ติดตามสถานะการณ์

ธนาคารจีนปล่อยสินเชื่อ 'นักพัฒนาอสังหาฯ' กว่า 2.6 ล้านล้านหยวน
.
ภาคการธนาคารของจีนปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 2.64 ล้านล้านหยวน (ราว 13.15 ล้านล้านบาท) ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคมที่ผ่านมา
.
คณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและการประกันภัยแห่งประเทศจีน ระบุว่าภาคการธนาคารของจีนยังปล่อยสินเชื่อจำนอง 4.84 ล้านล้านหยวน (ราว 24.1 ล้านล้านบาท) ในช่วงเดียวกัน
.
บรรดาหน่วยงานทางการด้านการเงินของจีนกำลังเพิ่มการสนับสนุนทางนโยบายสำหรับตลาดที่อยู่อาศัย เพื่อเกื้อหนุนการพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างมั่นคงและแข็งแรง
.
อนึ่ง ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) และคณะกรรมการฯ ออกแนวปฏิบัติ 16 ขั้นตอน เมื่อวันพุธ (23 พ.ย.) ซึ่งมุ่งรักษาเสถียรภาพของอุปทานสินเชื่อสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนอุปสงค์สินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลอย่างสมเหตุสมผล
.
(แฟ้มภาพซินหัว : คนงานในพื้นที่ก่อสร้างที่อยู่อาศัยของเขตใหม่เจียงตง นครไห่โข่ว มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีน วันที่ 2 ก.ย. 2022)
.
อ่านข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ : www.xinhuathai.com

 

Nov 25, 2022 ทิ้งล็อตใหญ่! เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้งขายหุ้นใหญ่บริษัท MAKRO กว่า 160 ล้านหุ้น
.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า การขายหุ้นตามแบบรายงาน 246-2 ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO พบว่าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด ได้ดำเนินการขายหุ้นบิ๊กลอตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เป็นจำนวน 160 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.5122% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยขายให้กับธนาคารเครดิต สวิส เอจี ที่เป็นสาขาในประเทศสิงคโปร์ (Credit Suisse AG, Singapore Branch) นอกจากนี้ ยังได้ทำธุรกรรมผ่านบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ นั่นคือ Credit Suisse AG, Singapore Branch เบื้องต้นในรายงานไม่ได้ระบุราคาขายเฉลี่ยไว้
.
ทั้งนี้ การขายหุ้นบิ๊กล็อคดังกล่าว ส่งผลให้มีจำนวนหุ้นภายหลังการขายบิ๊กลอตในครั้งนี้ เหลือจำนวน 1,712.13 ล้านหุ้น คิดเป็น 16.1822% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยในส่วนจำนวนหุ้นของกลุ่มมีจำนวน 8,988.22 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 84.9523% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
.
ประกอบด้วย 1.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 3,699.72 ล้านหุ้น สัดส่วน 34.9680%
2.สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำนวน 2,640.30 ล้านหุ้น สัดส่วน 24.9548%
และ 3.บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด จำนวน 936.06 ล้านหุ้น สัดส่วน 8.8472%

#CP #MAKRO #กลต #หุ้นMAKRO #SET #ซีพี #BTimes

 

#โกดังทูเดย์ แนะนำหนังเรื่องที่ 534 วันที่24 พฤศจิกายน 65 Nomadland
.
หนังยอดเยี่ยมออสการ์ 2021 น่าเสียมากที่เวลานั้นไม่ได้ดูในโรงบ้านเรา ผลงานจากผู้กำกับ จาก Eternals ที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองคนนอกที่พูดถึงการดิ้นรนมีชีวิตในแต่ละวันของคนอายุเยอะ กลุ่มคนบั้นปลายที่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังโดนสังคมแบบอเมริกันชนทอดทิ้ง และกำลังจะตายไปแบบทรมานในโลกทุนนิยมที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวเลย
.
"ฉันอาจใช้ชีวิตของฉันกับการจดจำมากเกินไป"
.
เฟิร์น หญิงสูงวัยที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยเกษียณ สามีมาจากไปแบบกระทันหัน
ไหนจะเป็นเรืองงานที่โรงงานโดนสั่งปิด คนรอบข้างเริ่มจากไป เธอจึงตัดสินใจขึ้นรถตู้คันโปรดของเธอ และออกเดินทางไปทางตะวันตกของอเมริกา โดยใช้ชีวิตและอาศัยอยู่บนรถตู้ที่เป็นเสมือนบ้านเคลื่อนที่ของเธอ กลายเป็นเหมือนโนแมดยุคใหม่ที่ยังกระหายการเดินทางและค้นหาจุดหมายใหม่ๆ ให้กับช่วงชีวิตที่ใกล้จะถึงบั้นปลายเรื่อยๆ
.
ไม่มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ดูยาก กลับรู้สึกว่าหนังเป็นการสำรวจกลุ่มคนสูงวัยที่กำลังโดนทอดทิ้งจากสังคมอเมริกันชน เรามักชอบบอกว่าอเมริกันคือสังคมที่เปิดกว้างมีเสรีภาพ บางทีดูเรื่องนี้จบอาจต้องเปลี่ยนความคิดไป ผู้หญิงสูงวัยเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิด งานที่กำลังทำอยู่โรงงานดันมาปิดตัว ชีวิตไร้ความหวัง คนรอบข้างรุ่นราวคราวเดียวกันจากไปเรื่อยๆ สังคมอเมริกันคนร่ำรวยเป็นระบบ แต่อีกด้านหนึ่งคนเป็นแรงงานฝีมือที่ปรับตัวไม่ทันกลับค่อยๆโดนระบบกลืนกิน จนแล้วจนรอด สิ่งที่ได้รับเป็นการตอบแทนก็คือการถูกระบบอันโหดเหี้ยมเลือดเย็นบดขยี้และคายทิ้งอย่างไม่ใยดี หนังพูดถึงกลุ่มที่ไม่มีแม้แต่โอกาสได้รับการโอบอุ้มจากรัฐสวัสดิการที่พวกเขาเข้าไม่ถึงมัน มันมีฉากหนึ่งให้คิดตามทำไมพวกเขาต้องมามีสังคมที่ต้องมานั่งคุยกันแบบเรื่องเดิมๆกับคนวัยเกษียณแบบนี้ด้วยเนี่ย ประเทศยักษ์ใหญ่แต่ทำไมคนแก่โดนทอดทิ้งตาดำๆแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าในเมื่อคนแก่มีฝีมือก็ควรได้รับโอกาสเปิดกว้าง เพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีมีลมหายเพื่อใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีคุณค่าไม่ใช่ตื่นมาไม่รู้ว่าชีวิตต้องการอะไร
.
ค่อนข้างชอบหนังเรื่องนี้ตรงที่กล้าวิพากย์วิจารณ์สังคมอเมริกันชน ผ่านมุมมองของคนนอกที่มาอาศัยอยู่ในอเมริกานานๆ โคลอี เจา มันเลยทำให้หนังเรื่องนี้ดูสมจริง ไม่มีการมาปั้นเรื่องแต่ง เธอคือคนจีนที่เข้าอกเข้าใจกลุ่มคนบั้นปลายที่ต้องเจอกับสถานการณ์ลำบากหาทางออกให้ชีวิตไม่ได้ หนังเองก็ไม่ได้โยนว่าใครผิดหรือถูก หรือตำหนิความโหดร้ายสภาพสังคมอเมริกัน หนังแค่พาคนดูไปสัมผัสหัวอกกลุ่มคนสูงวัยที่ไม่ได้ต้องการให้ใครมาเห็นอกเห็นใจ สิ่งที่พวกเขาต้องการคืออิสรภาพ หนังดำเนินเรื่องได้งดงามแต่ในเวลาเดียวกัน ตัวละคร โลเคชั่นงานภาพของหนัง ซาวด์ประกอบที่มาขับเคลื่อนในแต่ละซีน มันพาคนดูไปสัมผัสถึงจิตใจคนสูงวัยที่มีความเหงา จะบอกว่าหนังมีกลิ่นอายหว่อง กาไวอยู่เหมือนกัน งานภาพวิธีการเล่าแต่ละฉาก บรรยากาศหนังมันเต็มไปด้วยการสำรวจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครอย่างเฟิร์น ทำให้เธอไร้ความหวังไร้โอกาสจะมีชีวิตที่ดี และภาพของหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราเข้าใจการมีชีวิตในช่วงบั้นปลายได้เป็นอย่างดี .
.
การแสดงของ Frances McDormand นี่แหละคือที่สุดของหนัง นักแสดงสายรางวัลคนนี้ตัวจริงเสียง สีหน้าแววตา น้ำเสียง การเคลื่อนไหว ถ่ายทอดของคนเหงาไร้ความหวัง มันทำให้เราเห็นอกเห็นใจตัวละครขึ้นมาทันที ทำไมเธอจึงเป็นแบบนี้ทั้งที่อยู่ในประเทศที่ยิ่งใหญ่อย่างอเมริกา การแสดงของเธอจึงเป็นกระบอกเสียงให้กับคนชราคนสูงวัย เราทึ่งกับหน้าที่การแสดงออกมา เก็บกักความรู้สึกอย่างระมัดระวัง ทุกอย่างล้วนต้องใช้ความสามารถทางการแสดงชั้นสูง ซึ่งเธอเองถ่ายทอดบทบาทนี้ได้อย่างหมดจด ถ้าไม่มีเธอ หนังเรื่องนี้คงไม่โดนใจนักวิจารณ์จนได้ออสการ์แน่ๆ
.
สรุป : หนังดีกรีออสการ์จากคนที่โดนทอดทิ้งในช่วงบั้นปลาย ชำแหละความโหดร้ายสังคมแบบอเมริกันชน จนกลายเป็นความโหดร้ายที่คนนอกไม่มีวันเข้าใจ
.
ชมได้ทาง Disney+ Hotstar
.
#โกดังหนัง #Nomadland #Disneyplushotstar #Foxmovies

 

ปีหน้าฝนอาจจะไม่ดี ลานีญามีกำลังอ่อน บางทีอาจจะเป็นเอลนินโญ่มาแทน #อาจจะแล้งจัด





เตือนภัยพิบัติ วาตภัย ฝนฟ้า พายุ

 

ธรรมบรรยายหลักสูตรสติปัฏฐาน 8 วัน สอนโดย ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

 

ธรรมบรรยายหลักสูตรสติปัฏฐาน 8 วัน สอนโดย ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

 

ธรรมะบรรยาย หลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน 10 วัน สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

 

ธรรมะบรรยาย หลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน 10 วัน สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

 

ธรรมะบรรยาย หลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน 10 วัน สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

 

#เตือนภาคใต้ระวังพายุลูกใหญ่
อัพเดทแบบจำลอง ภาพเมฆดาวเทียมECMWFล่าสุด
เตือนพายุโซนร้อนกำลังแรง
จับตาหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง90Wหรือไม่ก็99W ในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ เข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนล่าง และคาดการณ์ว่าอาจจะพัฒนาเป็นพายุโซนร้อน มุ่งหน้าทิศตะวันตกเข้าสู่อ่าวไทยในวันที่4.5.ธันวาคม2565


โดยคาดการณ์ว่าอาจจะมีความเร็วลมใกล้กับจุดศูนย์กลาง90ถึง100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ลมกระโชก180ถึง190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจจะมุ่งหน้าเข้าจังหวัด นครศรีธรรมราช หรือไม่ก็สุราษฎร์ธานี ภาคใต้ของประเทศไทย คลื่นชายฝั่ง3.4เมตร คลื่นใกล้กับจุดศูนย์กลางในอ่าวไทย6.7เมตร

แบบจำลองอาจมีการเปลี่ยนแปลงติดตามการอัพเดทเป็นระยะๆ

เพจเตือนภัยพิบัติ วาตภัย ฝนฟ้าพายุ

 

รู้จัก ตระกูล เกลเซอร์ กู้เงินมาซื้อแมนยู และกำลังขายได้กำไร 10 เท่า /โดย ลงทุนแมน
เมื่อไม่กี่วันมานี้ เราน่าจะเห็นข่าวใหญ่ของวงการกีฬา
เมื่อ “ตระกูลเกลเซอร์” เจ้าของสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เพิ่งได้ประกาศขายสโมสรไป

หลายคนอาจไม่รู้ว่า กว่าที่ตระกูลเกลเซอร์จะเดินมาถึงจุดนี้ได้
พวกเขาเริ่มต้นจากการทำธุรกิจร้านซ่อมนาฬิกา
ก่อนที่จะเปลี่ยนไปลงทุนในหลากหลายธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการซื้อทีมกีฬา

แล้วเส้นทางของตระกูลเกลเซอร์ มีความเป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

บรรพบุรุษของตระกูลเกลเซอร์ เป็นชาวลิทัวเนียเชื้อสายยิว ที่อพยพมาอยู่ในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

จุดเปลี่ยนสำคัญของตระกูลนี้คือ การกำเนิดของ “คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์” ในปี 1928 ซึ่งเขาเป็นลูกคนที่ 5 จากทั้งหมด 7 คน ของพ่อและแม่ของเขา

คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ คอยช่วยเหลือคุณพ่อทำธุรกิจร้านซ่อมนาฬิกามาตั้งแต่เด็ก
จนกระทั่งอายุ 15 ปี คุณพ่อได้เสียชีวิตลง ทำให้เขาก้าวขึ้นมารับผิดชอบกิจการอย่างเต็มตัว เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

ในตอนแรก เขาต้องหาลูกค้าด้วยการเดินขายและซ่อมนาฬิกาตามบ้าน
จนต่อมา สามารถประมูลงานซ่อมนาฬิกาให้กับกองทัพอากาศแห่งหนึ่งได้สำเร็จ จึงทำให้มีรายได้มั่นคงมากขึ้น

แต่หลังจากนั้น ฐานทัพดังกล่าวได้ปิดตัวลง ทำให้คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ มองหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ๆ ดูบ้าง ซึ่งเขาตัดสินใจเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นลงทุนในโครงการบ้านเดี่ยว, อาคารพาณิชย์ และห้างสรรพสินค้า ในหลายเมืองใหญ่

ต่อมา พอเริ่มมีเม็ดเงินในมือมากขึ้น เขาก็ได้กระจายการลงทุนไปในอีกหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร, โรงพยาบาล, สถานีโทรทัศน์ และร้านอาหาร

ทำให้ในปี 1984 คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ ก่อตั้งบริษัทโฮลดิง ชื่อว่า First Allied Corporation ขึ้นมาเพื่อคอยบริหารธุรกิจต่าง ๆ ที่ถือครองอยู่

ซึ่งบริษัทก็ยังคงเข้าลงทุนในกิจการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น

- Harley-Davidson ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่
- Zapata Corporation บริษัทพลังงาน ที่ก่อตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช
- Omega Protein บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

ทั้งนี้ คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ มีลูกทั้งหมด 6 คน ได้แก่ อาฟราม, เควิน, ไบรอัน, โจเอล, เอ็ดเวิร์ด และดาร์ซี ซึ่งเขาได้เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาช่วยบริหารธุรกิจของตระกูล เหมือนที่ตัวเขาก็เริ่มต้นตั้งแต่เด็กเช่นกัน

และหลังจากประสบความสำเร็จจากการลงทุนที่ผ่านมา
ธุรกิจต่อไปที่ตระกูลเกลเซอร์ ให้ความสนใจ คือ “ธุรกิจทีมกีฬา”

ในปี 1995 พวกเขาได้เข้าซื้อกิจการทีมอเมริกันฟุตบอล “แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส” ด้วยเงินประมาณ 6,400 ล้านบาท

ซึ่งนับเป็นมูลค่าการซื้อทีมสูงสุดของ NFL ลีกสูงสุดของอเมริกันฟุตบอล ในขณะนั้น
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ผลงานของ แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส ไม่ค่อยดีมากนัก ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ตระกูลเกลเซอร์ อาจจ่ายเงินแพงเกินไป สำหรับธุรกิจที่ไม่เคยทำมาก่อน

แต่พวกเขาก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการบริหารทีม จนสามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2003

พอธุรกิจทีมกีฬาในสหรัฐอเมริกากำลังไปได้สวย
ตระกูลเกลเซอร์ ก็เล็งหาโอกาสลงทุนทีมกีฬาในต่างประเทศทันที โดยพุ่งเป้าไปที่กีฬายอดนิยมของโลกอย่าง ฟุตบอล

ซึ่งสโมสรที่เข้าตาเป็นอย่างมาก คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ “แมนยู” ในประเทศอังกฤษ
เนื่องจากในขณะนั้น มีผลงานดี ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีแฟนบอลติดตามอยู่ทั่วโลก

ในปี 2003 ตระกูลเกลเซอร์ เริ่มเดินเกมทยอยซื้อหุ้นของแมนยู
จากผู้ถือหุ้นรายย่อย อีกไม่กี่เดือนถัดมา ก็สามารถสะสมหุ้นได้เกือบ 30% กลายเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสร

ก่อนที่ต่อมาในปี 2005 จะเจรจาขอซื้อหุ้นต่อจาก 2 มหาเศรษฐีชาวไอริช ที่กำลังมีปัญหากับผู้จัดการทีมแมนยูอย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 57%

พอถือหุ้นเกินครึ่งหนึ่ง พวกเขาก็ดำเนินการ ทำข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender Offer) ซึ่งทำให้ตระกูลเกลเซอร์ สามารถเก็บหุ้นแมนยูส่วนที่เหลือได้สำเร็จ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 34,000 ล้านบาท

แม้ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ตระกูลเกลเซอร์ ค่อนข้างประสบความสำเร็จจากการลงทุน ในสโมสรแมนยู

อย่างไรก็ตาม ภายใต้การบริหารของตระกูลเกลเซอร์ มักจะได้รับการต่อต้านจากแฟนบอลอยู่เสมอ

เพราะตระกูลเกลเซอร์ ใช้วิธีซื้อกิจการด้วยเงินกู้ (Leveraged Buyout) ซึ่งภายหลังได้มีการโอนหนี้สินกว่า 23,000 ล้านบาท ให้เป็นของสโมสรแทน
ส่งผลให้แมนยู ต้องรับภาระหนี้สินและดอกเบี้ยจำนวนมหาศาลในแต่ละปี

รวมไปถึง หลังจากที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ ผลงานของสโมสรก็ตกต่ำลงเรื่อยมา
ซึ่งแฟนบอลก็มองว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก ตระกูลเกลเซอร์ไม่มีประสบการณ์ด้านฟุตบอลมาก่อน ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดในหลาย ๆ ด้าน

จนไม่กี่วันมานี้ ตระกูลเกลเซอร์ก็ได้มีการประกาศขายสโมสรอย่างเป็นทางการ
และตามมาด้วย ทางสโมสรประกาศยกเลิกสัญญากับคริสเตียโน โรนัลโด

โดยมีการประเมินจาก The Sun สื่อของอังกฤษว่า ราคาขายสโมสรในครั้งนี้ อาจมีมูลค่าสูงถึง 388,000 ล้านบาท

ซึ่งก็มีกลุ่มทุนหลายราย ที่ให้ความสนใจซื้อสโมสร อย่างเช่น

- Apple บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก
- Amancio Ortega เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Zara
- David Beckham อดีตตำนานของนักเตะสโมสร
- Sir Jim Ratcliffe คนที่รวยที่สุดในอังกฤษ

ก็น่าติดตามต่อเหมือนกันว่า สุดท้ายแล้ว สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะตกไปอยู่ในมือของใคร

แต่ที่แน่ ๆ หากราคาขายเป็นไปตามที่ประเมินกันไว้ ตระกูลเกลเซอร์ ก็จะขายหุ้นแมนยูได้กำไรมากถึง 10 เท่า เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Malcolm_Glazer
-https://www.goal.com/.../who.../18j8f1yu1tliv1hrp93zeffh7n
-https://www.sportskeeda.com/.../meet-glazer-family-owners...
-https://www.theguardian.com/.../timeline-glazers-and...
-https://www.forbes.com/.../61e9b4c7a1.../8-glazer-family/...
-https://www.statista.com/.../franchise-value-of-the.../
-https://www.statista.com/.../team-value-of-soccer-teams/

 

MoneyMetals
Fiat Currency Overlords Are Feverishly Buying Gold
เจ้าพ่อเงินเฟียตกำลังเร่งซื้อทองคำ
Jon Forrest Little. Nov 17, 2022
ในปี 1715 ฝรั่งเศสกำลังอยู่ในขั้นเกือบล้มละลาย มีการขึ้นภาษีแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเพื่อจ่ายค่าทำสงคราม รัฐบาลมีการชักดาบหนี้ไปก้อนนึงแล้ว คนฝรั่งเศสที่ห่วงอนาคตรีบเข้าเก็บทองคำและซิลเวอร์ตุนไว้ก่อนที่จะพังไปมากกว่านี้
และในขณะที่คนฝรั่งเศสพากันสะสมทองคำกัน รัฐบาลฝรั่งเศสกลับไปให้ชาวสก้อตคนหนึ่ง John Law ให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ เขาเป็นคนสก้อตจอมขี้โกงที่หนีออกจากประเทศตัวเองเพราะฆ่าคนตาย
John Law รู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องหมู ๆ ที่จะหลอกเอาทองคำจากชาวบ้านทั่วไปได้ เขาจึงออกแบบ แผนที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาแผนหนึ่ง
เขาไปเป่าหูรัฐบาลฝรั่งเศส ว่าทองคำที่มีอยู่ในประเทศน่ะ มันมีซัพพลายที่จำกัด มันจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศก้าวหน้าไปช้ามาก อย่ากระนั้นเลย ..เอามาเปลี่ยนเป็นธนบัตรกระดาษน่าจะดีกว่า โดยจัดตั้งธนาคารขึ้นมา พร้อมกันนั้นก็ตั้งบริษัทใหม่เอี่ยมขึ้นมาเพื่อระดมทุนจากปวงชน บริษัทชื่อว่า "The Mississippi Company" ที่จะหาสมบัติในลำน้ำมิสซิสซิปปีที่ไหลผ่านอาณานิคมหลุยเซียนาของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกา ....ผู้คนแตกตื่นกับหุ้นบริษัทนี้ที่เสนอขาย เพราะคิดว่ามิสซิสซิปปีคงเต็มไปด้วยทองคำ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ...แต่สาธารณชนก็ยินดีแห่เข้าซื้อหุ้น และผู้ซื้อหุ้นก็ต้องซื้อด้วยทองคำ แล้วเมื่อตอนจะขายคืนจะถูกจำกัดจำนวนทองคำที่จะได้รับคืน โดยจ่ายคืนเป็นธนบัตรแทนเป็นส่วนใหญ่ .....
นี่ทำให้เงินกระดาษเข้ามาแทนที่มาตรฐานทองคำและซิลเวอร์ในช่วงเวลาไม่นาน พร้อมกับราคาหุ้นของ Mississippi Company ที่ขึ้นสูงลิ่วอย่างรวดเร็ว
ถึงตอนนี้ paper currency ที่หมุนเวียนในตลาดการเงินก็มากกว่ารีเสิร์ฟทองคำและซิลเวอร์ไม่รู้กี่เท่าเข้าไปแล้ว ทำให้เกิด hyperinflation ทั้งประเทศตามมาในไม่ช้า ...เงินกระดาษกลายเป็นเศษกระดาษเปื้อนหมึก ...แต่กว่าจะถึงถึงตอนนั้น Law ก็เปิดแน่บไปแล้ว ไม่รู้ว่าทันได้ขนทองคำไปด้วยหรือเปล่า ...แต่ก็น่าจะขนไปนะ ..อุตส่าห์วางแผนมาแล้วนี่
แล้วไอ้เหตุการณ์ที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้น่ะ คุณ ๆ คิดว่ามันต่างกันนักเหรอ กับยุคของ Mississippi bubble ของ John Law ในตอนนั้น
ตอนที่เราเขียนสั่งจ่ายเช็ค เราต้องแน่ใจว่ามีเงินในบัญชีที่จะ cover เช็คใบนั้นได้ ...แต่ตอนที่ Federal Reserve จ่ายน่ะ ไม่ยักเหมือนเราแฮะ มันจ่ายจากกลางอากาศได้เลยนะ
พวกแบงค์พาณิชย์นั่นก็เหมือนกัน พวกนี้ปล่อยกู้ได้โดยไม่ต้องมีเงินฝากของลูกค้าเป็นรีเสิร์ฟเลย มีลูกค้าฝากเงินแค่ $100 แต่พวกนี้ปล่อยกู้ได้ตั้ง $8,100 ...(เรื่องของ fractional reserve ผมเคยเขียนไปแล้วนะครับ...ตาสา') เงินหมุนเวียนในตลาด มีมากกว่ารีเสิร์ฟไม่รู้กี่เท่าเข้าไปแล้ว
มาตรฐานทองคำและซิลเวอร์เรียกได้ว่าเป็นเรื่องโคตรเกลียดของชาวแบงค์และพวกรัฐบาลเลยแหละ
เพราะมาตรฐานทองคำจะบีบให้รัฐบาลต้องทำงานแบบกระเบียดกระเสียน ไม่มีปัญญาจะฟุ่มเฟือยได้ ....ไม่เหมือนเงินเฟียตที่อยากใช้ตังค์เมื่อไหร่ ก็แค่เดินไปโยกแท่นพิมพ์เอาเองได้เลย
ระบบ debt-based นี้ทำให้รัฐบาลใช้เงินเป็นเบี้ย มากกว่าที่เก็บได้จากภาษีเยอะมาก
ถ้าธนบัตร Federal Reserve note แลกคืน (redeem) เป็นทองคำได้ ....ก็คงเจ๊งไปนานแล้ว ไม่อาจมาใช้จ่ายเงินอย่างที่เห็นอยู่นี่ได้หรอก
มีความจริงพื้นฐาน ซิมเปิ้ล ๆ อยู่ 5 ข้อที่พวกเราควรรู้ไว้
--- ธนาคารกลางและรัฐบาลมีอำนาจควบคุมพฤติกรรมของประชาชนได้ง่าย ๆ โดยออกเป็นกฎของการใช้เงินเฟียต (โดยเฉพาะดิจิตอลเฟียต) ...แต่เรื่องแบบนี้ทำไม่ได้ง่าย ถ้าเป็นการใช้ทองคำ
--- ตามกฎหมาย การชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย หมายความว่าเงินเฟียตที่ใช้จะต้องได้รับการยอมรับใน "มูลค่า" ...แต่โดยอำนาจจากรัฐบาล ...ไม่ใช่โดยตลาด free market
--- มูลค่าของเงินเฟียตลดลงได้..จากการเพิ่มปริมาณแบบไร้ความรับผิดชอบ แต่อำนาจซื้อของทองคำจะคงอยู่..ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่
--- ทองคำไม่อาจเพิ่มปริมาณจากแท่นพิมพ์ เพื่อมาใช้ช่วยกู้บริษัทธุรกิจ หรือรัฐบาล ได้
--- ทองคำนี่แหละ ที่ใช้เป็นรีเสิร์ฟแทนดอลลาร์
พวกเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลสหรัฐ ได้พยายามที่จะกดราคาทองคำและซิลเวอร์เอาไว้ ...พวกเขาเคยถึงกับสั่งห้ามชาวอเมริกันเป็นเจ้าของทองคำอยู่ได้นานถึง 40 ปี
เรื่องเจ้าเล่ห์การกดราคา ทำแล้วได้ผลมากกว่าการยึดทองคำจากชาวบ้าน มันคือการเทขายอนุพันธ์ทองคำในตลาด (แทนที่จะต้องเทขายทองคำจริง..ซึ่งไม่มีแล้ว)
สถาบันการเงินขนาดใหญ่เข้าเทรดสัญญากระดาษฟิวเจอร์ที่ถือเป็นทองคำ เพื่อทำให้ราคาทองคำอยู่ใน range ที่ต้องการ เป็นการซื้อขายที่มีทองคำจริงเกี่ยวข้องอยู่ด้วยน้อยมาก ...เราสามารถไปดูปริมาณการเทรดในตลาดฟิวเจอร์ได้เลย ...ผลผลิตของทองคำจากเหมืองทั้งปี อาจมีการเทรดในเวลาแค่สองหรือสามวันเท่านั้น
ตลาดฟิวเจอร์เป็นวิธีหนึ่งที่จะกดราคา --หรือดีมานด์นั่นแหละ-- ของทองคำ
ตลาดฟิวเจอร์ทองคำของสหรัฐก่อตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 1974 ...ส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้ราคาทองคำหยุดการผันผวน แต่ที่ไม่บอกคือ ลดความอยากถือครองทองคำของสาธารณชนด้วย
โทรเลขฉบับหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ หลุดไปอยู่ในมือของ WikiLeaks .....นี่คือข้อความ...
"พวกนักค้าทองคำรายใหญ่ ๆ คาดกันว่า ตลาดค้าทองคำฟิวเจอร์ที่มีขนาดใหญ่นี่แหละ ที่จะสร้างแรงกระทบอย่างแรงต่อการถือครองทองคำของภาคเอกชนได้เลย ...ตลาดนี้แหละที่จะทำให้การซื้อขายทองคำ physical เล็กจิ๋วไปเลย....
....การเทรดด้วยวอลุ่มใหญ่ ๆ ในตลาดฟิวเจอร์ จะเป็นการลดดีมานด์ในทองคำ physical ในหมู่คนอเมริกันไปด้วยในระยะยาว"
นอกจากนี้ CFTC (หน่วยงานที่ควบคุมตลาดฟิวเจอร์) ก็โพสท์ไว้ว่า....
"ทองคำและโลหะมีค่าอื่น มีราคาที่ผันผวนมาก ผลงานในอดีตไม่อาจบอกถึงอนาคตได้ ....มันอาจมีการทุจริตก็ได้"
ทองคำและซิลเวอร์ physical เท่านั้นที่เป็น money ...อะไรก็ตามที่อยู่ในรูปกระดาษ (paper-based) เป็นแค่เครื่องมือของหนี้ (debt instrument) เท่านั้น
การเทรดทองคำกระดาษในตลาดฟิวเจอร์ สร้างธุรกรรมกระดาษ มากนับได้เป็น trillions สัญญา ทั้ง ๆ ที่ทั้งหมดนั้นมีการอ้างถึงทองคำแค่หยิบมือเดียว
Central Banks: Gold for me but not for thee.
ทองคำเป็นของข้า....ไม่ใช่ของเอ็ง
ธนาคารกลางเกือบทุกประเทศซื้อเข้าทองคำแบบก้าวกระโดดถึงเกือบ 400 ตันในไตรมาส 3 ปี 2022 ..สูงขึ้น 115% ....นี่เป็นจำนวนที่สูงที่สุดของดีมานด์ในแค่ไตรมาสเดียว นับจากปี 2000
มันเกิดต่อเนื่องกันมา 8 ไตรมาสของการซื้อสุทธิ ปริมาณต่อปี 673 ตัน มากที่สุดนับจากปี 1967
ไม่ว่าพวกอิลิทจะพูดอะไรเกี่ยวกับทองคำ สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั่นแหละ ที่จะบอกเราได้เองว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป กับทรัพย์สินทางการเงินตัวนี้
About the Author:
Jon Forrest Little graduated from the University of New Mexico and attended Georgetown University's Institute for Comparative Political and Economic Systems. Jon began his career in mining industry and now publishes "The PickAxe" which covers topics surrounding precious metals, energy, history, and politics.





สายัณห์ รุจิรโมรา

 

ระวัง!!!
“ต้มยำกุ้ง” ปี 40 เผ็ดแสบทะลวงลิ้นเพียงใด แต่วิกฤติ “หม่าล่า” ปี 66 อาจแสบกะซวก “เบิร์น” เหงือกให้พรุน!
อย่าประมาท หมาป่าไม่ได้มีตัวเดียวในป่า พ่อมดการเงินมิได้มีเพียง “จอร์จ โซรอส”
หลายวันนี้ มีข่าวที่ดูเผินๆ ก็ไม่ใคร่เสียวซ่านนัก (… ก็จะมีอะไรพึงให้แต่ละชาติหมกมุ่นไปกว่าสกุลเงินบ้านตัวเองที่กำลัง “อ่อนค่า” มหาประลัย บ้านใครบ้านมัน ตั้งแต่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซาอุฯ อิหร่าน … และไทย ซึ่งไม่ได้ไปบอลโลกกับเขา)
แต่ อยากเตือน ... มันเริ่มมาหนึ่ง มาสองแล้ว ที่เฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่ เทรดเดอร์ระดับโลก เริ่มเรียงหน้ากันเข้ามา “เล่นค่าเงิน” ดอลลาร์ฮ่องกง
.
เล่นไง? ก็เล่นคล้ายๆ กับที่พ่อยอดขมองอิ่ม จอร์จ โซรอส เล่นกับบาทไทยเมื่อครั้งกระโน้นไงครับท่าน --- เล่น “เก็ง” ขาลง (ขาอ่อน) ของเงินบาทไทย : short

จะแตกต่างตรงที่ปี 2540 เรา “เปราะบาง” อย่างยิ่ง จากการผลีผลามประกาศ “สู้ค่าเงิน”/“ตรึงค่าเงิน”
ช่องโหว่ในกำแพง ถูกโจมตีขยี้หนักหน่วง และแล้วมันก็แตก! --- ลงท้าย ต้องกลายเป็นประกาศ “ลอยตัวเงินบาท” อย่างอัปยศอดสู

ปี 2565 จะเยน วอน ฯลฯ สารพัดสารพันในเอเชีย อ่อนวิปโยค จากพิษ “เฟด” แบงก์ชาติอเมริกา --- นั่นเป็นไปตามกลไก มิใช่ผู้ใดจงใจจู่โจม
พอสู้ได้
ที่สำคัญคือสู้อย่างเจียมตัว ประมาณตน ไม่วู่วาม --- สู้ทีละยก เป็นหย่อม ไม่หักหาญถาโถมจะเอาชัยในศึกเดียว

ก็ไม่มีใครเจ็บตัวเกินไป มีแพ้ มีชนะ มีเสมอ --- ดึงสู้กันไปยาวๆ (สรุปง่ายๆ คือ สู้แบบไม่ได้ “ตรึง”)

แต่ฮ่องกง ต่างออกไป เพราะโจทย์คือ “ตรึง”
.
อ๊ะ ช้าก่อน! คนละอย่างกับไทยแลนด์แดนสยามตอนโน้น เพราะฮ่องกงมิใช่โดด “ตรึง” รวบตึงกะทันหัน
ฮ่องกง “ตรึง” มาตั้งแต่ปี 2005
ตั้งเพดานบนและพื้นล่าง : { ค่าเงินต้องไม่หลุดกรอบ 7.75-7.85 ดอลลาร์ฮ่องกง/ดอลลาร์อเมริกา }

นับจาก พ.ค. ถึงต้น พ.ย. อ่อนล่อไปแตะๆ 7.85 มิวางวาย --- ก็เท่ากับว่าต้องควักเงินมาสู้มหาศาลแทบไม่เว้นวัน
(คล้ายๆ กับปี 2552-2552 --- เป็นเวลาร่วมๆ 2 ปี ที่เรี่ยๆ เพดาน 7.85 ตลอดๆ … สู้รากเลือดแทบทุกวารวัน)

ทว่าครั้นเข้า พ.ย. ทำไปทำมา ดีดแข็งขึ้นพรวดพราด ขณะนี้อยู่แถวๆ 7.81 --- แข็งสุดตั้งแต่ปลายๆ ก.พ. เลยเชียว

กลับมาปกติแล้วหรือ? ฟื้นแล้ว?
.
นั่นแหละ จุดนี้เองที่หมาป่าการเงินโลกตะวันตกมองว่า “เดี๋ยวโดน”
จึงเก็งกระหน่ำ ว่าจะต้องโดนลากไปขึงพรืดที่ขอบเพดานดังเดิม
และยิ่งกว่านั้น จะ “หลุด” ในที่สุด!!!

อ้าว ตอนโน้นสู้มาเกือบๆ 2 ปียังสู้ไหว ตอนนี้แค่ครึ่งปีเอง ทำไมจะไม่ได้ล่ะ

แหม อย่างที่เรารู้ๆ กัน … ห้วงยามนี้ แต่ละชาติเพิ่งผ่าน “หายนภัย” มาหยกๆ (และยังลุกไม่ค่อยจะขึ้น) ก็ถูกซ้ำด้วยสงคราม ทำให้ “เงินเฟ้อ” บรรลัยกัลป์เข้าไปอีก
รัฐบาลน้อยใหญ่ ประสบภาวะ “บ่อจี๊”
ถ้ามีภารกิจต้องสู้ค่าเงินอีก … จะเอาเงินมาจากไหน
นั่นสิ
หมาป่าตัวล่าสุด บอกว่ามันคือ “smart lottery” หรือ “หวยล็อ.. เอ๊ย ไม่ใช่! ลืมไป ในโลกนี้ไม่มีหรอกหวยล็อก ต้องพิมพ์ว่า “หวยเต็ง” --- เลขเด็ดเบอร์ดัง ทำนองนั้น
.
มันผิดแผกกันตรงนี้ครับท่าน

หวย : ถ้าคนแห่ซื้อเลขใดเลขหนึ่งมากๆ … มันไม่ได้ช่วยให้เลขนั้นออกเลยนะจ๊ะ

หุ้น ค่าเงิน : ถ้าคนโหมเข้าเก็งขาใดขาหนึ่งมากๆ … volume มันใหญ่พอจะพัดให้ไหลไปทางนั้นได้เลยล่ะจ้ะ

ระวัง น่ากลัวจริงๆ

https://www.bloomberg.com/.../weinstein-calls-hong-kong...

 

เหตุเกิด ณ งานแถลงข่าวก่อนเกมบอลโลกเย็นนี้ ที่อิหร่านจะประชันแข้งกับเวลส์ โดยอยู่ร่วมสายกับอังกฤษ อเมริกา (นัดแรกอิหร่านโดนอังกฤษถล่มเละไปแล้ว)
ผู้จัดการทีมจะหนีบนักเตะคนหนึ่งมาร่วมให้สัมภาษณ์กับสื่อ
จังหวะหนึ่ง นักข่าว “บีบีซี” ของอังกฤษนามว่า “ไชมา คาลิล” ยิงคำถามไปที่หัวหอกทีมชาติอิหร่าน เมห์ดี ตาเรมี
“แฟนๆ ทั่วประเทศกำลังเชียร์คุณอยู่ ทั้งมาถึงที่นี่และส่งใจมาจากทางบ้าน และมีที่กำลังเดินขบวนอยู่บนท้องถนน คุณมีอะไรจะบอกไปถึงพวกเขาเหล่านั้นที่กำลังประท้วงอยู่ไหมคะ”
.
นั่นล่ะครับท่าน จงใจพาดพิงถึงสถานการณ์การเมืองอันร้อนแรง ซึ่งชาวอิหร่านส่วนหนึ่งกำลังประท้วงรัฐบาล (จากชนวนการตายอย่างปัจจุบันทันด่วนของหญิงสาววัย 22 ปี มาห์ซา อมินี ขณะถูกคุมตัวเมื่อ ก.ย. --- เกิดปริศนา ก่อการปลุกระดม กระพือว่าเป็นเพราะการกระทำอันรุนแรงกว่าเหตุของตำรวจ)

ที่นักข่าวกล้าถาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะนักเตะก็กล้าไม่ร้องเพลงชาติด้วย (ในแมตช์แรกที่เตะกับอังกฤษ ส่วนแมตช์เจอเวลส์เย็นนี้ ก็ต้องรอดู)

นักเตะก็ตอบไปแกนๆ

คาร์ลอส เคยรอซ ผู้จัดการทีมชาติอิหร่าน เดือดดาล ถามกลับนักข่าวนิ่มๆ
“มันแฟร์หรือไม่ ที่สื่อตะวันตกจะเอาแต่ถามนักเตะอิหร่านในประเด็นการเมืองน่ะ”

“ใช่ พวกเขามีสิทธิ์ สื่อมีสิทธิ์จะถามอะไรก็ได้ที่เขาคิดว่ามันใช่มันถูก เราเองก็เช่นกัน มีสิทธิ์ที่จะตอบที่เราคิดว่าใช่ว่าถูกว่าควร มันสำคัญมากที่เราจะต้องเคารพซึ่งกันและกันนะ”
.
ก็ว่ากันไป ต่อความยาวสาวความยืด เสรีภาพของใครของมัน ทั้งของคนถามคนตอบ
ขอตัดตอนมาที่ช่วงท้ายเลยจ้ะ
“ไม่แฟร์ อย่าเอาปัญหาการเมืองการมุ้งมนุษย์ทั้งโลกมาลงมาถกมาถามที่นักเตะอิหร่านถ่ายเดียวสิ พวกเขาก็แค่จะลงสนามไปเตะบอล พอเหอะ ไปถามโค้ชถามนักเตะชาติอื่นถึงปัญหาโลกบ้างสิ มีมากมายก่ายกองเยอะแยะกว่าแค่ตรงนี้”
ไม่จบ
สงสัยมันนิ่มไป ไม่สาแก่ใจ … ดังนั้น ตอนเสร็จงาน เดินออกจากห้องแถลงข่าว ผู้จัดการทีมอิหร่าน พ่นคำปาดคอนักข่าวคนนั้น
“ไม่ไปถามโค้ชคนอื่นบ้างล่ะ ไปถามโค้ชอังกฤษซิ ว่า ‘คุณคิดไงล่ะกับการที่กองทัพอังกฤษกับอเมริกาชิ่งจากอัฟกานิสถาน แล้วปล่อยให้ชาวบ้านถูกย่ำยีบีฑา?’ --- ไปถามสิ”

หงายเงิบ

 

ขอไข่เธอแลกเบอร์โทร
เหลือเชื่อครับท่าน ชาติมหาอำนาจอย่างอังกฤษในวันนี้จะตกอยู่ในภาวะ { ไข่ไก่ขาดแคลน }
ชนวนเหตุจากสงครามรัสเซียขย้ำยูเครน เงินเฟ้อบรรลัย ลากไปถึง “ไข้หวัดนก” ระบาด ฯลฯ ทำให้ไข่เกลี้ยงแผง!
สงครามเกี่ยวไร? หลักๆ ก็ “ธัญพืช” เลยครับท่าน อาหารไก่น่ะเอง! --- พอรบกันปุ๊บ ของขาด ราคาพุ่ง คนเลี้ยงไก่เจ๊กอั๊ก แบกไม่ไหว เจ๊งบ๊ง สุดท้ายไข่ก็หด

ไข่จำเป็นสำหรับมื้ออาหารทั่วไปในทุกชนชาตินะจ๊ะ ไข่เจียว ไข่ลวก ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ฯลฯ … รวมไปถึงเป็นส่วนประกอบในอาหารจานอื่นๆ สารพัดสารพัน

ต้องมีมาตรการแล้ว!
ล่าสุด ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่อย่าง “Tesco” และ “Lidl” ต้องจำกัดจำนวน ให้คุณลูกค้าซื้อได้คนละ 3 แพ็คเท่านั้น
ขณะที่ “Asda” / “Marks & Spencer” / “Morrisons” ได้แค่คนละ 2
ส่วน “J Sainsbury” บอกว่ามีขายไม่อั้น เพราะแก้ทันควันด้วยการนำเข้าจากอิตาลี
ด้าน “Waitrose” ก็ยังมีขาย แต่บอกไว้เลย อาจเจอปัญหาไข่เล็กไข่ไม่สวยปะปนกันไป ให้ทำใจ ดีกว่าไม่มีกิน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ปกติแล้ว ยอดซื้อไข่จะสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ยิ่งโดยเฉพาะช่วงคริสต์มาส

ขาดไข่เหมือนขาดใจ
ขาดยอดไลก์เหมือนขาดไฟในการพิมพ์
โปรดสนับสนุนเพจเดือดฯ ในภาวะฝืดเคืองด้วยจ้ะ

https://www.bloomberg.com/.../uk-s-egg-crisis-exposes...

 

จารกรรมบันลือโลก!!!!!!!!!
9 นาที
เหรียญทอง “ยุคเซลติก” 483 เหรียญ --- มูลค่า 60 ล้านบาท และ คุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่มิอาจประเมินได้
ณ บัดนี้ มิได้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ “เซลติก และ โรมัน” แห่งเยอรมันอีกต่อไปแล้ว
มันอยู่แห่งหนใด? มิอาจมีใครทราบ แม้แต่ตำรวจมือฉมังแห่งกรุงเบอร์ลิน
ขบวนการมหาโจรจอมอหังการ์ทุบกระจก แล้วบุกเข้าไปฉกอย่างอุกอาจ … โดยที่สัญญาณเตือนภัยมิได้ไหวติงส่งเสียงสักแอะ
ใช้เวลาแค่ 9 นาที “เช็กอิน” เข้า-ออกพิพิธภัณฑ์
เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้เช่นไร?

ยิ่งกว่านั้น ระบบสื่อสารโทรคมนาคมในละแวกนั้น “ล่ม” ชั่วคราว
… ภายหลังพบว่าสายเคเบิลถูก “ตัดขาด” ก่อนหน้าการก่อเหตุเพียง 9 นาที (เลข 9 อีกแล้ว สิริมงคลฤกษ์ จงใจ?)
แบบนี้แสดงว่าตระเตรียมแผนการมาอย่างดิบดีนะครับท่าน --- ไม่ใช่ซี้ซั้ว

“ยุคเซลติก” นี่คือห้วงก่อนคริสต์ศักราชราว 100 ปี --- เท่ากับว่าอายุทองประมาณ 2100 ปีเลยทีเดียว
ที่หวาดวิตกอย่างยิ่ง คือ …
ถ้าโจรเอาไปปล่อยในตลาดมืดก็ว่าไป แต่หากโจรเอาไปหลอมเพื่อขายโดยไร้ร่องรอยแล้วล่ะก็ … เท่ากับว่า “โบราณวัตถุ” แห่งประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติถูกทำลายไปเลย

สมบัติยิ่งใหญ่ปานนี้ ไฉนถูกชิงไปได้ง่ายดาย
เป็นเพราะฝีมือฉกาจเหนือเมฆของโจร? หรือความหย่อนยานของการป้องกันรักษา?
คำถามที่สำคัญกว่า จะตามล่ามาคืนได้หรือไม่!

https://www.scmp.com/.../how-thieves-stole-celtic-gold...

 

แม่วัย 28 ปี มีลูก 4 คน อาศัยในตึกร้าง ไม่มีน้ำ-ไฟฟ้าใช้ เอาน้ำขังข้างถนนมาต้มดื่ม เพิ่งคลอดลูกคนสุดท้องเดือนที่แล้ว คลอดเองในป่า สามีตัดรกให้

25 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมี แม่กับลูก 4 คน ใช้ในอาคารร้าง ริมถนนสายบายพาส-ปราณบุรี ฝั่งขาล่องใต้ ม.4 ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ท่ามกลางกองขยะ ไม่มีน้ำและไฟฟ้า อาศัยน้ำขังในบ่อข้างถนนใช้ต้มดื่มกิน หุงข้าว และอาบน้ำ ใช้ป่ารกข้างหลังอาคารเป็นที่ขับถ่าย รวมทั้งหาผักและปลามาทำกับข้าวกินเพื่อประทังชีวิต

อาคารดังกล่าว โครงสร้างเป็นแบบอาคารพาณิชย์ 5 คูหา ที่ยังสร้างไม่เสร็จและถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีน้ำและไฟฟ้า ในตัวอาคารพบ หญิงอายุ 28 ปี อาศัยอยู่กับลูกสาว 4 คน อายุ 2 ปี, 5 ปี, 8 ปี และอายุ 1 เดือน ที่กำลังนอนอยู่ในเปลผ้า ท่ามกลางกองผ้าและเศษขยะที่กองกระจัดกระจายเป็นจำนวนมาก มองดูแล้วสุดเวทนา

หญิงสาว เผยว่า ปีที่แล้วตนได้หอบลูกน้อย 3 คนติดตามสามีจาก จ.อุดรธานี เพื่อมารับจ้างตัดอ้อย ในพื้นที่ อ.ชะอำ โดยพักอยู่ในแคมป์คนงาน แต่ต่อมานายจ้างได้ไล่ให้ตนและสามีออกจากงาน โดยอ้างว่าตนมีลูกเยอะและขี้เกียจทำงาน ขณะที่เดินเร่ร่อนอยู่ริมถนนสายบายพาส ได้พบเห็นอาคารดังกล่าวจึงเข้าไปอาศัยหลับนอนโดยไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ต้องใช้น้ำขังในบ่อข้างถนนมาต้มเพื่อใช้ดื่มกิน หุงข้าว อาบน้ำ และใช้ป่ารกชัฏเป็นที่ขับถ่าย

ต่อมาสามีได้ออกไปทำงานรับจ้างรีดน้ำวัวในหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากอาคารร้าง ซึ่งเงินค่าจ้างที่ได้มาก็ไม่พอใช้จ่าย ตนต้องออกไปหาผัก หาปลา และหอยเชอรี่ในคูคลองมาทำกับข้าวรับประทานเพื่อประทังความหิว

ส่วนขนมของลูกก็ไม่มีเหมือนเด็กทั่วไป ต้องหาลูกพุทรา มะขามเทศ และผลไม้อื่น ๆ ที่มีอยู่ในป่ารกชัฏมาให้กิน และเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาตนได้คลอดลูกสาวเอง โดยมีสามีคอยช่วยเหลือนำกรรไกรมาตัดรก โดยไม่ได้ไปหาหมอแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเงินและรถที่จะไปโรงพยาบาล

ก่อนหน้านี้เคยมีชาวบ้านนำอาหารและของใช้ไปให้ รวมถึงเก็บขวด เศษเหล็กให้ น.ส.ชนนิกานต์ ไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว แต่เจ้าตัวไม่ค่อยจะออกไปเอา รวมถึงมีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือนำบุตรสาว 2 คนไปเข้าเรียนชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชะอำ แล้วด้วย

#คนเร่ร่อน #นอนตึกร้าง #ลูก4คน #แม่ลูก4 #โหนกระแส

 

ปราสาทลิกเตนสไตน์ (Schloss Lichtenstein)

ปราสาทลิกเตนสไตน์ตั้งอยู่ใน Swabian Alps เหนือเมืองเล็กๆ Honau ในรัฐบาเดน-เวิร์ทเทมเบิร์กทางตอนใต้ของเยอรมนี ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษ
ที่ 12 เพื่อเป็นป้อมปราการของอัศวินแห่งลิกเตนสไตน์ ปราสาทแห่งนี้มีการเสื่อมสลายตามกาลเวลา ละได้รับการปรับปรุงซ่อมแซม สร้างขึ้นใหม่อยู่
หลายครั้ง ในการสร้างครั้งล่าสุดเป็นผลงานของดยุควิลเฮล์ม แห่งเวิร์ทเทมเบิร์ก ซึ่งมีแรงบรรดาลใจมาจากนวนิยายชื่อดังเรื่อง Lichtenstein ลักษณะ
จึงคล้ายกับปราสาทของอัศวินในยุคกลาง ปราสาทลิกเตนสไตน์แห่งนี้เริ่มเปิดทำการในปี 1842 โดยมีองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่งได้เข้า
มาร่วมกันจัดการฟื้นฟูตกแต่งปราสาทแห่งนี้ ที่นี่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่อนข้างน้อย จึงจัดทัวร์เป็นภาษาเยอรมันเท่านั้น
____________________________
#เพจภาพและเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ

 

วัด Chuli Jain ในคุชราต Bharat
สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 หรือ 4 ก่อนคริสตศักราช โดยกษัตริย์ Chalukya Kumarpala ภายใต้คำแนะนำของอาจารย์ Acharya Hemachandea เป็นวัดเชนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดียเนื่องจากรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบ
วัด Chuli Jain ตั้งอยู่ในเมือง Dhrangadhra ของเขต Surendranagar ในรัฐคุชราต ห่างจาก Dhrangadhra 12 กม.
เรียบเรียงโดย #เพจให้ภาพมันเล่าเรื่อง
________________________
#เพจภาพและเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ







ภาพและเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ

 

ตั้งแต่โยมพ่ออาตมาเสีย โยมแม่อยู่คนเดียว หลังๆ อาตมาจึงโทรไปคุยบ่อยๆ วันหนึ่ง โยมแม่ถอนใจใหญ่ แล้วพูดว่า "ไม่รู้อยู่ทำไม อยู่ไปวันๆ ไปไหนก็ไปไม่ได้ เป็นภาระของคนอื่น ไม่รู้อยู่ทำไม" เสียงสั่นเครือของท่านน่าสงสารจริงๆ
อาตมาจึงสั่งโยมแม่ว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ขอให้แม่ทำความดีวันละข้อ อะไรก็ได้ ไม่ต้องเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องเล็กๆ ก็ได้ แต่ขอให้เป็นเรื่องที่ทำแล้วรู้สึกภูมิใจได้ โยมแม่ถามว่าอยู่ไปทำไม คำตอบของอาตมาคือ อยู่ไปเพื่อทำความดี วันไหนคนเราทำความดี วันนั้นไม่ว่างเปล่า วันนั้นไม่เป็นหมัน ความดีคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมายและมีความสุข"
ทุกวันนี้เมื่ออาตมาโทรไปที่บ้าน ก่อนอื่นต้องถามโยมแม่ว่า "วันนี้ทำความดีแล้วหรือยัง" ถ้าทำแล้ว อาตมาก็ชื่นชมให้กำลังใจ โยมแม่มีความสุข
การตอบแทนบุญคุณ ไม่ได้อยู่ที่การปรนนิบัติ หรือการรับใช้อย่างเดียว การให้โอกาสให้ท่านทำบุญทำกุศล และรู้จักอนุโมทนาในความดีที่ท่านได้ทำไว้แล้ว คือการช่วยสุขภาพจิตของผู้สูงอายุที่สำคัญมาก
โอวาทธรรม พระอาจารย์ ชยสาโร
พุทโธ ร่มโพธิ์แก้ว