช้กำลังทางทหาร และหยุดส่งอาวุธช่วยกบฏได้แล้ว


    ในการให้สัมภาษณ์ ซึ่งออกอากาศ ในขณะที่ รัสเซียและสหรัฐเริ่มเจรจากันในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกี่ยวกับแผนการให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีที่มีอยู่ให้องค์การอิสระระหว่างประเทศควบคุมและทำลาย นายอัสซาดกล่าวว่า เขาพร้อมปฏิบัติตาม แต่จะไม่ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว


    นายอาซาดระบุในถ้อยแถลงที่ถูกแปลจากภาษาอาหรับว่า ซีเรียจะยื่นอุทธรณ์ต่อสหประชาชาติ หรือยูเอ็น และองค์การว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ซึ่งจะแนบเอกสารทางเทคนิคที่จำเป็น เพื่อลงนามในข้อตกลง โดยสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี จะมีผลบังคับใช้ “หนึ่งเดือนหลังจากลงนาม” หลังจากนั้น ซีเรียก็จะเริ่มส่งข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเคมีที่มีอยู่ให้องค์การระหว่างประเทศ


    ประธานาธิบดีอัสซาด เตือนด้วยว่า ซีเรียจะไม่ดำเนินการตามกลไกเหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พร้อมระบุว่า สหรัฐต้องล้มเลิกแผนการแทรกแซงทางทหารด้วย มันไม่ได้หมายความว่า ซีเรียจะลงนามในเอกสารให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยเขาเรียกแผนนี้ว่า “กระบวนการ 2 ฝ่าย” กับสหรัฐ ซึ่งถูกเรียกร้องให้ “หยุดนโยบายข่มขู่คุกคามซีเรีย” เมื่อซีเรียเห็นว่า สหรัฐปรารถนาเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างแท้จริง และหยุดข่มขู่และแสวงหาการรุกราน พร้อมทั้งหยุดส่งอาวุธให้กลุ่มก่อการร้ายแล้ว ซีเรียก็เชื่อได้ว่า สามารถปฏิบัติตามกระบวนการที่จำเป็นดังกล่าวต่อไปได้


    นอกจากนี้ ประธานาธิบดีอัสซาด ยังปฏิเสธว่า กองทัพของรัฐบาลอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมี ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1,400 คน รวมทั้งเด็กด้วยหลายร้อยคนใกล้กรุงดามัสกัส และกล่าวหาว่า สหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีครั้งนี้

    อัสซาดย้ำพร้อมปลดอาวุธเคมี แต่สหรัฐต้องหยุดคุกคาม | เดลินิวส์
     
  8. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สหรัฐจวกยับบทความ “ปูติน” ดูถูก "ความเป็นอเมริกัน"
    วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 เวลา 21:02 น.
    [​IMG]
    นักการเมืองและสื่อมวลชนอเมริกันพากันออกมาแสดงความไม่พอใจ หลังบทความของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่มีเนื้อหาในเชิงดูหมิ่นสหรัฐ ได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ “เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส”


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.ย. นายโรเบิร์ต เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกรัฐนิวเจอร์ซีย์ จากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภา กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เจตนาเสนอเนื้อหาที่นอกประเด็นอย่างชัดเจน ทั้งที่ในช่วงเวลาแบบนี้ เนื้อหาของบทความต่างความเห็นต่อบทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ควรเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรียมากกว่า แต่กลับมีการกล่าวถึงเพียงนิดเดียวเท่านั้น

    ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนท้ายของบทความยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะ “อาเจียน” เมื่อปูตินกล่าวแย้งแนวคิดในเรื่อง “อเมริกัน เอ็กเซปชันนอลลิซึ่ม” หรือแนวคิดที่ว่าชาวอเมริกันมี “ความพิเศษ” เหนือคนเชื้อชาติอื่น ว่าทุกคนบนโลกมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว การยกให้ตัวเองมีสถานะเหนือกว่าบุคคลใด ไม่ว่าจะมีเจตนาใดก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่อันตรายและไม่สมควรอย่างยิ่ง ซึ่งสื่อถึงสุนทรพจน์ช่วงหนึ่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แถลงต่อประชาชนเมื่อวันอังคารว่า สหรัฐไม่ใช่ “ตำรวจโลก” แต่ก็ต้องแสดงบทบาทนั้นเมื่อถึงเวลาที่ “จำเป็น” นี่คือสิ่งที่ทำให้ชาวอเมริกันมีความพิเศษกว่าคนอื่น

    ขณะที่ผู้สื่อข่าวในสหรัฐจำนวนไม่น้อย ต่างพากันทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ในเชิงเหน็บแนมผู้นำรัสเซีย เช่นนายจอห์น โพดอห์เรตซ์ ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ “เดอะ นิวยอร์ก โพสต์” กล่าวว่า “ในขณะที่กำลังออกมาประณามสหรัฐแผนการใช้กำลังทหารต่อซีเรีย ว่าฝ่าฝืนมติยูเอ็น แล้วคนที่เคยสั่งให้ทหารบุกเข้าไปในเชชเนียและจอร์เจียล่ะ นั่นเรียกว่าผิดกฎหมายหรือเปล่า ทั้งที่ยูเอ็นก็ห้ามเหมือนกัน”

    แต่กระนั้นก็ตาม นายมาร์ค ลามอนต์ ฮิลล์ ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ “เดอะ ฮัฟฟิงตัน โพสต์” ทวีตว่า “อย่างน้อยบทความของปูตินก็เรียกความสนใจจากชาวอเมริกัน ด้วยความตรงไปตรงมา และไร้เล่ห์เหลี่ยมไม่เหมือนกับของโอบามา”

    สหรัฐจวกยับบทความ “ปูติน” ดูถูก "ความเป็นอเมริกัน" | เดลินิวส์
     
  9. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สหรัฐและรัสเซียประชุมครั้งสำคัญเรื่องรัสเซีย
    วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 01:33 น.
    [​IMG]
    [​IMG]
    รัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐและรัสเซีย ร่วมประชุมกันครั้งสำคัญเพื่อหารือแก้ปัญหาซีเรีย ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ ยอมรับว่า แผนการของรัสเซียทำได้แต่ยาก ขณะที่ ผู้นำซีเรียก็ให้คำมั่นว่า จะให้นานาชาติเข้าควบคุมอาวุธเคมีที่มีอยู่


    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ว่า นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เริ่มประชุมกันครั้งสำคัญในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้ว เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการมอบอาวุธเคมีของซีเรียให้นานาชาติควบคุมเมื่อวานนี้ โดยการเจรจาครั้งสำคัญนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาซีเรียที่ไม่มีความคืบหน้ามา 2 ปีครึ่ง และควบคุมอาวุธเคมีของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

    คณะผู้แทนของสหรัฐและรัสเซีย ซึ่งนำโดยนายแคร์รี และนายลาฟรอฟ ที่จะร่วมหารือกัน ส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธและเจ้าหน้าที่ทูต เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุก่อนหน้านี้ว่า แผนการของรัสเซีย “เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ แต่ยาก”

    นายลาฟรอฟ ยังได้ให้รายละเอียดของข้อเสนอ 3 ข้อหลัก ๆ ซึ่งประกอบด้วย ซีเรียเข้าร่วมสนธิสัญญาอาวุธเคมี ซึ่งห้ามผลิตและใช้อาวุธรุนแรงนี้, ซีเรียต้องเปิดเผยแหล่งที่ซ่อนและเก็บอาวุธเคมี และให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธเคมี และสุดท้ายให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญร่วมกันตัดสินใจใช้มาตรการที่จำเป็นในการจัดการปัญหาดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า เขามั่นใจว่า มีโอกาสที่จะเห็นสันติภาพในซีเรีย

    ก่อนการประชุมกับนายลาฟรอฟ นายแคร์รีได้เปิดการหารือกับนายลัคดาร์ บราฮิมี เจ้าหน้าที่ทูตสันนิบาตชาติอาหรับฝ่ายกิจการซีเรียของสหประชาชาติด้วย

    ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปพร้อมกับนายแคร์รี กล่าวว่า พวกเขาต้องการเห็นข้อตกลงโดยเร็วกับรัสเซีย เกี่ยวกับหลักการสำหรับกระบวนการดังกล่าว ซึ่งรวมทั้งข้อเรียกร้องให้ซีเรียให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธเคมีและประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบโดยเร็ว

    ขณะเดียวกัน สหประชาชาติ ก็ยืนยันว่า ยูเอ็นได้รับเอกสารจากซีเรียเกี่ยวกับการเข้าร่วมสนธิสัญญาอาวุธเคมี ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในแผนการของรัสเซีย โดยประธานาธิบดีอัสซาด ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์รัสเซีย ยืนยันว่า ซีเรียจะมอบข้อมูลอาวุธหนึ่งเดือนหลังจากการลงนาม และให้นานาชาติเข้าควบคุมอาวุธเคมีที่มีอยู่ แต่ก็ยืนยันว่า คำขู่โจมตีของสหรัฐไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในครั้งนี้

    ทั้งนี้ สหรัฐกล่าวหารัฐบาลซีเรียว่า สังหารประชาชนหลายร้อยคนในการโจมตีด้วยอาวุธเคมี ในเมืองกูตา ชานกรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรีย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่รัฐบาลซีเรียปฏิเสธ พร้อมประณามว่าเป็นฝีมือของฝ่ายกบฏ ด้านรัสเซียประกาศข้อเสนอจัดการแก้ปัญหาวิกฤติอาวุธเคมีที่กำลังลุกลามเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ รัฐสภาสหรัฐเตรียมลงมติว่าจะให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้กำลังทหารโจมตีซีเรียหรือไม่

    สหรัฐและรัสเซียประชุมครั้งสำคัญเรื่องรัสเซีย | เดลินิวส์
     
  10. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ซีเรียยื่นเอกสารเป็นสมชิกสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี
    วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 05:18 น.
    [​IMG]
    ซีเรียส่งเอกสารขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกสนธิสัญญาระหว่างประเทศอ้ามใช้อาวุธเคมีแล้ว แต่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะได้เข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ


    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ว่า สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ก็แถลงเมื่อวานนี้ว่า ได้รับเอกสารจากรัฐบาลซีเรีย เพื่อขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมีแล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด จะยังไม่เข้าร่วมสนธิสัญญา ปี 2533 ซึ่งห้ามการผลิตและครอบครองอาวุธเคมี ในทันที นายฟาร์ฮัน ฮัค โฆษกยูเอ็น กล่าวว่า เป็นก้าวแรกในการเป็นสมาชิกสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมีเต็มตัว และจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันก่อนซีเรียจะได้เข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ

    การเคลื่อนไหวดังกล่าว จะยุติสถานะของซีเรีย เป็น 1 ใน 7 ประเทศเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสนธิสัญญาระหว่างประเทศห้ามครอบครองอาวุธเคมี ส่วนประเทศอื่นที่ยังไม่ได้เข้าร่วม ก็มีประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค อย่างอียิปต์ และอิสราเอล เช่นเดียวกับเกาหลีเหนือ

    ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทูตกล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธเคมีของยูเอ็น จะยังไม่ได้ตำหนิใครในรายงานการสอบสวนการโจมตีด้วยก๊าซพิษในซีเรียเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่รายงานข้อเท็จจริงของพวกเขา จะเป็นฉบับเดียวที่สามารถบอกได้ว่า ฝ่ายใดในสงครามกลางเมืองซีเรีย จะเป็นผู้รับผิดในการโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งนี้

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทูตตะวันตก 2 คน กล่าวว่า พวกเขาคาดการณ์อย่างแข็งขันว่า รายงานของนายอาเค เซลสตรอม หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธยูเอ็น จะยืนยันความคิดเห็นของสหรัฐว่า มีการใช้แก๊สซารินโจมตีในพื้นที่ชานกรุงดามัสกัส ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน โดยเจ้าหน้าที่ทูตคนหนึ่ง กล่าวว่า รายงานชิ้นนี้อาจมีการเปิดเผยออกมาในวันจันทร์นี้ ส่วนอีกหลายคนคาดว่า อาจออกมาในช่วงสุดสัปดาห์นี้จนถึงสัปดาห์หน้า


    ซีเรียยื่นเอกสารเป็นสมชิกสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี | เดลินิวส์
     
  11. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ถกแก้ปัญหาซีเรียวันแรกสหรัฐ-รัสเซียยังขัดแย้ง
    วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 05:19 น.
    [​IMG]
    การเจรจาวันแรกระหว่างนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและนายลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เพื่อแก้ปัญหาซีเรีย ก็เกิดความขัดแย้งกันแล้ว เมื่อสหรัฐย้ำจุดยืนเดิม ยังจำเป็นต้องโจมตีซีเรีย หากมาตรการทางการทูตล้มเหลว ขณะที่รัสเซียต้องการให้สหรัฐล้มเลิกคำขู่โจมตี
    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ว่า นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย จัดการเจรจากันที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ เพื่อปลดโครงการอาวุธเคมีของซีเรีย แต่ยังมีความคิดเห็นที่แตกแยกปรากฏให้เห็นตั้งแต่การเริ่มต้นการเจรจา ที่คาดว่าจะมีขึ้น 2 วัน โดยนายแคร์รีย้ำจุดยืนของสหรัฐว่า การใช้กำลังทหารต่อซีเรียอาจมีความจำเป็น หากแนวทางทางการทูตแก้ปัญหาอาวุธเคมีของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ไม่ได้ผล

    นายแคร์รี กล่าวอีกว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แสดงท่าทีชัดเจนว่า หากการแก้ปัญหาทางการทูตล้มเหลว การใช้กำลังอาจจำเป็นเพื่อป้องกันและทำลายความสามารถของประธานาธิบดีอัสซาดในการใช้อาวุธอันตรายเหล่านี้ ขณะที่ นายลาฟรอฟ ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่า รัสเซียต้องการให้สหรัฐ ล้มเลิกคู่ใช้กำลังทหารโจมตีซีเรียในขณะนี้

    นายลาฟรอฟ กล่าวว่า รัสเซียดำเนินการจากความจริงที่ว่า การแก้ปัญหานี้ ไม่จำเป็นต้องโจมตีซีเรีย ควรแก้ปัญหาความขัดแย้งในซีเรียอย่างสันติ

    ขณะที่ รัฐสภาสหรัฐ อภิปรายเรื่องการใช้กำลังทหารโจมตี เพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยอาวุธเคมีชานกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา รัสเซียก็เสนอให้ซีเรียตกลงปลดอาวุธเคมีของตน ซึ่งนายแคร์รี แสดงท่าทีชัดเจนว่า สหรัฐยังมีความเคลือบแคลงสงสัยต่อข้อเสนอของรัสเซีย ซึ่งต้องรอข้อเสนอจากรัฐบาลซีเรีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสนธิสัญญาอาวุธเคมี เพื่อชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเคมีของตนภายใน 30 วัน ตามมาตรฐานการปฏิบัติ

    ถกแก้ปัญหาซีเรียวันแรกสหรัฐ-รัสเซียยังขัดแย้ง | เดลินิวส์
     
  12. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    "ยูเอ็น" ยืนยันซีเรียส่งใบสมัครร่วมการห้ามใช้อาวุธเคมีจริง
    วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 08:28 น.
    [​IMG]
    สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ยืนยันการได้รับใบสมัครขอเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมีแล้ว


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.ย. นายฟาร์ฮาน ฮัค โฆษกสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) แถลงว่าใบสมัครของรัฐบาลซีเรีย ที่ประสงค์จะเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี ( ซีดับเบิลยูซี ) ซึ่งเป็นข้อตกลงระดับนานาชาติเกี่ยวกับการห้ามผลิต ครอบครอง และใช้อาวุธเคมี ถูกส่งตรงถึงมือของนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็นแล้ว ซึ่งบันและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาหลักฐานของดามัสกัสโดยละเอียด จึงไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้ว่า ใบสมัครจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ หรือระยะเวลาการพิจารณาจะนานเพียงใด

    อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเอ็นเผยว่า ใบสมัครของรัฐบาลซีเรียยังขาดเอกสารประกอบบางรายการ จึงมีความเป็นไปได้ว่า ยูเอ็นจะต้องตีใบสมัครกลับคืนไปให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อทำการแก้ไข

    ทั้งนี้ ตัวแทนจาก 65 ประเทศสมาชิกยูเอ็น ร่วมลงนามสัตยาบันภาคีอนุสัญญาดังกล่าวที่กรุงปารีส และนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2536 ก่อนที่ภาคีอนุสัญญาจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 2540 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกร่วมลงนามเพิ่มเป็น 189 ประเทศแล้ว แต่ยังมีอีก 7 ประเทศที่ไม่ได้ร่วมเข้าเป็นสมาชิก ได้แก่ เกาหลีเหนือ พม่า แองโกลา อียิปต์ อิสราเอล ซูดานใต้ และซีเรีย

    "ยูเอ็น" ยืนยันซีเรียส่งใบสมัครร่วมการห้ามใช้อาวุธเคมีจริง | เดลินิวส์
     
  13. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    “ผู้นำอัลกออิดะห์” เรียกร้องให้มุสลิม “ก่อวินาศกรรม-ทำลายเศรษฐกิจ” สหรัฐฯ
    [​IMG]
    อัยมาน อัล-ซอวาฮีรี ผู้นำเบอร์ 1 อัลกออิดะห์คนปัจจุบัน


    เอเอฟพี – อัยมาน อัล-ซอวาฮีรี ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันของเครือข่ายอัลกออิดะห์ ออกถ้อยแถลงเนื่องในวันครบรอบ 12 ปีเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ 9/11 โดยเรียกร้องให้มีการทำลายเศรษฐกิจของอเมริกา และให้นักรบญิฮาดทั่วโลกวางแผนโจมตีสหรัฐฯด้วย

    ศูนย์เฝ้าระวังก่อการร้าย SITE ได้แปลถ้อยแถลงบางส่วนของ ซอวาฮีรี จากคลิปวีดีโอความยาว 72 นาทีซึ่งถูกโพสลงบนเว็บบอร์ดของกลุ่มญิฮาด หลังจากสหรัฐฯได้จัดพิธีรำลึกให้แก่เหยื่อเกือบ 3,000 คนที่เสียชีวิตในเหตุวินาศกรรม เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2001

    ผู้นำอัลกออิดะห์ประกาศว่า “เราจงทำให้อเมริกาสูญเสียในเชิงเศรษฐกิจ โดยยั่วยุให้พวกเขาทุ่มงบด้านความมั่นคงมากๆ จุดอ่อนของอเมริกานั้นอยู่ที่เศรษฐกิจ ซึ่งกำลังอ่อนแอเพราะรัฐบาลจ่ายเงินอุดหนุนการทหารและความมั่นคงไปอย่างมหาศาล”

    “การจะทำให้อเมริกาตกอยู่ในภาวะตึงเครียดและคาดเดาไปต่างๆนานานั้น เพียงแค่อาศัยแผนโจมตีที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง อย่างที่เราเคยเอาชนะมาแล้วทั้งในโซมาเลีย, เยเมน, อิรัก และอัฟกานิสถาน ดังนั้นเราจงทำสงครามบนผืนแผ่นดินของพวกเขาเองด้วย”

    ซอวาฮีรี ชี้ว่า การโจมตีอาจจะกระทำโดยคน 2-3 คน ก็ได้ และช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อปฏิบัติการครั้งใหญ่นั้นคุ้มค่า “แม้จะต้องอดทนรอนานหลายปีก็ตาม”

    ผู้นำอัลกออิดะห์ยังเอ่ยถึงเหตุลอบวางระเบิดงานแข่งขันกรีฑา “บอสตันมาราธอน” เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บกว่าร้อยคน

    “เหตุการณ์ที่บอสตันเตือนให้ชาวอเมริกันรู้ว่า พวกเขากำลังหลอกตัวเองมากแค่ไหน และไม่ยอมรับความจริงซึ่งชัดแจ้งราวกับแสงตะวันว่า พวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับคนไม่กี่คน หรือกลุ่มองค์กรบางกลุ่ม แต่เป็นประชาชาติมุสลิมที่ลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องจิตวิญญาณ, เกียรติยศ และศักยภาพของพวกเราเอง”

    บทแปลโดยศูนย์ SITE ยังระบุด้วยว่า ซอวาฮีรี เรียกร้องให้นักรบญิฮาดในซีเรียปฏิเสธความร่วมมือกับกลุ่มอื่นๆที่ไม่ใช่อิสลามิสต์


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2556 10:35 น.
     
  14. Proud&Prime

    Proud&Prime Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    38
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +74
    “กมฺมุนา วตฺตตีโลโก....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
     
  15. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    วอลล์สตรีทเผย “ซีเรีย” กระจายอาวุธเคมีไว้กว่า “50 จุด” ทั่วประเทศ เลี่ยงสหรัฐฯตรวจจับ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2556 12:09 น.
    [​IMG]
    แผนที่แสดงสถานที่ผลิตและเก็บอาวุธเคมีในซีเรีย (ภาพ: NTI)

    เอเอฟพี – รัฐบาลซีเรียนำอาวุธเคมีไปเก็บซ่อนในสถานที่ต่างๆราว 50 แห่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของสหรัฐฯ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลรายงาน วานนี้(12)

    วอลล์สตรีท อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯและตะวันออกกลาง ซึ่งเผยว่า ซีเรียมีคำสั่งให้ทหารหน่วยพิเศษเคลื่อนย้ายอาวุธและแก๊สพิษไปยังสถานที่เก็บซ่อน ซึ่งก่อให้เกิดข้อกังขาว่า แผนของรัสเซียที่เสนอให้ดามัสกัสส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้นานาชาติดูแลนั้น จะประสบความสำเร็จได้จริงหรือไม่

    เจ้าหน้าที่เหล่านี้เตือนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ยากลำบากกว่าเดิม

    รัฐบาลวอชิงตันอ้างรายงานข่าวกรองว่า มีพลเรือนซีเรียถูกโจมตีด้วยแก๊สพิษเสียชีวิตราว 1,400 ศพที่ชานกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม โดยในจำนวนนั้นเป็นเด็กเล็กๆถึง 400 คน

    วอลล์สตรีท รายงานว่า ทหารจาก “หน่วย 450” ของซีเรียรับผิดชอบขนย้ายอาวุธเคมีออกไปเก็บซ่อนตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่หลายเดือนก่อนเรื่อยมาจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่และนักการเมือง

    แต่เดิมนั้น อาวุธเคมีของซีเรียจะถูกเก็บไว้ในคลังแสงหลายแห่งทางภาคตะวันตกของประเทศ แต่เมื่อราวๆ 1 ปีที่ผ่านมาอาวุธเหล่านี้เริ่มถูกขนย้ายไปเก็บตามคลังแสงใหญ่ๆราว 20 จุด คลังย่อยอีกหลายสิบจุด

    วอชิงตันเชื่อว่า เวลานี้อาวุธเคมีของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด น่าจะกระจัดกระจายอยู่ไม่น้อยกว่า 50 แห่งในเมืองทางตะวันตกและทางใต้ของซีเรีย รวมไปถึงคลังเก็บอาวุธที่สร้างใหม่ในภาคตะวันออกด้วย

    หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯและอิสราเอลเชื่อว่า พวกเขาพอจะทราบว่าอาวุธเคมีส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ที่ใดบ้าง แต่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ยอมรับกับวอลล์สตรีทว่า “เราล่วงรู้สถานที่เก็บซ่อนอาวุธเคมีของซีเรียน้อยลงกว่าเมื่อช่วง 6 เดือนที่แล้วพอสมควร”

    แม้สหรัฐฯจะใช้ดาวเทียมติดตามความเคลื่อนไหวยานพาหนะของทหารหน่วย 450 แต่บางครั้งก็ไม่อาจทราบได้ว่า สิ่งของที่ถูกขนมาบนรถคืออะไร
     
  16. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สื่อมะกันแฉซีเรียย้ายที่เก็บอาวุธเคมีตลอดเวลา
    วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 11:36 น.
    [​IMG]
    หนังสือพิมพ์ "เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล" รายงานว่า กองทัพซีเรียย้ายสถานที่เก็บอาวุธเคมีตลอดเวลา เพื่อให้ยากแก่การตรวจจับผ่านดาวเทียมของสหรัฐ


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ก.ย. หนังสือพิมพ์ "เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล" ของสหรัฐ ตีพิมพ์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี โดยอ้างอิงแหล่งข้อมูลจากแหล่งข่าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐและอีกหลายประเทศในแถบตะวันออกกลาง ว่ากองทัพซีเรีย "หน่วย 450" มีหน้าที่เคลื่อนย้ายและสับเปลี่ยนสถานที่เก็บอาวุธเคมีไม่ต่ำกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างความสับสนให้แก่หน่วยข่าวกรองสหรัฐ ที่แน่นอนว่า กำลังจับตาความเคลื่อนไหวของรัฐบาลดามัสกัสอย่างใกล้ชิดทุกฝีก้าวในเวลานี้ ด้วยการใช้ดาวเทียมประสิทธิภาพสูง

    รายงานระบุด้วยว่า การเคลื่อนย้ายสถานที่เก็บอาวุธเคมีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้หลายฝ่ายเกิดข้อกังขาทันทีว่า แผนการของรัสเซียจะได้ผลแค่ไหน หากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงขึ้นมา นอกจากนี้ หากสหรัฐตัดสินใจใช้ปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรียจริงจะต้องเกิดปัญหาตามมาแน่นอน เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดอีกต่อไปว่า สถานที่เก็บอาวุธเคมีคือที่ใดบ้าง

    ข้อเขียนของเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ได้รับการนำออกสู่สายตาสาธารณชน วันเดียวกับที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ประกาศด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก พร้อมมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรสากล แต่สหรัฐต้องหยุดแสดงท่าทีคุกคามดามัสกัสด้วยเช่นกัน

    สื่อมะกันแฉซีเรียย้ายที่เก็บอาวุธเคมีตลอดเวลา | เดลินิวส์
     
  17. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สหรัฐปฏิเสธข้อต่อรองมอบอาวุธเคมีของซีเรีย
    วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 10:08 น.
    [​IMG]
    สหรัฐปฏิเสธข้อเสนอของซีเรีย ที่ขอเวลาเตรียมข้อมูลอาวุธเคมี 30 วัน หากใบสมัครเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมีผ่านการอนุมัติจากสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ขณะที่ดามัสกัสให้เหตุผลที่ต้องขอเวลาเพิ่มว่า เพราะสหรัฐ "ไว้ใจไม่ได้"


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ว่านายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี หลังเสร็จสิ้นการหารือในเรื่องซีเรียกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ว่าข้อต่อรองของรัฐบาลซีเรีย ที่ต้องการต่อเวลาออกไปอีก 30 วัน หากสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) อนุมัติให้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี ( ซีดับเบิลยูซี ) ด้วยการอ้างว่าเพื่อเตรียมข้อมูลเพิ่ม ถือเป็นเหตุผลที่ปราศจากน้ำหนักโดยสิ้นเชิง

    แคร์รียังคงยืนยันด้วยว่า ปฏิบัติการโจมตีทางทหารของสหรัฐต่อซีเรียจะเกิดขึ้นแน่นอน หากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงในอนุสัญญาแม้เพียงข้อเดียวก็ตาม นอกจากนี้ การที่ผู้นำซีเรียประกาศปฏิบัติตามข้อเสนอของรัสเซีย ซึ่งขอให้ดามัสกัสมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรสากล ก็ถือเป็นคำตอบได้แล้วว่า อัสซาดใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ดังนั้น หากดามัสกัสต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็ควรเริ่มกระบวนการเปิดเผยอาวุธเคมีของตัวเองได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้

    ถ้อยแถลงอันดุดันของแคร์รีเกิดขึ้นเพียงไม่นาน หลังสถานีโทรทัศน์ "รอสซิยา 24" ของรัสเซีย ออกอากาศเทปบันทึกการสัมภาษณ์อัสซาด ซึ่งผู้นำซีเรียกล่าวในตอนหนึ่งว่า พร้อมปลดอาวุธเคมีทั้งหมดที่มีอยู่แน่นอน "ภายใน 30 วัน" หากยูเอ็นอนุมัติเอกสารของเขา แต่สหรัฐก็ต้องออกมายืนยันเช่นกันว่า จะหยุดข่มขู่ใช้กำลังทางทหารต่อซีเรีย และหยุดมอบความช่วยเหลือให้แก่กลุ่มกบฏด้วย ก่อนจะกล่าวขอบคุณรัสเซียที่เป็นผู้ผลักดันแนวทางนี้ เนื่องจากซีเรียไม่มีทางมอบความเชื่อมั่นให้สหรัฐเป็นแกนนำในเรื่องนี้แน่นอน


    สหรัฐปฏิเสธข้อต่อรองมอบอาวุธเคมีของซีเรีย | เดลินิวส์
     
  18. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    โอบามายินดีข้อตกลงปลดอาวุธเคมีซีเรีย
    วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2556 เวลา 15:54 น.
    [​IMG]
    โอบามาแสดงความยินดีข้อตกลงปลดอาวุธเคมีของซีเรีย แต่ก็ย้ำเตือนว่า รัฐบาลซีเรียต้องปฏิบัติตามข้อตกลง เพราะสหรัฐเตรียมพร้อมอยู่แล้วที่จะจัดการกับซีเรีย เช่นเดียวกับจีนก็แสดงความยินดีด้วย


    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ แสดงความยินดีข้อตกลงปลดอาวุธเคมีของซีเรียเมื่อวานนี้ แต่กล่าวว่า ยังคงมีอะไรให้ทำอีกเยอะ และเตือนรัฐบาลดามัสกัสให้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวด้วย ในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง ผู้นำสหรัฐระบุว่า หากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ไม่ดำเนินการตามข้อตกลงที่ทางสหรัฐผ่านความเห็นชอบกับรัสเซีย พันธมิตรสำคัญของซีเรีย สหรัฐยังคงเตรียมพร้อมที่จะจัดการกับซีเรียอยู่


    ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวด้วยว่า ข้อตกลงฉบับนี้เป็นการส่งเสริมคำขู่ของผู้นำสหรัฐให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ในการใช้กำลังทหารต่อซีเรีย เพื่อเป็นการลงโทษการใช้อาวุธเคมีต่อพลเรือนเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งสหรัฐระบุว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน ขณะที่ รัฐบาลรัสเซีย ระบุว่าเป็นฝีมือของฝ่ายกบฏ ข้อตกลงทำลายอาวุธเคมีของซีเรีย ถือเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิกฤติซีเรีย เนื่องจาก 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้

    ประธานาธิบดีโอบามาดูเหมือนว่าเตรียมสั่งยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรียอยู่แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายความสามารถในการใช้อาวุธเคมีของซีเรียในอนาคต


    ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ เรามีโอกาสที่จะทำให้วัตถุประสงค์ของเราประสบความสำเร็จผ่านการแก้ปัญหาทางการทูต โดยข้อตกลงใหม่นี้ กำหนดให้เวลาซีเรีย 1 สัปดาห์ในการแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธเคมีที่เก็บสะสมอยู่ทั้งหมด และกล่าวว่า ซีเรียต้องเปิดทางให้คณะตรวจสอบอาวุธระหว่างประเทศเข้าไปตรวจสอบได้อย่างอิสระตามเป้าหมายกำจัดอาวุธเคมีภายในกลางปีหน้า


    ด้านหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ก็แสดงความยินดีในวันนี้ ต่อข้อตกลงระหว่างสหรัฐและรัสเซียในการกำจัดอาวุธเคมีของซีเรีย ซึ่งทำให้สหรัฐต้องเลื่อนการโจมตีรัฐบาลนายอัสซาด ข้อตกลงนี้ทำให้ความตึงเครียดในซีเรียผ่อนคลายลง โดยหวัง อี้ กล่าวระหว่างประชุมกับนายโลรองต์ ฟาบิอุส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

    โอบามายินดีข้อตกลงปลดอาวุธเคมีซีเรีย | เดลินิวส์
     
  19. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ยันมะกันขู่ซีเรียยังเป็นเรื่องจริง
    วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2556 เวลา 22:22 น.
    [​IMG]
    รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เผยคำขู่ใช้ปฏิบัติการทางทหารถล่มซีเรีย ยังเป็นเรื่องจริงอยู่ แม้จะทำข้อตกลงไปแล้วกับรัสเซียว่าด้วยการทำลายอาวุธเคมีในครอบครองของซีเรียก็ตาม

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ว่า นายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐ แถลงข่าวที่กรุงเยรูซาเล็ม ร่วมกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระหว่างการเยือนอิสราเอลว่า คำขู่เรื่องใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย เพื่อตอบโต้กรณีรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนของตนเอง นอกกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,400 ศพนั้น ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่และเป็นเรื่องจริง เพราะเราไม่อาจปล่อยให้คำพูดที่ไม่มีความหมาย ปรากฏอยู่ในการปฏิบัติต่อกิจการระหว่างประเทศได้

    ถ้อยแถลงของรมว.ต่างประเทศสหรัฐมีขึ้น หลังหารือร่วม 4 ชั่วโมง กับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรื่องข้อตกลงระหว่างสหรัฐกับรัสเซียว่าด้วยการทำลายอาวุธเคมีในครอบครองของซีเรีย รวมถึงประเด็นการเจรจาสันติภาพตะวันออกกลาง พร้อมกับกล่าวย้ำด้วยว่า ข้อเท็จจริงเรื่องการใช้อาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูง สังหารประชาชนในประเทศของตัวเอง ถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งไม่ควรจะให้เกิดขึ้น ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวด้วยว่า การทำลายอาวุธเคมีของซีเรียจะทำให้ภูมิภาคตะวันออกกกลางปลอดภัยขึ้นมาก

    ยันมะกันขู่ซีเรียยังเป็นเรื่องจริง | เดลินิวส์
     
  20. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ซีเรียเปรียบข้อตกลงอาวุธเคมีสหรัฐ-รัสเซียเป็น "ชัยชนะ" ครั้งสำคัญ
    วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2556 เวลา 09:38 น.
    [​IMG]
    ทางการซีเรียยกย่องข้อตกลงปลดอาวุธเคมีซีเรียระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ว่าเป็น "ชัยชนะ" ของดามัสกัส เนื่องจากเป็นการเลี่ยงไม่ให้เกิดสงคราม ขณะที่ฝรั่งเศสยังเตือนว่า ปฏิบัติการทางทหารยังมีสิทธิ์เกิดขึ้น หากดามัสกัสไม่ทำตามข้อตกลง

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 16 ก.ย. นายอาวี ไฮดาร์ รมว.กระทรวงปรองดองแห่งชาติของซีเรีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า การบรรลุข้อตกลงเพื่อแก้ไขวิกฤตอาวุธเคมีในซีเรียระหว่างนายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ที่นครเจนีวา ในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ซึ่งจะนำพาซีเรียหลุดพ้นออกจากวิกฤตที่กำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องการตกเป็นเป้าโจมตีทางทหารของสหรัฐ

    ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญในข้อตกลงระบุถึงการที่ซีเรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ครอบครองอาวุธเคมีมากที่สุดในโลก ต้องให้ความร่วมมือแก่องค์กรสากลในการตรวจสอบและทำลายอาวุธเคมีทั้งหมด ภายในปี 2557 แต่นับจากวันที่ข้อตกลงมีผล ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ต้องส่งรายงานระบุสถานที่เก็บอาวุธเคมีทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการใช้กำลังทางทหารของสหรัฐ ที่แคร์รียืนยันว่า วอชิงตันจะ "เอาจริง" หากอัสซาดไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงแม้เพียงข้อเดียว

    ขณะที่ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส ซึ่งประกาศตัวสนับสนุนภารกิจทางทหารของสหรัฐต่อซีเรียอย่างชัดเจน กล่าวแสดงความยินดีต่อการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวของสหรัฐและรัสเซีย แต่ย้ำเช่นเดียวกับแคร์รีว่า คำขู่เรื่องภารกิจทางทหารนั้นเป็นของจริง ดังนั้น ดามัสกัสจึงควรปฏิบัติตามข้อตกลงให้เร็วที่สุด

    ส่วนนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) มีกำหนดในวันนี้ ที่จะเผยรายงานผลการตรวจสอบหลักฐาน จากการลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ต้องสงสัยใช้อาวุธเคมีในซีเรียเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

    ซีเรียเปรียบข้อตกลงอาวุธเคมีสหรัฐ-รัสเซียเป็น "ชัยชนะ" ครั้งสำคัญ | เดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...