ติดตามสถานะการณ์

พนักงานใหม่ในโรงงานผลิตไอโฟนของบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ที่เมืองเจิ้งโจวแห่เก็บของ “กลับบ้าน” แล้วกว่า 20,000 คน หลังจากบริษัทสัญชาติไต้หวันยอมจ่ายเงิน 10,000 หยวน หรือราวๆ 50,000 บาท ให้กับพนักงานใหม่ที่สมัครใจลาออก ตามหลังประท้วงรุนแรง
.
แหล่งข่าวในฟ็อกซ์คอนน์ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์วันนี้ (25 พ.ย.) ว่า การลาออกของพนักงานใหม่เหล่านี้อาจกระทบแผนของบริษัทที่จะฟื้นกำลังผลิตอย่างเต็มรูปแบบภายในสิ้นเดือน พ.ย. ขณะที่ทางฟ็อกซ์คอนน์เองยังปฏิเสธที่จะความเห็น
.
ฟ็อกซ์คอนน์ได้แถลงขออภัยต่อ “ความผิดพลาดทางเทคนิค” ที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนงานลุกฮือประท้วงและเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
.
คลิปวิดีโอที่โพสต์ลงสื่อโซเชียลจีนวันนี้ (25) เผยให้เห็นคนงานจำนวนมากหิ้วกระเป๋าต่อแถวเพื่อรอขึ้นรถบัสออกจากโรงงานผลิตไอโฟนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่บางคนพูดว่า “ได้เวลากลับบ้านแล้ว”
.
การชุมนุมประท้วงภายในโรงงานไอโฟนที่เจิ้งโจวซึ่งลุกลามจนกลายเป็นเหตุจลาจลรุนแรงเมื่อวันพุธ (23) มีที่มาจากความโกรธแค้นของพนักงานที่ไม่ได้รับเงินเดือนค้างจ่าย รวมถึงความไม่พอใจต่อมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ต่อต้านขัดขืนที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในจีน
.
แหล่งข่าวในฟ็อกซ์คอนนี้อีกคนหนึ่งยืนยันว่า มีพนักงานใหม่จำนวนหนึ่งลาออกจากโรงงานที่เจิ้งโจวจริง แต่ไม่ขอระบุจำนวนที่แน่ชัด และยังเผยว่าการลาออกของพนักงานกลุ่มนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตในปัจจุบัน เนื่องจากพนักงานใหม่ยังจำเป็นที่จะต้องผ่านคอร์สการฝึกอบรมก่อนที่จะเริ่มงานจริง
.
เหตุประท้วงที่โรงงานไอโฟนเจิ้งโจวมีขึ้นในขณะที่จีนมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันพุ่งสูงทุบสถิติใหม่ และหลายเมืองเริ่มกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนอีกครั้ง ซึ่งสร้างความอิดหนาระอาใจต่อคนจีนทั้งประเทศ แต่ในขณะเดียวกันมันก็สะท้อนปัญหาด้านสื่อสาร รวมถึงความไม่เชื่อมั่นที่พนักงานบางกลุ่มมีต่อฝ่ายบริหารของฟ็อกซ์คอนน์ด้วย
.
ฟ็อกซ์คอนน์ได้ประกาศว่าจ้างพนักงานใหม่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยให้สัญญาว่าจะจ่ายโบนัสและให้เงินเดือนที่สูงเป็นพิเศษ หลังจากที่บริษัทจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 ในช่วงเดือน ต.ค. จนส่งผลให้มีพนักงานจำนวนมากแห่หลบหนีออกจากโรงงาน
.
ที่มา: รอยเตอร์

 

รัฐบาลกานากำลังวางแผนนโยบายใหม่ ในการใช้ทองคำซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันต่างๆ แทนทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเปิดเผยของรองประธานาธิบดีมาฮามาดู บาวูเมีย ที่เขียนบนเฟซบุ๊กเมื่อวันพฤหัสบดี(24พ.ย.)

ความเคลื่อนไหวนี้มีเจตนาจัดการกับทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดน้อยลงของกานา ประกอบกับอุปสงค์ดอลลาร์ที่ลดน้อยลงของบรรดาผู้นำเข้าน้ำมัน ท่ามกลางการอ่อนค่าของสกุลเงินเซดิและค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

ทุนสำรองระหว่างประเทศรวม (Gross International Reserves) อยู่ที่ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2022 (ราว2.4 แสนล้านบาท) เทียบแล้วครอบคลุมมูลค่าการนำเข้าไม่ถึง 3 เดือน ลดลงจากระดับราวๆ 9,700 ล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีที่แล้ว

บาวูเมีย กล่าวว่า "ถ้ามีการบังคับใช้ตามแผนที่วางเอาไว้ในไตรมาสแรกของปี 2023 นโยบายใหม่นี้จะเป็นเปลี่ยนพื้นฐานดุลการชำระเงินของเรา และจะช่วยลดการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินของเราได้อย่างมาก"

เขาอธิบายต่อว่า การใช้ทองคำจะป้องกันอัตราแลกเปลี่ยนจากการได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาเชื้อเพลิงและค่าสาธารณูปโภคที่พุ่งสูง ขณะเดียวกันบรรดาผู้ค้าภายในประเทศก็จะไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกต่อไป ในการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันทั้งหลาย "การใช้ทองคำแลกเปลี่ยนกับน้ำมัน เป็นการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างครั้งสำคัญ"

กานา เป็นชาติผู้ผลิตน้ำมันดิบ แต่พวกเขากลับต้องพึ่งพิงการนำเข้าผลิตภัณฑ์นำมันกลั่น เนื่องจากโรงกลั่นเพียงแห่งเดียวของพวกเขาถูกปิดใช้งาน หลังเกิดเหตุระเบิดในปี 2017

คำแถลงของบาวูเมีย มีขึ้นในขณะที่ เคน โอโฟริ-แอตตา รัฐมนตรีคลังได้แถลงมาตรการต่างๆ ในการลดการใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ ในความพยายามจัดการกับวิกฤตหนี้ที่ลุกลามของประเทศ

ในงบประมาณปี 2023 ที่นำเสนอต่อรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดี(24พ.ย.) รัฐมนตรีโอโฟริ-แอตตา เตือนว่ากานาอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงที่อาจต้องปรับโครงสร้างหนี้ และการอ่อนค่าของสกุลเงินเซดิ กำลังก่อผลกระทบร้ายแรงต่อความสามารถของกานา ในการบริหารจัดการหนี้สาธารณะของประเทศ

รัฐบาลอยู่ระหว่างเจรจาแพ็คเกจช่วยเหลือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ในขณะที่ชาติผู้ผลิตโกโก้ ทองคำและน้ำมันหแงนี้ กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจเลวร้ายในรอบหลายสิบปี

(ที่มา:รอยเตอร์)

 

Foxconn ผลิตไอโฟนในเจิ้งโจวยอมจ่ายพนง.เข้าใหม่ “5หมื่นบาท” ให้ลาออกทันที หลังเกิดประท้วงรุนแรง
.
.
.
.
.
เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(23 พ.ย)โรงงานFoxconn ฐานผลิตไอโฟนให้แอปเปิลในเมืองเจิ้งโจว ประกาศจ่ายพนักงานที่เพิ่งเข้าใหม่ 10,000 หยวน (1,400 ดอลลาร์) หรือราว 5หมื่นบาทให้ลาออกทันทีและเก็บของออกจากโรงงานกลับบ้านไปในความพยายามเพื่อยุติการประท้วงรุนแรงหลัง Foxconn ผิดสัญญาการจ่ายโบนัสจนทำให้พนักงานไม่พอใจ
.
ฟอร์จูนรายงานวันนี้(24 พ.ย)ว่า ข้อความที่ส่งออกมาจากแผนกทรัพยากรบุคคลไปยังพนักงาน Foxconn ในวันพุธ(23)ซึ่ง CNN สื่อสหรัฐฯมีโอกาสได้เห็น
.
มีใจความเร่งให้บรรดาพนักงานต่างกลับไปยังหอพักของตัวเองภายในแคมปัส พร้อมกันนี้ Foxconn ยังตกลงที่จะจ่ายให้กับพนักงานจำนวน 8,000 หยวน (1,100 ดอลลาร์) หากว่ายอมลาออกจากงานทันที และอีก 2,000 หยวน( 300 ดอลลาร์) หากว่ายอมขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางออกไปโดยพร้อมเพรียง โดยเป็นจำนวนรวม 10,000 หยวน (1,400 ดอลลาร์) หรือราว 5หมื่นบาท
.
ทั้งนี้บลูมเบิร์กชี้ว่า โบนัสก้อนนี้มีจำนวนที่มากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของพนักงานเสียอีก
.
“มีพนักงานบางส่วนยังคงวิตกเกี่ยวกับโรคโควิด-19และคาดหวังที่จะลาออกและกลับบ้านไป” บริษัทFoxconnกล่าวในคำประกาศ พร้อมชี้ว่า ทางบริษัทเข้าใจอย่างดีต่อความวิตกของพนักงานเหล่านี้
.
คำประกาศข้อเสนอการจ่ายก้อนโตให้กับพนักงานใหม่ของโรงงาน Foxconn ออกมาไม่กี่ชั่วโมงหลังมีรายงานการประท้วงของพนักงานอย่างรุนแรงที่แคมปัสโรงงานในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ซึ่งมีจำนวนพนักงานทั้งหมด 300,000 คน
.
ฟอร์จูนรายงานว่า พนักงานต่างเดินทางออกไปจากหอพักของตนในเช้าวันพุธ(23)โกรธแค้นที่ไม่ได้รับเงินเดือนค้างจ่ายและวิตกกังวลถึงการระบาดโรคโควิด-19ภายในเวลาเดียวกัน พบว่าพนักงานเกิดปะทะกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงานและตำรวจปราบจลาจลจีนเข้ามาทำหน้าที่ให้ความเรียบร้อยกลับคืนมา
.
อย่างไรก็ตามในแถลงการณ์วันพุธ(23) Foxconn ยืนยันการเกิดประท้วงว่ามีการเกิดเหตุขึ้นจริงแต่ปฎิเสธรายงานที่อ้างว่า มีพนักงานป่วยโควิด-19จำนวนหนึ่งที่มีผลการตรวจเป็นบวกอยู่ภายในหอพักโรงงาน
.
เจ้าหน้าที่เมืองแถลงวันพุธ(23)ว่า พื้นที่เขตในเมืองของเจิ้งโจวจะถูกสั่งล็อกดาวน์ตั้งแต่วันศุกร์(25)ไปจนถึงวันที่ 29 นี้ ซึ่งเมืองเจิ้งโจวมีฉายาว่า “เมืองไอโฟน” เนื่องมาจากเป็นฮับซัพพลายเชนส์ให้กับบริษัทแอปเปิลนั้นในวันพุธ(23)มีรายงานเคสโควิด-19 เกือบ 1,000 เคส
.
CNN รายงานว่า เกิดการประท้วงขึ้นคืนวันอังคาร(22)สำหรับเงื่อนไขของค่าตอบแทนลูกจ้างใหม่และความวิตกเกี่ยวกับโควิด19 ต่อสุขภาพของคนเหล่านั้น และการประท้วงกลายเป็นความรุนแรงในวันพุธ(23) โดยเป็นการปะทะระหว่างกลุ่มพนักงานและแผงกำลังจำนวนมากของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีเจ้าหน้าที่ SWAT ของจีนรวมอยู่ในนั้น
.
หนึ่งในพยานได้เปิดเผยกับ CNN ว่า ในเวลาราว 22.00 น.การประท้วงยุติลงจากการที่พนักงานเดินทางกลับไปที่หอพักของตัวเองและรับค่าตอบแทนตามข้อเสนอของบริษัทและในเวลาเดียวกันวิตกว่าจะมีการสลายที่รุนแรงขึ้นโดยฝีมือของเจ้าหน้าที่
.
โรงงานผลิตไอโฟนที่เจิ้งโจวเกิดการระบาดโควิด-19มาตั้งแต่ตุลาคมส่งผลทำให้โรงงานต้องสั่งล็อกดาวน์ และทำให้พนักงานแห่กันออกไปเป็นจำนวนมาก แต่ในเวลาต่อมา Foxconn ได้ประกาศการว่าจ้างใหม่จำนวนมากที่เห็นมีคนไม่ต่ำกว่า 100,000 คนร่วมลงชื่อในตามตำแหน่งที่สนใจ อ้างอิงการรายงานจากสื่อจีน
.
ทั้งนี้จากเอกสารแจ้งเรื่องเงินเดือนของกลุ่มพนักงานจ้างใหม่ พบว่าลูกจ้างชุดใหม่ได้รับคำสัญญาจะได้รับโบนัสจำนวน 3,000 หยวนหลังทำงานครบ 30 วันและจะได้รับอีก 3,000 หยวนเมื่อทำงานผ่านไปครบ 60 วัน
.
แต่ทว่าเมื่อพนักงานชุดใหม่เดินทางไปถึงโรงงานกลับพบว่า บริษัทบอกลูกจ้างว่าพวกเขาจะได้โบนัสงวดแรกในวันที่ 15 มี.ค และก้อนที่ 2 ในเดือนพฤษภาคมซึ่งหมายความว่าคนเหล่านี้ต้องทำงานช่วงเวลาตรุษจีนที่เริ่มตั้งแต่มกราคม ปี 2023 เพื่อให้ได้โบนัสก้อนแรก
.
หนึ่งในคนงานชี้ว่า สิ่งที่บอกไม่เป็นไปตามสัญญาและพนักงานรู้สึกว่าถูกโกง และในแถลงการณของ Foxconn วันพฤหัสบดี(24)ได้ออกมาขอโทษพร้อมกับอ้างว่าเป็นความผิดพลาดในการป้อนข้อมูลทางคอมพิวเตอร์แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทยืนยันว่า การจ่ายโบนัสจะเป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้แต่แรก
.
CNN รายงานว่า เช้าวันพฤหัสบดี(24)มีพนักงานบางส่วนที่ตกลงยอมออกไปและรับเงินจ่ายงวดแรกพร้อมกับแสดงการสตรีมมิงที่เห็นพนักงานกำลังตรวจโควิด-19ที่ด้านนอกขณะที่บางส่วนรอเพื่อขึ้นรถบัส และในเวลาต่อมามีจำนวนพนักงานเป็นจำนวนมากรอคอยเพื่อจะขึ้นรถบัสเดินทางออกไป

 

อินโดฯลดขอบเขตค้นหาเหยื่อดินถล่ม
ยอดล่าสุด271-พบเด็กรอดปาฏิหาริย์

เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียลดขอบเขตการค้นหาเป็นบริเวณดินถล่มที่เชื่อว่า มีคนติดอยู่นับสิบ หลังเหตุแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 271 คน ซึ่งกว่า 1 ใน 3 เป็นเด็ก เจ้าหน้าที่ระบุว่า โอกาสพบผู้รอดชีวิตน้อยลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธ (23 พ.ย.) พบเด็กวัย 6 ปีรอดปาฏิหาริย์หลังติดใต้ซากบ้าน 2 วัน

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนมากจากทั้งหมดกว่า 1,000 คนใช้รถขุด สุนัขดมกลิ่น อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณชีพ เครื่องสกัดคอนกรีต หรือแม้กระทั่งมือเปล่า เพื่อเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตในหมู่บ้านซิเจนดิลซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดหลังจากแผ่นดินไหวเมื่อวันจันทร์ทำให้ดินถล่มตามมา และเชื่อว่า มีเหยื่อติดอยู่ใต้กองดินและซากอาคารบ้านเรือนราว 40 คนในเขตคูเกนัง

เฮนรี่ อัลฟิอันดี ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ แถลงในวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) ว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังตรวจสอบให้แน่ใจว่า ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติไม่มีผู้รอดชีวิตที่จำเป็นต้องอพยพอีก พร้อมตั้งความหวังว่า จะพบเหยื่อทั้งหมดเร็วๆ นี้

อัลฟิอันดีเสริมว่า เตรียมส่งเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำอาหารและน้ำไปส่งให้หมู่บ้าน 2 แห่งที่ถนนใช้การไม่ได้ เขายังบอกว่า โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังหลังแผ่นดินไหวผ่านไป 3 วันน้อยลงเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่อาฟเตอร์ช็อกจะทำให้ดินถล่มมากขึ้นบริเวณเนินดินที่ชุ่มน้ำฝน ซึ่งทำให้ภารกิจค้นหาและกู้ภัยล่าช้าลง

เมื่อวันพุธเจ้าหน้าที่พบผู้รอดชีวิตเป็นเด็กชายวัย 6 ปีที่ติดอยู่ใต้ซากบ้านที่ถล่มลงมานาน 2 วัน โดยมีที่นอนช่วยบังตัวอยู่

ในวิดีโอที่หน่วยดับเพลิงท้องถิ่นโพสต์เผยให้เห็นเด็กชายคนดังกล่าวที่ชื่อ แอสกา ดูเหมือนยังมีสติและไม่ได้ตื่นตกใจใดๆ ตอนที่ถูกอุ้มขึ้นมาอย่างปลอดภัยและไร้ร่องรอยบาดเจ็บ โดยแพทย์บอกว่า เด็กชายแค่อ่อนเพลียจากความหิวเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวอีกกว่า 2,000 คน และประชาชนอย่างน้อย 61,000 คนต้องทิ้งบ้านไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพและสถานที่พักพิงอื่นๆ หลังจากบ้านเรือนอย่างน้อย 56,000 หลังได้รับความเสียหาย

สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติแถลงว่า สถานที่สาธารณะ 171 แห่งเสียหาย ซึ่งรวมถึงโรงเรียน 31 แห่ง ซูฮาร์ยันโต ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ เผยว่า ในบรรดาผู้ได้รับการยืนยันเสียชีวิต 271 คน เป็นเด็กถึง 100 คน ขณะที่ความพยายามในการกู้ภัยถูกระงับชั่วคราวเมื่อวันพุธเนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก

แผ่นดินไหวเมื่อวันจันทร์ที่วัดความแรงได้ 5.6 นั้นปกติแล้วจะถูกคาดหมายว่า ไม่ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง แต่เนื่องจากเป็นการเกิดแผ่นดินไหวในระดับตื้นในพื้นที่ที่มีประชาชนหนาแน่นและขาดโครงสร้างพื้นฐานที่ต้านทานแผ่นดินไหว รายงานยังระบุว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาดเล็กต่อเนื่องจนถึงเช้าวันพฤหัสฯ

ทั้งนี้ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในเขตซีอันจูร์ที่เต็มไปด้วยภูเขา และมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 2.5 ล้านคน ซึ่งรวมถึงประชาชน 175,000 คนในเมืองหลักชื่อเดียวกัน

 

โปรดสังเกตุที่คลิป: ลือรอบใหม่! สื่ออังกฤษชี้ “ปูติน” ท่าจะไม่ไหวเห็นมือเกร็งเกาะเก้าอี้แน่นส่วนเท้าอยู่ไม่นิ่งระหว่างพบปธน.คิวบา
.
.
.
.
.
อเจนซีส์ – ภาพการหารือร่วมระหว่างประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และผู้นำคิวบาที่ทำเนียบเครมลินวันอังคาร(22 พ.ย)ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบใหม่เกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพของเขา หลังคลิปที่เปิดเผยออกมาสื่ออังกฤษชี้ว่า ดูเหมือนปูตินกำลังผจญกับปัญหาสุขภาพที่เห็นมือเกร็งเกาะเก้าอี้แน่นส่วนเท้าอยู่แทบไม่นิ่ง
.
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้(23 พ.ย)ว่า ภาพการหารือร่วมกันภายในพระราชวังเครมลินที่กรุงมอสโกวันอังคาร(22)ระหว่างประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดีคิวบา มิเกล ดิแอซ-กาเนล (Miguel Díaz-Canel) นั้นกำลังระบุว่า ผู้นำรัสเซียมีปัญหาสุขภาพ ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปรากฎในที่สาธารณะและยิ่งทำให้เสียงลือในทฤษฎีสมคบคิดนั้นกระจายมากขึ้น
.

นอกจากนี้ในวันถัดมาคือวันพุธ(23) ประธานาธิบดีรัสเซียถูกจับภาพในการประชุมอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เกิดขึ้นกับ ดมิตรี มาเซปิน( Dmitry Mazepin )ประธานกรรมการบอร์ดผู้อำนวยการบริหารอูราเคม กรุ๊ป (Uralchem Group)
.
โดยทั้งคู่นั่งตรงข้ามโต๊ะไม้ที่เขามักชอบใช้ในการประชุมหารือต่างๆรวมไปถึงการพบกับรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู เมื่อวันที่ 21 เม.ย ซึ่งสื่อวิพากษ์เมื่อเห็นปูตินใช้มือขวาเกร็งจับมุมโต๊ะไว้แน่น และในวันพุธ(23)ระหว่างสนทนากับมาเซปินพบว่าผู้นำรัสเซียใช้มือขวายึดมุมโต๊ะไว้เช่นเดิม
.
เดลีเมลรายงานหลายอาริยาบทของผู้นำรัสเซียในที่สาธารณะที่บ่งชี้ว่า เขากำลังต่อสู้กับปัญหาสุขภาพของตัวเองที่มีการลือว่าอาจกำลังป่วยด้วยโรคร้ายเช่น พาร์กินสัน หรือ โรคมะเร็ง เป็นต้นว่า วันที่ 4 พ.ย ปูตินดูเหมือนมีอาการกระเผลกเมื่อเขากำลังเดินไปถึงอนุสาวรีย์และดูเหมือนไม่สามารถที่จะโน้มตัวเพื่อวางชื่อดอกกุหลาบสีแดงสดได้ที่จตุรัสแดงเนื่องในวันหยุดประจำชาติรัสเซีย
.
สื่ออังกฤษชี้ว่า เมื่อต้นเดือนนี้มีอีเมลจำนวนหนึ่งจากแหล่งข่าวกรองรัสเซียรายหนึ่งที่ดูเหมือนยืนยันว่าผู้นำรัสเซียได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยโรคมะเร็งหรือโรคพาร์กินสัน อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์เดอะซัน
.
โดยอีเมลที่รั่วไหลที่เดอะซันได้เห็นมีใจความว่า “ผมสามารถยืนยันได้ว่า เขาได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยโรคพาร์กินสันระยะแรก แต่ทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะก้าวหน้าไปมากแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงนี้จะถูกปฎิเสธในทุกวิถีทางและจะถูกซ่อนไว้”

.

ข้อความยังบ่งชี้ว่า “ประธานาธิบดีปูตินได้รับสารเสตียรอยด์อย่างหนักและยาบรรเทาอาการปวดเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ถูกฉีดเพื่อจะหยุดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งตับอ่อนที่เขาเพิ่งได้รับการวินิจฉัยเมื่อไม่นานมานี้”
.
อีเมลกล่าวว่า “ซึ่งมันจะไม่ใช่แต่จะทำให้เขามีความเจ็บปวดมาก ปูตินยังมีอาการบวมที่ใบหน้าและผลข้างเคียงอื่น..รวมถึงความจำเสื่อม”
.
ผู้สนใจสามารถชมคลิปปูตินได้ที่ https://mgronline.com/around/detail/9650000112277

 

กรมตำรวจซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ กำลังยื่นขออนุญาตใช้หุ่นยนต์สังหารจัดการกับพวกเขาผู้ต้องสงสัย หากไม่มีทางเลือกอื่น สื่อมวลชนรายงานในวันพฤหัสบดี(24พ.ย.) อ้างอิงข้อเสนอทางนโยบายที่ยื่นถึงเจ้าหน้าที่ของเมือง

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า แม้หุ่นยนต์ของกรมตำรวจซานฟรานซิสโก ถูกออกแบบมาในเบื้องต้น สำหรับเก็บกู้วัตถุระเบิดและลาดตระเวณ แต่เจ้าหน้าที่เผยว่ามันสามารถถูกใช้ในฐานะทางเลือกสุดท้ายของการใช้กำลังถึงตายได้เช่นกัน

ในเอกสารยื่นขออนุมัติ ได้กำหนดกรอบแนวทางที่กรมตำรวจซานฟรานซิสโกจะใช้อุปกรณ์สไตล์ทหารทุกประเภท โดยทางกรมตำรวจซานฟรานซิสโกระบุว่า "หุ่นยนต์จะถูกใช้ในฐานะทางเลือกของการใช้กำลังถึงตาย เฉพาะตอนที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่จวนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเท่านั้น เช่นเดียวกับตอนที่มันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหนทางการใช้กำลังอื่นๆ สำหรับกองกำลังตำรวจซานฟรานซิสโก"

คณะผู้บริหารเมืองไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และได้สอดแทรกเส้นตายหนึ่งๆเข้าไป โดยเน้นว่า "หุ่นยนต์ไม่ควรถูกใช้ในฐานะการใช้กำลังกับบุคคลไหนๆ" อย่างไรก็ตามพอเอกสารคำขอดังกล่าวถูกตีกลับมาให้ทางกรมตำรวจซานฟรานซิสโกทบทวนใหม่ ทางตำรวจยืนกรานตามเดิมและส่งเอกสารเวอร์ชันดั้งเดิมกลับไปโดยมีการปรับแก้เล็กน้อย

เอกสารที่เผยแพร่โดย Mission Local เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่นในซานฟรานซิโก เมื่อวันอังคาร(22พ.ย.)อ้างคำสัมภาษณ์ของ แอรอน เปสกิน ประธานคณะกรรมการด้านกฎระเบียบของคณะกรรมการบริหารเมืองซานฟรานซิสโก แม้ว่าเขาใส่เส้นตายแบนการใช้กำลังสังหาร แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เห็นด้วยกับคำร้องของทางกรมตำรวจ ซึ่งระบุตัวอย่างอย่างเฉพาะเจาะจงของกรณีการใช้กำลังถึงตาย

สมาชิกคณะผู้บริหารเมืองทั้งคณะจะลงมติเกี่ยวกับนโยบายนี้ในวันอังคารหน้า(29พ.ย.) หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว ตำรวจในโอ๊คแลนด์ เมืองที่อยู่ใกล้กัน ได้ถอดถ้อยคำในเอกสารขออนุญาตแบบเดียวกันที่ยื่นต่อคณะผู้บริหารเมือง ในขณะที่กฎหมายระดับรัฐฉบับหนึ่งที่ผ่านความเห็นชอบเมื่อปีที่แล้ว กำหนดให้พวกเขาต้องรายงานเกี่ยวกับคลังแสงอาวุธด้านการทหารและวางกรอบสถานการณ์ที่พวกเขาจะใช้อาวุธเหล่านั้น

ตามข้อมูลในเอกสาร กรมตำรวจซานฟรานซิสโกมีหุ่นยนต์ 17 ตัวที่สามารถใช้เข้าไปยังอาคารต่างๆ จัดการกับวัตถุอันตราย จุดชนวนวัตถุระเบิด หรือสำรวจพื้นที่ต่างๆที่เขาไม่ถึง ไม่มีหุ่นยนต์ตัวไหนถูกออกแบบมาเพื่อฆ่า แต่กรมตำรวจดัลลัส เคยติดระเบิดพลาสติกไว้กับหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดตัวหนึ่งในปี 2016 เพื่อปลิดชีพมือปืนซุ่มยิงรายหนึ่งซึ่งก่อเหตุสังหารเจ้าหน้าที่ 5 นาย และปัจจุบันกรมตำรวจซานซานฟรานซิสโกก็มีหุ่นยนต์รุ่นเดียวกัน Remotec F5A ในคลังอาวุธด้วย

(ที่มา:อินดิเพนดนท์/อาร์ทีนิวส์)

 

สตูลพบลักลอบสร้างช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-มาเลเซียลำเลียงสิ่งผิดกฏหมายเชื่อผุดหลังโควิดคลี่คลาย ทางการเร่งรวบรวมหลักฐานจับตัวการใหญ่เชื่อเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยว
.
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอควนโดน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และกำลัง พ.อ.เรวัติ เซ่งเข็ม ผบ.ทหารร้อย ร. 5 พัน 2 พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทะเลบัน กอ.รมน. บูรณกำลังตำรวจ สภ.ควนโดน และอีกหลายฝ่าย เฝ้าติดตามขบวนการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
.
ล่าสุดนายอำเภอควนโดน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีการลักลอบใช้เส้นทางธรรมชาติหลบหลีกเจ้าหน้าที่เพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะยาเสพติดและเชื่อว่าเป็นเส้นทางค้ามนุษย์ รวมทั้งสินค้าหลบหนีภาษีบางชนิด ในพื้นที่ตลาดนัดชายแดนวังประจัน หมู่ที่ 4 ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล
.
จากการเข้าตรวจสอบของกำลังเจ้าหน้าที่พบว่ามีการสร้างบันไดลิงที่ทำขึ้นเอง มีความสูงประมาณ 150 ถึง 200 เมตร (เส้นทางขึ้นอยู่บริเวณด้านหลังร้านค้าภายในตลาดชายแดนติดเขา เพื่อบังตาคนที่ผ่านไปมา) โดยเส้นทาง ขึ้นไปบนเขา ซึ่งเป็นรอยต่อรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย โดยตลอดเส้นทางเดินพบร่อยรอยการตัดไม้เพื่อเคลียร์เส้นทางและพบขยะขวดน้ำดื่ม กาแฟ ขนม จำนวนมากรวมทั้งเพิงพักหลบฝน โดยตลอดเส้นทางเดินยาวร่วม 1 กิโลเมตร ที่จะข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับเส้นทางขึ้นยังอยู่ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายฝ่ายชายแดนผ่านไปมาตลอดเวลากลับไม่มีใครรู้เห็น
.
ทั้งนี้นายอำเภอควนโดน ได้สั่งให้มีการทำลายเส้นทางลักลอบหลบหนีเคลื่อนย้ายสิ่งผิดกฎหมายทางธรรมชาติ โดยกำลังทหารนำลวดหนามหีบเพลงเข้าปิดช่องโหว่และเฝ้าเวรยามอย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่าเส้นทางนี้มีการทำขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ใช้ลำเลียงสิ่งเสพติด และเชื่อว่าเป็นเส้นทางค้ามนุษย์ในการข้ามไปเพื่อนบ้านได้ง่าย การข่าวยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนเข้าไปเอี่ยวรู้เห็นการกระทำผิดในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเข้มงวดและตรวจตราอย่างใกล้ชิดทุกช่องทางธรรมชาติ
.
พร้อมกันนี้นายพีรพัฒน์ กล่าวว่า ชาวบ้านได้รายงานถึงการเปิดเส้นทางธรรมชาติดังกล่าว ได้เริ่มมีขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย 1 เดือน หลังมีการรื้ออาคารร้านค้าก็พบว่ามีรถยนต์ 6 คันและรถจักรยาน 40 คัน มาจอดตี 3 และ 6 โมงเช้าบริเวณนี้ซึ่งไม่มีร้านค้า ไม่มีสวนชาวบ้าน ทางการจึงได้พิกัดในการรื้อถอนการขึ้นลงทั้งหมด ทำให้การลำเลียงยากขึ้น แต่ขั้นตอนต่อไปต้องหาตัวการใหญ่ให้ได้ซึ่งได้รายงาน กอ.รมน.ในการเร่งดำเนินการต่อไป
-------------------------------
แหล่งข่าว
https://siamrath.co.th/n/402388
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กับกองทัพสหรัฐฯ กำลังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันสุดขั้ว ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศกับยูเครน โดยคณะเจ้าหน้าที่ความมั่นคงประจำเทียบขาว และกระทรวงต่างประเทศ ต้องการสนับสนุนให้ยูเครนสู้รบกับรัสเซียต่อไป ในขณะที่กองทัพสหรัฐฯ มองว่าควรผลักดันให้มีการเจรจาเพื่อยุติสงคราม
.
กองทัพสหรัฐฯ นำโดย พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ (Gen. Mark Milley) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสหรัฐฯ ได้พยายามเสนอนโยบายการเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งผบ.สส.สหรัฐฯ ท่านนี้ พยายามผลักดันนโยบายดังกล่าวมาตลอดเกือบทั้งเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
.
พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ มองว่ามีโอกาสที่จะสามารถผลักดันการเจรจาสันติภาพให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งการขอเจรจาไม่ใช่การขอยอมแพ้ อีกทั้งยูเครนก็ยังสามารถยึดคืนเมืองเคอร์ซอน (Kherson) กลับมาได้ หลังจากที่รัสเซียถอนทัพออกไปจากเมืองนี้ แต่ผบ.สส.สหรัฐฯ มองว่าสงครามนี้ควรจะยุติลงก่อนที่จะมีการสูญเสียไปมากกว่านี้
.
แต่ทางด้านของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของผบ.สส.สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นนายแอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ หรือนายเจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการเจรจายุติสงคราม
.
ทั้งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ต่างก็ยืนยันที่จะเดินหน้าสนับสนุนทั้งด้านการเงิน การทหาร และการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้แก่ยูเครนต่อไป นอกเสียจากว่า นายวลาดิเมียร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky) ประธานาธิบดียูเครน และคณะรัฐมนตรียูเครน จะตัดสินใจประกาศขอเจรจายุติสงครามกับรัสเซียด้วยตนเอง
.
เช่นเดียวกับนายโจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ระบุว่า การจะเจรจาหรือไม่เจรจา ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาวยูเครน แต่จนถึงบัดนี้ รัฐบาลยูเครนภายใต้การนำของปธน.เซเลนสกี ก็ยังไม่มีท่าทีที่จะต้องการเจรจายุติสงคราม

-------------------------------
แหล่งข่าว
https://edition.cnn.com/.../ukraine-mark-milley...
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า โรคหัดได้คร่าชีวิตเด็ก 12 คนใน นครมุมไบในรัฐมหาราษฏระของอินเดีย และพื้นที่รอบนอก โดยมีเด็กเสียชีวิตรายแรกเมื่อช่วงวันที่ 26-27 ต.ค. และมีเด็กเสียชีวิตมากถึง 3 คนในช่วงดังกล่าว
.
ในรายงานระบุว่า มีเด็กป่วยเป็นโรคหัด 233 คนในปีนี้นับถึงวันพุธ ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีเด็กป่วยเพียง 92 คนและเสียชีวิต 2 คน โดยคาดว่าเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดที่ช้า และไม่ทันการ เนื่องจากเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 จนทำให้โรคหัดระบาดมากขึ้น ทั้งยังระบุว่า ได้รับรายงานเด็กเสียชีวิตจากโรคหัดรายล่าสุดเมื่อวันอังคารเป็นทารกอายุ 8 เดือนที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ
.
สื่อบีบีซี ระบุว่า โรคหัดเป็นโรคที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าโรคโควิด และทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงหลายอย่าง เช่น ไอ ผื่นคัน ไข้สูง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) จำนวน 2 เข็ม ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันการติดโรคหัดและหัดเยอรมันได้ถึงร้อยละ 99 และป้องกันการติดโรคคางทูมได้ร้อยละ 88 ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวทุก ๆ 10 คน จะมีผู้ที่สามารถติดโรคหัดได้มากถึง 9 คน

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.hindustantimes.com/.../8monthold-child-latest...

https://www.bbc.com/news/world-asia-india-63739835

https://tna.mcot.net/world-1064454
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

รวบแล้ว! หนุ่มแสบโพสต์หลอกขายเพชรปลอม อ้างโควิดระบาดเงินขาดสภาพคล่อง
.
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท. นำกำลังตำรวจ บช.สอท. ร่วมกันจับกุมนายรติพรรณ ภูโสภา อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ.508/2565 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ความผิดฐานฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยจับกุมได้ บริเวณ ห้องที่100 ชั้น4 อาคารภาวนาวิลเลี่ยน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.
.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหายซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.หางดง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความทางออนไลน์ ว่าได้ซื้อเครื่องประดับเพชรผ่านเพจ “รติพรรณ เจมส์ แอนด์ จิวเวลลี่ ” โดยมีนายรติพรรณ ภูโสภา เป็นเจ้าของ และเมื่อเทียบแบบและราคากับร้านอื่นพบว่ามีราคาถูกกว่าจึงหลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้อ แต่ผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจัดส่งจิวเวอรี่ให้ตามนัดจึงพบความผิดปกติ ก่อนจะตรวจสอบพบว่าภาพที่นำมาประกาศในเพจเป็นภาพของจิวเวลลี่ที่ขายให้กับบุคคลอื่นไปก่อนหน้านี้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกและได้พยายามทวงถามขอเงินคืนแต่ผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยง จึงแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
.
ต่อมาทางบช.สอท. ได้ทำสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ที่อาคารภาวนาวิลเลี่ยน จึงนำกำลังจับกุม ทั้งนี้สอบสวนให้การว่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งอาศัยเคยมีความรู้จากการทำร้านเพชร ประกอบกับในช่วงโควิดเกิดขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงทำให้เริ่มหลอกลวงลูกค้าโดยนำภาพเครื่องประดับของบุคคลอื่นมาโพสต์ขาย ซึ่งตนเองไม่มีอยู่จริง มาโพสต์ขายในเพจเฟสบุ๊ค “รติพรรณ เจมส์ แอนด์ จิวเวลลี่ ” ขายเพชร มาประมาณ 8 ปี ต่อมาในช่วงโควิดเกิดขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงทำให้ลงมือหลอกลวงลูกค้าโดยนำภาพเครื่องประดับของบุคคลอื่นมาโพสต์ขาย โดยมีการย้ายร้านมาประมาณ 3 ครั้ง ก่อนมาถูกจับ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่าผู้ต้องหารายนี้ยังเปิดเพจ Facebook หลอกลวงให้ประชาชนเช่าบูชาท้าวเวชสุวรรณวัดจุฬามณี อีกด้วย
.
อีกทั้งมีผู้เสียหาเข้าแจ้งความไว้อีกหลายท้องที่ ทั้ง สภ.นาหินลาด สภ.เมืองปทุมธานี สน.บางเขน และสน.ประชาชื่น ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
#หลอกขายเพชรปลอม #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

กินส้มแถมยาปฏิชีวนะ!!! เตือน “อะม็อกซีซิลลิน” ตกค้าง ต้นตอดื้อยา - บางคนแพ้หนักถึงขั้นดับได้
.
เป็นที่รับรู้กันมาระยะหนึ่งแล้วว่า "ส้ม" นอกจากเป็นผลไม้อุดมไปด้วยสารเคมีตกค้าง โดยก่อนหน้านี้ในปี 2563 เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ Thai-PAN เคยตรวจวิเคราะห์ พบว่า ส้ม 1 ผล มีสารเคมีตกค้างมากถึง 55 ชนิด เฉลี่ยถึง 0.364 มิลลิกรัม เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย (MRL) ที่สำคัญเป็นสารเคมีตกค้างชนิดดูดซึมที่ไม่สามารถล้างออกได้ถึง 28 ชนิด
.
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ออกมาเตือนผลกระทบ กรณีพบผู้ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง นำยาปฏิชีวนะ “อะม็อกซีซิลลิน” มาฉีดให้ต้นส้ม เพื่อรักษาอาการกรีนนิ่ง แต่ยาชนิดนี้เมื่อตกค้างในส้ม จะทำให้คนที่บริโภคเข้าไปได้รับยาตัวนี้ไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการดื้อยาปฎิชีวนะในที่สุด
.
ล่าสุด ‘รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์’ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เตือนภัยสุขภาพอีกครั้ง หลังสื่อมวลชนอาวุโส ‘วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์’ โพสต์ภาพต้นส้มในพื้นที่อำเภอแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ มีขวดน้ำต่อสายยางเจาะเข้าไปในต้น ซึ่งเป็นน้ำผสมยาฆ่าเชื้อโรคคล้ายยาปฏิชีวนะฉีดให้ต้นไม้ โดยชาวบ้านบอกว่าหากไม่ฉีด ต้นไม้จะไม่แข็งแรงและเฉาตาย
.
รศ.ดร.เจษฎา ระบุว่า “จริงๆ มีรายงานเรื่องทำนองนี้มาหลายปีแล้วครับ แล้วก็เตือนกันมาโดยตลอดว่าไม่ควรทำครับ ผลเสียคือยามันจะตกค้างในผลส้ม เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้” อ้างอิงรายงานของทีมงานเพจ 'เภสัชกรชายแดน' เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2561 ที่ร่วมกับทีมทำงานในพื้นที่ชายแดนแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย ติดตามการนำยาปฏิชีวนะ อาม็อกซิลลิน (Amoxycillin) ไปใช้ในสวนส้ม ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านั้นราว 5 ปี ตั้งแต่มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งว่า สามารถใช้ยาปฏิชีวนะฉีดเข้าไปในต้นส้ม ผ่านท่อน้ำเลี้ยง ท่ออาหาร เพื่อกำจัดเชื้อคล้ายแบคทีเรีย (Bacteria like) ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดโรคกรีนนิ่งในต้นส้มได้
.
ทีมงานเภสัชกรชายแดน พบว่า ปัจจุบันเกษตรกรได้ทำกันอย่างแพร่หลาย โดยเกษตรกรจะไปซื้อยาปฏิชีวนะ Amoxycillin มาแกะเม็ดแคปซูลออก เอาแต่ผงยาออกมาละลายน้ำค้างไว้ 1 คืน หลังจากนั้นนำมากรองเอาแต่น้ำ ใส่ขวดแล้วนำมาฉีด โดย 1 ปีจะฉีด 3 ครั้ง ไม่เช่นนั้นส้มจะเหลืองและตาย
.
ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าเป็นกังวล และควรห้ามทำตามอย่างนี้ ได้แก่

- ทีมงานฯ พบผง Amoxycillin เกลื่อนพื้นดิน ซึ่งสามารถซึมสู่แหล่งน้ำใต้ดินต่อไปได้

- พบชาวสวนเกษตรกรสัมผัสผงยาโดยตรง

- ผู้บริโภคมีความเสี่ยงอย่างสูง ที่จะได้รับยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็นจากการตกค้างในผลส้มนำไปสู่สภาวะเร่งเร้าให้เกิดเชื้อดื้อยา (กลไกการย่อยสลายเปลี่ยนสภาพของยาปฏิชีวนะในคน กับในต้นไม้นั้นแตกต่างกัน จึงอาจจะทำให้เกิดการตกค้างของยาปฏิชีวนะในต้นส้มได้)

- ผู้บริโภคบางคนอาจแพ้ยาปฏิชีวนะที่ตกค้างในส้ม การที่แพ้ยาอาจจะแพ้ยาถึงขั้นแพ้แบบรุนแรงทั้งแบบ Steven-Johnson Syndrome และ
Toxic Epidermal Necrolysis (TEN) ที่เป็นการแพ้ยาที่มีความรุนแรงมาก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตจากการที่เซลล์ผิวหนังตาย
.
#ส้ม #ส้มเขียวหวาน #ยาปฏิชีวนะ #อะม็อกซีซิลลิน #โรคกรีนนิ่งในต้นส้ม #ดื้อยาปฎิชีวนะ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ฝนตกหนัก น้ำท่วมเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย

โลกโซเชี่ยลของชาวซาอุดิอาระเบีย เผยแพร่ภาพขณะที่เกิดน้ำท่วมในเมืองเจดดาห์ โดยมีน้ำท่วมท้องถนน ทำให้ต้องปิดเส้นทางมุ่งตรงสู่นครเมกกะ ขณะที่เที่ยวบินจำนวนมากถูกยกเลิก โรงเรียน และมหาวิทยาลัย ต้องปิดทำการ และมีภาพที่ท้องถนนและยานพาหนะหลายคันต้องจมอยู่ในน้ำท่วม หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนัก

ขณะที่ท่าอากาศยานคิง อับดุลลาซิส ประกาศด้วยว่าเที่ยวบินขาเข้าอาจล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบเที่ยวบินก่อนเดินทาง นอกจากนี้ฝนซึ่งตกลงมาอย่างหนักในนครเมกกะ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งผลักดันน้ำออกจากถนน และ เคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดทางให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าสักการะหินกาบะห์ หรือหินดำ ได้อย่างสะดวกอีกด้วย

#ซาอุดิอาราเบีย #ฝนตกหนัก #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

วิจัยเผย นั่งทำงานเกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน เสี่ยงโรครุมเร้า และตายเร็ว!!
.
สำหรับพนักงานออฟฟิศหรือใครที่ต้องนั่งทำงานติดเก้าอี้นานๆ และไม่ค่อยลุกขยับตัวบ้างนั้น คุณควรระวังสุขภาพไว้บางก็ดี เพราะมีผลงานวิจัยได้เผยออกมาว่า การนั่งทำงานนานๆ เกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน เสี่ยงตายก่อนวัยอันควรและมีหลายโรคอาจจะเข้ามาเล่นงานคุณได้
.
ที่ประเทศอังกฤษ การนั่งทำงานนานกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 70,000 คน จากการศึกษาวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Epidemiology and Community Health ในช่วงปี 2559-2560 ระบบบริการสาธารณสุขของประเทศอังกฤษมีค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลผู้ป่วยซึ่งเป็นผลจากการนั่งทำงานนานๆ กว่า 424 ล้านปอนด์ โรคหลอดเลือดหัวใจ 281 ปอนด์ โรคเบาหวาน 281 ปอนด์ และ มะเร็งลำไส้ใหญ่ 30 ล้านปอนด์
.
ทั้งนี้ผู้เขียนงานวิจัยจาก Queen’s University Belfast และ Ulster University ได้พบว่า 11.6% การเสียชีวิตของคนอังกฤษในปี 2559 เฉลี่ยประมาณ 69,000 ซึ่งเกิดจากการนั่งเป็นเวลาติดต่อกันนานเกินไป จากนั้นนักวิจัยได้รวบรวมข้อมูลจากการสำรวจเรื่องพฤติกรรมการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ของชาวอังกฤษเพื่อประเมินว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของโรคมากน้อยเพียงใด
.
นักวิจัยยังพบว่าผู้ที่นั่งทำงานน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน 17 % มะเร็งปอด 7.5 % และโรคหัวใจและหลอดเลือด 5%
.
หัวหน้าทีมวิจัย Leonie Heron กล่าวว่า แม้ว่าคุณทำกิจกรรมตามที่ NHS แนะนำโดย การออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ คุณยังมีความเสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาสุขภาพ หากคุณยังนั่งทำงานนานๆ ในแต่ละวัน
.
ที่มา : https://mono29.com/life/health/406672.html

 

อายุ 15 ก็ลงทุนได้! 7 ธ.ค.นี้ รัฐบาลเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ 6 หมื่นล้าน มั่นใจระดับหนี้สาธารณะปลอดภัย
.
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ เป็นต้นไป สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท โดยมีช่องทางจำหน่าย 2 ช่องทาง คือ 1)จำหน่ายพันธบัตรผ่านวอลเล็ต สบม. วงเงิน 15,000 ล้านบาท และจำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายสำหรับประชาชน วงเงิน 45,000 ล้านบาท
.
อ่านเพิ่มเติมที่ : https://mono29.com/news/407232.html
.
#พันธบัตรออมทรัพย์ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #MONO29

 

สลากดิจิทัล รับเงินรางวัลได้ทุกธนาคาร

สำหรับผู้ที่ซื้อสลากดิจิทัล ผ่านแอปฯ เป๋าตัง และถูกรางวัล จะสามารถเลือกรับเงินรางวัลผ่านแอปฯ และให้โอนเงินรางวัลไปยังบัญชีใด ๆ ได้ทุกธนาคารแล้ว โดยไม่ต้องรับเงินรางวัลผ่านธนาคารกรุงไทยเพียงอย่างเดียวเหมือนเดิม

โดยจะเริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2565 นี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ มีแผนในการเตรียมพัฒนาระบบโอนเงินอัตโนมัติเพิ่มเติมให้ผู้ถูกรางวัล แต่ไม่ได้ทำรายการรับเงินรางวัลในงวดต่าง ๆ ในช่วงเวลา 15 วันหลังการออกสลากฯ สามารถรับเงินเข้าบัญชีได้ทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ซื้อสลากกดิจิทัล

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ขณะนี้ ประชาชนสามารถซื้อสลากได้ทุกหมายเลขที่ต้องการ ในราคา 80 บาท หรือต่ำกว่า 80 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตัง งวดละ 16 ล้านฉบับ และจุดจำหน่ายสลาก 80 กระจายอยู่ทั่วประเทศอีก 1,047 จุด รวมมีสลากที่จำหน่ายไม่เกิน 80 บาท ตามราคาที่กำหนดอย่างน้อย 18.5 ล้านฉบับ

สำหรับในงวด 1 ธ.ค. นี้ จะเป็นการออกรางวัลสลากสัญจร ณ อาคารหอประชุมจังหวัดลำปาง อเมือง จ.ลำปาง ท่านที่สนใจสามารถเดินทางไปร่วมชมการออกรางวัลได้ด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบความโปร่งใสในขั้นตอนและกระบวนการออกรางวัลได้

----

เพิ่มเติม -
https://mono29.com/news/407248.html

#MonoNews #สลากกินแบ่งฯ #สลากดิจิทัล

 

Nov 25, 2022 ลาออกเพียบ! พนักงานใหม่ยังไม่ทันผลิตโอโฟนกว่า 20,000 คนลาออก หลังเหตุปะทะรุนแรงกับรปภ.-เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่กักพื้นที่โรงงานฟ็อกซ์คอนน์
.
ฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น โรงงานผลิตไอโฟนที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งตั้งในเมืองเจิ้งโจวที่ต้องเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ทั้งโรงงานและทั้งเมืองเจิ้งโจวเป็นเวลา 5 วัน เปิดเผยว่า มีพนักงานใหม่ที่รับเข้ามาและยังไม่ได้เริ่มทำงานในสายการผลิตไอโฟน ได้ตัดสินใจลาออกเป็นจำนวนกว่า 20,000 คน โดยรับเงินจำนวน 10,000 หยวนเมื่อวานนี้จากบริษัท
.
เมื่อวานนี้ ฝ่ายบริหารโรงงานฟ็อกซ์คอนน์มีมติให้จ่ายเงินมูลค่า 10,000 หยวน หรือราว 1,396 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 50,260 บาท ให้กับพนักงานที่ต้องการลาออกเพื่อกลับออกไปบ้านที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะแบ่งเป็นการจ่าย 2 รอบ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางและอื่นๆ
.
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างพนักงานในสายการผลิตไอโฟนจำนวนมากกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงาน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำหน้าที่กักพื้นที่โรงงานดังกล่าว เนื่องจากพนักงานจำนวนมากไม่พอใจอย่างมากต่อมาตรการล็อกดาวน์ของทางการจีนที่กำกับลงมายังฝ่ายรักษาความปลอดภัยของโรงงานแห่งนี้
.
พนักงานจำนวนกว่าหลายร้อยคนขึ้นไปแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเกิดความตึงเครียดสะสมมาโดยตลอดที่ต้องถูกกักตัวใช้ชีวิตส่วนตัวและทำงานในโรงงานฟ็อกซ์คอนน์มาเป็นเวลากว่าเดือน เงินพิเศษจำนวนกว่า 50,000 บาทที่จ่ายให้ในครั้งนี้นับเป็นมูลค่าที่สูงกว่าเงินเดือนปกติของพนักงานในสายการผลิตไอโฟน
.
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฟ๊อกซ์คอนน์ โรงงานผลิตชิ้นส่วนและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของสมาร์ทโฟนชื่อดังไอโฟนของโลก เปิดเผยว่าได้รับสมัครพนักงานเข้าทำงานจำนวนมากถึง 100,000 คนในโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลหูหนาน จีนแผ่นดินใหญ่
.
นายหยาง ฮัน ผู้บริหารฟ๊อกซ์คอนน์ กล่างว่า จำนวนพนักงานที่เปิดรับทั้งหมดถึง 100,000 คน เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทำให้ขั้นตอนการจ้างงานใหม่ที่โรงงานดังกล่าวต้องยุติลงชั่วคราว
.
สาเหตุการเปิดรับพนักงานในครั้งนี้ เกิดจากพนักงานของโรงงานฟ็อกซ์คอนน์จำนวนมากตัดสินใจเดินเท้าออกจากโรงงานดังกล่าวในช่วงต้นเดือนผ่านมา หลังจากทางการเมืองเจิ้งโจวสั่งล็อกดาวน์ทั้งเมืองและโรงงานแห่งนี้ หลังจากพบผู้ติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 รายใหม่เป็นจำนวนมาก พนักงานที่ออกจากโรงงานไปได้ล้วนไม่กลับมาทำงานอีกแต่อย่างใด กระทบกำลังการผลิตไอโฟนจำนวนมาก
.
ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ผู้บริหารฟ็อกซ์คอนน์ กล่าวว่า ได้ตัดสินใจเพิ่มการจ่ายเงินโบนัสรายวันสูงถึง 4 เท่า เพื่อจูงใจให้กลับเข้าทำงานผลิตไอโฟนให้ได้ทั้งเร็วที่สุด และมากที่สุดตามเป้าหมาย ซึ่งสูญเสียเวลาตามหลังเป้าหมายการผลิตอย่างมาก
.
ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวในเมืองหลวงเจิ้งโจว เป็นโรงงานผลิตไอโฟนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีกำลังการผลิตไอโฟนมาก 50%-60% ของกำลังการผลิตของโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในปัจจุบัน
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3tVHwVV
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#แอปเปิล #ไอโฟน14 #ไอโฟน #ฟ็อกซ์คอนน์ #โรงงาน #จีน #เจิ้งโจว #แรงงาน #BTimes

 

ภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอาจจะมีอายุมากกว่า 100,000 ปี

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีความเป็นไปได้ว่าถิ่นกำเนิดของมนุษย์นั้น อยู่ที่ทวีปแอฟริกา และในช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์ บรรพบุรุษของมนุษย์นั้นรวมกลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มชนกลุ่มเล็กๆ

เราอาจจะคิดว่า "ภาษา" คือสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในเวลาไม่นาน หากแต่จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ ก็พบว่ามีความเป็นไปได้ที่ภาษาที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์อาจจะมีอายุเก่าแก่กว่า 100,000 ปี

การศึกษานี้เป็นการศึกษาโดยทำการวิเคราะห์ภาษาต่างๆ ถึง 504 ภาษา รวมทั้งภาษาท้องถิ่นโบราณซึ่งปัจจุบันได้สาปสูญไปแล้ว และผลการศึกษาก็พบว่าภาษาเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน และมีรากฐานมาจากภาษาท้องถิ่นโบราณที่เก่าแก่ของชนเผ่าในแอฟริกา

หนึ่งในแนวคิดเบื้องหลังการศึกษานี้ ก็คือเพื่อจะแสดงให้เห็นว่า การที่มนุษย์มีการขยายตัวอย่างช้าๆ ตั้งแต่อารยธรรมยุคแรกเริ่ม ไปจนถึงวิวัฒนาการต่างๆ ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ทำให้ภาษานั้นมีการเปลี่ยนแปลงและหลากหลาย

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือวิวัฒนาการของคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่น ทำให้ภาษาถิ่นนั้นเปลี่ยนไป และความเปลี่ยนแปลงนี้ก็ขึ้นอยู่กับการค้นพบและนวัตกรรมใหม่ๆ ของแต่ละยุคสมัย

มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาถึงแนวคิดนี้ และคาดการณ์ว่าภาษาแรกของมนุษย์ อาจจะมีอายุมากกว่าหนึ่งล้านปีก็เป็นได้ หากแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ

แนวคิดก็คือหากไม่มีภาษาพูด คงเป็นการยากที่บรรพบุรุษของมนุษย์จะสามารถเอาชีวิตรอดจากการอพยพไปยังต่างถิ่น และต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ของที่นั้น

และจากการสำรวจ พบว่าจากจำนวนภาษาทั้งหมด 504 ภาษาที่นำมาใช้ศึกษาในงานวิจัย ก็มีภาษาที่มีความเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษถึง 46 ภาษา ในขณะที่ภาษาที่ใช้ในบอตสวานาและนามิเบีย ก็มีภาษาที่มีความเกี่ยวข้องมากถึง 141 ภาษา ซึ่งยิ่งสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าภาษาแทบทุกภาษาบนโลกมีรากฐานมาจากแอฟริกา

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ภาษานั้นมีวิวัฒนาการ หากแต่ความเหมือนกันของแต่ละภาษาที่มีรากฐานเหมือนกันนั้นมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ที่ภาษามีการเปลี่ยนแปลงก็เนื่องจากความต่างทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม

จากการศึกษา พบว่าสายพันธุ์มนุษย์ยุคใหม่ได้กำเนิดขึ้นเมื่อราว 200,000 ปีก่อน และก็สามารถพูดสื่อสารได้ โดยภาษาในยุคแรกๆ ก็เป็นคำง่ายๆ ก่อนจะพัฒนาไปตามกาลเวลา

นี่ก็เป็นประวัติศาสตร์บทหนึ่งที่อาจจะสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการสำคัญของมนุษย์

-----

References: https://historyofyesterday.com/the-oldest-language-is.../
https://timesofindia.indiatimes.com/.../oldest-language.../
https://www.sciencefocus.com/.../what-was-the-first-ever.../

ต้นฉบับ: https://www.blockdit.com/posts/637cd4dd98bc74c9104db4db ดูน้อยลง

 

DISCOVERY: นักพฤกษศาสตร์ไทยค้นพบพืชสกุลขมิ้นชนิดใหม่ของโลก “ขมิ้นสยาม - Curcuma siamensis Saensouk & Boonma” ในพื้นที่ภาคตะวันออก จัดเป็นพืชถิ่นเดียวและเป็นพืชหายากชนิดใหม่

" ขมิ้นสยาม " ขมิ้นสยาม จัดอยู่ในวงศ์ขิง(Zingiberaceae); เผ่าขิง (Zingibereae); สกุลขมิ้น (); และในสกุลย่อย ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ Biodiversitas ปีที่ 22 ฉบับที่ 9 หน้าที่ 5239–5246 ขมิ้นสยามถูกค้นพบในพื้นที่ป่าในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ภาคตะวันออกของไทย (แต่การแบ่งภูมิภาคของพรรณไม้จัดอยู่ในตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย อ้างอิงตาม Flora of Thailand) พืชชนิดใหม่สกุลขมิ้นนี้ถูกพบในระหว่างที่ทำการศึกษาความหลากหลายของพืชวงศ์ขิงในประเทศไทย ร่วมกันศึกษาอนุกรมวิธานโดย รศ.ดร.ปิยะพร แสนสุข นักวิจัยจากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, นายธวัชพงศ์ บุญมา นักวิจัยจากสวนวิจัยพฤกษศาสตร์บริโอ้, นิสิตระดับปริญญาเอก สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ รศ.ดร.สุรพล แสนสุข นักวิจัยจากสถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ขมิ้นสยาม เป็นพืชล้มลุกที่มีเหง้าใต้ดิน มีลักษณะเด่นคือ ร่องกลางใบมีสีแดง ดอกมีสีเหลืองนวล โดยจะมีช่อดอกอยู่ระหว่างกาบใบ ก้านช่อดอกสั้น บางครั้งช่อดอกทำให้กาบใบที่เรียงสลับแยกออกจากกันหรือแทงช่อดอกออกมาด้านข้างกาบใบที่ฐานของลำต้นไม่สูงจากพื้นดินมากนัก ในธรรมชาติจะมีช่อดอกราวเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน อาจจะช้าหรือเร็วกว่าระยะเวลาดังกล่าวเล็กน้อยขึ้นอยู่กับฝนแรกในแต่ละปี ขมิ้นสยามมีลักษณะทางสัณฐานวิทยาคล้ายกับ”บุษราคัม" หรือ "กระเจียวรังสิมา" ( Boonma & Saensouk) ที่คณะผู้วิจัยเพิ่งรายงานเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งพบกระจายพันธุ์ในบริเวณใกล้เคียงกัน แม้ว่าจะมีดอกที่มีโทนสีเหลืองคล้ายกัน แต่มีลักษณะเด่นที่สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ คือ ขมิ้นสยาม จะมีร่องกลางใบที่เป็นสีแดง และมีช่อดอกที่สั้นกว่าและขนาดเล็กกว่า ในขณะที่กระเจียวรังสิมาจะมีใบที่เขียวตลอดใบ และมีช่อดอกที่มีขนาดใหญ่กว่า รวมไปถึงลักษณะของเกสรเพศผู้มีอับเรณูที่มีเดือยที่ฐานชี้ลง ในขณะที่ขมิ้นสยามชี้ออกด้านข้าง ลักษณะอื่นๆที่แตกต่างกันได้เปรียบเทียบไว้ในตารางในเอกสารฉบับเต็มในวารสาร Biodiversitas สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่ https://smujo.id/biodiv/article/view/9607/5315

ปัจจุบัน ขมิ้นสยาม ยังคงพบกระจายพันธุ์แค่ในพื้นที่ป่าเขตจังหวัดฉะเชิงเทราและยังไม่เคยมีรายงานการค้นพบในพื้นที่อื่น ๆ หรือประเทศอื่นมาก่อน ทำให้มีสถานะเป็นพืชถิ่นเดียว (Endemic species) และหายากของไทย ทางคณะผู้วิจัยจึงได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้กับพืชชนิดใหม่นี้ว่า Saensouk & Boonma โดยตั้งชื่อไทยสามัญว่า "ขมิ้นสยาม" นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "สุวรรณพนม" ซึ่งมีที่มาจากดอกสีเหลืองและถูกเก็บตัวอย่างที่แรกจากเขตอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และชื่อ "มหาอุดมเหลืองนวล" เนื่องจากช่อดอกคล้ายกับขมิ้นอีกชนิดที่เรียกว่ามหาอุดมและพ่วงด้วยการเรียกตามสีของดอกสีเหลืองนวลของพืชชนิดนี้
.
ขอบคุณข้อมูล คุณธวัชพงศ์ บุญมา

https://smujo.id/biodiv/article/view/9607/5315

 

POLLUTION: งานศึกษาพบเส้นใยพลาสติกที่หลุดเล็ดลอดจากเสื้อผ้า ในอากาศ-น้ำ-น้ำแข็งทะเล ในพื้นที่แอนตาร์กติกา หวั่นผลกระทบ วอนเร่งแก้ไขปัญหาในระดับโลก ทั้งการลดสร้างขยะพลาสติกและจัดการรีไซเคิล
.
วัสดุหรือเส้นใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ อะคริลิคและไนลอน คิดเป็นประมาณ 60% ของวัสดุเสื้อผ้าทั่วโลก ซึ่งเสื้อผ้าที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ที่เป็นที่นิยมและใช้มากที่สุด เนื่องจากมีความทนทานและมีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ฝ้าย จากงานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่าตั้งแต่กระบวนการผลิต การสวมใส่ และการซักเสื้อผ้า ล้วนทำให้มีเส้นใยสังเคราะห์เล็ดลอดสู่ธรรมชาติ ซึ่งเส้นใยเหล่านั้นจะเรียกว่า ‘ไมโครไฟเบอร์’ (Microfiber) ซึ่งเป็นไมโครพลาสติกชนิดหนึ่ง
.
งานวิจัยล่าสุดตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Marince Science ได้ทำการศึกษาปัญหาไมโครพลาสติกในพื้นที่ทะเล Weddell Sea แอนตาร์กติกา โดยพบเส้นใยพลาสติกขนาดเล็กทั้งในอากาศ น้ำทะเล ตะกอนดิน และในน้ำแข็งทะเล ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาของไมโครพลาสติกที่หลุดลอยไปแม้ในพื้นที่ห่างไกล และสร้างความกังวลถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในพื้นที่
.
Prof Lucy Woodall ผู้ร่วมทำการศึกษาเปิดเผยว่า ปัญหาไฟเบอร์พลาสติกถือเป็นปัญหามลพิษในอากาศเช่นกัน โดยเป็นหนึ่งในมลพิษที่สามารถพบได้ทั่วโลก การแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องทำร่วมกันอย่างเป็นระบบในระดับโลก
.
นอกจากดินแดนขั้วโลกใต้อย่างแอนตาร์กติกาแล้ว ก่อนหน้านี้การศึกษายังพบว่ามีการพบไมโครไฟเบอร์จากเสื้อผ้าทั่วท้องทะเลในพื้นที่อาร์กติกอีกด้วย
.
โดยการแก้ไขปัญหาต้องมีความร่วมมือในการลดการสร้างขยะและลดการผลิตพลาสติกทั่วโลก สนับสนุนชุมชนให้มีการจัดการและรีไซเคิลขยะพลาสติก นอกจากนี้ ในส่วนประชาชนยังสามารถลดมลพิษเส้นใยพลาสติกได้ด้วยการลดการใช้เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยพลาสติก Polyester เน้นการใช้เส้นใยธรรมชาติ ใช้อุปกรณ์ดักจับไมโครไฟเบอร์ในเครื่องซักผ้า อาทิ GuppyFriend หรือ Coraball ซักผ้าในอุณหภูมิต่ำ นอกจากนี้การไม่นำผ้าที่มีวัสดุเส้นใยสังเคราะห์ไปอบแห้งร้อน ก็จะช่วยลดการทำลายเส้นใยได้อีกทาง

งานศึกษา https://www.frontiersin.org/.../fmars.2022.1056081/full

ที่มา

https://phys.org/.../2022-11-synthetic-fibers-antarctic...

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2997632703698490&id=1523107561151019&mibextid=qC1gEa

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2780459112082518&id=1523107561151019&mibextid=qC1gEa

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3356995781095512&id=1523107561151019&mibextid=qC1gEa

 

ซิโนเปกพบ 'แหล่งก๊าซชั้นหินดินดาน' กว่า 1.4 แสนล้านลบ.ม. ในแอ่งเสฉวน
.
ซิโนเปก (Sinopec) ผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของจีน ค้นพบแหล่งก๊าซจากชั้นหินดินดานแห่งใหม่ ซึ่งมีปริมาณก๊าซสำรองที่พิสูจน์แล้วเกือบ 1.46 แสนล้านลูกบาศก์เมตร ในแอ่งซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
.
หม่าหย่งเซิง ประธานซิโนเปก ระบุว่าแหล่งก๊าซแห่งใหม่ตั้งอยู่ในเขตฉีเจียงของเทศบาลนครฉงชิ่ง และอำเภอซีสุ่ยของมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ พร้อมเสริมว่าการค้นพบล่าสุดชี้ให้เห็นถึงโอกาสอันดีสำหรับการสำรวจและพัฒนาก๊าซจากชั้นหินลึก ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานของจีนเพิ่มเติม
.
อย่างไรก็ดี ความลึกและความเค้น (stress) ของเปลือกโลกที่ซับซ้อน ทำให้ยากต่อการสำรวจและพัฒนาหินดินดานในพื้นที่ดังกล่าว
.
ทั้งนี้ ก๊าซจากชั้นหินดินดานส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทนที่ถือเป็นแหล่งพลังงานสะอาดใหม่
.
(แฟ้มภาพซินหัว : แหล่งก๊าซจากชั้นหินดินดานฝูหลิงของซิโนเปก ในเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน วันที่ 11 ธ.ค. 2021)
.
อ่านข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ : www.xinhuathai.com