ติดตามสถานะการณ์

America: สหรัฐฯ เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจีนเตรียมจัดหาอาวุธช่วยเหลือรัสเซียหรือไม่ ระหว่างการประชุมสุดยอดของสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในไม่กี่วันข้างหน้านี้

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แถลงว่า พวกเขาจะเฝ้าดูอย่างตั้งใจสำหรับสัญญาณที่ว่า จีนกำลังเดินหน้าจัดหาอาวุธให้รัสเซียระหว่างการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในสัปดาห์หน้า

การประชุมสุดยอดดังกล่าว ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับทำเนียบขาว เนื่องจากมีรายงานออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า การประชุมสุดยอดดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ ถึงกระนั้น ก็ยังคงมีความวิตกกังวลอยู่ลึก ๆ ว่าความสัมพันธ์แบบ “ไม่มีขีดจำกัด” ที่ประธานาธิบดีสีและปูตินได้สานสัมพันธ์ระหว่างการประชุมครั้งก่อน ๆ อาจลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างการพูดคุยแบบตัวต่อตัวครั้งนี้

จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณาใด ๆ บ่งชี้ว่า จีนได้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายแล้วในการให้ความช่วยเหลือรัสเซียด้วยอาวุธหนักในสงครามยูเครน แต่พวกเขาก็กำลังพิจารณาถึงสิ่งนี้ ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งตรวจสอบข่าวกรองแบบวันต่อวันถึงพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของผู้นำจีน

ความกังวลในหมู่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่ว่าอาวุธของจีนจะช่วยให้รัสเซียได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในยูเครน สิ่งที่น่ากังวลคือความช่วยเหลือจากจีนอาจทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าจะเข้าทางปูติน นอกจากนี้ สงครามที่ยืดเยื้ออาจเป็นประโยชน์ต่อจีนด้วย หากทรัพยากรและความสนใจของอเมริกาถูกใช้ไปในยูเครน แทนที่จะเป็นในเอเชีย ซึ่งจีนกลายเป็นที่ทรงอิทธิพลทางทหารมากขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า พวกเขากำลังดำเนินการเพื่อให้ประธานาธิบดีสี ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งเชื่อว่า การฟังสถานการณ์โดยตรงจากเซเลนสกีอาจเป็นประโยชน์มากกว่า
—————
ภาพ: Xinhua

#TNNWorldNews #จีน #อเมริกา #รัสเซีย #ยูเครน #สงคราม
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Poland: ประธานาธิบดีโปแลนด์เยือนโรงงานผลิตอาวุธ หลังจากที่มีการยืนยันเรื่องการสั่งซื้อปืนไรเฟิลของโปแลนด์จากกองทัพยูเครน

ประธานาธิบดีอันแชย์ ดูดา ของโปแลนด์ เดินทางไปเยือนโรงงานผลิตอาวุธในเมือง “โรดอม” ของโปแลนด์เมื่อศุกร์ (17 มีนาคม) หลังจากที่ก่อนหน้านั้น 1 วัน มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า กองทัพยูเครนได้สั่งซื้ออาวุธปืนไรเฟิลชุดใหม่จากโปแลนด์

ขณะที่ ดูดา ได้แถลงข่าวในระหว่างการเยือนโรงงานผลิตอาวุธครั้งนี้ว่า วันนี้โปแลนด์พูดได้อย่างเต็มปากว่า อาวุธปืนไรเฟิล ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ส่งออกของประเทศ และรัฐบาลก็คาดหวังว่าจะมีสัญญาซื้อขายในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิตอาวุธของโปแลนด์ ได้สร้างปืน, กระสุนปืนใหญ่ และอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารชนิดอื่น ๆ จำนวนมาก ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายประเทศในภูมิภาคพยายามช่วยเหลือยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย

ขณะที่ โรงงานผลิตเครื่องยิงจรวดของบริษัท “ล็อกฮีด มาร์ติน” ที่ตั้งอยู่ในรัฐอาร์คันซอ ของสหรัฐฯ ก็เร่งผลิตเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง หรือ ไฮมาร์ส (HIMARS) หลังจากที่อาวุธชนิดดังกล่าวประสบความสำเร็จในสมรภูมิรบที่ยูเครน ส่งผลให้มันกลายเป็นที่ต้องการของหลายประเทศ

มีข้อมูลว่า บริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ได้เริ่มผลิตเครื่องยิงจรวด “ไฮมาร์ส” ครั้งแรกในปี 2022 ด้วยอัตราการผลิตจำนวนทั้งสิ้น 48 เครื่องต่อปี แต่หลังจากที่เกิดปัญหาความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ก็มีการเพิ่มอัตราการผลิตขึ้นเป็น 60 เครื่องต่อปี โดยทางผู้ผลิตยืนยันว่าเครื่องยิงจรวด “ไฮมาร์ส” เป็นที่ต้องการมากขึ้น ก่อนที่จะมีโอกาสไปโชว์ศักยภาพในสมรภูมิรบที่ยูเครนเสียอีก

โปแลนด์ ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สนใจอาวุธชนิดนี้ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โปแลนด์ได้สั่งซื้อเครื่องยิงจรวด “ไฮมาร์ส” จำนวน 18 เครื่อง และอุปกรณ์ติดตั้งเครื่องปล่อยจรวดอีก 468 ชุด เพื่อนำไปติดตั้งบนรถบรรทุกที่โปแลนด์สร้างขึ้นเอง
—————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #โปแลนด์ #ยูเครน #อาวุธ
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลงโทษผู้ขับขี่รถแท็กซี่ฐานปลอมแปลงเอกสารแสดงราคาค่าโดยสาร และไม่กดมิเตอร์

โดยห้ามให้บริการในสนามบินอีก ส่วนค่า Surcharge ที่เรียกเก็บเป็นของผู้ขับขี่โดยตรงไม่ใช่รายได้เข้าสนามบิน

อ่านเพิ่มเติม https://mono29.com/news/429140.html

#แท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ #แท็กซี่สบามบิน #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

"บิ๊กโจ๊ก" สั่งภาค 8 ช่วยเหลือเด็กถูกนำมาขายบริการทางเพศ และขยายผลหาผู้ใช้บริการ

อ่านเพิ่มเติม https://mono29.com/news/429146.html

#ค้ากาม #ค้าบริการทางเพศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ผลสำรวจจากงานวิจัยเผย "คนที่เคยนอกใจคนรัก ยังไงก็ไม่ซื่อสัตย์" มีครั้งแรกก็มีครั้งต่อไป
.
การกระทำนี้ก็เหมือนเป็นการเรียนรู้จะโกหกอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่รู้สึกผิดน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะเมื่อโกหกหรือนอกใจแล้วผ่านพ้นไปด้วยดีในครั้งแรก ครั้งที่ 2 3 4 ก็จะตามมาจนทำเป็นนิสัย
.
เรื่องนี้เป็นผลมาจากการทำงานในสมองของส่วน Amygdala ที่คอยตอบสนองต่อปฏิกิริยาและพฤติกรรมในเชิงลบของมนุษย์ ทุกครั้งที่โกหก บริเวณส่วนนี้ของสมองจะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ด้อยลงเรื่อยๆ
.
อย่างไรก็ตามงานวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองกับกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าทุกคนจะต้องเป็นแบบผลสำรวจ
.
https://mono29.com/life/women/359453.html

 

"ตำรวจไซเบอร์" เตือนภัย มิจฉาชีพแฝงมาในรูปแบบบริษัทจัดหางาน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพโทรศัพท์ไปยังผู้เสียหาย แอบอ้างเป็นบริษัทที่เคยสมัครงาน หลอกลวงเหยื่อให้ทดลองงาน โดยการทำภารกิจออนไลน์ต่างๆ ดังนี้

ที่ผ่านมา บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่า ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพซึ่งแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัทที่ตนได้เคยกรอกข้อมูลหรือฝากประวัติส่วนตัว หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ และตำแหน่งที่สนใจไว้ผ่านเว็บไซต์หางานต่างๆ โดยมิจฉาชีพได้นำข้อมูลดังกล่าวมาสอบถามผู้เสียหายว่าสนใจสมัครงานในตำแหน่งนี้ใช่หรือไม่ หากใช่จะให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ของพนักงานบริษัท เพื่อทำการพูดคุยแจ้งลักษณะของงานให้ทราบ และจะต้องทดลองงานก่อนเป็นเวลา 3 วัน หากผ่านการทดลองงานแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปแจ้งสวัสดิการต่างๆ เช่น วัดหยุด โบนัสประจำปี เป็นต้น

แต่ในช่วงทดลองงานมิจฉาชีพจะให้ผู้เสียหายโอนเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายรายวันก่อนที่จะให้ทำภารกิจต่างๆ เริ่มจากการให้เข้าไปกดถูกใจ หรือกดไลก์บุคคลที่มีชื่อเสียง บันทึกภาพหน้าจอสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในขั้นตอนสุดท้ายมิจฉาชีพจะส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเพื่อไว้ทำภารกิจ กดรับออเดอร์สินค้าในราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่นบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ในช่วงแรกๆ ผู้เสียหายจะได้เงินคืนมาจริง แต่หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะออกอุบายต่างๆ เพื่อให้ทำภารกิจพิเศษ หลอกให้เหยื่อเติมเงิน หรือโอนเงินเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เหยื่อมักเสียดายเงินที่เคยโอนไปก่อนหน้านี้อยากได้เงินทั้งหมดคืน ก็หลงเชื่อโอนเงินไปเพิ่มอีกหลายครั้ง มิจฉาชีพก็จะมีข้ออ้างต่างๆ เช่น อ้างว่าทำผิดขั้นตอน หรือยอดเงินในระบบไม่เพียงพอ อ้างว่าเป็นค่าเอกสาร ค่าปิดบัญชี ค่าภาษี เป็นต้น นอกจากนี้ยังสร้างความน่าเชื่อถือโดยให้หน้าม้าในกลุ่มไลน์แสดงหลักฐานปลอมว่าตนได้รับเงินจริง กระทั่งเมื่อเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็จะปิดการติดต่อหลบหนีไป

จากสถิติศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 - วันที่ 11 มี.ค.66 พบว่า การหลอกลวงโอนเงินเพื่อหารายได้เสริมจากการทำกิจกรรม มีผู้เสียหายแจ้งความกว่า 29,945 เรื่อง หรือคิดเป็น 13.72% จากเรื่องการรับแจ้งความทั้งหมด สูงเป็นลำดับที่ 2 รองจากการหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 3,300 ล้านบาท สูงเป็นลำดับที่ 3 ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด รองจากการหลอกลวงให้ลงทุน และการหลอกลวงทางโทรศัพท์เป็นขบวนการ (Call Center)

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประชาชนให้ทำภารกิจ หรือทำงานออนไลน์เพื่อหารายได้เสริม โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง เพราะถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว มีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายจากเว็บไซต์รับสมัครงานต่างๆ มีการปลอม หรือแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัทที่ผู้เสียหายเข้าไปติดต่อสมัครงาน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะส่งลิงก์ให้ติดตั้งเพื่อให้ทำภารกิจ อ้างว่าเป็นการทดลองงาน และยังคงพบว่ามีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพชักชวนหลอกลวงให้ทำภารกิจอื่นๆ อีก เช่น การจ้างให้กดไลก์ (Like) กดแชร์ (Share) ดูคลิปวิดีโอจากยูทูบ (YouTube) กดรับออร์เดอร์สินค้า รีวิวที่พัก รีวิวสินค้า พับถุงกระดาษ ร้อยลูกปัด หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่มิจฉาชีพออกอุบาย โดยการประกาศเชิญชวนโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok เป็นต้น หรือการส่งความสั้น (SMS) ไปยังเหยื่อโดยตรงให้กดลิงก์เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ แล้วเข้ากลุ่มทำงานที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมา รวมไปถึงมีการใช้อวตาร หน้าม้า ใช้รูปภาพโปรไฟล์ของบุคคลอื่นจากเว็บไซต์ทั่วไปเพื่อหลอกลวงเหยื่อ

จะเห็นได้ว่าทุกครั้งจะต้องมีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของมิจฉาชีพ หรือเติมเงินเข้าไปในระบบที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาก่อน โดยจะทำให้เห็นว่ามีจำนวนเงินแสดงขึ้นมาในระบบจริง แต่ยังไม่สามารถถอนออกมาได้ มีเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งการหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรมนั้น ได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนสูงเป็นอันดับแรกๆ ของการหลอกลวงทั้งหมด มิจฉาชีพจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจ หรือกิจกรรมที่นำมาหลอกลวงเหยื่อไปเรื่อยๆ โดยอาศัยความไม่รู้ และความโลภของประชาชนเป็นเครื่องมือ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ไม่เลือกอายุ หรือเพศของเหยื่อ ทุกคนทุกอาชีพสามารถตกเป็นเหยื่อได้หมด เพราะฉะนั้นการทำกิจกรรม หรือธุรกรรมใดๆ บนโลกออนไลน์ต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพและมีสติอยู่เสมอ

ทั้งนี้ ฝากเตือนถึงแนวทางการป้องกันการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ดังนี้

1. ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงินในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเว็บไซต์ที่รับสมัครงานต้องปิดข้อมูลของผู้สมัครงานเป็นความลับ
2. อย่าหลงเชื่อการรับสมัครงานใดๆ ที่ต้องให้ทำภารกิจออนไลน์ หรือทดลองงานในลักษณะดังกล่าวก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการให้โอนเงินไปก่อน สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน
3. หากมีการแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัท อย่ารีบเชื่อ ให้โทรศัพท์ไปสอบถามหน่วยงาน หรือบริษัทนั้นๆ โดยตรง
4. เมื่อพบคำเชิญชวนให้ทำงานออนไลน์ ผ่านทางข้อความสั้น (SMS) หรือประกาศ โฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok อย่าเข้าไปติดต่อสมัครทำงานเป็นอันขาด มักจะมีการแอบอ้างสัญลักษณ์ของหน่วยงาน หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ เช่น Shopee, Lazada เป็นต้น
5. หลีกเลี่ยงข้อเสนอที่ฟังดูดี หรือมีผลตอบแทนสูง ทำง่าย มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน
6. หากต้องการจะทำงานจริงๆ ให้ปรึกษาสายด่วนของตำรวจไซเบอร์ ที่หมายเลข 1441 เพื่อปรึกษาว่างานดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพหรือไม่
7. หากสมัครทำงานไปแล้ว พบว่ามีการติดต่อให้วางเงินมัดจำ หรือเงินลงทุน หรือสำรองเงินก่อนจะทำงานได้ ให้ฉุกคิดทันทีว่ากำลังโดนมิจฉาชีพหลอกลวง อย่าโอนเงินไปเด็ดขาด
8. ไม่โอนผ่านบัญชีของบุคคลธรรมดา และควรตรวจสอบเลขบัญชี หรือชื่อเจ้าของบัญชีก่อนโอนเงินทุกครั้งว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่

#ตำรวจไซเบอร์ #เตือนภัย #มิจฉาชีพ #รับสมัครงาน #บริษัทจัดหางาน #MONO29NEWS #MONO29 #ข่าวโมโน29

 

สุดทน! ไกด์ไทยถกปมไกด์เถื่อนแย่งงาน หลัง จนท.รัฐนิ่งเฉย

กลุ่มมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กว่า 50 คน นัดรวมตัวกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาไกด์เถื่อนต่างชาติแย่งงาน เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(18 มี.ค.66) หลังจากสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศคลี่คลายลง

โดยนายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ กรรมการสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังรัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเมื่อ 1 ตุลาคม 2565 ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนงานที่มัคคุเทศก์ไทยได้ระบกลับไม่สอดคล้อง ส่วนนึงมาจาก ผู้ประกอบการเป็นชาวต่างชาติ และใช้วิธีลักลอบเข้ามาทำงานเป็นไกด์โดยไม่รับใบอนุญาต มีกลุ่มทุนจีนเทาเข้า ทำให้มัคคุเทศก์และบริษัททัวร์สัญชาติไทยได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

และในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อาชีพมัคคุเทศก์ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องหาอาชีพอื่นเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ภายหลังวันที่ 8 มกราคม 2566 ได้เปิดประเทศจีน สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ สิ่งที่คาดหวังคือ ไกด์ต่างชาติที่ลักลอบทำงานในประเทศไทย โดยเหตุผลที่ผู้ประกอบการใช้ประจำคือ จำนวนมัคคุเทศก์ไม่พอ และส่วนใหญ่ผู้ประกอบส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีน ที่มีสัดส่วนมากที่สุด รวมทั้งทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้ผู้ประกอบการประเทศไทยได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมาได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐน้อยมาก ทำให้มัคคุเทศก์บางรายเกิดความไม่มั่นใจ ส่วนนึงมาจากการปล่อยปะละเลย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรมแรงงาน เข้ามาควบคุม และวางมาตราการอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ การนัดรวมตัวกับมัคคุเทศก์ชาวไทยวันนี้ เป็นการหารือเพื่อวางแนวทางในการแก้ปัญหา และป้องกันไม่ให้กลุ่มไกด์เถื่อนเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตราการในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาไกด์เถื่อนต่างชาติอย่างยั่งยืน

#ไกด์ไทย #ไกด์เถื่อน #ไกด์เถื่อนต่างชาติ #MONO29NEWS #MONO29 #ข่าวโมโน29

 

UPDATE: รัสเซียมอบรางวัลเชิดชูเกียรตินักบิน หลังบินป่วนโดรนสหรัฐฯ ก่อนตกในทะเลดำ
.
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับนักบิน 2 นายที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์เผชิญหน้ากับโดรนของสหรัฐฯ เหนือทะเลดำ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงจุดยืนที่แข็งกร้าวของรัสเซียต่ออากาศยานสอดแนมของสหรัฐฯ
.
เมื่อวันศุกร์ (17 มีนาคม) เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย มอบรางวัลให้กับนักบินประจำเครื่องบินขับไล่ Su-27 พร้อมยกย่องความสำเร็จของพวกเขาในการป้องกันไม่ให้โดรนของสหรัฐฯ บินเข้าไปในพื้นที่ใกล้กับแหลมไครเมียซึ่งเป็นเขตหวงห้ามของรัสเซีย
.
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า “โดรนบินโดยไม่เปิดช่องสัญญาณติดต่อ ซึ่งเป็นการละเมิดขอบเขตของน่านฟ้าชั่วคราวที่กำหนดขึ้นสำหรับปฏิบัติการทางทหารพิเศษ และสื่อสารกับผู้ใช้น่านฟ้าสากลทุกราย” The Moscow Times รายงานข้อความในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
.
เซอร์เก มาร์คอฟ นักวิเคราะห์การเมืองที่สนับสนุนเครมลิน กล่าวว่า รางวัลสำหรับนักบินเหล่านี้เป็น ‘สัญญาณที่ชัดเจนว่ารัสเซียจะเดินหน้าสกัดกั้นโดรนของสหรัฐฯ ต่อไป’
.
“การตัดสินใจนี้จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสังคมรัสเซียที่ต้องการให้รัฐบาลเข้มงวดกับนโยบายของตนมากขึ้น” มาร์คอฟเขียนในบทวิจารณ์
.
การมอบรางวัลเชิดชูเกียรตินักบินของรัสเซียมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่กองบัญชาการยุโรปของสหรัฐฯ เผยแพร่คลิปวิดีโอการเผชิญหน้าระหว่างโดรนตรวจการณ์ MQ-9 Reaper ของสหรัฐฯ กับเครื่องบินขับไล่ Su-27 ของรัสเซียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 มีนาคม) ขณะที่บินอยู่เหนือทะเลดำ ซึ่งภาพจากกล้องที่ติดตั้งใต้ลำตัวทางด้านหลังของโดรน แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินขับไล่รัสเซียบินผ่านมาในระยะประชิด และปล่อยสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเชื้อเพลิงออกมาขณะเข้าใกล้ ก่อนที่เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียจะชนโดรนสหรัฐฯ จนท้ายที่สุดตกลงในทะเลดำ
.
ส่วนหนึ่งของคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่า เครื่องบินขับไล่รัสเซียบินผ่านโดรนสหรัฐฯ ในระยะใกล้ถึง 2 รอบ และในรอบที่ 2 ได้ปล่อยเชื้อเพลิงออกมา ก่อนที่ภาพจากคลิปวิดีโอจะหยุดชะงักไป เนื่องจากเครื่องบินขับไล่รัสเซียชนเข้ากับโดรน จนทำให้ใบพัดเสียหาย และเมื่อภาพกลับมาปรากฏว่าใบพัดด้านหลังของโดรนงอจนผิดรูป ส่งผลให้ผู้ควบคุมโดรนของสหรัฐฯ ต้องบังคับโดรนทิ้งในทะเลดำ บริเวณน่านน้ำสากล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแหลมไครเมีย
.
ด้านรัสเซียปฏิเสธว่าเครื่องบินขับไล่ของตนไม่ได้ชนโดรน อีกทั้งการชนปะทะกันเกิดขึ้นภายหลังจากที่มีความพยายามจะหลบหลีกอย่างสุดความสามารถแล้ว
.
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า การเก็บกู้ซากโดรนทำได้ยาก เนื่องจากน้ำในทะเลดำลึก แต่สื่อของทางการรัสเซียรายงานว่า กองทัพเรือรัสเซียตรวจพบซากโดรนห่างจากเมืองท่าเซวาสโตโพลในไครเมียประมาณ 60 กิโลเมตร ที่ความลึก 850-900 เมตร ตามรายงานของ The Moscow Times
.
ขณะที่ล่าสุด เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (17 มีนาคม) ว่าสหรัฐฯ ได้กลับมาบินโดรนตรวจการณ์เหนือทะเลดำแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ 2 คนเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่า RQ-4 Global Hawk บินไปปฏิบัติภารกิจเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นการกลับมาบินโดรนครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุโดรนตกเมื่อวันอังคาร (14 มีนาคม)
.
ภาพ: United States European Command / Anadolu Agency via Getty Images
.
อ้างอิง:
https://www.aljazeera.com/news/2023...-to-fighter-pilots-involved-in-us-drone-crash
.
#TheStandardNews

 

UPDATE: เกาหลีเหนืออ้าง ประชาชนเกือบ 8 แสนคนสมัครเป็นทหาร เพราะอยากสู้กับสหรัฐฯ
.
หนังสือพิมพ์ โรดองซินมุน ของเกาหลีเหนือรายงานวานนี้ (18 มีนาคม) ว่ามีประชาชนเกือบ 800,000 คนที่อาสาสมัครเข้าเป็นทหารหรือพร้อมที่จะกลับมาเข้าร่วมในกองทัพอีกครั้ง เพราะอยากปกป้องชาติจากสหรัฐอเมริกา
.
รายงานระบุว่า เฉพาะแค่วันที่ 17 มีนาคมเพียงวันเดียว มีประชาชนซึ่งเป็นนักศึกษาและแรงงานราว 800,000 คนทั่วประเทศที่แสดงความประสงค์จะเข้าร่วมเป็นทหารหรือกลับเข้ามาทำงานในกองทัพอีกครั้งเพื่อสู้รบกับสหรัฐฯ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังตลอดช่วงสัปดาห์มานี้ เกาหลีเหนือได้กระหน่ำทดสอบยิงขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป Hwasong-17 ที่ถูกยิงเมื่อวันพฤหัสบดี (16 มีนาคม) เพื่อตอบโต้การซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ
.
นอกจากนี้ การยิงขีปนาวุธ ICBM ยังมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดียุนซอกยอล แห่งเกาหลีใต้ จะเดินทางไปยังกรุงโตเกียวเพื่อร่วมประชุมกับ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญที่มีการหารือกันนั้น คือการรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือด้วย
.
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้เปิดฉากการซ้อมรบร่วม 11 วัน ภายใต้รหัสว่า Freedom Shield 23 ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 ปี เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือได้ประณามการซ้อมรบครั้งนี้ว่าเป็นการเตรียมการที่จะรุกรานประเทศ และเห็นได้ชัดว่าเกาหลีใต้และสหรัฐฯ มีนโยบายที่เป็นปรปักษ์กับเกาหลีเหนือ
.
ลีฟ-อีริก เอสลีย์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในกรุงโซล เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ก่อนหน้านี้ว่า มีแนวโน้มที่เกาหลีเหนืออาจกระทำการยั่วยุในรูปแบบต่างๆ เช่น สั่งยิงขีปนาวุธพิสัยไกล หรือพยายามปล่อยดาวเทียมสอดแนม และอาจถึงขั้นทำการทดสอบนิวเคลียร์ เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อการซ้อมรบและการประชุมสุดยอดที่เกิดขึ้น
.
แฟ้มภาพ: Alain Nogues / Corbis via Getty Images
.
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2023/03/18/asia/north-korea-military-signups-to-fight-us-intl-hnk/index.html
.
#TheStandardNews

 

UPDATE: ประธานาธิบดีตุรกีตัดสินใจไม่วีโต้ฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิก NATO
.
เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ยกเลิกการใช้สิทธิยับยั้งการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ของฟินแลนด์ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถของตะวันตกในการต้านทานภัยคุกคามของรัสเซียข้ามทะเลบอลติกในอนาคต อย่างไรก็ดี สวีเดนที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก NATO พร้อมกับฟินแลนด์ ยังคงไม่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี
.
แอร์โดอันกล่าวหลังจากการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีซาอูลี นีนีสเตอะของฟินแลนด์ ในกรุงอังการา ว่าเขาจะเสนอให้รัฐสภาตุรกีลงมติสนับสนุนการสมัครเข้าร่วม NATO ของฟินแลนด์ และแสดงความหวังว่าการลงมติดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งตุรกีในเดือนพฤษภาคม
.
ทั้งนี้ หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน ฟินแลนด์ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซียเป็นระยะทางยาว 1.340 กิโลเมตร ถูกบีบให้ต้องพิจารณานโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของประเทศใหม่ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิก NATO ซึ่งหากไม่ติดขัดอะไร ฟินแลนด์จะเข้าเป็นสมาชิกชาติที่ 31 ของกลุ่มพันธมิตรด้านการทหารของชาติตะวันตก
.
ในการแถลงข่าวร่วมกัน แอร์โดอันกล่าวว่าความกังวลของตุรกีเกี่ยวกับกิจกรรมการก่อการร้ายของกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดในฟินแลนด์ได้รับการแก้ไขแล้ว ฟินแลนด์ดำเนิน ‘ขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมและแท้จริง’ เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลด้านความมั่นคงของตุรกี พร้อมระบุว่า การเข้าเป็นสมาชิกของฟินแลนด์จะทำให้ NATO แข็งแกร่งขึ้น
.
ด้านนีนีสเตอะกล่าวกับแอร์โดอันว่า “ตอนนี้เราได้คำตอบแล้ว ขอบคุณ” แต่เขากล่าวเสริมว่า “การเป็นสมาชิก NATO ของฟินแลนด์จะไม่สมบูรณ์หากไม่มีสวีเดน” พร้อมแสดงความหวังว่าทั้งสองประเทศจะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม NATO ในการประชุมสุดยอดที่วิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย ในเดือนกรกฎาคม
.
ทั้งนี้ปัจจุบันฮังการีเป็นสมาชิก NATO ชาติเดียวที่ยังไม่อนุมัติการเป็นสมาชิกของฟินแลนด์ แต่คาดว่าจะยอมอ่อนท่าทีในสัปดาห์หน้า เพื่อที่ฮังการีจะไม่ต้องโดดเดี่ยวและถูกมองว่าปิดกั้นการขยายตัวของกลุ่มพันธมิตร โดยเจ้าหน้าที่ของฮังการีเผยว่า รัฐสภาจะหารือเกี่ยวกับประเด็นนี้ในวันจันทร์ (20 มีนาคม)
.
ทั้งนี้ ด้วยเหตุผลด้านการทูตและความมั่นคงเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สวีเดนและฟินแลนด์ได้ยื่นแสดงความจำนงต้องการสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ NATO พร้อมกัน แต่หลังจากการหารือกับสวีเดน ในเวลาต่อมาฟินแลนด์จึงตัดสินใจเดินหน้าสมัครสมาชิกด้วยตัวเอง
.
นายกรัฐมนตรี อูล์ฟ คริสเตอร์สสัน ของสวีเดน กล่าวเมื่อวันพุธ (15 มีนาคม) ว่า “ผมไม่ปิดบังความจริงว่าเราต้องการให้สัตยาบันร่วมกันและจับมือกัน แต่เราเคารพที่แต่ละประเทศตัดสินใจให้สัตยาบันของตนเอง”
.
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ยอมรับว่า การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้การวางแผนการป้องกันของกลุ่มพันธมิตรซับซ้อนขึ้น แต่ความซับซ้อนนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ตุรกีปล่อยให้สวีเดนรอ พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า ตนนึกภาพไม่ออกว่า NATO จะไม่เข้าร่วมการป้องกันสวีเดน หากสวีเดนถูกรัสเซียโจมตี
.
ก่อนหน้านี้ ผู้นำตุรกีใช้สิทธิวีโต้คัดค้านฟินแลนด์และสวีเดน เนื่องจากมองว่าทั้งสองประเทศต่างดำเนินนโยบายที่ไม่เป็นมิตรต่อตุรกี อีกทั้งยังต่างเป็นแหล่งกบดานให้กับผู้ก่อการร้ายอย่างกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด (PKK) ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน ประกาศเอกราชจากตุรกี และสร้างความไม่สงบภายในตุรกีตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งสวีเดนและฟินแลนด์จำเป็นต้องยุติการสนับสนุนกลุ่มชาวเคิร์ดในประเทศของตน และยกเลิกข้อจำกัดในการจำหน่ายอาวุธให้กับตุรกี เพื่อแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนให้ทั้งสองประเทศสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ NATO ได้
.
จนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ฟินแลนด์ได้ผ่อนคลายคำสั่งห้ามส่งออกอาวุธไปยังตุรกีที่บังคับใช้อย่างเข้มงวดมาตั้งแต่ปี 2019 หลังตุรกีโจมตีทางตอนเหนือของซีเรีย
.
ทั้งนี้แอร์โดอัน ซึ่งกำลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์และความนิยมที่ตกลงก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม หวังว่าการยอมรับฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิก NATO จะแสดงให้ชาวตุรกีเห็นว่าเขาสามารถร่วมมือกับตะวันตก และขจัดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่านโยบายชาตินิยมของเขาทำลายเศรษฐกิจของประเทศ
.
ภาพ: Emin Sansar / Anadolu Agency via Getty Images
.
อ้างอิง:
https://www.theguardian.com/world/2...sident-lifts-veto-on-finland-nato-application
.
#TheStandardNews

 

ส้มตำพลังบวก! เพจดังแชร์ภาพ เมนูเด็ด "ตำวันนี้ให้ดีที่สุด"
.
กลายเป็นไวรัลที่คนแห่แชร์ในทันที หลังเพจ “หน้าแปลก แดรกสนั่น” ออกมาโพสต์ภาพเมนูส้มตำร้านหนึ่ง พร้อมแคปชั่น “นี่แหละ ส้มตำที่ตามหามาทั้งชีวิต!!”

โดยในเมนูเขียนเอาไว้ว่า “ตำวันนี้ให้ดีที่สุด 75 บาท”
.
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตอยากไปกินเมนูนี้กันเลยทีเดียว เพราะเป็นเมนูที่ให้ทั้งความแซ่บและพลังบวกเป็นอย่างมาก

 

ประมวลภาพ! เหตุลูกเห็บถล่ม จ.เชียงใหม่ จนขาวโพลนคล้ายหิมะ

จากกรณี ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. เกิดพายุฤดูร้อนฝนตกหนักและลมพัดแรง รวมทั้งมีลูกเห็บตกในตัวเมืองเชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียง เช่น แม่ริม สันทราย และดอยสะเก็ด เป็นต้น ทั้งนี้ส่งผลทำให้ป้ายโฆษณา,เสาไฟฟ้า และต้นไม้ ที่ต้านทานกระแสลมไม่ไหวเกิดโค่นล้มใส่สิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินเสียหาย รวมทั้งกระแสไฟฟ้าดับหลายจุดทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (18 มี.ค.) หลายเพจต่างแชร์ภาพเหตุการณ์พายุฤดูร้อนลูกเห็บตก ซึ่งบางคนเผยมีความคล้ายหิมะถล่มเชียงใหม่ โดยคนในพื้นที่บางรายแสดงความคิดเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

ซึ่งภาพพายุลูกเห็บถล่มดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ นั้น ทำให้พื้นที่ขาวโพลนเหมือนมีหิมะปกคลุม เบื้องต้นพบว่า หลังคาที่พัก ร้านค้า พังเสียหาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

ที่มา : NEWS1

 

Biden ออกแถลงการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับจีน และคำพูดของจีนมีข้อมูลมาก อยากคุยกับจีน

จีนและสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องสื่อสารกัน แต่พวกเขาไม่สามารถสื่อสารเพื่อการสื่อสารได้ การสื่อสารโดยปราศจากฉันทามติและไม่จริงใจนั้นไร้ประโยชน์และสิ้นเปลือง เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ เรียกร้องอีกครั้งให้ ตัดการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อใหม่กับจีน และจีนตอบโต้ด้วยการชี้ให้เห็นถึงทิศทางของสหรัฐฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซัลลิแวน ผู้ช่วยกิจการความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาและรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังรอคอยการโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีไบเดนกับผู้นำจีนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ Wang Wenbin ตอบโต้ว่าการสื่อสารที่จำเป็นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกายังคงรักษาไว้ เราเชื่อว่าคุณค่าและความสำคัญของการสื่อสารอยู่ที่การเสริมสร้างความเข้าใจและการจัดการความแตกต่าง ไม่ใช่การสื่อสารเพื่อจุดประสงค์ในการสื่อสาร ฝ่ายสหรัฐฯ ควรแสดงความจริงใจ พบปะกับจีนครึ่งทาง และดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับมาเป็นปกติ

นโยบายของสหรัฐฯ ต่อจีน โดยพูดอย่างหนึ่งและทำอีกอย่างหนึ่ง

ในการจัดการกับ "เหตุการณ์บอลลูน" รัฐบาลของ Biden ได้ใช้สองมาตรฐานและการกระทำที่รุนแรงจากความต้องการทางการเมืองภายในประเทศ หลังจากทำสิ่งเลวร้ายเสร็จแล้ว Biden ขอคุยกับจีนอีกครั้ง แต่คำขอนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่มีความจริงใจเลย

ในทำนองเดียวกัน ผู้นำของสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลียเพิ่งเข้าร่วมการแถลงข่าว "Ocus" ตามแผนการที่ทั้งสามประเทศประกาศไว้ สหรัฐฯ จะเป็นกำลังหลักและสหราชอาณาจักรจะเสริมด้วยเรือดำน้ำนิวเคลียร์สามลำ จะส่งมอบภายในปี 2573 และอีก 5 ลำจะส่งมอบภายในปี 2593

จุดยืนของจีนในประเด็นที่เกี่ยวข้องนั้นชัดเจน ความร่วมมือด้านเรือดำน้ำนิวเคลียร์เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ ประสิทธิผล และอำนาจของสนธิสัญญาว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ประเด็นการป้องกันและการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐสมาชิกทั้งหมดของหน่วยงาน , และ รวมกระบวนการระหว่างรัฐบาลเพื่อหารือและตัดสินใจร่วมกัน โดยไม่สนใจคำคัดค้านของประเทศสมาชิกอื่นๆ ประเทศที่เกี่ยวข้องยืนกรานที่จะทำลายการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ "หลอกลวง"

หากสหรัฐฯ ต้องการพูดคุย ควรหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่และพูดคุย แทนที่จะประกาศฝ่ายเดียวว่า "จีนปฏิเสธที่จะพูดคุย" และกล่าวโทษจีน

ในสภาพแวดล้อมทางการเมืองในปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา รัฐบาลของ Biden เป็นตัวแทนที่ดูเหมือนจะหวังที่จะสื่อสารกับจีน แต่ในขณะเดียวกัน รัฐสภาของสหรัฐอเมริกาก็ไม่เคยหยุดการกระทำต่อต้านจีน นี่เป็นภาพที่แท้จริงของสหรัฐอเมริกา

สหรัฐฯ ต้องการให้จีนร่วมมือ แต่ไม่เต็มใจที่จะละทิ้งการกระทำที่ทำลายผลประโยชน์ของจีน โดยอ้างว่าจะสร้าง "แนวป้องกัน" แต่ก็เป็นสหรัฐฯ ที่ล้ำเส้นและเสี่ยงซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากตรรกะไม่ถูกต้อง ถนนจะถูกปิดกั้น จากมุมมองนี้ ยังมีหนทางอีกยาวไกลก่อนที่ช่องทางการสื่อสารจีน-สหรัฐฯ จะกลับคืนมาอย่างราบรื่น

เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน Qin Gang ได้โทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน Kuleba ซึ่งในระหว่างนั้น Kuleba แสดงท่าทีของยูเครนต่อจีนอย่างชัดเจน เขากล่าวว่าความสัมพันธ์จีน-ยูเครนจะถูกมองจากมุมมองระยะยาว ปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวต่อไป เคารพบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน และรอคอยที่จะร่วมมือกับประเทศจีนในด้านต่างๆ

ทำไม Kuleba ถึงพูดถึง "มุมมองระยะยาว"

ต้องรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและยูเครนไม่ได้จำกัดเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในปัจจุบัน เหตุผลที่รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนย้ำหลายครั้งถึง "มุมมองระยะยาว" คือเขาหวังว่าจีนสามารถมีส่วนร่วมในงานฟื้นฟูยูเครนหลังสงครามและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

อย่างที่เราทราบกันดีว่าก่อนที่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะสิ้นสุดลง Zelensky ได้เริ่มสร้างแผนฟื้นฟูหลังสงครามสำหรับยูเครนแล้ว

แล้วใครควรเป็นผู้จ่ายค่ากองทุนฟื้นฟูจำนวนมหาศาลที่ฝ่ายยูเครนร้องขอ?

ประเทศตะวันตกนำโดยสหรัฐอเมริกา? เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ต้องการ นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปได้ทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อยูเครน นอกจากนี้ เนื่องจากการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปได้พุ่งเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจและพลังงาน

ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้ สหรัฐฯ อยู่ในสถานะที่ยากลำบากในการป้องกันตนเอง จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะเงินเฟ้อ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 8 ครั้ง ส่งผลให้ธนาคารในซิลิคอนวัลเลย์และธนาคารซิกเนเจอร์ล้มละลายต่อเนื่อง

ในทางกลับกัน ระหว่างจีนและยูเครน มีการลงนาม "ข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ" อย่างเร็วที่สุดในปี 2564 ยูเครนตระหนักดีถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของจีน ดังนั้นจึงเดิมพัน "สมบัติ" ของตนไว้กับจีน

ในการสนทนาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีนและยูเครน คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเน้นย้ำถึงการเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนและปฏิบัติตามหลักการจีนเดียว

เหตุผลที่ Kuleba พูดเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงทัศนคติที่เป็นมิตรต่อประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความคิดของเขาเองด้วย

ประการหนึ่งจีนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศในปัจจุบัน และแม้แต่รัฐบาลปัจจุบันของ Biden ก็ไม่กล้าเอะอะโวยวาย

จากแผนรัสเซีย-ยูเครนไม่นานมานี้ไปจนถึงการปรองดองระหว่างชาห์-อิรักที่ทำให้ประชาคมระหว่างประเทศตกตะลึงความสำคัญของจีนในประชาคมระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญและโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับการทหารตามสถานการณ์สนามรบในปัจจุบันและสถานการณ์ระหว่างประเทศ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะดำเนินต่อไปจนถึงฤดูร้อนนี้ Kuleba รู้อยู่ในใจว่าเมื่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนสิ้นสุดลง จีนจะมีบทบาทมากขึ้นในฐานะประเทศใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ

 

พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ จากนี้ผู้ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินแจ้งแบงก์ระงับบัญชีได้ทันที 24 ชม. ย้ำ เจ้าของบัญชีม้า ซิมม้า มีโทษอาญาหนักทั้งจำคุก ทั้งปรับ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 66 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พรระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และกฎหมายเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ 17 มี.ค. 66 เป็นต้นไป

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันกำหนดแนวดำเนินการเพื่อให้การดูแลคุ้มครองประชาชนจากมิจฉาชีพเกิดขึ้นได้เร็วที่สุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมี อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เมื่อกฎหมายมีผลบังคับแล้วประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนถูกมิจฉาชีพหลวกลวงสามารถติดต่อศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคารเพื่อระงับบัญชีได้ทันทีและตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นกลไกให้ระดับความเสียหายได้ทันท่วงที โดยขณะนี้มีธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐรวม 15 แห่ง ได้เปิดศูนย์แจ้งเหตุฯ แล้ว

นอกจากนี้ ผลของกฎหมายยังมีผลให้เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า มีโทษอาญาหนัก จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนหมายโทรศัพท์ ก็มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งงแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“นับจากนี้ หากประชาชนท่านใดรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงให้รีบโทรไปที่ศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพธนาคารที่ท่านมีบัญชีอยู่เพื่อระงับบัญชีได้ทันที และฝากถึงผู้ที่รู้ตัวว่าได้เปิดบัญชีม้า ซิมม้าให้มิจฉาชีพใช้เพื่อหลอกลวงประชาชนให้ไปปิดบัญชีเสีย หากเจ้าหน้าที่จับได้จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และท่านจะอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้เพราะรัฐบาลได้เตือนเรื่องนี้มานานแล้ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

ที่มา : แนวหน้า
-------------------------------
แหล่งข่าว :
- https://www.naewna.com/politic/717967
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

ยูบีเอส หรือ ยูเนียน แบงก์ ออฟ สวิตเซอร์แลนด์ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ร้องขอรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับหลักประกันเงินทุนราว 6,000 ล้านดอลลาร์ หากพวกเขาเข้าซื้อกิจการของเครดิตสวิส จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งรับรู้เกี่ยวกับการเจรจา ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายเร่งหาทางบรรลุข้อตกลงระหว่างกัน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นแก่ธนาคารที่ป่วยไข้ของสวิตเซอร์แลนด์

ธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 167 ปี กลายเป็นสถาบันการเงินชื่อดังที่สุดที่ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง อันโหมกระพือขึ้นจากการพังครืนของซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (เอสวีบี) และซิเนเจอร์ แบงก์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนักและกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่เร่งใช้มาตรการพิเศษต่างๆนานา เพื่อพยุงภาคธนาคารให้อยู่รอด

แหล่งข่าวใกล้ชิด 2 ราย เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ยูบีเอส กำลังมองหาหลักประกันจากรัฐบาล 6,000 ล้านดอลลาร์ ชดเชยต้นทุนส่วนที่ลดต่ำลงของเครดิตสวิสและความเป็นไปได้ในค่าใช้จ่ายในการสู้คดีต่างๆนานา

หนึ่งในแหล่งข่าวเตือนว่าการเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤตความเชื่อมั่นในเครดิตสวิส กำลังเผชิญกับอุปสรรคสำคัญและอาจมีการปรับลดพนักงานมากถึง 10,000 อัตรา หากว่ามีการควบรวมระหว่าง 2 ธนาคาร

คณะกรรมการควบคุมกฎระเบียบของสวิตเซอร์แลนด์ เร่งนำเสนอทางออกหนึ่งๆ สำหรับเครดิตสวิส ก่อนตลาดกลับมาเปิดอีกครั้งในวันจันทร์(20มี.ค.) แต่ความซับซ้อนของการรวมกันของ 2 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เพิ่มความเป็นไปได้ว่าการเจรจาอาจลากยาวจนถึงวันอาทิตย์(19มี.ค.)

ทางเครดิตสวิส ยูบีเอสและรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

การเจรจาช่วงสุดสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยความโกลาหล มีขึ้นตามหลังสัปดาห์แห่งการดำดิ่งของหุ้นภาคธนาคาร และความเคลื่อนไหวในยุโรปและในสหรัฐฯ ในความพยายามพยุงธุรกิจภาคสถาบันการเงิน รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคลื่อนไหวรับประกันเงินฝากของลูกค้า ส่วนธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ อีดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือ เครดิตสวิส หลายหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความสมดุลแก่งบดุลของทางธนาคาร

มีรายงานว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ได้พูดคุยหารือกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไบเดน เกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร

อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แม้ทางสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้านี้ว่า บัฟเฟตต์ ติดต่อกับรัฐบาลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับวิกฤตธนาคารระดับท้องถิ่น

ยูบีเอส อยู่ภายใต้แรงกดดันจากเจ้าหน้าที่สวิตเซอร์แลนด์ ให้ดำเนินการเทคโอเวอร์ ธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นคู่แข่งในประเทศ ในขณะที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนนเชียล ไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับสถานการณ์ ระบุว่าสวิตเซอร์แลนด์กำลังเตรียมใช้มาตรการฉุกเฉิน เพื่อให้ข้อตกลงดังกล่าวบรรลุอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ยูบีเอสเรียกร้องหลักประกันและมาตรการสนับสนุนฉุกเฉินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากกฎหมายการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุว่า ยูบีเอสต้องให้เวลาผู้ถือหุ้นทั้งหมดหารือเป็นการภายในเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งเมื่อประเมินกับความเร่งรีบของการแก้ไขสถานการณ์ ถือว่า "ช้าเกินไป" ในการรักษาเครดิตสวิส ที่ขอกู้ยืมจากธนาคารกลางสวิส (เอสเอ็นบี) กว่า 50,000 ล้านฟรังก์สวิส ( ราว 1.8 ล้านล้านบาท )

เครดิตสวิส สูญเสียมูลค่าตลาดไปถึง 1 ใน 4 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บีบให้พวกเขารับเงินช่วยเหลิอจากธนาคารกลาง 50,000 ล้านฟรังก์สวิส (54,000 ล้านดอลลาร์) ในขณะที่พวกเขาพยายามฟื้นตัวจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆนานา ที่กัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุนและลูกค้า

เครดิต สวิส ที่เป็นธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ และเป็น 1 ใน 30 แบงก์ระดับโลก ที่มีความสำคัญอย่างเป็นระบบ ไม่สามารถปล่อยให้ล้มได้ โดยหากมีการพังครืนใดๆมันจะก่อแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งระบบการเงิน

มีรายงานข่าวเกี่ยวกับความสนใจในตัวของเครดิต สวิส มาจากสถาบันการเงินคู่แข่งอื่นๆเช่นกัน โดยบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารดอยช์แบงก์ กำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อทรัพย์สินบางส่วน

(ที่มา:รอยเตอร์/เอเจนซี)

 

ฟลอริย็อง ฟิลิปโปต์ หัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งของฝรั่งเศส เชื่อเป็นที่ชัดเจนมานานแล้วว่า สหรัฐฯ อยู่เบื้องหลังเหตุก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีมเมื่อปีที่แล้ว ความเห็นซึ่งมีขึ้นตามหลังการออกมาแฉของซีย์มอร์ เฮิร์ช นักข่าวสืบสวนสอบสวนคนดังเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ชาวสหรัฐฯ

"แม้กระทั่งก่อนสงคามในยูเครน สหรัฐฯต่อสู้คัดค้านนอร์ดสตรีมมานานหลายปี มันเป็นส่วนถาวรในนโยบายของพวกเขา" ฟิลิปโปต์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ ระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์(17มี.ค.)

"ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าอเมริกาควรดำเนินการเพื่อไม่ให้มีท่อลำเลียงนี้อีกต่อไป นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น และมันเป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน" ฟิลิปโปต์ ผู้นำพรรค Patriots พรรคฝ่ายขวาในฝรั่งเศศกล่าว

เมื่อเดือนที่แล้ว ซีย์มอร์ เฮิร์ช นักข่าวสืบสวนสอบสวนคนดังเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ชาวสหรัฐฯ รายงานว่า ไบเดน ออกคำสั่งเป็นการส่วนตัวให้ระเบิดท่อลำเลียง และมีนอร์เวย์ ให้ความช่วยเหลือในการลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงครั้งนี้

ไบเดน เคยพูดว่า "จะไม่มีนอร์ดสตรีม 2 อีกต่อไป" ระว่างแถลงข่าวร่วมกับ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในขณะที่ เฮิร์ช อ้างว่า ไบเดน อนุญาตให้กองกำลังพิเศษของสหรัฐฯปฏิบัติการลับสุดยอด ในแนวทางหนึ่งซึ่งเป็นข้ออ้างสำหรับไม่ต้องแจ้งสภาคองเกรสล่วงหน้า

ท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 2 เป็นท่อลำเลียงใหม่ล่าสุด ซึ่งมีความตั้งใจยกระดับปริมาณการลำเลียงก๊าซธรรมชาติของท่อลำเลียงนอร์ดสตรีมดั้งเดิม ซึ่งลำเลียงก๊าซจากรัสเซียสู่เยอรมนี ลอดใต้ทะเลบอลติก แต่มันไม่เคยได้เปิดใช้งาน ในขณะที่ท่อลำเลียงทั้ง 2 ท่อต่างได้รับความเสียหายจากหลังเหตุลอบก่อวินาศกรรม

ฟิลิปโปต์ บอกว่าเขามองว่าสหรัฐฯเป็นคนร้ายตั้งแต่แรกแล้ว ก่อนหน้าที่ เฮิร์ช จะเผยแพร่รายงานออกมาด้วยซ้้ำ แต่เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับบทบาทของนอร์เวย์ ทั้งนี้เขาเชื่อว่า ออสโล มีแรงจูงใจในการร่วมมือกับสหรัฐฯ เนื่องด้วยพวกเขาแข่งขันกับรัสเซียในด้านการค้าก๊าซ และหลายประเทศในยุโรปได้ทดแทนก๊าซรัสเซียด้วยก๊าซของนอร์เวย์

ทั้งสหรัฐฯและนอร์เวย์ ต่างปฏิเสธความรับผิดชอบเหตุลอบก่อวินาศกรรมครั้งนี้

ฟิลิปโปต์ ยังเรียกร้องให้ฝรั่งเศส ถอนตัวจากนาโต โดยบอกว่าพันธมิตรทหารแห่งนี้ จำเป็นต้องถูกยุบเพราะว่าไม่มีเหตุผลที่จะธำรงอยู่อีกต่อไป "เราจำเป็นต้องหยุดวาระการทำสงครามโลกกับรัสเซียและจีน มันวิกลจริตอย่างมาก" เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนรัสเซีย พร้อมกล่าวโทษสหรัฐฯกำลังโหมกระพือความตึงเครียดทั่วโลกหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้เขายังเรียก เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ว่าเป็นผู้นำไม่ซื่อสัตย์ "รัฐบาลของเขาให้ความสำคัญกับสหรัฐฯในลำดับต้นๆ ไม่ใช่ประชาชนของตนเอง" ฟิลิปโปต์กล่าว

ฟิลิปโปต์ ยังวิพาษ์วิจารณ์ มาครง กรณีที่ยังคงเดินหน้าผลักดันผ่านกฎหมายปฏิรูปเบี้ยบำนาญ แม้ถูกคัดค้านจากประชาชนในวงกว้าง โดยอ้างว่าไม่มีเงินทุนสำหรับโครงการทางสังคมต่างๆนานา ทั้งที่อีกด้านหนึ่งประธานาธิบดีรายนี้ กลับส่งอาวุธและกระสุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ไปช่วยเหลือยูเครน

(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)

 

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันเสาร์(18มี.ค.) คาดหมายว่าจะถูกจับกุมในวันอังคาร(21มี.ค.) ในขณะที่อัยการนิวยอร์กพิจารณาตั้งข้อหาเขาเกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังโป๊สาว ไม่ให้แฉความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ซึ่งอาจเข้าข่ายการใช้จ่ายเงินในการรณรงค์หาเสียงที่ผิดกฎหมายในศึกเลือกตั้งปี 2016 พร้อมเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนลงถนนทำการประท้วง

"ข่าวรั่วจากสำนักงานอัยการเขตแมนฮัตตัน บ่งชี้ว่า ด้วยไม่สามารถพิสูจน์การทำผิดทางอาญาใดๆได้ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ผู้สมัครตัวเต็งของรีพับลิกันและอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะถูกจับกุมในวันอังคารหน้า(21มี.ค.) ทรัมป์เขียนบนแฟลตฟอร์มออนไลน์ ทรัตช์ โซเชียล

โฆษกของทรัมป์รายหนึ่งระบุว่าอดีตประธนาธิบดีรายนี้ยังไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการจับกุมใดๆ ในขณะที่ ทรัมป์ ไม่ได้ให้หลักฐานเกี่ยวกับข่าวรั่วที่หลุดออกมาจากสำนักงานอัยการเขตและไม่ได้พูดถึงฐานความผิดที่เขาอาจถูกตั้งข้อหา ในข้อความที่โพสต์บนแฟลตฟอร์มออนไลน์

"ประท้วง ทวงประเทศของเราคืนกลับมา!" ทรัมป์เขียนนี้ ทั้งนี้ผู้สนับสนุนของ ทรัมป์ เพิ่งก่อเหตุบุกจู่โจมอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 มกราคม 2021 ในความพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาเป็นฝ่ายปราชัยแก่ โจ ไบเดน

การสืบสวนเกิดขึ้นในขณะที่ ทรัมป์ หาทางเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024

ไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯคนไหน ทั้งขณะอยู่ในตำแหน่งหรือหลังจากนั้น ถูกดำเนินคดีทางอาญา และทรัมป์บอกว่าเขาจะเดินหน้าหาเสียงต่อไป แม้ถูกตั้งข้อหาในฐานความผิดทางอาญาก็ตาม

โฆษกของอัยการเขตแมนฮัตตันปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ในขณะที่สำนักงานอัยการแห่งนี้ได้ทำการสืบสวนกรณี ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความส่วนตัวของทรัมป์ จ่ายเงินเป็นจำนวน 130,000 ดอลลาร์ เป็นค่าปิดปากแก่ สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงหนังสำหรับผู้ใหญ่

แหล่งข่าวเผยว่าสำนักงานอัยการแมนฮัตตัน ได้นำเสนอหลักฐานต่อคณะลุกขุนเกี่ยวกับการจ่ายเงิน ซึ่งเกิดขึ้นในวันท้ายๆของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปี 2016 ของทรัมป์ แลกกับการให้ แดเนียลส์ ปิดปากเงียบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างเธอกับทรัมป์ เมื่อ 1 ทศวรรษก่อนหน้านั้น

ทรัมป์ปฏิเสธว่าไม่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวใดๆเกิดขึ้น และเรียกการสืบสวนของสำนักงานอัยการแมนฮัตตัน ว่าเป็นการล่าแม่มด

คาดหมายว่าพยานเพิ่มเติมรายหนึ่งจะเข้าให้กากับคณะลูกขุนในวันจันทร์(20มี.ค.) ตามคำร้องขอบรรดาทนายความของทรัมป์

ถ้อยแถลงของทรัมป์ ที่คาดหมายว่าตนเองจะถูกจับในวันอังคาร(21มี.ค.) มาจากข่าวที่สำนักงานอัยการแมนฮัตตัน จะประชุมกับบรรดาผู้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ของการชี้มูลความผิด

เควิน แม็คคาร์ทีย์ ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯจากรีพับลิกัน ในวันเสาร์(18มี.ค.) ส่งเสียงโวยวายต่อการสืบสวนครั้งนี้ "เป็นอีกครั้ง มีการใช้อำนาจโดยมิชอบโดยอัยการเขตหัวรุนแรง ผุ้ปล่อยให้เหล่าพวกอาชญากรร้ายแรงเดินลอยนวล ในขณะที่เขาหันมาล้างแค้นทางการเมืองกับประธานาธิบดีทรัมป์"

ในช่วงต้นดือนสำนักงานอัยการแมนฮัตตัน เชิญทรัมป์ เข้าให้ปากคำต่อคณะลูกขุนใหญ่ ที่กำลังสืบสวนเกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปาก ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบอกว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้วาการชี้มูลความผิดใกล้เข้ามาแล้ว

โคเฮน สารภาพผิดในปี 2018 ในความผิดฐานละเมิดกฎการเงินหาเสียงเลือกตั้งของรัฐบาลกลาง ที่กรณีเขาจ่ายเงินให้แก่ แดเนียลส์และผู้หญิงอีกคน แลกกับการที่พวกเธอยอมปิดปากเงียบ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางชู้สาวที่พวกเธออ้างว่ามีกับทรัมป์ เช่นเดียวกับความผิดทางอาญาอื่นๆ โคเฮนบอกว่าทรัมป์เป็นคนสั่งเขาโดยตรงให้จ่ายเงิน

การสืบสวนในคดีดังกล่าวเป็นหนึ่งในความทุกข์ยากทางกฎหมายต่างๆนานาที่ทรัมป์ต้องเผชิญ ในขณะที่เขากำลังหาทางเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขากำลังเผชิญการสืบสวนทางอาญาระดับรัฐในรัฐจอร์เจีย ต่อความพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 ในรัฐแห่งนี้

นอกจากนี้แล้วที่ปรึกษาพิเศษรายหนึ่ง ซึ่งแต่งตั้งโดย เมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ อยู่ระหว่างสืบสวนกรณี ทรัมป์ ซุกเอกสารลับของรัฐบาล หลังพ้นจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับความพยายามของเขาในการล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาพ่ายแพ้ต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากเดโมแครต

เมื่อปีที่แล้ว สำนักงานอัยการเขตแมนฮัตตัน สามารถเอาผิดทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ตามข้อหาโกงภาษี แต่อัยการเขตปฏิเสธตั้งข้อหาตัวของทรัมป์เอง ในฐานความผิดก่ออาชญากรรมทางการเงินอันสัมพันธ์กับแนวทางการดำเนินธุรกิจของเขา กระตั้งให้ทางอัยการ 2 คนที่ร่วมตรวจสอบ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

ในเบื้องต้นเมื่อปี 2018 ทรัมป์ ปฏิเสธว่าเขาไม่เคยรับรู้อะไรเกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปากเลย อย่างไรก็ตามต่อมา เขายอมรับว่าได้จ่ายเงินคืนแก่ โคเฮน ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นเพียงแค่การทำธุรกรรมส่วนตัวเฉยๆ

โคเฮน ซึ่งถูกส่งเข้าเรือนจำหลังจากสารภาพผิด ถูกนำตัวเข้าให้ปากคำกับคณะลูกขุนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กระบวนการของคณะลูกขุนใหญ่ถูกปิดเป็นความลับ แต่บริเวณด้านนอกศาลแมนฮัตตันล่าง โคเฮน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่าการเข้าให้ปากคำครั้งนี้ ไม่ได้เป็นความปรารถนาแก้แค้นทรัมป์ "ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรับผิดชอบ" โคเฮนกล่าว "เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อความสกปรกของตนเอง"

แดเนียลส์ ซึ่งมีชื่อจริงว่า สเตฟานี คลิฟฟอร์ด เข้าให้ปากคำกับอัยการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการเปิดเผยของอัยการ

(ที่มา:รอยเตอร์)

 

ปฏิกิริยาของวอชิงตันต่อการออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ของศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) ดูเหมือนเป็นอาการของคนที่มีความผิดปกติทางความคิด(Schizophrenia) จากความเห็นของสถานทูตรัสเซียประจำอเมริกา ย้อนความทรงจำทั้งสหรัฐฯและรัสเซียไม่ได้ให้การรับรองศาลแห่งนี้ โดยเฉพาะวอชิงตันเองก็ไม่ให้ความร่วมมือกับไอซีซีในคดีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชาวอเมริกา แต่กลับออกมาแสดงความยินดีอย่างรวดเร็วต่อการตัดสินใจล่าสุดเกี่ยวกับปูติน

ในโพสต์ที่เผยแพร่บนเทเลแกรมเมื่อวันศุกร์(17มี.ค.) สถานทูตรัสเซียระบุว่าสภาวะของสหรัฐฯ ทำให้นึกถึงอาการของคนที่มีความผิดปกติทางความคิด จากข้อเท็จจริงที่ว่าเจ้าหน้าที่อเมริกายกย่องการตัดสินใจของไอซีซี ที่ตั้งข้อหา ปูติน และ มาเรีย ลโววา-เบโลวา คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนเด็กของรัสเซีย

"เพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของตนเอง วอชิงตันสนับสนุนการหาความสำราญทางกฎหมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนที่ปลดปล่อยออกมาโดยไอซีซี ซึ่งเป็นที่ทราบกันอย่างดีว่า รัสเซีย เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ไม่ได้ให้การรับรองเขตอำนาจศาลของไอซีซี" สถานทูตระบุ พร้อมกล่าวว่าความพยายามของไอซีซี ในการสืบสวนอเมริกาต่อการก่ออาชญากรรมสงครามในอัฟกานิสถานปี 2022 ผลก็คือทำให้สหรัฐฯกำหนดมาตรการคว่ำบาตร ฟาตู เบนซูดา อัยการของไอซีซี ณ ขณะนั้น

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์(10มี.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เชื่อว่าการตัดสินใจของไอซีซี เกี่ยวกับประธานาธิบดีรัสเซีย นั้นมีความชอบธรรม เนื่องจาก ปูติน ก่ออาชญากรรมอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเขารุดบอกต่อว่าศาลแห่งนี้ไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นสากลจากเราทั้งสอง"

สหรัฐฯซึ่งถอนตัวจากไอซีซีในปี 2022 ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งที่ให้อำนาจ "ใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็นและเหมาะสม" ในนั้นรวมถึงกำลังทหาร สำหรับปล่อยตัวชาวอเมริกาหรือพลเมืองของประเทศพันธมิตร ที่ถูกควบคุมตัวโดยศาลแห่งนี้

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ในวันศุกร์(17มี.ค.) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของไอซีซี และคำกล่าวอ้างของศาลแห่งนี้ที่ว่า ปูติน และ ฟาตู เบนซูดา ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ต่อการขนย้ายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เด็กๆจากยูเครนไปยังรัสเซีย โดยบอกว่า "รัสเซีย ก็เหมือนกับประเทศอื่นๆหลายชาติ ไม่ได้รับรองขอบเขตอำนาจของศาลแห่งนี้"

เปสคอฟ บอกว่าหมายจับเป็นเรื่องน่าโมโหและไม่อาจยอมรับได้ พร้อมระบุว่ามันไม่มีค่าและเป็นโมฆะจากมุมมองทางกฎหมาย

ทั้งนี้นอกจากสหรัฐฯและรัสเซียแล้ว ยังมีประเทศอื่นๆอีกหลายชาติ ที่ไม่ได้ให้การยอมรับขอบเขตอำนาจของศาลไอซีซี ในนั้นรวมจีน อินเดีย อิสราเอล ซาอุดีอาระเบียและตุรกี

(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)

 

ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียในวันศุกร์(17มี.ค.) เปรียบเทียบหมายจับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) กับกระดาษชำระ ชี้ไม่มีความหมายใดๆ เนื่องจากรัสเซียไม่ได้เป็นรัฐสมาชิกของไอซีซี

"ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับวลาดิมีร์ ปูติน ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอธิบายว่ากระดาษแผ่นนี้ควรถูกใช้งานแบบไหน" เมดเวเดฟ เขียนทวิตเตอร์ พร้อมใส่อิโมจิรูปกระดาษชำระ

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม รวมถึงการให้เนรเทศเด็กๆ จากยูเครนไปรัสเซีย ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ศาลระบุว่า ความผิดทั้งหมดของประธานาธิบดีปูตินทำขึ้นในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 เมื่อครั้งที่รัสเซียบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ แต่รัสเซียกลับปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และตราหน้าหมายจับนี้ว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจ

มีความเป็นไปได้อย่างมากที่การเคลื่อนไหวของศาลอาญาระหว่างประเทศนี้ จะไม่มีผลอะไร เพราะศาลนี้ไม่มีอำนาจในการจับกุมผู้ต้องสงสัย และสามารถดำเนินคำสั่งได้เฉพาะในกลุ่มประเทศสมาชิก ซึ่งรัสเซียก็ไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกอยู่แล้ว

แต่การออกหมายจับนี้อาจส่งผลกระทบต่อประธานาธิบดีปูตินในด้านอื่น เช่น ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้

ทั้งนี้นอกจากสหรัฐฯและรัสเซียแล้ว ยังมีประเทศอื่นๆอีกหลายชาติ ที่ไม่ได้ให้การยอมรับขอบเขตอำนาจของศาลไอซีซี ในนั้นรวมจีน อินเดีย อิสราเอล ซาอุดีอาระเบียและตุรกี

มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เขียนบนช่องเทเลแกรม แสดงความคิดเห็นในทางเดียวกันว่า หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีความหมายใดๆเลย "การตัดสินใจของศาลอาญาระหว่างประเทศ ไม่มีความหมายต่อประเทศของเรา ในนั้นรวมถึงจากมุมมองทางกฎหมาย"

"รัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศและไม่มีพันธสัญญาภายใต้ธรรมนูญดังกล่าว" ชาราโควากล่าว

เช่นเดียวกับปูติน ทาง มาเรีย ลโววา-เบโลวา คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนเด็กของรัสเซีย ถูกทางศาลอาญาระหว่างประเทศกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม จากการขนย้ายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เด็กๆจากยูเครนไปยังรัสเซีย

"มันคงจะดีกว่าหากว่าประชาคมนานาชาติชื่นชมการทำงานของประเทศของเราในการช่วยเหลือเด็ก เราไม่ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในเขตสงคราม เราพาพวกเขาออกมา เราสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับพวกเขา เราโอบกอดพวกเขาด้วยความรักและประชาชนผู้ห่วงใย" เธอกล่าวกับสถานีโทรทัศน์อาร์ไอที สื่อมวลชนแห่งรัฐ

รัสเซียลงนามในธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศในปี 2000 แต่ไม่เคยให้สัตยาบันรับรองเป็นสมาชิกของไอซีซี และท้ายที่สุดแล้วก็ถอนการลงนามในปี 2016

ในช่วงเวลาดังกล่าว รัสเซีย อยู่ภายใต้แรงกดดันของนานาชาติเกี่ยวกับการยึดครองและผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนฝ่ายเดียวในปี 2014 เช่นเดียวกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย เพื่อสนับสนุนสงครามของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เล่นงานพวกนักรบฝ่ายตรงข้ามของผู้นำรายนี้

(ที่มา:อัล อราบิยาห์/เอเจนซี)

 

ต้องถึงมือ"วอร์เรน บัฟเฟตต์"!!! ปู่ขี่ม้าขาว คุยรัฐบาลกู้วิกฤติแบงก์: จับตา ช่วยใส่เงินลงทุน หรือ แค่ช่วยปรึกษา?

สถานการณ์ขณะนี้จำเป็นต้องมีวีรบุรษ
ยิ่งเป็นระดับปรมาจารย์ ยิ่งต้องการ
มาแล้วนะครับ! "วอร์เรน บัฟเฟตต์" มาเอง
บลูมเบิร์กรายงานว่าหลายวันนี้ "ซือแป๋" แห่งโลกลงทุน ติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด
เป็นไปได้ไหมว่าปู่จะเจียดเงินสักเศษเสี้ยวหนึ่งมาลงทุนในแบงก์เล็กของประเทศ (regional bank คือ แบงก์ที่ให้บริการเป็นย่าน ไม่ใช่มีสาขาทั่วทั้งประเทศ)???
VALUE INVESTOR แปลว่าอะไรคงไม่ต้องขยายความแล้วนะครับ --- นามของปู่ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" พะยี่ห้อมาพร้อมคำนี้ตลอด
แล้วถามว่าแบงก์เล็กพวกนี้ มี VALUE ในอนาคตระยะยาวหรือ ... อืมม์
ไม่เกี่ยวล่ะครับ คราวนี้ ถ้าจะทำ คือ invest ลงทุนเพื่อช่วยชาติกู้วิกฤติ มิใช่เพื่อ value
ทำไม่ทำ?
หรือว่าเป็นแค่ที่ปรึกษา ชี้แนะแนวทาง
ใช่ครับ มันสมองของขรัวเฒ่าระดับเกจิย่อมมีประโยชน์มหาศาล แต่ที่แบงก์เล็กในอเมริกาต้องการตอนนี้ อาจแค่ "เงิน" เพื่อแก้สถานการณ์เฉพาะหน้ามากกว่าความรู้ความสามารถนะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในอดีต เขาเคยหยอดเงินมาช่วยแบงก์หลายครั้งแล้วครับ แต่เป็นแบงก์ยักษ์ใหญ่ (ที่มีอนาคต แต่ปัจจุบัน ณ ขณะนั้นเซ) ทั้ง โกลแมน แซคส์ ในปี 2008 และ แบงก์ ออฟ อเมริกา ในปี 2011

https://www.bloomberg.com/news/arti...officials-on-banking-crisis?srnd=premium-asia