ติดตามสถานะการณ์

ก็สมควรแล้วที่สหรัฐ และอิสลาเอล ถอนตัวจากยูเนสโก

UNESCO : อักซอเป็นของมุสลิม ประณามยิวทำหลุมศพปลอมบิดประวัติศาสตร์ 20 เมษายน 2016 / By admin



ยูเนสโกระบุสิ่งปลูกสร้างที่ยิวอ้างในหลุมศพชาวมุสลิมในบริเวณมัสยิด อัลอักซอ เป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นใหม่ ชัดเจนพื้นที่อักซอเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของมุสลิม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับชาวยิว

สำนักข่าว World Bulletin ของตุรกีรายงานการเปิดเผยข้อมูลของสำนักข่าว RT ของรัสเซียว่า ยูเนสโกมีมติเมื่อวันที่ 11 เมษายน ในการระบุว่ามัสยิดอัล-อักซอ และสถานที่สำคัญอื่นๆ ในเฮบรอน และเบทเลเฮม “เป็นส่วนของปาเลสไตน์” และยังประณามอิสราเอลสำหรับการใช้อำนาจเข้ายึดครองพื้นที่และสร้างหลุมศพปลอมในพื้นที่ฝังศพของชาวมุสลิม

ร่างมติของคณะกรรมการบริหารยูเนสโกในพื้นที่ของปาเลสไตน์ระบุเมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมาว่า สองสถานที่สำคัญคือมัสยิดอิบรอฮีมในกลางเมืองเก่าเฮบรอน และมัสยิด Bilal bin Rabah ในเมืองเบทเลเฮม เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของชาวมุสลิม

ยูเนสโก “ขอยืนยันว่าสถานที่ทั้งสองในเฮบรอน และเบทเลเฮม เป็นพื้นที่ของปาเลสไตน์” และ “ไม่ยอมรับในการดำเนินการของอิสราเอลสำหรับการขุด ค้น และการกระทำที่ผิดกฏหมายระหว่างประเทศ การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อพื้นที่ยึดครองผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว และการสร้างกำแพงปิดกั้นเขตเมืองเก่า เฮบรอน ถือเป็นอันตรายต่อความสมบูรณ์ต่อสถานที่สำคัญ”

ยูเนสโกยังได้กล่าวถึงการดำเนินการของอิสราเอลในการโจมตีต่อพื้นที่ของชาวมุสลิมใน Al Haram Al-Sharif ในเขตมัสยิดอัล-อักซอ

“ขอประณามการรุกรานของอิสราเอล และมาตรการที่ผิดกฎหมาย กับเสรีภาพในการปฎิบัติตามศาสนกิจของชาวมุสลิม ต่อพื้นที่มัสยิดอัล-อักซอ Al Haram Al-Sharif และขอให้อิสราเอลเคารพต่อสถานะประวัติศาสตร์เดิมและหยุดทันทีมาตรการที่ดำเนินการอยู่”แถลงการระบุ

ยูเนสโกเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดสำหรับคำสั่ง “ห้ามชาวมุสลิมทำการฝังศพในพื้นที่บางส่วนที่อิสราเอลสร้างหลุ่มศพปลอมของชาวยิวขึ้นในสถสานของชาวมุสลิม”


http://i-newsmedia.net/?p=14544

 

ให้โอกาสยูเนสโกมาหลายเดือนแล้ว

อเมริกาสร้างความกดดันต่อยูเนสโกในการถอนมติความเป็นอิสลามของมัสยิด อัลอักซอ

• เมษายน 30, 2560
• Written by หยาดฟ้า ไทยประทาน

สถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ของอิสราเอลรายงานว่า อเมริกามีความพยายามที่จะฉีกมติของยูเนสโก

สถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ของอิสราเอลรายงานอีกว่า อเมริกามีความพยายามที่จะฉีกมติของยูเนสโก โดยที่มีการปฏิเสธความสัมพันธ์ทุกด้านระหว่างชาวยิวกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ “อัลกุดส์” ซึ่งในนั้นคือ “มัสยิดอัลอักซอ”

สถานีโทรทัศนี้ช่องนี้ยังรายงานอีกว่า อเมริกาได้สร้างความกดดันแก่ประเทศต่างๆที่เป็นสมาชิกขององค์กรยูเนสโกเพื่อต้องการให้ฉีกมติดังกล่าวนี้

อย่าไงก็ตาม ยูเนสโกได้ตัดสินใจให้มีการจัดประชุมหารือในอาทิตย์หน้า เพื่อเป็นการอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับมติอันนี้ ซึ่งมีการปฏิเสธความสัมพันธ์ทั้งหมดของชาวยิวกับมัสยิดอัลอักซอและลานกว้าง "บุร็อก" ด้วย
http://siampublic.com/world/174/america-unesco-islam

 

พระเจ้าประทานให้หรือ?
แม่น้ำเปลี่ยนเป็นเลือดสีแดงในเมือง Koforidua ประเทศกานา เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้เกิดจากมลพิษ เนื่องจากไม่มีอุตสาหกรรมในพื้นที่ ชาวบ้านงุนงงและกลัว! อันตรายต่อสุขภาพอีกหรือไม่? ข้อมูลเพิ่มเติม: http://kumikasa.com/breaking-news-mysterious-river-runs-blood-red-in-koforidua/

River turns blood red in Koforidua, Ghana. Authorities rule out pollution as there are no industry in the area. Residents baffled and terrified! Another health hazard ahead? more information: http://kumikasa.com/breaking-news-mysterious-river-runs-blood-red-in-koforidua/

 

แนวโน้มการเกิดสงครามโลกครั้งที่3."เมื่อสหรัฐฯ เป็นรองทางทหารและการเมืองต่อ รัสเซีย ในตะวันออกกลาง" นับแต่นี้จะเกิดอะไรขึ้น



ถึงวันนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าคาบสมุทรเกาหลีและตะวันออกกลางใกล้จะเกิดมหาสงครามจริงๆเมื่อสหรัฐเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเพิ่มการซ้อมรบอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา(ความจริงก็เตรียมโจมตีเกาหลีเหนือรอให้ฝ่ายเปียงยางเปิดฉากก่อนตอนนี้ก็ยั่วยุไปเรื่อยๆ)


สัปดาห์ที่แล้วก็เสริมเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปอีกตามด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด รุ่นบีบีวันติดหัวรบนิวเคลียร์ โดนัลด์ ทรัมป์ เผลอหลุดให้สัมภาษณ์ว่า"มีหนทางเดียวที่จะจัดการกับเกาหลีเหนือ"(นั่นคือสงคราม)แต่ที่มาแรงแซงโค้งทุกเรื่องในเวลานี้ก็คือองค์พระประมุขของซาอุดีอาระเบียเสด็จเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการและบรรลุข้อตกลงหลายประการรวมทั้งการซื้ออาวุธจำนวนมากโดยเฉพาะ ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ชื่อ S- 400 จำนวนมากทำให้สหรัฐฯ เร่งอนุมัติระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบทาดให้ทันทีทันใดเช่นกันนักวิเคราะห์ทั่วโลกลงความเห็นนี่คือผลกระทบที่รุนแรงต่อโลกอาหรับและสหรัฐอเมริกาโดยตรงมีแต่รัสเซียเท่านั้นที่ได้ประโยชน์มากที่สุด

ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้

1.สหรัฐฯ และชาติตะวันตกให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ทั้งทางตรงและทางออ้มจนขณะนี้อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์มากกว่า10ลูก

2.ในระยะเวลาสามปีที่ผ่านจนถึงปัจจุบันสหรัฐฯใช้ยุทธศาสตร์ยุทธวิธีทั้งทางการเมืองและการทหารแบบรุกฝ่ายเดียวจนเกิดการผลักมิตรไปเป็นศัตรู เช่น กรณีตุรกีที่หนุนกองทัพให้รัฐประหารแต่ก็พ่ายแพ้รัฐบาลปัจจุบันทำให้รัสเซียได้ตุรกีเป็นมหามิตรทันทีการหนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียก็ถูกรัสเซียจับมือกับอัสซาสปราบราบคาบหนุนไอเอสก็ถูกรัสเซียประกาศสงครามลุยแหลกจนขณะนี้กำลังระส่ำระสายเสียชีวิตหลายพันคนอิหร่านไม่ต้องพูดถึงไม้เบื่อไม้เมาตลอดกาลของสหรัฐฯ (ขณะนี้ถือว่าอิหร่านเป็นมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของตะวันออกกลาง)การหนุนให้ชาวเคิร์ดแยกประเทศยิ่งสร้างความเจ็บแค้นให้ตุรกี อิหร่านบวกอิรักเพิ่มมาอีกหนึ่งประเทศดังนั้นการที่ซาอุฯมีท่าทีเป็นพันธมิตรกับรัสเซียเพิ่มขึ้นผลเสียจึงตกกับสหรัฐเพราะซาอุฯคือมหามิตรของสหรัฐที่สำคัญในตะวันออกกลาง

แล้วสหรัฐจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อประมวลแล้วน่าจะมี5ประการที่สำคัญดังต่อไปนี้
1.เดินหน้าหนุนฝ่ายกบฏในซีเรียต่อไปแม้ว่าจะต้องลงทุนอีกมากเพราะไม่ต้องนับหนึ่งใหม่

2.ให้อิสราเอลเพิ่มการโจมตีกลุ่มต่างๆที่สู้รบในขณะนี้ต่อไปแต่ให้หนักขึ้น

3.ถอนทหารกลับยอมให้รัสเซียคุมตะวันออกกลางโดยถาวร(คงยาก)

4.ให้อาวุธชาวเคิร์ดทุกกลุ่มเพื่อป่วนทั้ง อิหร่านตุรกีอิรักพร้อมกัน(ถ้าทำสำเร็จจะตีเสมอรัสเซีย)

5.หนุนกลุ่มไอเอสให้รวมตัวกันให้ได้

จากทางเลือกของสหรัฐฯทั้งหมดคงไม่ถอยจากตะวันออกกลางและคงหาวิธีที่สรุปมาแล้วทั้ง 5ข้อ สงครามที่ตะวันออกกลางมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นแน่นอนขึ้นชื่อว่าสหรัฐฯไม่ยอมเป็นรองใครอยู่แล้วโดยเฉพาะรัสเซียเพราะสหภาพโซเวียตยังบอนไซจนล่มสลายมาแล้วแต่ก็คงไม่ง่ายเหมือนอดีตและนี่เป็นอีกหลายปัจจัยที่เกื้อกูลให้เพิ่มอุณหภูมิสงครามโลกครั้งที่3ทั้งนั้น

http://www.phenkhao.com/contents/bg/11398

 

ปี2545พี่น้องที่จะนะสงขลาสู้กันเรื่องผลประโยชน์จากแกสในแหล่งเจดีเอจนต้องคดีสู้กันถึง3ศาลกว่าจะรอดคุกตะรางมาได้จากข้อกล่าวหาสารพัด วันนี้น้ำลดตอผุดขอบคุณเจ๊รสนา โตสิตระกูลที่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาถามและหาคำตอบ...



"ขอให้นายกฯ จัดการกรณีการหลีกเลี่ยงภาษีส่งออกปิโตรเลียมเหลว(คอนเดนเสท)จากแหล่งJDA ของบริษัทเอกชนให้ถูกต้อง"
ในช่วง2อาทิตย์ที่ผ่านมา มีข่าวดังในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับเอกสารหลุดลอดออกมา เรื่องที่ 3ปลัดกระทรวงลงมติเบรกDSI ดำเนินคดีกับบริษัทต่างชาติที่หลีกเลี่ยงภาษี กรณีซื้อคอนเดนเสทจากแหล่งพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) โดยสำแดงเอกสารส่งออกอันเป็นเท็จ หลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีขาออก มีการอ้างว่าหากดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนที่เลี่ยงภาษีจะเกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถึงกับมีข่าวว่าจะขอให้นายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้มาตรา44 มาแทรกแซงคดีนี้อีกด้วย
จากข้อมูลของสำนักข่าวไทยพับลิก้าได้รายงานว่า
"ที่ผ่านมาการซื้อ-ขายคอนเดนเสทจากพื้นที่ JDA ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา หากเป็นการซื้อ-ขายกันโดยตรง ระหว่างบริษัทผู้รับสัมปทานขายให้บริษัทที่ประกอบกิจการในประเทศไทยหรือมาเลเซีย แต่ก็มีหลายกรณีที่ด่านศุลกากรสงขลา ตรวจพบ บริษัทผู้รับสัมปทานนำคอนเดนเสทไปขายผ่านคนกลาง ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการอยู่ในประเทศที่ 3 ก่อนนำคอนเดนเสทมาขายให้กับบริษัทในเครือ ปตท. เรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
ยกตัวอย่าง กรณีบริษัท CARIGALI HESS OPERATION COMPANY SDN BHD นำส่วนแบ่งคอนเดนเสทที่ผลิตได้ จากแหล่งจักรวาล (Cakerawala) ไปมอบให้บริษัท HESS นำไปขายให้กับบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) (PTTAR) โดยมีใบรับรองจากองค์ร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJA) แนบมากับใบขนสินค้า แจ้งต่อด่านศุลกากรสงขลาว่าจะนำคอนเดนเสท
ล็อตนี้ไปขายให้กับ ปตท. อะโรเมติกส์ฯ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสงขลาจึงทำการตรวจปล่อยสินค้า โดยไม่ได้เก็บอากรขาออก เพราะเป็นการขายให้กับบริษัทไทย"
ต่อมามีการร้องเรียนกล่าวโทษเรื่องนี้ต่อDSI เรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีของ บริษัทCPOC(ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างปตท.สผ.และคาริการี่ของมาเลเซีย) และบริษัทCHESS (ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างคาริการี่กับบริษัทเฮสส์ของสหรัฐ)
หลังจากมีการสอบสวนแล้ว DSI ร่วมกับพนักงานอัยการได้มีมติว่า2บริษัทมีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีอากรตามมาตรา 99 และ มาตรา 27 พ.ร.บ ศุลกากร 2469 จึงได้แจ้งให้บริษัท CPOC และ บริษัท CHESSมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งบริษัท CPOCได้มารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ส่วนบริษัท CHESS ขอเลื่อนมารับทราบข้อกล่าวหาในเดือนกรกฎาคม 2560 แต่ก็ไม่มา
ต่อมาปรากฎเอกสารการประชุมเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 หลุดลอดมาสู่สื่อมวลชนเรื่องที่กระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้นัดหมายปลัดจาก 3 กระทรวงประกอบด้วยกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงยุติธรรม มาประชุมเพื่อหาทางออกให้2บริษัทดังกล่าว โดยเข้ามาแทรกแซงการทำงานของ DSI ด้วยการขอให้ชะลอการสอบปากคำคดีความดังกล่าวออกไปก่อน และเสนอให้กรมศุลกากรพิจารณาการเสียภาษีขาออกโดยพิจารณาจากการขนส่งไปยังประเทศปลายทางเป็นหลัก( Physical movement) อ้างว่าหากมีการดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนดังกล่าวจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ !!!!
ทั้งที่ตามข้อตกลงไทย-มาเลเซีย มีการกำหนดชัดเจนว่า การขายน้ำมันส่วนที่เป็นกำไรจากแหล่งJDA ไปยังไทย และมาเลเซียนั้นไม่มีภาษี แต่ถ้ามีการขายนอกราชอาณาจักรไทยและมาเลเซีย ต้องเก็บภาษีตามกฎหมายของแต่ละประเทศ โดยลดลง50% ซึ่งประเทศไทยมีภาษีส่งออก10% จึงเก็บได้5%
กรณีการขายคอนเดนเสทที่มีปัญหานี้ ตามข้อเท็จจริงปรากฎหลักฐานการซื้อขายระหว่าง บริษัท HESS GLOBAL
TRADING LIMITED (ผู้ขาย) กับ KARNEL OIL PTE LIMITED SINGAPORE (ผู้ซื้อ) จึงถือว่าเป็นการขายไปนอกราชอาณาจักรไทย และมาเลเซียตามพ.ร.ก พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ 2530 ภาค3 ประเภท 8(ก) ผู้ขาย (HESS) จะต้องเสียอากร10%โดยลดอัตราเรียกเก็บลงเหลือ5%
หลักฐานการซื้อขายคอนเดนเสทระหว่างผู้ซื้อคือ KARNEL OIL สิงคโปร์ และผู้ขาย คือ HESS ดูเอกสารที่ 1,2,3ที่ทำไฮไลท์ สีชมพู
ใบที่1 (สีชมพู)คือใบส่งของ (invoice)ระบุชื่อว่า TO THE ORDER OF BNP PARIBAS, SINGAPORE
ใบที่2 (สีชมพู) เป็นเอกสารประกอบใบขนสินค้าที่มีการลงชื่อร่วมกันของพนักงานบริษัทฯและเจ้าหน้าที่องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ของผู้ขายคือ HESS ที่ระบุว่า SALE TO : PTT AROMATICS AND REFINING ทั้งที่ในความเป็นจริง สัญญาซื้อขาย ใบส่งสินค้า และTelex ระบุขายให้ Karnel Oil ของสิงคโปร์ แต่กลับพิมพ์ข้อความว่าขายให้ปตท.อโรมาติกส์และการกลั่น เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสงขลาจึงทำการตรวจปล่อยสินค้า โดยไม่ได้เก็บอากรขาออก เพราะเห็นว่าเป็นการขายให้กับบริษัทไทย
จึงมีข้อสังเกตว่าที่พิมพ์ข้อความเช่นนี้เป็นการอำพรางต่อด่านศุลกากร ใช่หรือไม่ และเป็นการสำแดงเท็จด้วย ใช่หรือไม่
ใบที่3 (สีชมพู) เป็นหลักฐานการส่งออกคอนเดนเสทให้กับ KARNEL OIL ของสิงคโปร์ ตามหนังสือ CUSTOMER LIFTING TELEX ที่ผู้ขาย (HESS)จะออกให้เพื่อยืนยันการส่งมอบคอนเดนเสทที่เสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งเวลาที่เรือออกจากท่า ส่งให้กับผู้ซื้อ(KARNEL OIL PTE LTD )ทันที แสดงว่าคอนเดนเสทดังกล่าวได้มีการส่งออกสำเร็จแล้วตามมาตรา 46 ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ 2469 และความรับผิดที่จะต้องเสียภาษีของผู้ส่งของออก(HESS)จึงเกิดขึ้นตามกฎหมายมาตรา 10ตรี
ขอให้ผู้อ่านเปรียบเทียบเอกสารชุดที่ถูกต้องที่ทำไฮไลท์เป็น"สีเขียว" 3ใบประกอบด้วย1)ใบสั่งซื้อ 2) เอกสารประกอบใบขนสินค้าที่มีการลงชื่อร่วมกันของพนักงานบริษัทฯและเจ้าหน้าองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ที่สำแดงต่อศุลกากร และ 3) CUSTOMER LIFTING TELEX ที่ผู้ขาย (HESS)จะออกให้ผู้ซื้อเพื่อยืนยันการส่งมอบคอนเดนเสทที่เสร็จสมบูรณ์
เอกสารสีชมพูเป็นการสำแดงเท็จเพราะไม่ได้ขายให้ปตท..แต่ขายให้ Karnel oil.ตามสัญญาซื้อขาย ใบส่งสินค้า และTelex.
ส่วนเอกสารสีเขียวเป็นการขายให้ปตท.จริงเอกสารทั้งสัญญาซื้อขาย ใบส่งของ และTelex..จะเป็นชื่อปตท.ทั้งหมด.
การที่ปลัดกระทรวง 3กระทรวง มีความเห็นในเอกสารการประชุมที่หลุดลอดออกมา ทำให้สังคมได้ล่วงรู้ข้อมูลที่มีการประชุมที่ระบุว่า "อธิบดีกรมศุลกากรได้ยืนยันโดยวาจาว่าจัดเก็บอากรขาออกฯให้พิจารณาจากการขนส่งไปยังประเทศปลายทางเป็นหลัก(Physical movement)" ทั้งที่ข้อพิจารณาดังกล่าวไม่มีข้อกฎหมายใดมารองรับ ใช่หรือไม่
ข้อกฎหมายเรื่องการจัดเก็บอากรขาออกที่ถูกต้องคือ คำสั่งกรมศุลกากรที่ 5/2548 ข้อ 4 02 04 04 เพื่อเป็นการกำหนดจุดที่ภาระภาษีเกิดขึ้นในพื้นที่พัฒนาร่วมฯ ตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการศุลกากรไทย-มาเลเซีย "ได้กำหนดให้เรือกักเก็บน้ำมัน (Floating Storage and Offloading Vessel Area : FSOA) และ จุดตั้งมาตรวัดเพื่อวัดปริมาณการส่งออกน้ำมัน เป็นจุดที่ภาระภาษีเกิดขึ้นตามกฎหมาย(Tax Point)"
หากเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏว่า มีผู้บริหารระดับสูงถึง3กระทรวง ได้ออกหน้ามาแก้แทนบริษัทเอกชนโดยให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกับบทบัญญัติของกฎหมายเรื่องจุดที่ภาระภาษีเกิด(Tax Point) และยังจะทำเรื่องให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา44 ในทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยตัวบทกฎหมายนั้น เป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เหล่านั้นได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยสุจริตหรือไม่
สิ่งที่ต้องตั้งคำถามคือการนำเข้าคอนเดนเสทโดยตรงจากแหล่งเจดีเอโดยบริษัทในประเทศไทยสามารถทำได้อยู่แล้วโดยไม่มีภาระภาษี แต่เหตุใดจึงมีการทำให้ซับซ้อนโดยขายไปที่สิงคโปร์ทอดหนึ่งก่อนจะนำเข้ามายังประเทศไทย หรือว่าการนำเข้าโดยตรงจากแหล่งเจดีเอ ทำให้ไม่สามารถบวกต้นทุนโสหุ้ย และกำไรที่ผ่านคนกลางอีกทอดหนึ่ง ใช่หรือไม่
หากนายกรัฐมนตรีบ้าจี้ทำตามข้อเสนอแนะของข้าราชการระดับสูงเหล่านี้ ที่เสนอให้นายกฯใช้มาตรา44 เข้ามาแทรกแซงคดีความการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัทเอกชน ก็จะทำให้บริษัทเอกชนที่หลีกเลี่ยงภาษีไม่ต้องรับผิด ส่วนรัฐสูญเสียภาษีไปโดยไม่ถูกต้อง
แต่ประเด็นที่ใหญ่กว่านั้นคือ จะทำให้กรณีนี้กลายเป็นบรรทัดฐานให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษีส่งออกจากแหล่งJDA และรัฐบาลจะไม่ได้ภาษีจากการส่งออกน้ำมันของแหล่งJDAตลอดไป
ที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้เอกชนสามารถแสวงหาผลประโยชน์เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องเสียภาษี ด้วยการไม่นำเข้าน้ำมันโดยตรงจากแหล่งJDA แต่จะใช้วิธีซิกแซกโดยขายน้ำมันไปให้พ่อค้าคนกลางที่สิงคโปร์ทอดหนึ่งก่อน เพื่อบวกค่าใช้จ่ายและกำไร ก่อนส่งเข้ามาขายในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะเปิดช่องให้เอกชนหากำไรเข้ากระเป๋าใครก็ไม่รู้แล้ว แต่ที่แน่ๆคือคนไทยต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงขึ้น โดยรัฐไม่ได้ภาษีด้วย ใช่หรือไม่
สิ่งที่นายกรัฐมนตรีควรดำเนินการ จึงไม่ใช่การใช้มาตรา44แทรกแซงการตรวจสอบของDSI หรือเปลี่ยนแปลงการเก็บภาษีขาออกของกรมศุลกากร ที่มีบทบัญญัติของกฎหมายรองรับอยู่แล้ว แต่ควรจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนปลัดกระทรวงทั้ง 3 กระทรวง และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สอบสวนกระทรวงพลังงานเป็นลำดับแรก เพราะเป็นตัวตั้งตัวตีในการเชิญประชุม และเสนอเรื่องนี้เข้าไปที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และถึงกับเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา44 เพื่อช่วยให้เอกชนที่หลีกเลี่ยงภาษีให้ไม่ต้องรับโทษ และไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐอีกด้วย
การที่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ออกมาใช้อำนาจในการช่วยเหลือให้บริษัทเอกชนหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีให้กับรัฐย่อมเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองอย่างยิ่ง เพราะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ ทำให้ราชการเสียหาย เป็นการใช้ดุลยพินิจในการวินิจฉัยในทางมิชอบ ใช่หรือไม่
ข้าราชการที่ดีจะต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญเป็นลำดับแรก มิใช่มุ่งแต่ดูแลฝ่ายเอกชนโดยลืมไปว่าตัวเองเป็นข้าราชการ ที่กินเงินเดือนหลวง ใช่หรือไม่
รสนา โตสิตระกูล
13 ตุลาคม 2560

 

Wudhichai Maitreesophone



ผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าสหรัฐจะประกาศว่ากองทัพอิหร่านเป็นผู้ก่อการร้าย กองทัพอิหร่านก็จะเป็นผู้ก่อการร้ายจริงสหรับสหรัฐ ในตะวันออกกลางที่ไหนมีทหารอเมริกัน ที่นั่นจะต้องมีกองทัพอิหร่านตามจัดการบดขยี้ทหารสหรัฐ แบบไม่ให้หลับให้นอนเลย
https://www.rt.com/news/406085-iran-firm-sanctions-reaction/

 

#หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลก
นี่เป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็น
การเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างชัดเจน
เนื่องจากขณะนี้แกนหมุนของโลก
ได้เอนเอียงเบี่ยงเบนไปจากเดิม
โดยทำมุมกับแนวดิ่ง
ผิดเพี้ยนไปในบางขณะ
เพราะดาวเคราะห์โลกเสียสมดุล
เนื่องจากแรงบิดตัว
ของแกนแม่เหล็กใจกลางโลก
เสียสมดุล ไม่คงที่ มีแรงบิดต่ำลง
เพราะจิตสำนึกมนุษย์โลกโดยรวมตกต่ำลง
จึงยังผลให้โลกหมุนไปส่ายไป
ผลปรากฏว่าเมื่อตอนน้ำลง
น้ำทะเลก็จะลดลงต่ำมากผิดปกติ
จนกระทั่งทะเลเหือดหาย
เหลือแต่หาดทรายห่างไกลลงไปในทะเล
จึงยังผลให้ฝูงปลาทั้งหลาย
ที่ว่ายวนหากินอยู่ตามแนวชายฝั่ง
พากันว่ายตามน้ำทะเลที่ลดลงไม่ทัน
เพราะน้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ
ฝูงปลาเหล่านี้จึงตกค้างอยู่ตามแอ่งน้ำตื้นๆ
พอน้ำในแอ่งแห้งหายไปพวกเขาจึงตาย
อย่างที่เห็นในคลิปนี้นั่นเอง
คลิปที่บันทึกหลักฐานการเสียสมดุลโลก
จนเป็นเหตุให้น้ำทะเลลงผิดปกติ
ซึ่งเป็นที่มาของฝูงปลาตายแถบชายหาด
เพราะว่ายตามน้ำทะเลที่ไหลลงไม่ทันนี้
เกิดขึ้นที่ชายทะเลแห่งหนึ่ง
ในประเทศ #อุรุกวัย
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-10-2017

 

ถ้าสนใจลองเปิดอ่านดูนะครับ เพื่อจะได้เป็นการเตรียมตัวและเตรียมการสำหรับในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้าอันใกล้ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร นั่นเป็นสิ่งที่บุคคลจะรับข้อมูล เป็นสิทธิส่วนบุคคลในการรับข่าวสารข้อมูล ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจนะครับ ไม่มากก็น้อย

 

รถที่ถูกละลาย บ้านที่แหลกกระจาย ภาพที่น่าตกตะลึงแสดงให้เห็นถึงชุมชนถูกทำให้เป็นเถ้าถ่านที่เกิดขึ้นโดยไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนีย https://usat.ly/2wSxOVb (ผ่านทะเลทรายซัน)
Melted cars. Mangled homes. Shocking drone footage shows communities of ashes created by California wildfires. https://usat.ly/2wSxOVb (via Desert Sun)

 

ต้นเหตุของไฟที่มาจากใต้ดินหรือเปล่า!



ไฟกำลังจะลุกไหม้จากตรงกลางต้นไม้ใน Schelville ซึ่งเป็นชุมชนที่ไม่มีหน่วยงานใน Sonoma County, California

http://strangesounds.org/2017/10/th...the-middle-of-a-tree-in-schelville-video.html

 

นักวิจัยได้วิเคราะห์เถ้าถ่านหินจากการระเบิดครั้งล่าสุดที่ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การปะทจะุเกิดขึ้นในช่วง ไม่กี่ ทศวรรษ (ไม่กี่สิบปี) ไม่ใช่หลายพันปีอย่างที่เชื่อกันก่อนหน้านี้ [เมื่อ2-3 ปีที่แล้ว ข่าวออกมาว่าซุปเแอร์ภูเขาไฟจะประทุในระยะเวลา 2-3 พันปี แต่ปี พ.ศ.2560 เหลือแค่ไม่กี่สิบ ปีเชื่อว่าปีหน้าเหลือไม่เกิน10 ปีเป็นแน่นอน]
The researchers involved analyzed fossilized ash from the last time the Yellowstone supervolcano erupted. Results showed that the changes necessary to provoke eruption happened over the course of just a few decades — not thousands of years, like was previously believed.

http://strangesounds.org/2017/10/ye...tion-could-destroy-all-of-mankind-faster.html

 

การเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่อาจทำให้เกิดการปะทุของภูเขาไฟได้หรือไม่?[-การทดสอบนิวเคลียร์สามารถทำให้เกิดการปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟ Baekdu (Paektu) ในเกาหลีเหนือได้หรือไม่?]

การทดสอบก่อนหน้านี้ทำให้เกิดแผ่นดินไหว M5.3 ในเดือนกันยายนปี 2016 และเกิดแผ่นดินไหว M6.3 ในเดือนกันยายน 2560

แม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมโยงอย่างชัดเจนระหว่างการเกิดแผ่นดินไหวและการปะทุของภูเขาไฟ มีเพียงกรณีเดียวคือเกิดแผ่นดินไหว M7.5 ใน Quetzaltenango ในกัวเตมาลาในวันที่ 18 เมษายน 1902 หลังจากเกิดแผ่นดินไหวยาวนานเป็นเวลา 3 เดือนทำให้เกิดการปะทุของซานตามาเรียไม่กี่สัปดาห์ต่อมา

มรการกล่าวว่าถ้ามีแผ่นดินไหวใหญ่กว่า M8 เกิดขึ้นภายใน 100km จากภูเขาไฟที่สถานะไม่สงบ สามารถทำให้ปะทไดุ้ก่อนเวลาอันควรที่จะเกิด
http://strangesounds.org/2017/10/nu...n-paektu-baekdu-supervolcano-north-korea.html

 

#ความรู้ที่ควรเรียนรู้ไว้

นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอริโซน่า
ได้ทำการศึกษาหลักฐานของการระเบิด
ที่ใหญ่ที่สุดของภูเขาไฟ yellowstone supervolcano
ที่เกิดขึ้นเมื่อ 630.000 ปีที่แล้ว
โดยพบหินที่เกิดใหม่ใต้แอ่งน้ำพุร้อน

นอกจากนั้นยังพบว่า
อุณหภูมิบริเวณใกล้ซุปเปอร์ภูเขาไฟในขณะนี้
ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าทศวรรษที่ผ่านมา
ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้น
การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้
จะต้องใช้เวลานานเป็นศตวรรษ

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
อาจนำไปสู่การระเบิดของอภิมหาภูเขาไฟลูกนี้
จนสร้างความหายนะโลกได้เลย
เถ้าถ่านลาวาและชิ้นส่วนก้อนหินจำนวนมหาศาล
จะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
อีกทั้งเถ้าถ่านพวกนี้ยังสามารถทำให้
บรรยากาศของโลกร้อนมากจนสิ่งมีชีวิตและมนุษย์
ไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้อีกด้วย

ป.วิสุทธิปัญญา
15-10-2017

 

ปอกเปลือก ทรราช
แอร์โดกันเย้ยสหรัฐ: ไม่มีปัญหาในการซื้อ S-400 จากรัสเซีย และกำลังเจรจาขอซื้อ S-500 ด้วย มีอะไรอ๊ะเปล่า?, รัสเซียยืนยันลงนามขาย S-400 และอาวุธอื่นๆหลายรายการให้ซาอุดิอาระเบีย



------------
วันที่ 13 ต.ค.60 RT พาดหัวข่าว่า "No problem in buying Russian S-400s, Erdogan says, hints at S-500 talks"
ประธานาธิบดีเทยิป แอร์โดกันแห่งตุรกีกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการจัดซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของรัสเซีย กรุงอังการากำลังเจรจาขอซื้อระบบ S-500 ด้วย
"ในการเจรจาของพวกเรากับ [ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์] ปูติน แห่งรัสเซีย เราไม่ได้คิดที่จะหยุดอยู่เฉพาะระบบ S-400 เท่านั้น เรายังได้พูดถึง S-500 ด้วย" แอร์โดกันกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเดินทางกลับจากไปเยือนยูเครนและเซอร์เบีย หนังสือพิมพ์ Habertürk และ Reuters รายงาน
ตามที่ประธานาธิบดีแห่งตุรกีกล่าวนั้น จะยังไม่มีการผลิต S-400 ร่วมกัน ในการจัดซื้อล็อตแรก "แต่ในระดับที่สอง เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะดำเนินขั้นตอนการผลิตร่วมกัน" แอร์โดกันกล่าว
เมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้ รัสเซียได้ยืนยันว่า ได้รับการชำระเงินล่วงหน้า (บางส่วน) จากตุรกีในการซื้อ-ขายระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ที่ล้ำสมัยของรัสเซียเรียบร้อยแล้ว
"ใช่แล้วครับ เราได้รับ [การชำระ] แล้ว เรายังไม่สามารถกำหนดวันส่งมอบได้ พวกเขาต้องการที่จะได้รับแต่เนิ่นๆ [เร็วกว่าต้นปี 2019] แต่เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการเจรจากัน" นาย Vladimir Kozhin คนสนิทปูติน ซึ่งทำงานเกี่ยวกับความร่วมมือทางเทคนิคการทหารกล่าว
ข้อตกลงระหว่างตุรกี-รัสเซียที่มีการหารือกันบ่อยครั้ง อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศก็ได้ รวมทั้งรอยร้าวที่ขยายมากขึ้นระหว่างตุรกีกับพันธมิตรนาโต้ด้วย
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พล.อ. James Mattis เจ้ากระทรวงสงครามของสหรัฐกล่าว (ด้วยน้ำเสียงแบนางอิจฉาในละครน้ำเน่า) ว่า ระบบต่อต้านอากาศยาน S-400 "จะเข้ากันไม่ได้กับระบบของนาโต"
[นั่นแหละคือเหตุผลหลักที่ตุรกีเลือกใช้ S-400 ตาเฒ่า Mad Dog ไม่เข้าใจจริงๆหรือว่าแกล้งโง่กันแน่? เพราะว่าตอนนี้นาโตกำลังรวมหัวกันเล่นงานแอร์โดกันและตุรกี ดังนั้นการแก้เผ็ดพวกนาโตด้วยกันก็คือ หันไปเล่นอาวุธค่ายรัสเซียซะเลย นาโตนำโดยสหรัฐคุยว่ามีเครื่องบินรบล่องหนยุคที่ 5 สามารถบินทะลุทะลวงได้ทุกน่านฟ้า ชนิดที่เรดาร์ทั่วไปตรวจจับไม่ได้ (แต่ไม่กล้าแหล็มเข้าไปในน่านฟ้าเกาหลีเหนือแม้แต่ครั้งเดียว) ในขณะเดียวกันรัสเซียก็รับประกันว่า S-400 ของตนเองสามารถสอยเครื่องบินรบยุคที่ห้าอย่าง F-22 และ F-35 ได้
เมื่อวานนี้สื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียรายงานว่า ข้อมูลลับขาด 30GB เกี่ยวกับเครื่องบินรบ F-35 ของกองทัพออสเตรเลียถูกแฮ็กเกอร์ล้วงตับไปจากกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย สมน้ำหน้า - ผู้แปล]
สหรัฐได้แสดงความรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อเจ้าหน้าที่ของตุรกีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดซื้อระบบ S-400 ของรัสเซีย Michelle Baldanza โฆษกเพนตากอน กล่าวกับสำนักข่าว RT เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ["ปล่อยให้พวกมันกังวลต่อไป กลุ้มใจตายหรืออกแตกตายไปเลยยิ่งดี" แอร์โดกันไม่ได้กล่าว - ผู้แปล]
"ระบบป้องกันขีปนาวุธสำหรับตอบโตจากค่ายนาโต ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องตุรกีจากภัยคุกคามเต็มรูปแบบในภูมิภาคนั้น เรายังคงเปิดการเจรจาในเรื่องนี้อยู่นะ และก็ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการคงไว้ซึ่งความสามารถในการทำงานร่วมกันในกลุ่มพันธมิตรนาโตเกี่ยวกับการจัดซื้อระบบป้องกันที่สำคัญๆ" Michelle Baldanza กล่าว
แอร์โดกันจวกกลับทันทีว่า "คุณคาดหวังอะไรรึ? จะให้เรารอพวกคุณไปจนถึงเมื่อไร?" [นิสัยพวกอเมริกันและแก๊งนาโต้เป็นแบบนี้ครับ... พอเขาจะซื้อของตนเอง ก็เล่นตัว โก่งราคา แต่พอเขาเปลี่ยนใจ และหันไปซื้อของค่ายอื่น ก็จะเล่นงานเขาด้วยการคว่ำบาตรหรือตัดสัมพันธ์ทางการทูต หรือยัดข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน ฯลฯ ให้ และเรียกร้องให้เขาหันมาซื้อของตนเองอีกครั้ง ตุรกีไม่ใช่รายแรกและรายสุดท้าย อียิปต์ อิรัค ฟิลิปปินส์ และอีกหลายประเทศโดนมาแล้วทั่วหน้า ปากก็อ้างว่า "เสรีภาพในการทำการค้า" แต่ในทางปฏิบัตินั้น กลับนิยมการค้าแบบผูกขาดสไตล์เผด็จการ "ถ้าเอ็งไม่ซื้อของข้า เอ็งโดนแน่" ประมาณนี้ - ผู้แปล]
วันเดียวกันนี้ (13/10/2017) Sputnik รายงานว่า นาย Vladimir Kozhin คนสนิทปูตินกล่าวว่าจะมีการทำข้อตกลงกับซาอุดิอาระเบียในการจัดซื้อระบบ S-400 ในอนาคตอันใกล้นี้ ขณะนี้กำลังทำการเจรจาและประสานงานกัน
สื่อรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียจะซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 Triumph ของรัสเซียจำนวน 4 กองพลหรืออาจจะมากกว่านั้น
รัสเซียจะขายระบบขีปนาวุธหลากบทบาท Kornet-EM และเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง TOS-1A Bouratino เครื่องยิงลูกระเบิด AGS-30 และปืนไรเฟิล AK-103 (ที่พัฒนามาจาก AK-47 ยอดนิยม) ให้กับซาอุดิอาระเบียด้วย บริษัท SAMI ของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้ลงนามในข้อตกลงการผลิตปืน AK-103 ที่ได้รับใบอนุญาตจากรัสเซียอย่างเป็นทางการ
[กลยุทธของปูติน "เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร" ส่วนนโยบายของสหรัฐ "เปลี่ยนมิตรให้เป็นศัตรู" เพราะใช้วิธีการข่มขู่และกดหัวพันธมิตรของตนเอง จนพันธมิตรเริ่มตีจากไปทีละรายๆ ในเวลานี้ซาอุดิอาระเบียรู้ชะตากรรมของตนเองดี ไม่ช้าก็เร็วคงจะถูกสหรัฐเครื่องบินรนไปแจกประชาธิปไตยให้แน่ๆ
ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ การที่จะป้องกันและต่อกรกับสหรัฐและอิสราเอลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าอาวุธทั้งหมดของซาอุดิอาระเบียพึ่งพาสหรัฐและแก๊งนาโต้เป็นหลัก เกิดถูกแบล็คเมล์ขึ้นมาด้วยการถูกคว่ำบาตรด้านอาวุธ สุดท้ายคงไม่ต่างจากอิรัค ลิเบีย และซีเรียแน่นอน
กันเหนียวไว้ดีกว่า หันไปคบกับรัสเซียและจีนมากขึ้น เป็นการถ่วงดุลกับสหรัฐไปในตัว รัสเซียสามารถใช้ความสัมพันธ์ตรงนี้ค่อยๆบีบให้ซาอุดิอาระเบียและลูกน้องถอนตัวออกจากซีเรียได้ด้วย และที่สำคัญ ภูมิภาคตะวันออกกลางนิยมปืนไรเฟิลตระกูล AK ของค่ายรัสเซียอยู่แล้ว ถ้าซาอุดิอาระเบียผลิตปืน AK-103 ที่ทันสมัยและสวยงามย่อมจะครองตลาดในภูมิภาคนั้นได้ไม่ยาก และอาจจะใช้อิทธิพลของตนเองที่เป็นพี่เบิ้มในกลุ่มรัฐอ่าวอาหรับให้ประเทศลูกน้องอย่าง ยูเออี บาห์เรน คูเวต อียิปต์ โอมาน จอร์แดน หรือกลุ่มประเทศมุสลิมอื่นๆซื้อ AK-103 จากซาอุดิอาระเบียด้วยก็ได้ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
13/10/2560
---------
https://www.rt.com/news/406552-turkey-russsia-s400-s500/
https://www.rt.com/news/406481-australia-f35-data-leak/
https://sputniknews.com/world/201710131058192155-russia-saudi-arabia-s-400/
https://sputniknews.com/world/201710131058192838-russia-turkey-s-400/

 

การออกมาโต้แย้งเรื่องเยลโล่สโตนจะระเบิดหรือไม่สำคัญน่ะครับ และสำนักข่าวก็มักจะพาดหัวข่าวให้น่าสนใจก็เป็นเรื่องปรกติ แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรจะรับรู้คือข้อมูลที่นำออกมาเผยแพร่ร่วมกับความเห็นทางวิชาการของเขาครับ [ผมขอเสริมความจริงเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้เอ่ยในงานวิจัย ของ Hannah Shamloo คือเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วมีงานวิจัยอีกเรื่องจำไม่ได้แล้วว่าของใคร พบว่า ห้องที่เก็บแม็กม่าภายใต้ เยลโล่สโตนมีขนาดความจุมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เท่าตัวครับ ถ้าประทุจริงน่าจะหนัก และกินวงกว้างกว่าที่ข่าวทั่วไปบอกไว้)
ผลงานของHannah Shamloo จาก มหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนาแสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงของหินหนืดที่อยู่ใต้เยลโลว์สโตน เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจากข้อกำหนด (ข้อมูล)เหล่านี้ "นักวิทยาศาสตร์เริ่มตระหนักว่าจะนำไปสู่การเกิดการประทุขนาดซูเปอร์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในชีวิตมนุษย์" นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นภายในชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง (คาดว่าจะเกิดอีกหลายสิบปี)
Scientists are just now starting to realize that the conditions that lead to supereruptions might emerge within a human lifetime.” That does not mean a supereruption is going to happen within a human lifetime.
การพาดหัวข่าวการปะทุซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวว่าเป็นสิ่งที่กระตุ้นความรู้สึกได้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกขึ้นในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ รายละเอียดเรื่องราวเหล่านี้มาจากงานของHannah Shamloo จาก มหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา - และได้ยกอสุรกายที่อยู่ภายใต้ภูเขาไฟเยลโลว์สโตนสามารถประทุได้ในเร็วๆนี้ "supereruption."
ในขณะที่ไมค์ โปแลนด์ ผู้อำนวยการ Yellowstone Volcano Observatory ซึ่งติดตามภูเขาไฟใต้อุทยานแห่งชาติได้กล่าวกับนิวส์วีคว่า "ถึงแม้ว่าการปะทุครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นมาในอีกหลายสิบปี
เราก็ยังสามารถทั่จะตรวจจับเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ได้ล่วงหน้าก็ ซึ่งเยลโลว์สโตนก็เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีการตรวจสอบที่ดีที่สุดในโลกโดยมีเครื่องวัดการสั่นสะเทือน ความร้อนความร้อนและธรณีเคมีและชุดข้อมูลดาวเทียมที่กำลังมองหาการเปลี่ยนแปลงเสมอ "
http://www.newsweek.com/yellowstone...-erupt-heres-what-happens-when-it-does-684579

 

ปอกเปลือก ทรราช



ในขณะที่สหรัฐเรียกร้องให้นานาชาติช่วยกันกลั่นแกล้งเกาหลีเหนือด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการทูตครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียและกัมพูชาพร้อมด้วยครอบครัวกลับพากันไปลงแขกช่วยคิมน้อยเกี่ยวข้าวในฤดูเก็บเกี่ยวที่เกาหลีเหนือซะงั้น หวังว่าการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือสไตล์อินโดนีเซียและกัมพูชาคงจะถูกใจสหรัฐและเดอะแก๊งไม่น้อยนะครัช (13 ต.ค.60)
-----------
http://uriminzokkiri.com/index.php?ptype=photo&pagenum=&no=5300

 

ปอกเปลือก ทรราช



แฝดนรกส่งมาเกิดสหรัฐและอิสราเอลล้มเหลวในการพยายามรื้อฟื้นวิกฤตนิวเคลียร์ของอิหร่านท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนานาชาติ จึงหันไปเล่นมุกยัดข้อหาให้กองทัพพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน (IRGC) เป็นขบวนการก่อการร้ายแทน
------------
วันที่ 13 ต.ค. 60 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ประกาศว่า รัฐบาลของตนเองจะไม่ยอมลงนามรับรองว่าอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับนิวเคลียร์ และได้ถ่วงเวลาต่อไปโดยโยนเรื่องนี้ให้สภาคองเกรสกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งได้ประกาศการคว่ำบาตรต่อกรุงเตหะรานรอบใหม่ด้วย แม้ว่านานาชาติจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
"วันนี้ผมจะประกาศว่าไม่สามารถและจะไม่ทำการรับรองเรื่องนี้" (I am announcing today that we cannot and will not make this certification.) ทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์นี้
ตาเฒ่าโรคจิต (เรียกตามเกาหลีเหนือ) ได้กล่าวหาอิหร่านว่า "อิหร่านทำการละเมิดข้อตกลงหลายข้อ" แต่องค์กรพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) กลับยืนยันว่า กรุงเตหะรานได้ปฏิบัติตามข้อตกลงทุกประการ
ทรัมป์กล่าวว่า ตนเองคาดหวังว่าสภาคองเกรสจะออกกฎหมายที่จะทำให้มีการแก้ไขข้อตกลงนิวเคลียร์และ "บังคับใช้อย่างถึงที่สุด" รวมทั้งโครงการขีปนาวุธวิถีโค้ง (ballistic missile) ของอิหร่านด้วย และขจัดข้อตกลงแบบ Sunset Clauses (ที่มีช่วงเวลากำหนด 10-15 ปีในการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านทั้งหมด ตามข้อตกลอง JCPOA) หากการเจรจาล้มเหลว "ข้อตกลงนี้ก็จะเป็นการสิ้นสุด" ทรัมป์กล่าว
ท่าทีของอียูที่มีต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ก็คือไม่เห็นด้วยกับสหรัฐ อียูกล่าวว่า มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนายทรัมป์ที่จะยุติข้อตกลงฉบับนี้ และคณะกรรมการผู้สังเกตการณ์จากยูเอ็นก็ได้ยืนยันแล้วว่า กรุงเตหะรานได้ปฏิบัติตามข้อตกลง ข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านในปี 2015 ไม่ใช่ "ข้อตกลงแบบทวิภาคี" (bilateral agreement) และมันก็ไม่สามารถที่จะถูกระงับได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงประเทศเดียวด้วย นาง Federica Mogherini หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศแห่งสภาอียูกล่าวในการตอบโต้ต่อคำประกาศของนายทรัมป์
"ข้อตกลงนี้ไม่ได้เป็นของประเทศใดประเทศหนึ่ง และมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่จะยุติมัน แน่นอน ยุโรปในฐานะที่เป็นประชาคมนานาชาติ เราไม่สามารถที่จะเพิกถอนข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์นี้ที่มันกำลังทำงานได้" นาง Mogherini กล่าว
กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียได้โวยวายต่อถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยการกล่าวว่า "การใช้วาทกรรมเชิงก้าวร้าวใดๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะยอมรับได้ และมีแต่จะล้มเหลวเท่านั้น"
ซาอุดิอาระเบียยินดีกับสิ่งที่ตนเองเรียกว่า "เป็นยุทธศาสตร์ที่เด็ดขาดที่ประกาศโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีต่ออิหร่านและแนวทางเชิงก้าวร้าวของอิหร่านด้วย อิหร่านแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของตนเองจากการยกเลิกการคว่ำบาตร โดยการเร่งพัฒนาโครงการขีปนาวุธของตนเอง" สำนักข่าว SPA ของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียรายงาน
[เพราะว่าอิหร่านมีศักยภาพในการพัฒนาขีปนาวุธได้เอง ไม่ต้องซื้อจากสหรัฐ อียู และอิสราเอล เหมือนกับซาอุดิอาระเบีย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่อูฐขี้ข้ายิวจะไม่สามารถซ่อนอาการอิจฉาของตนเองเอาไว้ได้อีกต่อไป จึงออกโรงเห่าหอนช่วยสหรัฐอิสราเอลนายใหญ่ของตนเอง - ผู้แปล]
อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านนี้อยู่ในผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติร่วมกัน ทั้งสามประเทศยังคงยึดมั่นอยู่กับข้อตกลงฉบับนี้ และมีการดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบจากทุกฝ่าย [ยกเว้นสหรัฐที่มือไม่พาย แต่พยายามเอาเท้าราน้ำ เพื่อจมเรือข้อตกลงฉบับนี้ - ผู้แปล]
อิสราเอลปรบมือเชียร์การตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเต็มที่ นาย Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลกล่าวแสดงความยินดีกับการเคลื่อนไหวของทรัมป์ โดยเรียกมันว่า "เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ" และ "เป็นโอกาสที่จะแก้ไขข้อตกลงที่เลวร้ายฉบับนี้ด้วย" Jerusalem Post รายงาน
องค์กรพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะได้ยืนยันอีกครั้งว่า กรุงเตหะรานได้ปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างสมบูรณ์ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 (จีนและรัสเซียก็ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์)
หลังจากทรัมป์ประกาศการตัดสินใจที่จะไม่รับรองว่าอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งสหรัฐจะต้องลงนามยืนยันทุก 90 วัน กระทรวงการคลังของสหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน (IRGC) ว่าเป็น "ขบวนการก่อการร้าย" ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสหรัฐใช้เป็นข้ออ้างในการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่และบริษัทต่างๆที่ดำเนินกิจการในนามของ IRGC
นาย Steven Mnuchin รมว.คลังของสหรัฐได้กล่าวหากองทัพ IRGC ของอิหร่านว่า "เราได้กำหนดให้กองทัพ IRGC ที่ให้การสนับสนุนหน่วยรบพิเศษของอิหร่านในสังกัด IRGC ซึ่งเป็นกองกำลังหลักของอิหร่านที่ทำให้ประธานาธิบดี Bashar al-Assad แห่งซีเรียทำแคมเปญจ์ในการละเมิดที่โหดร้ายต่อประชาชนของตนเอง รวมทั้งกิจกรรมที่ร้ายแรงของพวกนักรบเฮชบอลเลาะห์ ฮามาส และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆด้วย"
[ตอแหลชัดๆ ทั่วโลกต่างก็รู้ว่าอิหร่าน ซีเรีย เฮชบอลเลาะห์ และรัสเซียร่วมมือกันถล่มพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส อัลเคด้า (ขี้ข้าอิสราเอลและสหรัฐ) ในซีเรีย ซึ่งสมาชิกของพวกผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศด้วยกันทั้งนั้น เพื่อเข้าไปปล้นทรัพย์สินและยึดที่ดิน รวมทั้งน้ำมันดิบจากรัฐบาลและประชาชนชาวซีเรียและอิรัค พันธมิตรฝ่ายโปร-รัฐบาลอัสซาด นำโดยรัสเซียจวนจะยึดพื้นที่ในซีเรียทั้งหมดคืนจากพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสได้หมดอยู่แล้ว
ส่วนไอ้ตัวที่ส่งเครื่องบินรบไปบอมบ์ใส่พลเรือนและประชาชนชาวซีเรียท้องถิ่น โดยที่ยูเอ็นไม่ได้รับรอง และยังทำหน้าที่ส่งข้าวส่งน้ำและอาวุธให้กับพวกไอซิสและอัลเคด้าอย่างเปิดเผย แถมมีเครื่องบินรบคอยบินคุ้มกันขบวนการก่อการร้ายอีกต่างหาก อ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้พวกผู้ก่อการร้ายออกไปก่อเหตุที่อื่น จริงๆแล้ว ป้องกันไม่ให้กองทัพพันธมิตรนำโดยรัสเซียถล่มพวกไอซิสต่างหาก ก็คือสหรัฐและเดอะแก๊งนั่นแหละ
สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นและได้เรียนรู้จากพฤติกรรมของสหรัฐจอมอันธพาลโลกก็คือ ไม่ว่าคุณจะปฏิบัติตามข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ของตนเองหรือไม่ก็ตาม สหรัฐจะกัดไม่ปล่อย และจะเดินหน้าหาเรื่องคุณอยู่ตลอดเวลา ทั้งอิหร่านและเกาหลีเหนือต่างก็เจอกับปัญหานี้เหมือนกัน
กรณีของอิหร่าน ทางอิหร่านได้ลงนามในข้อตกลง Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) กับกลุ่มมหาอำนาจนิวเคลียร์ (P5+1 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ รัสเซีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน แต่กลุ่มอียูจะมีตัวแทนของสภาอียูเข้าไปร่วมด้วย) ทั้งห้าประเทศและตัวแทนจากสภาอียูรวมทั้ง IAEA ต่างก็ยืนยันว่าอิหร่านไม่ได้ละเมิดข้อตกลง JCPOA
แต่สหรัฐที่ถูกอิสราเอลจูงจมูกอยู่ในขณะนี้กลับกล่าวหาอิหร่านว่าละเมิดข้อตกลง และต้องการที่จะล้มเลิกข้อตกลงฉบับนี้ เพื่อที่จะได้คว่ำบาตรกดหัวอิหร่าานรอบใหม่ได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับที่แล้วมา และที่กำลังทำกับเกาหลีเหนืออยู่ในขณะนี้ จนกว่าอิหร่านจะทำลายอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของตนเองทั้งหมด เหมือนกับที่อิรัคและลิเบียเคยทำมาแล้ว และมันก็เปิดทางให้แก๊งหมาหมู่นักล่าจากตะวันตกนำโดยสหรัฐยกกองทัพเข้าไปถล่มอิรัคและลิเบียในที่สุด
อิหร่านและเกาหลีเหนือไม่โง่และไม่โลกสวยด้วย อยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง ถ้าพวกมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์อยากจะปลดอาวุธนิวเคลียร์ ก็ปลดและทำลายอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองให้หมดก่อนที่จะไปบังคับให้คนอื่นปลดอาวุธนิวเคลียร์ เหมือนกับโจรจะมาปล้นบ้านเรา พอเรายิงปืนขู่ มันก็ไม่กล้าเข้ามาปล้น และมันก็ตะโกนอยู่นอกรั้วบ้านของเราให้เราทิ้งอาวุธปืนซะ จะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปล้นของพวกมัน ถ้าไม่ทำตามที่มันบอก มันก็จะประณามเราว่าบ่อนทำลายสันติภาพ สร้างความหวาดกลัวให้กับเพื่อนบ้านและแก๊งโจร - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
14/10/2560
---------
https://www.rt.com/usa/406624-trump-announces-decision-on-iran/
https://www.rt.com/news/406643-russia-us-iran-deal/
https://www.rt.com/news/406631-iran-trump-us-isolated/
https://www.rt.com/news/406628-us-eu-iran-deal/
https://www.rt.com/news/406634-iran-nucler-deal-trump/
https://sputniknews.com/middleeast/201710131058220977-tehran-iaea-nuclear-deal-verification/

 

ปอกเปลือก ทรราช
กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียยึดคลังแสงและโรงงานผลิตอาวุธขนาดใหญ่ของพวกไอซิสได้ที่เมือง Al-Mayadeen จังหวัดเดียร์เอซซอร์ อาวุธส่วนใหญ่ที่ยึดได้ผลิตโดยสหรัฐและอิสราเอล



------------
วันที่ 15 ต.ค. 60 RT พาดหัวข่าวว่า "นักข่าว RT พาทัวร์คลังเก็บอาวุธของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่ถูกทิ้งภายในเมืองอัลมายาดีนที่ได้รับการปลดปล่อยแล้ว" (RT crew films stockpiles of ISIS arms abandoned inside liberated Al-Mayadeen (VIDEO))
กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้ค้นพบคลังเก็บอาวุธที่มีอาวุธสงครามจำนวนมากและหลายรายการรวมทั้งโรงงานผลิตอาวุธเหล่านั้น และพาหนะหุ้มเกราะติดตั้งวัตถุระเบิดภายในเมือง Al-Mayadeen ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งของพวกขบวนการก่อการร้ายไอซิสที่จังหวัด Deir ez-Zor หลังจากที่เมืองแห่งนี้ได้รับการปลดปล่อยจากกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซีย RT รายงาน
ในคลิปนี้ทีมข่าวจาก RT ได้ติดตามหน่วย Tiger Forces จากกองทัพซีเรีย ภายใต้การบัญชาการของ พลจัตวา Suheil Salman al-Hassan ฉายา "The Tiger" ไปบันทึกภาพและรายงานข่าวเกี่ยวกับคลังเก็บอาวุธสงครามขนาดใหญ่ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ที่ถูกทิ้งร้าง เนื่องจากพวกผู้ก่อการร้ายรีบหนีเอาตัวรอดจากการบุกโจมตีโดยกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส
"คลังเก็บอาวุธแห่งนี้ใหญ่มาก ผมถึงกับอึ้งไปเลยเมื่อได้เห็นอาวุธต่างๆ" Lt. Col. Rahmi Mauwas จากกองทัพซีเรียกล่าวกับ RT ที่สนามรบแนวหน้า "มีอาวุธหลายร้อยชิ้น และอาจจะหลายพันด้วยก็ได้ รวมทั้งเครื่องกระสุนนานาชนิดด้วย"
รายงานข่าวบอกว่า อาวุธเหล่านี้ (บางส่วน) ผลิตโดยสหรัฐ อิสราเอล และประเทศอื่นๆในตะวันออกกลาง กองทัพซีเรียเปิดเผยว่าพวกผู้ก่อการร้ายยังได้ผลิตอาวุธขึ้นมาใช้เองในเมืองแห่งนี้ด้วย มีหลักฐานเกี่ยวกับด้านการลอจิสติกของอุปกรณ์เหล่านั้นที่ถูกทิ้งไว้โดยพวกผู้ก่อการร้ายที่พากันหลบหนีไปแล้ว
ผู้สื่อข่าว RT ภาคภาษาอาระบิกรายงานว่ายังได้พบพาหนะติดตั้งระเบิดฆ่าตัวตาย (คาร์บอมบ์) ของพวกผู้ก่อการร้ายด้วย ทหารซีเรียให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้พบรถถังและพาหนะลำเลียงพลและพาหนะหุ้มเกราะหลายคันทั่วเมือง Al-Mayadeen ด้วย
เมืองแห่งนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และเมืองหลวงของพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสในจังหวัด Deir ez-Zor นายทหารของซีเรียกล่าว
"เราสามารถตีแนวป้องกันของศัตรูที่อยู่ด้านหน้าของเมืองนี้แตก... ภายในระยะเวลาอันสั้น... เราก็สามารถทำลายแนวป้องกันด่านแรกของพวกไอซิสได้ ซึ่งได้นำไปสู่การล่มสลายของพวกมันทั้งหมด (ในเมืองนี้)"
เมือง Al-Mayadeen ตั้งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเมืองเดียร์เอซซอร์ประมาณ 45 กิโลเมตร ขณะนี้ได้รับการปลดปล่อยจากขบวนการก่อการร้ายไอซิสโดยกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียเมื่อวันเสาร์นี้ ด้วยความช่วยเหลือของกองทัพอากาศรัสเซีย กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขายูเฟรติสที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกไอซิส และเป็นฐานที่มั่นหลักของพวกไอซิสในภาคตะวันออกของซีเรีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยกองหนุนไอซิสจากอิรัค (เพราะอยู่ใกล้กับชายแดนอิรัค)
วันที่ 13 ตุลาคม กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า มีสมาชิกขบวนการก่อการร้ายไอซิสราว 1,000 คนจากอิรัคได้เดินทางเข้าไปในซีเรีย (แต่ช้าไป เมือง Al-Mayadeen ถูกกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียยึดคืนมาได้เรียบร้อยแล้ว)
รายงานข่าวเพิ่มเติมจากสำนักข่าว AMN เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ Dier ez-Zor เปิดเผยว่า เครื่องบินรบของกองทัพอากาศซีเรียได้ลงจอดที่ฐานทัพอากาศ Deir Ezzor เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี หลังจากกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียช่วยกันยึดฐานทัพแห่งนี้คืนมาได้จากพวกไอซิสเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนหน้านี้รัสเซียส่งเครื่องบินลำเลียงและเฮลิคอปเตอร์ลำเบียเสบียงและอาวุธไปลงจอดที่ฐานทัพแห่งนี้ด้วยหลังจากยึดคืนมาได้ไม่นาน
สื่อเลบานอนรายงานว่า เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว พันธมิตรนำโดยสหรัฐได้โจมตีกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียในพื้นที่ Thardeh Mountain (Jabal Thardeh) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากฐานทัพอากาศแห่งนี้ และได้บีบให้กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียต้องถอนกำลังออกจากฐานทัพแห่งนี้ ต่อมาพวกไอซิสก็เข้าไปยึดฐานทัพอากาศแห่งนี้ได้โดยง่าย
[สหรัฐอ้างว่าตนเองปราบไอซิสในซีเรีย แต่ในความเป็นจริงก็คือ พยายามขัดขวางและกลั่นแกล้งกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียที่ปราบพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส จนทำให้พวกไอซิสยึดฐานทัพอากาศและบ่อน้ำมันของฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้เป็นจำนวนมาก พอกองทัพซีเรีย อิหร่าน เฮชบอลเลาะห์ และรัสเซีย ช่วยกันถล่มพวกไอซิสยับเยิน
สหรัฐรีบกล่าวหาว่า กองทัพ IRGC ของอิหร่านเป็นขบวนการก่อการร้าย เนื่องจากพวก IRGC ช่วยกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียสังหารพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส และเด็ดหัวพวกอัอเคด้า (อัลนุสราฟรอนท์) ลูกสมุนของอิสราเอลในที่ราบสูงโกลาน และในพื้นที่อื่นๆทั่วซีเรียด้วย
เมื่อวันก่อนนี้ ปธน.แอร์โดกันแห่งตุรกีได้สั่งให้กองทัพตุรกีเคลื่อนกำลังพลและอาวุธหนักหลายรายการเข้าไปในพื้นที่จังหวัด Idlib ทางภาคเหนือของเซีย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรีย เนื่องจากพวกกบฏซีเรียและผู้ก่อการร้ายกำลังถูกเครื่องบินรบของรัสเซียและซีเรียถล่มจากท้องฟ้าอย่างหนัก ในขณะที่ภาคพื้นดินก็โดนกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียกระทืบซ้ำ
กรุงดามัสกัสได้ประณามการเคลื่อนไหวทางทหารของกองทัพตุรกีที่ละเมิดอธิปไตยของซีเรีย และได้เรียกร้องให้ตุรกีถอนกองทัพของตนเองออกจากพื้นที่จังหวัดอิดลิบ ไม่มีเสียงตอบรับจากแอร์โดกัน ตอนนี้คงจะไม่ว่างรับสายจากรัฐบาลซีเรีย เพราะติดสายพวกกบฏ FSA อยู่มั๊ง? - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
15/10/2560
---------
https://www.rt.com/news/406714-mayadeen-isis-weapons-stockpiles/
https://www.almasdarnews.com/articl...lands-deir-ezzor-airbase-first-time-one-year/
https://www.rt.com/news/406686-syrian-troops-capture-mayadeen-sana/
https://www.rt.com/news/406618-isis-controls-less-territory/
https://www.rt.com/news/406690-damascus-demands-turkish-troops-out/
https://sputniknews.com/middleeast/201710141058236489-syria-damascus-turkey-troops-withdrawal/
https://sputniknews.com/middleeast/201710141058231364-syrian-army-mayadeen-liberation/
https://www.rt.com/news/406652-erdogan-turkey-syria-deployment/

 

ปอกเปลือก ทรราช



พวกมันจะเผากรุงเคียฟรอบที่สองหรือเปล่า? ขบวนการนีโอ-นาซีหัวรุนแรงยูเครน เดินขบวนฉลองครบรอบ 75 ปีการก่อตั้งกองทัพกบฏยูเครน (UPA) ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองชาติยมในรัฐสภาโดยมีกองทัพนีโอ-นาซีเป็นกองกำลังสำคัญของตนเอง พวกนี้แม้ว่าจะคลั่งอุดมการณ์แบบ "นาซีเยอรมัน" ของฮิตเลอร์ แต่ไม่ต่อต้านยิว อุดมการณ์ของพวกนี้ก็คือ "ต่อต้านรัสเซีย" และเป็นขี้ข้าอเมริกาและนาโต้ เป็นเครื่องมือที่สหรัฐและอียูสร้างขึ้นมาเพื่อบ่อนทำลายความสามัคคีและสร้างความแตกแยกภายในยูเครนโดยเฉพาะ สมาชิกส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น คลั่งการใช้ความรุนแรง เคยก่อเหตุเผาคนทั้งเป็นบนตึกแห่งหนึ่งมาแล้ว เนื่องจากฝ่ายที่ถูกเผามีความเห็นต่างจากแก๊งประชาธิปไตยไรท์เซ็กเตอร์นีโอนาซี นิยมจุดคบเพลิงเหมือนเจ้าแม่เทพีเสรีภาพที่นครนิวยอร์ก "เผาไปเลยค่ะพี่น้อง เดี๊ยนไม่รับผิดชอบนะคะ!" กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ประเทศไทยเคยเจอกับวิกฤตนี้มาแล้วถึงสองหน ยูเครนเจอมาแล้วหนึ่งหน กำลังจะสิ้นชาติ แต่พวกมันก็ไม่เคยสำนึกได้ กลับไปโทษรัสเซียว่าเป็นความผิดของรัสเซียกรณีกบฏยูเครนตะวันออกและไคร์เมีย
------------
https://www.rt.com/news/406705-ukraine-nationalists-upa-march/

 

ภูเขาไฟ Agung บนเกาะท่องเที่ยวบาหลียังคงเป็นคาดว่าจะเกิดการปะทุขึ้น เนื่องจากยักษ์ใหญ่เกิดแผ่นดินไหวเฉลี่ยเกือบ 1,000 ครั้งต่อวัน และสัตว์ต่างๆเริ่มแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติ



รูปภาพ bali.mehthesheep.com
มีความเป็นไปได้ที่การระเบิดของภูเขาไฟในอนาคตอันใกล้จะยังคงสูงอยู่
ภูเขาไฟมีค่าเฉลี่ยเกิดแผ่นดินไหสเกือบ 1,000 ครั้งต่อวัน
สัตว์เริ่มแสดงพฤติกรรมผิดปกติ
มันเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดในเดือนกันยายน 2560 ภูเขาไฟอะกุงบนเกาะท่องเที่ยวบาหลีกำลังจะระเบิดแล้วดูเหมือนจะหยุด เมื่อไม่มีรายงานเผยแพร่ออกมา แต่ภัยคุกคามยังอยู่ ...
มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระเบิดของภูเขาไฟในอนาคตอันใกล้จะยังคงสูงอยู่
กิจกรรมแผ่นดินไหวมีการเปลี่ยนแปลงในระดับที่สูงมากโดยมีค่าเฉลี่ยประมาณ แผ่นดินไหว 800 - 900 ครั้งต่อวัน
ฝูงของการสั่นสะเทือนของภูเขาไฟสะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขากรอยร้าวโดยความดันภายในของเหลว แมกมาแทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างที่ชั้นดินที่ระดับความลึกตื้นๆ
การเพิ่มขึ้นของแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในตอนเย็น (เช้าตรู่ในบาหลี) และสามารถเห็นได้จาก seismogram
นอกจากนี้การประทุอย่างอ่อนๆ ของการสั่นสะเทือนของภูเขาไฟที่ไม่สอดคล้องกันได้เริ่มเกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเช่นกัน ในขณะที่เรายังไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์ว่าเป็นสาเหตุของการสั่นสะเทือนของภูเขาไฟประเภทต่างๆการตีความโดยทั่วไปคือการเคลื่อนที่ภายในของแมกม่าทำให้เกิดการสั่นของของเหลวและท่อส่งของมัน (เช่นเดียวกับการส่งผ่านอากาศในท่ออวัยวะทำให้เกิดเสียงสะท้อน)
ที่ผิวน้ำภูเขาไฟยังคงนิ่ง แต่สงบมากหรือน้อย
สามารถมองเห็นได้เฉพาะปล่องไอน้ำสีขาวขนาดเล็กที่เพิ่มขึ้นจากปล่องภูเขาไฟ
ความพยายามที่จะสำรวจปล่องภูเขาไฟด้วยdrone เมื่อวานนี้ล้มเหลว เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวล้มเหลวในการขึ้น มีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันจากผู้คนในพื้นที่ที่ได้โพสต์ข้อความใน Facebook และสื่ออื่น ๆ ว่าสัตว์ต่างๆเริ่มแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติ
รายงานที่มีนัยสำคัญและเชื่อถือได้ดังกล่าวเป็นอย่างไร
http://www.thebigwobble.org/2017/10/mount-agung-volcano-on-tourist-island.html?spref=fb&m=1