ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สุดเลว! ทหารหน่วยคอมมานโดสหรัฐกร่าง ยิงปืนใส่รถบรรทุกพลเรือนในอัฟกานิสถาน (มันเป็นการซ่อมวินัยสไตล์ทหารอเมริกันหนะ ชิมิ?)

    Screenshot_2018-01-12-10-51-20.png Screenshot_2018-01-12-10-51-26.png

    ----------

    วันที่ 11 ม.ค.61 RT รายงานว่า คลิปในยูทูบคลิปหนึ่งมีจุดประสงค์แสดงให้เห็นว่าหน่วยคอมมานโดสหรัฐในอัฟกานิสถานยิงปืนหนึ่งนัด (ในระยะเผาขน) ใส่หน้าต่างรถบรรทุกของพลเรือนคันหนึ่งในขณะที่มีโซเฟอร์อยู่ภายในรถ ได้ก่อให้เกิดความกังวลใจและอาการตกใจต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพสหรัฐ [คงจะตกใจที่ว่า ทำไมยิงแค่นัดเดียวและปล่อยให้รอดไปได้ฟระ? - ผู้แปล]

    คลิปวีดีโอต้นฉบับใช้ชื่อว่า "Happy Few Ordnance Symphony" เป็นคลิปตัดต่อฉากสู้รบในปี 2017 โดยมีการยิงปืนทหารใส่หน้าต่างรถบรรทุกของพลเรือนด้วย Politico รายงาน กองบัญชาการกลางของสหรัฐไม่ได้อนุญาตให้เผยแพร่คลิปนี้ และถูกลบออกจากเว็บไซต์สำหรับแชร์วีดีโอโดยเร็ว (แต่ก็มีคนอื่นๆ ดาวโหลดและนำไปแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียและสื่อกระแสหลักของตะวันตกมากมาย)

    เพียงไม่กี่วินาทีในตอนท้ายของคลิปดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงพาหนะหุ้มเกราะทางทหารคันหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นรถ Oshkosh M-ATV สำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ วิ่งผ่านรถบรรทุกของพลเรือนคันหนึ่งซึ่งวิ่งไปช้าๆ

    เห็นได้ชัดว่าคลิปวีดีโอนี้บันทึกจากกล้องติดหมวกกันน็อก และเห็นปืนททหารจ่อปลายกระบอกปืนไปที่ห้องคนขับรถบรรทุก (จากด้านข้าง ในขณะที่รถทหารกำลังจะแซงรถบรรทุก) กระจกหน้าต่างรถบรรทุกแตกกระจายเนื่องจากถูกยิง ผู้ทำคลิปใส่เพลงประกอบเข้าไปด้วย

    ป.ล. เขาเรียกว่า "ประชาธิปไตยและเสรีภาพแบบอเมริกัน" ของแท้ครับ อย่าคิดมากนะชาวอัฟกัน "การกราดยิงปืนใส่พลเรือน" ในที่สาธารณะนั้น พวกไอซิส ตาลีบัน และอัลเคด้า ต่างก็ทำเป็นเรื่องปรกติทั้งนั้น จะแปลกอะไรถ้าทหารประชาธิปไตยอเมริกันจะทำบ้าง จบมาจากที่เดียวกันนี่นา

    เมื่อหลายปีก่อน ทหารนายหนึ่งของสหรัฐนำคลิปที่กองทัพสหรัฐโจมตีฝูงชนที่เป็นพลเรือนในอิรัคจากเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache สุดท้ายทหารคนนั้นถูกจับขังคุกหลายปี โทษฐานเปิดเผยความ (เลว) ลับของกองทัพสหรัฐให้ทั่วโลกได้รับรู้ มีข่าวว่ากองทัพต่างประเทศก็ส่งทหารของตนเองไปฝึกและศึกษาในโรงเรียนและหลักสูตรการทหารที่อเมริกาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขาจะสอนหลักสูตรการยิงรถพลเรือนให้ทหารต่างชาติเหล่านั้นด้วยหรือเปล่า?
    https://www.rt.com/news/415565-us-commando-truck-afghanistan/

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    11/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/news/415565-us-commando-truck-afghanistan/
    https://www.politico.com/story/2018...shooting-afghanistan-battlefield-video-276534
    http://www.businessinsider.com/comb...tcom-investigation-rules-of-engagement-2018-1
    https://sputniknews.com/us/201801111060679922-us-forces-afghanistan-video-investigation/

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    facebookpage.jpg
    ใครมีเพจเฟซบุ๊ค ปีนี้ต้องทำใจ / โดย เพจลงทุนแมน 12 ธันวาคม 2561

    เมื่อเช้านี้ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ได้โพสจุดยืนเขาในหน้าเฟซบุ๊คของตัวเอง
    เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนที่มีเพจเฟซบุ๊คต้องรู้สึกสะดุ้ง
    เพราะ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้แคร์เพจเฟซบุ๊ค เท่ากับความรู้สึกของผู้อ่าน
    เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

    มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เริ่มจากการเล่าว่าเขาได้รับ feedback จากคนใช้งานเฟซบุ๊คว่า public content มีมากเกินไป ซึ่งกระทบการเห็น content ของเพื่อน หรือ ครอบครัว น้อยลง

    public content คืออะไร

    public content คือ เรื่องราวที่มาจากฝั่งธุรกิจ แบรนด์ และ ข่าวต่างๆ ซึ่งข้อมูลพวกนี้เริ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

    ซึ่งสิ่งนี้อาจจะทำให้เฟซบุ๊คเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เขาอยากให้เป็น นั่นก็คือ การเชื่อมทุกคนเข้าหากัน

    มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวว่าเขาได้ดูผลงานวิจัยมากมายจากทั้งตัวเขาเอง และจากมหาวิทยาลัย

    ผลวิจัยสรุปว่าเวลาเราใช้โซเชียลมีเดีย เชื่อมต่อกับผู้คนที่เรารู้จัก จะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น และส่งผลให้เรามีสุขภาพที่ดี

    ซึ่งการเชื่อมต่อกับคนใกล้ตัวแบบนี้ จะดีกว่า การเสพสื่อที่เป็นแบบ passive (การเสพเนื้อหาอย่างเดียว ที่เราไม่ได้โต้ตอบ เช่น อ่านบทความเพื่อความรู้ หรือ ดูวิดีโอเพื่อความบันเทิง ถือว่าเป็น content แบบ passive)

    ทั้งหมดนี้เป็นเหตุทำให้มาถึงจุดพีคของเรื่องนี้ก็คือ

    ในปีนี้เฟซบุ๊คตัดสินใจที่จะทำให้ news feed มีเรื่องของครอบครัว และ เพื่อน มากขึ้นกว่าเดิม

    และเราจะได้เห็น content จาก ธุรกิจ แบรนด์ หรือข่าวต่างๆน้อยลง

    มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก คอนเฟิร์มว่า ยอด engagement ของเพจต่างๆจะลดลง และเวลาของคนที่อยู่ในเฟซบุ๊คก็อาจจะน้อยลงด้วย

    แต่ที่เขาคำนึงถึงคือ เวลาของคนที่อยู่ในเฟซบุ๊คจะต้อง “มีคุณค่ามากขึ้น”

    พอเรื่องเป็นอย่างนี้ก็เรียกได้ว่าน่าจะเป็นฝันร้ายของคนทำเพจเฟซบุ๊ค ที่จากเดิมก็แข่งกันแทบตายอยู่แล้ว ต่อไปก็น่าจะมีคนเห็นน้อยลงไปอีก

    บางคนยังเข้าใจผิดว่า ถ้าเพจเฟซบุ๊คเรามีคน follow 1,000 คน ทุกคนจะเห็นสิ่งที่เราโพส

    ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าโพสของเราไม่ได้มีดีอะไร เฟซบุ๊คจะจัดลำดับความสำคัญให้โพสไปอยู่ล่างๆของหน้า news feed

    คน follow 1,000 คน จะมีคนเห็นโพสไม่ถึง 50 คน และต่อไป อาจจะไม่ถึง 10 คน..

    ดูแล้ว เทรนด์ของเฟซบุ๊คน่าจะไปทางความสัมพันธ์ระหว่างคน และ กลุ่มที่สนใจเรื่องนั้นๆมากขึ้น มากกว่าที่จะเป็นเรื่องสาธารณะ

    เพราะที่ผ่านมาเฟซบุ๊ค โดนโจมตีมาเสมอว่า เนื้อหาในเฟซบุ๊คมีคุณภาพน้อยลง มีแต่คนขายของ และไม่สามารถควบคุมเนื้อหาที่รุนแรงได้ ถึงขั้น live ฆ่าตัวตายก็มี

    มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เราเห็นว่า

    ในโลกนี้ ในบางครั้ง เรื่องเงินก็ไม่ได้เป็นเรื่องแรก

    แต่สิ่งสำคัญดูเหมือนจะเป็นภาพใหญ่ที่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งหมด

    ถ้าเราต้องหนีจากตัวตนในวันแรกที่เราตั้งใจทำ เราก็เหมือนขายวิญญาณให้กับเงิน

    และมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ก็คงคิดดีแล้ว ที่กล้าที่จะเลือกทางนี้ กล้าที่จะเลือกรับผิดชอบต่อจิตวิญญาณของตัวเอง..
    ———————-
    ถ้าต่อไปหาโพสของลงทุนแมนไม่เจอในเฟซบุ๊คให้ติดตามได้ที่ แอพ ลงทุนแมน
    ลงทุนแมนมี “แอพ” แล้ว โหลดฟรีที่ longtunman.com/app
    ทั้ง iOS และ android
    ———————-


    http://longtunman.com/3997
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2018
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    tnews_1515717085_8502.jpg
    ภัยพิบัติมาใกล้แล้ว!! แผ่นดินไหวเมียนมา 13 ระลอก แตะระดับ 5.9 เขย่าตึกสูงเมืองกรุงฯ เฝ้าระวังเขื่อนใหญ่!??
    Publisher : 2018-01-12 07:31:25

    http://m.tnews.co.th/contents/bk/400179
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Chananthon Muanchamnanpa

    รัฐบาลสวีเดนเตือนประชาชน: เตรียมตัวให้พร้อมอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์โดยไม่มีความช่วยเหลือ
    http://silveristhenew.com/2018/01/1...be-prepared-for-at-least-a-week-without-help/
    รัฐบาลสวีเดนกำลังเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมที่จะอยู่รอดด้วยตนเองเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ผิดปกติสำหรับประเทศสวีเดน - มีบางอย่างกำลังมาหรือไม่?

    บังกลาเทศลดลงเป็น 2.6 °
    บังคลาเทศอุณหภูมิที่หนาวเย็นที่สุดเท่าที่เคยบันทึก https://watchers.news/2018/01/10/ba...-ever/?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook

    คำเตือนผู้เฒ่าเอสกิโม!

    ผู้เฒ่าชาวเอสกิโมเตือนนาซ่า ภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากภาวะโลกร้อน (หลายคนบอกว่าภาวะโลกร้อนเรื่องหลอกลวงสำหรับการจัดเก็บภาษีคาร์บอน)

    ที่น่าสนใจชาวเอสกิโมบอกว่าโลกของพวกเขาได้เอียงไปเล็กน้อย และดวงอาทิตย์ได้ไกลออกไปซึ่งสอดคล้องนักวิทย์ฯอิสระและของรัสเซียกรณีโลกจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งเล็กๆในระยะ 30 ปี กอรปกับสิ่งที่ทหารเรือสหรัฐแย้มออกมาสำหรับแผนที่น้ำท่วมสหรัฐ

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events
    IMG_20180113_114347_336.jpg
    ทรัมป์ยกเลิกเยือนเมืองผู้ดีช่วงกุมภาฯ?
    เพราะไม่พอใจเกี่ยวกับสถานทูติ หรือเขา "หลีกเลี่ยงความเสี่ยงถูกลอบสังหาร" ...

    เครื่องบินโจมตีที่ isis ใช้โจมตีฐานทัพรัสเซียในซีเรียล่าสุดที่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรกโดยเจ้า UAV ที่ทำจากวัสดุง่ายๆ แต่คำเตือนกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าการออกแบบที่ใช้โดยกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ได้มาจากประเทศที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเท่านั้นและได้เตือนถึงอันตรายจากการโจมตีดังกล่าวในประเทศใดๆ ในโลก https://sputniknews.com/middleeast/201801101060640381-russia-hmeymim-base-drones-photos/

    วอชิงตันโพสต์ ว่าเป็น " ความลึกลับใหม่ " แทนที่จะมีความซับซ้อนสูง

    https://www.washingtonpost.com/worl...50bc3300042_story.html?utm_term=.66ced51431e8

    และเอ่อ .. มันสามารถก่อการฯกับทรัมป์ได้เช่นกัน (ก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน)

    ** ในทำนาย.. คนหนึ่งจะตาย การต่อสู้จะเกิดขึ้น และมารจะเข้าไปนั่งในพระวิหารซึ่งก่อให้เกิดการรกร้าง?

    เหตุการณ์ช่วง อมาเกโดน.

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    'นาซา' พบหลักฐานเป็นครั้งแรกว่าชั้นโอโซนกำลังฟื้นตัวเพราะการสั่งห้ามสาร 'ซีเอฟซี'
    Published on Sat, 2018-01-13 10:21

    นาซาอาศัยข้อมูลจากดาวเทียมออราที่เก็บข้อมูลของชั้นโอโซนพบว่าปริมาณการทำลายชั้นโอโซนลดลงราวร้อยละ 20 ในช่วงประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา โดยจากการวัดผลทางเคมีในชั้นโอโซนพบว่านโยบายห้ามใช้สารซีเอฟซีในระดับโลกสามารถลดการทำลายโอโซนได้จริง ถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ชิ้นแรกสำหรับกรณีนี้

    39659436541_c39c054dd0_o_d.jpg
    ที่มาภาพประกอบ: NASA/Reid Wiseman (@astro_reid)

    องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ 'นาซา' (NASA) เปิดเผยในเว็บไซต์ของตนเองว่าชั้นโอโซนของโลกกำลังฟื้นตัวซึ่งเป็นการค้นพบหลักฐานเชิงประจักษ์ของปรากฏกาณ์นี้เป็นครั้งแรก

    ชั้นโอโซนเป็นส่วนหนึ่งในชั้นบรรยากาศของโลกที่มีก๊าซโอโซนอยู่หนาแน่นช่วยดูดกลืนรังสีอัลตราไวโอเล็ตที่เป็นอันตรายต่อ โดยที่ผ่านมาการปล่อยมลพิษทางอากาศและสารเคมีบางประเภทของมนุษย์ส่งผลเสียในการทำลายชั้นโอโซน เช่น สารคลอโรฟลูโอโรคาร์บอนส์ หรือ ซีเอฟซี

    อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2561 เว็บไซต์ขององค์การนาซาเปิดเผยข้อมูลจากการสำรวจผ่านดาวเทียมระบุว่าปริมาณสารคลอรีนที่ทำงานโอโซนนั้นมีปริมาณลดลง ส่งผลทำให้ชั้นโอโซนถูกทำลายลดลง

    นาซาระบุว่าเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าการออกมาตรการห้ามใช้สารซีเอฟซีในระดับนานาชาติตั้งแต่ช่วงราว 30 ปีที่แล้วได้ผล ทำให้ลดการทำลายโอโซนลงได้ราวร้อยละ 20 เมื่อวัดจากชั้นบรรยากาศในช่วงฤดูหนาวของแถบแอนตาร์กติกเมื่อเทียบกับปี 2548 ซึ่งเป็นปีที่ตรวจวัดปริมาณโอโซนและคลอรีนครั้งแรกด้วยดาวเทียมออร่าของนาซา

    ซูซาน สตรอห์น นักวิทยาศาสตร์ด้านชั้นบรรยากาศจากศูนย์การบินอวกาศก็อดเดิร์ดของนาซา ระบุว่า "พวกเราเห็นได้ชัดว่าปริมาณคลอรีนจากสารซีเอฟซีมีปริมาณลดลงในชั้นโอโซน ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการสลายตัวของโอโซนน้อยลง"

    สารซีเอฟซีเมื่อขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศแล้วจะแตกตัวทางเคมีเมื่อได้รับรังสีอัลตราไวโอเล็ตจากแสงอาทิตย์ทำให้ปล่อยคลอรีนอะตอมออกมา และคลอรีนจะปทำลายโมเลกุลของโอโซน เมื่อโอโซนถูกทำลายก็จะส่งผลทำให้รังสีอัลตราไวโอเล็ตแผ่ลงมาที่โลกมากขึ้นเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งพืชและสัตว์ โดยส่งผลกระทบทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง โรคต้อกระจก และยับยั้งระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

    หลังจากที่มีการค้นพบ 'รูรั่วโอโซนในทวีปแอนตาร์กติก' (Antarctic Ozone Hole) ในปี 2528 หลายประเทศก็ลงนามใน 'พิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน' เพื่อมีการกำกับดูแลการใช้สารที่ทำลายโอโซน หลังจากนั้นจึงมีการแก้ไขพิธีสารสั่งให้มีการเลิกผลิตสารซีเอฟซีโดยสิ้นเชิง

    จากที่ก่อนหน้านี้มีเพียงการวิจัยแบบวิเคราะห์เชิงสถิติเท่านั้นที่นำเสนอว่าการทำลายชั้นโอโซนลดลง แต่หลักฐานจากดาวเทียมของนาซาถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นว่าการทำลายชั้นโอโซนลดลงจริงและชี้ให้เห็นว่าสาเหตุมาจากมาตรการการสั่งห้ามสารซีเอฟซี

    ข้อมูลของนาซาได้รับมาจากเครื่องมือตรวจวัดที่ชื่อว่า 'ไมโครเวฟลิมบ์ซาวน์เดอร์' (MLS) จากดาวเทียมออรา โดยเก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2547 โดยมีการวัดในช่วงเดือน ก.ค. ถึงเดือน ก.ย. ทุกปี สาเหตุที่ต้องตรวจวัดช่วงนี้เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงน้อยกวาทำให้แยกแยะได้ว่าการสลายตัวของโอโซนมาจากคลอรีนจริง

    พวกเขาพบว่าปริมาณการสูญเสียโอโซนลดลง โดยที่หลังจากคลอรีนทำลายก๊าซโอโซนที่มีอยู่จนเกือบหมดแล้วพวกมันจะทำปฏิกิริยากับมีเธนจนกลายเป็นกรดไฮโดรคลอริคที่จะถูกตรวจวัดโดย MLS ขณะเดียวกันก็ต้องตรวจวัดเทียบกับไนตรัสอ็อกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซที่คงอยู่ได้ยาวนานและทำตัวคล้ายซีเอฟซีส่วนใหญ่ในชั้นบรรยากาศสตราโตสเปียร์ ขณะที่ซีเอฟซีลดลงบนพื้นผิวโลกแต่ไนตรัสอ็อกไซด์บนชั้นบรรยากาศจะยังมีอยู่เท่าเดิม โดยเมื่อมีการเปรียบเทียบกับกรดไฮโครคลอริกแล้วจะพบว่าคลอรีนในชั้นโอโซนลดลงราวร้อยละ 0.8 ทุกปี รวมแล้วมีการสูญเสียโอโซนลดลงตั้งแต่ปี 2548-2559 ร้อยละ 20

    สตรอห์นกล่าวว่าผลจากการวัดใกล้เคียงกับที่แบบจำลองพยากรณ์เอาไว้ว่าถ้าลดปริมาณคลอรีนจำนวนเท่านี้จะทำให้การสูญเสียโอโซนลดลงเท่าใด นั่นทำให้พวกเขามั่นใจว่าการลดระดับคลอรีนในชั้นโอโซนมาจากการหยุดใช้สารซีเอฟซี อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่แน่ใจว่ารูรั่วของโอโซนจะลดขนาดลงด้วยหรือไม่เพราะปัจจัยของรูรั่วนี้มาจากเรื่องอุณหภูมิซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละปีด้วย

    ขณะที่กลุ่มนักวิจัยหวังว่ารูรั่วโอโซนในทวีปแอนตาร์กติกจะฟื้นฟูได้หลังจากสารซีเอฟซีหมดไปแล้ว แต่แอนน์ ดักลาสส์ นักวิทยาศาสตร์จากก็อดเดิร์ดผู้ร่วมเขียนงานวิจัยในครั้งนี้ก็บอกว่าการที่ชั้นโอโซนจะฟื้นฟูตัวเองได้ทั้งหมดจะใช้เวลาหลายสิบปี อาจจะราวปี 2603 หรือ 2623 เพราะสารซีเอฟซีมีช่วงอายุอยู่ได้นานมากราว 50-100 ปี มันจึงจะอยู่ในชั้นบรรยากาศไปอีกนาน


    เรียบเรียงจาก
    NASA Sees First Direct Proof of Ozone Hole Recovery, NASA, 04-01-2018
    https://www.jpl.nasa.gov/news/news.php?feature=7033

    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
    https://en.wikipedia.org/wiki/Chlorofluorocarbon

    https://www.prachatai.com/journal/2018/01/74921
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    SpringNews


    เพราะพลังงานสำคัญกับทุกคน กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์

    ขับเคลื่อนภารกิจด้านอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทนมาตลอด 25 ปี

    เราขอสัญญาว่า เราจะไม่หยุดพัฒนา และส่งเสริมแหล่งพลังงานใหม่ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของทุกคนตลอดไป

    ติดตามเรื่องราวดีๆ จากคลิปนี้กัน

    #25ปี

    #กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

    #สร้างสรรค์โปร่งใสยั่งยืน

    #ThesisTheSeries5

    #กองทุนอนุรักษ์ฯสร้างสรรค์โปร่งใสยั่งยืน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ที่นี่เยอรมัน ไม่ใช่อเมริกา! ตำรวจเยอรมันแจกใบสั่งให้คอนวอยรถบรรทุกพลเรือนขนรถถังปืนใหญ่กองทัพสหรัฐ ทำผิดกฎจราจรหลายกระทง

    IMG_8036.JPG IMG_8037.JPG IMG_8038.JPG

    ----------

    วันที่ 11 ม.ค.61 RT พาดหัวข่าวว่า "ถูกแบนโดยอัตโนมัติ: ตำรวจจราจรเขี่ยคอนวอยกองทัพสหรัฐตกถนนไฮเวย์" (Auto-banned: US army convoy kicked off German highway by traffic cops)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันกำลังเตือนบรรดาผู้ขับขี่รถยนต์ว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย (nobody is above the law) การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหลายนายพากันหยุดขบวนรถบรรทุกปืนใหญ่อัตราจรของกองทัพบกสหรัฐ โดยแจ้งว่าพาหนะเหล่านี้บรรทุกน้ำหนักเกิน และไม่มีเอกสารชี้แจงที่ถูกต้อง

    ทางด่วนสาย Autobahns ในเยอรมันนีเป็นเส้นทางจราจรความเร็วสูงที่หนาแน่น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นยังคงตื่นตัวระมัดระวังอยู่เสมอ แต่ก็มีขบวนรถที่บรรทุกปืนใหญ่ของกองทัพบกของสหรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ให้รับมืออยู่ทุกวัน

    คอนวอยที่กล่าวถึงข้างต้น ประกอบด้วยรถเทรเลอร์บรรทุกปืนใหญ่อัตราจร M109 ของอเมริกันหกคัน ไม่ระบุจุดหมายปลายทาง ซึ่งดำเนินการโดยกองทัพบกสหรัฐ ถูกสั่งให้หยุดตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเมือง Saxony กลางทางของไฮเวย์หมายเลข A4

    "การขนส่งที่ไม่ปรกติ" นี้ถูกสั่งให้หยุดนอกเมือง Bautzen ทางตะวันออกของเยอรมัน "จากการตรวจสอบ [คอนวอยขบวนนี้] ไม่พบเอกสารประกอบการขนส่งที่จำเป็น สิ่งของที่บรรทุกมากว้างเกินไป เหนือสิ่งอื่นใด บรรทุกน้ำหนักเกินเป็นจำนวนมาก" เจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบาย รถบรรทุกคันหนึ่งในจำนวนนี้ ได้บรรทุกน้ำหนักเกินถึง 16 ตัน และคนขับรถก็มาจากบริษัทขนส่งของโปแลนด์ ทั้งยังขับขี่เกินข้อจำกัดในการขับขี่และอ่อนล้าด้วย

    "รายการความผิดที่ยาวเป็นหางว่าว" ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องห้ามขบวนรถเหล่านี้ผ่านไปได้ จนกว่าพาหนะเหล่านี้จะมีความเหมาะสมสำหรับคาร์โกที่เหมาะสม มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง และตรงตามกฎจราจรข้ออื่นๆด้วย ในที่สุดบริษัทรับส่งสินค้าและคนขับรถก็ถูกปรับ แถลงการณ์กล่าว

    เหตุการณ์ที่ไม่ปรกตินี้ ถูกนำไปพาดหัวข่าวตามสื่อเยอรมัน และนำไปสู่การแสดงความคิดเห็นต่างๆนานาในโซเชียลมีเดีย บางคนก็ยกย่องเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าปฏิบัติหน้าที่ได้ดี บ้างคนก็ประหลาดใจว่าทำไมกองทัพสหรัฐถึงใช้รถของพลเรือนในการขนอาวุธยุทโธปกรณ์

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    12/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/news/415579-germany-us-howitzers-stopped/
    https://sputniknews.com/europe/201801111060662927-german-police-halt-usa-howitzers/
    https://sputniknews.com/cartoons/201801111060673200-germany-us-howitzers-stopped/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ปูตินชมคิมน้อยว่า "ฉลาดเฉียบแหลมและมีวุฒิภาวะ รอบนี้คิม จอง-อึน ชนะ" (สหรัฐนับ 10?)

    IMG_8039.JPG IMG_8040.JPG IMG_8041.JPG

    ----------

    วันที่ 11 ม.ค.61 RT พาดหัวข่าวว่า "ผู้นำเกาหลีเหนือทั้งฉลาดปราชญ์เปรื่องและเป็นผู้ใหญ่ชนะในยกนี้ - ปูตินแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤตคาบสมุทรเกาหลี" (‘Shrewd & mature N. Korean leader has won this round' – Putin on peninsula crisis)

    ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวชมประธานาธิบดีคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนืออย่างตรงไปตรงมาว่า "เป็นผู้ชนะ" ในวิกฤตรอบล่าสุดในคาบสมุทรเกาหลี และเชื่อว่าขณะนี้กรุงเปียงยางกำลังพยายามลดความตึงเครียดลง

    "ยกนี้ ผมเชื่อว่าคุณคิม จอง-อึน ชนะแล้วแน่นอน" ปูตินกล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวในที่ประชุมสื่อรัสเซีย และกล่าวว่า เกาหลีเหนือได้บรรลุถึงเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของตนเองแล้ว

    "เขามีอาวุธนิวเคลียร์ และ… มิสไซล์ ที่มีรัศมีทำการถึง 13,000 กิโลเมตร ซึ่งสามารถไปถึงที่ใดๆบนโลกนี้ได้เกือบทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็ดินแดนใดๆที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นศัตรูของเขา" ปูตินกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ "ดูเหมือนว่าผู้นำเกาหลีเหนือกำลังพยายามจะยุติความตึงเครียดในภูมิภาค เขาเป็นนักการเมืองที่ฉลาดเฉียบแหลมคนหนึ่ง และเป็นผู้ใหญ่แล้ว"

    [ก่อนหน้านี้ ในการปะทะฝีปากกับทรัมป์ คิมน้อยหยามประธานาธิบดีสหรัฐว่า "เฒ่าทารกป่วยจิต" ต่อมาสื่ออเมริกันและตะวันตกต่างก็พากันตั้งคำถามเกี่ยวกับ "สุขภาพจิตหรือสมรรถภาพทางจิต" ของผู้นำสหรัฐ ทรัมป์รีบออกมาบอกว่าตนเองมีสุขภาพจิตที่มั่นคงและอัจฉริยะด้วย (คนบ้าที่ไหนมันจะยอมรับว่าตนเองบ้าบ้างหละ?)

    หลังจากที่ทรัมป์คลั่งและโม้ว่าปุ่มนิวเคลียร์ของตนเองใหญ่กว่าของผู้นำเกาหลีเหนือ และท้าดวลขนาดปุ่มนิวเคลียร์กับผู้นำเกาหลีเหนือ เพียงเพราะคิมน้อยพูดว่า ตนเองมีปุ่มนิวเคลียร์อยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    12/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/news/415628-putin-says-shrewd-korean-leader-won/
    http://tass.com/politics/984727
    https://sputniknews.com/russia/201801111060680364-putin-syria-bases-attack/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ยูเอ็น เฮติ และสื่อหลักรุมสับทรัมป์ กรณีเหยียดหยามผู้อพยพชาวต่างชาติว่ามาจาก "ประเทศรูตูด"

    IMG_8042.JPG IMG_8043.JPG IMG_8044.JPG IMG_8045.JPG

    ----------

    วันที่ 12 ม.ค.61 RT พาดหัวข่าวว่า "ทรัมป์ถามว่า ทำไมผู้อพยพจำนวนมากเหล่านั้นจากประเทศรูขี้ถึงเข้ามาที่สหรัฐด้วย? - รายงาน" (Trump asks why so many immigrants come to US from ‘s***hole countries’ – reports)

    ตามรายงานข่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ (ประเทศที่ชอบเรียกร้องและชี้นิ้วสั่งให้ประเทศอื่นๆรับผู้อพยพผิดกฎหมายไปดูแลโดยอ้างมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนอยู่บ่อย) ได้ตามว่าผู้คนจำนวนมากเหล่านั้นจากประเทศรูตูด (/รูขี้/รูดาก/รูตด = shithole) เช่น เอลซัลวาดอร์ เฮติ และบางประเทศในแอฟฟริกาเข้ามยังสหรัฐ? ผลลัพธ์ที่เลวร้ายอาจจะนำไปสู่การปฏิรูปเกี่ยวกับกฎหมายคนเข้าเมืองจากทั้งสองพรรคก็ได้

    Washington Post รายงานว่า ทรัมป์เกรี้ยวกราดมากระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ เมื่อวุฒิสมาชิก Lindsey Graham (R-South Carolina) และวุฒิสมาชิก Dick Durbin (D-Illinois) เสนอให้รื้อฟื้นการป้องกันคนเข้าเมืองจากเฮติ เอลซัลวาดอร์ และบางประเทศในแอฟฟริกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเกี่ยวกับการรับคนเข้าเมืองระหว่างสองพรรค

    วุฒิสมาชิกกลุ่มหนึ่งได้ตกลงว่าจะลดจำนวนวีซ่าล็อตเตอร์รี่ลงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และจะฟื้นฟู "สถานะป้องกันชั่วคราว" ต่อคนเข้าเมืองจากประเทศที่กำลังประสบปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือความขัดแย้งภายในประเทศ

    "ทำไมเราถึงรับคนเหล่านี้ จากประเทศรูตูดเหล่านั้นมาไว้ที่นี่ด้วย?" ทรัมป์กล่าวกับ Washington Post ของสหรัฐ ทรัมป์แนะนำให้รับผู้อพยพจากประเทศต่างๆ เช่น นอร์เวย์เพิ่มขึ้น (แทนประเทศที่ยากจน)

    โฆษกข้าหลวงใหญ่คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติปรี๊ดแตก โดยได้แสดงความคิดเห็นต่อว่านายทรัมป์ว่า "ไม่มีคำพูดอื่นใดที่เหมาะสม นอกเสียจากคำว่า 'เหยียดผิว'"

    "คุณไม่สามารถเฉดหัวประเทศและทวีปทั้งหมดที่มีประชากรทั้งประเทศที่ไม่ได้เป็นคนผิวขาวว่าเป็น 'ประเทศรูตูด' และดังนั้นก็จะไม่ต้อนรับได้หรอกนะ นี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องภาษาที่ 'หยาบคาย' (vulgar) เท่านั้น มันเกี่ยวกับการเปิดประตูให้กับด้านที่เลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติด้วย ซึี่งเกี่ยวกับการกระทำให้ดูสมเหตุสมผล และส่งเสริมการเหยียดผิว และการเกลียดกลัวชาวต่างชาติ" โฆษก UNHCR กล่าว

    วันเดียวกันนี้ รัฐบาลเฮติ ซึ่งชื่อของประเทศตนเองถูกพาดพิงถึงในวาทกรรมเชิงเหยียดหยามเชื้อชาติ-ผิวสีของประธานาธิบดีสหรัฐ มหาอำนาจเบอร์หนึ่ของโลก ได้เรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐเข้าไปอธิบายว่า ทำไมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงได้ใช้ภาษาหยาบโลน (เถื่อน/ถ่อย/สถุน) ในความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งเฮติ เอลซัลวาดอร์ และบางประเทศในอัฟฟริกาแบบนั้น?

    นาย Paul Altidor เอกอัครราชเฮติประจำสหรัฐกล่าวกับสำนักข่าว NBC News ว่า รัฐบาลเฮติได้ประณามอย่างรุนแรงต่อการแสดงความคิดเห็นของทรัมป์ "ประธานาธิบดีอาจจะไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง หรืออาจจะได้รับการศึกษามาแบบผิดๆ ชาวเฮติต่างก็พากันต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารสหรัฐในสงครามปฏิวัติ และเราก็คงเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือรายใหญ่ต่อสังคมอเมริกันอย่างต่อเนื่อง" นาย Paul Altidor กล่าว

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    12/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/usa/415658-trump-shithole-twitter-reaction/
    https://www.rt.com/news/415690-no-other-word-but-racist-trumo/
    https://www.rt.com/usa/415677-haiti-trump-remark-explanation/
    https://www.nbcnews.com/politics/wh...ti-african-countries-shithole-nations-n836946
    https://www.washingtonpost.com/poli...1ac729add94_story.html?utm_term=.365d9dd069e7
    https://nypost.com/2018/01/12/un-hu...s-trumps-shithole-remark-shameful-and-racist/
    https://www.theguardian.com/us-news...y-over-trumps-shithole-countries-remark#img-1
    http://edition.cnn.com/2018/01/12/politics/trump-shithole-countries-reaction-intl/index.html
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    Screenshot_2018-01-13-18-45-48.png Screenshot_2018-01-13-18-45-58.png Screenshot_2018-01-13-18-46-09.png

    หายสงสัย... ซากเครื่องบินรบ F-15C ของกองทัพอากาศซาอุดิอาระเบีย ที่ถูกนักรบฮูติแห่งเยเมนสอยเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2561 ในเยเมน นักวิเคราะห์มองว่า นักรบฮูติอาจจะสอยด้วย R-27 (AA-10 Alamo-B ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ แต่นำไปดัดแปลงสำหรับใช้งานแบบภาคพื้นสู่อากาศ รัศมีทำการ 80-130 กม. ใช้มาตั้งแต่สมัยโซเวียต ความเร็วที่ 4.5 มัค) หรือ S-75 Dvina (ภาคพื้นสู่อากาศ ของโซเวียต รัศมีทำการที่ 45 กม. ความเร็วที่ 3.5 มัค) พัฒนาจาก SA-2 Guideline
    -------------


    https://www.almasdarnews.com/article/confirmed-saudi-jet-crashes-northern-yemen/
    https://www.almasdarnews.com/article/houthi-forces-shoot-saudi-warplane-yemen-video/
    https://theaviationist.com/2018/01/...-15-kill-with-sam-over-capital-city-of-sanaa/
    http://www.popularmechanics.com/military/aviation/a14929167/yemen-rebels-shot-down-f15-tornado/
    http://www.businessinsider.com/saudi-f-15-houthis-shot-down-yemen-2018-1
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Richard Whitt
    เกมส์เดิมพันอัจฉริยะ

    FB_IMG_1515844670795.jpg

    Petro-Yuan Looms - How China Will Shake Up The Oil Futures Market

    • นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2018 เป็นต้นไป หน่วยงานที่ชื่อว่า The Shanghai International Energy Exchange หรือที่เรียกกันย่อ ๆ ว่าหน่วยงาน INE ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Shanghai Future Exchange จะเริ่มเปิดตลาดการซื้อ - ขายน้ำมันดิบล่วงหน้า โดยอนุญาตให้ผู้ซื้อขายชาวจีนหรือนักลงทุนต่างประเทศ สามารถประกอบธุรกรรมด้วยการกำหนดราคาซื้อ - ขายโดยอาศัยเงินหยวนเป็นหน่วยชำระทางบัญชี หรือซื้อ - ขายกันด้วยระบบ Petro-Yuan ชนิดไม่ต้องเสียเวลาไปอ้างอิงพึ่งพา Petro-Dollar อีกต่อไป

    • ความเคลื่อนไหวในเรื่อง 'ทองคำสีดำ' จึงแทบไม่ต่างอะไรไปจากความเคลื่อนไหวในเรื่อง 'ราคาทองคำ' ดังที่กล่าวไปแล้วและทำให้ใครต่อใครหันมาให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมิใช่น้อย เกิดการออกมาให้ความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็น 'ปฐมฤกษ์แหวกม่านไม้ไผ่' ที่ลุ่มลึก แหลมคม ซ่อนเงื่อน หรือการเปิดตลาดซื้อ - ขายน้ำมันดิบล่วงหน้าแห่งแรกของจีน ในตลาด INE ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษคราวนี้ จะกลายเป็นตัวเขย่าตลาดน้ำมัน และสั่นสะเทือนบทบาทอิทธิพลของเงินดอลลาร์ไปได้ถึงขั้นไหน

    • ราคาน้ำมันดิบที่เคยถูกกำหนดโดยผู้เล่นหลัก ๆ ที่ทำสัญญาซื้อ - ขายน้ำมันดิบล่วงหน้าด้วยเงินสกุลดอลลาร์อยู่ในตลาด West Texas Intermediate หรือ WTI ในกรุงนิวยอร์ก และ Brent Crude Oil ในกรุงลอนดอน จะเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนรสนิยม หันมาทำสัญญาซื้อ - ขายน้ำมันดิบล่วงหน้าด้วยเงินหยวนกันที่ตลาดเซี่ยงไฮ้มากน้อยเพียงใด มากพอที่จะทำให้ตลาดน้ำมัน ซึ่งเคยถูกครอบงำด้วยอิทธิพลเงินดอลลาร์ต้องเปลี่ยนโฉมหน้าไปเป็นอย่างอื่น หรือเกิดอำนาจการต่อรองของผู้ซื้อที่จะทำให้เงินสกุลหยวนของจีน มีโอกาสสอดแทรกขึ้นมาแทนที่เงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกา ในอนาคตอีกไม่ใกล้ไม่ไกล ได้จริง ๆ หรือไม่

    • เมื่อบทบาทของจีนและบทบาทของเงินหยวน ไม่ว่าในตลาดน้ำมันหรือบริหารจัดการสินทรัพย์ไปลงทุนหาประโยชน์โดยคำนึงถึงความมั่นคงอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ หรือกลยุทธ์การลงทุนในยุคเงินล้นโลกก็แล้วแต่ นับวันดูจะออกไปในแนว 'ขาขึ้น' อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ในขณะที่บทบาทของอเมริกาและบทบาทของเงินดอลลาร์ หนีไม่พ้นกำลังก้าวเข้าสู่ 'ขาลง' ขึ้นอยู่กับว่าจะลงแบบฮาร์ดแลนดิ้ง หรือซอฟต์แลนดิ้ง เท่านั้นเอง

    • อย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี นายซิกมาร์ กาเบรียล (Sigmar Gabriel) เคยกล่าวเอาไว้นั่นแหละว่าบทบาทการครอบงำโลกด้านต่าง ๆ ของอเมริกา 'กำลังกลายเป็นประวัติศาสตร์' หรือกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะ 'หุบเหวมรณะ' เข้าไปทุกที คงขึ้นอยู่กับการบริหารประเทศของโดนัลด์ ทรัมป์เป็นหลัก

    • คือทั้ง ๆ ที่จีนได้ตระเตรียมแผนการที่จะกำหนดราคาซื้อ - ขายน้ำมันด้วย Petreo-Yuan มาเป็นปี ๆ อันอาจส่งผลสะเทือนต่อ Petro-Dollar ในระดับผู้พลิกฟ้าคว่ำดิน แต่สิ่งที่บรรดานักวิเคราะห์ในตลาดน้ำมันต่างเห็นพ้องต้องกันก็คือว่า การที่รัฐบาลอเมริกันภายใต้การนำของอัจฉริยะที่มั่นคงมาก ๆ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเตรียมงัดเอา 'มาตรการบทลงโทษครั้งใหม่' มาเล่นงานประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างอิหร่าน ในอีกไม่กี่วันนับจากนี้ จึงแทบไม่ต่างไปจากการส่งผลประโยชน์ให้กับผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจนั่นเอง

    • ดังที่หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดบริษัทซื้อ - ขาย SEB อย่างนาย Bjarne Schieldrop ได้ให้ความเห็นเอาไว้กับผู้สื่อข่าวว่า 'การคว่ำบาตรแบบฝ่ายเดียว หรือ Unilateral Sanctions ของอเมริกานั้น ไม่เพียงแต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่านนั้น แต่กลับยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้อิหร่านหันมาสนใจเงินหยวนมากขึ้น ในการกำหนดราคาซื้อ - ขายล่วงหน้าด้วยระบบ Petro-Yuan และนี่อาจทำให้การครอบงำตลาดน้ำมันในระบบ Petro-Dollar ที่เคยมีมาอย่างยาวนาน อาจต้องเสื่อมลงไปในอีกไม่ช้าไม่นาน'

    • หรือแทบไม่ต่างไปจากการที่ 'โดนัลด์ ทรัมป์' หันไปตะลุยจู่โจมไล่ฟัดประเทศปากีสถาน ด้วยข้อหาว่าไม่ลงทุน ลงแรง ในการช่วยอเมริกาปราบปรามผู้ก่อการร้ายซักเท่าไหร่นัก ถึงขั้นตัดสินใจแช่แข็งงบช่วยเหลือทางทหารจำนวน 255 ล้านดอลลาร์ และงบช่วยเหลือทางเศรษฐกิจอีกกว่า 900 ล้านดอลลาร์

    • ส่งผลให้นักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่ ไม่ว่านาย Brian Cloughley อดีตทูตทหารออสเตรเลีย หรือนาย Claude Rakisitis ผู้เชี่ยวชาญด้านปากีสถานแห่งมหาวิทยาลัย Georgetown ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าคือ 'การผลักปากีสถานให้หันไปหาจีน' หนักขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

    • และข้อวิเคราะห์ดังกล่าวคงไม่ถึงกับผิดพลาดมากมายเกินไปนัก เมื่อเจาะข่าววงในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง อันเป็นข่าวที่นายทหารแห่งกองทัพบกสหรัฐอเมริกา พันเอก Lawrence Selling” ออกมาสารภาพด้วยตัวเองว่า หลังจากมีการพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของจีนและปากีสถานเมื่อไม่นานมานี้ มีความเป็นไปได้ว่า...ปากีสถานจะอนุญาตให้จีนสร้าง 'ฐานทัพเรือแห่งที่สอง' ของจีน บริเวณพื้นที่ใกล้ ๆ เมืองท่า Gwadar ที่อยู่ห่างไปจากพรมแดนประเทศอิหร่านประมาณ 50 ไมล์

    • โดยที่ก่อนหน้านั้นจีนได้ทุ่มเงินลงทุนถึง 62 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเนรมิตเครือข่ายถนน รถไฟ ท่อขนส่งน้ำมัน ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ China-Pakistan Economic Corridor หรือ CPEC จนสามารถเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจระหว่างเอเชียกลางและเอเชียใต้ได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ 'ทางที่มืดมนหม่นหมองมองไม่เห็น แสนลำเค็ญคลำทางอย่างหมองเศร้าของโดนัลด์ ทรัมป์' จึงกลายคนละเรื่องเดียวกันกับ 'หมดแสงสว่างที่ปลายทางของอเมริกา' อย่างมิอาจแยกออกจากกันได้เลย

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://www.zerohedge.com/news/2018-01-03/petro-yuan-looms-how-china-will-shake-oil-futures-market

    Credit : https://www.insidefutures.com/artic...US Dollar and influence Crude Oil prices.html

    Credit : https://oilprice.com/Geopolitics/International/China-Is-About-To-Shake-Up-Oil-Futures.html

    Credit : https://www.bloomberg.com/news/arti...shake-up-the-oil-futures-market-quicktake-q-a

    Credit : http://www.ine.cn/en/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1515845070569.jpg

    เฝ้าระวังพม่า ยกระดับอีก รวมเมืองหลวงเก่าใหม่
    อะเลิทเราตามมานาน ตอนนี้ไหวถี่ &แรงขึ้น แนวสะแกง+สาขา
    ใต้ดินร้อนระอุ สะสมพลัง มานาน Watch~~~
    - CA130118/13:49
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทูตแอฟริกันใน UN เรียกร้อง “ทรัมป์” ถอนคำพูด-ขออภัย หลังเรียกชาติผู้ลี้ภัย “ประเทศโสโครก”

    บรรดาเอกอัครราชทูตของกลุ่มประเทศแอฟริกันในองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องเป็นเอกฉันท์เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถอนคำพูด และขออภัยที่เรียกชาติผู้ลี้ภัยว่า “พวกประเทศโสโครก” (shithole countries)

    คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9610000003980

    #MGROnline #ทูตแอฟริกัน #UN #เรียกร้อง #ทรัมป์ #ผู้ลี้ภัย

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2018
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เปิดวินาทีระทึก! รถเก๋งขับหนีไม่ทัน เจอโคลนถล่มพัดปลิวในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ขณะที่ยอดเหยื่อภัยธรรมชาติดังกล่าวเพิ่มเป็น 17 ศพ หนึ่งในนั้นมีครอบครัวคนไทยต้องสูญเสียเด็กวัย 6 ขวบ และยังสูญหายอีก 2 ราย..

    #mgronline #โคลนถล่ม #Mudslides #คนไทย #California #US

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตามคาด! “ทรัมป์” ไม่ฟื้นมาตรการคว่ำบาตรนุก “อิหร่าน” แต่ขู่จะยอมให้เป็น “ครั้งสุดท้าย”

    เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ว่าจะยังไม่ฟื้นมาตรการคว่ำบาตรโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งช่วยให้ข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ที่เตหะรานทำร่วมกับชาติมหาอำนาจทั้ง 6 เมื่อปี 2015 ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

    คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9610000003875

    #MGRonline #ทรัมป์ #มาตรการคว่ำบาตร #อิหร่าน #ครั้งสุดท้าย
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Weekend Focus: ชาวเน็ตแห่เชียร์ “โอปราห์ วินฟรีย์” ชิงชัย “ทรัมป์” ในศึกเลือกตั้งปธน.2020

    พิธีกรหญิงผิวสีชื่อดัง “โอปราห์ วินฟรีย์” กลายเป็นที่กล่าวขวัญในสื่อทั่วโลกสัปดาห์นี้ หลังจากที่เธอได้กล่าวสุนทรพจน์อันทรงพลังในเวทีลูกโลกทองคำครั้งที่ 75 จนจุดกระแสเรียกร้องจากบรรดาชาวเน็ตในสหรัฐฯ ให้เธอลงชิงชัยแข่งกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งปี 2020 เสียเลย และแม้นักวิเคราะห์บางคนจะเชื่อว่า วินฟรีย์ มีโอกาสอยู่ในมือ แต่หลายคนยังอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าชาวอเมริกันจะ “เอาจริงหรือ?” กับการเลือกบุคคลผู้มีชื่อเสียงแต่ไร้ประสบการณ์ทางการเมืองมาเป็นผู้นำประเทศอีกคน

    คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9610000003878

    #MGROnline #โอปราห์_วินฟรีย์ #ชิงชัย #ทรัมป์ #เลือกตั้ง #ประธานาธิบดี #สหรัฐฯ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “แมร์เคิล” บรรลุข้อตกลง SPD ปูทางตั้งรบ.ผสม แต่นักวิจารณ์เตือนจะเป็นแค่ “รบ.ผู้แพ้”

    นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ประกาศเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ว่าพรรคคอนเซอร์เวทีฟของเธอสามารถบรรลุข้อตกลงซึ่งจะปูทางไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านโซเชียลเดโมแครตส์ (SPD) ซึ่งถือเป็น “จุดเริ่มต้นที่สดใส” ของยุโรป ในขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่า แมร์เคิล ซึ่งมักจะถูกยกให้เป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก อาจครองเก้าอี้นายกฯ สมัยที่ 4 โดยไม่มีอำนาจอิทธิพลมากเท่าเก่า และยังมองไม่เห็นวิสัยทัศน์ว่าจะนำพายุโรปไปในทิศทางใด

    คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9610000003906

    #MGROnline #แมร์เคิล #นายกรัฐมนตรี #เยอรมนี #ข้อตกลง #SPD

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทำเนียบขาวเผยผลตรวจสุขภาพ “ทรัมป์” แข็งแรงดีเยี่ยม

    ทำเนียบขาวเผยผลการตรวจสุขภาพครั้งแรกของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งแพทย์ได้รับรองแล้วว่าผู้นำสหรัฐฯ ในวัย 71 ปี ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดีเยี่ยม

    คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9610000003939

    #MGROnline #ทำเนียบขาว #ผลตรวจสุขภาพ #ทรัมป์

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    4564.jpg



    201688120758-house.jpg
    เมื่อคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ผมได้มีโอกาสฟัง นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ในเรื่องการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเกษตรกรรายย่อยที่ยากจน ที่ตกเป็นหนี้สินนายทุนเจ้าหนี้และถูกเอารัดเอาเปรียบ จนต้องสูญเสียที่ดินทำกิน ทำให้ผมรู้สึกตกตะลึง ตื่นเต้นและแปลกประหลาดใจ เพราะคิดไม่ถึงว่าท่านนายกฯ จะพูดถึงเรื่องการหาทางช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้สินที่ไม่เป็นธรรมและช่วยเกษตรกรที่ต้องสูญเสียที่ดินทำกินให้แก่เจ้าหนี้และนายทุนเงินกู้ ด้วยสาเหตุจากกฎหมายขายฝาก

    และท่านนายกฯ ยังมีดำริที่จะเสนอให้มีการยกเลิกกฎหมายขายฝาก ที่เป็นต้นเหตุให้ชาวนาต้องสูญเสียที่ดิน โดยจะทำให้ได้ในปีนี้ ภายใต้รัฐบาลของท่าน

    ทั้งยังได้เสนอเรื่องนี้ให้ “คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย” ชุดที่มี ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน และมีคุณคำนูณ สิทธิสมาน เป็นกรรมการ บรรจุเป็นวาระเร่งด่วนในการพิจารณา โดยไม่ต้องรอการปฏิรูปในกรอบใหญ่ แสดงให้เห็นว่า นายกฯ มีความประสงค์ดำเนินการเรื่องนี้ให้เห็นผลโดยเร็ว


    Zc07kBoDNZz9OYi9-503x206.jpg
    การที่ท่านนายกฯ มีดำริที่จะยกเลิกกฎหมายขายฝากหรือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมวด 4 ส่วนที่ 1 ม.491-502 ว่าด้วย ขายฝากที่บังคับใช้อยู่ขณะนี้ หากดำเนินได้เป็นผลสำเร็จ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีท่านแรกของไทย ที่เสนอยกเลิกกฎหมายที่ปลด แอกทับคอคนจนมาเป็นเวลาเกือบ 100 ปี ให้หมดสิ้นไปในยุครัฐบาล คสช. ซึ่งจะเป็นการสร้างความยุติธรรมที่มีความหมายสำคัญยิ่งสำหรับคนจน และงานนี้จะทำให้ท่านได้ใจชาวนาคนยากจนที่ถูกนายทุนเจ้าหนี้เอารัดเอาเปรียบมาชั่วนาตาปีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการยกเลิกกฎหมายฉบับนี้เปรียบเหมือนปลดแอกออกจากบ่าของคนจนทั้งแผ่นดิน

    ที่ต้องขอชื่นชมและยกมือเชียร์ท่านนายกฯประยุทธ์ ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ก็เพราะเห็นว่ากฎหมายดังกล่าว เป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป และเกษตรกร ชาวไร่ชาวนา ที่มีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของตน ให้ต้องตกเป็นผู้ที่สูญเสียที่ดินทำกินให้กับเจ้าหนี้หรือนายทุน ที่อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเอาเปรียบได้โดยง่าย เพราะการประกอบอาชีพชาวนา มีความเสี่ยงความไม่แน่นอนสูงจากภัยธรรมชาติ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ราคาพืชผลไม่ดีไม่แน่นอน เมื่อมีความจำเป็นในชีวิต ลูกป่วย พ่อแม่หรือตนเอง คนในครอบครัวมีปัญหาเดือดร้อนหรือขาดแคลนเงินทุนหรือเครื่องมืออันจำเป็นในการผลิต จะกู้ยืมจากสถาบันการเงินก็ไม่สะดวก จำต้องบากหน้าไปกู้หนี้ยืมเงินบรรดานายทุนเจ้าหนี้

    thaihealth_c_deflnuvxz258.jpg
    ซึ่งบุคคลเหล่านั้นก็อาศัยการทำสัญญาขายฝากที่ดินกับชาวนาด้วยราคาตํ่ากว่ามูลค่าที่ดินทรัพย์ที่นำมาขายฝากและกำหนดเวลาไถ่ถอนในระยะสั้น เมื่อชาวนาไม่สามารถมีเงินมาไถ่ถอนได้ตามกำหนดเวลาก็ดี หรือแม้มีเงินมาไถ่ถอนตามกำหนดเวลา ก็อาจโดนเล่ห์เหลี่ยมกลโกง เพื่อไม่ให้ชาวนาเจ้าของที่ดินผู้ขายฝาก สามารถมาไถ่ถอนได้ทันเวลา ที่ดินก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าหนี้ผู้รับซื้อฝากทันทีตั้งแต่วันทำสัญญา ทำให้ชาวนา เกษตรกรที่ยากจนและไม่รู้เท่าทันเจ้าหนี้นายทุน ต้องสูญเสียที่ดินทำกิน สิ้นเนื้อประดาตัวเป็นจำนวนมาก

    กฎหมายขายฝากจึงเป็นเครื่องมือทางกฎหมายสำหรับเจ้าหนี้นายทุน เพื่อใช้ไล่ล่าแย่งยึดเอาที่ดินแปลงงามๆทำเลดีๆราคาแพง จากคนจนที่มีที่ดินทำกิน และเป็นสาเหตุหลัก ทำให้ชาวนาเกษตรกรเหล่านั้น กลายเป็นชนชั้นที่ไร้ที่ดินเป็นของตนเอง ที่ขมขื่นหนักยิ่งกว่านั้นก็คือ ต้องกลายเป็นผู้เช่าที่ดินตนเองที่หลุดลอยไปหรือของคนอื่นทำกินเพื่อยังชีพ ผลผลิตที่ได้ต้องจ่ายเป็นค่าเช่าที่ดิน ค่าเครื่องมือการผลิต ทำเท่าไหร่ก็ไม่มีเหลือไม่พอกิน กลายเป็นทาสติดที่ดิน ซึ่งจะพบเห็นสภาพชีวิตของชาวนาเกษตรกรลักษณะนี้มากที่สุดในภาคกลาง เหนือ และอีสาน

    20cd232c9b271b9da8238c856e02b78d-503x333.jpg
    ในช่วงชีวิตหนึ่งของผู้เขียน เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษากฎหมาย หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ผมได้เป็นอาสาสมัครร่วมกับเพื่อนๆนักศึกษา ออกไปคลุกคลีใช้ชีวิตกับพี่น้องชาวนาในภาคกลางแถบพิษณุโลก พิจิตร สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง ก็พบว่าชาวนาจำนวนมากหลายหมื่นหลายแสนครอบครัว ต้องสูญเสียที่ดินที่นาให้กับเจ้าหนี้นายทุน เพราะความจำเป็นที่ต้องไปกู้ยืมเงินดอกเบี้ยสูงและจำยอมต้องทำสัญญาขายฝากที่ดินไว้กับ นายทุนเจ้าหนี้ เมื่อไถ่ถอนไม่ทันหรือโดยกลโกงที่ดินก็หลุดลอยไป เจ้าหนี้นายทุนหลายคนมีที่ดินที่หลุดมือมาจากชาวนาเป็นจำนวนหลายหมื่นไร่

    พวกเรานักศึกษาได้พบเห็นปัญหาดังกล่าว ด้วยความเศร้าสะเทือนใจและเห็นใจพี่น้องชาวนาเป็นอย่างยิ่ง จึงได้นำปัญหามาเรียนเสนอต่อรัฐบาล อ.สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น รัฐบาลอาจารย์สัญญาจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประนอมหนี้สิน เพื่อช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาที่เป็นทาสติดที่ดินเหล่านั้น โดยส่งคณะกรรมการดังกล่าวออกไปปฏิบัติหน้าที่ ในเขตพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัด ผู้เขียนกับเพื่อนนักศึกษาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการด้วย แต่ปัญหาชาวนาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ผมและเพื่อนๆ ที่ออกไปสัมผัสปัญหาด้วยตนเองในเรื่องนี้ จึงได้แนะนำให้ชาวนารวมตัวกันจัดตั้งเป็น “สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย” เพื่อรวบรวมปัญหาและความต้องการเสนอต่อรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและการถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบอย่างไม่เป็นธรรมจากบรรดานายทุนเจ้าหนี้ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นเจ้าที่ดินครอบครองที่ดินรายละหลายหมื่นไร่ ที่ยึดเอามาจากชาวนา ข้อเสนอที่สำคัญขณะนั้นคือ

    9.1-home-503x335.jpg
    1. ขอให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายขายฝากเสีย 2.ขอให้ตราพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่านา ยกเลิกการทำนาแบบแบ่งกึ่ง(ชาวนาทำนาได้ผลผลิตเท่าไร ต้องแบ่งให้เจ้าของที่ดินครึ่งหนึ่ง) 3.ขอให้รัฐบาลดำเนินการปฏิรูปที่ดิน เพื่อจัดสรรที่ดินทำกินแก่ชาวนาและเกษตรกร 4.ให้รัฐบาลช่วยเหลือปัญหาเรื่องราคาผลผลิตที่ตกตํ่า จากการรวมตัวเสนอข้อเรียกร้องที่มีเหตุผลของชาวนา รัฐบาลก็ได้ให้โอกาสตัวแทนชาวนามานั่งโต๊ะเจรจากับรัฐบาลเพื่อรับฟังปัญหา ในที่สุดรัฐบาลขณะนั้นก็ได้ดำเนินแก้ไขจนเป็นผลสำเร็จ 2 เรื่องใหญ่ๆคือ

    1. มีการตราพระราชบัญญัติ ควบคุมค่าเช่านา พ.ศ. 2517 ออกบังคับใช้ 2. มีการตราพระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2518 อีกฉบับเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดิน กฎหมายทั้ง 2 ฉบับยังคงมีผลบังคับใช้ถึงปัจจุบัน แต่ที่ยังไม่สามารถยกเลิกได้ก็คือกฎหมายขายฝาก ยังคงเป็นกฎหมายที่สร้างปัญหาเป็นเครื่องมือที่สร้างความไม่เป็นธรรมแก่สังคมมาต่อเนื่องจนปัจจุบัน

    51-e1412321515655.jpg
    การที่นายกรัฐมนตรีมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดำเนินการให้มีการยกเลิกกฎหมายขายฝากให้เสร็จสิ้นโดยเร็วในยุครัฐบาลของ คสช.จึงเป็นเรื่องน่าชื่นชมอย่างยิ่ง เพราะนี่คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุหนึ่งของความยากจนและการเอารัดเอาเปรียบชาวนาเกษตรกร จากนายทุนเจ้าหนี้ที่มีความรู้ทางกฎหมายและฐานะทางสังคมที่สูงกว่า และจะเป็นการปิดโอกาสคนโกงที่จ้องเอาเปรียบคนจน

    การยกเลิกกฎหมายฉบับนี้จึงเท่ากับเป็นการปลดแอกให้คนจน ปลดโซ่ตรวนที่พันธนาการชีวิตชาวนาเกษตรกร ให้เขามีโอกาสเงยหน้าอ้าปากสู้ชีวิต เพื่อปลูกข้าวให้คนกิน ทำให้ข้อเรียกร้องที่ชาวนารอคอยมาร่วม 40 ปี บังเกิดผล

    ด้วยมาตรการนี้กับการปฏิรูปที่ดินและส่งเสริมสินเชื่อที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร ก็จะทำให้แก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนได้ หากการดำเนินการเรื่องนี้สำเร็จจริง ก็เชื่อได้ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในหัวใจประชาชน เป็นผลงานรัฐบาลที่คนจนจะจดจำตลอดไป” เป็นการแก้ปัญหาอย่างผู้นำประเทศ ที่มองถึงอนุชนรุ่นต่อๆไป มิใช่การหาเสียงแบบนักการเมือง ผมจึงขอสนับสนุนครับ

    ……………
    คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน /หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3330 ระหว่างวันที่ 11-13 ม.ค.2561

    http://www.springnews.co.th/th/2018/01/179387/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...